พระเทพเสนาบดี ภารกิจปั้นคนดีสู่สังคม

พระเทพเสนาบดี ภารกิจปั้นคนดีสู่สังคม – ในบรรดา ร.ร.การกุศลของวัด พูดได้ว่า ร.ร.วินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น ร.ร.มัธยมขนาดใหญ่ ที่ใช่เพียงจะมีจำนวนนักเรียน 4,000 กว่าคนเท่านั้น

แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตเด็กเรียนดีมีคุณธรรม และมีความรู้ความสามารถในหลากหลายด้าน เห็นได้จากใบประกาศนียบัตรในการประกวดและแข่งขันตามเวทีต่างๆ ทั้งทางด้านวิชาการ กีฬาและดนตรี



รวมถึงเด็กจบชั้น ม.6 นับร้อยๆ ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยดัง ได้ในแต่ละปี ขณะที่ปี 2548 ได้รับเลือกเป็นสถานศึกษารางวัลพระราชทาน

ร.ร.วินิตศึกษานั้นมี 2 แห่ง แห่งแรกอยู่ที่ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และแห่งที่ 2 อยู่ที่ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีครูอาจารย์ประจำ 250 คน และมีครูพิเศษอีก 50 คน

ปัจจุบัน พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร) เจ้าอาวาสวัด กวิศรารามราชวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นผู้อำนวยการ ผู้จัดการ และผู้รับใบอนุญาตโรงเรียน ซึ่งเมื่อปี 2551 พระเทพเสนาบดี ได้รับเลือกเป็นบุคคลดีเด่น สาขาพระสงฆ์ของมูลนิธิสมาน- คุณหญิงเบญจา แสงมลิ



พระเทพเสนาบดีเล่าว่า พระพุทธวรญาณหรือหลวงพ่อใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหาร เป็นผู้ก่อตั้ง ร.ร. ดังกล่าวตั้งแต่ 20 พ.ค.2489 เป็นเวลา 73 ปี เพื่อให้เด็กบ้านนอกได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นม.1-ม.6 เริ่มแรกมีเด็กมาเรียนแค่ 120 คนเท่านั้น สิ่งที่หลวงพ่อใหญ่ปลูกฝัง คือ ต้องยึดวินัยเป็นสำคัญ ซึ่งตนเองได้มารับหน้าที่เมื่อ 15 ปีก่อน และได้จัดโครงการเตรียมความรู้มุ่งสู่มหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ หรือมหิดล โดยทำมาเป็นรุ่นที่ 11 แล้ว พร้อมกันนี้ได้จัดทุนการศึกษาให้เด็กที่มีฐานะยากจนประมาณ 500 ทุน

นอกจากจะมีโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงการอัจฉริยภาพทางการศึกษา อย่างโครงการ สอวน.หรือโอลิมปิกวิชาการ

และโครงการต่างๆ แล้ว ร.ร.วินิตฯ ยังเน้นในเรื่องกิจกรรมด้วย เรื่องหนึ่งที่ ร.ร.กำลังขับเคลื่อนก็คือศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา เพราะเห็นว่าองค์ความรู้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือว่าเป็นองค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นองค์ความรู้ที่คนไทยทุกคนควรที่จะน้อมนำเอาไปใช้ในการดำเนินชีวิต โรงเรียนเลยนำร่องมา 2-3 ปี โดยจัดพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ให้เป็นสถานีแห่งการเรียนรู้ชีวิตจริง อีกทั้งจะทำระบบโซลาร์เซลล์มาใช้ด้วย

สถานีแรกเป็นเกษตรเพื่ออาหารนักเรียน เด็กทุกคนจะมาช่วยกันปลูกผักแล้วส่งไปโรงครัวใหญ่ของ ร.ร. สถานีที่ 2 เป็นการทำนา โดยให้เด็กมาเรียนรู้ตั้งแต่การปลูกข้าวใช้แบบนาโยน จนถึงการเก็บเกี่ยวแล้วนำข้าวเข้าสู่โรงครัว เพื่อให้เกิดความภูมิใจว่าข้าวนี้เป็นฝีมือของพวกเขา และทางร.ร.กำลังทำโรงสีเล็กๆ เป็นข้าวสารสด ซึ่งเป็นข้าวสารที่ปราศจากสารพิษต่างๆ ไม่มีน้ำยากันมอด

สถานีต่อไปทำเป็นโครงการเรียนรู้การทำไข่เค็มดินสอพองตำรับเมืองลพบุรี เด็กวินิตทุกคนต้องทำไข่เค็มได้ โดยทำเป็นหลักสูตรท้องถิ่น เมื่อทำเป็นแล้วสามารถสอนพ่อแม่หรือไปทำกินกันเองที่บ้านได้ อีกสถานีหนึ่งเป็นเรื่องการปลูกกล้วย จะให้เด็กปลูกกล้วยกันคนละต้น เมื่อผลผลิตสุกกินไม่ทันก็แปรรูปมาเป็นกล้วยฉาบ กล้วยตาก



นอกจากนี้ ยังมีอีกสถานีในโครงการปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่งเป็นทฤษฎีของในหลวงรัชกาลที่ 9 สถานีนี้จะปลูกพืชผักผลไม้นานาชนิดทั้งกินได้และกินไม่ได้อย่างสะเดา ต้นสัก ต้นพะยูง ต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ เมลอน อัญชัน และกระท้อน ฯลฯ



“วินิตศึกษาในฐานะที่เป็นร.ร.การกุศลของวัด พยายามผลิตเด็กให้มีคุณภาพ เพียบพร้อมทั้งความรู้ คุณธรรมและจิตสำนึกที่ดีเพื่อจะไปดูแลสังคมประเทศชาติในอนาคต เพราะร.ร.เชื่อว่าการเรียนรู้ต้องคู่กับคุณธรรม” พระเทพเสนาบดีกล่าว

นับเป็นอีก ร.ร.หนึ่งที่ผู้บริหาร-คณะครูอาจารย์ ทั้งพระและฆราวาส ต่างยึดมั่นในอุดมการณ์ผลิตคนเก่งคนดีสู่สังคมไทย

ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/amulets/news_2580001