พระเทพประทับรถไฟ ข้ามฝั่งโขง พิธีประวัติศาสตร์

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย paang, 6 มีนาคม 2009.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเป็นประธานพิธีเปิดการเดินขบวนรถไฟสายไทย-ลาว จากนั้นเสด็จฯ ประทับรถไฟพระที่นั่งจากสถานีรถไฟหนองคาย ข้ามไปยังสถานีท่านาแล้ง เมืองหาดทรายฟอง สปป.ลาว เมื่อวันที่ 5 มี.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ" เสด็จฯ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดเส้นทางรถไฟสายประวัติ ศาสตร์ เชื่อมต่อประเทศไทย-สปป.ลาว จากนั้นทรงประทับรถไฟขบวนมิตรภาพเสด็จฯข้ามฝั่งโขงจากสถานีหนองคายไปยังสถานีท่านาแล้ง ท่ามกลางประชาชนทั้งสองฟากฝั่งปลื้มปีติเฝ้าฯรับเสด็จเนืองแน่น

    เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 5 มี.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่ง ถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 อุดรธานี จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ถึงสถานีรถไฟอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี มี นายกฤษเพชร ศรีปาน รอง ผวจ.อุดรธานี นำข้าราช การ พ่อค้าประชาชนจำนวนมากรอรับเสด็จ จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถไฟพระที่นั่ง (การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดถวาย) เสด็จฯ ไปสถานีรถไฟหนองคาย ระยะทาง 56 ก.ม.

    เมื่อเวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถไฟพระที่นั่งจากสถานีรถไฟอุดรธานี ถึงสถานีรถไฟหนองคาย และทรงเป็นประธานในพิธีเปิดการเดินขบวนรถไฟเป็นปฐมฤกษ์ระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว สายหนองคาย-ท่านาแล้ง ในการนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม, นาย กษิตย์ ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ, นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำข้าราชการ ทหารตำรวจ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนในจังหวัดหนองคายเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ พร้อมกันนี้ตัวแทนฝ่ายลาวนำโดย นายสมมาด พนเสนา รมว.โยธาธิการและขนส่ง, นายลัดตะนะมะนี คุนพิวง ปลัดกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง, นายกอบแก้ว หลวงโดด รองอธิบดีกรมพิธีการทูต, นายสมปอง พนเสนา รองหัวหน้าองค์การรถไฟลาว นำคณะเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับพระราชอาสน์หน้าสถานีรถไฟหนองคาย นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของการเปิดการเดินรถไฟและขอพระราชทานเชิญเสด็จกดปุ่มแพรคลุมป้ายเปิดห้องสมุดการรถไฟฯ เพื่อประชาชน พร้อมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการภายในห้องสมุด

    จากนั้นเสด็จฯ ไปยังขบวนรถไฟพระที่นั่ง ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดลงทะเบียนรายพระนามผู้โดยสารรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ ทรงลั่นระฆังปล่อยขบวนรถไฟ

    เวลา 10.05 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ โดยรถไฟพระที่นั่งถึงสถานีท่านาแล้ง เมืองหาดทรายฟอง สปป.ลาว ตามคำกราบบังคมทูลเชิญ โดยมีท่านบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศ สปป.ลาว พร้อมด้วย นายสมมาด พลเสนา รมว.โยธาธิการและขนส่ง คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของลาว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีของไทย เฝ้าฯ รอรับเสด็จที่ประตูทางลงรถไฟพระที่นั่ง จากนั้น เสด็จฯ ประทับที่ห้องพักรับรอง และร่วมเป็นประธานเปิดเดินรถไฟไทย-ลาว โดยประทับภายในเต็นท์รับรองร่วมกับท่านบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศ สปป.ลาว

    นายสมมาด พนเสนา รมว.โยธาธิการและขนส่ง กล่าวว่า รัฐบาลลาวและประชาชนลาวขอขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนไทย ที่ได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งรถไฟสายนี้มีความสำคัญยิ่งของประเทศ สปป.ลาว คือ เป็นความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลลาวกับรัฐบาลไทย ประชาชนลาวกับประชาชนไทย เป็นรถไฟสายประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นรถไฟสายแรกของลาว และมีความหมายสำคัญ แม้จะมีระยะทางเพียง 3.5 ก.ม.ก็ตาม ซึ่งในอนาคตจะขยายเส้นทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่เหลืออีก 9 ก.ม.ก็จะถึงนครหลวงเวียงจันทน์ และเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากรัฐบาลไทยและประชาชนคนไทยเป็นอย่างดี เส้นทางรถไฟสายนี้ในอนาคตจะมีการขยายเพิ่มเพื่อเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ จะทำให้ประเทศลาวซึ่งไม่มีทางออกสู่ทะเลสามารถเป็นตัวเชื่อมและเป็นทางผ่านไปยังประเทศอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี จึงยังความภาคภูมิใจของชาวลาว ชาวไทย ตลอดจนประเทศอื่นๆ ทั้งในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอื่นๆ อีกด้วย ในโอกาสนี้ข้าพเจ้าขอเป็นตัวแทนรัฐบาลลาวขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการนี้จนสำเร็จลุล่วงมาด้วยดี และขอรับมอบโครงการนี้ไว้เพื่อดำเนินการต่อไป
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และท่านบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศ สปป.ลาว ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดเดินรถไฟไทย-ลาวอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตัดริบบิ้นปล่อยแพรป้ายลูกโป่ง ทรงปลูกต้นลีลาวดี และฉายพระรูปร่วมกับคณะฝ่ายลาวเป็นที่ระลึก จากนั้นเสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทางการลาวจัดถวายตามคำกราบบังคมทูลเชิญเพื่อประกอบพระราชกรณียกิจในประเทศ สปป.ลาว

    ด้านนายทวีป เสือรอด นายสถานีรถไฟหนองคาย กล่าวว่า หลังเสร็จพิธีเปิดแล้วจะยังไม่สามารถให้บริการเดินรถไฟได้ เนื่องจากยังมีข้อติดขัดเล็กน้อย ต้องพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายในข้อปฏิบัติ รายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายเรื่อง หากตกลงเจรจาเป็นที่เข้าใจตรงกันแล้วจึงจะเปิดให้บริการเดินรถไฟอย่างเต็มรูปแบบ ในเบื้องต้นกำหนดขบวนรถไฟวิ่งบริการเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 เที่ยว หรือ 4 ขบวน คือ เวลา 10.00 น.ออกจากสถานีหนองคายถึงสถานีท่านาแล้ง แล้วเวลาประมาณ 11.00 น.ออกจากสถานีท่านาแล้งกลับหนองคาย ส่วนในช่วงบ่ายเวลา 16.00 น.ออกจากสถานีหนองคายถึงสถานีท่านาแล้ง จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น.ออกจากสถานีท่านาแล้งกลับหนองคาย ใช้เวลาเดินรถไฟในแต่ละช่วง 15 นาที อัตราค่าโดยสารตู้นอนคนละ 50 บาท ตู้ปรับอากาศ 30 บาท ชั้น 2 ธรรมดา คนละ 20 บาท และทุกคนต้องทำหนังสือผ่านแดนก่อนเดินทางทุกครั้ง

    ส่วนบรรยากาศภายหลังจากพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จต่างพากันต่อแถวซื้อตั๋วโดยสารที่ระลึก ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำขึ้นเป็นพิเศษในงาน โดยมีจำหน่ายชนิดราคา 100 บาทเพียงประเภทเดียว เพียงไม่ถึง 20 นาทีก็ขายตั๋วหมด และยังมีประชาชนอีกจำนวนมากต้องการซื้อตั๋วโดยสารที่ระลึกนี้เก็บไว้ นอกจากนี้ยังให้ความสนใจซื้อแสตมป์และโปสการ์ดที่ทางไปรษณีย์หนองคายนำมาจำหน่าย ในราคาแสตมป์ดวงละ 3 บาท เป็นพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ภาพสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และภาพรถไฟสายหนองคาย-ท่านาแล้ง ทางด้านไปรษณีย์ลาวก็ได้นำแสตมป์ของลาวมาจำหน่ายเป็นของที่ระลึกภายในงานด้วย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก


    ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...