พระองค์โสม รับสั่งทำความดี จำเป็นมากในสังคมไทยยุคนี้

นับเป็นปีที่ 25 ของ การจากไปของ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร สตรีไทยที่ทำคุณงามความดีและคุณประโยชน์มากมายให้กับสังคมและประเทศชาติ...

โอกาสครบรอบ 25 ปีการจากไปของ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ชายา ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร สตรีไทยที่ได้รับการยกย่องเป็นปูชนียบุคคล เนื่องจากได้ประกอบคุณงามความดีและทำคุณประโยชน์ให้แก่ สังคมและประเทศชาติมากมาย อีกทั้งยังเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวใน 121 ปี ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานสภาสตรีระหว่างประเทศ ซึ่งมีองค์กรสมาชิก 75 ประเทศ โอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาประทานสัมภาษณ์ถึงความประทับพระทัยในปูชนียบุคคลท่านนี้ เพื่อนำเผยแพร่ในงาน "25 ปี วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร สตรีไทย...ผู้นำสตรีโลก" ซึ่งพระองค์จะเสด็จไปทรงเป็นประธานในพิธีประทานรางวัลหม่อม งามจิตต์ แก่คนดีมีคุณธรรม ในวันที่ 18 ต.ค. นี้ ที่หอ ประชุมกรมประชาสัมพันธ์

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ รับสั่ง ตอนต้นว่า พระองค์ทรงได้พบหม่อมงามจิตต์ แต่ไม่ได้พบบ่อย ทรงทราบว่าหม่อมงามจิตต์ทำงานในเรื่องสตรี สังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้ยากไร้และชุมชนต่างๆ มาตลอดเวลา ตลอดชีวิตของหม่อมงามจิตต์ที่ทรงได้รู้จักและพบปะมีพระปฏิสันถารกันในเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนตามชุมชนต่างๆทั่วประเทศ หม่อมงามจิตต์ทำงานไม่เฉพาะในประเทศ จะไปต่างประเทศด้วย ทำให้ท่านเป็นที่รู้จักของชาวต่างประเทศด้วย ท่านเป็นผู้หญิงที่ต้องใช้คำว่าเก่ง ในเรื่องของงานสงเคราะห์ทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนความประทับใจที่ทรงมีต่อการจัดงานเชิดชูเกียรติคนทำความดีทั่วประเทศ ที่ได้รับรางวัลหม่อมงามจิตต์นั้น พระองค์โสมรับสั่งว่า รางวัลหรือประกาศนียบัตรต่างๆนั้น นับเป็นการชื่นชมและให้กำลังใจกับผู้ที่ได้ทำงานช่วยเหลือบ้านเมือง ไม่ว่าจะมีอาชีพใด ผู้ขับรถประจำทางก็ดี ผู้เก็บกวาดทำความสะอาดของเทศบาลก็ดี หรือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการต่างๆ รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมที่ทำงานช่วยเหลือในเรื่องของสังคมสงเคราะห์ในส่วนต่างๆก็ดี นอกจากเป็นการให้กำลังใจและเป็นการแสดงด้วยว่า ยังมีคนเห็นในสิ่งที่เขาได้ทำความดี เป“นกำลังใจให้เขาสู้ แล้วทำต่อไป ทั้งยังเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนรุ่นหลังให้มีกำลังใจที่จะทำสิ่งที่ดีๆ

เมื่อทูลถามถึงในยุคสมัยที่บ้านเมืองเปลี่ยนไป ความดีและคนดียังมีความจำเป็นต่อสังคมไทยอย่างไร พระองค์โสมได้รับสั่งว่า ความดีและคนดีมีความจำเป็นมากในยุคนี้ นอกจากนี้ บ้านเราเป็นเมืองพุทธศาสนา ที่สอนให้เรามีความเมตตาเป็นหลัก เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก ความเมตตานี้ สามารถที่จะยื่นเข้าไปโอบอุ้มช่วยคนที่เดือดร้อนได้

ข่าวไทยรัฐออนไลน์