เรื่องเด่น พบพระนักพัฒนาเชียงใหม่ตั้งกลุ่มกู้ภัยช่วยสังคม

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 23 พฤศจิกายน 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    พบพระนักพัฒนาเชียงใหม่ตั้งกลุ่มกู้ภัยช่วยสังคม

    96198_th.jpg
    18402798_1316172178464129_5432918063085738993_n(2).jpg

    ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2560 ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มีกิจกรรมการขับเคลื่อนโครงการสังฆพัฒนาวิชชาลัย ครั้งที่ 2 โดยความร่วมมือของ มจร วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ภายใต้การนำของพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ภายใต้การนำของพระมหาบุญเลิศ อินทปัญโญ,รศ. รองคณบดีคณะสังคมศาสตร์ ฝ่ายวิชาการ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างสุขภาพและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) โดยมีพระสงฆ์และภาคีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดลำปาง และวัดหนองกวาง บ้านแม่ป๊อกใน ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

    18403473_1316172298464117_4122894641974211738_n(2).jpg

    หลังจากมีพิธีเปิดโดยพระเทพรัตนนายก ที่ มจร วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และได้เปิดเวทีความคิดเพื่อการยกระดับคุณภาพพระสงฆ์สู่การเป็นพระสงฆ์นักพัฒนา เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 เรียบร้อยแล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการได้ลงพื้นที่พบพระนักพัฒนาต้นแบบ ทั้งนี้พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร ได้ร่วมโครงการด้วยได้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Pramote OD Pantapat เป็นระยะ

    วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 เป็นวันสุดท้ายของโครงการ โดยมีการถอดบทเรียนพระนักพัฒนาต้นแบบในพื้นที่จริง ซึ่งผ่านการประสบการณ์ในการทำงานกับชุมชน จึงมีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนการทำงานด้านการพัฒนาของพระสงฆ์ต้นแบบ โดยหน่วยกู้ชีพกู้ภัยอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการเริ่มต้นจากพระสงฆ์เห็นปัญหาของการเกิดอุบัติหน้าวัดบ่อยครั้ง การช่วยเหลือไม่ทัน พระสงฆ์จึงตั้งกลุ่มช่วยเหลือสังคม เรียกว่า " ตาย เจ็บ เก็บ ส่ง โลงฟรี "ภายใต้การทำงานของกู้ภัยตั้งแต่เกิดจนตาย พระสงฆ์ในปัจจุบันมิใช่รอรับจากญาติโยมอย่างเดียว แต่มาถึงวันนี้พระสงฆ์ต้องให้สังคม พระสงฆ์ได้เรียนรู้การกู้ชีพกู้ภัย ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะเป็นงานสาธารณสงเคราะห์ ของคณะสงฆ์ เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านด้วย

    ปัจจุบันมีรถ 15 คัน มีอาสาสมัครจำนวน 65 คน ได้รับการบริจาคจากประชาชนด้วยการทำบุญ นำมาเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในสงเคราะห์ พระสงฆ์ช่วยเหลือคนเป็นโรคเอดส์ในชุมชน ช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ ซึ่งเป็นทุกข์ในปัจจุบัน การติดเชื้อเอดส์มีผลกระทบต่อคนติดเชื้อโดดยตรง และครอบครัว ทำให้ส่งผลต่อครอบครัวด้านเศรษฐกิจในครอบครัว พระสงฆ์จะต้องก้าวออกไปช่วยเหลือสังคม ไม่เพียงแต่มุ่งอยู่ในวัด งานของพระสงฆ์นักพัฒนามี 2 ประเด็น คือ

    1) ประเด็นเย็นคือ ประเด็นการทำงานด้านสุขภาพ เศรษฐกิจพอเพียง ทำการเกษตรอินทรีย์ ทำไปตามวิถีชีวิต เป็นประเด็นไม่สร้างความขัดแย้งกับใคร

    2) ประเด็นร้อน คือ ประเด็นความขัดแย้งของคนในชุมชน การทำงานด้านผลประโยชน์การแย่งผลประโยชน์ในชุมชน ทำให้เป็นประเด็นร้อน

    เวลาพระสงฆ์ไปอยู่ในชุมชนก็ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิตามพระพุทธเจ้าด้วยการนำพาญาติโยมปฏิบัติ แต่ญาติโยมไม่มีเวลามาปฏิบัติ จึงได้ศึกษาปัญหาของชาวบ้าน พบว่า ปัญหาของชาวบ้านคือ "ปากท้อง ความเป็นอยู่ ปัญหาหนี้สิน" ทำให้คนในชุมชนต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด พระสงฆ์จึงต้องมีบทบาท พระสงฆ์ที่ออกไปทำงานถือว่ามีความเสี่ยงเพราะเป็นประเด็นร้อนภายในสังคม ประเด็นสร้างความขัดแย้ง พระสงฆ์จึงพยายามจัดการความขัดแย้งภายในชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชน
    พระสงฆ์ออกไปทำค่ายคุณธรรมแต่พัฒนาไปช่วยงานเด็กพิเศษเด็กที่มีปัญหา เด็กกลุ่มเสี่ยง ไปเยี่ยมถึงบ้านมีกระบวนการอย่างต่อเนื่อง

    พระสงฆ์ลงไปช่วยเด็กเหล่านี้ เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พระสงฆ์ต้นแบบจะบอกตนเองว่าเราจะเป็นต้นแบบแบบใด เรารักงานแบบใด จงทำสิ่งที่รักและเราถนัดที่สุด เราต้องค้นหาอุดมการณ์ที่แท้จริงของเรา โดยดาวมี 2 ประเภท คือ " ดาวที่อาศัยแสงสว่างจากคนอื่น และดาวที่ส่องแสงสว่างด้วยตนเอง " การทำงานต้องเอาใจเป็นที่ตั้งมากกว่าเอาเงินเป็นปัจจัย

    หัวใจของสังฆพัฒนาวิชาลัยต้องการสร้างพระนักพัฒนาเพื่อการออกช่วยกันขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาให้มีชีวิต พระพุทธศาสนาพบปัญหารอบด้าน ทั้งปัญหาภายในและปัญหาภายนอก เราต้องสร้างเครือข่ายในการทำงาน จึงมีการนำเสนอโครงการในการพัฒนาสังคมให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปพระพุทธศาสนา โดยพระสงฆ์นักพัฒนาลำพูนเสนอผู้เกี่ยวกับผู้ป่วยติดเตียงทั้งผู้สูงอายุและพระสงฆ์

    จะมีการสร้างพระสงฆ์แกนนำให้มีความรู้ ทักษะ ด้วยการสำรวจผู้ป่วยติดเตียง มีการอบรมพัฒนาแกนนำจิตอาสาดูแลผู้ป่วยติดเตียง ลงพื้นที่ในวัดและชุมชนและมีการถอดบทเรียน ความสำเร็จในโครงนี้ด้านคุณภาพและด้านปริมาณ โครงการจึงต้องการผลลัพธ์จริงๆ ให้เกิดขึ้น พระสงฆ์นักพัฒนาลำปางเสนอโครงการเกี่ยวสุขภาพของพระสงฆ์ เห็นความสำคัญของบุคลากรของพระสงฆ์ว่ามีความสำคัญจึงต้องสร้างเสริมสุขภาวะของพระสงฆ์ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในบุคคล องค์กร สังคม พระสงฆ์ต้นแบบเชียงใหม่เสนอโครงการสุขภาวะด้นสุขภาพ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง สำเร็จสิทธิสวัสดิการพระสงฆ์สามเณร

    ปัจจุบันนี้คณะสงฆ์มีแผนของการพัฒนาแล้ว จะสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสังคมและพระพุทธศาสนา โดยเริ่มต้นจากโครงการเล็กๆ มีการขับเคลื่อนไปด้วยกัน เรามีแผนชัดเจนแล้วแต่เราจะไม่มีเครือข่ายในการทำงานร่วมด้วยกันให้มีพลัง แหล่งทุนในการสนับสนุนมีมากมายแค่เราทำจริง เราทำงานเพื่อสังคมต้องเผนแพร่ให้สังคมรับทราบ พระสงฆ์ทำงานมากแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนรับรู้รับทราบ

    ดังนั้น พระครูสิริสุตานุยุต,ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน กล่าวปิดโครงการว่า ตอนนี้สังคมต้องการพระสงฆ์ต้นแบบ เราทำงานอาจจะมีปัญหาแต่ต้องมีสติในการในการทำงานร่วมกัน ทำงานต้องให้เกียรติทุกคนที่เราต้องร่วมงาน จึงฝากคิดว่า " มองโลกให้มองต่ำ มองธรรมให้มองสูง "เราจะทำงานพัฒนาอย่างครูบาศรีวิชัยได้อย่างไร? เราต้องยึดครูบาศรีวิชัยเป็นแบบอย่างในการทำงาน

    ขอบคุณที่มา
    http://www.banmuang.co.th/news/education/96198
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤศจิกายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...