ผู้เชี่ยวชาญอุตุฯชี้ภัย"โลกร้อน-สึนามิ"ทำอากาศใต้ปั่นป่วนหนัก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=778 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top bgColor=#ffffff><TD width=11 background=/imgs/left_bg.gif rowSpan=2></TD><TD>
<!-- CENTER ZONE -->
ผอ.ส่วนตรวจวัด และเตือนภัยแผ่นดินไหว กรมอุตุฯ เผยฝนกระหน่ำใต้ เป็นปรากฏการณ์ผิดปกติทางธรรมชาติในรอบ20ปี เพราะผลพวงจาก"โลกร้อน-สึนามิ" หลังสะเทือนแกนโลกจนวงโคจรผิดพลาด ชี้อนาคตมรสุมก่อตัวและเคลื่อนเข้าภาคใต้บ่อยขึ้น เตือนพายุกำลังก่อตัวที่ใต้เกาะชวา อาจซ้ำคนใต้อีกระลอก

วันที่ 17 ธ.ค. หลังจากเกิดภาวะฝนตกหนักครอบคลุมทั่วพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง และน้ำท่วมฉับพลันแทบทุกพื้นที่ในขณะนี้ ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อน ในมุมมองของนักวิชาการที่ศึกษาเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์ ชี้ชัดว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลก และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ภาคใต้ในรอบ 20ปี ที่น้ำท่วมซ้ำซาก 2-3 ครั้งในเดือนธันวาคม
นายภูเวียง ประคำมินทร์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจวัดและเตือนภัยจากแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ปกติสภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ช่วงนี้จะมีเพียงพื้นที่ฝั่งตะวันออกเท่านั้น แต่สิ่งที่เป็นอยู่ขณะนี้คือมีฝนตกกระจายปกคลุมไปทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่จะสามารถสัมผัสหรือรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งปกติพื้นที่ภาคใต้จะไม่มีลักษณะอากาศเช่นนี้ หรือจะมีอุณหภูมิลดต่ำลงในช่วงเดือนมกราคม แต่ขณะนี้ภาคใต้ตอนบนบางจังหวัดสามารถสัมผัสความหนาวกำลังแรงที่จากภาคเหนืออย่างไม่น่าเชื่อ
นายภูเวียง กล่าวต่อ ปรากฎการณ์ดังกล่าวไม่ได้สะท้อนขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น นักพยากรณ์อากาศในภูมิภาคเอเชีย ยังตกตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่ผิดปกติ โดยที่ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น มีหิมะตกเร็วกว่าปกติ ซึ่งความสัมพันธ์ทางสภาพอากาศดังกล่าวยังส่งผลกระทบมายังประเทศไทยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะประเทศจีน ที่มีหย่อมความกดอากาศสูงและอิทธิพลนี้ทำให้แนวอากาศในประเทศเขตร้อนชื้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ของไทยเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำลงเรื่อยๆ การก่อ และกลั่นตัวของพายุ หรือเมฆฝนจึงมีมากขึ้น ส่งผลให้ฝนกระหน่ำตกในพื้นที่อย่างไม่ลืมหูลืมตาในขณะนี้ นอกจากนี้ภาวะดังกล่าวในอนาคตพื้นที่ภาคใต้มีโอกาสเผชิญหน้ามรสุม หรือพายุ บ่อยขึ้น
"ปกติมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหากไม่รุนแรงจริงๆ จะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมถึง 3จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของชายแดนภาคใต้จะป้องกันพื้นที่ไม่ให้เกิดฝนตกหนักจนมีปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน แต่ปีนี้เท่าที่ติดตามปรากฎว่าขณะนี้ประชาชน 3จังหวัดเผชิญปัญหาระลอกที่สามแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 20ปี ที่นักวิชาการศึกษาด้านนี้ระบุว่าเพิ่งเกิดขึ้น"
นักวิชาการรายนี้ ระบุว่า ปรากฎการณ์เช่นนี้มีผลมาจากสภาวะโลกร้อน อุณภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงชั้นบรรยากาศที่ถูกทำลายมากขึ้น ทำให้สภาพอากาศในทุกพื้นที่แปรปรวนเหมือนกันหมด และกลายเป็นปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย ที่ขณะนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำจำนวนมาก และจะส่งผลต่อพื้นที่ชายแดนภาคใต้อีกอย่างแน่นอน
นายภูเวียง กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ธรณีพิบัติ หรือสึนามิ แม้ขณะนี้จะยังไม่มีใครฟันธงชัดเจนว่าส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหรือไม่ แต่จากการศึกษาพบว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อแกนของโลก แรงสะเทือนดังกล่าวทำให้การหมุนและการเคลื่อนตัวของโลกรอบดวงอาทิตย์คลาดเคลื่อนไปจากเดิม สภาวะอากาศจึงแปรปรวนตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งปีหน้าอาจจะเจอกับฤดูร้อนที่ยาวนานกว่าปกติ เขา ทิ้งท้ายว่า จากการตรวจสอบจากเรดาห์ของกรมอุตุนิยมวิทยา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขณะนี้บริเวณทางตอนใต้ของเกาะชวา บริเวณละติจูดที่12-13 องศาใต้ มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังก่อตัวเป็นพายุ และมีผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้อย่างแน่นอน คาดการณ์ล่วงหน้าว่า สภาพอากาศจะแปรเปลี่ยนก่อนที่จะเคลื่อนตัวใกล้เรามากขึ้น เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเผชิญความบอบช้ำมากกว่านี้
</TD></TR></TBODY></TABLE>


ที่มา : คมชัดลึก