เรื่องเด่น ผนึก 7 องค์กรพร้อมขับเคลื่อน ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ

คิกออฟเวทีรับฟังความเห็น ร่างธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ หวังสร้างสุขภาวะตามพระธรรมวินัย พระราชวรมุนี ชี้เป็นยุทธศาสตร์ท้าทายในการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ย้ำต้องเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งโภชนาการและออกกำลังกาย องค์กรภาคี ๗ หน่วยงานขานรับสนับสนุน ด้าน มจร. เตรียมพระนิสิต ๓,๐๐๐ รูป ปูพรมสร้างความเข้าใจ

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๑ พ.ศ…. เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๐ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระสงฆ์จากพื้นที่ภาคกลางเข้าร่วมกว่า ๕๐ รูป พร้อมภาคีหลัก ๗ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



พระราชวรมุนี รองเจ้าคณะภาค ๖ และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มจร ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ถือเป็นกรอบแนวทางและกลไกสำคัญในการส่งเสริมสุขภาวะพระสงฆ์ทั่วประเทศ แม้ที่ผ่านมา จะมีระเบียบปฏิบัติตามพระธรรมวินัย แต่เพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ มียุทธศาสตร์ และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทางมหาเถรสมาคม จึงได้เห็นชอบให้มีกระบวนการยกร่างธรรมนูญฯ และรับฟังความคิดเห็นจากพระสงฆ์ ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

“ร่างธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติฉบับนี้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางสอดคล้องกับการปฏิรูปและพัฒนาพระพุทธศาสนา โดยมียุทธศาสตร์ที่มุ่งให้พระสงฆ์สามารถดูแลสุขภาวะของตนเองได้ สามารถเป็นแบบอย่างการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนหรือชุมชน มีหน่วยงานด้านสุขภาพ เช่น กระทรวงสาธารณสุข สช. หรือ สสส. เข้ามามีส่วนช่วยเหลือให้คำแนะนำหรือความรู้ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะ การออกกำลังกาย และโภชนาการที่ดีแก่พระสงฆ์”

ทั้งนี้ กระบวนการรับฟังความคิดเห็นร่างธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ พ.ศ…. จะจัดขึ้นทั้งสิ้น ๕ ครั้ง ก่อนนำมาปรับปรุงร่าง และนำเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม และประกาศในสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ ๑๐ พ.ศ.๒๕๖๐ ปลายปีนี้ เพื่อการขับเคลื่อนให้เกิดการดำเนินงานตามธรรมนูญฯ ต่อไป



พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต มจร กล่าวเสริมว่า กลไกการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติที่เตรียมไว้ คือ การมอบภารกิจให้แก่นิสิต มจร ชั้นปีที่ ๔ และปีที่ ๕ ซึ่งกำลังจบการศึกษาในปีนี้ ซึ่งตามปกติต้องออกไปทำกิจกรรมอยู่แล้ว จำนวนประมาณ ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ รูป ในการสร้างความรู้ความเข้าใจใน ๔๕ จังหวัดทั่วประเทศ

เวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ยังมีการประกาศความร่วมมือจากภาคีสนับสนุนทั้ง ๗ หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร), มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร), สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

ผศ.ดร.ทพ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สช. ให้ความสำคัญกับกระบวนการยกร่างธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ฉบับที่ ๑ พ.ศ…. ที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันพัฒนาเนื้อหาหลักใน ๔ ด้าน ได้แก่ พระสงฆ์กับการดูแลสุขภาวะตัวเองตามหลักพระธรรมวินัย, ชุมชนและสังคมกับการดูแลสุขภาวะพระสงฆ์ที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย, บทบาทพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำด้านสุขภาวะของชุมชนและสังคม และการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์

“องค์กรภาคีทั้ง ๗ หน่วยงานพร้อมให้การสนับสนุน เพราะต่างมีพันธกิจในเรื่องพระสงฆ์อยู่แล้ว เช่น สสส. มีโครงการตำบลสุขภาวะ วัดสร้างสุข ด้านกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กำลังร่างยุทธศาสตร์สุขภาพพระสงฆ์ ในส่วน สปสช. ก็พร้อมจัดให้บริการทางสุขภาพ ขณะที่ สช. มีกระบวนการพัฒนาธรรมนูญสุขภาพอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อเรามีกรอบและทิศทางของธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ จะทำให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดความร่วมมือที่สร้างดอกผลให้เห็นอย่างชัดเจน”

ขอขอบคุณที่มา
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-45135