ประมวลผลกระทบ "หวัดนก" รอบใหม่

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 28 ตุลาคม 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]

    "ไข้หวัดนก" อาจเป็นภัยคุกคามโลกที่ร้ายแรงกว่ามหันตภัยใดๆ ที่เคยเกิดขึ้น เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มียาขนานใดที่จะทำลายไวรัสชนิดนี้อย่างได้ผล จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 67 คน มีผู้ติดเชื้อ 120 คน และมีสัตว์ปีกถูกทำลายไปอีกหลายล้านตัว

    คาดกันว่า หากมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกครั้งใหญ่ขึ้นมาอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าครั้งไหนๆ ยิ่งกว่าที่เกิดสงครามใหญ่ 2 ครั้ง เพราะนอกจากผลกระทบจะเกิดจากสถาน การณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังกระทบต่อต้นทุนแฝงที่มาจากการท่องเที่ยวและการค้าอีกด้วย

    "ร็อบ คาร์เนลล์" นักเศรษฐศาสตร์จากไอเอ็นจี แบงก์ กล่าวว่า ความสูญเสียเกี่ยวกับชีวิตอาจจะนำมาสู่ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ลดลง แต่เชื่อว่าความตื่นกลัวการติดเชื้อจะนำไปสู่สิ่งที่รุนแรงกว่า ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่สุด

    "เราไม่สามารถบอกจำนวนความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในรูปของจีดีพีได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้จีดีพีลดลงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ทีเดียว ในกรณีของเขตเศรษฐกิจที่เติบโตแบบชะลอตัว อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจจะเป็นศูนย์เลยก็ได้"

    สำหรับเศรษฐกิจโลกที่มีมูลค่าราว 41 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และมีการขยายตัวราว 4% ต่อปีในปัจจุบัน ตัวเลขความเสียหายในรูปของเงินดอลลาร์อาจจะพุ่งสูงขึ้นมาก

    "คลิฟฟอร์ด ตัน" นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปในสิงคโปร์ ประเมินว่า เอเชียอาจจะต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุด เนื่อง จากการระบาดของไข้หวัดนกอาจจะทำให้จีดีพีในเอเชียลดลงถึง 5% อันเนื่องมาจากผลกระทบที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง และการค้าที่อาจจะหยุดชะงัก ซึ่งจะทำให้รายได้ของเอเชียเลวร้ายกว่าเมื่อครั้งที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส หรือวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียเมื่อปี 2540

    "ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจเป็นหายนะอย่างใหญ่หลวง อาจเป็นภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน"

    "คาร์เนลล์" กล่าวเปรียบเทียบโรคซาร์สและไข้หวัดนกว่า โรคซาร์สส่งผลต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าการระบาดของไข้หวัดนก แม้โรคซาร์สจะทำลายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การค้า และการจ้างงานอย่างมาก โดยทำให้จีดีพีของฮ่องกงลดลงถึง 2.6% และทำให้เมืองออนแทรีโอ ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในแคนาดาต้องสูญเสียการจ้างงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไปถึง 28,000 ตำแหน่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจมากถึง 2 พันล้านดอลลาร์แคนาดา

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องจากโรคระบาดส่งผลกระทบรุนแรงต่อหลายธุรกิจ เพราะเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของประชาชนทำให้ไม่กล้าเดินทาง การเข้าพักในโรงแรมก็ไม่มี สนามบินร้างผู้คน และร้านอาหารก็ปิดเพราะไม่มีคน หากไวรัส H5N1 สามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ เมื่อนั้นธุรกิจต่างๆ ก็จะกลายเป็นอัมพาต

    ประเทศต่างๆ พยายามจะป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก โดยแต่ละประเทศก็มีมาตรการต่างๆ รวมถึงใช้งบประมาณในการป้องกันและแก้ปัญหาอย่างมหาศาล

    รายงานจากทางการสหรัฐที่เล็ดลอดออกมา ระบุว่า สหรัฐอาจใช้เงินมากถึง 450 พันล้านดอลลาร์ในการจัดการการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งราว 50% อาจจะใช้ในการจัดการกับโรคไข้หวัดนก

    ขณะที่ฝรั่งเศสก็เตรียมงบประมาณราว 200 ล้านยูโร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในปี 2548 และอาจเพิ่มขึ้นในปีหน้าหากมีความจำเป็น

    สถานการณ์ไข้หวัดนกที่กำลังคุกคามเอเชียและยุโรปนั้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังจะเห็นได้จากการที่ประเทศต่างๆ ได้ประกาศห้ามนำเข้าสัตว์ปีกทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตกันขนานใหญ่

    สหภาพยุโรป หรืออียู ได้สั่งห้ามการนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกจากประเทศที่พบการติดเชื้อไวรัสหวัดนกทั้งในเอเชียและยุโรป ได้แก่ โรมาเนีย รัสเซีย ไทย และตุรกี

    ด้านอังกฤษก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูทั้ง 25 ประเทศ สั่งห้ามการนำเข้านกป่าทุกชนิดจากทั่วโลก หลังพบนกแก้วที่นำเข้าจากอเมริกาใต้ในเขตกักกันโรคติดเชื้อไวรัสหวัดนก H5N1 พร้อมทั้งเตรียมจะจดทะเบียนผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับไก่ เป็ด และสัตว์ปีกอื่นๆ ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป

    ขณะที่เยอรมนีก็ได้เริ่มใช้คำสั่งห้ามนำเข้าสัตว์ปีกจากนอกประเทศเป็นการชั่วคราว รวมทั้งออกมาตรการกักสัตว์ปีกเพื่อจะได้สุ่มตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงในประเทศ และหากพบผู้ฝ่าฝืนก็จะปรับเป็นเงินราว 30,000 ดอลลาร์

    เนปาลได้ประกาศห้ามการนำเข้าสัตว์ปีกจากยุโรป และออกมาตรการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในกรณีการนำเข้าสัตว์ปีกจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินเดีย บังกลาเทศ และศรีลังกา รวมทั้งตั้งจุดสกัดเพื่อตรวจสอบสัตว์ปีกทุกชนิดที่จะนำเข้าประเทศตามแนวตะเข็บชายแดนที่เชื่อมต่อกับจีนและอินเดีย

    สำหรับปากีสถานก็ได้ประกาศห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกจาก 13 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน กัมพูชา เกาหลีเหนือ ลาว รัสเซีย คาซัคสถาน ตุรกี มองโกเลีย กรีซ และโรมาเนีย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศ

    ด้านรัฐบาลอียิปต์ก็ได้ประกาศห้ามนำเข้านกมีชีวิตและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้ พร้อมทั้งได้ตั้งจุดสังเกตการณ์ 27 แห่งตามบริเวณชายแดน และแหล่งน้ำ เพื่อนับสถิตินกอพยพที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อไข้หวัดนก

    บัลแกเรีย ขณะนี้ได้สั่งห้ามการนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกจากประเทศในยุโรปที่พบการติดเชื้อไวรัสหวัดนก H5N1

    ขณะที่ สาธารณรัฐเช็กก็ได้สั่งห้ามการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับสัตว์ปีกทุกชนิดและการประกวดนกพิราบที่เคยจัดขึ้นทุกปี

    สโลวะเกียได้ประกาศห้ามจำหน่ายสัตว์ปีกมีชีวิต รวมถึงงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้อง

    โครเอเชียประกาศห้ามการส่งออกสัตว์ปีกทุกชนิดเข้าไปในสมาชิกอียู หลังพบว่าหงส์ที่ตายในย่านบ่อเลี้ยงปลาทางฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรบอลข่านติดเชื้อไวรัสหวัดนก H5N1

    หน่วยงานตรวจสอบด้านอาหารของแคนาดาได้ประกาศยกเลิกงานนิทรรศการสัตว์ปีกและนกหายากที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า เนื่องจากกังวลถึงความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก

    ส่วนที่ยูกันดา เซเนกัล และอีก 6 ประเทศแอฟริกาก็ประกาศห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกจากยุโรปและเอเชีย เพราะอาจแพร่เชื้อไข้หวัดนกไปยังแอฟริกาตะวันออก

    ที่มา : http://www.matichon.co.th
     
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะครับ ยกกระทู้มาให้ดูนะครับ

    จาก http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=17209

     

แชร์หน้านี้

Loading...