ปกิณธรรมก่อนทำวัตรเย็น วันศุกร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 30 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,529
    ค่าพลัง:
    +26,367
    ก่อนทำวัตรเย็น วันศุกร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖


    ใครมาเป่ายันต์บ้าง ? แล้ววันนั้นใครที่บ่นว่าร้อน วันนี้ฝนตกอากาศเย็นช่วยบ่นให้ได้ยินหน่อยสิ..! ทุกวันนี้ที่พวกเราทุกข์อยู่ ก็เพราะว่าเราเข้าไม่ถึงความจริง แล้วไปดิ้นรนต่อต้าน พวกเราเหมือนอย่างกับสัตว์ที่ติดกับดัก ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บ แต่ถ้ายอมรับ ก็จะเจ็บตัวน้อยหน่อย

    เรื่องของอากาศจะร้อนหนาวฝนตกอย่างไรก็ตามเป็นธรรมชาติ แต่พอถึงเวลาเราก็ไปโวยวาย ทำอย่างกับโวยแล้วจะหายร้อน อาจจะหายก็ได้..หายคลั่ง แต่ก็ยังร้อนอยู่เหมือนเดิม..!

    แล้วทำอย่างไรเราถึงจะไม่ไปดิ้นรนต่อต้าน ? ปัญญาต้องเห็นว่าธรรมชาติเป็นอย่างนั้น ธรรมดาเป็นอย่างนั้น ถ้าใครเข้าถึงคำว่าธรรมดานี่กินได้ตลอดชาตินี้ ชาติหน้า ยันเข้าพระนิพพานเลย..!

    ธรรมดาของแต่ละคนไม่เท่ากัน
    ธรรมดาของปุถุชนปล่อยวางได้ระดับหนึ่ง
    ธรรมดาของกัลยาณชนปล่อยวางได้มากกว่านั้น
    ธรรมดาของอริยชนก็ปล่อยวางหนักเข้าไปอีก
    ธรรมดาของพระอรหันต์ก็ปล่อยหมดเกลี้ยงเลย ถ้าไม่ใช่ว่าระกรรมจะไม่แตะเลย เลิกยุ่งแล้ว


    แต่พวกเรายังยุ่งอยู่ก็เลยทุกข์มากกว่า แล้วส่วนใหญ่ทุกข์เพราะความคิดตัวเอง อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากได้นั่น อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ อยากเป็นนั่น..อันนี้เป็นเรื่องของอนาคต

    แล้วไอ้โน่นก็ไม่น่าเป็นอย่างนั้นเลย ไอ้นี่ไม่น่าเป็นอย่างนี้เลย..นั่นเป็นเรื่องในอดีต

    ไม่ได้อยู่กับปัจจุบันเลย ก็คือถ้าไม่ไปโหยหาอดีต ก็ไปฟุ้งซ่านถึงอนาคต รถยนต์ที่ผ่านไปแล้วเราขึ้นไม่ได้ รถอดีตผ่านเลยไปแล้ว รถยนต์ที่ยังมาไม่ถึงเราก็ขึ้นไม่ได้ นั่นรถในอนาคต แล้วจะไปสนใจทำไม ? ทำไมเราถึงไม่ขึ้นรถคันปัจจุบัน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ?

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,529
    ค่าพลัง:
    +26,367
    ถ้าหากว่ากำลังใจของเราอยู่กับปัจจุบัน เราจะเหลือความทุกข์น้อยมาก ก็คือมีแต่ความทุกข์ตามสภาพของร่างกายเท่านั้น แต่เรามักจะฟุ้งซ่าน ไม่ไปอดีตก็ไปอนาคต กลายเป็นว่าคิดให้ตัวเองทุกข์ ถึงได้กล่าวว่าพวกเราทุกข์เพราะความคิดตัวเอง

    หรือถ้าหากพูดอีกมุมหนึ่งก็คือทุกข์เพราะความอยากของตัวเอง อยากเป็นอย่างนั้น อยากเป็นอย่างนี้ ไม่อยากเป็นอย่างนั้น ไม่อยากเป็นอย่างนี้ เหล่านี้เป็นตัณหาล้วน ๆ ตัณหาคือความทะยานอยาก อยากสวย อยากรวย อยากมีชื่อเสียง อยากเป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

    "อยาก" เป็นตัณหาเราเข้าใจได้ แล้ว "ไม่อยาก" เป็นตัณหาตรงไหน ? ไม่อยากก็คืออยาก แต่เราไปใช้คำว่า "ไม่อยาก" ก็เลยกลายเป็นวิภวตัณหา อย่างเช่นว่าไม่อยากแก่ ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากตาย ฟังดูเหมือนกับไม่อยาก แต่จริง ๆ แล้วก็คือ อยากจะไม่เจ็บ อยากจะไม่แก่ อยากจะไม่ตาย..อยากทั้งนั้น

    พอแค่นี้ก่อน ได้เวลาทำวัตรค่ำแล้ว
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...