บึ้มถล่มทั่วปัตตานี29ลูก-ตร.กู้ได้15

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 2 กันยายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ซากบึ้ม-ซากรถกระบะพังยับเยิน หลังถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดหลายจุดในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อกลางดึกวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่วนที่จ.ปัตตานี ถูกวางระเบิดป่วนถึง 22 จุด ตามข่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โจรใต้ยังป่วนไม่เลิก ลอบวางระเบิด 29 ลูกถล่มสะพาน 3 แห่งที่ปัตตานี เผยใช้แสวงเครื่องผูกกับตอม่อ จุดชนวนด้วยมือถือ เจ้าหน้าที่สามารถกู้ไว้ได้ 15 ลูก นอกจากนี้บุกเผาป้อมยามตร.ทางหลวง ด.ต.ถูกยิงดับ ตร.จับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 10 คน ที่นราธิวาส บึ้มถล่ม 2 จุด เจ็บ 8 ราย นอกจากนี้ระเบิดตร.ชุดคุ้มครองครูนราธิวาส ส.ต.ต.สังเวยชีวิต ตำรวจและครูสาวเจ็บรวม 3 คน ที่ยะลาคนร้ายยิงครูสอนศาสนาดับ ขณะขับรถไปสอนหนังสือ "ชิดชัย"ระบุโจรต้องการแสดงศักยภาพ หลังมีผู้หลงผิดบางส่วนยอมเข้ามอบตัว สื่อฝรั่งตีข่าวคนไทย 3 จว.ใต้อพยพหนีเข้าไปอยู่ในมาเลย์ อ้างหนีภัยจากการใช้พ.ร.ก. "กันตธีร์"สั่งสอบด่วน

    -วางบึ้ม29ลูกถล่มทั่วปัตตานี

    เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.00 น. วันที่ 31 ส.ค. มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดสะพาน 3 แห่ง คือสะพานบ้านชะเมา ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สะพานชลประทาน ต.บางเขา และสะพานบ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ นอกจากนี้ยังลอบวางเพลิงหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ่อทอง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก พร้อมโรยเรือใบเส้นทางที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ติดตาม

    ต่อมาเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.วิศิษย์ อักษรแก้ว รอง ผกก.สภ.อ.หนองจิก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจชุดเก็บกู้ระเบิดตำรวจภูธรปัตตานีนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งทั้ง 4 จุด พบว่ายังมีระเบิดที่ไม่ทำงานอีกหลายสิบลูก

    โดยจุดแรกที่บริเวณสะพานบ้านเกาะหม้อแกง หมู่ 7 ต.ท่ากำชำ พบว่าคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่อง 11 ลูก จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ผูกไว้ที่เสาสะพานทุกต้นเชื่อมด้วยสายไฟฟ้า โดยระเบิดทำงานแล้ว 3 ลูก เหลืออีก 8 ลูก เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบถังดับเพลิงสีแดงบรรจุปุ๋ยยูเรียอัดน้ำมันแล้วผูกพ่วงกับสายไฟพร้อมกัน 11 ลูก โดยคนร้ายลากสายไฟเข้าไปในบริเวณป่า ห่างจากสะพานประมาณ 300 เมตร แต่โชคดีระเบิดทำงานเพียง 3 ลูก ทำให้เสาสะพานเสียหาย 3 ต้น

    -คนร้ายใช้แสวงเครื่องผูกตอม่อ

    จุดที่ 2 สะพานคลองชลประทาน หมู่ 4 ต.บางเขา คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องลักษณะเดียวกัน 11 ลูก ผูกไว้กับตอม่อสะพาน ระเบิดทำงานแล้ว 4 ลูก เหลืออีก 7 ลูก เจ้าหน้าที่ทำการเก็บกู้ได้สำเร็จ แรงระเบิดทำให้เสาสะพานเสียหาย 4 ต้น ในเส้นทางทั้งสองจุด เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนให้มีการสัญจรเลนเดียว ทำให้การจราจรติดขัดและล่าช้า เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนสายหลักระหว่างจ.ปัตตานี-หาดใหญ่ จ.สงขลา

    จุดที่ 3 สะพานบ้านชะเมา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างอ.หนองจิก กับ อ.โคกโพธิ์ บริเวณหมู่ 2 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ พบว่าคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่อง 7 ลูก ผูกชนวนลักษณะเดียวกัน ปรากฏว่าระเบิดทำงานทั้ง 7 ลูก แรงระเบิดทำให้สะพานเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายเนื่องจากเสาสะพานทั้ง 7 ต้นขาด

    -ซุ่มยิง-บุกเผาป้อมตร.ทางหลวง

    ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก. เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุคนร้ายลอบซุ่มยิงและวางเพลิงหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงบ่อทอง ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ หมู่ 1 ต.บ่อทอง โดยมีนายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผวจ.ปัตตานี และร.ต.อ.นิคม ทองขาว รอง สว.สทล.5 คอยต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย คือด.ต.ดลวัฒน์ หนูตะพงษ์ อายุ 40 ปี หัวหน้าหน่วยฯ และทรัพย์สินเสียหายมาก บริเวณด้านหน้า ผนัง หลังคา หน้าต่างกระจกได้รับความเสียหาย

    นอกจากนี้ มีรถยนต์เสียหาย 4 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ตำรวจทางหลวง 2 คัน ทะเบียน ษฐ 2098 กรุงเทพฯ สภาพไหม้ทั้งคัน และทะเบียน วษ 3098 กรุงเทพฯ รถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน กท 6559 สงขลา รถกระบะโตโยต้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระจกแตกและมีรอยกระสุนเต็มไปหมด

    เจ้าหน้าที่กองวิทยาการปัตตานีตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุน หัวกระสุน และเครื่องกระสุนเต็มทั่วบริเวณ คือกระสุนอาก้า 8 นัด และปลอกอาก้า 33 ปลอก กระสุนลูกซอง 10 นัด ปลอกลูกซอง 6 ปลอก และปลอกพลุจำนวนมาก

    -"ด.ต."สังเวยชีวิต-เมียบาดเจ็บ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุที่ป้อมตรวจดังกล่าวมีคนอยู่ 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 2 คน คือส.ต.ท.นัฐวุฒิ โสภาโภคทรัพย์ ด.ต.ดลวัฒน์ และภรรยาของด.ต.ดลวัฒน์ โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายกำลังนั่งอยู่ภายในป้อม ปรากฏว่ามีคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 คน บุกเข้ามาโจมตีทางด้านหลังและด้านหน้า ด้วยการจุดพลุและกราดยิงใส่ จึงเกิดการยิงโต้ตอบประมาณ 20 นาที กระสุนถูกด.ต.ดลวัฒน์เสียชีวิต ส่วนส.ต.ท.นัฐวุฒิกระโดดหลบหนีทัน ไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ภรรยาของด.ต.ดลวัฒน์บาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย

    หลังจากนั้นจึงวิทยุขอกำลังช่วยเหลือเนื่องจากคนร้ายโรยเรือใบและวางระเบิดแก๊สริมถนน ตรงข้ามหน้าวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทันที ส่วนคนร้ายหลังจากซุ่มยิงแล้ว ใช้น้ำมันเบนซินราดรถยนต์และทุบกระจกรถเผาทิ้งก่อนหลบหนีไป จากนั้นใช้รถดับเพลิงเข้ามาช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

    -ผวจ.สั่งเพิ่มกำลังคุ้มกันเข้ม

    พล.ต.ท.ธานีเปิดเผยว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการโจมตีป้อมตรวจทางหลวง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความประมาทของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมามีการเตือนให้ระมัดระวังทุกครั้ง เพราะโดยสภาพของตำรวจทางหลวงโคกโพธิ์มีอยู่ 4-5 จุด แต่ละจุดมีการกระจายกำลังตามจุดต่างๆ 4-5 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุจะมีการประชุมกันว่าจะมีมาตรการอย่างไร ส่วนกำลังใจของเจ้าหน้าที่ยังดี ที่ผ่านมาได้มาเยี่ยมให้กำลังใจตลอดเวลา

    ด้านนายเชิดพันธ์กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหาย แต่ว่ามูลค่าความเสียหายไม่เท่ากับชีวิตของคน ในส่วนของสะพาน ทางแขวงการทางเข้ามาตรวจสอบแล้วและมีการประสานไปยังหน่วยเหนือ ซึ่งศูนย์ซ่อมแซมสะพานจ.นครศรีธรรมราชเตรียมสะพานเหล็กใช้ชั่วคราว ขณะนี้กำลังเดินทางมา คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 วันจะเปิดสัญจรได้ ตอนนี้ต้องปิดถนนสายอ.หนองจิก-โคกโพธิ์เป็นการชั่วคราว ให้รถที่จะไปยะลาใช้เส้นทางบ้านท่าเรือแล้วย้อนกลับมา ส่วนอีก 2 จุดใช้การได้

    "เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการแจ้งเตือนมายังหน่วยเหนือซึ่งทางจังหวัดแจ้งเตือนไปที่อำเภอแล้วให้เพิ่มความระมัดระวัง แต่เนื่องจากว่าเรามีสะพานเป็นจำนวนมากและไม่ทราบว่าคนร้ายจะก่อเหตุที่ใด หลังเกิดเหตุตลอดทั้งคืนได้สั่งการให้มีการตรวจสอบบริเวณสะพานและเพิ่มกำลังทุกจุดแล้ว" นายเชิดพันธ์ กล่าว

    -ประกบยิงนักวิจัยอิสระสาหัส

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายสตอปาร์ อาแว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.2 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี นักวิจัยอิสระ ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี เหตุเกิดที่บริเวณ ม.3 บ้านจือรังบองอ ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี

    สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสตอปาร์ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อทำธุระที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบแล้วใช้ปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงใส่ 4 นัด กระสุนถูกเฉี่ยวที่ศีรษะ 1 นัด ไหล่ซ้าย 1 นัด และไหล่ขวา 1 นัด สำหรับสาเหตุน่าจะเกี่ยวกับสถานการณ์ใต้เพราะผู้บาดเจ็บไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร

    -บึ้มกลางเทศบาลนราฯเจ็บ 6 ราย

    เมื่อเวลา 08.20 น. ร.ต.ต.ณรงค์ บัวคง ร้อยเวรสภ.อ.เมือง นราธิวาส รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดที่บริเวณหน้าร้าน เอ็มที อิเลคโทรนิคส์ เลขที่ 91/29 ซอยประชานิมิตร ถ.ระแงะมรรคา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จึงประสานพ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ.จ.นราธิวาส หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มชาวบ้านซึ่งนั่งรับประทานข้าวยำและดื่มกาแฟ ที่ร้านกาแฟโบราณเลขที่ 91/7 ซอยประชานิมิตร ติดกับร้านที่เกิดเหตุประมาณ 4 เมตร ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ประกอบด้วย นายสมชาย ชัยชนะลาม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ถ.ระแงะมรรคา อ.เมือง สะเก็ดถูกขาขวา, นางพรพิมล จับจันทร์ อายุ 44 ปี แม่ค้าขายข้าวยำ อยู่บ้านเลขที่ 43 ถ.ประชาพัฒนา อ.เมือง ถูกสะเก็ดระเบิดขาขวาลำตัวสาหัส, นางสมหมาย วิลามาศ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/4 ถ.ประชาภิรมณ์ อ.เมือง, นายปราณี ขันทะลิมาเฉลิม อายุ 47 ปี, นายณรง จันทร์ อายุ 57 ปี อยู่เขตเทศบาลเมือง และนายวุฒิ วิลามาศ อายุ 31 ปี อยู่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทั้งหมดถูกนำส่งไปรักษาตัวที่ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง นราธิวาส

    -ชี้เป็นกลุ่มเดียวกับบึ้มสุไหงโก-ลก

    จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าแรงสูงซึ่งคนร้ายซุกซ่อนในซอกกระถางต้นไม้ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องดัดแปลงบรรจุในหม้ออะลูมิเนียม จุดชนวนผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ น้ำหนักรวม 5 ก.ก. แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้าง 30 ซ.ม. ลึก 15 ซ.ม. ภายในรัศมี 15 เมตร พบชิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิด เป็นเหล็กหุนเส้นยาว 1 นิ้วจำนวนหนึ่ง เศษโทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์วันทูคอล 1 อัน สายไฟเชื้อปะทุยาวประมาณ 5 นิ้ว 1 เส้น และเศษปุ๋ยยูเรีย

    สอบสวนทราบว่า บริเวณที่เกิดเหตุจะมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจแวะเวียนดื่มน้ำชาในร้านกาแฟโบราณบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมาซุกซ่อนวัตถุระเบิดในช่วงกลางคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่คนร้ายลงมือก่อเหตุจุดชนวนระเบิด 3 จุดโรงแรมพื้นที่สุไหงโก-ลก เมื่อมีคนมานั่งหน้าร้านดังกล่าว คนร้ายจึงจุดชนวนระเบิด ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่ระเบิดก่อเหตุพื้นที่สุไหงโก-ลก

    -ถล่มตร.ชุดคุ้มครองครูดับ 1

    เมื่อเวลา 08.00 น. ร.ต.ท.สุวิชญ์ ภู่สถิตย์ ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุเกิดระเบิดริมถนนสายสุไหงปาดี-ต.สากอ บ้านบูเก๊ะบูลา หมู่ 2 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี

    หลังเกิดเหตุ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เติม อินทะสะระ ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี พ.ต.ท.เจตน์ เจริญยืน รองผกก.ป. นำตำรวจและทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบมีตำรวจและครูได้รับบาดเจ็บ 4 ราย จึงรีบนำส่งร.พ.สุไหงปาดี โดยเฉพาะส.ต.ต.ถาวร รักนิ่ม ตำรวจสภ.อ.สุไหงปาดี ชุดรักษาความปลอดภัยครู อาการสาหัส ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอกตรงหัวใจ ทางร.พ.สุไหงปาดีจึงรีบนำส่งต่อไปรักษาที่ร.พ.สุไหงโก-ลก ต่อมาแพทย์ร.พ.สุไหงโก-ลกแจ้งว่า ส.ต.ต.ถาวรทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต

    นอกจากนี้ มีผู้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 3 คน มี ส.ต.ต.เจริญ เอมชัย ตำรวจสภ.อ.สุไหงปาดี ชุดรักษาความปลอดภัยครู นางราตรี สาสุธรรม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/1 หมู่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ครูโรงเรียนบ้านจือแร และน.ส.สิโรรัตน์ จันทร์แก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/8 หมู่ 9 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ครูโรงเรียนบ้านสากอ

    ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกองร้อยตชด.447 บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี เข้าตรวจสอบ พบว่าเกิดระเบิดขึ้นที่ริมถนนสายสุไหงปาดี-สากอ บ้านบูเก๊ะบูลา บนเนินดินใต้หม้อแปลงไฟฟ้า เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 2 ฟุต กว้างประมาณ 2 เมตร พบชิ้นส่วนแผงวงจรโทรศัพท์ แบตเตอรี่ และบนถนนมีปลอกกระสุนปืนหลายสิบนัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

    -เจอวัตถุต้องสงสัยซุกไว้ศาลาที่พัก

    จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจชุดคุ้มครองครูนำครูประมาณ 5-6 คนขี่รถจยย.ตามหลังกันมา เมื่อรถลงเนิน คนร้ายที่แอบซุ่มอยู่ได้กดระเบิดเสียงดังสนั่น ตำรวจจึงใช้ปืนยิงโต้ตอบหลายสิบนัด จากแรงระเบิดทำให้ตำรวจ และครูได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

    ขณะที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกองร้อย ตชด.447 บ้านเจาะวา กำลังตรวจที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งว่ามีวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ในศาลาที่พักริมทาง ก.ม.44+335 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี จึงรีบไปตรวจสอบ พบกล่องต้องสงสัยวางอยู่ โดยมีธงชาติไทยถูกเผาเล็กน้อยคลุมไว้ เจ้าหน้าที่ทำการเก็บกู้ตรวจสอบ พบว่าภายในกล่องมีทรายและสายไฟโผล่อยู่ 1 เส้น ภายในกล่องยังพบเอกสารของกลุ่มคนร้ายเขียนไว้จำนวน 5 แผ่น มีเนื้อหาข่มขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้บริสุทธิ์

    -ตร.ล่าลอบวางบึ้มสุไหงโก-ลก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดระเบิดขึ้น 3 จุดในพื้นที่ตัวเมืองสุไหงโก-ลก กระทั่งตอนเช้ามีชาวบ้านแห่ไปมุงดูกันอย่างเนืองแน่นทั้ง 3 จุด โดยเฉพาะที่ตรงข้ามหน้าร้านคาราโอเกะ"ไก่นา" และด้านข้างโรงแรมพลาซ่า นอกจากรถยนต์ของทางโรงแรมเสียหาย 1 คันจากแรงระเบิดที่คนร้ายนำมาวางไว้ข้างตัวรถ เศษวัตถุระเบิดที่พบส่วนใหญ่เป็นเศษเหล็กตัดเป็นชิ้นเล็กๆกระเด็น ทำให้รถยนต์ทั้งกระบะและรถยนต์เก๋งเสียหาย 6 คัน กระจกพัง ยางล้อรถพัง และยังมีรถจยย.เสียหายอีก 1 คัน ส่วนที่ด้านข้างโรงแรมเก็นติ้ง นอกจากกระจกโรงแรมแตกหลายบานแล้ว ยังมีคนได้รับบาดเจ็บด้วย

    สำหรับอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บล่าสุดไม่มีใครเสียชีวิต นอกจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนัก 2 ราย แพทย์ต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.สุไหงโก-ลก เรียกพยานที่เห็นคนร้ายนำระเบิดมาวางมาสอบปากคำแล้ว และออกตรวจค้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน

    -"แม่ทัพภาค 4"แถลงเหตุป่วนใต้

    เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้(กอ.สสส.จชต.) พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผอ.สสส.จชต. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภาค 9 ร่วมแถลงข่าวกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่สงบช่วงเวลา 20.00 -22.00 น.ของคืนวันที่ 31 ส.ค.

    พล.ท.ขวัญชาติกล่าวว่า ช่วงเวลาระหว่าง 20.38-20.53 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลงมือปฏิบัติการในพื้นที่จ.นราธิวาส คือลอบวางระเบิด 3 จุด ที่อ.สุไหงโก-ลก มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 15 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย คือ นายมะรอนิง ราษฎร หมู่ 6 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นบุคคลที่มีพยานยืนยันว่าเป็นผู้นำระเบิดมาวางไว้ที่หน้าร้านไก่นาคาราโอเกะ

    พล.ท.ขวัญชาติกล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นที่บ้านพักพบสายไฟ โทรศัพท์มือถือ และเครื่องตัดเหล็ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยอีกหลายแห่ง นอกจากนั้นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังปฏิบัติการในพื้นที่จ.นราธิวาส อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการลอบยิงชาวบ้านที่อ.สุไหงปาดี เผายางรถยนต์ โรยตะปูเรือใบในพื้นที่ บ.จือแร ต.สาวอ อ.รือเสาะ เผายางรถยนต์ใกล้ร.พ.รือเสาะ เผายางรถยนต์ และโรยตะปูเรือใบหน้าตลาดกลางผลไม้ อ.รือเสาะ และในพื้นที่ต.สามัคคี อ.รือเสาะ โรยตะปูเรือใบจำนวนมาก

    พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนในพื้นที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังเผายางรถยนต์และโรยตะปูเรือใบ 2 แห่ง และคนร้ายยังวางเพลิงเผารถยนต์ของอบต.ลุโบะบือซา ได้รับความเสียหาย และเผาศาลาอเนกประสงค์ที่หมู่ 4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ ได้รับความเสียหายเล็กน้อย นอกจากนั้นยังปฏิบัติการยิงรบกวนฐานปฏิบัติการฉก.32 ในพื้นที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส 2 แห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ขณะนี้สามารถควบคุมวัยรุ่นต้องสงสัยได้ที่อ.ยี่งอ จำนวน 7 คน และที่อ.บาเจาะ จำนวน 2 คน

    -ยิงถล่มป้อมตร.ทางหลวงปัตตานี

    "ส่วนในพื้นที่จ.ปัตตานี คนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้ปืนอาก้าและลูกซองยิงถล่มป้อมตำรวจทางหลวง บ้านเกาะหม้อแกง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้ด.ต.ดลวัฒน์ หนูตะพงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเสียชีวิต นอกจากนั้นนางสายใจ หนูตะพงษ์ ภรรยาด.ต.ดลวัฒน์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยคนร้ายยังยึดปืนเอชเค 1 กระบอก และขนาด 9 ม.ม.ไปด้วย" ผอ.สสส.จชต. กล่าว

    พล.ท.ขวัญชาติกล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนำระเบิดบรรจุในถังดับเพลิงจำนวน 11 ลูก ลอบวางระเบิดบริเวณใต้สะพานชลประทาน บนถนนสาย 42 ระหว่างสี่แยกดอนยาง-อ.หนองจิก บ.ควนคูหา ต.บ่อทอง แล้วเกิดระเบิดขึ้นบางส่วน ทำให้สะพานได้รับความเสียหาย ส่วนระเบิดที่เหลือสามารถเก็บกู้ไว้ได้หมดแล้ว นอกจากนั้น กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังนำระเบิดที่บรรจุในถังดับเพลิงจำนวน 11 ลูกไปวางไว้ที่ตอม่อใต้สะพานข้ามคลองชะเมา บ.ควนดิน ต.บ่อทอง อ.หนองจิก แล้วเกิดเหตุระเบิดขึ้นจำนวน 3 ลูก ทำให้สะพานได้รับความเสียหาย ส่วนระเบิดอีก 8 ลูก เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้เป็นผลสำเร็จ

    "ส่วนที่จ.ยะลา คนร้ายโรยตะปูเรือใบบริเวณถนนสายรือเสาะ-สายบุรี พื้นที่หมู่ 4 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา และวางวัตถุต้องสงสัย 2 แห่ง คือที่บนถนนสายรือเสาะ-สายบุรี และบริเวณสะพานในพื้นที่หมู่ 4 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จากการตรวจสอบไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด และทางกอ.สสส.จชต.ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันออกมาประณามการกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ด้วย และอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากทางกองทัพสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว" ผอ.สสส.จชต. กล่าว

    -ตร.สอบ 7 ผู้ต้องสงสัยบึ้มใต้

    ต่อมาเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม ทองสลับล้วน ร้อยเวรสภ.อ.ยี่งอ นำผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโรยตะปูเรือใบในพื้นที่เขตรอยต่อยี่งอ และเมืองนราธิวาส จำนวน 7 ราย ซึ่งจับกุมได้ที่จุดสกัด 3 แยกศาลาลูกไก่ ต.ละหาร อ.ยี่งอ พร้อมของกลางเป็นตะปูในกระเป๋ากางเกง ประกอบด้วยนายมานะ นิมาเตะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ต.สากอ อ.ยะหา จ.ยะลา, นายไก่(นามสมมติ) อายุ 16 ปี บ้านอยู่ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ, นายสักรี สาแลแม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/4 ต.ปอเยาะ, นายอับดุลลาเตะ ปาเตะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ, นายเซ็ง(นามสมมติ) อายุ 15 ปี บ้านอยู่ต.ละหาร อ.ยี่งอ และนายดูฮัน สาแลแม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มาสอบสวน

    เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโปรยตะปูเรือใบเพื่อก่อเหตุป่วนใต้ในคืนวันที่ 31 ส.ค. และยืนยันว่าทั้งหมดกลับจากทำงานที่โครงการเศรษฐกิจพอเพียงบ้านรอตันบาตู อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อกลับบ้านพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันใช้อำนาจตามพ.ร.ก.จากนั้นนำส่งตัวไปยังกองทัพภาค 4 ส่วนหน้าเพื่อดำเนินการต่อไป

    -เจอรูป-ข้อความด่า"แม้ว"เกลื่อน

    จากการเคลียร์พื้นที่ของชุดเจ้าหน้าที่สภ.อ.ยี่งอ ช่วงเวลา 05.30 น. พบรูปเขียนจำลองพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำจากลังกระดาษ ผูกธงชาติไทยที่คอ และมีข้อความเขียนโจมตีว่า"บ้าอำนาจ" และมีกล่องกระดาษสีเหลี่ยมมีสายไฟโผล่ออกมาจากกล่องกระดาษ ในพื้นที่ 2 จุด คือที่บริเวณศาลาลูกไก่ ต.ละหาร อ.ยี่งอ และบริเวณสี่แยกน้ำพุเสด็จ บ้านฮูแตจีจิง หมู่ 3 ต.กาเยาะมาตี อ.ยี่งอ จึงประสานหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส นำชุดเก็บกู้มาตรวจสอบ พบเป็นลังกระดาษเปล่า และใบปลิวถ่ายเอกสารในกระดาษเอ 4 โจมตีนายกฯทักษิณ มีข้อความว่า "ตราบใดที่มึงยังฆ่าจับขังคนมลายูผู้บริสุทธิ์ มึงอย่าหวังเลยว่าชาวพุทธจะปลอดภัย ตราบใดที่มึงยังใช้พ.ร.ก.ต่อหมู่บ้านชาวมุสลิม อย่าหวังเลยว่าบ้านเมืองจะสงบ"

    เจ้าหน้าที่เก็บใบปลิวดังกล่าวทั้งหมดแล้วนำส่งกองวิทยาการจ.นราธิวาส ตรวจสอบหาดีเอ็นเอของคนร้ายแล้ว

    -ยิงดับครูสอนศาสนายะลา

    เมื่อเวลา 08.45 น. ร.ต.ท.สิทธิพล เจ้ยชุม ร้อยเวรสภ.ต.ลำใหม่ อ.เมือง ยะลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันที่บนถนนสายลำใหม่-ยุโป หมู่ 2 บ้านน้ำเย็น ต.ลำใหม่ อ.เมือง ยะลา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

    เมื่อไปถึง พบศพชายไทยมุสลิมนอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน ทราบชื่อนายอับดุลเลาะ มะลี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/5 หมู่ 6 ต.ยุโป อ.เมือง ยะลา เป็นครูสอนศาสนา(อุสตาซ) โรงเรียนพัฒนาวิทยาลำใหม่ สภาพศพถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และลำตัว 2 นัด ห่างจากศพเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สไมล์ หมายเลขทะเบียน กกฉ 405 ยะลา ของผู้ตายล้มอยู่ นอกจากนั้นพบปลอกกระสุนขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ 6 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

    จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายอับดุลเลาะขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปสอนหนังสือที่โรงเรียนตามปกติทุกวัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายจำนวน 2 คนขี่จยย.ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนตามประกบ จากนั้นคนร้ายใช้ปืนยิงนายอับดุลเลาะจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างความหวาดกลัวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

    -"ชิดชัย"เผยเตือนแล้วระวังโดนถล่ม

    เมื่อเวลา 10.10 น. วันเดียวกัน ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีฯ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการเกิดเหตุระเบิดพร้อมกันหลายจุดในจ.นราธิวาส ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวผู้ก่อความไม่สงบต้องการแสดงพลังและแสดงศักยภาพให้เครือข่ายที่ยังหลงเหลืออยู่ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลได้รับแนวร่วมที่เข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น และที่ผ่านมาภาครัฐก็โต้กลับกลุ่มก่อความไม่สงบ

    พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้น หน่วยงานความมั่นคงเคยแจ้งเตือนไปแล้วว่ากลุ่มก่อความไม่สงบพร้อมจะก่อความรุนแรง ตอบโต้แนวทางปฏิบัติที่รัฐลงไปกดดัน โดยเราแจ้งเตือนไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่าแม้จะสลายกลุ่มที่ก่อความไม่สงบไว้ได้บ้าง แต่ยังมีอีกหลายกลุ่มที่มีความเข้มแข็งและสมรรถนะที่จะก่อการได้อีกหลายเครือข่าย อย่างไรก็ดีในช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ตนจะลงพื้นที่เพื่อไปกวดขันเรื่องการข่าวอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้เหมือนกับการเล่นหมากรุกที่เราต้องวางหมากป้องกันการดำเนินการของฝ่ายตรงข้าม เหมือนอย่างที่ผ่านมามีใบปลิวแจ้งให้ร้านค้าหยุดขายของวันศุกร์ แต่ตอนนี้มีใบปลิวอีกแบบหนึ่งบอกว่าให้ขายของวันศุกร์ได้ แต่ต้องจ่ายให้กับกลุ่มก่อความไม่สงบร้านละ 500 บาทต่อเดือน ตรงนี้ทำให้เราเห็นบางอย่างว่ามีความพยายามที่จะเล่นเกม เราจึงต้องรู้เท่าทัน ทุกวันนี้เราพยายามดักทางตลอด ปรับปรุงกลยุทธ์ทุกสัปดาห์ ส่วนเรื่องการให้การคุ้มครองร้านค้าที่ถูกเรียกค่าคุ้มครอง รัฐบาลมีมาตรการอยู่แล้วแต่คงไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะถือว่าเป็นความลับ หากบอกไปกลุ่มก่อความไม่สงบก็จะดักแนวทางของเราได้

    "ผมสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมารัฐมีมาตรการในการคุ้มครองผู้ค้าอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในวันที่ 2 ก.ย. ผมจะเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง" พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าว

    -ชี้"จัดฉาก"มาเลย์ตั้งศูนย์รับคนไทย

    พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีข่าวว่ามาเลเซียจัดตั้งศูนย์อพยพที่รัฐกลันตัน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเข้าไปลี้ภัย เนื่องจากถูกกดดันจากการบังคับใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ตนขอยืนยันว่ามาเลเซียไม่เคยตั้งศูนย์ดังกล่าว กระแสข่าวที่เกิดขึ้นเพียงแค่ต้องการลดความน่าเชื่อของรัฐบาลเท่านั้น

    "เป็นการจัดฉากทั้งนั้น ไม่เคยมีการก่อตั้งศูนย์ผู้อพยพใดๆ ทั้งสิ้น เป็นความพยายามจัดฉากของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่พยายามสร้างภาพให้เห็นว่ารัฐบาลไทยใช้อำนาจตามพ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินในแนวทางที่ข่มขู่คุกคามชาวมุสลิม ทั้งที่เราพยายามใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ดังกล่าวน้อยมาก ดังนั้นคนไทยจะต้องเข้าใจเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ" พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าว

    -"ผบ.ทบ."บินด่วนดูเหตุบึ้ม 3 จว.ใต้

    วันเดียวกัน ที่กองการบินขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนจะเดินทางลงไปดูในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์การลอบวางระเบิดในหลายจุดว่าเป็นอย่างไร เพื่อรับฟังข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้าว่าเหตุเกิดขึ้นมาเป็นเพราะอะไร เพราะการข่าวที่ผ่านมาก็มีเข้ามาตลอด ระยะหลังการปฏิบัติการจิตวิทยามวลชนประชาชนก็เห็นด้วย และให้ความร่วมมือ เมื่อมีเหตุการณ์เมื่อคืนก็ค่อนข้างสับสน ต้องขอลงไปดูก่อน และส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะใช้ระเบิดแสวงเครื่อง ฉะนั้นจะต้องมีการระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังเข้าไป

    "แม่ทัพภาคที่ 4 รายงานมาเมื่อคืนว่าได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดหลายที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร เพราะสถานการณ์ 1 เดือนที่ผ่านมาโดยทั่วไปดีขึ้นเรื่อยๆ และประชาชนก็ให้ความร่วมมือ" ผบ.ทบ.กล่าว

    เมื่อถามว่าแนวร่วมเข้ามามอบตัวจำนวนมาก ได้ให้เบาะแสกลุ่มคนร้ายเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทาง สสส.จชต.ต้องดำเนินการ ส่วนรายละเอียดตนยังไม่ได้รับรายงานว่าสอบสวนไปได้แค่ไหน และผู้มอบตัวได้ให้รายละเอียดอะไรบ้าง

    -ฝรั่งตีข่าว 131 คนไทยหนีเข้ามาเลย์

    วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยอ้างสำนักข่าวเบอร์นามาและหนังสือพิมพ์นิวสเตรทส์ไทมส์ ของมาเลเซีย ว่า ตำรวจมาเลเซียจับกุมคนไทยมุสลิม 131 คนซึ่งหลบหนีเข้าไปยังรัฐกลันตัน ติดกับชายแดนภาคใต้ของไทย โดยผิดกฎหมาย สำหรับคนไทยกลุ่มนี้มีเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย โดยกระจายตัวกันเข้าไปขอลี้ภัยอยู่ในมัสยิดหลายแห่งในรัฐกลันตัน พร้อมกับให้การกับตำรวจว่าต้องหนีมาอยู่มาเลเซียเพราะกลัวว่าจะถูกฆ่าตายจากเหตุไม่สงบรายวันที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของไทย

    "รายงานข่าวจากตำรวจเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังวิตกว่าอาจมีคนไทยมุสลิมอีกหลายพันคนอพยพหนีตายเข้ามายังฝั่งมาเลเซียในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้" หนังสือพิมพ์นิวสเตรทส์ไทมส์ระบุ

    ด้านซุลคีฟลี อับดุลเลาะห์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนไทยมุสลิมกลุ่มนี้ให้กับหน่วยตรวจคนเข้าเมืองเพื่อดำเนินคดีต่อไป เพราะไม่มีหนังสือเดินทางและวีซ่าขอเข้าเมือง ล่าสุดสั่งให้เจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังรักษาด่านตามแนวชายแดนฝั่งติดกับประเทศไทยแล้ว

    ด้านนางซาลีฮะห์ หนึ่งในหญิงไทยมุสลิมที่ถูกตำรวจมาเลเซียจับกุม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเบอร์นามาว่า พวกตนต้องหลบหนีมายังมาเลเซีย ภายหลังจากทหารบุกเข้าไปในหมู่บ้านของพวกตนใน จ.นราธิวาส เมื่อ 2 วันก่อนและยิงผู้นำหมู่บ้านตาย

    -"กันตธีร์"สั่งดูแล 131 คนไทย

    ด้านนายกันตธีร์ ศุภมงคล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า ไทยประสานกับฝ่ายมาเลเซียอย่างใกล้ชิดและต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน กระทรวงการต่างประเทศขอให้สถานกงสุลใหญ่ที่มาเลเซียและหน่วยงานราชการไทยที่มาเลเซียดูแลคนไทย ที่สำคัญคือจะปกป้องคนไทย

    ส่วนการที่มาเลเซียจะส่งกลับคนไทยหรือไม่นั้น นายกันตธีร์กล่าวว่าไทยต้องการให้มีทางออกที่ดีที่สุด

    [font=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]คลิกชมภาพชุดทั้งหมด[/font][font=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi][/font]
    [font=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi][/font]
    [font=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]ที่มาของข่าว ข่าวสด[/font]
    [font=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi] ​

    [/font]
     

แชร์หน้านี้

Loading...