นิมิตรในการปฏิบัติ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 19 พฤศจิกายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,494
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    3BEC069C-77A2-427B-B676-67E268D86D1B.jpeg

    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจในการเข้าอบรมตามโครงการ Upskill การสอนวิชาทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยดำเนินการ ดังที่ได้กล่าวเอาไว้ว่า "ทุกครั้งที่เข้า ก็ต้องมีประเด็นให้พูดถึงเสมอ"

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบางวิชาอย่างเช่นพระอภิธรรมปิฎก บุคคลที่เรียนแต่วิชาการนั้น โอกาสที่จะตีความให้ถูกต้อง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ย่อมเป็นไปไม่ได้ ต้องเป็นบุคคลที่ผ่านการปฏิบัติมาอย่างโชกโชนเท่านั้น จึงจะสามารถตีความได้ถูกต้อง และระดับการตีความนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละท่าน ว่าท่านปฏิบัติไปถึงระดับไหน ยิ่งปฏิบัติในระดับสูงมาก ก็ตีความได้ลึกซึ้งมาก ปฏิบัติได้น้อยก็ตีความได้น้อย

    ในวันนี้ผู้บรรยายได้อธิบายถึงนิมิต ๓ คือ บริกรรมนิมิต อุคคหนิมิตและปฏิภาคนิมิต โดยที่ท่านใช้คำว่า ปฏิภาคนิมิตนั้นเป็นอุปจารสมาธิ เป็นภาพติดตาเหมือนกับรูปถ่าย ตรงจุดนี้ กระผม/อาตมภาพอยากที่จะแสดงความเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนในฐานะผู้ปฏิบัติในกสิณมาก่อน แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ไมได้เปิดไมค์ฯ ให้ ไม่สามารถที่จะแสดงความเห็นในระหว่างนั้นได้ เมื่ออธิบายไปจนจบก็เลยเวลาเพลไปมากแล้ว จึงไม่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ให้สำเร็จเสร็จสิ้นทีเดียว จนต้องมากล่าวกันในที่นี้

    ในส่วนของ "บริกรรมนิมิต" นั้นไม่มีปัญหา เพราะว่าเราลืมตามองภาพ หลับตาลงแล้วก็บริกรรมภาวนาไป อย่างเช่นว่า ถ้าเป็นภาพพระพุทธรูป ก็คือการที่เราลืมตามองภาพพระพุทธรูป หลับตาลงนึกถึงภาพนั้น พร้อมกับคำภาวนาว่า พุทโธบ้าง สัมมาอะระหังบ้าง นะมะพะธะบ้าง ตามแต่สายกรรมฐานที่ตนเองฝึกมา

    ส่วน "อุคคหนิมิต" นั้นเป็นนิมิตเริ่มติดตา นี่ถึงจะเป็นนิมิตที่มีลักษณะเหมือนกับภาพถ่าย ก็คือสามารถลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น ตรงจุดนี้จึงเป็นอุปจารสมาธิ

    ในส่วนของ "ปฏิภาคนิมิต" นั้น กำลังใจเริ่มทรงตัวเป็นฌานแล้ว และภาพนิมิตก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย อย่างเช่นว่าจากสีเข้มเป็นสีจางลง จากสีจางลงเป็นสีขาว จากสีขาวเป็นสีใส จากสีใสเป็นสว่างเจิดจ้า

    ดังนั้น..ปฏิภาคนิมิตจึงเป็นระดับของอัปปนาสมาธิตั้งแต่ระดับปฐมฌานขึ้นไปจนถึงฌาน ๔ เต็มระดับ ก็คือถ้าหากว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของสีสันวรรณะ ก็แปลว่าท่านเริ่มเข้าสู่ปฐมฌานแล้ว และองค์สมาธิจะค่อย ๆ ดิ่งลึกลงไป ลึกลงไป

    จากสีอ่อนเป็นสีจาง ก็อยู่ประมาณส่วนของทุติยฌาน คือฌานที่ ๒
    จากสีจางเป็นสีขาว ก็คือในส่วนของฌานที่ ๓
    จากสีขาวเริ่มเป็นสีใส ก็คือส่วนของฌานที่ ๔
    เมื่อสว่างเจิดจ้า นั่นคือฌาน ๔ ละเอียด เป็นการทรงสมาธิในรูปฌานเต็มระดับ

    ดังนั้น..ตรงจุดนี้ที่ท่านผู้บรรยายพยายามอธิบายไปแบบ "คิดว่า..คาดว่า..น่าจะเป็นอย่างนั้น" จึงเป็นการบรรยายแบบนักวิชาการ ไม่ใช่บุคคลที่ผ่านการปฏิบัติมาอย่างแท้จริง ที่จะสามารถบอกกล่าวได้อย่างชัดเจนกว่า

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9090

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun
    #ig: wat.thakhanun
    #tiktok: @watthakhanun
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
    #พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...