ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    ตุรกี
    พายุลูกเห็บตกอย่างรุนแรงใน konya วันที่ 11 มิถุนายน


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินเดีย
    ลมกระโชกแรงในพอร์บันดาร์เมืองชายฝั่งของรัฐคุชราต กำลังถูกพายุไซโคลนวายุ ซึ่งกำลังจะมาถึงวันที่ 12 มิถุนายน

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_2910.JPG IMG_2911.JPG
    (Jun 12) สถานกงสุลในฮ่องกงเตือนคนไทยฉบับ2เลี่ยงพท.ชุมนุม : สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 2 ให้คนไทยในฮ่องกง - นักท่องเที่ยว หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุมประท้วงใหญ่ 12 มิ.ย. นี้


    เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. 62 เพจ Royal Thai Consulate-General, Hong Kong ประกาศแจ้งเตือนคนไทยในฮ่องกง (ฉบับที่2)ขอคนไทยในฮ่องกงพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านพื้นที่จัดการชุมนุมประท้วง และนักท่องเที่ยวโปรดเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนามบินด้วย


    ทั้งนี้ กลุ่มผู้จัดการประท้วงหลัก ได้ประกาศจัดการชุมนุมประท้วงใหญ่อีกครั้ง ในวันพุธที่ 12 มิ.ย. ในช่วงเวลา 10.00 - 22.00 น. ตามเวลาฮ่องกง ณ สภานิติบัญญัติฮ่องกง เพื่อขัดขวางการพิจารณาวาระที่ 2 ของการประชุมสภาฯ เพื่อปรับแก้กฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่จะมีขึ้นในวันดังกล่าว และต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการผลักดันการปรับแก้กฎหมายฯ


    ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง คาดการณ์ว่าการชุมนุมประท้วงครั้งนี้จะส่งผลให้การสัญจรทั้งทางรถยนต์และรถไฟใต้ดิน (เอ็มทีอาร์) มีความหนาแน่นสูงจนถึงเป็นอัมพาต โดยเฉพาะพื้นที่จัดการชุมนุมประท้วงและบริเวณโดยรอบ ได้แก่ ย่านแอดไมรัลตี้ เซนทรัล หว่านไจ๋ และคอสเวย์ เบย์ จึงขอให้คนไทยในฮ่องกงพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านไปในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวโปรดเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนามบินด้วย


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/837625


    เพิ่มเติม

    -Police threaten ‘force’ as Hong Kong protesters besiege legislature

    https://www.cnbc.com/2019/06/12/hon...rotests-besiege-assembly-over-china-bill.html


    - Tens of thousands of protesters force delay in Hong Kong extradition bill debate

    https://www.reuters.com/article/us-...ng-kong-extradition-bill-debate-idUSKCN1TC1WR


    - ผู้ประท้วงฮ่องกงปิดถนนสายหลัก ล้อมที่ทำการรัฐบาล

    https://www.posttoday.com/world/591897
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    A9F0C369-5CBB-471C-AA2B-0D93D5C1A294.jpeg
    (Jun 12) 'ส่งออก'จีนโตเกินคาด-'การนำเข้า'ลดลง ยังคงได้ดุลการค้ากับสหรัฐ 26,890 ล้านเหรียญ - การส่งออกของจีนกลับมาโตอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าสหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้าจีนมากขึ้น แต่การนำเข้าลดลงอีก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าดีมานด์ภายในประเทศซบเซา รัฐบาลปักกิ่งอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ข้อมูลส่งออกและนำเข้านี้ ทำให้จีนได้ดุลการค้าในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 41,650 ล้านดอลลาร์ โดยได้ดุลกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 26,890 ล้านดอลลาร์



    ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนชี้ว่า การส่งออกในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 1.1% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ โดยผลสำรวจนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์ได้คาดการณ์ไว้ว่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมจะลดลงจากปีก่อนหน้า 3.8% จากที่หดตัว 2.7% ในเดือนเมษายน



    นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งสงสัยว่าผู้ส่งออกจีนอาจเร่งส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีใหม่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่จะเก็บอีก 300,000 ล้านดอลลาร์



    ส่วนการนำเข้าของจีนได้ลดลง 8.5% ในเดือนพฤษภาคม จากที่ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงจากปีก่อนหน้า 3.8% เทียบกับที่ขยายตัว 4% ในเดือนเมษายน นักวิเคราะห์สงสัยว่าการนำเข้าลดลงอาจเกี่ยวข้องกับการที่บริษัทเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการซื้อก่อนที่จะมีการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่แนวโน้มการนำเข้าที่ลดลงของจีนไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากมันชี้ว่าการบริโภคภายในประเทศไม่สามารถชดเชยกับความซบเซาที่เกิดจากดีมานด์ภายนอกลดลงได้



    ตัวเลขส่งออกและนำเข้าของเดือนพฤษภาคมทำให้จีนได้ดุลการค้า 41,650 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ โดยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ได้คาดการณ์ว่า จีนจะได้ดุลการค้าทั้งหมดเพียง 20,500 ล้านดอลลาร์ โดยจีนได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 26,890 ล้านดอลลาร์ จาก 21,010 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน



    แม้ว่าข้อมูลการส่งออกของจีนดีกว่าคาด แต่ก็ไม่น่าจะคลายความกังวลที่ว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่รุนแรงและยาวนานมากขึ้น อาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย



    ความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ระบุไว้เมื่อประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน แต่การเจรจาในระดับสูงระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้หยุดชะงักลงหลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน 200,000 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่ทำตามการตกลงในระหว่างการเจรจา



    ทรัมป์ยังได้ขู่ที่จะขึ้นภาษีจีนอีก 300,000 ล้านดอลลาร์ และสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ย้ำถึงประเด็นนี้กับซีเอ็นบีซีว่า ประธานาธิบดีมีความพอใจเป็นอันมากที่จะขึ้นภาษีต่อจีนหากการประชุมที่คาดว่าจะมีขึ้นกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่ราบรื่น



    นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่าจีนจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้ามากขึ้น โดยข้อมูลในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ชี้ว่ามีสัญญาณที่กิจกรรมชะลอตัวลง



    กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ลดประมาณการเติบโตของจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยอ้างความกังวลด้านการค้า อย่างไรก็ดี ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้สองประเทศยืนในจุดที่เสมอกัน



    โจนาธาน ชัว หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดและเศรษฐกิจเอเชียของซิตี้แบงก์ กล่าวว่า เมื่อมองจากมุมเศรษฐกิจในขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์จากการทำข้อตกลงมาก แต่ถ้ามองในมุมการเมือง มันยากขึ้นจริง ๆ



    นักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี กล่าวว่า ความเสียหายจากสงครามการค้าและดีมานด์ที่ลดลงทั่วโลกจะทำให้ปี 2562 เป็นปีที่เลวร้ายสุดสำหรับการค้านับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งมีการเติบโตเพียง 0.2%


    Source: ข่าวหุ้น


    - China exports grow despite US tariffs, but imports slump most in nearly three years

    https://www.businesstimes.com.sg/go...ariffs-but-imports-slump-most-in-nearly-three
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_2914.JPG
    (Jun 10) อันดับการแข่งขันของไทยดีได้อีก? เป็นเรื่องน่ายินดีที่สถาบัน IMD World Competitiveness Center ได้ประกาศให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขัน ดีขึ้นจากอันดับที่ 30 มาอยู่ที่อันดับที่ 25 ของ 63 ประเทศทั่วโลก ในปี 2019 ไทยจึงมีอันดับดีขึ้นมาอยู่ที่ 8 จากที่ 10 ของ 14 ประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก และแม้ว่าไทยจะยังคงอยู่ในอันดับ 3 ของกลุ่ม 5 ประเทศอาเซียน คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์แต่ก็ถือว่าขยับเข้าใกล้มาเลเซียซึ่งยังทรงตัวอยู่ในอันดับที่ 22 ไปอีกก้าว



    อย่างไรก็ดีอันดับการแข่งขันเป็นตัวเลขที่ไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี การยึดติดกับตัวเลขอันดับในปัจจุบัน คงไม่ต่างจากนักกีฬาที่พอใจกับผลการแข่งขันนัดล่าสุด แต่ลืมไปว่า สาระสำคัญของการแข่งขันคือการเปรียบเทียบความสามารถของตัวเองกับคู่แข่งสำหรับค้นหาจุดอ่อนและจุดแข็งเพื่อพัฒนาตัวเองได้ต่อไป ในวันนี้จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมกันค้นหาว่าผลการจัดอันดับนี้จะช่วยให้เราเห็นว่าจะทำอย่างไรให้ขีดความสามารถในการแข่งขันดีขึ้นได้อีก



    ก่อนอื่นคงขออธิบายการจัดอันดับการแข่งขันของ IMD อย่างคร่าวๆว่า ได้พิจารณาปัจจัยสี่ประการ คือ ภาวะเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพ ภาครัฐประสิทธิภาพภาคธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐาน โดยในแต่ละปัจจัยจะแบ่งเป็นห้าด้านย่อย และสามารถจำแนกได้ถึง 255 เครื่องชี้วัดซึ่งในภาพรวมแล้ว ไทยมีอันดับความสามารถในการแข่งขันดีขึ้นเกือบทุกด้าน ยกเว้นในหมวดประสิทธิภาพธุรกิจ โดยปัจจัยบวกที่ทำให้อันดับของไทยดีขึ้น ได้แก่ การลงทุนจากต่างประเทศที่ดีขึ้นมากกฎหมายและระเบียบที่มีความทันสมัยคล่องตัวมากขึ้นตลอดจนมีการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม



    ปัจจัยด้านเศรษฐกิจในปีก่อนได้สนับสนุนให้ไทยมีอันดับดีขึ้นจึงน่าสนใจว่าเมื่อมองไปข้างหน้าอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยจะเป็นอย่างไรท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีความผันผวนสูง นอกจากนี้ เมื่อมองลงลึกผ่าน 63 เครื่องชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับแรงงานและทรัพยากรมนุษย์จากทั้งหมด 255 เครื่องชี้จะพบว่าไทยมีอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านนี้ต่ำกว่าอันดับเฉลี่ยในภาพรวม และสามารถแยกจุดเปราะบางเป็นสองประเด็น คือ


    ประเด็นแรกด้านโครงสร้างประชากรและความเหลื่อมล้ำ จากเครื่องชี้ด้านจำนวนประชากรประชากรวัยทำงานและการมีงานทำ ซึ่งขยายตัวชะลอลงตามการก้าวเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย และจากเครื่องชี้ด้านความไม่เท่าเทียมด้านสิทธิสตรีในทางเศรษฐกิจและสังคมและ ประเด็นที่สองด้านทักษะความสามารถของแรงงานตลอดช่วงชีวิต เริ่มตั้งแต่คุณภาพของระดับการศึกษาของเด็กไทย จำนวนครูที่ไม่เพียงพอคะแนนทดสอบที่อยู่ในระดับต่ำทั้งในระดับมัธยมและอุดมศึกษา ไปจนถึงการขาดทักษะจำเป็นในการทำงานเช่น ภาษาอังกฤษ และความรู้พื้นฐานทางการเงินปัญหาเหล่านี้เป็นที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อคนมีแนวโน้มต้องใช้ชีวิตในการทำงานยาวนานขึ้นเพื่อให้สามารถเก็บเงินเลี้ยงดูตนเองในวัยชรา โดยหวังพึ่งพาบุตรหลานได้น้อยลง ดังนั้นแรงงานจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะตลอดชีวิต



    โดยสรุปแล้ว เรายังคงไม่สามารถสบายใจได้กับอันดับความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้นจากปัจจัยชั่วคราวด้านเศรษฐกิจเพราะปัญหาด้านแรงงานที่เรากำลังเผชิญจะเป็นสิ่งกีดขวางไม่ให้เรายกระดับความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้นกว่าอันดับกลางๆในปัจจุบันได้ จึงควรอาศัยโอกาสสำคัญจากการ โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic CorridorEEC ที่ได้สร้างสนามทดลองในการพัฒนาแรงงานด้วยการให้ความยืดหยุ่นหลายด้าน ทั้งการลดระเบียบกฎเกณฑ์ในการนำเข้าบุคลากรทักษะสูงจากต่างประเทศ และการสนับสนุนการพัฒนาอบรมความรู้ความสามารถของแรงงานในประเทศ เพื่อให้ภาครัฐและเอกชนสามารถร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้หนทางในการพัฒนาแรงงาน จนนำไปสู่การขยายผลในวงกว้างเพื่อให้อันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน



    คอลัมน์ บางขุนพรหมชวนคิด โดย ดร.นครินทร์ อมเรศ ฝ่ายนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย


    **บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด*


    Source: ไทยรัฐ
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    B3BF97EF-9838-4932-920A-5B82EE4F9457.jpeg
    (Jun 12) โกลด์แมนแซคส์'คาดหยวนอ่อนค่าต่ำสุด : "โกลด์แมน แซคส์" คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนของจีนจะอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ภายใน 3 เดือนนี้



    นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์ลง เนื่องจากมองว่าทางการจีนอาจจะปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเพื่อชดเชยผลกระทบที่เกิดจากการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐ ซึ่งแม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนไม่ต้องการให้เงินหยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับดังกล่าว แต่ก็มีแนวโน้มว่า เงินหยวนอาจอ่อนค่าลงจนต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์ต่อไป



    ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนของจีนจะอ่อนค่าลงสู่ ระดับ 7.05 หยวนต่อดอลลาร์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ก่อนจะแข็งค่า ขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 6.95 หยวนต่อดอลลาร์ใน 6 เดือน และ 6.80 หยวนต่อดอลลาร์ในอีก 12 เดือนจากนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากเดิมที่เคย คาดการณ์ไว้ที่ 6.95, 6.65 และ 6.65 หยวน ต่อดอลลาร์ใน 3, 6 และ 12 เดือนจากนี้ ตามลำดับ



    นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ยังกล่าวด้วยว่า เงินหยวนที่อ่อนค่าลงซึ่งส่งผลให้สินค้าจีนมีราคาถูกลงตามไปด้วย ทำให้มีความเสี่ยงที่สงครามการค้าจะกลายมาเป็นสงครามค่าเงิน อย่างไรก็ดี ยังมีแนวทางสกัดด้วยการควบคุมเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้การอ่อนค่าของเงินหยวนเป็นไปอย่างจำกัด



    ด้านนายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า จีนไม่ได้กำหนดระดับเงินหยวน อย่างเฉพาะเจาะจง และมั่นใจว่า เงินหยวนจะกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเมื่อสงครามการค้าลดความร้อนแรงลง



    นายอี้กล่าวว่า เงินหยวนยังคงมีเสถียรภาพและเคลื่อนไหวในระดับที่มี ดุลยภาพ โดยระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมานั้น เงินหยวนอ่อนค่าเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันจากฝั่งสหรัฐ แต่หลังจากนั้น เงินหยวนก็กลับมามีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่


    Source: กรุงเทพธุรกิจ


    - Goldman Expects Yuan to Breach 7 Per Dollar Within Three Months

    https://www.bloomberg.com/news/arti...an-breaching-7-per-dollar-within-three-months
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_2917.JPG IMG_2918.JPG
    (Jun 11) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้' สนามแข่งกลุ่มทุนจีน-ญี่ปุ่น: ในกรุงพนมเปญมีสะพานมิตรภาพสองแห่งที่พาดผ่านแม่น้ำโตนเลสาป คือ สะพานมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น ส่วนอีกแห่งคือสะพานมิตรภาพกัมพูชา-จีน โดยสะพานทั้งสองแห่งนี้นอกจากจะสะท้อนถึงมิตรภาพที่แต่ละประเทศมีต่อกัมพูชาแล้ว ยังสะท้อนถึงความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นด้วย แต่ทั้งจีนและญี่ปุ่น ต่างก็เป็นนักลงทุนและผู้บริจาครายใหญ่ทั้งในกัมพูชา และในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง



    สะพานมิตรภาพญี่ปุ่น ซึ่งสร้างขึ้นช่วงต้นปี 2503 เปิดใช้งานใหม่อีกครั้งหลังจากระงับการใช้งานไป2ปีเพื่อปรับปรุง ส่วนสะพานมิตรภาพของจีนมีอายุน้อยกว่า เช่นเดียวกับถนนความยาวเกือบ 3,000 กิโลเมตรและสะพานแห่งอื่นๆอีกจำนวนมากที่สร้างในกัมพูชาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา



    นอกจากในกรุงพนมเปญแล้ว ยังมีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆที่เปรียบเหมือนอนุสาวรีย์แห่งมิตรภาพของสองประเทศที่มีต่อกัมพูชา เช่นเมืองชายฝั่งทะเลสีหนุวิลล์ ที่เต็มไปด้วยกาสิโนของนักลงทุนชาวจีนและโครงการพัฒนาด้านต่างๆเต็มไปหมด เป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของกัมพูชาที่พัฒนาโดยทุนญี่ปุ่น อีกทั้งที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของแห่ง โดยแห่งหนึ่งก่อตั้งโดยให้ทุนของนักลงทุนชาวจีนและอีกแห่งเป็นทุนของกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่น



    ส่วนอีกโครงการที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนักคือโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ของบริษัทยูเนียน ดิวิลอปเมนท์กรุ๊ป ของจีนใกล้กับจังหวัดเกาะกงและสร้างสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ ที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแอบสร้างฐานทัพอากาศของจีนในกัมพูชาในอนาคต ด้านนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา หลังจากได้ยินข่าวลือนี้แสดงความไม่พอใจอย่างมากและบอกว่านี่เป็นข่าวลวง



    เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่น ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นว่าญี่ปุ่นกำลังแข่งขันกับจีนสร้างอิทธิพลผ่านการลงทุนในกัมพูชา พร้อมทั้งยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะลงทุนที่ใดจะพิจารณาด้านความมั่นคงและการพัฒนาเป็นหลัก ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อสร้างเสริมอิทธิพลทางการเมืองของประเทศ



    "เราไม่ได้ต้องการแข่งขันกับใคร และจีนก็เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว"เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น กล่าว



    แต่การลงทุนของสองประเทศคู่ปฏิปักษ์ทางการเมืองไม่ได้มีเฉพาะในกัมพูชาเท่านั้น ในหลายประเทศที่กำลังพัฒนาด้านต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็มีการลงทุนของกลุ่มทุนจีนและกลุ่มทุนญี่ปุ่นหลั่งไหลเข้าไปมากมายมหาศาลเช่นกัน จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเห็นตรงกันว่า สองประเทศนี้แข่งกันสร้างอิทธิพลผ่านการลงทุน



    กัมพูชาและประเทศอื่นๆทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเหมือนเวทีสำคัญสำหรับการประลองอำนาจรูปแบบใหม่ระหว่างจีนและประเทศคู่แข่ง และการขยายตัวของโครงการพัฒนาตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ของรัฐบาลปักกิ่งที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2556 กระตุ้นให้สหรัฐตลอดจนประเทศพันธมิตรหลายแห่งดำเนินรอยตาม



    รวมทั้งญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลียทั้งยังกระตุ้นให้ประเทศเหล่านี้ตื่นตัวเรื่องจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและทำโครงการด้านความมั่นคงต่างๆในประเทศ



    ทั้งนี้ ชาติสมาชิกอาเซียนมีระดับความไว้วางใจที่แตกต่างกันไปกับจีน และส่งผลกับความร่วมมือในโครงการบีอาร์ไอ เช่น ลาว กัมพูชา และสิงคโปร์ สนับสนุนบีอาร์ไออย่างเต็มที่ ในขณะที่เวียดนามและพม่า ยังมีความคลางแคลงอยู่มาก ส่วนไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน และมาเลเซีย อยู่ในกลุ่มมีความไว้วางใจระดับปานกลาง แต่เต็มใจร่วมมือกับบีอาร์ไอ



    ศาสตราจารย์ กุก เฉิง-ชวี จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติมลายา มีความเห็นว่าบีอาร์ไอจะยังคงดำเนินต่อไปด้วยความร่วมมือของสมาชิกภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล้วนมีส่วนร่วมในโครงการของตนเอง และบีอาร์ไอ จะยังคงมุ่งเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานและโครงการเชื่อมต่อในอนาคตอันใกล้



    ขณะที่ซิสโว ปราโมโน หัวหน้าประจำศูนย์เพื่อการกำหนดนโยบายและวิเคราะห์ของกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)10ประเทศมีแต้มต่อที่ดี



    "ตอนนี้เราไม่ต้องเลือกระหว่างสหรัฐและจีนแล้ว เพราะเรามีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจพอๆกันมาให้เลือก เท่ากับว่าตอนนี้เราไม่ต้องสนใจว่าสหรัฐและจีนจะพูดอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราแล้ว เพราะเราเป็นภูมิภาคที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ เป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง เป็นภูมิภาคที่มีความมั่นใจมากขึ้น" นายปราโมโน กล่าว



    นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2556 โครงการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน(บีอาร์ไอ) ได้จัดทำโครงการขนาดใหญ่ไปแล้วประมาณ 1,800 โครงการ ตั้งแต่โครงการสร้างถนน สะพาน สนามบิน หรือแม้กระทั่งสร้างเขื่อน ตั้งนิคมอุตสาหกรรม และศูนย์การประชุมต่างๆ ครอบคลุม80 ประเทศทั่วโลก และนับจนถึงวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา



    ความคืบหน้าอย่างรวดเร็วของโครงการต่างๆ ภายใต้ข้อริเริ่มบีอาร์ไอของจีนกระตุ้นให้สหรัฐ ภายใต้ความช่วยเหลือของญี่ปุ่น ปรับเปลี่ยนแนวคิดดำเนินกลยุทธ์ฟรี แอนด์ โอเพน อินโด-แปซิฟิก ที่เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 2559 มาเป็นการพัฒนาและลงทุนในภูมิภาคดังกล่าวแทน


    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Political & General News PostToday


    สภาฮ่องกงชะลอถกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนแบบ "ไม่มีกำหนด" หลังผู้ชุมนุมปิดล้อมหนักพร้อมเรียกร้องหัวหน้ารัฐบาลลาออก

    https://www.posttoday.com/world/591911


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Political & General News PostToday


    ระดมส.ส."อนาคตใหม่"ปักธงอภิปรายปฏิรูปกองทัพ-เลิกเกณฑ์ทหาร- ชำแหละ"รัฐบาลรอยต่อ"ยกสัมปทานกลุ่มทุน

    https://www.posttoday.com/politic/news/591928


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบลมพลังแรงขับเคลื่อนด้วยหลุมดำมวลยวดยิ่ง
    IMG_2919.JPG
    Credit : Instituto de Astrofisica de Canarias

    หลุมดำมวลยวดยิ่ง หรือหลุมดำยักษ์ที่ใจกลางกาแล็กซีหลายแห่งดูจะมีอิทธิพลสำคัญต่อวิวัฒนาการกาแล็กซี นักวิจัยจากสถาบันฟิสิกส์ดาราศาสตร์หมู่เกาะคาเนรี ในสเปน เผยว่าช่วงที่หลุมดำใช้วัตถุของกาแล็กซีในอัตราที่สูงมากและมีมวลเพิ่มขึ้น ช่วงเวลานี้เองที่กาแล็กซีเกิดนิวเคลียสดาราจักรกัมมันต์ (Active Galactic Nucleus-AGN) อันเป็นพื้นที่อัดแน่นตรงศูนย์กลางกาแล็กซีมีสภาพส่องสว่างสูงกว่าค่าสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า

    ผลกระทบจากกิจกรรมของหลุมดำยักษ์ ก็คือลมกาแล็กซีซึ่งเป็นก๊าซจากใจกลางกาแล็กซีที่ถูกขับเคลื่อนโดยพลังงานที่ปล่อยออกมาจากนิวเคลียสที่ทำงานอยู่ ลมเหล่านี้มีความเร็วได้สูงถึงหลายพัน กม./วินาที ทีมจึงลองศึกษาลมเหล่านี้ในควาซาร์ (quasar) เป็นวัตถุในอวกาศมีแสงส่องสว่างคล้ายกับดาวฤกษ์ และมีหลุมดำยักษ์ล้อมรอบด้วยกลุ่มก๊าซและพุ่งเข้าสู่หลุมดำโดยปลดปล่อยพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ออกมา โดยได้ใช้สเปกโตรกราฟอินฟราเรดของเครื่องแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นรังสีอินฟราเรด (EMIR) บน กล้องโทรทรรศน์จีทีซี (Gran Telescopio Canarias-GTC) ที่ออกแบบมาเพื่อศึกษาวัตถุที่อยู่ไกลที่สุดในจักรวาลโดยการวิเคราะห์แสงอินฟราเรด

    การศึกษาควาซาร์ J1509 + 0434 จากเครื่องมือ EMIR ทีมค้นพบว่าพลังลมไอออนนั้นเร็วกว่าลมโมเลกุลด้วยความเร็วสูงสุด 1,200 กม./วินาที ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการสังเกตตัวอย่างที่สมบูรณ์ของควาซาร์ใกล้เคียง และตรวจสอบประชากรดาวฤกษ์และกาแล็กซีที่ดาวเหล่านั้นอาศัยอยู่ เพื่อช่วยให้สามารถยืนยันผลกระทบของ AGN ต่อวิวัฒนาการของกาแล็กซีได้โดยตรง.

    https://www.thairath.co.th/news/foreign/1589433
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2019
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาศึกษาเรื่อง เคล็ดการนอนหลับพันปี จากชาวจีนกันเถอะ

    (คนพักผ่อนน้อย ก็สุขภาพดีได้)


    การนอนหลับ เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะช่วยทำให้ระบบร่างกายของเราทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพียงช่วย ซ่ อ ม แ ซ ม เ ซ ล ล์ ผิ ว ห นั ง ห รื อ อ วั ย ว ะของเราที่ สึ ก ห ร อเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสมดุล ฮ อ ร์ โ ม น ของร่างกายอีกด้วย


    ท่านเคยมีประสบการณ์เหล่านี้หรือไม่?

    นอนหลับแล้วรู้สึกว่ามือเท้าเย็น หนาวสั่นที่หลัง นี่อาจเป็นเพราะว่าพลัง หยาง ในร่างกายคุณนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งตามหลักแพทย์จีนโบราณแล้ว อาการขาดหยางมากเกินไป อาจทำให้ส่วนของภูมิคุ้มกันในร่างกายเกิดอาการบกพร่องได้


    และคัมภีร์แพทย์แผนจีนโบราณหลายเล่มยังได้บันทึกไว้อีกด้วยว่า การนอนหลับพักผ่อนนั้นถือเป็น ย า บำรุงที่ดีที่สุด บางเล่มยังได้มีการบันทึกเอาอีกไว้ว่า ย า ร้อยชนิดก็ไม่สู้การนอนหลับพักผ่อน


    ในสภาวะที่ทำให้พลังหยางในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อกับ อ วั ย ว ะ ภายในอย่างสัมพันธ์กัน และถ้าหากคุณไม่ได้เข้านอนภายในระยะเวลาที่เหมาะสม คือช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี 1 อาจจะทำให้อาการ ป่ ว ย เดิมที่มีในร่างกายอยู่แล้วมีอาการ แ ย่ ลงได้


    ในสมัยโบราณแพทย์จึงมักจะปฏิเสธการรักษาแก่คน ไ ข้ ที่ น อ น หลับพักผ่อนมาไม่เพียงพอ เพราะนอกจะไม่หายแล้ว ยังเสียเวลาทั้งหมอและคนไข้เอง รวมถึงหมออาจเสียประวัติด้วย


    คนที่นอนดึกเป็นประจำมักจะมีอารมณ์แปรปรวน สายตาไม่ดี บางรายมีอาการของ โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า ร่วมด้วย บางคนอาจคิดว่าค่อยไปนอนกลางวันเอาในภายหลังก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วนั่นไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้นเลย


    วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการนอนโบราณที่สามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เหล่านี้ได้มาแนะนำ


    1. เพิ่มพลังหยาง


    คุณสามารถฝึกฝนนอนในท่านี้ได้ทุกวันก่อนเข้านอน โดยนอนราบไปกับพื้น แยกเข่าออก งอขา และนำฝ่าเท้ามาประกบกัน โดยเท้าทั้งสองข้างจะต้องอยู่กึ่งกลางของลำตัวพอดี ฝ่ามือทั้งสองวางแปะไว้บนท้องน้อย จากนั้นให้ฝึกลมหายใจเข้าออกด้วยขณะทำท่านี้ ให้หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก โดยควบคุมให้ลมหายใจเข้าไปในท้องน้อย ฝึกท่านี้ต่อเนื่องทุกวัน ครั้งละครึ่งชั่วโมง


    2. ผสานพลังหยวน


    หลังจากที่ฝึกนอนด้วยท่าแรกได้แล้วเป็นเวลา 1 เดือน ให้ฝึกฝนท่านอนนี้ต่อ โดยส่วนขาให้ทำท่าเหมือนกับท่าแรก แต่ต่างกันที่มือทั้งสองข้างนำมาประสานกัน และวางไว้บนศีรษะของตัวเอง


    สิ่งที่ควร ร ะ มั ด ร ะ วั ง ขณะนอนหลับ มีดังนี้

    1. หันหัวให้ถูกทิศทาง


    ศีรษะควรหันไปทางทิศเหนือ ส่วนปลายขาให้หันไปทางทิศใต้ เพื่อเป็นไปตามทิศทางของสนามแม่เหล็กโลก เพราะในขณะนอนหลับ สมองของเราจะได้รับคลื่นแม่เหล็กอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการนอนในทิศทางนี้จึงสามารถช่วยให้กระแสของคลื่นแม่เหล็กขนานไปกับร่างกายเรา และเกิดความสมดุลตามความเชื่อของแพทย์แผนจีน


    แต่ในไทยโบราณอาจมีความเชื่อว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ นอนผิดทิศทางอาจ โ ด น ผี ห ลอ ก ผี อำ แต่แท้จริงเป็นเพียงกุศโลบายเท่านั้น จริงๆ แล้วก็แค่อยากให้นอนหลับในทิศทางที่ถูกต้องกับธรรมชาตินั่นเอง


    2. ท่านอน ต้องถูกต้อง


    นอนตะแคงข้าง และขดตัวคล้ายกับรูปคันธนู ไปพร้อมกับหันหน้าไปทางขวามือ เพื่อจะช่วยให้หัวใจเราทำงานได้สะดวกขึ้น เพราะหัวใจจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระน้ำหนักตัวของทางฝั่งขวามากดทับ


    3. เวลาในกานนอนสำคัญมาก


    ควรนอนดึกตื่นเช้าในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงควรเข้านอนเร็วและตื่นเช้า ส่วนในฤดูหนาวควรเข้านอนเร็วและตื่นสาย ควรรักษาระยะเวลานอนให้ได้วันละ 8 ชั่วโมงทุกวัน และมากกว่านี้สำหรับผู้มีอาการ ป่ ว ย


    ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานกะดึกหรือเช้าก็ตาม ควรจะมีช่วงเวลาการนอนที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันและร่างกายของคุณ ระยะเวลาเข้านอนที่เหมาะสมตามตำราแพทย์แผนจีน คือ ตั้งแต่ 5 ทุ่มเป็นต้นไปจนถึงตี 1 และตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไปจนถึงบ่าย 1 โมง เพราะในช่วงเวลานี้จะเกิดอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงในร่างกาย จึงเหมาะสมที่สุดแก่การเข้านอน


    5. ห้องนอนของคุณ


    ในห้องนอน ไม่ควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือจำกัดให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันร่างกายได้รั คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อ ส ม อ ง และไม่ควรสวมใส่นาฬิกา ฟันปลอม หรือจับโทรศัพท์มือถือไว้ขณะนอนหลับด้วย


    ทั้ง 5 ข้อนี้ขอให้ทุกคนหมั่นทำตามเป็นประจำทุกวัน รับรองว่าสุขภาพจะดีขึ้นเรื่อยๆ มีพลังในการทำงาน มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ร่างกายสดชื่อตลอดเวลา เหมือนชาวจีนที่มีพลังในการทำงาน ค้าขาย เจริญรุ่งเรือง นั่นเอง


    เรียบเรียงโดย Cipata


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Santillana

    น้อยกว่าหนึ่งวันก่อนพายุไซโคลน vayu กระทบอินเดียและปากีสถาน

    ในอินเดียผลกระทบแรกของพายุไซโคลนนี้เกิดขึ้นแล้ว

    2019/12/06

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ch3ThailandNews

    มนุษย์เงินเดือนเดือดร้อนหนัก กระเป๋าแฟบ ค่าครองชีพสูง http://news.ch3thailand.com/economy/97054 #ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ch3ThailandNews

    อ่วม! ฝนตก น้ำท่วมฉับพลันดินถล่ม ทางตอนใต้ของจีน http://news.ch3thailand.com/abroad/97132 #ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ch3ThailandNews

    ขอนแก่น-สธ.ตรวจบัตรพลังงานแก้โรค http://news.ch3thailand.com/local/97129 #ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews #บัตรพลังงาน


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ch3ThailandNews

    ตั๊กแตนบุกเกาะซาร์ดิเนียของอิตาลี http://news.ch3thailand.com/abroad/97120 #ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ch3ThailandNews

    แม่ “น้ำตาล เดอะสตาร์” บอกคำพูดสุดท้ายของลูกสาว ก่อนสิ้นสติ


    news.ch3thailand.com/entertainment/97101

    #ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews #น้ำตาลบุตรศรัณย์ #น้ำตาลเดอะสตาร์ #หมวดรัน #ผู้กองเจ้าเสน่ห์


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_2922.JPG
    (Jun 12) ยักษ์ญี่ปุนหนีจีน พาเหรดกลับไทย : เทรดวอร์บีบ 1.3 หมื่นบริษัทญี่ปุ่นในจีน เร่งย้ายฐาน ไทยส้มหล่นค่ายยักษ์ใหญ่พาเหรดไหลเข้าทั้งพานาโซนิค โตชิบา ไดกิ้น ฟูจิตสึ ชาร์ป บีโอไอเผยยอด 3 เดือนแรกทุนซามูไรได้รับส่งเสริมอันดับ 1 กว่า 2.6 หมื่นล้าน สภาหอฯจี้รัฐบาลใหม่เร่งดันไทยเข้า CPTPP ทำเอฟทีเอกับอียู ดึงทุนแข่งเวียดนาม



    1.3 หมื่นบริษัทระส่ำ



    รายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เผยว่า จากผลการสำรวจของ Teikoku Data Bank ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นที่ไปลงทุนในจีน (ณ พฤษภาคม 2562) มีจำนวนรวม 13,685 บริษัท ในจำนวนนี้ เป็นบริษัทที่อยู่ในภาคการผลิต 5,695 บริษัท หรือสัดส่วนกว่า 41% โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งได้มีการโยกย้ายฐานการผลิตกลับไปยังญี่ปุ่น และไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ไทย ขณะที่ผลการสำรวจโดยเจโทร พบว่า สัดส่วน 68.6% ของบริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในจีน ใช้จีนเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกต่อ และ 31.4% ผลิตเพื่อจำหน่ายในจีน



    สำหรับการเตรียมรับมือจากผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ส่อเค้ายืดเยื้อและอาจเลวร้ายยิ่งขึ้น บริษัทญี่ปุ่นต่างวางแผนและบ้างก็เริ่มดำเนินการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนแล้ว โดยในส่วนที่ไทยได้อานิสงส์ เช่น บริษัท Panasonic ผู้ผลิตเครื่องเสียงสำหรับรถยนต์ ได้ย้ายฐานการผลิตส่วนหนึ่งมายังไทย และมาเลเซีย, บริษัท Toshiba Machinery ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกได้ย้ายฐานการผลิตมายังไทย และส่วนหนึ่งกลับไปยังญี่ปุ่น, บริษัท Daikin Industry ผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์สำหรับเครื่องทำความเย็น กำลังวางแผนจะย้ายฐานการผลิตมาไทย, บริษัท Fujitsu General ผลิตเครื่องปรับอากาศได้ย้ายฐานการผลิตส่วนหนึ่งจากจีนมาไทย และบริษัท Sharp มีแผนที่จะย้ายโรงงานผลิตเครื่องถ่ายเอกสารมายังไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ขณะที่อีกหลายบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาสถานที่เพื่อย้ายฐาน



    ฟูจิตสึเพิ่มผลิตในไทย20%



    นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องปรับอากาศรายใหญ่เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ฟูจิตสึ เจเนอรัลบริษัทแม่จากญี่ปุ่นได้ย้ายฐานการผลิตบางส่วน (ในบางรุ่น) มายังโรงงานในไทย จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตของบริษัทในปีนี้อีก 20% เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และอื่นๆ สำหรับในปี 2561 บริษัทมีการส่งออกเครื่องปรับอากาศประมาณ 2 ล้านเครื่อง มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งฐานผลิตในไทยสัดส่วน 95% เป็นการผลิตเพื่อส่งออก การขยายกำลังผลิตจะช่วยเพิ่มยอดขายมากขึ้น



    จี้รัฐบาลใหม่เร่ง2เอฟทีเอ



    นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติออกนอกจีน เป็นผลกระทบจากสงครามการค้าอย่างชัดเจน โดยในสินค้าที่เป็นไฮเทคโนโลยี ใช้คนน้อยและสามารถใช้หุ่นยนต์ (โรบอต) ในการผลิตแทนคนได้จะย้ายกลับไปผลิตที่ญี่ปุ่นมากขึ้น และบางส่วนจะย้ายไปลงทุนในสหรัฐฯเพื่อเลี่ยงผลกระทบ ซึ่งเวลานี้สหรัฐฯได้ให้สิทธิประโยชน์จูงใจด้านต่างๆ มาก ขณะที่อีกกลุ่มใหญ่จะย้ายฐานผลิตมายังกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งรวมทั้งไทย เพื่อใช้กฎถิ่นกำเนิดสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯทดแทนฐานผลิตในจีนที่ต้องเสียภาษีนำเข้าตลาดสหรัฐฯสูง



    "อาเซียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ทุนต่างชาติเช่น ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ ย้ายฐานจากจีนเข้ามา ทำให้หลายประเทศได้รับอานิสงส์ เช่น เวียดนาม ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ซึ่งเวียดนามและไทยได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ โดยเวียดนามมีสิทธิประโยชน์จูงใจที่ดี มีแรงงานจำนวนมาก ค่าจ้างไม่สูงนัก ส่วนไทยมีอีอีซีที่รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์มาก ที่น่าจับตาคือเมียนมาที่เวลานี้นิคมอุตสาหกรรมติลาวาที่พัฒนาและลงทุนโดยญี่ปุ่นได้แล้วเสร็จ ขณะนี้มีค่ายรถยนต์โตโยต้า และมาสด้ากำลังเข้าไปลงทุน"



    ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ไทยมานาน 40-50 ปี ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง เพราะรู้ดีว่าจะขยายการลงทุนตรงไหน อย่างไร ยิ่งไทยมีโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ยิ่งเป็นแรงจูงใจ ส่วนที่เป็นนักลงทุนรายใหม่จากญี่ปุ่นที่มีฐานในจีนจะพิจารณาไปลงทุนที่เวียดนามเป็นลำดับต้นๆ เพราะมีหลายปัจจัยที่เอื้อกว่า ทั้งสิทธิประโยชน์ แรงงาน ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในหลายกรอบที่มีผลบังคับใช้แล้ว และกำลังจะมีผลบังคับใช้ เช่น ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และ เอฟทีเอเวียดนาม-สหภาพ ยุโรป (อียู) เป็นต้น



    "เวลานี้ CPTPP และเอฟทีเอเวียดนาม-อียูเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนรายใหม่ของญี่ปุ่นตัดสินใจไปลงทุนในเวียดนาม ดังนั้นรัฐบาลใหม่ของไทยจะต้องเร่งผลักดันให้ไทยเข้าร่วม CPTPP และมีเอฟทีเอกับอียูโดยเร็วเพื่อเป็นแรงจูงใจเช่นกัน"



    จากข้อมูลของบีโอไอ เผยว่า ช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ญี่ปุ่นยังมีการลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมมากสุด 65 โครงการ มูลค่า 17,695.40 ล้านบาท


    Source: ฐานเศรษฐกิจ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan
    พายุทอร์นาโดที่น่าตื่นตาตื่นใจใน Devrekani, Kastamonu, ตุรกี, 11 มิถุนายน 2562
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,774
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    เที่ยวบินของ Alaska Airlines ทำการลงจอดฉุกเฉินที่ PDX พอร์ตแลนด์
    11June2019
    เที่ยวบิน Alaska Airlines มุ่งหน้าสู่ซีแอตเทิล จากซานฟรานซิสโก ทำการลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติพอร์ตแลนด์ ในคืนวันจันทร์
    บางครั้งในระหว่างเที่ยวบินมีการตรวจพบกลิ่นที่รุนแรงบนเรือและกัปตันตัดสินใจที่จะลงจอดที่ไม่ได้กำหนดไว้ในพอร์ตแลนด์ เพื่อหาสาเหตุของปัญหาโฆษกสายการบินกล่าว
    เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยและผู้โดยสารได้จองเที่ยวบินอื่นไปยังซีแอตเทิล
    ลูกเรือตรวจสอบแอร์บัสเพื่อพยายามหาสาเหตุของกลิ่น แต่ไม่พบข้อบ่งชี้ของไฟไหม้บนเครื่องบิน
     

แชร์หน้านี้

Loading...