ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 7) ปอนด์อ่อนค่า หลังแบงก์ชาติอังกฤษคงดอกเบี้ย,หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจ: ปอนด์อ่อนค่าเทียบดอลลาร์และยูโร หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีที่แล้ว ในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้

ณ เวลา 19.35 น.ตามเวลาไทย ปอนด์อ่อนค่า 0.37% สู่ระดับ 1.2884 ดอลลาร์ และปรับตัวลง 0.19% สู่ระดับ 0.8799 เทียบยูโร

BoE มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 50 วันก่อนถึงวันที่ 29 มี.ค.2562 ซึ่งอังกฤษจะต้องแยกตัวจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ BoE ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.2% จากเดิมที่ระดับ 1.7% และคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวต่อไปในปีนี้ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัย Brexit และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

"การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ชะลอลงในช่วงปลายปีที่แล้ว และได้อ่อนตัวต่อไปในช่วงต้นปีนี้" BoE ระบุ

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

*********************
แบงก์ชาติอังกฤษประกาศคงดอกเบี้ยตามคาด: ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Sterling drops as the Bank of England sees weakest outlook for the UK since 2009
https://www.cnbc.com/2019/02/07/ban...uIVVFru6OmaiDcQWYyzb_UyM1bdM7Es-HJVCssXuDFzMA

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 7) เวเนซุเอลาป่วน ไม่สะท้านน้ำมันโลก : นับจนถึงบัดนี้ ความปั่นป่วนทางการเมืองใน "เวเนซุเอลา" ดำเนินมาได้กว่า 2 สัปดาห์แล้ว หลัง "ฮวน ไกวโด" ผู้นำฝ่ายค้านของประเทศ ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีที่ ชอบธรรมของเวเนซุเอลา โดยอ้างว่า "นิโคลัส มาดูโร" ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2018 มาอย่างไม่ชอบธรรม ขณะที่นานาประเทศเริ่มออกมาประกาศรับรอง ไกวโดมากขึ้นเรื่อยๆ นำโดยสหรัฐ ตามด้วยชาติสมาชิกกลุ่ม ลิมา กรุ๊ป และยุโรป พร้อมกดดันให้มาดูโรยอมลาออกจากตำแหน่ง

และหนึ่งในแนวทางกดดันมาดูโรคือการใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเวเนซุเอลา โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA เพื่อหวังตัดรายได้รัฐบาลเวเนซุเอลาจากการขายน้ำมันให้ต่างชาติ

แม้การประกาศแซงก์ชั่นของสหรัฐปลุกความวิตกว่า ตลาดน้ำมันโลกเสี่ยงได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะเวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) แต่กรณีของเวเนซุเอลากลับดูจะไม่มีแนวโน้มเขย่าตลาดน้ำมันอย่างรุนแรงอย่าง ที่หลายฝ่ายกังวลกันเอาไว้

สำหรับสาเหตุแรกนั้นมาจากตัวเวเนซุเอลาเองไม่ได้เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่จะมีบทบาทต่อทิศทาง น้ำมันโลก

แม้ว่าการส่งออกน้ำมันถือเป็น รายได้หลักของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก แต่ปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะแทบจะล่มสลาย โดยในปัจจุบันการผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลาอยู่ที่ราว 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือน พ.ค. 2018 ลดลงมาเกือบครึ่งหนึ่งจากช่วงปี 1998 ซึ่งอยู่ที่ราว 3 ล้านบาร์เรล/วัน ตามรายงานของมาร์เก็ตวอตช์

ขณะที่รอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้เวเนซุเอลาผลิตน้ำมันอยู่ที่ราว 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ด้าน เฮลิมา ครอฟต์ หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลาอาจอยู่ที่ไม่ถึง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ด้วยซ้ำ

สำหรับสหรัฐนั้น แม้เวเนซุเอลา ถือเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบไปสหรัฐ รายใหญ่สุดอันดับ 5 แต่ปริมาณการ ส่งออกก็ลดลงมาอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 5.06 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน ต.ค. 2018 จาก 8.4 แสนบาร์เรล/วัน เมื่อปี 2015 ตามข้อมูลของสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐ (อีไอเอ) ห่างไกลจาก ผู้ส่งออกเบอร์ 1 อย่างแคนาดาที่กว่า 4.2 ล้านบาร์เรล/วัน

จากข้อมูลดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่สหรัฐเลือกใช้การแซงก์ชั่น บริษัทน้ำมันมาบีบมาดูโร เพราะดูจะได้ผลมากกว่า โดยมีคาดการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลเวเนซุเอลาเสียรายได้จากน้ำมันไปถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.43 แสนล้านบาท) จนถึงปีหน้า และยังถูกบล็อกการเข้าถึงทรัพย์สินมูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.18 แสนล้านบาท) ด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกันมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐเองก็ไม่ได้บีบคั้นรุนแรง เพราะจุดมุ่งหมายของสหรัฐคือการกดดันให้มาดูโรยอมสละอำนาจให้ ไกวโด การแซงก์ชั่นดังกล่าวจึงออกมาในรูปแบบ "การจำกัด" การซื้อขายน้ำมันมากกว่าจะเป็น "การสั่งห้าม เด็ดขาด" เห็นได้จากการเปิดเผยของ สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่ระบุว่า เอกชนสหรัฐยังสามารถซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาได้อยู่ แต่การจ่ายเงินต้องโอนเข้าสู่บัญชีที่สหรัฐบล็อกไม่ให้รัฐบาลเวเนซุเอลาเข้าถึงแล้วเท่านั้น

ด้านสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีรายงานว่ากำลังพิจารณาคว่ำบาตรเวเนซุเอลาเช่นกันนั้น รอยเตอร์สรายงานว่า มาตรการแซงก์ชั่นที่ว่าจะ ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมน้ำมัน แต่เน้นที่ตัวบุคคลมากกว่า

สำหรับผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลกนั้น นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยมองว่าการคว่ำบาตรเวเนซุเอลาจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมันในระยะสั้นมากกว่าจะเป็นปัจจัยฉุด เพราะจะช่วยลดภาวะปริมาณน้ำมันล้นตลาด ในขณะนี้

ด้วยเหตุนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าเวเนซุเอลาไม่ใช่ตัวแปรหลักที่จะ ส่งผลต่อตลาดน้ำมันโลก แต่เป็น "สหรัฐ" ต่างหาก

ในระยะสั้นนั้น การกลับมาเร่งกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มเชลออยล์ในสหรัฐ จะส่งผลต่อทิศทางราคา โดย เอ็ด มอร์ส นักวิเคราะห์จากธนาคารซิตี้ คาดการณ์ว่าหากราคาน้ำมันดิบเบรนต์ปรับขึ้นแตะ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล จะกระตุ้นให้เชลออยล์เพิ่มการลงทุนแท่นขุดเจาะน้ำมันมากขึ้น ซึ่งมอร์ส มองว่าราคาน้ำมันดิบเบรนต์มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่องไปอยู่ที่กว่า 60 ดอลลาร์/บาร์เรล และแตะ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 62.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคา น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอยู่ที่ 53.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ระหว่างการซื้อขายวานนี้

สำหรับในระยะยาว สหรัฐได้แซงรัสเซียและซาอุดิอาระเบียขึ้นเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันเบอร์ 1 ของโลกมาตั้งแต่ปี 2018 จากการกลับมาฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเชลออยล์ ซึ่งสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐ (อีไอเอ) คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 12 ล้านบาร์เรล/วัน

และภายในปี 2025 นั้นสหรัฐจะมีกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียรวมกัน โดยบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานไรสตัด คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะทะลุ 24 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นการประเมินบนฐานราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 58 ดอลลาร์/บาร์เรล

การผงาดของสหรัฐในตลาดน้ำมัน ทำให้ล่าสุดมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและชาติโอเปก กำลังหารือสร้าง "ความเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการ" กับกลุ่มนอกโอเปก 10 ชาติ นำโดยรัสเซีย เพื่อหวังเพิ่มอิทธิพลในการกำหนดทิศทางตลาดน้ำมันมากขึ้น

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ทางโอเปกหวังใช้ความเป็นหุ้นส่วนที่ว่ามาทดแทนข้อตกลงลดกำลังการผลิต เพื่อดันให้ราคาน้ำมันยังอยู่ที่ราว 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล และในการประชุมโอเปกที่จะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.นี้ ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียคาดว่าจะหารือกันเรื่องความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าว

ถึงวิกฤตการเมืองในเวเนซุเอลาจะน่าเป็นห่วง และยังไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลงโดยง่าย แต่สถานการณ์ ดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบทางลบต่อตลาดน้ำมันโลก อย่างน้อยก็ในระยะสั้นนี้

โดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์

Source: Posttoday

เพิ่มเติม
- Wild price swings may be the new normal for crude oil markets as US, Russia and Saudis vie for influence
https://www.cnbc.com/2019/02/05/wil...p6YG5dsBCi_x2PrJBTih2VkHmQdoMitMIgjKEpSHlUD78

ความคืบหน้า
- Venezuela crisis: US condemns Maduro for blocking critical point of entry for humanitarian aid : https://www.cnbc.com/2019/02/07/ven...YG4N02i4LiUjHqUnlbQGmjIzrE9UnlERzjt7laS5HQ4DE

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 7) นายกฯอังกฤษเจรจา Brexit กับผู้นำ EU ไร้ข้อสรุป เตรียมเจรจาใหม่ก่อนสิ้นเดือนนี้ : นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เข้าพบนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

อย่างไรก็ดี การหารือดังกล่าวไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด ขณะที่นายยุงเกอร์ย้ำว่า EU จะไม่มีการเจรจาต่อรองใหม่เกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ที่ได้ทำไว้กับอังกฤษก่อนหน้านี้

แถลงการณ์หลังการประชุมระบุว่า "การเจรจาเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่สร้างสรรค์ ขณะที่ EU จะยังคงดำเนินการร่วมกับอังกฤษต่อไปเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงการเผชิญกับภาวะ Brexit ที่ไร้ข้อตกลง"

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพบกันอีกครั้งก่อนสิ้นเดือนนี้

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Brexit: May and Juncker announce more talks to break deadlock: https://www.bbc.com/news/uk-politics-47152035

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 8) หวั่นเจรจาการค้าไม่คืบฉุดดาวโจนส์ร่วงกว่า200จุด : ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (7ก.พ.)ดิ่งลงกว่า 200 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 220.77 จุดหรือ 0.87 % ปิดที่ 25,169.53 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 25.56 จุดหรือ 0.94% ปิดที่ 2,706.05 จุดและดัชนีแนสแด็ก ร่วง 86.93 จุดหรือ 1.18% ปิดที่ 7,288.35 จุด

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีแนวโน้มอย่างมากที่จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันเส้นตายวันที่ 1 มี.ค. ที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดไว้สำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้า เนื่องจากมีเวลาน้อยเกินไปในการทำข้อตกลงกัน และปธน.ทรัมป์ยังต้องเตรียมการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในช่วงปลายเดือนนี้

ด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาคาดว่าผู้นำทั้งสองจะพบปะกัน แต่กำหนดเวลา และสถานที่จัดการประชุมยังคงไม่มีความแน่นอน พร้อมทั้งระบุว่า สหรัฐหวังที่จะมีการทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ยังคงมีงานต้องทำอีกมากก่อนที่จะสามารถบรรลุข้อตกลง

คำกล่าวของนายคุดโลว์สวนทางกับการแสดงความเห็นของนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งกล่าวว่า การเจรจาการค้ากับจีนให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่นายมนูชินกล่าวเสริมว่า ยังคงมีอีกหลากหลายประเด็นที่จะเจรจากันต่อไป

ขณะที่บริษัทจดทะเบียนรายงานผลประกอบการที่สดใสในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบรายปี แต่บริษัทเหล่านี้ คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่ซบเซาทำให้มีการคาดการณ์ว่า ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะลดลงมากกว่า 1% ในไตรมาสแรก ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงของผลกำไรรายไตรมาสเทียบรายปีเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

- Dow drops more than 200 points as Trump won't meet Xi before US-China trade deadline:
https://www.cnbc.com/2019/02/07/sto...PFeZLRsCOIxZXs0UK-SFV5ECG6pRCoKakVp_eBSZz9M2c

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 8) ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2019 ลงเหลือร้อยละ 1.2 จากที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.7 ถือเป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่การลงประชามติ Brexit : วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน BoE มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.75 และยังคงปริมาณการถือครอง sterling non-financial investment-grade corporate bond ที่ระดับ 10 พันล้านปอนด์ รวมถึงคงปริมาณการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่ระดับ 435 พันล้านปอนด์

สำหรับเศรษฐกิจโลก คณะกรรมการมองว่าโดยรวมยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก Financial condition ในตลาดเงินโลกที่ตึงตัวขึ้น รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าที่เริ่มส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงชะลอตัวในระยะต่อไป

ด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ คณะกรรมการมองว่า ชะลอตัวลงในช่วงปลายปี 2018 และส่งสัญญาณในช่วงต้นปี 2019 ว่ามีแนวโน้มจะชะลอตัวลงมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยลบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความไม่นอนจากกรณี Brexit ซึ่งปัจจัยความไม่แน่นอนดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนมากกว่าปกติในด้านข้อมูลทางเศรษฐกิจ และทำให้ไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้สภาพเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก

อย่างไรก็ตามคาดว่าข้อตกลง Brexit จะเกิดขึ้นได้ในท้ายที่สุด ประกอบกับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายจะยังคงส่งผลดีต่อการใช้จ่ายภายในประเทศในระยะต่อไป

ทั้งนี้คณะกรรมการได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2019 ลงเหลือร้อยละ 1.2 จากที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.7 ในการประมาณการเมื่อเดือน พ.ย. 2018 รวมถึงปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2020 ลงจากร้อยละ 1.7 เหลือร้อยละ 1.5 แต่ปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวในปี 2021 ขึ้นสู่ระดับร้อยละ 1.9 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.7 (การประมาณการทางเศรษฐกิจตั้งอยู่บนพื้นฐานว่า จะมีข้อตกลง Brexit ที่ส่งผลให้เกิด a smooth transition ทั้งนี้การปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจดังกล่าว เป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่การลงประชามติ Brexit และยังเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วง GFC)

ด้านอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศได้ปรับลดลงเหลือร้อยละ 2.1 ในช่วงเดือน ธ.ค. 2018 และคาดว่าจะปรับลดลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางในระยะใกล้ โดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อผลของราคาน้ำมันที่ลดลงหมดไป คณะกรรมการฯ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อเล็กน้อย

จากประมาณการทางเศรษฐกิจ คณะกรรมการฯ เห็นว่า การปรับนโยบายการเงินให้มีความตึงตัวอย่างจำกัดและค่อยเป็นค่อยไป มีความเหมาะสมเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อปรับเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ในอนาคต อย่างไรก็ตาม Brexit มีผลอย่างมากต่อประมาณการทางเศรษฐกิจ โดยนโยบายทางการเงินพร้อมที่จะรับมือกับผลของ Brexit ไม่ว่าการเจรจาจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม

Source: BOTSS

- Bank of England sees weakest outlook for the UK since 2009 amid Brexit uncertainty:
https://www.cnbc.com/2019/02/07/ban...IVmIbt7wj_5X4FrswIOVAfFH4owU8oosemc28b_Y6fAws

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 8) เฟดดัลลัสไม่เห็นด้วยกับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบในช่วงเศรษฐกิจถดถอย : นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส (Non–Voter) ให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือการชะลอตัวในอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในประเทศจีน อิตาลี และเยอรมนี รวมถึงระดับหนี้ของรัฐบาลที่เข้าใกล้จุดสิ้นสุดของ debt super–cycle พร้อมคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2 ในปี 2019 ปรับลดลงจากร้อยละ 3 ในปี 2018 เนื่องจากปราศจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเศรษฐกิจการคลัง ประกอบกับผลกระทบสะสมจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

นอกจากนี้ นาย Kaplan คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรรออย่างน้อย 1–2 ไตรมาส ก่อนพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งต่อไป เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่ชัดเจน ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ

อนึ่ง นาย Kaplan ไม่เห็นด้วยกับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (อ้างอิงจดหมายข่าวทางเศรษฐกิจ ที่เผยแพร่ในช่วงต้นสัปดาห์โดย Federal Reserve Bank of San Francisco) เนื่องจากมีแนวโน้มส่งผลเสียต่อตลาดการเงินอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะต่อบทบาทหน้าที่ของผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงิน

- Fed's Kaplan reiterates case for pause on rate hikes :
https://www.reuters.com/article/us-...HKVlHPvjUfKYc831zsFVWKDfpQCGyW5cGFegiPkVh4O18

 

น้ำมันร่วง$1กังวลอุปสงค์,ทองลง หุ้นสหรัฐฯปิดลบหลังยุโรปปรับลดคาดการณ์ศก. เผยแพร่: 8 ก.พ. 2562 05:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

มาร์เก็ตวอตช/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลงแรงในวันพฤหัสบดี(7ก.พ.) จากความกังวลอุปสงค์พลังงานและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ปัจจัยหลังนี้ฉุดทองคำปรับลดเช่นกัน ขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบ หลังยุโรปลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและคำเตือนเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างอเมริกากับจีน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี(7ก.พ.) เป็นผลจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปปรับลดประมาณการเติบโตของยูโรโซนและชาติเศรษฐกิจหลักของอียูลงทั้งในปี 2019 และ 2020 ซ้ำเติมความหวาดหวั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ขณะเดียวกันดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ยังฉุดให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(7ก.พ.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 1,314.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(7ก.พ.) ปิดลบหนักสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังยุโรปปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและคำเตือนว่าการเจรจาทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีนยังอยู่อีกยาวไกลกว่าจะได้บทสรุป

ดาวโจนส์ ลดลง 220.77 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,169.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 25.56 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,706.05 จุด แนสแดค ลดลง 86.93 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,288.35 จุด

ในขณะที่ข้อตกลงพักรบทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งเหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์ ทำเนียบขาวเตือนว่าการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงเหลือช่องว่างห่างไกลกันพอสมควร

มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของอเมริกา 200,000 ล้านดอลลาร์ จะเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 25% หากว่าสองฝ่ายไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ แนวโน้มที่สร้างความหวาดหวั่นแก่ตลาดทุน

แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จุดชนวนให้ตลาดห้นดิ่งลงหนักยิ่งขึ้น ด้วยบอกว่าการเจรจาทั้งสองประเทศยังคงเหลืออีกยาวไกล

ความเห็นดังกล่าวซ้ำเติมตลาดที่แกว่งตัวในแดนลบอยู่ก่อนแล้ว หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของอียูในปี 2019 ลงจากเดิม

https://mgronline.com/around/detail/9620000013654

 

SpringNews


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบรับเป็นแคนดิเดต "นายกรัฐมนตรี" พรรค #พลังประชารัฐ

#เลือกตั้ง62
#BeginAgainThailand

 

จงทรงพระเจริญ

SpringNews



เปิดชื่อแคนดิเดตนายกฯ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี" นั่งแคนดิเดตฯ หนึ่งเดียวของพรรค #ไทยรักษาชาติ

#ทรงพระสเลนเดอร์
#เลือกตั้ง62
#BeginAgainThailand

 

คงจะไปสนับสนุนใครไม่ได้ ยังไงก็คงขอสนับสนุน "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ" ถึงสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ผมจะรู้สึก....ยังไง

ด่วน! ทษช. เสนอชื่อ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ" แคนดิเดตนายกฯ
เผยแพร่: 8 กุมภาพันธ์ 2562 09:17 น. ปรับปรุง: 8 กุมภาพันธ์ 2562 09:44 น. โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจาก : REUTERS
MGR Online - พรรคไทยรักษาชาติยื่นเสนอรายชื่อ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี" เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต.

ช่วงเช้าวันนี้ (8 ก.พ.) เวลา 08.50น. ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นรายชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค โดยก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารพรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่าจะยื่นรายชื่อเพียงรายชื่อเดียว ท่ามกลางแพร่สะพัดว่ารายชื่อนายกฯ ที่ พรรค ทษช. จะเสนอนั้นเป็นบุคคลสำคัญนอกพรรค

ในเวลา 09.00น. ร.ท.ปรีชาพล ได้เข้าลงละเบียนเพื่อรับบัตรผ่านเข้าติดต่อกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยมีสื่อมวลชนคอยติดตามทำข่าวและถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก จากนั้นในเวลา 09.10น. ทางผู้บริหารพรรคไทยรักษาชาติได้แสดงรายชื่อที่ยื่นต่อ กกต.ให้สื่อมวลชนได้ชม ปรากฎนาม "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี"

ทั้งนี้ตามบทบัญญัติใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 88 ระบุว่า

ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เกินสามรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง และให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งประกาศรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบ และให้นําความในมาตรา 89 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม

พรรคการเมืองจะไม่เสนอรายชื่อบุคคลตามวรรคหนึ่งก็ได้

มาตรา 89
การเสนอชื่อบุคคลตามมาตรา 88 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) ต้องมีหนังสือยินยอมของบุคคลซึ่งได้รับการเสนอชื่อ โดยมีรายละเอียดตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด

(2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 160 และไม่เคยทำหนังสือยินยอมตาม (1) ให้พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งคราวนั้น

การเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น


ภาพจาก : REUTERS


ภาพจาก : REUTERS

http://news1live.com/detail.aspx?Ne...XB2AQ5g2oxGUx-10hQyrJ6fGFz9ombMwQFcswY9aIYMf4

 

John Traczyk

อีกสองเหตุการณ์วันนี้ ความเร็วมากกว่า 1000 กม. / s
Two more events today over 1000 km/s

[วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 07:31:05 น.ไทย (02/07/2019 เวลา 00:31:05 UT) ที่ความเร็ว 1381 km/s
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 04:54:43 น.ไทย (02/07/2019 เวลา 21:54:43 UT) ที่ความเร็ว 1,096 km/s]

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

บังกลาเทศเรียกพบทูตพม่าประท้วงเหตุรุนแรงทำผู้ลี้ภัยอพยพไม่หยุด
.
เอเอฟพี.8 ก.พ. - บังกลาเทศเรียกพบทูตพม่าเพื่อประท้วงสถานการณ์การหลั่งไหลระลอกใหม่ของผู้ลี้ภัยที่หลบหนีออกจากรัฐยะไข่ หลังการปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงและกลุ่มก่อความไม่สงบ
.
กระทรวงการต่างประเทศของบังกลาเทศได้เรียกพบทูตพม่าเมื่อค่ำวันอังคาร เพื่อประท้วงการอพยพของผู้ลี้ภัยจากรัฐยะไข่ หลังการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหารต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาในเดือนส.ค. 2560 ที่ทำให้ประชาชนมากกว่า 730,000 คน ต้องอพยพข้ามพรมแดน
.
ผู้อพยพชุดใหม่เป็นชาวพุทธยะไข่และชนเผ่าอื่นๆ ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ และไม่ได้ให้ตัวเลขผู้อพยพ
.
“จำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางคนมารอที่ชายแดนและอาจข้ามแดนเข้ามา เราขอให้พวกเขา (ทางการพม่า) ดำเนินมาตรการเร่งด่วนและมีประสิทธิภาพเพื่อยุติความรุนแรง” เจ้าหน้าที่ระบุ
.
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนบังกลาเทศกล่าวว่า ผู้ลี้ภัยข้ามแดนเข้ามาในเขตภูเขาที่อยู่ห่างไกลของเมืองบันดาร์บัน ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
.
บังกลาเทศต้องพยายามอย่างหนักที่จะรับมือกับชาวมุสลิมโรฮิงญา 740,000 คน ที่อพยพเข้ามาหลังเหตุการณ์ความรุนแรงในเดือนส.ค. 2560 ซึ่งเพิ่มเติมจากผู้ลี้ภัยราว 300,000 คน ที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศก่อนแล้วจากการหลบหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่ก่อนหน้านั้น
.
ในตอนนี้ ประชากรส่วนใหญ่ของรัฐยะไข่ ที่เป็นชาวพุทธ คือกลุ่มที่มีปัญหาขัดแย้งกับกองทัพ แม้พวกเขาจะช่วยกองกำลังทหารขับไล่ชาวโรฮิงญาเมื่อ 18 เดือนก่อนก็ตาม
.
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. กองทัพอาระกัน (AA) กลุ่มติดอาวุธเรียกร้องการปกครองตนเองเพื่อชาวยะไข่ ได้สังหารคนไป 13 ราย ในการโจมตีด่านชายแดนตำรวจ ขณะที่กองทัพกล่าวว่า คนของกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิตไป 13 รายในการโจมตีตอบโต้ ส่วนสหประชาชาติระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 5,200 คน ต้องพลัดถิ่นจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในโซนปิดล้อม
.
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มมิติความซับซ้อนให้กับปัญหาในรัฐยะไข่ ที่นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา รัฐแห่งนี้ประสบกับเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างชุมชนและศาสนา การอพยพของชาวโรฮิงญาจำนวนมาก และการสังหารที่เกิดขึ้นกับคนทั่วทุกกลุ่มชาติพันธุ์
.
การประท้วงของบังกลาเทศเกิดขึ้นหลังแอนเจลินา โจลี นักแสดงชื่อดังจากฮอลลีวู้ด กล่าวแถลงเมื่อวันอังคารว่า พม่าต้องแสดงความมุ่งมั่นที่แท้จริงในการยุติความรุนแรงที่ผลักดันให้โรฮิงญาอพยพเข้ามาในบังกลาเทศ ขณะที่สหประชาชาติกำลังเตรียมที่จะดำเนินการเรียกร้องการระดมทุนครั้งใหม่เป็นจำนวนเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อดูแลชาวโรฮิงญา.

 

Alerta Roja

พายุเข้าอย่างรุนแรง # Antalya ตุรกี ทำให้เกิดสึนามิ อากาศบนชายฝั่งของ #çıralı #วิดีโอ sévère wather ตุรกี

Tormenta golpea con fuerza las #Antalya Turquía provocando un tsunami Meteorológico en las costas de #çıralı #video severe wather turkey.

 

The Great Shift



กระแสเจ็ตสตรีมตอนใต้ของเส้นศูนย์สูตร
Jet Stream South Of The Equator

 

ฟังเหตุผล หัวหน้า ทษช. เสนอพระนาม 'ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ' เป็นนายกฯ เขียนวันที่ วันศุกร์ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10:32 น. เขียนโดย isranews

"...กรรมการบริหารพรรคเห็นพ้องต้องกันว่าทูลกระหม่อมฯเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นชื่อที่มีความเหมาะสมที่สุด จากนั้นจึงได้ติดต่อและประสาน โดยทูลกระหม่อมฯได้มีพระเมตตาตอบรับและยินยอมให้พวกเรา ทษช. เสนอชื่อท่าน เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบเป็นนายกฯในนาม ทษช. ในรายละเอียดคงไม่เหมาะสมที่เราจะไปพูดแทนท่าน ท่านทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ช่วยเหลือเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด หรือการที่พระองค์เป็นผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ท่านได้เดินทางทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เห็นถึงความเดือดร้อนและปัญหาของประชาชน วันนี้จึงถือว่าเป็นพระเมตา ที่ท่านได้เสียสละและเมตตาลงมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านให้เกียรติตอบรับเป็นบัญชีนายกฯของ ทษช. ..."



หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกรัฐมนตรีของ ทษช. ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ร.ท.ปรีชาพล ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคเห็นพ้องต้องกันว่าทูลกระหม่อมฯเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นชื่อที่มีความเหมาะสมที่สุด จากนั้นจึงได้ติดต่อและประสาน โดยทูลกระหม่อมฯได้มีพระเมตตาตอบรับและยินยอมให้พวกเรา ทษช. เสนอชื่อท่าน เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบเป็นนายกฯในนาม ทษช. ในรายละเอียดคงไม่เหมาะสมที่เราจะไปพูดแทนท่าน ท่านทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ช่วยเหลือเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด หรือการที่พระองค์เป็นผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ท่านได้เดินทางทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เห็นถึงความเดือดร้อนและปัญหาของประชาชน วันนี้จึงถือว่าเป็นพระเมตา ที่ท่านได้เสียสละและเมตตาลงมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านให้เกียรติตอบรับเป็นบัญชีนายกฯของ ทษช.

เมื่อถามว่า ท่านจะมาช่วยหาเสียงหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า พวกเรามีนโยบายและแผนงานหาเสียงอยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับท่านต้องรอให้มีพระเมตตา หลังจาก กกต.ได้พิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติบัญชีรายนายกฯอย่างเป็นทางการแล้ว จากนั้นจะได้แถลงอย่างเป็นทางการในรายละเอียดว่า ท่านจะได้มาช่วยหรือไม่อย่างไร

เมื่อถามว่าป้ายหาเสียงจะมีรูปท่านคู่กับผู้สมัครหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ตรงนี้เป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ถ้าบอกว่าเป็นรัฐบาลแห่งชาติก็คงไม่ใช่ เป็นเรื่องของการเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สิทธิใช้เสียง ทุกอย่างเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ทุกอย่าง

เมื่อถามว่า การเสนอชื่อดังกล่าวทำให้ ทษช.ได้เปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนจะพิจารณา ทุกพรรคมีสิทธิในการเสนอรายชื่อให้ประชาชนพิจารณา คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่พรรคทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน ไม่มีเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการชิงเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า อาจเร็วไปที่จะบอกว่าพรรคจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการลงคะแนนเสียงของประชาชน และจะต้องมีการหารือกับพรรคที่มีแนวคิดเดียวกัน ซึ่ง ทษช.มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า เราสนับสนุนเรื่องของประชาธิปไตยและทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจ ฉะนั้นคงได้มีการพูดคุยกันกับพรรคที่มีแนวคิดเดียวกันต่อไปหลังผลการเลือกตั้งออกมา ซึ่งเรายืนยันว่าจุดยืนของพรรคยังเป็นหลักการประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยเป็นสิ่งสวยงาม สามารถให้สิทธิเสรีภาพกับประชาชน และยังเป็นกุญแจนำไปสู่การพัฒนาและนำพี่น้องประชาชนไปสู่การกินดีอยู่ดี การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ประเทศไทยประสบปัญหามานาน สิ่งสำคัญที่สุดประชาธิปไตยเป็นกุญแจเบื้องต้นหรือบันไดขั้นแรก ที่เราต้องข้ามไปให้ได้ เพื่อนำไปสู่บันไดขั้นที่สูงขึ้นต่อ ๆ ไป เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า ทูลกระหม่อมฯ ให้เหตุผลในการตอบรับอย่างไร ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คงจะไปตอบแทนท่านไม่ได้ แต่คิดว่าพรรคเราเน้นในเรื่องความคิดทันสมัย การก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และเท่าที่เห็นท่านเป็นผู้ที่มีบุคลิกและแนวคิดซึ่งสอดคล้องกับ ทษช. และคิดว่าเป็นปัจจัยหนึ่งแต่ขออนุญาตที่จะไม่ก้าวล่วงไปพูดแทนท่าน

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสเรียกร้องให้พรรคเสนอชื่อผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเป็นแคนดิเดทนายกฯ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เราไม่ได้เป็นคนร่าง แต่ต้องเข้ามาเป็นผู้เล่นในกฎหมายที่เราไม่ได้ร่าง ฉะนั้นสิ่งที่เราดำเนินการยืนยันว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญทุกประการ เราเป็นฝ่ายประชาธิปไตยกฎกติกาเป็นอย่างไร เราพร้อมปฏิบัติตาม เมื่อผู้เกี่ยวข้องเสนอกฎหมายมาแบบนี้เราก็ยื่นและเสนอตามขั้นตอนทุกประการ

เมื่อถามว่ากฎหมายระบุห้ามนำสถาบันมาให้หาเสียงเลือกตั้ง ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เป็นหน้าที่ กกต.จะพิจารณา ทษช.หารือข้อกฎหมายแล้วไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคพิจารณาแล้วว่าบุคคลที่เสนอชื่อเป็นนายกฯไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันใช่หรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า พรรคพิจารณาไปตามรัฐธรรมนูญ หลังจากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของ กกต.

ทั้งนี้พรรคไทยรักษาชาติยังได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า พรรคไทยรักษาชาติรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับพระเมตตาจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ มหิดล ในการรับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรค โดยทูลกระหม่อมฯทรงจบการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา ทูลกระหม่อมฯได้ทรงใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน โดยการทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนในขณะที่พำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา และทรงได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 เมื่อกลับมาพำนักอยู่ที่ประเทศไทยก็ได้จัดตั้งโครงการ To Be Number One เพื่อจูงใจให้เยาวชนไทยห่างไกลยาเสพติด โดยเสด็จไปทั่วประเทศ จึงได้เห็นความทุกข์ยากของประชาชน และเป็นห่วงอยากมีส่วนได้ช่วยเหลือคนไทยหลุดพ้นจากความยากจน และมีอนาคตที่ดี ประกอบกับการที่ได้เป็นผู้แทนไปส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมากกว่า 10 ปี จึงทรงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะอาสาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อได้ช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ โดยใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาในด้านต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มที่

"ทูลกระหม่อมฯ มีพระประสงค์ที่จะสร้างความเจริญให้กับประเทศ และความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อให้ประเทศไทยทันสมัยทันโลก ยิ่งไปกว่านั้นคือ การสร้างความสามัคคีปรองดองให้กับคนในชาติ นโยบายต่างๆของทูลกระหม่อมฯพรรคไทยรักษาชาติ จะน้อมรับมาปฏิบัติอย่างเต็มกำลังความสามารถ" แถลงการณ์ ทษช. ระบุ


https://www.isranews.org/isranews/7...hTbtJ9TWYl2EUl_R_zDsAzrZzyci9uHJwepvknOY2YDA8

 

ย้อนอดีต ทูลกระหม่อมฯ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ 25 ก.ค. 2515 8 กุมภาพันธ์ 2019

ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 89 ตอนที่ 112 ฉบับพิเศษหน้า 1 ประกาศพระบรมราชโองการ เรื่อง ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ เนื้อหาระบุว่า

ด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร ว่า ได้ทรงพระดำริเห็นถ่องแท้ด้วยพระองค์เองแล้วว่า การดำรงฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ในฐานะสมเด็จเจ้าฟ้าเป็นกิจพิเศษ กอปรด้วยความรับผิดชอบอย่างสูงหลายด้าน ไม่ทรงสามารถจะปฏิบัติให้สมบูรณ์โดยตลอดได้

จึงขอพระราชทานกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และขอรับสนองพระเดชพระคุณในฐานะเป็นสามัญชน ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระราชทานพระบรมราชานุญาต จึงขออัญเชิญพระบรมราชโองการให้ทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 25 กรกฎาคม พุทธศักราช 2515

จอมพล ถนอม กิตติขจร

หัวหน้าคณะปฏิวัติ



ขอบคุณภาพ IG : @nichax


https://workpointnews.com/2019/02/08/ย้อนอดีต-ทูลกระหม่อมฯ-ลา/?fbclid=IwAR0JRqpzDp6-uebGL7O7UVVFYkgXxcQhNfJvj3cHgm_PQ2B7DBy6PlLy2O8

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว พร้อมไฝว์!!! ไม่กี่นาทีหลังพรรค#ไทยรักษาชาติ เปิดตัวทูลกระหม่อมฯแคนดิเดตนายกฯ #บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ได้ออกแถลงการณ์ด่วน#ประกาศสู้ศึกเลือกตั้ง
-------------------------------
Source : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2186637
Photo : www.voicetv.co.th

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

เตือนป่ามาเลเซีย กำลังจะหมดเพื่อปลูกทุเรียนขายจีน
.
มาเลเซีย 8 ก.พ.- นักสิ่งแวดล้อมเตือนว่า กระแสนิยมบริโภคทุเรียนของชาวจีนกำลังทำให้เกิดการหักล้างถางป่าครั้งใหม่ขึ้นในมาเลเซียเพื่อเตรียมพื้นที่ปลูกทุเรียน หลังจากที่เคยมีการถางป่าเพื่อปลูกต้นปาล์มน้ำมันมาแล้ว
.
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์ของสิงคโปร์รายงานอ้างเปกา (PEKA) กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในมาเลเซียว่า เขตราอุบ ทางตอนกลางของประเทศที่เคยอุดมไปด้วยผืนป่า พื้นที่จำนวนมากถูกแผ้วถางเพื่อเตรียมปลูกทุเรียน โดยอยู่ถัดจากพื้นที่ป่าสงวนที่เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์และนกหายาก เปกาอ้างว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแปลงสถานะที่ดินป่าสงวนให้สามารถตัดไม้ได้
.
เกษตรกรในมาเลเซียที่เคยทำปาล์มน้ำมันเปลี่ยนมาทำสวนทุเรียนพราะราคาน้ำมันปาล์มตกต่อเนื่อง หลายรายขยายกิจการจากสวนขนาดเล็กเป็นระดับโรงงาน ขณะที่รัฐบาลก็สนับสนุนให้ขยายกิจการหวังโกยรายได้ผู้บริโภคชาวจีน กระทรวงเกษตรมาเลเซียเผยว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปีก่อนส่งออกทุเรียนไปจีนมูลค่า 7.4 ล้านริงกิต (ราว 57 ล้านบาท) หรือกว่าสองเท่าของช่วงเดียวกันของปี 2560 ตั้งเป้าจะบรรลุข้อตกลงกับจีนในเดือนสิงหาคมเรื่องการส่งออกทุเรียนแช่แข็งทั้งลูก เพื่อเพิ่มการส่งออกและจะทำให้ผลผลิตทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 443,000 ตันภายในปี 2573 เพราะปัจจุบันมาเลเซียส่งออกได้เฉพาะเนื้อทุเรียนบดและทุเรียนกวนเท่านั้น
.
ผู้จัดการร้านขายทุเรียนแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งของจีนเผยว่า ลูกค้าชอบทุเรียนมาเลเซียมากกว่าทุเรียนไทย นักศึกษาหญิงคนหนึ่งบอกว่า ทุเรียนไทยกลิ่นแรงกว่า รับประทานไปสักพักก็เบื่อ ไม่เหมือนทุเรียนมาเลเซีย พันธุ์ที่คนนิยมมากที่สุดและมีราคาแพงคือ มูซางคิง มีเนื้อหนาสีเหลืองทอง.

 

มวลอากาศเย็นที่บันทึกด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าลบ 24 องศาเซลเซียส อยู่เหนือระดับความสูง 1,500 เมตรเหนือพื้นดิน ในพื้นที่ฮอกไกโด เผยแพร่ 8 กุมภาพันธ์ 2562

หอสังเกตการณ์สภาพอากาศในท้องถิ่นกล่าวว่ามวลอากาศเย็นที่บันทึก อุณหภูมิต่ำกว่า ลบ 24 องศาเซลเซียส กำลังอยู่เหนือระดับความสูงประมาณ 1,500 เมตรจากพื้นดิน ในพื้นที่ ฮอกไกโด

เมื่อเวลา 6 โมงเช้าของวันศุกร์เครื่องวัดอุณหภูมิ ได้แสดงอุณหภูมิ ลบ 18.1 องศาในเมือง Rikubetsu ลบ 16.4 องศาในเมือง Engaru และ ลบ 11.4 องศาในเมืองซัปโปโร
หอสังเกตการณ์สภาพอากาศบอกว่าอุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ประมาณ ลบ 10 องศา ในหลายส่วนของจังหวัด แม้ในช่วงกลางวัน

ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็น จะคงอยู่ต่อประมาณ หนึ่งสัปดาห์ เจ้าหน้าที่จะเตือนประชาชนให้ระวังการออกมาภายนอกอาคารและใช้มาตรการป้องกันท่อน้ำแช่แข็ง

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/...YNOsiPJXrkhW9XUrGUmttTYSNZHhnR2UQxFPzzRUh0oGg

 

Watchers


#ข่าวภัยพิบัติ
// ฝนตก-น้ำท่วมหนักในชิลีและเปรู เสียชีวิตราว10ราย //
08/02/19
ซานเตียโก - ฝนตกหนักและน้ำท่วมครั้งใหญ่ในชิลีและเปรูสัปดาห์นี้ ทำให้แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่งและชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้านเรือนที่มีน้ำท่วมขัง

พื้นที่ทางภาคเหนือของชิลีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกระแสน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัยขณะที่ฝนตกเริ่มบรรเทาลง ส่วนที่เปรูประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คนจากสาเหตุที่เกี่ยวเนื่องจากฝนตกหนักและอุทกภัย พื้นที่การเกษตรหลักของประเทศได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเกษตรกรท้องถิ่นซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพอากาศแปรปรวน รัฐบาลได้จัดสรรความช่วยเหลือกว่า 50 ตันให้กับผู้ประสบภัยแล้ว
เครดิต : mcot #Watchers