เรื่องเด่น ตำนานพ่อท่านโค๊ะ เทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งปักษ์ใต้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 23 มกราคม 2022.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    0b988e0b8ade0b897e0b988e0b8b2e0b899e0b982e0b884e0b98ae0b8b0-e0b980e0b897e0b89ee0b8b2e0b8a3e0b8b1.jpg

    พ่อท่านโค๊ะ คือ ชื่อหนึ่งที่ชาวปักษ์ใต้เรียก เจ้าสามีราม หรือสมเด็จเจ้าพระโคะท่านเดียวกันที่เราเรียกกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าหลวงปู่ทวด ในตอนนี้จะเน้นไปที่เรื่องเล่าอันเป็นตำนาน เมื่อครั้งพ่อท่านโค๊ะ หรือหลวงปู่ทวด เดินทางไปกรุงศรีอยุธยา

    เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ควรเกริ่นประวัติท่านให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน หลวงปู่ทวด ท่านเกิดและมีชีวิตอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาแต่ด้วยข้อมูลประวัติท่านเกี่ยวกับปีเกิดมีการคลาดเคลื่อนกัน จึงไม่สามารถระบุปีชัดๆ แต่บอกได้ว่าเป็นช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาถึงรัชสมัยของพระเจ้าทรงธรรมสถานที่เกิดคืออำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่อท่านเกิดท่านชื่อ ปูส่วนสถานที่ที่ท่านบรรพชาหรือบวรเณร คือกุฎีหลวง หรือวัดดีหลวง ท่านศึกษาความรู้การอักษร ที่สทิงพระ สงขลา ต่อมาท่านมาอุปสมบท หรือบวชเป็นพระที่นครศรีธรรมราช ได้รับฉายาว่า สามีราม คำว่า สามิ สามี หรือสวามี เป็นคำนำหน้านามนักบวชอินเดีย ไทยน่าจะเอาคำสามิ มาจากอินเดียคนปักษ์ใต้บางถิ่นใช้คำว่า สามี เลียนแบบชาวอินเดีย

    เมื่อท่านศึกษาหาความรู้ที่นครศรีธรรมราชจบครบถ้วนแล้ว ก็ถึงเวลาที่ท่านจะไปศึกษาเพิ่มที่ กรุงศรีอยุธยา และระหว่างท่านที่ท่านเดินทางเข้ากรุงศรีอยุธยานี่เองเป็นที่มาของอภินิหาร เหยียบน้ำทะเลจืด เมื่อเรือที่เดินทางมาติดพายุอยู่เจ็ดวัน นายสำเภาโทษว่าเป็นเพราะนำหลวงพ่อทวดมาด้วย ครั้นอยากจะดื่มกินน้ำจืด ท่านสามีราม ได้เอาเท้าจุ่มลงน้ำทะเลแล้วตักน้ำส่งให้เจ้าสำเภาดื่ม เกิดอัศจรรย์ น้ำกลายเป็นน้ำจืดจึงได้เชิญท่านเดินทางต่อไปจนถึงกรุงศรีอยุธยา

    ที่กรุงศรีอยุธยาท่านสามีรามได้ศึกษาวิชาต่อหลายสำนัก และได้แสดงความอัจฉริยะให้ปรากฎ เมื่อ มีการแข่งแก้ปริศนาธรรม ซึ่งท่านได้ได้แก้ปริศนาธรรมจนสำเร็จเป็นที่ยอมรับ ได้รับรางวัลเป็นสิ่งของเต็มลำสำเภา ตอนนี้เองท่านจึงได้รับสมณศักดิ์ เป็น พระราชมุณี (ซึ่งทางปักษ์ใต้จะเรียกว่า สมเด็จเจ้า ) ท่านยังตอบปริศนาธรรมชนะพราหมณ์ชาวสิงหลอีกด้วยเมื่อศึกษาความรู้จนเจนจบแล้ว ท่านจึงได้รับเชิญไปครองวัดพะโคะ หรือวัดพะโคที่เมืองพัทลุง เมื่อท่านอยู่ครองวัดนี้เป็นเวลาช้านานจนกาลเวลาผ่านไป ท่านจึงละสังขาร การละสังขารของท่านสามีรามนั้น ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าท่านละสังขารเมื่อใดมีแต่เรื่องเล่ากันมาว่า ท่านละสังขารในวันเพ็ญเดือนหก ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชาบ้างก็ว่า ท่านหายไปเองไม่มีใครพบท่านอีกเลยไม่มีใครเห็นกายสังขารของท่าน

    ยังมีตำนานที่เกี่ยวกับหลวงปู่ทวดอีกตำนานคือ ตำนาน “ท่านลังกา” ท่านลังกา คือ พระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติธรรมและเผยแพร่พระศาสนา ท่านจาริกเผยแผ่ศาสนาจากอำเภอหนองจิกไปจนถึงไทรบุรี มีศาสนิกชนเคารพนับถือ ท่านจำนวนมาก เมื่อท่านลังกามรณภาพที่เมืองไทรบุรี จึงนำศพท่านกลับมา ว่ากันว่าท่านลังกา คือหลวงปู่ทวด หรือสมเด็จเจ้าพะโคะที่วัดพะโคะเพราะมีผู้คนให้ความเคารพ และสร้างสถานที่รำลึกถึงท่านเพื่อทำการสักการะตลอดเส้นทางนำศพท่านกลับและเป็นหมุดสำคัญให้คนกราบไหว้มาจนทุกวันนี้

    ไม่ว่าท่านสามีราม หลวงปู่ทวด หรือท่านลังกา จะจากไปนานหลายสิบหลายร้อยปีแล้ว แต่ดูเหมือนท่านไม่เคยจากพุทธศาสนิกชนไปเลย ท่านยังเป็นที่รู้จักและเป็นที่เคารพพึงพิงในบารมีของท่านมาโดยตลอด คนที่เคารพท่านไม่ได้มีเฉพาะคนปักษ์ใต้ เป็นเป็นพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศที่ให้ความเคารพท่านดุจดังพระโพธิสัตว์ รูปเคารพของท่านปรากฎขึ้นทั่วประเทศ และมีเกือบหิ้งพระของทุกบ้านที่นับถือศาสนาพุทธ ไม่นับพระเครื่องอีกเป็นพันๆพมพ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแสดงความเคารพ จนคนเชื่อว่า มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดไว้ไม่มีอันตราย … โอมนะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ….

    ขอขอบคุณที่มา

    https://www.mcot.net/view/92yBJkfY
     

แชร์หน้านี้

Loading...