ตัวเลขระทึก!! เวียดนามมียูเรเนียม 2.3 แสนตัน

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>ภาพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชรโนบีล (Chernobyl) ในสาธารณรัฐยูเครนซึ่งเกิดอุบัติเหตุเมื่อกว่า 20 ปีก่อน เป็นภาพที่ยังคงหลอกหลอนฝ่ายการเมืองในเวียดนาม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรุงเทพฯ – เวียดนามเผยตัวเลขละลานตา ในประเทศมีแร่ยูเรเนียมตามธรรมชาติอยู่กว่า 2 แสนตัน เหลือเฟือผลิตยูเรเนียมบริสุทธิ์ป้อนโรงงานไฟฟ้าได้นานกว่า 20 ปี เข้าสู่ยุคโชติช่วงสว่างไสว หมดปัญหาไขขาดแคลน ฝ่ายสนับสนุนเตรียมทุกอย่างพร้อมสรรพ หลายชาติพร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โครงการโรงไฟฟ้าแห่งแรกรอแค่ฝ่ายการเมืองเปิดไฟเขียว

ข้อเสนอการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายในปี 2563 ได้ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ถึงแม้ว่าจะยังขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญ หรือโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมต่อไปยังภาคนิวเคลียร์ในประเทศก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชาวเวียดนามกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นความจริงได้ แม้จะต้องระดมทุนถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการสร้างโรงก็ตาม

กระทรวงอุตสาหกรรมได้ยื่นผลการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการก่อสร้างต่อนายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายฟานวันข่าย โดยเสนอแหล่งที่ตั้งเอาไว้ 2 แห่งในจังหวัดนิงทวน (Ninh Thuan) ทางชายฝั่งภาคใต้ของประเทศ ซึ่งหลายประเทศที่มีประสบการณ์ในภาคนิวเคลียร์ เช่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้แสดงความสนใจในการเข้าช่วยเหลือเวียดนามก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้

ความต้องการในตอนนี้ คือ การตัดสินใจของผู้นำระดับสูงเพียงเท่านั้น

"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างกำลังพยายามติดตามแผนดำเนินงานอยู่ แต่เราต้องการการตัดสินใจจากทางรัฐบาล แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องอนุมัติให้ดำเนินการโครงการ" นายเลวันห่ง (Le Van Hong) รองประธานคณะกรรมการพลังงานปรมาณูแห่งชาติกล่าว

ความปลอดภัยด้านพลังงานปรมาณู เป็นหนึ่งในความท้าทายที่เวียดนามจะต้องเผชิญ เศรษฐกิจของประเทศนี้มีอัตราเติบโตราว 7% ต่อปี ในช่วงหลายปีมานี้ มีความต้องการด้านพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม 15% ต่อปี และโครงการด้านพลังงานก็ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ


ตัวอย่างแร่ยูเรเนียม


แม้ว่าในเวียดนามจะมีแม่น้ำลำธารมากจนสามารถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้จนน่าพอใจ รวมกับจำนวนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่มีสำรองไว้ แต่พลังงานไฟฟ้ายังคงมีไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ในเวียดนามมี แร่ยูเรเนียมธรรมชาติราว 230,000 ตัน สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ได้อย่างน้อย 24 ปี ทั้งนี้เป็นรายงานของสถาบันเทคโนโลยีกัมมันตภาพรังสีเวียดนามเมื่อปี 2546

ในปี 2563 เวียดนามจะต้องการพลังงานไฟฟ้าราว 200-230 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี แต่จากทรัพยากรและแหล่งพลังงานที่มี สามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าได้เพียง 165 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปีเท่านั้น นายเจิ่นแท็งเลียน (Tran Thanh Lien) หัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์สถาบันพลังงานเวียดนามกล่าว

"ถ้าความมุ่งมั่นในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นเข้มแข็งมากพอ โครงการก่อสร้างน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2563" นายเลียนกล่าว

แต่การอภิปรายบนประเด็นดังกล่าว ก็กำลังลุกลามออกไปในหมู่นักวิทยาศาสตร์กับนักการเมืองของประเทศ ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี

"มีสัญญาณความคิดเห็นที่แตกต่างกันภายในเวียดนาม มากกว่าข้อดีที่จะได้รับจากอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์" นายคาร์ล เทเยอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวียดนาม ของสถาบันกองกำลังป้องกันดินแดน ออสเตรเลีย (Australian Defense Force Academy) กล่าว

"การคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์นั้น บางส่วนมาจากสมาชิกของชุมนุมนักวิทยาศาสตร์ ที่มีความคิดเห็นแตกต่างออกไปใน เนื่องจากความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย การฝึกฝนอบรมบุคคลากรให้เหมาะสม เงินทุน และสถานที่ทางภูมิศาสตร์" นายเทเยอร์ กล่าว

ความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินการของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ให้เรียบร้อยสมบูรณ์ มีมาตั้งแต่ครั้งที่ เกิดอุบัติเหตุที่โรงงานไฟฟ้าเชรโนบีล (Chernobyl) ในยูเครน ปี 1986 และความสงสัยในความปลอดภัยก็เพิ่มสูงมากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน เนื่องจากมีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมา ที่มิฮามะ ญี่ปุ่น ในเดือน ส.ค. 2547

"เห็นได้ชัดว่า ยังคงมีหลายคำถามที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย โดยเฉพาะเวียดนามนั้น มีบุคคลที่ได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมพร้อมที่จะเข้าดำเนินการในโรงไฟฟ้าได้หรือไม่" นายเหวียนหง็อกเจิ่ม รองประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของรัฐสภาเวียดนาม กล่าว

ศาสตราจารย์ฝ่ามซุยเฮียน (Pham Duy Hien) ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าด้านพลังงานปรมาณู ยังคงมีความข้องใจ

"แม้จะถึงปี 2560 เวียดนามจะยังคงไม่พร้อมสำหรับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ ประเทศเวียดนามยังขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ที่จำเป็น เช่นเดียวกับกฎหมายพื้นฐานที่จำเป็น สำหรับรับมือกับเหตุการณ์อุบัติเหตุทางปรมาณูที่อาจจะเกิดขึ้น"

การโต้แย้งที่ดุเดือด คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไปในรัฐสภาเวียดนาม โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะตัดสินใจในแผนก่อสร้างดังกล่าว หลังจากได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล

ฝรั่งเศสได้ให้ความช่วยเหลือในการร่างกฎหมายควบคุมดูแลพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งสามารถร่างได้เสร็จก่อนที่จะเริ่มมีการประชุมรัฐสภาในปี 2550 ทั้งนี้เป็นการรายงานของหนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์.

ที่มา @ ผู้จัดการ