ฆ่าโหดสาวใน มช.มัดศพติดต้นไม้ ผ้าผูกตา-รัดคอดูวงจรปิดล่าตัว

ฆ่าสยองขวัญแม่ค้าสาวขายกิฟท์ช็อปใน มช. พฤติกรรมสุดโหดจับเหยื่อมัดติดต้นไม้ ใช้ผ้าปิดตา เข็มขัดนิรภัยรถยนต์มัดมือ รัดคอขาดใจตายอย่างโหดเหี้ยม ตำรวจเชื่อคนร้ายแค้นผู้ตายอย่างรุนแรง
พร้อมขอดูเทปวิดีโอวงจรปิดเข้าออกมหาวิทยาลัย หลังพบเบาะแสรอยล้อรถ มั่นใจรู้ตัวภายใน 1 วัน ตั้งปมชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจ-คนโรคจิตตามฆ่า
เหตุการณ์ฆาตกรรมสยองขวัญหญิงสาวภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม พ.ต.ท.ธนวัตร ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ต.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุคนถูกฆาตกรรมบริเวณป่าละเมาะ ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุร่วมกับ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะริมถนน ด้านหลังปั๊มน้ำมัน ปตท. ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่พบศพหญิงสาวอายุประมาณ 23-28 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีม่วง-ดำ กางเกงยีน ผิวขาว ในสภาพถูกมัดกับต้นไม้ในท่ายืน โดยมีเสื้อแขนยาวสีฟ้าผูกตัวติดกับต้นไม้ ตาถูกมัดด้วยผ้าพันคอสีดำ ส่วนที่ข้อมือและคอถูกมัดด้วยสายเข็มขัดนิรภัยรถยนต์เส้นเดียวกัน โดยสภาพศพสร้างความสยดสยองแก่ตำรวจและผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร และไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือมีบาดแผลตามร่างกาย จึงนำศพส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบลักษณะและวิธีการฆาตกรรม เชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุจะต้องมีความโกรธแค้นผู้ตายอย่างรุนแรง โดยต้องการคาดคั้นเอาความจริงบางอย่าง จึงกล้าลงมือฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม และที่สำคัญเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยล้อรถยนต์ ซึ่งได้ให้ตำรวจวิทยาการเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบคดีเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และนักศึกษามาดูศพว่าเป็นนักศึกษาหรือไม่ พร้อมทั้งประสานขอดูเทปวิดีโอวงจรปิดของมหาวิทยาลัยที่ติดตั้งไว้ทุกจุดเส้นทางเข้า-ออก เพื่อหาเบาะแส โดยเฉพาะรถยนต์ต้องสงสัยที่วิ่งเข้ามา เนื่องจากเชือกที่นำมารัดคอและมือเป็นสายเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ทั้งนี้เบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ตายน่าจะเป็นคนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะเรียกประชุมตำรวจเพื่อเร่งคลี่คลายคดีต่อไป
ภายหลังเรียกประชุมทีมสืบสวน ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบหลักฐานและพยานยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เบญจพร ผ่องผิว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/6 ซอย 6 ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเป็นแม่ค้าร้านกิฟท์ช็อปหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจากการตรวจสอบพบรถยนต์ยี่ห้อไดฮัทสุ รุ่นมิร่า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บบ 5739 เชียงใหม่ จอดทิ้งไว้บริเวณหน้าตึกอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งภายในรถพบว่าเข็มขัดนิรภัยถูกตัดขาด นอกจากนี้ ยังพบเศษอิฐและเศษนาฬิกาตกอยู่ภายในรถ จึงสั่งให้ตำรวจสืบหาเจ้าของรถดังกล่าว จนกระทั่งทราบว่าเป็นของผู้ตาย โดยล่าสุดนางนิภา ผ่องผิว อายุ 53 ปี มารดา ได้มาดูรถและยืนยันว่าเป็นของบุตรสาว ซึ่งหายตัวไปเมื่อคืนวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ผบช.ภ.5 กล่าวอีกว่า สำหรับผลการตรวจชันสูตรพลิกศพแพทย์ยืนยันว่า เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ โดยบริเวณศีรษะมีรอยกระแทก และจากการตรวจสอบเศษอาหารในท้องคาดว่าเสียชีวิตเวลาประมาณ 02.00 น. ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตั้งไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ ชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจ และคนโรคจิต เนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี และประกอบอาชีพค้าขาย ขณะเดียวกันที่ผ่านมาพบว่าผู้ตายจะจอดรถทิ้งไว้ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นจะเดินมาขายของ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าอาจมีคนแอบชอบ และสะกดรอยตาม ก่อนลงมือก่อเหตุฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวต่อว่า ด้านการสอบสวนเบื้องต้นได้เรียกสอบพยานหลายรายมาสอบปากคำ เพื่อติดตามคนร้าย โดยเฉพาะแฟนหนุ่มของผู้ตาย นอกจากนี้ ตำรวจยังพบมีดคัตเตอร์ในรถยนต์ด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน

 

ในข่าวผู้ตายสวยมากเลย

คบผู้ชายหลายคนเลย (b-green)