คำทายที่ไม่ควรประมาท

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย lex30000, 13 กรกฎาคม 2010.

  1. lex30000

    lex30000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +30
    พระพุทธโฆษาจารย์ อยุธยา


    (
    เล่าเมื่อ 10 สิงหา 2517)
    วันหนึ่ง เห็นพระ 2 องค์ เป็นหลวงพ่อปานองค์หนึ่ง อีกองค์หนึ่งไม่รู้จัก แต่ก็คล้าย ๆ จะรู้จัก พอเข้ามาถึง ก็ถามท่านว่า หลวงพ่อเนียมใช่ไหม หลวงพ่อปานก็บอกว่า แกพูดถึงใครล่ะเมื่อตอนเย็น ตอบท่านว่า พูดถึง พระพุทธโฆษาจารย์ อยุธยา ท่านพุทธโฆษาจารย์ อยุธยา ท่านพยากรณ์เหตุการณ์ สมัยรัตนโกสินทร์ ไว้ 10 รัชกาล (รายละเอียดมีในหนังสือพระเมตตา 1 แล้ว)
    เมื่อองค์พยากรณ์ท่านมา ก็เลยนึกถึงเรื่องที่คุยกันมาว่า เวลานี้เราก็รู้แล้วว่า ทหารของไอ้พวกศัตรูมันเข้า มาตั้ง 6 กองพันแล้วในปีนี้ มันแทรกเข้ามา ไม่ได้ซึมหรอก มันเดินโทงๆ เข้ามาทีละคนสองคนไม่ได้ถือ อาวุธมาด้วย มาอย่างนักธุรกิจธรรมดา ทำเป็นชาวบ้านไปหาผักหาปลา ก็ไม่มีใครสนใจ
    วันนั้นที่เราผ่านไปทางลำปางนะ ฉันนั่งอยู่ก็มีคนย่องเข้ามาคุยบอกว่า ระหว่างทางที่ผ่านมาน่ะ ไอ้พวกฝ่าย ตรงกันข้ามอยู่กันเต็มเลย อยู่กันเป็นหย่อม ๆ เป็นจุด ๆ อยู่อย่างชาวบ้านธรรมดาอาศัย อยู่โดยการปลูก ผัก ปลูกหญ้า ฉันเลยกลัวจะเป็นอย่างลาว อย่างเขมร ท่านก็บอกว่า ไม่ถึงอย่างนั้นหรอก บารมีมัน 2 ชั้น คือ รัชกาลที่ 10 พระเจ้าลูกยาเธอเข้ามาด้วย
    พระพุทธโฆษาจารย์ อยุธยา ท่านทายถูกมา 9 รัชกาลแล้ว เหลืออีก 1 รัชกาล ถ้าผิดก็ซวย ท่านย้ำอีกว่า
    ตั้งแต่รัชกาลที่ 10 ไปแล้ว ฉันไม่พยากรณ์ เพราะเหตุการณ์เป็นปกติ แล้วจะรวยมาก ประเทศเราจะรวยมาก
    ฉันว่า ต่อไปรวยกว่าอเมริกา จะรวยกว่า หรือไม่รวยกว่า เรานึกเสียว่า เรารวยกว่าก็สิ้นเรื่อง แต่ท่านบอกว่าตั้งแต่ สมัยกลางรัชกาลที่ 10 ไป ประเทศเรา จะสมบูรณ์บริบูรณ์มาก คือว่า เวลานี้มันตก ถึงที่สุดแล้วนะ ไอ้คนที่ตกต้นไม้หล่นตุ้บลงมา โคนต้นมันหล่นต่อไปไม่ได้ มันก็ต้องไต่ขึ้นไปใช่ไหม อีตอนไต่ขึ้นนี่ คงฟัดกันแหลก แต่ท่านก็บอกไว้นานแล้วนะ ตั้งแต่ปี 13 ว่า พวกข้าศึกถ้าเคลื่อนที่เข้ามา ถึงสระบุรีเมื่อไรก็จบเกมกัน กวาดล้างได้หมด
    พระพุทธโฆษาจารย์องค์นี้น่ะ ท่าทางสง่าดีมาก อายุมาก ไม่รู้จะเปรียบกับใคร ท่าทางสง่าจริงๆ สมกับที่คิดว่า ท่านเป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ แต่โดยมากแล้ว พวกปฏิสัมภิทาญาณนี่ เขาไม่จ๋องนี่ ไม่จ๋องมาตั้งแต่อภิญญา 6 ไปแล้ว เขาไม่มีท่าทางจ๋อง ก้มหลังไม่ลง จะเล็กก็เล็กไม่ลง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว


    “​
    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว โลกจะมีอันตรายที่
    ร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมากนัก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกัน
    และกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะ
    ตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัย
    เหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก
    พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ถึง 5000ปี
    ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น
    ในเมื่อเห็นการสูญเสีย เห็นความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็น
    กุศลมากขึ้น เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชน ก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามาก
    ขึ้น เพราะกลัวตาย
    สำหรับท่านนักปฏิบัติ ที่เจริญกรรมฐาน ก็จะเร่งรัดตัวเอง กำลังใจก็จะมี
    สมาธิ ในที่สุดมโนมยิทธิ และ
    /หรือ อภิญญาก็จะเกิด ในเมื่อมโนมยิทธิ และ/หรือ
    อภิญญาเกิด ก็จะเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความเข้าใจที่
    ชัดเจน มีความสุข มีความปลอดภัย ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระ
    สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ให้ไว้ คือ

    1. ​
    ให้มีสังคหวัตุ 4 ได้แก่

    1.1 ​
    ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สร้างความรักเข้าไว้
    อย่าสร้างศัตรู

    1.2 ​
    ปิยวาจา อพูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุข เขาจะรักเรา เราก็มี
    ความสุข

    1.3 ​
    อัตถจริยา ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน

    1.4 ​
    สมานัตตตา ไม่ถือตัว ไม่ถือตน

    2. ​
    พรหมวิหาร 4 ได้แก่

    2.1 ​
    เมตตา ให้มีความรักความปรารถนาดีให้ผู้อื่นสัตว์อื่นมีความสุข

    2.2 ​
    กรุณา ความสงสารความปรารถนาดีให้ผู้อื่นสัตว์อื่นพ้นจากความทุกข์

    ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว​
    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    2 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    2.3 ​
    มุทิตา มีจิตอ่อนโยน เห็นใครได้ดีมีความสำเร็จ ก็ยินดีด้วย

    2.4 ​
    อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็น
    จริง
    ต้องไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงใน
    คุณพระรัตนตรัย
    3 ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า
    พุทโธก่อนจะหลับ ให้
    กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกคำว่า
    พุทหายใจออกนึกคำว่า

    “​
    โธและเวลาตื่นนอนใหม่ๆ ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้
    เมื่อไร ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า
    พุทโธเป็น
    ปกติ อย่างนี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตน ธรรมรัตน และสังฆรัตน
    ทั้ง
    3 ประการ
    จิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า จะทำจิตใจของ
    ท่านให้เยือกเย็น มีความสุข อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย ก็จะพ้นภัยด้วย
    อำนาจของพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ และ สังฆานุภาพ
    ถ้าจิตของเรา ไม่นิยมในขันธ์
    5 หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ
    วิญญาณ ตัวเราแท้จริง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราควบคุมไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ

    ไม่ให้ปวด ไม่ให้ตาย ไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง และ
    ในที่สุดก็แตกดับ เป็นสามัญญลักษณะ เราเบื่อกายสังขารแล้ว เราไม่ต้องการอีก
    แล้ว จิตเราขอเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น
    ท่านะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้ เช่น ทำการสวดมนต์ว่า
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ ​
    (3 จบ)

    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธัมมเจ้าเป็นที่พึ่ง
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆเจ้าเป็นที่พึ่ง จากนั้น ตาม
    ด้วยบท​
    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    3 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    อิติปิโส ภควา อรหังสัมมา​
    ....................................................................................​
    สวากขาโต ภควา​
    ..................................................................................................​
    สุปฏิปัญโน ภควา​
    ................................................................................................​
    แล้วก็ภาวนาว่า ​
    พุทโธก่อนจะหลับทุกคืน ให้กำหนดการเข้าออกของ
    ลมหายใจ หายใจเข้านึกคำว่า
    พุทหายใจออกนึกคำว่า โธและ เวลาตื่นนอน
    ใหม่ๆทุกวัน ให้ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไร ก็ทำใจให้
    นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า
    พุทโธเป็นปกติ ชีวิตท่าน
    จะรอดและปลอดภัย
    การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

    1. ​
    ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวง
    อาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์
    ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน

    2. ​
    เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม

    พฤศจิกายน​
    3. ​
    ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน)
    *
    ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริ
    ต่อกัน
    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    1. ​
    เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่

    2. ​
    พายุถล่ม

    3. ​
    แผ่นดินแยก และ แผ่นดินไหว

    4. ​
    ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก,

    อีกทั้งที่จังหวัด ราชบุรี น่าน แพร่ เป็นต้น​
    )
    5.
    คลื่นยักษ์จากทะเลจะซัดเข้าชายฝั่งอย่างรุนแรง

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    4 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    6. ​
    โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria สายพันธุ์ 2012 ,

    อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ​
    2012 ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน

    7. ​
    คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตของทุกคน ยังไม่เคยได้ยินเสียง
    ที่ดังขนาดนั้นมากก่อน

    8. ​
    อดอยากขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
    การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว

    1. ​
    เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6 เดือน

    2. ​
    เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน
    ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ จะมีหิมะ
    ตกในภาคเหนือ และ ภาคอิสาณ

    3. ​
    เครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

    4. ​
    ที่อยู่อาศัยที่มีความพร้อมที่ปลูกพืชเป็นอาหาร ปลูกสมุนไพรใช้ในการ
    รักษาโรค

    5. ​
    ยารักษาโรคประจำตัว และ ยาสามัญประจำบ้าน ที่ทำการผลิตไม่นาน
    ยังไม่หมดอายุ

    6. ​
    ด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต และ คาราไมล์ (จำเป็นมาก)

    ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต เพราะจะมีทั้ง
    เชื้อโรค และ สารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนัง ที่ดู
    เหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายคันได้อย่างน่าอัศจรรย์
    ในช่วงนั้น​
    7. ​
    ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ รองเท้ายางบู๊ท

    8. ​
    เครื่องช่วยชีวิตอื่นๆ

    9. ​
    สิ่งที่ให้ความสว่าง เช่น เทียน ตะเกียงเจ้าพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืด
    มิด
    7 วัน 7 ราตรี หรืออาจยาวนานถึง 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก เป็นเหตุให้มีคน
    ตายทั่วโลกถึง
    6,000 ล้านคน เพราะความหนาวเย็น และ ไม่มีอาหารให้กิน ไม่มีน้ำ
    ให้ดื่ม
    )
    10.
    เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะพลังจิตที่เข้มแข็ง ผู้ฝึก
    ปฏิบัติกรรมฐานที่ได้ฌานสมาบัติ หรือ ได้มโนมยิทธิ หรือ ได้อภิญญา จะอยู่รอด
    ได้ทุกคน จึงจำเป็นต้องฝึกกรรมฐานกันตั้งแต่วันนี้ และ เดี๋ยวนี้ เพื่อให้มีความ
    คล่องแคล่ว มีความชำนิชำนาญ ในการเข้า
    -ออก จากฌาน ได้ในทุกขณะจิต

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    5 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    การดุแลตัวเองในช่วงวิกฤติ​
    1. ​
    ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้าน ก็ห้ามเปิด ไม่
    ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิท หรือ คนที่เรารู้จักก็ตาม เพราะช่วงดังกล่าวมาร และ
    ซาตาน ปลอมแปลงออกล่าวิญญาณจองคนให้มาเป็นสาวก โดยมากันในหลาย
    รูปแบบ

    2. ​
    ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค และ สารเคมีที่มนุษย์
    สร้างขึ้น

    3. ​
    ห้ามลุยน้ำ หรือ แช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิม
    หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต ล้างทุกครั้ง

    4. ​
    ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3

    ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มา
    เยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา จำแลงมาก็เป็นได้
    และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด​
    5. ​
    ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด

    6. ​
    ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต

    7. ​
    ฝึกการกินน้อย ใช้น้อย ตั้งแต่ยังมีสิ่งของให้กิน ให้ใช้อย่างเหลือเฟือ

    8. ​
    อากาศในอนาคตนั้น จะหนาวเย็นจนปวดกระดูกแน่นอน

    9. ​
    ระวังสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษต่างๆ เช่น งูพิษ ตะขาบ แมงป่อง จระเข้
    เป็นต้น

    10. ​
    ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็น
    หน้ากลอง
    การเตรียมจิตวิญญาณ

    1. ​
    ชำระกรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน
    เพราะวันนั้น จะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่
    ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้น ต้องฝึกฝนการปล่อยวาง
    ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ค่อยๆปล่อยวางวันละเรื่อง สองเรื่อง พยายามทำจิตให้เป็น
    บวก จะช่วยได้มาก

    2. ​
    มีสำนึกทางจิตวิญญาณ

    3. ​
    ฝึกการละวางในสิ่งที่มิใช่อริยทรัพย์

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    6 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    4. ​
    ฝึกการมีสติรู้ตัวตลอดเวลา

    5. ​
    ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือ ผู้ที่เราล่วง
    ละเมิดแก่เรา
    การปฏิบัติตนในขณะเกิดมหันตภัย

    1. ​
    ได้ยินเสียงใด ให้ละวางสิ่งนั้น รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น ต้องไม่
    รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียง คนข้างบ้านร้อง เพราะกำลังจะตาย
    หรือ ได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วปล่อยผ่านเลยไป หากละวาง
    ไม่ได้จะเกิดอาการ
    ตายก่อนตาย” (มีความทุกข์ทรมานมากยิ่งกว่าตายไปแล้ว)
    2.
    ยอมรับให้ได้ ต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ต้องมีสติกำกับการคิด การ
    พูด และ การกระทำ ตลอดเวลา

    3. ​
    อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้มีความกลัวมากขึ้น ควรทำกรรมฐาน
    หากฝึกได้มโนมยิทธิ หรือ ได้อภิญญา หรือ ได้อารมณ์ที่เป็นฌาน สามารถไปพักที่
    สวรรค์ หรือ พรหมชั้นหนึ่งชั้นใดก่อนได้ ตนกว่า สถานการณ์คลี่คลาย หรือ หา
    กิจกรรมอื่นทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ เป็น
    ต้น

    4. ​
    สังเกตดูธรรมชาติ หรือ สัตว์ต่างๆ ซึ่งจะแสดงสัญชาตญาณ ให้เรา
    ทราบก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น
    ลางบอกเหตุก่อนเกิดมหันตภัย ครั้งใหญ่
    ท้องฟ้าจะมืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายให้เห็นมากผิดปกติ
    และดูหดหู่ สัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฏกายให้เห็นตามปกติ แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ใน
    บ้าน จะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนทุรนทุรายอย่างผิดปกติ หรือ บางตัวจะนอนนิ่งน้ำตา
    ซึม อย่างที่ท่านไม่เคยพบเห็นมาก่อน
    สำหรับวันเวลาที่แน่นอน นั้น ในขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจน แต่มีความ
    เป็นไปได้สูงว่า ไม่เกิดในปี
    2555 ก็จะเป็นปี 2560 ซึ่งถึงคราวที่จะต้องเป็นชะตา
    กรรมของสัตว์โลก ด้วยมหันตภัย ทางดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาด และ อุบัติภัย
    รวมทั้ง การทำศึกสงคราม
    สำหรับเมืองไทย ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียรรักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มี
    โอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงต้องไปตามวิถีกรรม

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    7 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    ของตนเอง ในยุคต่อไป อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาอาศัยไทย
    ประเทศไทย จักเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกในหลายๆเรื่อง จะเป็นศูนย์กลางของ
    พระพุทธศาสนาโลก
    ในปัจจุบัน ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ท่าน ได้ช่วยแก้ไขปัญหาเลวร้ายต่างๆ
    อยู่อย่างเงียบ ๆ ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรย ๆ ให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้น
    แล้วนั้น ​
    ดังบ่ดี ดีบ่ดัง

    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
    ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนด และยุคพระยา
    ธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในช่วงหลังกึ่งกลาง
    พุทธกาลไปแล้ว สัก ​
    60 ปี ก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมิกราชนั้นเข้ามา
    ใกล้ถึงปลายจมูกแล้ว ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำ หากเมื่อใดที่ผู้ที่
    เขาได้พรพระอินทร์ เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา ระบบที่เขาทำ
    หน้าที่ภายใน เขาก็จะทำงานตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้น จะเห็นคุณค่าของ
    ศีลธรรม ของศีล
    5 ศีล 8 ของบุญบารมีที่แต่ละท่านบำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ให้ลอง
    นึกถึงคลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่ทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็น
    เกาะแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวัน
    หายวับไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่ทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก
    หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่โก่งหลังหรือสะดุ้งเพียง
    เล็กหน่อย ลองจินตนาการดูว่า หากพวกนาคบางพวกมีหน้าที่ทำฤทธิ์ เพื่อล้างพวก
    ผู้มีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับอยู่ในยุคพระยาธรรมิกราชบนโลกนี้ ก็จะเหลือคน
    ไม่มากอย่างที่พระสูตรบอกไว้
    เหตุการณ์ต่างๆที่กล่าวมานั้น จะมีอยู่วันหนึ่ง ที่เหตุการณ์รุนแรงที่สุด
    คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาล จะกระแทกลงมายังโลก เป็นพลังงานที่เกิดจากลม
    พายุสุริยะอันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่
    11 มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้
    พบกันเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
    บรรยากาศช่วงแรกๆจะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล
    หลังจากนั้นไม่นานนัก ลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้าเสียงลมจะแผดเสียง
    กึกก้องดังที่สุด ตั้งแต่เกิดมา แต่ละคนยังไม่เคยได้ยิน เป็นเสียงของพญามัจจุราช
    ที่พิพากษาโลก ในด้านความเป็นมนุษย์ คนชั่วเกือบทุกคน จะถูกประหารชีวิต

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    8 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    และ จะตายอย่างทรมาน ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำทาง
    การเมือง ผู้นำลัทธิ ผู้นำทางศาสนา ที่จิตมืดมัว ฯลฯ ส่วนคนดีจะได้รับการ
    ยกเว้นเอาไว้ ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป
    ปลายปี ​
    2555 นี้ จะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะส่งผลให้มีคน
    ตายจำนวนมาก ส่วนผู้ที่รักษาศีล
    5 ขึ้นไป จะรอด และ อีก 5 ปีต่อไปน้ำจะท่วม
    เกือบทุกภาคของประเทศไทย และจะมีคลื่นยักษ์ มีความร้ายแรงกว่าสึนามิครั้ง
    ก่อน ผู้คนที่รอดชีวิตจะต้องเดินทางๆไปทางเหนือ หรือ อิสาณ เพื่อให้พ้นภัยโดย
    ระหว่างทางจะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก
    คนที่ไม่เคยเข้าวัด ก็ควรรีบเข้าวัดซะ ตอนนี้ก็ยังทัน รีบเร่งฝึก
    กรรมฐาน ให้มีลักษณะทรงตัว แต่ถ้าเป็นคนที่มีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดี เพราะไม่มีสิ่ง
    ใดจะช่วยเราได้ นอกจากมีกรรมฐาน และผู้ที่ปฏิบัติ จนได้มโนยิทธิ หรือ ได้
    อภิญญา ย่อมที่จะอยู่รอด และ ปลอดภัย
    หากท่านไม่แน่ใจว่า ตัวท่านมีความดีพอ ที่จะรอดพ้นจากมหันตภัย ครั้ง
    นี้ละก็ ขอให้ท่าน ตั้งใจที่จะเป็นคนดี คิดดี พูดดี และ กระทำแต่สิ่งที่ดีๆ นับแต่
    วีนนี้เป้นต้นไป เพื่อความดี จะช่วยรักษาตัวของท่านให้อยู่รอดปลอดภัยได้ ไม่
    เชื่อก็อย่าลบหลู่ จงอย่าประมาท ขอให้จงหมั่นทำสิ่งที่ดีๆไว้ก่อน ย่อมดีแน่
    ประเทศไทย เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
    รักษาไว้ ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลก และจะ
    เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป คนไทยที่รอดชีวิตใน
    ครั้งนี้ไปได้ จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงาม และมีอายุไขที่ยาวมากกว่าช่วง
    500

    ปีที่ผ่านมา จนน่าประหลาดใจ อารยธรรมจะสิ้นสุด และ จะกลับมีอารยธรรมที่
    จะเจริญก้าวหน้ามากกว่าเข้ามาแทนที่โดยเร็ว โดยเทคโนโลยีใหม่ จะไม่ก่อปัญหา
    ให้กับสิ่งแวดล้อมของโลกมาก เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้มนุษย์ยัง
    สามารถที่จะติดต่อสื่อสาร กับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้ ถึงแม้ในปัจจุบัน บางคนก็
    ไม่เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม
    ต่อไป ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก และ เป็นประเทศแรกที่ไป
    ท่องจักรวาลได้เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้มโนมยิทธิ และ อภิญญา ในการ
    ขับเคลื่อนกายทิพย์ในตน โดยไม่ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ให้เกิดพลังงานที่​
    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    9 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    ทำลายสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติของโลกให้เสียหายเหมือนอย่างเช่น
    ปัจจุบัน โดยผู้ที่ไปได้ จะมีทั้งไปเป็นหมู่คณะพร้อมกัน คณะใหญ่ คณะเล็ก และ
    ไปเดี่ยวๆ โดยผู้ที่ไปมาได้นั้น จะพูดสิ่งที่พบเห็นได้เหมือนกัน และ จะมากไปกว่า
    นั้น ก็คือ ในขณะกายหยาบก็ยังสื่อสารกับมนุษย์ได้ ในขณะที่กายละเอียดพูดคุย
    ไต่ถามเรื่องราวกับเทวดา หรือ พรหม หรือ แม้แต่สัตว์นรกก็ได้ สอบถามถึง
    กรรมที่ส่งผลให้เขาไปอุบัติบังเกิดเป็นเทวดา หรือ พรหม หรือ แม้แต่สัตว์นรก
    เพื่อตรวจสอบข้อมูลความจริงกับญาติพี่น้องในปัจจุบันว่า ญาติที่ตายไปแล้ว เขา
    กระทำเรื่องดังกล่าวใช่หรือไม่ อย่างไร หรือ ไต่ถามเรื่องลับเฉพาะที่รู้กันเป็นการ
    ส่วนตัวระหว่างญาติที่ตายไป กับ ญาติที่มีชีวิตในปัจจุบันก็ได้ เรื่องนี้ น่าจะเริ่ม
    ปรากฎให้เห็น ไม่เกินปี ​
    2555 เป็นต้นไป
    อนึ่ง ต่อมไพนีล หรือ บริเวณตาที่
    3 ของมนุษย์ หรือ จักระ 6 จะถูก
    ฟื้นฟูขึ้นมา ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่เกินปี
    2555 เป็นต้น
    ไป มนุษย์จะสามารถเข้าถึงวิชา มโนมยิทธิ และ อภิญญา ได้เป็นจำนวนมาก
    และจะมีมนุษย์จำนวนไม่น้อย ที่นิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในช่วง
    2,000 ปีที่ผ่านมา

    (​
    ในช่วงที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ใหม่ๆ และ ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมกับช่วง
    หลังจากที่พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน ประมาณ
    500 ปีแรกนั้น มีผู้ที่สำเร็จเป็น
    พระอรหันต์ มากกว่า ช่วง
    2,000 ปีหลังจากนั้นมาก โลกในช่วง 2,000 ปีหลังนี้ มี
    พระอรหันต์เหมือนกัน แต่น้อยกว่าช่วง
    500 ปีแรกที่มีพระพุทธศาสนา แต่หลังปี

    2555 ​
    ก็จะปรากฏมีพระอรหันต์มากขึ้น พร้อม พระอริยะสงฆ์ก็จะมีมากขึ้น
    รวมทั้ง จะปรกกฎองค์พระโพธิสัตว์อีกด้วย ซึ่งจะมาปลอบ กระตุ้น และ สร้างขวัญ
    กำลังใจให้กับมวลมนุษยชาติ ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจ ซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่าน
    ได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว มีทั้งสามเณรและพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ซึ่ง
    อยู่ในประเทศไทยนี่เอง
    พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดรู้แล้ว จงรีบบอกเล่าสู่
    กันฟัง หรือ พิมพ์แจกจ่ายตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยท่านให้หลุดพ้น
    จากภัยพิบัติได้ค่อนข้างมาก ถ้าบุคคลใดไม่เชื่อมั่น ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ย่อมจะเกิดความเดือดร้อน ใน ปี
    2560 ยามคืนเดือนหงาย จะเกิดมีงูพิษอยู่บน
    หัวกัดฉกให้ตาย และ ฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลายประการ เช่น จะได้รับ
    ความ

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    10 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    - ​
    ทุกข์ยากเดือดร้อน เพราะศึกสงคราม

    - ​
    ทุกข์ยากเดือดร้อน เพราะภัยจากน้ำและไฟ

    - ​
    ทุกข์ยากเดือดร้อน เพราะไม่มีใครดูแล

    - ​
    ทุกข์ยากเดือดร้อน เพราะอดข้าวปลาอาหาร

    - ​
    ทุกข์ยากเดือดร้อน เพราะโรคระบาดร้ายแรง

    - ​
    ทุกข์ยากเดือดร้อน เพราะดินฟ้าอากาศแปรปรวนหนาวจัด/ร้อนจัด
    ในปี พ
    .. 2560 ทุกๆขึ้น 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ใครตักน้ำ อาบน้ำ กินน้ำตาม
    ห้วยหนองคลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน พญายมราชจะนำเอายาพิษ มาใส่โลก
    มนุษย์
    สำหรับพระคาถาขององค์อินทร์ ที่ได้มอบให้ใช้ในการป้องกันมหันตภัย
    นั้น ไม่มีไว้ขาย ไม่ต้องมาบริจาคใดๆ ให้รักษาเก็บไว้ให้ดี เพื่อช่วยให้รอดพ้นจาก
    ภัยพิบัติ ในยามเกิดมหันตภัยในอนาคต พระคาถานั้น มีดังนี้

    “​
    ปะโต เมตัง ปะละชิมินัง สุขะโต จุตี เมตตะ นินะนัง สุขะโต จุติ

    พระคาถานี้ จะเขียนลงใส่แผ่นผ้าก็ได้ ให้ติดไว้บนประตูบ้าน หรือ ประตู
    ห้องนอน หรือ ในรถ ในเรือ หรือ พาหนะต่างๆ หรือ พันหัวไว้ในยามเกิดเหตุ
    มหันตภัยร้ายแรง ซึ่งผู้ที่จะรอดพ้นมหันตภัยนั้น จะต้องเป็นคนดีที่ทำความดีมา
    ก่อนด้วย พระคาถาดังกล่าว จึงจะมีผลานุภาพ จะช่วยให้รอดพ้นภัยอันตรายได้
    จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
    หรือ ให้ท่านท่องจนจำขึ้นใจ โดยเวลาท่อง จิตต้องจรดจ่อกับพระคาถา
    แต่ละคำ ห้ามท่องแบบนกแก้ว นกขุนทอง หรือ ท่องโดยไม่มีสติกำกับ จะไม่มีผล
    ในการคุ้มครอง ผู้ที่จะรอดพ้นมหันตภัยนั้น จิตต้องจรดจ่อกับพระคาถา แต่ละคำ
    พระคาถาดังกล่าว จึงจะมีผลานุภาพมาก จะช่วยให้รอดพ้นภัยอันตรายได้
    ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ เหล่าเทวดาผู้ที่คุ้มครองรักษาเหล่ามนุษยโลก​
    (​
    ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4) ได้ไปกราบทูลต่อพระอินทร์ว่า มนุษย์ในโลกทำกุศลผลบุญ

    (​
    ความดี) เพียง 3 ส่วนเท่านั้น แต่ทำบาปกรรม (ความชั่วร้าย) ถึง 7 ส่วน เมื่อเป็น

    บทความของ อ​
    .มงคล กริชติทายาวุธ เรื่องที่ 683...ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว

    หน้า ​
    11 จาก 11 มงคล กริชติทายาวุธ

    เช่นนี้พระอินทร์ จึงต้องลงโทษมนุษย์ในโลก ให้มี ​
    9 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้เกิดขึ้น
    ในปี
    2560 คือ

    - ​
    จะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไปทั่วโลก

    - ​
    จะมีสารพิษปนเปื้อนแพร่กระจายไปในอากาศ น้ำ และ อาหารต่างๆ

    - ​
    จะมีไฟไหม้ต่อเนื่องยาวนาน

    - ​
    จะมีโรคระบาดร้ายแรงสายพันธุ์ใหม่ต่างๆแพร่กระจายไปทั่วโลก

    - ​
    จะมีน้ำท่วมใหญ่ หลายเมือง หลายประเทศจมหายไปอย่างถาวร

    - ​
    จะมีความอดอยากยากแค้นไปทั่วโลก

    - ​
    จะมีฟ้าผ่าอย่างรุนแรง

    - ​
    จะมีการฆ่าฟันกันตายทั้งใน และ นอกประเทศจำนวนมหาศาล

    - ​
    จะมีอากาศร้อนจัดมาก หนาวจัดมากสลับกันในปีเดียวกัน ในประเทศ
    เดียวกัน
    ภัยทั้ง
    9 อย่างนี้ จะรอดพ้นเฉพาะคนที่มีความดีมากพอ คนที่ปฏิบัติตาม
    คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทราบแล้ว กรุณาบอกต่อกันไป ให้รีบเร่งทำแต่ความ
    ดีมากกว่าการทำบาปกรรมชั่วร้าย ถ้าผ่านปี
    2560 ไปแล้ว ทุกคนที่รอดตาย
    พร้อมลูกหลาน จะได้รับความสุขสบายกันถ้วนหน้า เวลาเหลือน้อยแล้ว ให้ทุก
    คนเคร่งครัดรักษา ศีล
    5 ให้ต่อเนื่องทุกวัน ให้ขยันไหว้พระ หมั่นภาวนา และ
    รู้จักการให้ทาน ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือคนและสัตว์ให้มีความสุข และ ให้พ้น
    จากความทุกข์ ไม่มีจิตใจในการอิจฉาริษยาผู้อื่น มีแต่ความยินดีที่ได้เห็นผู้อื่นได้ดี
    มีความสุข อย่างต่อเนื่อง ท่านจะอยู่รอดและปลอดภัยได้ในทุกสถานการณ์
    ขออำนวยพรให้ทุกท่านมีความสุขสงบ และ มีสันติในจิตใจ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น
    และ ผู้เบิกบาน ในกระแสธรรมของพระบรมศาสดาถ้วนทั่วทุกตัวคนเทอญ

     
  2. yommatood

    yommatood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +1,298
    อนุโมทนาสาธุ
    สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  3. มุมหนึ่ง▲

    มุมหนึ่ง▲ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +96
    ตายดีกว่า ....
     
  4. ไผ่มรกต

    ไผ่มรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เมื่อถึงคราวอับจนสิ่งใดเป็นที่พึ่งที่อาศัย
    จะขอกล่าวถึงท่านพระอาจารย์มั่น เมื่อครั้งท่านไปนั่งสมาธิที่เมืองลาว ที่นี้ก็เมื่อถึงตอนกลางคืน ท่านก็ไปนั่งอยู่ที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เพราะท่านเห็นว่าเป็นที่สงัด เงียบสงัดดีไกลผู้คน ใครไม่มารบกวน ถึงแม้ว่าจะมีเสือสางนางร้าย จะเข้ามาในที่นั่น แต่ท่านก็ไม่กลัว คือสละชีวิตแล้ว เดินธุดงองค์เดียว ก็ไปบำเพ็ญอยู่ที่นั่น ทีนี้พอตอนบ่าย ประมาณสักสองโมง ท่านก็นั่งสมาธิอยู่ พอนั่งสมาธิจนจิตใจเคลิ้มๆ หรือสงบลงหน่อยหนึ่ง ก็เห็นชีปะขาวหรือพ่อขาวแก่ๆ นุ่งขาวห่มขาวเป็นผู้ชายเดินเข้ามา นิมนต์ว่า หลวงพ่อขึ้นไปอยู่เชิงเขานู้นเถอะ เพราะว่าน้ำป่าจะมา จะมีอันตรายให้โยกย้าย ขึ้นไปอยู่บนเขานู้นเถอะ แล้วหลังจากนั้น พ่อขาวชีปะขาวก็หายไป ท่านผู้ฟังทั้งหลาย ท่านพระอาจารย์มั่นก็สงสัย เอ๊ะอะไรกัน มีคนมาบอก ว่าน้ำป่าจะมา ฝนจะตกใหญ่ ทีนี้ก็ลองถอยสมาธิออกมา ลืมตาออกมาดูทั่วๆ รอบๆ ฮืม! ยังเห็นเดือน ยังแจ่มแจ๋วอยู่ บนท้องฟ้าไม่มีเมฆหมอก ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง มันจะมีอะหยั๋ง ฝนที่ใหนจะมา น้ำที่ใหนจะมา มันจะมาจากทางใหน ถ้าฝนจะตกตามธรรมดา มันต้องตั้งเค้า ท้องฟ้าจะต้องมืดครึ้ม ทีนี้ท่านก็ไม่เชื่อ เพราะไม่เห็นจะมีอะไร แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ลองหยั่งดูด้วยญาณของเราเองดูก่อน อันนี้ก็คล้ายๆกับพระพุทธเจ้าของเรา ที่เทวดามาบอกอันนั้น มาบอกอันนี้ ท่านก็ไม่เชื่อ ต้องรู้ด้วยตนเอง จึงจะกระจ่างในความคิด ความเชื่อ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ คิดจะไปโปรดท่านอารามดาบส อุทกดาบส แล้วมีเทวดามาบอกว่าท่านตายแล้ว เมื่อวานนี้เอง พระพุทธเจ้าก็ยังไม่เชื่อ ก็เลยเข้าญาณของตัวเอง แล้วเห็นว่าเป็นจริงอย่างที่เทวดามาบอก ทีนี้ส่วนท่านอาจารย์มั่น ก็เข้าญาณดูว่าจะจริงหรือจะเท็จ ท่านก็ตรวจดูว่ามันจะเป็นอย่างไร จะจริงอย่างที่เทวดามาบอกจริงหรือ ท่านก็นั่งสมาธิจิตใจเข้าที่ ก็ปรากฎนิมิตรเห็นว่า ฝนเกิดขึ้นทางเหนือแล้วก็มีน้ำใหญ่มารุนแรงมากทีเดียว แต่ท่านก็ไม่คิดว่าเป็นความจริง ท่านคิดว่ามันยังอยู่ไกล ท่านพระอาจารย์มั่นก็ยังอิดๆออดๆ เพราะฮักอยู่ในทีนั้น มีความอิ่มใจ ก็นั่งทบทวนอยู่ในที่นั้นแม้เทวดามาบอกให้รีบไป แต่สักประเดี๋ยว ท่านก็เอะใจ เสียงอะไรอู้ๆ มาเหมือนกับหูจะแตก เหมือนกับมีรถไฟ ๓-๔ ขบวนมาชุมนุมกัน และท่านก็นึกทบทวนได้ว่า อ๋อนี่น้ำป่ามาแล้วนี่ พอนึกได้อย่างนั้น ว่าเป็นจริงตามที่เทวดามาบอก ก็รีบเก็บกลดบาตร อัฐบริขาร พอเก็บกลดเสร็จจะออกเดินเท่านั้นเอง น้ำป่าก็เข้ามาถึงตัวท่าน ก็ชนปั้ง!เข้าให้ เหมือนกับรถที่มาแรงๆ แล้วก็ชนท่านกระเด็นไปเลย เมื่อท่านกระเด็นไปแล้ว ก็ขาดสติไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่ออยู่บนก้อนผาสูงแห่งหนึ่ง ไปอยู่บนก้อนผาสูงแห่งหนึ่ง ท่านก็นึกทบทวนดูว่า เรามาอยู่บนนี่ได้อย่างไร น้ำป่ามาปะทะตัวเรา ชนกระเด็นไป แล้วเรามาอยู่บนโขดหินผาได้อย่างไร ท่านผู้ฟังทั้งหลาย ก็เป็นอันตัดสินรู้ได้ว่า เทวดาที่มาบอกเรานั่นเอง ท่านช่วยไว้ นี่ก็คือถึงเวลาอับถึงเวลาจน พุทธบริษัทคนไทยเรา ก็หั่นไปพึ่งเอาสิ่งที่เป็นวัตถุก็ดี วิญญาณก็ดี เทพเจ้าทั้งหลายก็ดี ก็มักจะหันไปเอาสิ่งเหล่านั้น มายึดเหนี่ยว เวลาเกิดภัยพิบัติขึ้นมา สิ่งที่มาใกล้ตัวเรา หรือสิ่งที่คนอันมากหลาย กล่าวกันบ่อยๆ พูดกันหนาหูว่าปีค.ศ.๑๙๙๙เขาทำนายกันว่าจะมีภัยพิบัติ เกิดขึ้นแก่โลก ความพินาศจะบังเกิดขึ้นแก่โลกมนุษย์เรานี้ คำทำนายที่ใช้กันทั่วไป ก็เป็นภัยที่มาจากนอกโลก ภัยพิบัติจะมาในรูปแบบใหน อันนี้ก็เล่าลือกันไปในแบบต่างๆ เป็นต้นว่าเมืองกรุงจะทรุด จะจมลงในแม่น้ำ หรือเมืองชายทะเลจะจมใต้น้ำหมด เมืองไทยถึงจะไม่จมไปหมด แต่บางส่วนก็ถูกภัยคุกคาม เช่นแผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด ก็พูดต่อๆกันไป ปากคนยาวกว่าปากกา ก็กลายเป็นข่าว ทีนี้พวกที่มีความรู้ก็ผสมผสานกันไป พวกที่มีความรู้เป็นต้นว่า นักดาราศาสตร์ นักโหราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ มาจนถึงมหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ชุมนุมกัน จนถึงกับพิมพ์หนังสือออกแจกจ่าย ถึงเรื่องการเตรียมตัวที่จะป้องกันภัย หาที่คุ้มครอง ภัยอันตรายที่จะมาถึง อันนี้ก็มาพูดถึงมนุษย์ต่างดาว เขาจะมาอย่างไรก็ไม่รู้ จะมาออกในทีวี เขาก็เชิญออกทีวีทั่วๆไป ก็มาเตือนถึงเรื่องภัยต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมานี้เหมือนกัน ว่ามันจะมีจะเกิดขึ้นในระยะที่กล่าวมานั้น ทีนี้จะเป็นจริงหรือไม่แค่ใหน ก็ย้อนมากล่าวถึงท่านหลวงปู่ธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่ธรรมเทพโลกอุดรนี้ ก็คนไทยเกือบครึ่งเมือง นับถือว่าเป็นพระอรหันต์ เป็นพระสำเร็จอภิญญา เป็นผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์ และผู้ที่ใกล้ชิดท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร ก็คือหลวงปู่หลุ่น ท่านอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง มีอะไรท่านก็ติดต่อกันได้ กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และท่านก็เคยพบกัน แล้วทีนี้สิ่งที่สำคัญ คือท่านว่าปากคนยาวกว่าปากกานั่นแหละ ดังที่ว่าโลกจะแตกจะเติกอะไรกันนั่น โลกมันไม่แตกอะไรหรอก ก็หลักสำคัญมันอยู่ในตัวคนเรานี้เอง และอีกประการหนึ่งก็คือบ้านเมืองในระยะนี้เศรษฐกิจมันจะพัง เศรษฐกิจจะพังแล้วคนเราจะยากจน จะผิดจะเถียงกันคนครัวเรือนเดียวกัน ก็จะแตกแยกเหินห่าง คนที่เคยอยู่ด้วยกันมีความสุขก็จะลาจากกัน ไอ้คนที่เคยรักกันก็จะแตกแยกกัน ผัวเมียก็จะทุบตีผิดเถียงกัน ไม่สมัครสมานสามัคคีกัน แต่ท่านเตือนไว้ว่า อย่างไรก็ดี ขอให้มีศีล ยึดมั่นในศีลในภาวนา ในคุณงามความดีทั้งมวล มันไม่เป็นอะไรหรอก และท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรสั่งมาทุกปี ให้สืบชะตา เมื่อถึงคราวอับจนขึ้นมา ก็ย่อมปลอดภัยเสมอ อย่างน้อยก็อยู่ดีมีสุข เมื่อมีข่าวขึ้นมา ท่านว่าความจริงแท้จะเป็นอย่างไร เราก็อย่าพึ่งไปเชื่อเสียทั้งหมด และก็อย่าไม่เชื่อเสียทั้งหมด แต่หลักสำคัญที่ท่านสอน ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ให้ตั้งอยู่ในคุณงามความดี ตั้งอยู่ในศีลภาวนาเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามถึงเวลา ฉุกเฉินขึ้นมาก็ย่อมจะถึงความสวัสดีทุกเมื่อ ขอยุติเนื้อความย่อๆลงแต่เพียงเท่านี้ ท่านพระคุณเจ้าดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต เทศนาไว้เมื่อ -วันพระที่ 1 ม.ค. พ.ศ. 2542 ขึ้น๑๕ค่ำ
     
  5. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ข้อความส่วนนี้ผมเขียนบันทึกไว้บนเวปเมื่อหลายปีก่อนครับ แต่ก็ไม่เป็นไร อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับบางท่าน

    "สำหรับเมืองไทย ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียรรักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงต้องไปตามวิถีกรรม
    ของตนเอง ในยุคต่อไป อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาอาศัยไทยประเทศไทย จักเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกในหลายๆเรื่อง จะเป็นศูนย์กลางของ พระพุทธศาสนาโลกในปัจจุบัน ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ท่าน ได้ช่วยแก้ไขปัญหาเลวร้ายต่างๆอยู่อย่างเงียบ ๆ ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรย ๆ ให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น
    ดังบ่ดี ดีบ่ดัง
    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนด และยุคพระยาธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในช่วงหลังกึ่งกลางพุทธกาลไปแล้ว สัก ​
    60 ปี ก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมิกราชนั้นเข้ามา
    ใกล้ถึงปลายจมูกแล้ว ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำ หากเมื่อใดที่ผู้ที่เขาได้พรพระอินทร์ เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา ระบบที่เขาทำหน้าที่ภายใน เขาก็จะทำงานตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้น จะเห็นคุณค่าของศีลธรรม ของศีล
    5 ศีล 8 ของบุญบารมีที่แต่ละท่านบำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ให้ลอง
    นึกถึงคลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่ทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวัน หายวับไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่ทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก
    หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่โก่งหลังหรือสะดุ้งเพียง เล็กหน่อย ลองจินตนาการดูว่า หากพวกนาคบางพวกมีหน้าที่ทำฤทธิ์ เพื่อล้างพวก ผู้มีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับอยู่ในยุคพระยาธรรมิกราชบนโลกนี้ ก็จะเหลือคน
    ไม่มากอย่างที่พระสูตรบอกไว้ "

     
  6. น้องมุกมีน

    น้องมุกมีน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +28
    ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวง
    อาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์
    ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน

    เมื่อต้นเดือนนี้ นาซ่า ได้พบว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายเร็วผิดปกติ
     
  7. ไผ่มรกต

    ไผ่มรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,896
    คนเราคือมนุษยทั้งหลายในโลกนี้ ส่วนมากก็เป็นคนประมาท ส่วนมากตกอยู่ในความประมาท ยิ่งชนชาวชมพูทวีปด้วยแล้ว ก็เป็นผู้มีความประมาทอย่างยิ่งทีเดียว คนในชมพูทวีปเป็นผู้ประมาท คือหมู่เราประเทศไทย หรือในภูมิภาคส่วนนี้คือเป็นชมพูทวีป ชมพูทวีปเป็นส่วนหนึ่งของโลก โลกเรานี้แบ่งส่วนออกเป็น 4 ส่วน หรือเรียกในทางธรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าเป็นทวีป คนในทวีปอื่นอีก 3 ทวีปเขามีอายุแน่นอน ส่วนในทวีปเราเขาเรียกว่าชมพูทวีป และมีพระพุทธเจ้ามาตรัส เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโลกนี้ก็มี พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในชมพูทวีป ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ คือคนในชมพูทวีป มีความประมาทมาก คือประมาทมากเป็นอย่างยิ่ง ทั้งมีอายุน้อย แล้วก็ยังเป็นผู้ตั้งอยู่ในความเป็นผู้ประมาท ถ้าจะกำหนดอายุของชาวชมพูทวีป นี้ท่านกำหนดว่า มีอายุเพียงแ่ค่ 75 ปี เท่านั้น แต่ก็ไม่แน่นอน กำหนดลงไปเป็นส่วนใหญ่ว่า คนในชมพูทวีปจะมีอายุเป็นกำหนด 75 ปี อายุขัยสิ้นอายุก็ประมาณ75 ปีเลยจากนั้นไป ก็เป็นคนมีอายุเหมือนกัน แต่เขาเรียกว่าเลยกำหนด เลยประมาณ ตามที่ได้กำหนดไว้ ในภูมิทั้ง3 หรือวัยทั้ง3 สำหรับท่านผู้รู้กำหนด วัยของมนุษย์ในชมพูทวีป ไว้เป็น 3 วัยคือปฐมวัย มัจฉิมวัย และปัจฉิมวัย ปฐมวัยคือวัยเเรก ท่านกำหนดไว้ 25 ปี วัยที่สองก็เท่ากัน วัยทีสามก็เท่ากัน จึงเป็น75 ปี ท่านกำหนดไว้เป็นอย่างนั้น ในชาวชมพูทวีปเรา มีอายุน้อยกว่าทวีปอื่นๆ ดังที่เคยได้กล่าวมาแล้วนั้น ทั้งนี้ความไม่แน่นอนก็ยังมีมาก ในสมัยปัจจุบัน และยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้แล้ว จะคิดว่าในอายุของเรา ผ่านไปถึงอายุ 75 ปี มันก็ไม่แน่นอนเลย สมัยนี้คนหนุ่มตายมาก คือตายในอายุไม่ถึง มัจฉิมวัย เนื่องจากกาลเวลาๆและกรรมที่กระทำในชาติก่อนๆ ให้มาประจวบกันในเวลานี้ มักไม่แน่นอน คือจะทำให้อายุจะสั้น และโรคภัยไข้เจ็บ ก็มาก อุบัติเหตุก็มีมาก จะมาในวันใหนในอายุ เท่าใด เวลาใด ไม่อาจรู้ได้เลย จะเป็นหญิง จะเป็นชาย จะเป็นชาวบ้านหรือเป็นภิกษุสามเณร หรือเป็นพระราชา มหากษัตริย์ฺ ก็ไม่อาจจะรู้ได้ คือหมายความว่า ไม่รู้วันตายแม้ถึงอย่างนี้ มนุษย์เรา ก็มีความเห็นเข้าข้างตัว คิดว่ายังไม่ตาย นี้คือความประมาท ของมนุษย์เรานี้ อาศรมไผ่มรกต
     

แชร์หน้านี้

Loading...