คำถามเกี่ยวกับการสร้างบารมี

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย มหาพรหมราชา, 16 พฤษภาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    ทุกๆท่านก็คงจะเคยศึกษาเกี่ยวกับพระชาติของพะพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่เคยสร้างพระบารมี ทั้งใน บารมีขั้นต้น บารมีขั้นกลาง บารมีขั้นสูง มาพอสมควรใช่มั้ยครับ ในบารมีทั้ง 30 ทัศ
    ซึ่งแบ่งเป็น ขั้นต้นอย้างละ 10 บำเพ็ญด้วย วัตถุสิ่งของ
    ขั้นกลางอย่างละ 10 บำเพ็ญด้วย อวัยวะ
    ขั้นสูงอย่างละ 10 บำเพ็ญด้วย ชีวิต
    เช่น บารมีข้อแรก คือ ทาน จัดเป็น 3 ระดับ คือ
    1.ทาน ขั้นตั้น ให้ วัตถุสิ่งของ
    2.ทาน ขั้นกลาง ให้ อวัยวะ
    3.ทาน ขั้นสูง ให้ ชีวิต
    ส่วนข้ออื่นๆ ก็ ลักษณะเดียวกัน แต่ละข้อมี 3 ระดับเช่นกัน
    =========================
    และ ผมอยากจะขอถามทุกท่านครับ ว่า
    1.จะทำอย่างไรจึงจะมีสุขคติตลอดไปในทุกๆชาติ ซึ่งพอจะเป็นไปได้
    2.จะทำอย่างไรจึงจะมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นตลอดทุกชาติ
    3.จะทำอย่างไรจึงจะรู้สึกต้องการสิ่งที่จะช่วยผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงแล้วนึกแสวงหาคือพระโพธิญาณ ได้ในทุกๆชาติ
    4.จะทำอย่างไรจึงจะตั้งมั่นในศีลทุกๆชาติที่เกิด
    5.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ยินดีและตั้งมั่นในการให้ทานในทุกๆชาติ
    6.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ไม่หลงผิดมีสติปัญญาตั้งอยู่ในหลักเหตุผลในทุกๆชาติ
    7.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้มีกำลังใจอันยิ่งในการส้างบารมีในทุกๆชาติ
    8.จะทำอย่างไรจึงจะทำในแต่ละข้อๆให้รวมลงในข้อหนึ่งๆได้
    9.เมื่อรวมหรือสงเคราะห์ข้อต่างๆเข้าเป็นข้อเดียว เพื่อกระทำข้อเดียว แต่ได้หลายๆข้อในเวลาเดียวกัน มีอะไรบ้างคับ ซึ่งเท่ากับเป็นการฝึกข้ออื่นๆ เจริญข้ออื่นๆไปด้วย
    +++
    คำถามเหลานี้ อาจแปลกไปหน่อยแต่ก็คงมีประโยชน์อยู่บ้างครับ ผมก็มีปัญญาไม่ละเอียดพอ ต้องรอท่านผู้รู้มาตอบหรือทุกท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายครับ ยิ่งหลายแง่คิดก็ยิ่งได้ความรู้ และเป็นธรรมทาน ซึ่งมีอานิสงส์มากด้วยครับ ขอ อนุโมทนา<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2013
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ข้อ 1 ถึงข้อ 9 รวมแล้วลงที่คำๆเดียวก็คือคำว่า

    ด้วยชีวิต

    จบข่าว อิอิ
     
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    นาบุญในการบำเพ็ญบารมี 30 ทัศที่ประเสริฐสุดคือ พระพุทธเจ้า

    ในสมัยพระสิริมัตตะพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตรยทรงเป็นกษัตริย์พระนามว่า พระเจ้าสังข์จักรจอมจักพรรดิ์แห่งนครอินทปัตต์ วันหนึ่งทรงทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาใกล้ๆเมืองอินทปัตต์ทรงดีพระทัยยิ่งจึงรีบเสด็จไปด้วยพระบาท เพียงแรกพบพระพุทธเจ้าก็ทรงสลบลงด้วยความปลื้มปิติ เมื่อฟื้นพระวรกายจึงตรัสว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า" และมิได้ตรัสอะไรได้อีกด้วยความยินดีพระทัย และพระองค์ขอสดับธรรมของพระพุทธเจ้าเพียงบทเดียวเพราะไม่มีสิ่งใดถวายบูชาพระธรรมเทศนา จึงทรงตัดพระเศียร (ศีรษะ) ด้วยพระนขา (เล็บ)ถวายเป็นพุทธบูชา และในยุคของพระโคตมพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตรยทรงเป็นพระสงฆ์สาวกของพระโคตมพุทธเจ้า พระนามว่าพระอชิตเถระ ครั้งหนึ่งทรงได้รับพุทธยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
     
  4. Attila 333

    Attila 333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +716
    ตราบใดที่เรายังต้องเกิด ยังอยู่ภายใต้กฏของไตรลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ย่อมหาความเที่ยงแท้แน่นอนอะไรไม่ได้ ยังครึ่งผีครึ่งคนอยู่โอกาสพลาดมีมาก ยกเว้นเสียแต่เราจะเข้าถึงไตรสรณคมณ์..........ทุกคำถามควรถามตัวเอง และตอบตัวเองครับ แล้วจะโดนใจตัวเองมากที่สุด
     
  5. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ

    1.จะทำอย่างไรจึงจะมีสุขคติตลอดไปในทุกๆชาติ ซึ่งพอจะเป็นไปได้

    ก็ต้องพยายามทำความดี เราต้องรักษาความดีเหมือนรักษาชีวิตเราเอง นี่คือความหมายของคำว่า "ด้วยชีวิต"

    2.จะทำอย่างไรจึงจะมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นตลอดทุกชาติ

    ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ถ้าถึงขนาดที่ยอมเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น อย่างนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอุปนิสัยติดตัวไปทุกภพทุกชาติ นี่คือความหมายของคำว่า "ด้วยชีวิต" ในข้อนี้

    3.จะทำอย่างไรจึงจะรู้สึกต้องการสิ่งที่จะช่วยผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงแล้วนึกแสวงหาคือพระโพธิญาณ ได้ในทุกๆชาติ

    คำตอบเดียวกับข้อ 3

    แต่ขออธิบายเพิ่มเติมว่า จริงๆเรื่องความมีเมตตาหรืออยากจะช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์นั้น ไม่จำเป็นต้องปรารถนาพระโพธิญาณก็ได้ เพียงแต่ผู้ปรารถนาโพธิญาณนั้น น่าจะปรารถนาเพิ่มเติมไปอีกว่าเราจะนำสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากวัฏสงสาร ซึ่งอาจจะเป็นข้อแตกต่างกับผู้ที่มีจิตเมตตาทั่วไป ที่ต้องการช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ แต่ไม่ถึงขนาดที่จะนำพาให้คนพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไปได้

    อย่างไรก็ตาม ในข้อนี้คนที่มีจิตเมตตากรุณาต่อคนอื่น โดยเห็นความสำคัญของชีวิตคนอื่นมากกว่าหรือเทียบเท่าชีวิตตัวเราเองแล้วไซร้ คนอย่างนี้นับว่าหาได้ยากยิ่ง นี่คือความหมายของคำว่า "ด้วยชีวิต" ในข้อนี้

    4.จะทำอย่างไรจึงจะตั้งมั่นในศีลทุกๆชาติที่เกิด
    ข้อนี้ก็ง่ายมาก รักษาศีลเท่ากับรักษาชีวิตไงครับ

    5.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ยินดีและตั้งมั่นในการให้ทานในทุกๆชาติ
    ข้อนี้ก็หมายถึงว่า ให้ทานจนไม่รู้จะให้อะไรแล้ว ก็เลยให้ชีวิตเป็นทาน หรือสามารถให้ชีวิตเป็นทานได้ นี่แหละคือความหมายของคำว่า "ด้วยชีวิต"

    6.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ไม่หลงผิดมีสติปัญญาตั้งอยู่ในหลักเหตุผลในทุกๆชาติ

    เคยได้ยินคำว่า หลงทางเสียเวลา หลงติดยาเสียอนาคตไหมครับ ? เอ๊ย ไม่ใช่

    ข้อนี้ก็หมายถึงว่า เราจะใช้สติปัญญาพิจารณาหรือตัดสินใจต่างๆด้วยเหตุด้วยผล ด้วยการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ด้วยการมองรอบด้าน ไม่มีอคติ

    พิจารณาด้วยความระมัดระวังเหมือนรักษาชีวิต เพราะเรารู้ว่า "เดินทางผิด คิดจนตัวตาย" บางเรื่องบางกรณี เราใช้อารมณ์ไปนิดนึง ก็เลยเสียใจจนกระทั่งวันตาย เหมือนกับตายทั้งเป็น เมื่อไม่อยากตายทั้งเป็น หรือเสียใจจนวันตาย ก็ต้องใช้เหตุใช้ผลด้วยความระมัดระวัง เหมือนกับรักษาชีวิต ยังไงยังงั้น

    นี่คือ ความหมายของข้อนี้ที่ว่า "ด้วยชีวิต"

    7.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้มีกำลังใจอันยื่งในการสร้างบารมีในทุกๆชาติ

    สิ่งที่มีค่าของเราก็คืออะไร ก็คือ "ชีวิต" ถูกมั้ย คนที่คิดฆ่าตัวตาย เพราะเห็นว่าชีวิตนี้ไม่มีค่าอีกต่อไปแล้ว หรือคนที่ฆ่าคนอื่น เพราะคิดว่าชีวิตคนอื่น ไม่มีคุณค่าเหมือนชีวิตเรา เพราะฉะนั้น หากเราแปรเปลี่ยนคำว่า "ด้วยชีวิต" อันนี้มาใช้ในการสร้างบารมี เรียกว่าเราจะสร้างบารมีแบบ "ถวายชีวิต" เลยวุ้ย อย่างนี้ก็จะมีกำลังใจอันใหญ่ยิ่งในการสร้างบารมี

    8.จะทำอย่างไรจึงจะทำในแต่ละข้อๆให้รวมลงในข้อหนึ่งๆได้
    คำตอบรวบยอดของข้อ 1 - 8 ก็คือ คำว่า "ด้วยชีวิต" คือทำ เพราะตระหนักในคุณค่าของสิ่งที่ทำ เทียบเท่าชีวิตของเราเอง

    9.เมื่อรวมหรือสงเคราะห์ข้อต่างๆเข้าเป็นข้อเดียว เพื่อกระทำข้อเดียว แต่ได้หลายๆข้อในเวลาเดียวกัน มีอะไรบ้าง

    คำว่า "ด้วยชีวิต" นี่แหละ ที่เป็นหลักสูงสุดในการสร้างบารมี 10 คือรวมแล้วเหลือเพียง 1

    และจาก 1 จะแตกเป็น 10 ในแต่ละข้อของการสร้างบารมีก็ได้ ไม่เชื่อก็ไปเพิ่มหรือต่อท้ายในบารมี 10 แต่ละข้อดูซิว่า เราจะทำ "ด้วยชีวิต"

    นั่นแหละจะทำให้ได้ความชัดขึ้น

    ;aa44
     
  6. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    มีคำตอบเดียวคือ "สติ" ครับ สติคุมได้ทุกอย่าง
    แม้จะไปสุคติภูมิ สติก็ยังคุมให้ไปได้...
    ดังนั้น ฝึกสติเถิด จะนำมาซึ่งกุศลทั้งปวง

    การที่โพธิสัตว์จะให้ด้วยชีวิตได้ ไม่ใช่เพียงบารมีข้อใดข้อหนึ่ง
    แต่กอปรด้วยบารมีทุกๆข้อ จึงทำให้สามารถให้ชีวิตได้...
    เหตุเพราะอุปาทานน้อย จึงไม่ยึดในตัวเรา-ของเรา จึงสามารถทำด้วยชีวิตได้

    ส่วนจะทำอย่างไรให้นึกแสวงพระโพธิญาณ ก็คือ "สติ" อย่างที่ตอบล่ะครับ
    แต่ว่าข้อนี้ไม่ต้องห่วงเลย ปรารถนาเป็นความรู้สึก ซึ่งความรู้สึกมันข้ามภพข้ามชาติครับ
    เคยได้ยินไหมครับ ว่า ความรู้สึกคือกรรมเก่า นั่นแหละครับ... มันฝังอยู่ในภวังคจิต
    ถ้าเสริมความมุ่งมั่น มันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆข้ามภพข้ามชาติ แต่บารมีอย่างหนึ่งที่ผมว่าสำคัญที่สุด คือ ปัญญาบารมี จะได้กำจัดเหตุแห่งความหลงทั้งปวง พูดไปพูดมาก็วนๆอยู่ที่"สติ"เนี่ยแหละครับ...
     
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    และ ผมอยากจะขอถามทุกท่านครับ ว่า

    คำถามเหลานี้ อาจแปลกไปหน่อยแต่ก็คงมีประโยชน์อยู่บ้างครับ อิอิ ผมก็มีปัญญาไม่ละเอียดพอ ต้องรอท่านผู้รู้มาตอบหรือทุกท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามสบายครับ ยิ่งหลายแง่คิดก็ยิ่งได้ความรู้ และเป็นธรรมทาน ซึ่งมีอานิสงส์มากด้วยครับ ขอ อนุโมทนา

    1.จะทำอย่างไรจึงจะมีสุขคติตลอดไปในทุกๆชาติ ซึ่งพอจะเป็นไปได้

    ตอบ ให้คบหาบัณฑิตทางธรรม หลีกเลี่ยงการคบคนพาล
    2.จะทำอย่างไรจึงจะมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นตลอดทุกชาติ

    ตอบ ให้เจริญเมตตาเจโตวิมุตติยา
    3.จะทำอย่างไรจึงจะรู้สึกต้องการสิ่งที่จะช่วยผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงแล้วนึกแสวงหาคือพระโพธิญาณ ได้ในทุกๆชาติ

    ตอบ ให้มองทุกข์ของสรรพสัตว์ เสมอด้วยทุกข์ของตน
    4.จะทำอย่างไรจึงจะตั้งมั่นในศีลทุกๆชาติที่เกิด
    ตอบ
    5.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ยินดีและตั้งมั่นในการให้ทานในทุกๆชาติ

    ตอบ ให้ละความตะหนี่ เมื่อทำอย่างนี้ได้ทุกๆชาติ ก็จะเป็นอุปนิสัย
    6.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ไม่หลงผิดมีสติปัญญาตั้งอยู่ในหลักเหตุผลในทุกๆชาติ

    ตอบ ให้ถือศีลห้าให้บริสุทธิ์ หมั่นเจริญจิตภาวนา
    7.จะทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้มีกำลังใจอันยื่งในการส้างบารมีในทุกๆชาติ

    ตอบ เมื่อถูกทดสอบ ให้สร้างกำลังใจให้กับตนเอง หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว เมื่อทำอย่างนี้ได้ทุกๆชาติ ก็จะเป็นอุปนิสัยติดตัวไปทุกๆชาติ
    8.จะทำอย่างไรจึงจะทำในแต่ละข้อๆให้รวมลงในข้อหนึ่งๆได้

    ตอบ เพียรสั่งสมบารมี สามสิบทัศ ให้เต็ม
    9.เมื่อรวมหรือสงเคราะห์ข้อต่างๆเข้าเป็นข้อเดียว เพื่อกระทำข้อเดียว แต่ได้
    หลายๆข้อในเวลาเดียวกัน มีอะไรบ้าง

    ตอบ พระโพธิญาณ
     
  8. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    สร้างบารมี เราทำอย่างหนึ่ง มันจะพ่วงอีกหลายๆอย่างไป ต้องขึ้นกับการฝึกจิต
    จิตเป็นตัวส่งครับ เช่น ทาน จิตมีความอดทน บวชจิต เพียร สัจจ เมตตา ตั้งใจตั้งมั่นกับการทำความดีหรืออธิษฐาน ศีล วางเฉย ปัญญา ครบนะ 30ทัต คือทำด้วยการปล่อยวาง และ เราอยู่กับการทำความดีเท่าชีวิต
     
  9. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    ผู้ใกล้พุทธ จะเข้าใจทุกอย่างด้วยตนเอง เพราะเขาเจอเรื่องเลวร้ายมาหลายต่อหลายชาติเศษเสี้ยวของความรู้สึกจะฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกลึกๆ ทำให้เจอเหตุการณ์ ต่างก็ตัดสินใจโดยอัตโนมัติ ว่าควรทำอย่างไร เสียสละอย่างไร สรุปคือพยายามทำมันไปทุกๆชาติจนกว่าจะฝังไว้ในกมลสันดาน scofield (prison break)
     
  10. สาว.ปีใหม่

    สาว.ปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +165
    ขอโมทนา สาธุกับท่านด้วย :cool:
     
  11. ekkapon.ch

    ekkapon.ch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +257



    ได้สดับรับฟังแล้วความปิติมันล้นขึ้นมา น้ำตาแห่งความปิติมันไหล ชิวิตนี้ขอมอบถวายแด่พระพุทธองค์ผู้เป็นบรมครูของสัตว์ทั้งปวง .....
     
  12. ไห่เบ้หยิง

    ไห่เบ้หยิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +89
    พุทธา พุธะ สัมมา อรหัง
     
  13. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    อันนี้ได้ยินได้ฟังมาครับจากท่านผู้รู้ที่ว่าไว้ การที่จะสร้างบารมีให้ตลอดรอดฝั่งได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อธิษฐานบารมี คือจะต้องอธิษฐานให้รอบคอบ ล้อมกรอบป้องกันไม่ให้เราเฉออกนอกเส้นทางการสร้างบารมี เช่นอธิษฐานอย่าให้ไปประกอบกรรมชั่วใดๆอีกเลย ให้สร้างแต่กุศลกรรม ให้มีศีลบริสุทธิ์ อย่าได้คบคนพาล ให้มีปัญญาสอนตนเองได้ เป็นสัมมาทิษฐิ อย่าได้หลงไหลในกามคุณทั้งหลาย อย่าได้ลืมมโนปณิธานของตนไปทุกภพทุกชาติ ให้ได้สร้างบารมีทั้ง 30 ทัศอย่างบริบูรณ์มีแต่รุดหน้าไม่ถอยกลับอีก เป็นต้น
    เมื่อทำบุญใดๆก็ให้อธิษฐานอย่างนี้ เมื่อทำบ่อยๆเข้าอธิษฐานบารมีก็จะกลายเป็นผังชีวิตติดตัวไปในภพเบื้องหน้า คอยกำกับความคิดคำพูดและการกระทำของเราให้อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง เวลาใดที่เผลอคิดจะทำบาปอกุศล ก็จะมีสำนึกลึกๆสอนตนเองได้ หรือมีเหตุการณ์ที่ยับยั้งไม่ให้ทำความชั่วสำเร็จ เมื่อความชั่วไม่ทำ ทำแต่ความดีอย่างเดียวก็เป็นอันปิดนรกไปได้อย่างสนิท คุณก็จะท่องเที่ยวสร้างบารมีอยู่แต่ในเทวโลกและมนุษยโลกไม่พลัดไปอบายเลย
     
  14. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    อยากคุยเพิ่มเติม แลกเปลี่ยนได้ 0847528441/029411853
    หนุ่ม
     
  15. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ขออนุโมทนาสาธุครับ...
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  16. Saksurat

    Saksurat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +529
    พอทำความดีในด้านใดก็ตาม อธิฐานจิต ไว้เพื่อให้จิตมีกำลังในด้านของความดีต่อไปครับ
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ที่คุณกล่าวมาทั้งหมดคือทศบารมี ซึ่งทุกคนบำเพ็ญกันอยู่แล้ว
    แต่ไม่รู้ตัว ทั้งทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะบารมี ขันติบารมี
    วิริยบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี ปัญญาบารมี สัจจบารมี
    และอธิษฐานบารมี แต่ที่บำเพ็ญกันอยู่โดยทั่วไปยังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น

    ต้องการบำเพ็ญให้ได้ในทุกชาติ สิ่งสำคัญคือกำลังใจที่หนักแน่นมั่นคง
    กำลังใจที่เกิดจากปัญญามองเห็นทุกข์ของการเวียนว่ายตายเกิด
    กำลังใจจะหนักแน่นมั่นคงได้ด้วยสัจจบารมีและอธิษฐานบารมี
    เพื่อมุ่งตรงพระโพธิญาณ
     
  18. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154



    อธิฐาน แปลว่าตั้งมั่น อธิฐานซ้ำๆ แปลว่าตอกย้ำ

    เริ่มจาก ทาน ศีล ภาวนา ทำไปเรื่อยๆ มากบ้าง น้อยบ้าง

    เดี๋ยวกำลังใจมากก็จะผลักดัน ให้เราเห็นสิ่งที่ควรทำในหลายๆอย่าง

    เอง มันเหมือนสั่งสมนิสัยค่อยเป็นค่อยไป catt14 จะเป็นนักยกน้ำหนัก

    เหรียญทอง โอลิมปิค ก็ต้องผ่านการยกขวดนมกันมาก่อนทั้งนั้น

    แต่ต้องทำถึงจะเข้าใจ. chearr
     

แชร์หน้านี้

Loading...