คณะทำงานพระเมรุพระพี่นางปลาบปลื้ม"ในหลวง"ทรงมีพระราชอารมณ์ขัน

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 24 ตุลาคม 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>คณะทำงานพระเมรุพระพี่นางปลาบปลื้ม"ในหลวง"ทรงมีพระราชอารมณ์ขัน
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>


    คณะทำงานฯพระเมรุพระพี่นางฯปลาบปลื้ม"ในหลวง"และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงมีพระราชอารมณ์ขัน เผย "นกทัณฑิมา"โลกาภิวัตน์สวมใส่นาฬิกา ขณะที่ประชาชนแห่ชมความงามถ่ายภาพกลางวัน-คืนรอบรั้ว งดให้บริการเข้าชมชั่วคราว เตรียมพร้อมพระราชพิธีฯ ด้านน.อ.อาวุธให้ความรู้สถาปัตย์-ศิลปกรรมพระเมรุ

    เมื่อวันที่ 24 ต.ค. น.อ. อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานออกแบบจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพิธี ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า ได้ถอดนั่งร้านออกจากอาคารพระเมรุแล้ว หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินพิธียกสัปตปฎลเศวตฉัตร และทรงประทับรถพระที่นั่งไฟฟ้าชมพระเมรุ ขึ้นลิฟท์ชมภายในทรงตรัสเกี่ยวกับพระจิตกาธานที่ตั้งพระโกศมีความกว้างดี ทรงพอพระทัยการสร้างพระเมรุ และไม่ได้ทรงรับสั่งอะไรเพิ่มเติม

    น.อ.อาวุธ กล่าวอีกว่า ได้มีผู้ตั้งข้อสังเกตที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประทับรถพระที่นั่งไฟฟ้าชมรอบพระเมรุ ตอนหนึ่งได้ถวายรายงาน ซึ่งจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร ทำให้ทุกพระองค์มีพระราชอารมณ์ขัน ได้สร้างความสุขกับผู้ที่เข้าเฝ้าฯ และประชาชนที่มารอรับเสด็จฯ เป็นอย่างมากที่เห็นพระราชอารมณ์ขันของพระองค์ ถึงตอนนี้ก็พยายามนึกอยู่ได้ถวายรายงานพระเมรุด้านใดไป ก็นึกไม่ออกจริงๆ แต่ก็ทำให้ทุกคนหายเหนื่อยกับงานสร้างพระเมรุ

    น.อ.อาวุธ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พระเมรุมีความสวยงามมาก รวมทั้งอาคารประกอบพิธี พระที่นั่งทรงธรรม ศาลาลูกขุน ทับเกษตร รั้วราชวัตร และได้นำไม้สวนไม้ดอกตบแต่งบริเวณสนามหญ้า ซึ่งคณะทำงานฯกรมศิลปากรของดการให้บริการเข้าชมพระเมรุไว้ชั่วคราว เพื่อเตรียมความพร้อมในวันพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพ วันที่ 14-19 พฤศจิกายน หลังจากเสร็จพระราชพิธีแล้วทำการเปิดให้ประชาชนเข้าชม อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถชมได้รอบแนวรั้วด้านนอก พบว่าให้ความสนใจถ่ายรูปพระเมรุเป็นจำนวนมากกลางวันและกลางคืน รวมทั้งให้ประชาชนที่เข้ามาชมพระเมรุได้รับความรู้เกี่ยวกับคติความเชื่อไตรภูมิพระร่วง มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ทั้งเป็นที่อยู่ของพรหมโลกเทพยดา

    นอ.อาวุธ กล่าวต่อไปว่า พระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีสถาปัตยกรรมไทยทรงปราสาท ลักษณะจตุมุขย่อมุมไม้สิบสอง แต่ละด้านของพระเมรุย่อสามมุม รวมสี่ด้านเป็นสิบสองมุม หน้าบันมุขอักษรพระนาม "กว." พื้นสีแดง สื่อวันพระประสูติ สีฟ้าของพระนามสื่อสีโปรดปราน ถัดขึ้นไปหน้าบันแถลง 5 ชั้น แต่ละชั้นเสมือนเทพยดาผู้รักษาโลก ชั้นแรกจตุโลกบาล เทวดาประจำ 4 ทิศโดยทิศตะวันตก "วิรูปักษ์" ทิศเหนือ "กุเวร" ทิศตะวันออก "ทตรฐ" ทิศใต้ "วิรุฬหก" ชั้นสองเป็นชั้นดาวดึงส์ มีพระอินทร์เป็นประธาน 4 ทิศ ชั้นที่สามเป็นชั้นดุสิต พระโพธิสัตว์ประทับ 4 ทิศ ชั้นที่สี่เป็นรูปพรหม 4 ทิศ และชั้นที่ห้าเป็นอรูปพรหม เป็นพรหมไม่มีรูป วางเปล่ามีแต่ดวงจิต โบราณเรียกพรหมลูกฟัก ถัดขึ้นไปเป็นเชิงบาตร 5 เชิงรับบัวคุ่มปลียอดมีลูกแก้วและเม็ดน้ำค้างสื่อความบริสุทธิ์ปลียอดสุดประดับสัปตปฎลเศวตฉัตรขาว 7 ชั้นพระเกียรติยศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สูงสุด

    ประธานออกแบบพระเมรุ กล่าวอีกว่า ศิลปกรรมพระเมรุเป็นจิตรกรรมลายไทยผนังภายในพระเมรุประดับลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายดอกแก้วกัลยาดอกไม้ในจินตนาการของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มอบให้กับผู้พิการฉากบังเพลิงบังเตาภาพวาดเทวดาถือเครื่องดนตรีสูง ทั้งสี่ด้านกั้นถวายพระเพลิงพระศพ ลายผนังด้านนอกอาคารพระเมรุมีผ้าทองย่นสีพื้นหลัก มีกระดาษสีฟ้าน้ำทะเล สีแดง สีเขียว สีม่วง เป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายลูกฟักปะกน ลายพุ่มก้านแย่ง ลายบัว ลายท้องไม้ เป็นต้น ทับซ้อนกลมกลืนกันอย่างลงตัวของจิตรกรรมไทยทำให้พระเมรุสง่างาม ที่ชานชาลาพระเมรุประดับเทวดานั่ง 22 องค์ถือบังแทรกและโคมประทีปแก้ว เทวดายืน 20 องค์ถือฉัตร บันไดทางขึ้นประดับสัตว์หิมพานต์ 3 คู่ 6 รูป กินนรีด้านทิศตะวันตกทางเสด็จฯ อัปสรสีหะรูปครึ่งคนครึ่งสิงห์ประดับทิศเหนือเชิญพระศพ นกทัณฑิมายืนถือกระบองคอยปก ป้องไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาทางด้านทิศใต้

    "ประชาชนที่เข้าชมพระเมรุ ถ้าสังเกตรูปปั้นเทวดาให้ดีแล้ว ใบหน้าแต่ละรูปและลายเครื่องแต่งองค์จะไม่เหมือน กันหมด ใบหน้าเทวดาบางรูปดูขึงขัง บางรูปใบหน้าหวาน เช่นเดียวกับสัตว์หิมพานต์แต่ละรูปมีลายสีและเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ที่ผมให้อิสระกับช่างปั้นและจิตรกรเสริมใส่ตามจินตนาการของตน "ถือเป็นการพัฒนางานประติมากรรม จิตรกรรมของไทยที่ไม่จำเป็นต้องยึดขนบมากนัก แต่คงกรอบรูปลักษณ์ไว้เหมือนที่สมัยก่อนจะมีการแต่งเติมให้สอดรับความนิยมในยุคนั้น บางรูปข้อมือสวมใส่กำไล อย่างคราวนี้นกทัณฑิมาข้อมือด้านซ้ายสวมใส่นาฬิกา อัปสรสีหะและกินนรีมีใบหน้าลูกครึ่งไทยฝรั่ง และแบบไทยๆ เป็นการจินตนาการของช่างไทยให้สอดรับความนิยมในยุคโลกาภิวัตน์" น.อ.อาวุธ กล่าว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ----------------------
    ที่มา:[​IMG]
    http://www.komchadluek.net/2008/10/24/x_edu_e001_227688.php?news_id=227688
     

แชร์หน้านี้

Loading...