ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    YouTube - ‪เพลง "ธงนำชีวิต"‬‏


    .....ท่านคือธงนำชีวิต ท่านคือหลักชัยให้เราก้าวตาม....
    .....สิ่งที่ท่านสอนสั่งไว้ ขอให้พวกเราทำตาม.....


    ท่านเหนื่อยแค่ไหน เพื่อให้พวกเรา .. สุขสบาย
     
  2. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ลำดับต่อไปจะขอนำเสนอบทขับเสภาตอนสมเด็จพระนเรศวรเสด็จยกทัพจะไปตีกรุงอังวะ โดยพล.ต.พิจิตร ขจรกล่ำ เจ้าเก่าของเราครับ บทนี้จะแบ่งเป็นตอนย่อยๆ หลายๆตอน จะทยอยนำเสนอเป็นลำดับๆไปตามความเหมาะสม ขอได้โปรดติดตามกันนะครับ


    ตอนยกทัพออกจากกรุงศรีอยุธยา
    (วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๑๔๗ แรม ๖ ค่ำเดือนยี่ ปีมะโรง)

    กรุงศรีอยุธยาราชธานี <WBR>สองน้องพี่เตรียมทัพไปสุดไกลพ้<WBR>น
    จัดเตรียมแผนตรวจดูทุกผู้คน <WBR>ทางสกลเชี่ยวชาญสู่ล้านนา
    เมื่อสองพันหนึ่งร้อยสี่สิบเจ็<WBR>ด พระเสด็จจากตำหนักไม่ชักช้า
    เรือลำเลียงเคียงยุทธไกลสุดตา <WBR>ทัพช้างม้างามสง่าช่างน่าดู
    อันกองทัพพระนเรศวิเศษนัก เห็นคึกคักอาวุธครบเตรียมรบสู้
    นั่นปืนไฟยิงเป็นดั่งเช่นครู แม่ทัพชูขึ้นฟ้าเหมือนท้าใคร
    ครั้นได้ฤกษ์เคลื่อนพหลโยธาหาญ แสนสำราญพร้อมสรรพเป็นทัพใหญ่
    จะเดินผ่านสู่แดนสุดแสนไกล <WBR>“อังวะ”ไซร้ไกลสุดคือจุดปลาย
    พระยาตราทัพใหญ่มากไพร่พล <WBR>ชื่นกมลสุขใจยังไม่หาย
    จะออกรบต้องสู้ลูกผู้ชาย <WBR>ถ้าไม่ตายเมื่อกลับมารับกัน
    แม้นมาตรว่าดับดิ้นถึงสิ้นชื่อ <WBR>นามระบือคนต้องยกย่องนั่น
    รู้หน้าที่ไม่อายชายฉกรรจ์ ส่วนแม่นั้นอวยพรให้ก่อนไป
    จงไปดีทำถูกแล้วลูกแม่ นักรบแท้เชี่ยวชาญกล้าหาญใช่
    ขอคุณพระคุ้มครองทั่วผองไทย <WBR>แม่ดีใจแม่รู้ลูกผู้ชาย
    พระยาท้ายน้ำกราบถวายรายงาน <WBR>พระสำราญทรงทราบลงกราบซ้าย
    เรือลอยลำเคลื่อนดีด้วยฝีพาย พระสบายอุราเพราะวาริน
    ตัดไม้ข่มนามที่ทุ่งลุมพลี เขาปรับที่ปูลาดพระบาทสิ้น
    ราชวัตรฉัตรธงปักลงดิน ภมรบินชื่นชมต้องลมดี
    เรือพระที่นั่งเทียบท่าพิธี <WBR>เสด็จที่หมายมุ่งเจ้ากรุงศรี
    แล้วประทับร่วมสองกับน้องพี่ <WBR>ได้ฤกษ์ดีพระราชทานพระแสงไป
    ขุนแผนรำดาบปัดแล้วกวัดแก่วง <WBR>ก้าวด้วยแรงขาขยับสลับไซร้
    รำดาบไปเห็นเงาจนเข้าใกล้ <WBR>แล้วฟันใส่วาววับงามจับตา
    ครั้นประกอบพิธีเสร็จทุกทาง <WBR>เห็นฟ้าสางเป็นช่องนั้นส่องหล้า
    ถึงเวลาจึงเสวยพระสุธา พระโหราถวายฤกษ์แล้วเบิกกลอง

    เสียงประโคมเสียงกลองดังก้<WBR>องไกล มงคลไซร้ใช่ท้าเสียงฟ้าร้อง
    เสด็จลงเรือเขานำตามทำนอง <WBR>งามน่ามองสวยดีด้วยฝีพาย
    ชื่อตำบลพระหล่อเขาก่อสร้าง <WBR>เห็นทัพช้างตัวใหญ่น่าใจหาย
    ลมพัดผ่านทุ่งนาจนตาลาย <WBR>พอตอนสายช้างม้าก็ลาไกล
    ผ่านอ่างทองเข้าสู่สิงห์บุรี ลำน้ำมียาวเห็นเป็นเส้นใหญ่
    เจ้าพระยาไหลผ่านกรุงศรีไซร้ หล่อเลี้ยงไทยสำราญมานานปี
    ผ่านเมืองพระสาธุอินทร์บุรี <WBR>ข้าวปลาดีรองรับกองทัพนี่
    ถั่วฝักยาวฟักแฟงเขาแกงดี <WBR>ปลากระดี่รำวงทอดลงไป
    เดินทัพต่อออกไปถึงชัยนาท <WBR>เห็นพระบาทเลียบลงคงคาใหญ่
    พิกุลแห้งจากตลับหอมจับใจ <WBR>หยิบลงใส่คงคาในสาคร
    ดวงตะวันก็เคลื่อนจากเพื่อนฟ้า <WBR>ถึงเวลาสบายได้คลายร้อน
    พวกหุงหาสำเร็จเสร็จทุกตอน ยังอาวรณ์ถึงเสียงในเวียงวัง
    วงปี่พาทย์ใหญ่โตมโหรี <WBR>ฟังเขาสีซออู้ดูน่าขลัง
    เขาบรรเลงร้อยเรียงเป็นเสียงดั<WBR>ง แม้ยามชังฟังพี่สักกี่คน
    อนิจจายามนี้ไม่มีแล้ว เสียงเจื้อยแจ้วร้องดีไม่กี่หน
    ต้องจากวังนอนไพรไกลผู้คน <WBR>ไม่หมองหม่นทนได้เพราะกายดี
    อันกำลังจากใจนั้นใหญ่ยิ่ง คือความจริงหมายมุ่งเจ้ากรุงศรี
    ยึดหลักการรบรุกไปบุกตี <WBR>ข้ามนทีสักคราสาละวิน
    อันการรบรบได้ไม่ตายดอก <WBR>ถึงถูกหอกแทงใส่ก็ไม่สิ้น
    จะสวดมนต์ขอพรจากพระอินทร์ คงได้ยินเทเวศร์พระเมตตา
    กองทัพผ่านบรรลุเมืองอุทัย <WBR>หยุดพักใจนั่งลงที่ตรงหน้า
    นั่นปลาแรดปลากรายก็ว่ายมา รสดีหนาปลายกรายตัวว่ายวน
    เมืองนครสวรรค์สุขหรรษา เจ้าพระยาแสนงามเมื่อน้ำล้น
    เห็นคลองโพธิ์น้ำปิงเข้าวิ่งชน หนุ่มทุกคนรักสาวเจ้าพระยา
    เห็นเขากบเขาขาดไม่พลาดรัก เห็นคึกคักบนทางทั้งช้างม้า
    พม่าเหนือเชียงใหม่ก็ใคร่มา <WBR>ผ่านทุกคราเขาขาดไม่อาจทน
     
  3. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนกองทัพถึงเมืองกำแพงเพชร
    อ่านแผนที่ลายแทงกำแพงเพชร พระเสด็จไม่เบื่อลงเรือต้น
    เมืองไตรตรึงเขารู้จัดผู้คน <WBR> เรือลอยบนบรรจงในคงคา
    เห็นกำแพงศิลาเป็นปราการ เช่นทหารทนทานและหาญกล้า
    เพื่อป้องกันข้าศึกเข้าลึกมา <WBR> ยิงตรงหน้าบนกำแพงสุดแรงดี
    ท่อทองแดงพระร่วงทรงห่วงนา <WBR> ใช้ปัญญาสายชลข้ามล้นที่
    ยกน้ำปิงสูงต่อให้พอดี <WBR> ไหลเร็วรี่เข้าต่อท่อทองแดง
    งานระดับพระองค์ก็ทรงทราบ <WBR> ให้ปรับปราบกระจายทำลายแล้ง
    สร้างคลองส่งผันน้ำทุกยามแรง ชาวกำแพงสวยสดไม่อดตาย

    ตอนกองทัพถึงเมืองสุโขทัย
    สิบเก้าวันทัพโผล่สุโขทัย <WBR> เห็นแต่ไกลนั่นใช่ยังไม่หาย
    วัดศรีชุมพร้อมเพรียงตั้งเรี<WBR>ยงราย อันตรายทุกกองจงป้องกัน
    พอพลบค่ำเดือนเด่นเห็นดารา พระสั่งว่าจงนั่งข้างในนั่น
    จงจุดไฟทุกยามใส่น้ำมัน ที่ตะคันตั้งไว้ข้างในดี
    พระเสด็จลำลองเข้าห้องลับ <WBR> ทางกระชับช่างเหมาะเฉพาะที่
    เป็นขั้นยกขึ้นไปไกลทุกที <WBR> เห็นช่องมีหยุดพลันในทันใด
    พระดำรัสอวยพรเหมือนสอนสั่ง <WBR> จงระวังรู้ลึกข้าศึกไซร้
    หนทางนั้นแสนยากลำบากไกล จงตั้งใจต่อสู้เพื่อภูมี
    พอสิ้นเสียงฟ้าสางกระจ่างพลัน <WBR> เห็นดวงจันทน์ไร้ทุกข์เป็นสุ<WBR>ขศรี
    แลเห็นเงายิ่งใหญ่ในวารี กลุ่มเมฆีกระจายมลายไป
    ยามค่ำคืนจันทร์ไกลนั้นไร้คู่ <WBR> งามน่าดูวัดวาหลังคาใหญ่
    ยอดพระธาตุเก่าแก่เห็นแต่ไกล ดอกบัวไซร้ทุกผู้คนบูชา
    เห็นตระพังน้ำดีเป็นสีใส <WBR> ดั่งน้ำใจพระร่วงทรงห่วงป่า
    สระน้ำใสที่ซึ่งใช้พึ่งพา <WBR> ใช้หุงหาเสร็จดีทุกที่ไป

    ตอนกองทัพยกทัพข้ามเทื<WBR>อกเขาทางช่องทางทุ่งเสลี่ยม
    ครั้นรุ่งเช้าเคลื่<WBR>อนพหลโยธาหาญ เห็นตระการคณานับกองทัพใหญ่
    สู่บางขลังน้ำเหมาะเดินเลาะไป <WBR> เมืองศรีสัชนาลัยอาจไปมา
    พระวางแผนเจือจุนข้ามขุนเขา <WBR> ช่องทางเก่าน้ำดีเพราะมีป่า
    เป็นสันแดนวันวานสู่ล้านนา <WBR> เป็นภูผาแก่เก่าภูเขาไฟ
    จากบางขลังถิ่นงามแล้วข้ามเขา <WBR> พอบรรเทาหุงหาในป่าใหญ่
    ชื่อว่าลำน้ำมอกอย่าบอกใคร น้ำสวยใสชมชื่นระรื่นใจ

    ตอนกองทัพผ่านเมืองเถินบุรี
    ยี่สิบสองวันผ่านเนินเถินบุรี <WBR> แม่น้ำมีชื่อวังกำลังไหล
    น้ำสวยใสไหลรินจากถิ่นไพร <WBR> กองทัพใหญ่ยืนยงด้วยคงคา
    เห็นน้ำใสไหลเย็นเป็นระลอก ไม่กลับกลอกวกวนเหมือนคนบ้า
    จงทำดีทุกผู้คนบูชา <WBR> ไม่โรยราความดีอยู่ที่ใจ
     
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    "ครองแผ่นดินโดยธรรม"

    เพลง "ครองแผ่นดินโดยธรรม" ครับ!
    ไม่ใช่เพลง "ธงนำชีวิต" ดังที่ผมบอกไปวานซืน เกรงบางท่านจะสับสนจากความไม่รู้จริงในข่าวสารของผม แล้วจับเอามากระเดียดให้ท่านฟัง พลอยให้ท่านหลงทิศ-ผิดทางไปหมด ก็ต้องขออภัย และขอให้ท่านเข้าใจตรงตามทางราชการด้วย
    แต่ไม่ได้หมายความว่า "เพลงธงนำชีวิต" ไม่ใช่เพลงเฉลิมพระเกียรตินะครับ...ใช่แน่นอน เพียงแต่เป็นคนละบทเพลงในนาม ส่วนราชการ-เอกชน-ประชาชน และกองทัพไทย ร่วมใจกันทำให้มีบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ "ครองแผ่นดินโดยธรรม" นี้เกิดขึ้นในวาระ เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
    พูดเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เพลงเฉลิมพระเกียรติ "ครองแผ่นดินโดยธรรม" เป็นเพลงทางการ ส่วนเพลง "ธงนำชีวิต" เป็นเพลงหนึ่งในอีกหลายๆ เพลง ที่ภาคเอกชนคนใด-คนหนึ่ง กลุ่มใด-กลุ่มหนึ่ง ถอดใจภักดิ์หลั่งหมึกร่ายเป็นเพลงแล้วร้อง-บรรเลงถวายพ่อ เป็นการเฉลิมพระเกียรติเช่นกัน
    ความจงรักภักดี การทำดีเพื่อพ่อ การน้อมนำสิ่งดีถวายพ่อ ไม่มีการผูกขาด "ของรัฐ-ของราษฎร์" หรอกครับ!
    ไม่ว่าส่วนไหน ใครทำ ใช้ได้ทั้งนั้น ดีทั้งนั้น ขอเพียงดีที่ทำนั้น ดีจริง-ดีบริสุทธิ์ มาจากใจจริง-ใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ "ดีบังหน้า" แล้วใช้ดีจากใจไม่บริสุทธิ์นั้น "ผูกขาดภักดี" ไปใช้
    ...ผันประโยชน์ใส่ตน!?
    เอาหละ เพื่อการรับรู้ที่ครบถ้วน และถูกต้องในเรื่องเพลงเฉลิมพระเกียรติ "ครองแผ่นดินโดยธรรม" ที่ท่านฟังแล้ว-ดูแล้วเมื่อค่ำวานนี้ ผมก็จะยกจาก "ข่าวเก่า" มาฉายใหม่เพื่อเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
    ๓๑ พ.ค ๒๕๕๔ สำนักข่าวแห่งชาติรายงาน การแถลงข่าวเพลงเฉลิมพระเกียรติ “ครองแผ่นดินโดยธรรม” ใช้ผู้ร่วมบรรเลงและขับร้องเพลงถึง 9,999 คน โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยตัวแทนส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชน
    เพลงเฉลิมพระเกียรติ “ครองแผ่นดินโดยธรรม” ประพันธ์คำร้องโดย นายประภาส ชลศรานนท์ และจัดทำเป็นมิวสิกวิดีโอ ที่ใช้นักร้อง นักแสดง และศิลปินจากทุกค่ายเพลง อาทิ เศรษฐา ศิระฉายา, ศิลปินวงนูโว, แอ๊ด คาราบาว, หงา คาราวาน, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, ปาน ธนพร, โปงลางสะออน, เบน ชลาทิศ, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ป้าง นครินทร์, ศิลปินจาก AF, บี้ เดอะ สตาร์,
    ดา เอ็นโดฟิน, วงแทตทู คัลเลอร์, แก้ม / รุจ / อาร์ เดอะสตาร์, แก๊งค์สามช่า, แพนเค้ก เขมนิจ, วี วีรภาพ, รถเมล์ คนึงนิจ, แพท ณปภา, ธงชัย ประสงค์สันติ, มยุรา เศวตศิลา, กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์, หนุ่ม กรรชัย, เติ้ล ธนพล, ปุ๊กลุก ฝนทิพย์, นาเดีย นิมิตรวานิช, นุ่น รมิดา
    พร้อมทั้ง นักดนตรีจาก 4 เหล่าทัพ ร่วมบรรเลงและขับร้อง มากถึง 9,999 คน!
    บทเพลงเฉลิมพระเกียรติ “ครองแผ่นดินโดยธรรม” จะเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 9 มิถุนายน นี้ เวลา 19.09 น. ทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกสถานี พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยอย่างอเนกอนันต์ ดั่งปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
    เข้าใจถูกต้องกันแล้วนะครับ ผมละกลัวนักเรียนจะนำไปทำการบ้านผิด เลยต้องนำที่ถูกมาย้ำไว้ .......

    .....ในวาระทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ทำเถอะครับ ทำดี ไม่มีขีดขั้น และดีนั้น
    ประหนึ่งน้ำใส ไล่น้ำเสีย!
    ทำดีกันให้มากเท่าไหร่ น้ำเสียก็จะกลับสู่น้ำใส ประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจ น้ำใสมาจากน้ำเสีย และน้ำเสียก็มาจากน้ำใส
    นั่นคือ ทั้งน้ำใส-น้ำเสีย คือน้ำมาจากสายเดียวกัน เดิมแท้นั้น น้ำคือน้ำ ไม่มีเสีย-ไม่มีใส แต่ที่เป็นน้ำเสีย-เป็นน้ำใส เพราะ "เติมสี" คือ "ความเห็นถูก-ความเห็นผิด" ใส่ลงไป
    ถูก-ก็ใส
    ผิด-ก็เสีย!
    เหมือนน้ำดื่มสะอาดในขวดขาย เดิมก็คือน้ำครำ เมื่อนำไปกลั่น-ไปกรองตามกรรมวิธี ออกมาอีกที กลายเป็นน้ำดื่มสะอาด และที่ว่าสะอาดนั้น แค่สาดใส่ท่อ ก็กลายเป็นน้ำครำไปทันที
    เราก็เช่นนี้ จากลูกของพ่อที่ทรงอาบเหงื่อเพื่อลูก เพราะถูกเขา "ย้อมสี" จากใสจึงเสีย ตั้งสติคิดกันใหม่ คืนจากเสียให้กลับมาใส
    เป็นพสกนิกรไทยที่ชาวโลกอิจฉา มีเอกอัจฉริยะพระมหากษัตริย์ภูมิพลเป็นฉัตรไชย คุ้มชาติ-คุ้มประชา ดีแสนดีเช่นนี้แล้ว จะซัดส่ายจากชาติที่โลกอิจฉา ให้กลายเป็นที่ชาติที่น่าสมเพชเวทนาไปไยกัน.


    แหล่งที่มา:http://www.thaipost.net/news/100611/39972
     
  5. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม

    เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
    เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม

    ทุกบ้านทุกถิ่น ภูเขาทุกดอยทุกดง
    หุบเหวทุ่งนาไพรพง ทุกเขื่อนคลองที่ทุกข์ทน
    หากแผ่นดินนั้นเป็นไทย เสด็จไปถึงทุกชั้นชน
    ดังสายฝนโปรยปรายให้คลายทุกข์เข็ญ
    น้ำพระทัยกว้างใหญ่มหาศาล ทรงงานมิเคยว่างเว้น
    พระราชทานความร่มเย็น ด้วยแนวคิดอันยั่งยืน

    พระองค์ทรงเป็น ตาน้ำของแรงบันดาลใจ
    ยามทุกข์ยามท้อเมื่อใด พระราชนิพนธ์สอนสั่ง
    เมื่อตกลงไปในน้ำ อย่ามัวถามเมื่อไรจะถึงฝั่ง
    จงว่ายไปด้วยพลัง ว่ายด้วยธรรมของความเพียร
    แม้นยามใดบ้านเมืองจะมืดมน เหลือแต่หนทางเดินที่วนเวียน
    พระราชดำรัสดังแสงเทียน ส่องให้เห็นถึงปลายทาง

    ทุกย่านทุกหย่อมย่อมมีบ้างความแตกต่าง
    ศาสนาพูดจาท่าทาง วัฒนธรรมท้องถิ่น
    หลากหลายในชาติเชื้อพันธุ์ มารวมกันบนแผ่นผืนดิน
    จงรักต่อพระภูมินทร์และแผ่นดินนี้
    แม้ว่าความแตกต่างจะมากมาย แต่ในใจยังรักและสามัคคี
    หนึ่งคำที่ทำให้คิดดี คือมีในหลวงองค์เดียวกัน

    ***ครองแล้วทรงครองแผ่นดิน ครองหัวใจไทยทั้งแผ่นดิน
    ธ ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจไทยทุกดวง
    เราผองคนไทยจึงมารวมกัน เปล่งเสียงจากใจถวายพระพร
    ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

    ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ

    YouTube - ‪krongpandin.mp4‬‏http://youtu.be/wPuqkWTgRMo
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2011
  6. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    "นักเรียนทุน"เศรษฐกิจพอเพียง"

    <!--11 มิถุนายน 2554 - 00:00-->
    11 มิถุนายน 2554 - 00:00


    หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมอบแก่ปวงชนชาวไทยทุกคนนั้น ถือเป็นหลักการที่ดีที่สุดในการนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความสุขความสงบได้อย่างดีที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะสถานศึกษา ต่างหันมานำหลักปรัชญานี้กลับไปบ่มเพาะเหล่าเด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติในอนาคต จนนำไปสู่การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
    ทุนดังกล่าวนี้เอง เป็นทุนที่เกิดขึ้นจากทางมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้มอบทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ให้ได้เรียนจนจบชั้นอุดมศึกษาแบบไม่มีข้อผูกมัด ให้แก่นักเรียนจากศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทั้ง 12 แห่งที่ได้เป็นผู้มีลักษณะอันพึงประสงค์ อาทิ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะบำเพ็ญประโยชน์ต่อสถานศึกษา ชุมชนและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจพอเพียงทั้งในและนอกสถานศึกษา โดยหวังให้เป็นแหล่งรวมของบุคลากรที่มีจิตอาสาพร้อมทำประโยชน์ต่อชุมชน สังคมและประเทศชาติ
    สำหรับรายชื่อนักเรียนคนเก่งที่ได้รับทุนที่มาจากทั้ง 12 สถานศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ หัสดิน อยู่กลุด จาก รร.โยธินบูรณะ, ปฐมพงษ์ เป้ามีพันธ์ จาก รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย, วลีรัตน์ มิ่งศูนย์ จาก รร.ลาซาล จันทบุรี (มารดาพิทักษ์), แสงอุษา พรมทอง จาก รร.สตรีมารดาพิทักษ์, อักษิพร บุพศิริ จาก รร.กัลยาณวัตร, ธัญญลักษณ์ อะวิชิน จาก รร.เชียงขวัญพิทยาคม, สุภัทรา วิเศษอุด จาก รร.โพนทองวิทยายน, ภชร รัมพณีนิล จาก รร.ศีขรภูมิพิสัย, รจนา สันทาลุนัย จาก รร.สำโรงทาบวิทยาคม, อภิสิทธิ์ ศรนิรันด์ จาก รร.ห้วยยอด, ศุภณัฐ ศศิพงศ์พนา จาก รร.ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย และรุจีรัตน์ ปัญญาติบวงศ์ จาก รร.แม่พริกวิทยา
    ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้เผยว่า ตัวเลข 12 จากจำนวน 12 ทุนในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่มาจากทั้ง 12 สถานศึกษาที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ แต่ยังมาจากการที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มอบหลักเศรษฐกิจพอเพียงนี้ไว้เมื่อ 12 ปีก่อน ที่สามารถน้อมรับนำไปใช้อย่างเกิดประโยชน์ได้ในหลากหลายด้าน โดยทุนในครั้งนี้ยังเหมือนเป็นการกระตุ้นส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชน ให้ได้นำหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียงไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมไทยโดยรวม อย่างไรก็ตามคาดว่าการมอบทุนในรุ่นต่อไป จะทำการขยายศูนย์การเรียนรู้และทุนในโครงการนี้ให้ได้มากขึ้นราว 80 ทุน
    ทางฝั่งผู้ได้รับมอบทุนในครั้งนี้อย่างหัสดิน อยู่กลุด หรือต๋อง จาก รร.โยธินบูรณะ นักศึกษาใหม่เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ก็ได้บอกว่า รู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้รับทุนในครั้งนี้ เนื่องจากทุนไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวเงินธรรมดา แต่เป็นทรัพย์สินในส่วนพระมหากษัตริย์ที่มีเพียง 12 คนในประเทศเท่านั้นที่ได้ไป ซึ่งทุนนี้เองก็เป็นทุนที่ต้องอาสาทำดีอย่างไม่หวังผลตอบแทนมาเป็นเวลานาน ทั้งการทำงานด้านจิตอาสา และการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงนี้เอง ยังเป็นสิ่งที่ทางโรงเรียนเองได้สอนให้นักเรียนทุกคนได้รู้จักหลักปรัชญานี้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการคิดวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง การนำสิ่งของที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่
    “ส่วนตัวแล้วผมยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในด้านของการพอประมาณมาใช้มากที่สุด เพราะการไม่ยึดติด พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ แม้จะมากหรือน้อยเพียงใดก็สามารถทำให้เรามีความสุขได้ ด้วยเหตุนี้เองในช่วงปิดเทอมผมจึงมักไปทำงานพิเศษเพื่อเป็นการหารายได้พิเศษ ซึ่งดีกว่าการอยู่เฉยๆ อย่างไม่เกิดประโยชน์ในช่วงปิดเทอม”
    ปฐมพงษ์ เป้ามีพันธ์ หรือเป้า จาก รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย นิสิตใหม่ ม.มหิดล ก็ได้เผยความรู้สึกว่า เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับทุนในครั้งนี้ แม้ส่วนตัวแล้วเพิ่งเข้ามาศึกษาอย่างจริงจังในเรื่องหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม ซึ่งการได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งก็ทำให้ได้รู้ว่า หลักปรัชญานี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องปลูกผัก แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน อย่างการบำเพ็ญประโยชน์ หรือวิธีคิดให้เราเกิดความสุข นอกจากนี้การที่ได้เรียนกับโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ที่เป็นโรงเรียนประจำก็ยังทำให้มีเวลาว่างเหลือไปทำกิจกรรมและการเรียนรู้ เช่น การออกไปเป็นจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ได้มากขึ้นอีกด้วย
    “การที่ผมเลือกเรียนต่อในด้านวิทยาศาสตร์ ก็เพราะเมื่อผมเรียนจบแล้ว ผมอยากมาทำงานวิจัยทางด้านการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลังได้เห็นประโยชน์ที่มากขึ้นของหลักปรัชญานี้ และยังเป็นการทำงานเพื่อสังคมที่ผมคิดว่าจะดีกว่าการที่เราจบไปแล้วทำงานเพื่อตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว”
    รุจีรัตน์ ปัญญาติบวงศ์ หรืออ้อแอ้ จาก รร.แม่พริกวิทยา นิสิตใหม่ ม.ราชภัฏลำปาง ได้เล่าว่า หนูคิดว่าหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักที่มีความสำคัญรอบด้าน และเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต อย่างเช่นในเรื่องของการใช้จ่าย ให้เรารู้จักอดออม โดยที่ผ่านมาไม่เพียงแต่การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเท่านั้น ยังได้นำความรู้ที่ได้จากหลักปรัชญานี้ไปเผยแพร่ต่อ ด้วยการทำงานกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ของโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การได้รับมอบทุนในครั้งนี้.

    แหล่งที่มา : "นักเรียนทุน"เศรษฐกิจพอเพียง | ไทยโพสต์
     
  7. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    บทขับเสภาตอนสมเด็จพระนเรศวรเสด็จยกทัพจะไปตีกรุงอังวะ (ตอนที่ 2)

    ตอนกองทัพเข้าสู่พื้นที่เขลางค์<WBR>นคร​


    ยี่สิบสามวันนักรบถึงสบปราบ ถิ่นนักดาบขุนทหารชำนาญไซร้
    ทรงขอพรทั่วแค้วนสุดแดนไกล คุ้มครองไทยทั่วหล้าประชาชี
    ยี่สิบสี่วันพลันพักที่ริมน้ำ <WBR>ชายฝั่งงามไม้เขียวสีเดียวนี่
    เห็นปลาใหญ่แลล้วนดูอ้วนพี ปลากระดี่ว่ายวนให้จนใจ
    ยี่สิบห้าวันผ่านเป็นลานหิน <WBR>นั่นนกบินมาหาจากป่าใหญ่
    แล้วเดินผ่านส่องดูภูเขาไฟ เห็นแต่ไกลยอดภูช่างดูดี
    ฝ่ายกองทัพลัดเลาะละเมาะมา ไกลสุดตาเช่นเขาตะนาวศรี
    เหงื่อก็ไหลรินหลั่งดั่งนที <WBR>ใช้นิ้วชี้บรรจงปาดลงดิน


    พอบ่ายคล้อยลัดเลาะถึงเกาะคา จงหุงหาน้ำใสมิให้สิ้น
    จงแบ่งใช้ต้นยามคือน้ำกิน <WBR>ถ้าขุ่นสิ้นเสียดายสุดสายชล
    พวกกองงานชาวที่สุดดีหนอ <WBR>ปรับที่ก่อทรายงามช่องน้ำล้น
    ใช้ฉากกั้นรอบคูบังผู้คน น้ำไหลวนหมุนเวียนแล้วเปลี่ยนไป
    สุริยันจะกลับใกล้ลับลา <WBR>พระยาตราเลียบลงคงคาใช่
    กระแสน้ำพุ่งผ่านสำราญใจ พระหทัยสดชื่นรื่นกมล
    เห็นปลาสร้อยปลาซิวว่ายลิ่วมา <WBR>ทั้งฝูงปลาเที่ยวท่องแล้วล่องพ้<WBR>น
    น้ำกระเซ็นปลาลายเข้าว่ายวน <WBR>ปลาชอบกลแล่นโลดกระโดดมา
    น้ำประคำดีควายจากปลายนา <WBR>สระเกศาลูบไล้ทั้งใบหน้า
    แสนสำราญสิ้นทุกข์สุขอุรา <WBR>แล้วขึ้นมาริมท่าชลาลัย
    พระประทับพลับพลาใกล้วาริน กระแสสินธุน้ำวังปลาคังใหญ่
    ฝ่ายห้องเครื่องเตรี<WBR>ยมการอาหารไทย น้ำพริกใส่ปลาเผาจากเตานา
    อาหารดีไม่เบื่อมะเขือกรอบ พระทรงชอบพริกสดมีรสกล้า
    หอมกระเทียมเผาดีพริกขี้กา อาจเป็นยาระบายจากกายคน
    นั่นข้าวเหนียวนี่ข้าวดั่งสาวหุ<WBR>ง นี่ก้อยกุ้งกินพาน้ำตาล้น
    กุ้งแม่น้ำชื่อวังเขาดังจน รสเหลือล้นกุ้งพล่าจนตาลาย
    นั่นปลาเผาตัวใหญ่จากไหล่หิน <WBR>อบหม้อดินสมุนไพรเขาใช้ได้
    หอมตระไคร้สูตรลับกับกระชาย <WBR>หมูป่าลายสุดเผ็ดรสเด็ดดี <WBR>
    พระสำราญหลงเสน่ห์ชาวเขลางค์ <WBR>หมอบลงข้างสำรวยแม่สวยศรี
    กลิ่นบุบผาหอมหวนยั่วยวนยี <WBR>แล้วพัดวีถวายงานไม่ลานลน
    ยามย่ำค่ำสำเนียงสิ้นเสียงพิณ <WBR>บนพื้นดินนอนแคร่เพียงแต่ขน
    ยามเช้าตื่นม้วนกลีบเข้าหีบกล <WBR>นอนพอทนหลับได้สบายดี
    ดอยม่อนน้อยดูเด่นเห็นสง่า <WBR>มีพลับพลาพำนักที่พักนี่
    จุดเทียนธูปบูชาสิ้นราคี พระธาตุมีแก่เก่าดังเล่ามา
    เห็นต้นไม้ขะจาวก็ขาวสวย หรือพระช่วยเที่ยงแท้จนแก่กล้า
    ปักลงดินสิ้นรากไม่จากลา ไร้เยียวยาเจริญดีไม่มีตาย


    ตอนกองทัพไปเมืองลำพูน​


    ยกทัพข้ามเขาเอาบุญผ่านขุนตาล <WBR>พบนายพรานอยู่ป่าน่าใจหาย
    เขาห้อยโหนเถาวัลย์อันตราย แล้วโยกย้ายดั่งค่างขึ้นห้างไป
    เห็นน้ำซับน้ำคำยังจำจด <WBR>น้ำไม่ลดขุนศักดิ์เขาตักใช้
    อยู่บนภูทุกยามมีน้ำใจ น้ำจากไพรเมตตาประชาชน
    เห็นน้ำใหญ่เที่ยงแท้คือแม่กวง <WBR>ภัยใหญ่หลวงทุกยามคือน้ำล้น
    แม่เมืองงามความดีไม่มีจน <WBR>รู้ทุกคนชื่องามจามเทวี


    ตอนกองทัพถึงเมืองเชียงใหม่


    จากลำพูนพร้อมเพรียงสู่เชี<WBR>ยงใหม่ น้ำปิงใสเป็นสุขกันทุกที่
    เกาะกลางน้ำไร่เดียวเขียวขจี <WBR>ผักบุ้งดีบนหาดเห็นดาดตา
    เห็นกำแพงใหญ่โตสุดโอฬาร มีทุกด้านป้อมยิงต้องวิ่งท้า
    มีคูน้ำโอบอ้อมล้อมพสุธา ชาวเมืองมารอรับสวยจับใจ
    กรมการเมืองเชียงใหม่เข้าใจดี <WBR>เจ้าเมืองมีศึกติดอยู่ชิดใกล้
    เมืองเชียงแสนเมืองท่าการค้าไทย จึงต้องไปพร้อมหน้าพระยาราม
    ฝ่ายลูกขุนปรึกษาจะพาไหว้ <WBR>พระสิงห์ใหญ่งามล้วนมิควรห้าม
    กราบบังคมทูลจักรพระสักยาม <WBR>เห็นว่างามอย่าช้าฎีกาไป
    พระทรงทราบกราบมามิช้าใย เข้าหทัยเรื่องนี้นั่นดีไซร้ <WBR>
    วัดพระสิงห์ค้ำจุนเป็นบุญใหญ่ พระตอบไปนพพระศาสดา
    พระเสด็จพรั่งพร้อมสู่วิหารคำ <WBR>ขบวนนำละลานทหารกล้า
    พระโอรสเชียงใหม่มิไกลตา <WBR>ชาวประชามาเฝ้าแล้วเข้าไป
    พระเสด็จขึ้นบรรจงเห็นองอาจ งามผุดผาดต้องหทัยเข้าไปใกล้
    พระพักตร์อิ่มระรื่นพระชื่นใจ <WBR>งามละมัยมีเดชพระเมตตา
    พระธาตุหลวงสูงเด่นเห็นสง่า <WBR>มีวัดวาน้อยใหญ่อยู่ในหล้า
    องค์มหาเทวีจิระประภา <WBR>พระศรัทธราคำสอนแต่ก่อนวัย
    พระทักทายสอบถามว่างามยิ่ง ว่าทองจริงเห็นงามทุกยามใช่
    จงรักษาปัญญาล้านนาไทย ฝีมือไม่เป็นสองไม่รองใคร
    พอสมควรเวลาก็ลาลง <WBR>พอค่ำสรงสนานสำราญไซร้
    พิกุลแก้วสายหยุดหอมสุดใจ <WBR>ลอยฟ่องในชลาขันสาคร
    ครั้นสำเร็จกิจหมายพระพายพัด <WBR>ฝ่ายในจัดเส้นสายให้คลายร้อน
    เปิดวาโยสำเร็จเสร็จทุกตอน ไม่ร้าวรอนอ่อนเพลียจนเสียคน
    พระเสด็จประชุมช่วยรุมคิด <WBR>เหล่าลูกศิษย์พระครูความรู้ล้น
    เลือกเส้นทางต้องดีมีสายชล ทัพผ่านพ้นไม่ขัดจัดขบวน
    อันความเห็นแตกต่างระหว่างกัน อาจมีนั่นข้อดีต้องถี่ถ้วน
    ทางลำบากช้างม้าอาจพารวน หากใคร่ครวญซวนเซเสียเวลา
    ขอเดชะพระบารมีปกเกศา <WBR>ผลศึกษาเส้นทางทั้งช้างม้า
    เป็นเส้นทางภูเขาแต่เก่ามา <WBR>สองเส้นค้าเคยขายอยู่หลายปี
    เส้นทางแรกสุดเสียงสู่เวียงแหง ดั่งกำแพงกั้นกลางขึ้นขวางนี่
    มีต้นน้ำลำธารสำราญดี <WBR>จากยามนี้น้ำป่าอาจมาทัน
    ทางลำบากยากแสนถ้าแม้นว่า <WBR>ยกทัพฝ่าเดินพลางเขาขวางกั้น
    จะเดินเลาะม้าจูงเขาสูงชัน ถึงทางตันช้างม้าเข้าป่าไป
    เส้นทางสองเดินเรียงสู่เชี<WBR>ยงดาว นภาพราวเดือนต่ำยามค่ำไซร้
    น้ำปิงงามเลาะหินจากถิ่นไพร <WBR>ผืนป่าใหญ่ยาวทอดไปฮอดเวียง
    อันหนทางสู่ฝางก็ทางนี้ พื้นราบมีงามล้วนมิควรเลี่ยง
    อาจทำนาสักระยะสมเสบียง <WBR>ทำนาเพียงสามเดือนไม่เลือนราง
    จากเชียงดาวสู่ด่านกิ่วผาวอก แต่ก่อนออกมีเขาทุเลาช้าง
    เขาเล่าว่าคอดกิ่วเป็นทิวทาง <WBR>ทั้งสองข้างช้างม้าอาจพาไป
    อันแอ่งฝางเกื้อกูลสมบูรณ์ยิ่ง ควรพึ่งพิงทำนาสักคราไซร้
    อากาศดีน้ำดีทุกที่ไกล <WBR>นาผืนใหญ่น้ำมาจากป่าดอย
    อาจสามารถเก็บเกี่ยวทุกเที่<WBR>ยวขน เพียงใช้คนสิบสองจากกองร้อย
    ส่วนเมล็ดพันธ์ชั้นเยี่ยมจั<WBR>ดเตรียมคอย เวลาน้อยพันธ์เบาเขาใช้กัน
    อาจสามารถจัดส่งเข้าคงคลัง ตามคำสั่งหมุนเวียนพันเกวียนนั่<WBR>น
    ส่วนที่เก็บยุ้งฉางอาจสร้างทัน <WBR>ความสำคัญเก็บงามให้น้ำคาย
    อันข้าวใหม่ไล่น้ำสักสามวัน <WBR>แสงแดดนั้นส่องงามให้น้ำหาย
    ข้าวเปลือกดีแห้งดีไม่มีอาย <WBR>แต่ยามสายเกี่ยวแรกฝนแปลกมา
    ขอขอบใจร่วมด้วยแล้วช่วยคิด <WBR>ยังไม่ผิดทั้งสองอาจลองท้า
    พิเคราะห์ดูทางแรกนั้นแปลกตา <WBR>ทางสองหนาเหมาะล้วนจึงควรไป
    อันดอยหลวงเชียงดาวดั่งสาวเลิศ ว่าบังเกิดอยู่ใต้ทะเลใหญ่
    ครั้นเวลาคืบคลานเนิ่นนานไกล ขึ้นสูงใส่เสียดฟ้าเหมือนท้าดาว
    เรื่องเตรียมการเสบียงมิเลี่<WBR>ยงได้ ถ้าเตรียมสายถึงชวดเจ็บปวดร้าว
    ศึกครั้งนี้มิราบรื่นอาจยืนยาว <WBR>ส่วนเรื่องข้าวคงคลังรีบตั้งไป
    พระเอการับเพียงสู่เวียงฝาง ปรับนาร้างสายชลทั่วหนใหญ่
    ทำนาเหมืองนางามยกน้ำไกล ชื่อนาไทยสร้างฝายจงหลายตอน
    ให้ทัพหน้าหาหนก่อนฝนตก <WBR>จงเร่งยกทันใดด้วยใจร้อน
    กว่าจะถึงเวียงฝางต้องค้างนอน <WBR>สักสิบตอนกว่านั้นถึงทันที
    เมืองเชียงใหม่สะสมระดมพล <WBR>รายงานตนหมายมุ่งเจ้ากรุงศรี
    จะฝึกฝนทุกรายชายชาตรี <WBR>รู้หน้าที่เลอเลิศที่เกิดมา
     
  8. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนพระเอกาทศรถยกทัพไปเวียงฝาง

    ครั้นรุ่งเช้าเห็นแสงสุริโย <WBR>เสียงร้องโห่ปากป้องดังก้องหล้า
    เห็นทัพใหญ่ไปกับพระเอกา ไปทำนาสร้างยุ้งเพื่อรุ่งเรือง
    ถึงแม่ริมฝั่งน้ำช่างงามงด <WBR>พระปักกลดริมหาดแสนปราดเปรื่อง
    ต้องแรมคืนสุขใจแต่ไกลเมือง <WBR>อารักษ์เฟื่องต้นเสียงร่วมเรี<WBR>ยงรอง
    พระเข้าที่บรรทมลาก้มกราบ พระทรงทราบชาวรับขอขับร้อง
    ขอขับกล่อมร้องรำตามทำนอง เข้าเวรจองสักตอนยามนอนไพร
    เสียงสะล้อซอซึงน่าทึ่งนัก เสียงความรักจากผู้ยามอยู่ใกล้
    มาออดอ้อนจำพรากแล้วจากไป ชาวเชียงใหม่จงรักด้วยภักดี <WBR>
    ครั้นรุ่งเช้าลงแคร่จากแม่ริม <WBR>พระได้ชิมลิ้มรสผักสดนี่
    ผักหลายอย่างบรรเจิดรสเลิศดี ทั้งผักชีผักหนอกไม่หลอกคน

    เขาตำมาขลุกขลิกน้ำพริกหนุ่ม ทหารรุมต้องเชื่อรสเหลือล้น
    หอมกระเทียมพริกหาน้ำปลาปน <WBR>ตำพอทนพอแหลกแล้วแจกกัน
    ครั้นสำเร็จเรื่องกินบนดินดอย <WBR>ทัพเตรียมคอยช้างม้าพึ่งพานั่น
    มื้อต่อไปข้างทางกินกลางวัน <WBR>สิ่งสำคัญยอดเยี่ยมคือเตรียมกิน
    อันเส้นทางโบราณเดินนานถึง ป่าน่าทึ่งน้ำไหลมีไม่สิ้น
    แล้วเดินเลาะทางเอ๋ยจนเคยชิน <WBR>เห็นนกบินไปด้วยดูสวยดี
    ครั้นพอบ่ายแก่แก่ถึงแม่แตง <WBR>เกือบหมดแรงขาอ่อนพักผ่อนนี่
    เดินทางไกลนานนักพักสักที ข้าวเหนียวมีพริกหนุ่มแต่กลุ้<WBR>มใจ
    เปิดใบบัวสีเขียวข้าวเหนียวรัก ไม่เบื่อนักข้าวพอเห็นห่อใหญ่
    ใส่ใบเตยจากตลับหอมจับใจ <WBR>บำรุงไตสักทียาดีจน
    เห็นดอยหลวงแต่ไกลนั้นใหญ่ยิ่ง ช่างสูงจริงฝนงามจนน้ำล้น
    แล้วลอยวนเยี่ยมเราไม่เข้าชน ใครอดทนอาจเดินพาเพลินไพร
    ละอองน้ำบนดอยใช่น้อยนัก เมื่อรวมรักจากเขาให้เราใช้
    สักล้านหยดไหลร่วมท่วมดวงใจ <WBR>น้ำพระทัยเมตตาฟ้าปราณี
    อันเจ้าหลวงคำแดงท่านแฝงอยู่ คอยเฝ้าดูตรวจตราทุกป่านี่
    เวียงเชียงดาวถิ่นงามอารามดี <WBR>พระฤาษีในถ้ำตามตำนาน
    เห็นน้ำปิงไหลออกจากซอกเขา <WBR>ให้พวกเราได้ใช้อยู่ในบ้าน
    น้ำก็ดีชุ่มฉ่ำแสนสำราญ <WBR>เมื่อวันวานพร้อมสรรพเขาจับปลา
    ปลากระทิงปลาตองไม่หมองหม่น <WBR>ปลาว่ายวนอาจเสร็จเพราะเบ็ดกล้า
    ปลาปักเป้าปลาเผาก็เอามา <WBR>ปลาบนข่าปลาปิ้งเรายิ่งงง
    ผ่านป่าทึบเขาขวางอยู่ข้างหน้า <WBR>เลาะไหล่ผาอ้อมเขาเถาวัลย์หลง
    เขาอะไรดั่งแกล้งกำแพงตรง <WBR>เขาบรรจงดักหน้าเหมือนท้าทาย
    กองทัพถึงถ้ำแกลบคิดแยบยล เดินวกวนอ้อมป่านกกาหาย
    เดินต่อไปถ้ำงวงช้างหลวงตาย <WBR>เห็นงวงกลายเป็นหินช้างสิ้นใจ
    เห็นงวงยาวห้อยมาจากผาหิน น้ำก็รินนกกาบินมาใกล้
    อมตะเชือกเดียวอาจเปลี่ยวใจ <WBR>ถ้าเดินไปจากเขาช้างเราอาย


    เห็นขุนเขาหุบผาเป็นปราการ เดินชำนาญเฉพาะตัวไม่กลัวหาย
    ถ้าตกไปทางชันอันตราย <WBR>อาจถึงตายเลือดรินด้วยหินคม
    ผ่านปราการร่องแร่งสู่แอ่งฝาง <WBR>ทัพจัดวางไม้ใหญ่พอได้ร่ม
    พักตรงนี้อยู่ดีเพราะมีลม <WBR>เท้าระบมสิบวันแทบบรรลัย
     
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนพระนเรศทรงฝึกทหารล้านนา

    อันค่ายหลวงมีเพิงอยู่เชิงดอย <WBR>สายน้ำน้อยผ่านป่าเข้ามาใกล้
    พระให้ฝึกยืนยงในพงไพร ฝึกฝนใจกล้าแกร่งแข็งวิชา
    เรียนรู้ข่าวส่งสาสน์ทหารม้า <WBR>รบในป่าฝึกไปต้องใจกล้า
    ลูกธนูยิงไปให้ไกลตา ยิงตรงหน้าตั้งแถวเป็นแนวยิง
    เรียนวิชาสุดหนักได้พักน้อย <WBR>ตาละห้อยคนหลับถูกจับวิ่ง
    ขึ้นม้าขี่โก่งธนูพร้อมสู้ยิง <WBR>อย่าประวิงเวลาถ้าช้าตาย
    ฝึกอดนอนอดกินมิสิ้นชื่อ ใบไม้คืออาหารไม่นานหาย
    แต่ถ้ารบไม่ทนทุกคนอาย ลูกผู้ชายอาดูรสิ้นสูญพลัน
    อันวิชาสู้เขาคือเข้าตี รู้หมายที่ทำลายอีกฝ่ายนั่น
    ถึงเวลาโจมตีห้ามหนีกัน <WBR>กองหน้านั้นบุกฝ่ารุกผ่าไป
    พลธนูน้าวโก่งนิ่งแล้วยิงไกล ลูกศรใส่เป้าหมายสลายไซร้
    ยิงตรงหน้าราบรื่นด้วยปืนไฟ <WBR>ถูกหัวใจนอนแผ่ไม่แก่ตาย
    ถ้าจะรบรุกบุกเข้าตอนเช้าตรู่ <WBR>จะต้องรู้ลูกพี่ไม่หนีหาย
    เอาปืนใหญ่เจ้ากรรมยิงทำลาย <WBR>ถูกที่หมายสำคัญให้บรรลัย
    ให้ปิดล้อมป้องกันพวกมันมา กองหนุนหนาระวังเขาสั่งใช้
    ตามเส้นทางซุ่มรอเฝ้าต่อไป ซอกเขาใหญ่ถ้ามาถึงฆ่ากัน
    พื้นที่คาดข้าศึกไม่นึกเห็น ระวังเล่นกลย้อนเข้าซ้อนนั่น
    ควรศึกษาทางรุกอยู่ทุกวัน <WBR>ถ้าหุนหันขาดรู้จะสู้ใคร
    ถ้าตั้งรับข้าศึกเข้าลึกมา ให้กองหน้าก่อกวนยั่วยวนไซร้
    ควรหาข่าวสักตอนแต่ก่อนไกล ถ้าช้าใยอ่อนเปลี้ยอาจเสียพล

    ตอนพระเอกาทศรถจะทำนาที่เวี<WBR>ยงฝาง

    อันต้นน้ำเวียงฝางเป็นทางแถว <WBR>พุ่งเป็นแนวตกมาน้ำป่าล้น
    รวมกันไปประปรายเป็นสายชล น้ำพอทนว่าร้อนทุกตอนไป
    ธรรมชาติน้ำไหลลงไปต่ำ <WBR>พระร่วงทำกลยกน้ำตกไซร้
    เกิดเป็นแรงผันน้ำทุกยามไกล <WBR>ส่งท่อใหญ่สมปองท่อทองแดง
    มีคันดินบังคับไว้รับน้ำ กระจายตามนาปลายทำลายแล้ง
    คือปัญญาน้ำสอนช่วยผ่อนแรง ฝายตะแคงช่วยยกน้ำตกไกล
    พระทรงทราบวิธีจากพี่ยา ไม่รอช้าเร่งพาศึกษาใหญ่
    ว่าพื้นที่นั้นเอียงไปทางใด <WBR>สามเหลี่ยมไซร้ระดับเข้าจับลอง
    แล้วจึงเอาลูกดิ่งมาทิ้งผ่าน สายสัญญาณผ่าลงให้ตรงร่อง
    ใช้ตาเล็งรับลูกว่าถูกต้อง น้ำไหลคล่องเที่ยงแท้ว่าแน่นอน
    ให้ก่อสร้างฝายยกน้ำตกไหล <WBR>วางท่อไปผลสำรวจตรวจตราก่อน
    ลงสู่นาสำเร็จเสร็จทุกตอน <WBR>แม้ที่ดอนปลูกได้สบายกัน
    หนึ่งพันไร่กำหนดไม่ลดลง นาบรรจงประณีตไม่กีดกั้น
    ใช้เชือกขึงดำนาสารพัน สุกพร้อมกันเก็บเกี่ยวไม่เปลี่<WBR>ยวใจ
     
  10. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนพระนเรศทรงรับรองผลการฝึกแล้<WBR>วมีพระราชดำรัสตอบ

    พระเสด็จตามหมายรอรายงาน <WBR>ว่าทหารหนึ่งแสนทั่วแดนไซร้
    ผ่านการฝึกฝนดีเขามีใจ จะร่วมไปออกรบว่าครบคน
    วิชาการอ่านเขียนก็เรียนรู้ <WBR>เขียนข่าวดูอ่านเห็นพอเป็นต้น
    เรียนขี่ม้าก็จบครบทุกคน ป้องกันตนมวยหมัดไม่ตัดตอน
    การส่งข่าวส่งถูกเป็นลูกช่วง ข่าวอย่าหน่วงข่าวด่วนสมควรร้อน
    ข่าวถูกเขียนรู้จักมีวรรคตอน ข่าวสะท้อนทีท่าจับตามอง
    ขอเดชะพระบารมีปกเกศา <WBR>การศึกษาทุกยกเรียนปกป้อง
    ผ่านฝึกฝนพร้อมสรรพขอรับรอง อาจสนองภารกิจเป็นศิษย์กัน

    ฝ่ายผู้แทนก้มกราบบังคมทูล พระเกื้อกูลเหมือนลูกพระปลูกปั้<WBR>น
    จึงสำเร็จกิจสนองรับรองพลัน <WBR>ปวงข้านั้นขอสมัครด้วยภักดี
    ขอถวายตัวเป็นข้าพระบาท <WBR>เกิดทุกชาติหมายผดุงเจ้ากรุงศรี
    จะรักชาติแม้ต้องตายวายชีวี <WBR>คุณความดีคือบุญอาจหนุนไป
    ข้าขอไปร่วมรบกับพระองค์ <WBR>หมายดำรงเขตแค้วนทั่วแดนไซร้
    แม้ลำบากยากแสนถึงแดนไกล ด้วยหัวใจทุกผู้ยังอยู่ดี
    ขอขอบใจเหล่าทหารลูกหลานเอ๋ย <WBR>หากละเลยวิชาหรือหน้าที่
    เราอาจต้องสิ้นชายอีกหลายปี <WBR>ตัวเรานี่อยู่ได้อย่างไรกัน
    อันหัวใจนักรบถ้าครบอยู่ จะต่อสู้รุกรับสักทัพนั่น
    สามัคคีแล้วล้อมให้พร้อมพลัน <WBR>ให้เสียขวัญไล่ล่าแล้วฆ่ามัน
    หัวใจข้อที่หนึ่งคือพึ่งตน หมั่นฝึกฝนเรียนเลขเหมือนเสกนั่<WBR>น
    ทั้งแขนขายกไวใช้พร้อมกัน <WBR>ดาบฟาดฟันงวยงงล้มลงนอน
    หัวใจข้อที่สองคือว่องไว ตามองไกลชั้นเยี่ยมเตรียมการก่<WBR>อน
    ต้องสังเกตเขารุกมาทุกตอน <WBR>หากอาทรสายหยุดถึงมุดดิน
    หัวใจข้อที่สามควรถามตรง <WBR>ด้วยพระองค์อาจไล่ให้ไกลถิ่น
    ใช้การทูตเจรจาดั่งวาริน <WBR>ศักดิ์สงครามมิสิ้นแผ่นดินไทย
    <WBR>
    ตอนพระเอกาทศรถเตรียมยุ้งฉาง

    พระเอกาทรงประชุมตั้งกลุ่มคิด <WBR>ร่วมชีวิตเหล่าข้าพระบาทไซร้
    ถึงยุ้งฉางเร็ววันเตรียมทันใด <WBR>ถ้าช้าไปข้าวเรี่ยอาจเสียการ
    พระชำนาญเกษตราก็มาด้วย <WBR>ขอจงช่วยเตรียมข้าวเหมือนชาวบ้<WBR>าน
    จะสร้างยุ้งเช่นกรุงอาจยุ่งนาน <WBR>ไม้กระดานสำคัญใช้ปัญญา
    ได้สำรวจตรวจตราเห็นป่าไผ่ อาจพอใช้สักงานแต่มิกล้า
    ถ้าฝนสาดข้าวชื้นคงขึ้นรา <WBR>สิ่งเตรียมมาสูญหายมะลายพลัน
    อันพื้นที่ตรงนี้อาจมีถ้ำ <WBR>อาจลึกล้ำวิเวกปานเสกนั่น
    ถ้าใช้เก็บข้าวดีทุกวี่วัน น้ำฝนนั้นไหลฮอดไม่ลอดมา

    อันเถื่อนถ้ำเห็นดีมีหลังคา <WBR>น้ำนั่นหนาไหลหลากมาจากป่า
    ถ้าถ้ำนั้นลึกไปไกลร้อยวา <WBR>ควรพึ่งพาถ้ำดีเห็นมีชัย
    พระดำรัสว่าควรชวนกันหา <WBR>พวกพรานป่าเขาท่องขึ้นล่องไซร้
    ควรเร่งสำรวจถ้ำออกนำไป ถ้าพบใช่เป้าหมายมารายงาน
     
  11. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนพระนเรศยกทัพออกจากเชียงใหม่<WBR>ไปกิ่วผาวอก

    แรมเก้าค่ำเดือนห้าปีมะเส็ง <WBR>ดวงดาวเล็งสุกสกาวดาวชาวบ้าน
    ดาวแสนไกลเคยสุขอาจทุกข์นาน <WBR>ดาวทนทานดาวเด่นอาจเห็นดี
    ครั้นอาทิตย์ได้ฤกษ์ก็เบิกกลอง เสียงโห่ร้องหมายมุ่งเจ้ากรุงนี<WBR>่
    เสด็จขึ้นประรำทำพิธี <WBR>คุณความดีต้องพรากแล้วจากเวียง
    เสียงประโคมโห่ร้องดังก้องกึก <WBR>คือสำนึกยามไกลต้องไปเสี่ยง
    สุดแสนไกลห้อมล้อมอย่างพร้<WBR>อมเพรียง สุดสำเนียงชาติชายหมายดำรง
    คชลักษณ์งามสง่าคชาภรณ์ <WBR>เหล่านิกรชาวประชาก็มาส่ง
    กราบพระบาทยิ่งด้วยปิตุรงค์ <WBR>แลบรรจงงามล้วนให้ชวนมอง
    ถึงแม่ริมฝั่งชลสู่หนพัก <WBR>ล้วนต้นสักดีหนานกการ้อง
    น้ำปิงงามยามดีเป็นสีทอง <WBR>ผักกาดจองอาหารของล้านนา
    ครั้นรุ่งเช้าประทับกับอาชา <WBR>ออกเดินป่าเชี่ยวชาญทหารกล้า
    สู่แม่แตงที่ประทับมีพลับพลา เนินภูคาเห็นตลอดสอดส่องไพร
    พิกุลแก้วสายหยุดทั้งพุดซ้อน ในสาครงามงดกลิ่นสดใหม่
    พระลงสรงสนานสำราญใจ อันห้องในสุดสงวนมิควรแล
    พระเสวยสุธากระยาหาร สุขสำราญอาหารดีไม่มีแพ้
    พระกำลังทุกตอนไม่อ่อนแอ <WBR>นอนบนแคร่นั่งช้างเดินทางไกล
    อันความเหนื่อยเมื่อยล้าแสนสาหั<WBR>ส อาจขจัดด้วยคุณน้ำอุ่นใช่
    แต่ควรเสริมด้วยทุนสมุนไพร เลือดลมไหลหมุนเวียนเปลี่ยนทั<WBR>นที
    สมุนไพรนั้นดีว่ามีคุณ เภสัชหนุนในเนื้อทุกเมื่อนี่
    เอาตากแห้งมาป่นให้ผลดี น้ำผึ้งนี่ผสมให้กลมกลืน

    ครั้นรุ่งเช้าออกเดินสู่เนิ<WBR>นไพร ลัดเลาะไปพระชมว่าร่มรื่น
    แต่น้ำใสไหลลับไม่กลับคืน <WBR>ท่านขุนหมื่นขี่ม้าจึงมาทัน
    เห็นดอยหลวงเชียงดาวดั่งสาวเลิ<WBR>ศ ว่าบังเกิดอยู่ใต้ทะเลนั่น
    ครั้นเวลานานไปก็ใหญ่พลัน <WBR>มีแรงดันขึ้นมาเหมือนท้าดี
    อันเมฆาลอยวนไม่ชนเขา <WBR>ด้วยเมฆเบาเลาะเวียนแล้วเปลี่<WBR>ยนที่
    ถึงเวลารวมกันในทันที <WBR>เป็นนทีสายชลได้ยลกัน
    อันเจ้าหลวงคำแดงท่านแฝงอยู่ ท่านเฝ้าดูรักษาป่าใหญ่นั่น
    ถึงวันดีชาวเวียงเดินเรียงพลัน กราบพร้อมกันซาบซึ้งได้พึ่งพา
    พระฤาษีสูงวัยอยู่ในถ้ำ <WBR>แสนลึกล้ำสมุนไพรที่ในป่า
    เขาเล่าว่าท่านนำไปทำยา <WBR>ใช้รักษาชีพยงในพงไพร
    เป็นก้อนกลมฝังไว้อยู่ในถ้ำ <WBR>อาจหมายจำค้นหาลวงตาไซร้
    สีน้ำตาลเก่าแก่เห็นแต่ไกล <WBR>กลมเหมือนไข่หินใช่สัตว์ไม่กิน
    เสียงครืนครืนฟ้าร้องดังก้องป่<WBR>า สายฝนฝ่าสาดใส่ยังไม่สิ้น
    ใส่เพิงพักบรรจงไหลลงดิน เป็นวารินไหลหลากลงจากดอย
    อันพืชพันธ์ในดงป่าพงไพร <WBR>น้ำฝนใส่ซับไว้มิใช่น้อย
    เป็นฝนแรกเพราะว่าตั้งตาคอย <WBR>มิอาจสอยไหลหลั่งเช่นดั่งใจ
    เคลื่อนทัพไปสุดตากิ่วผาวอก <WBR>ตามทางบอกต้นยางเป็นทางใหญ่
    มีผึ้งหลวงทำรังทุกย่านไป <WBR>น้ำผึ้งใสเขาว่าคือยาดี
    พระประทับรอฤกษ์ฟ้าเบิกแสง เจ้าคำแดงแปลงกายเป็นชายนี่
    นุ่งกางเกงครึ่งเข่าดูเข้าที กราบลงที่พระบาทไม่ขลาดใจ
    ว่าน้ำผึ้งนั่นหนาคือยาดี <WBR>กระบอกนี้หวานหนาเป็นยาใช่
    พระนเรศรับพลันในทันใด ดื่มลงไปรสหวานสำราญดี
    เจ้าคำแดงว่าตนคือคนป่า <WBR>นานหนักหนาอาศัยอยู่ที่นี่
    ป่าแสนงามรักษาต้นวารี <WBR>สายชลนี่ไหลรินจากถิ่นไพร
    เจ้าคำแดงกราบก้มบังคมบาท <WBR>นฤนาทเห็นหนว่าคนใช่
    ว่าอยู่นานหนักหนารักษาไพร พระแปลกใจหนุ่มน้อยเดินลอยไป


    ไม่เห็นมีวี่แววคนแถวนี้ พูดจาดีความรู้ดั่งผู้ใหญ่
    แม้เสื้อผ้าสีฉานใช่พรานไพร <WBR>สวมเสื้อใหม่ผิดแผกดูแปลกตา
    พระดำรัสตรัสถึงน้ำผึ้งป่า ว่ามีหนาไม่ไกลอยู่ในหล้า
    เมื่อสักครู่มีชายถวายมา แล้วรีบลาเดินลับไปกับตา
    พระวรินทร์ทูลว่าหามีไม่ อันผู้ใดจะเหินเดินผ่านป่า
    ทหารยามเฝ้าดีทุกที่นา แม้เหาะมาก็เห็นฤาเร้นไป
    ฝ่ายทหารบุกค้นดั้นด้นหา <WBR>น้ำผึ้งป่าความหวังคือรังใหญ่
    นั่นผึ้งหลวงถูกเลือกเอาเชื<WBR>อกไป จงจุดไฟหญ้าสดมาทดลอง
    ครั้นพอสายกองทัพเดินลับไป ผ่านต้นไทรใช่ท้าเสียงฟ้าร้อง
    อยู่ทางแยกรากลาลงมากอง <WBR>นกหมายปองลูกไทรสุดไกลตา <WBR>
    อันเส้นทางสุดสายเป็นปลายเขา คือทางเก่าเขาใช้เดินไปป่า
    คนท้องถิ่นสำราญชำนาญนา ชื่อกิ่วผาวอกผาใช่ท้าทาย
    กิ่วผาวอกคือช่องใช่ล่องหน <WBR>สองฝั่งชนสุดเดาว่าเขาหาย
    ทุเลาช้างแสนเปลี่ยวดูเดียวดาย <WBR>จากเมืองงายพบแน่เพียงแค่ไป
     
  12. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนพระนเรศทรงพระประชวร

    อากาศเย็นพลันเปลี่ยนให้เวียนหั<WBR>ว มีหมอกมัวกายเย็นจนเป็นไข้
    มีร้อนเย็นสลับกันในทันใด <WBR>พระพายไซร้หยุดนิ่งทุกสิ่งไป
    เรียกหาหมอจับที่ชีวาจร <WBR>มีความร้อนสูงจัดไข้หวัดใหญ่
    ต้องเร่งค้นคูหาแล้วพาไป ควบคุมไข้สักตอนพอผ่อนคลาย
    พบถ้ำใหญ่ปรับดูเป็นคูหา ทหารมาทันทีห้ามหนีหาย
    ประทับแรมสักหนจนไข้วาย <WBR>ทัพเรียงรายทุกกองเตรียมป้องกัน
    ในคูหาถ้ำไซร้มีไออุ่น อาจเป็นคุณรักษาพร้อมยานั่น
    พระบรรทมพอดีสุดชีวัน <WBR>พักผ่อนพลันสุขสันต์ทั้งวันคืน
    ฝ่ายแพทย์หลวงให้แจ้งพระเอกา <WBR>ว่าจงมารีบกราบมิราบรื่น
    ส่งข่าวไปด้วยม้าชื่อฟ้าฟื้น <WBR>เมื่อถึงยื่นข่าวจ่อส่งต่อไป

    เมื่อฤทธิ์ยาปรับดีจนถี่ถ้วน พระฉวีนวลเห็นชัดสิ้นหวัดใหญ่
    พระดำรัสจะเหินเดินทางไกล <WBR>แม้มีไข้จะไปจนไข้วาย
    ทัพใหญ่เดินทันทีสู่ที่หมาย <WBR>เห็นสุดปลายเขาขวางเป็นทางหาย
    ทุเลาช้างยืนเดียวจนเปลี่ยวกาย <WBR>ใช่ทางหายเขากิ่วเป็นทิวนา
    พระดำรัสตรัสสั่งให้ตั้งทัพ <WBR>สุดลึกลับเมืองแมนทั่วแดนหล้า
    บ้างเป็นภูว่าแปลกแต่แรกมา สูงเสียดฟ้าจัดสรรอย่างบรรจง
    เป็นเทือกเขาแรกเห็นดุจเป็นม่<WBR>าน งามตระการสุขกายพระพายส่ง
    มีผาหินเสียดฟ้าในป่าดง ให้ไหลหลงธรรมชาติดื่นดาษดา

    ตอนพระเอกาทศรถจะเสด็จไปทรงเยี่<WBR>ยมไข้

    อันม้าเร็วข่าวคล่องล้วนว่องไว <WBR>ถึงทันใดเร็วรี่เพราะขี่ม้า
    อักษรไม่ลวงลับอ่านกับตา <WBR>ว่ากายามีไข้แต่ใจดี
    พระทรงทราบข่าวแจ้งแถลงเหตุ <WBR>พระนเรศไข้หนักพักที่นี่
    จงจัดแจงเตรียมกันไปทันที ขึ้นม้าขี่คุ้มครองแลป้องกัน

    ตอนพระนเรศให้ยกทัพไปเมืองหาง

    ยามเช้ามานกเหินพระเดินดง <WBR>จะอยู่ยงมีสุขไร้ทุกข์นั่น
    แม้ถึงที่ต้องตายวายชีวัน <WBR>ไปพร้อมกันฆ่ามันให้บรรลัย
    พระกำหนดที่หมายสายน้ำคง ทัพหน้าจงพร้อมสรรพกับทัพใหญ่
    ถึงแม่น้ำสุขล้ำชื่นฉ่ำใจ <WBR>เตรียมการไว้ให้ดีมีสะพาน







    <WBR>ตอนพระเอกาทศรถทรงม้าไปเมืองหาง (๑)

    พระตั้งใจไปเยี่ยมพระอาการ <WBR>ทรงม้านานสักครู่ผ่านหมู่บ้าน
    มาเจ็บไข้หลายวันถิ่นกันดาร <WBR>ถ้าเนิ่นนานอ่อนเพลียอาจเสียการ
    ทรงม้าเลียบลัดเลาะดั่งเหาะมา ผ่านหุบผาพบสาวลูกชาวบ้าน
    เห็นจุดตรวจเรียงรายล้วนชายชาญ <WBR>เขารายงานวันวานละลานตา
    เห็นพระองค์สำราญพระผ่านไป พร้อมทัพใหญ่เชี่ยวชาญทหารกล้า
    พระเสด็จเลียบลงยังคงคา <WBR>ล้างพักตราสรงสนานสำราญใจ
    แล้วจัดแจงแต่งองค์พระทรงยศ <WBR>งามหมดจรดทุกสิ่งพระยิ่งใหญ่
    พระองค์ขาวรูปงามแม้ยามไกล งามกายใจทรงเดชพระเมตตา
    พระทรงผ่านด่านป่ากิ่วผาวอก <WBR>คือทางออกเชียงใหม่จะไปป่า
    พระทะยานเมื่อสายพระพายพา <WBR>เจรจาที่ด่านขอผ่านไป
    ครั้นถึงค่ายรุ่งเรืองชื่อเมื<WBR>องหาง ก็เหยาะย่างเข้าสู่ประตูใหญ่
    แจ้งออกญาวังเฒ่าจะเข้าไป <WBR>เป็นอย่างไรพูดจาพระอาการ
    มีไข้ขึ้นลงบ้างมิจางหาย ยาละลายเสมหะพระสะท้าน
    ไข้หายไปกลับกันแต่วันวาน <WBR>สุดสงสารถึงคราเวลาไอ
    ก้อนเสมหะสีดำลำพระศอ <WBR>มันเกิดก่อร้อนเย็นจนเป็นไข้
    มีน้ำมูกไม่สบายตอนหายใจ <WBR>มันคัดไซร้อาวรณ์พระนอนดี

    ตอนพระนเรศทรงตื่นจากบรรทม

    พระสดับจิ้งจกทั้งนกกา เป็นภาษานกกาบอกมานี่
    หลับมานานจงตื่นบรรทมที <WBR>นกบอกมีชายงามมาถามใจ
    พระสดับวิหกจิ้งจกทัก นอนนานนักยินเสียงสำเนียงใช่
    พระเจ้าพี่ตื่นแล้วเป็นอย่างไร ตัวน้องไซร้ขอถามเฝ้าตามดู
    อันกำลังวังชานั้นทดถอย <WBR>ว่าเบาลอยจากกายดั่งพรายรู้
    ลมหายใจว่างามเอาตามครู <WBR>อาจช่วยชูทัพนี่ไม่กี่วัน

    ถ้าพี่ถึงต้องตายวายชีวี พระน้องพี่ว่าพลางมือกางกั้น
    พระศพพี่ไปด้วยจะช่วยพลัน พาสู่ฝันอังวะอย่าละอาย
    พระเอกาก้มกราบลงซาบซ่าน <WBR>สุดสงสารพี่ยาน่าใจหาย
    พระฉวีไม่ผ่องพรรณอันตราย โหราทายไม่ดีจากนี้ไป
    พระต้องรีบกลับไปให้ไกลเมือง ถ้ามีเรื่องไม่ดีคนนี้ไซร้
    เป็นจำเลยข้อหาอาจคาใจ ถึงทันใดเมืองงายสุดสายลม

    ตอนพระเอกาทศรถประทับแรมคืนที่<WBR>เมืองงาย

    พระประทับพลับพลาใกล้วาริน <WBR>กระท่อมดินนอนนามีผ้าห่ม
    หลานเจ้าเมืองหุงหาสายตาคม พระชื่นชมว่างามอยากตามไป
    ยามค่ำคืนก่อไฟขอไออุ่น <WBR>อาจเจือจุนผ้านวมควรสวมใส่
    อากาศเย็นทุกที่เรามีไฟ <WBR>ความร้อนในกายาต้องถาวร
    ถ้าร้อนมากเขาเห็นว่าเป็นไข้ ร้อนข้างในคือใจอย่าใฝ่ร้อน
    ร้อนผ้าเหลืองร้อนใจเป็นไฟฟอน <WBR>สุดอาวรณ์กระทำให้ซ้ำใจ
    อันความร้อนพอดีไม่มีไข้ ร้อนจากไฟเผารุมพากลุ้มใหญ่
    ถ้าร้อนที่ยุ่งยากลำบากใจ <WBR>ร้อนทันใดร้อนรนเพราะกลกาม
     
  13. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ตอนพระนเรศเคลื่อนทัพจะไปที่แม่<WBR>น้ำคง(สาละวิน)
    ( วันจันทร์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๑๔๘ ขึ้น ๔ ค่ำเดือน ๖ ปีมะเส็ง)

    ครั้นจัดแผนเสร็จสรรพเคลื่อนทั<WBR>พใหญ่ แม้มีไข้โหราหมอยาห้าม
    พระดำรัสไปสู้ไม่วู่วาม <WBR>จัดช้างงามหนึ่งเชือกจงเลือกมา
    ชื่อวิษณุราชาจัดมาส่ง <WBR>ไม่พะวงสงสัยหนึ่งในหล้า
    คชาภรณ์ประดับงามจับตา งามสง่าพระชอบตรัสขอบใจ
    เสด็จขึ้นสดชื่นพระรื่นรมย์ <WBR>เดินโต้ลมป่าเดียวสีเขียวใช่
    ตำบลเขาเขียวป่าพระพาไป <WBR>บ้างหายใจไม่ทั่วเพราะกลัวกัน

    เอนพระองค์ก้มศอกับคอช้าง สายน้ำค้างทิพย์โปรยลมโชยนั่น
    ควาญช้างผิดสังเกตมีเหตุพลัน สิ้นชีวันโหยหาสุดอาลัย
    เสียงคร่ำครวญสะอื้นหลายหมื่<WBR>นคน สาละวนทั้งผองแทบหมองไหม้
    หัวใจเกือบถึงแหลกแทบแตกไป น้ำตาไทยไหลนองทั่วผองชน
    นี่ผ้าขาวคลุมร่างลงพรางเถิด หันหัวเชิดหากไปก็ไม่พ้น
    คชาธารมีร่างอยู่ข้างบน อาลัยจนลูบหน้าน้ำตานอง
    ออกญาวังสั่งทัพจงกลับไป กำลังใจอาจตกเตรียมปกป้อง
    เขียนข่าวมาส่งกันตามครรลอง <WBR>รับสนองพระบาทไม่คลาดคลา
    ในสาสน์ข่าวแจ้งแถลงเหตุ <WBR>พระนเรศยอดยุทธเก่งสุดหล้า
    พระมาด่วนจำพรากพระจากลา <WBR>นองน้ำตากระเด็นไม่เว้นวัน
    ปวงเหล่าข้าขอเชิญบรมบาท อันพระญาติสายใยผู้ใหญ่นั่น
    ควรจัดการสมเด็จให้เสร็จพลัน น้ำผึ้งนั้นเตรียมมาแต่ป่าดง

    ตอนพระเอกาทศรถทอดพระเนตรสาสน์

    ฝ่ายม้าเร็วแสนคล่องทั้งว่องไว <WBR>ควบม้าใส่อย่างไวจงไปส่ง
    เก็บอย่างดีป้องกันสุดบรรจง กระโดดลงรายงานขอผ่านไป
    ข่าวส่งต่อถึงสุดยังจุดปลาย <WBR>สู่เมืองงายเรื่องราวศูนย์ข่<WBR>าวใหญ่
    แล้วเปิดอ่านเคยชินแทบสิ้นใจ <WBR>นำความไปโดยละม่อมกระท่อมดิน <WBR>
    พระเปิดทอดพระเนตรทราบเหตุพลัน <WBR>รีบเร็วกันล่วงลับพระดับสิ้น
    น้ำพระเนตรไหลบ่าน้ำตาริน <WBR>ร่วงลงดินพี่ยามาลาไกล
    แล้วจัดแจงแต่งองค์พระทรงยศ <WBR>สุดรันทดเมืองหางใช่ทางใกล้
    พระเจ้าพี่มาพรากด่วนจากไป น้องอาลัยถวิลหาน้ำตานอง






    ตอนพระเอกาทศรถทรงม้าไปเมืองหาง ( ๒ )

    พระเอกาทศรถรันทดจิต <WBR>คะนึงคิดวิตกพระปกป้อง
    เหล่าไพร่ฟ้าเขายกให้ปกครอง <WBR>ไทยทั้งผองจงรักด้วยภักดี
    พระดำรัสจัดกองเพื่อป้องกัน สุดชีวันขบวนควรถ้วนถี่
    กองหน้ามีกองหลังระวังดี <WBR>หากภัยมีรุกมาจงฆ่ามัน
    ครั้นเตรียมการเข้าทีดูดีสวย เอื้ออำนวยตลอดปลอดภัยนั่น
    ส่งกองหน้าล่วงตรวจสำรวจกัน <WBR>ข้าศึกนั้นไม่คาดก็อาจมี
    อันเวลากองทัพถึงคับขัน ระวังกันช่วยกันทุกวันวี่
    ควรอดทนสักตอนพระสอนดี <WBR>ว่าเรานี่ยิ่งทุกข์ใช่สุขใจ
    พระเสด็จพร้อมด้วยองครักษ์ ผ่านป่าสักทางเก่าเทือกเขาใหญ่
    ถึงช่องกิ่วผาวอกแล้วออกไป พระปลอดภัยไร้ทุกข์สุขชีวี
    เห็นกองทัพตาลอยเหมือนคอยหา <WBR>พระเอกาที่พึ่งมาถึงที่
    กราบถวายพร้อมกันในทันที ขอภักดีพระบาททุกชาติไป
    พระวิมานดูเด่นเห็นสง่า ในพลับพลาเป็นแดนพระแท่นใหญ่
    กราบถวายบังคมพลันในทันใด <WBR>ชลนัยไหลนองทั้งสองตา
    พระจัดการสรงแลกระแจะจันทน์ พระสุวรรณครอบลงที่ตรงหน้า
    ถึงวันนี้ไม่มีพระพี่ยา <WBR>อโยธยาน้องพี่ไม่หนีไป
    จะดูแลยกพระศาสนา <WBR>จะรักษาขอบเขตประเทศไซร้
    องค์ราชาจะอยู่คู่หล้าไทย <WBR>อย่าห่วงใยจงหายคลายกังวล

    ตอนจัดการพระบรมศพ

    ฝ่ายกองงานจักสานงานไม้ไผ่ <WBR>สุดเต็มใจทุกคนเป็นล้นพ้น
    หลาวไม้ไผ่ชำนาญไม่ลานลน เล็กพอทนแรงดันใช้ชันยา
    แล้วขึ้นรูปตามสั่งคือรังไหม กว้างพอใส่ฝาดีมีทีท่า
    ถ้าเข้านั่งสูงถึงแค่ครึ่งวา พอเพียงข้าซุกกายอยู่ภายใน

    ครั้นสำเร็จชิ้นงานสานไม้ไผ่ <WBR>ช่างลูบไล้ชันยาให้หนาไซร้
    แล้วลงรักปิดทองเป็นยองใย ตรัสพอใจเชื่อถือฝีมือดี
    นั่นน้ำผึ้งหลวงมาจากป่าดอย <WBR>ผ้าผืนน้อยคลี่ทารักษานี่
    แล้วพันรอบพระองค์บรรจงดี <WBR>จงถ้วนถี่ด้วยใจเช่นในวัง
    แป้นวงเดือนขึ้นนั่งระวังนะ เอาองค์พระชิดหลักไม้สักตั้ง
    แล้วบรรจุพระองค์ท่าลงนั่ง ตามรับสั่งขุนศรีว่าดีจริง
    อันน้ำผึ้งได้มาจากป่าดอย ได้ใช้สอยงานนี้นั้นดียิ่ง
    แล้วทรงเทพองามจนน้ำนิ่ง <WBR>ขอประวิงเวลาสักนาที
    พระปิดฝาผ้าพันเอาชันยา <WBR>เพื่อรักษากายามังสานี่
    ลงรักอีกสักนิดปิดทองดี จัดเข้าที่จับจองพระลองใน
    ครั้นสำเร็จกิจหมายพระพายพัด <WBR>ฝ่ายในจัดเต็มที่พิธีใหญ่
    พระบรมโกศขึ้นตั้งพระสั่งไป จัดทันใดไม่ละพระพิธี
     
  14. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เอกอุดมพระราชปณิธาน

      • เอกอุดมพระราชปณิธาน ยั่<WBR>งยืนนานยิ่งใหญ่ไปทั่วหล้า​
      • ครองแผ่นดินโดยธรรมล้ำโลกา <WBR>ชาวประชาทุกผู้ได้อยู่ดี​
      • เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน <WBR>ชาวสยามรักล้นใส่เกศรี ​
      • พระเมตตาบุญญาพระบารมี แปดสิบสี<WBR>่ปีสุขสันต์นิรันดร​
      • อันโครงการสู่ไพร่ฟ้<WBR>าประชาชน ล้วนเป็นผลตามประสงค์<WBR>พระทรงสอน​
      • สร้างแหล่งน้ำเมตตาเอื้ออาทร <WBR>งามบวรวัดวาไร่นาดี​
      • คลองส่งน้ำสู่ไร่นาสร้<WBR>างอาหาร ชลประทานขนาดใหญ่ไฟฟ้<WBR>านี่​
      • ทฤษฎีใหม่หนึ่งเดียวเขียวขจี <WBR>ปลานิลมีพืชสวนครัวไม่กลัวใคร​
      • ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยื<WBR>นนาน สุขสำราญไพร่ฟ้าล้วนหน้าใส​
      • เศรษฐกิจกิจเลื่องลือระบือไกล <WBR>ประชาไทยสุขหนอความพอเพียง ​

      • พลตรีพิจิตร ขจรกล่ำ : ร้อยกรอง
      • ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2011
  15. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    คืนนี้ ช่วงรอยต่อของวันที่ ๑๕ กับวันที่ ๑๖ มิ.ย. ตั้งแต่ตอนตี ๑ กว่าๆ เป็นต้นไป อย่าลืมตื่นขึ้นมาดู "พระจันทร์สีเลือด" นะครับ เหตุที่เป็นสีเลือดก็เพราะพระจันทร์ถูกเงาโลกบังมิดทั้งดวง แต่พระจันทร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ ก็ยังคงส่องแสงแยงม่านฟ้าเหมือนเดิม จึงเห็นผ่านเงามืดเป็นสีเลือด หรือสีแดงอิฐ
    ครับ...ผมไม่มีความรู้ด้านศาสตร์จักรวาลและดวงดาวหรอกครับ อาศัยอ่านเอา นี่ก็อ่านจากสารคดีหนังสือพิมพ์ข่าวสด ที่เขาไปรวบรวมมาจากการแถลงข่าวของ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รอง ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และอาจารย์วรเชษฐ์ บุญปลอด จากสมาคมดาราศาสตร์ไทย
    เห็นคืนนี้จะเกิด "จันทรคราส" ในแบบอมมิดเต็มดวง แถมอมยาวนานเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ๔๐ นาที เรียกว่าเกือบ ๒ ชั่วโมง ไม่อยากให้ท่านนอนหลับทับคราสน่ะ ก็เลยนำมาบอก เผื่อท่านจะได้ดับไฟใส่กลอนนอนแต่หัวค่ำ แล้วลุกตื่นขึ้นมากลางดึกตอน ๒ ยามกว่าๆ
    มาแหงนหน้าถ่างตาดูพระจันทร์สีเลือดน่ะครับ เพราะนานปีทีหนจะมีให้เห็น ครั้งนี้ให้เห็นเป็นครั้งแรกในรอบ ๔ ปี แถมเป็นราหูอมจันทร์ที่อมยาวนานทำลายสถิติตั้งแต่มีมาในเมืองไทย ถ้าเอาแต่นอนจนอดดู ท่านก็ต้องรอไปอีก ๕-๖ ปี
    โน่นแน่ะ รอไปจนถึงวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖!
    ฉะนั้น คืนนี้ลืมได้แต่พลาดไม่ได้ ไม่ว่าท่านอยู่จังหวัดไหน ทิศไหนของประเทศ ตี ๑ ถึงตี ๔ ตื่นขึ้นมา รีบแหงนหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
    แล้วท่านจะพบกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ชวนพิศวงงงงวย โดยดวงจันทร์วันเพ็ญเข้าสู่เงามืดของโลกจนมิดดวง มองเห็นเป็น...พระจันทร์สีเลือด เป็นเวลายาวนานร่วม ๒ ชั่วโมง
    ส่วนหมาจะหอนทั้งเมืองเหมือนที่เกิดคราสทุกครั้งหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ ถึงหอนก็คงหอนประเดี๋ยว-ประด๋าว ขืนหอนต่อเนื่องยาวนานร่วม ๒ ชั่วโมง
    หมาขากรรไกรค้างหมดประเทศแหงๆ!?
    นอกจากเห็นจันทร์สีเลือดจากจันทรคราสแล้ว ยังจะเห็น "ทางช้างเผือก" บนท้องฟ้าด้วย เรียกว่าปรากฏการณ์คืน ๑๕ ต่อ ๑๖ มิ.ย.นี้ ลด-แลก-แจก-แถม ครบเครื่อง ดร.ศรัณย์ท่านบอกว่า
    "ขณะที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าไปในเงาของโลกเกือบเต็มดวงนั้น ดวงจันทร์ยังเคลื่อนที่ไปบังดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า 51 Ophiuchi หรือดาว ๕๑ คนแบกงู โดยดาว ๕๑ คนแบกงูนี้ จะเริ่มหายเข้าไปหลังดวงจันทร์สีแดงอิฐในเวลาประมาณ ๐๒.๐๘ น. และจะโผล่พ้นดวงจันทร์ออกมาในเวลาประมาณ ๐๒.๑๒ น. ดาวฤกษ์ Ophiuchi นี้ เป็นดาวฤกษ์สีขาว อยู่นอกระบบสุริยะ มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มาก แต่อยู่ไกลจากโลกมากถึง ๔๔๖.๓๕ ปีแสง ดังนั้น เราอาจมองเห็นดาวฤกษ์นี้ด้วยตาเปล่าได้ไม่เด่นชัดมากนัก"
    เอ้า...ก็มาดูกำหนดการของจันทรคราสกันชัดๆ ซักนิด
    ๐๐.๒๕ น.จันทร์เริ่มแตะเงามัว
    ๐๑.๒๒ น.จันทร์สัมผัสเงามืดโลก ขอบเริ่มแหว่ง
    ๐๒.๐๐ น.จันทร์ถูกอมครึ่งดวง
    ๐๒.๒๒ น.จันทร์ถูกอมมิดทั้งดวง
    ๐๓.๑๓ น.จันทร์ใกล้ศูนย์กลางเงาโลกมากที่สุด จนคล้ำดำมืดมากที่สุด
    ๐๔.๐๓ น.สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง
    ............


    แหล่งที่มา : http://www.thaipost.net/news/150611/40223
     
  16. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    จากเรื่องของพระจันทร์สีเลือด ในคืนนี้ (คืนวันที่ 15 มิถุนายน 2554) ก็มีคำถามครับ

    "พวกเรา...จะไม่ช่วยพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองประเทศไทยแล้วหรือครับ?"

    เป็นคำถามจากคุณ กนก รัตน์วงศ์สกุล ครับ ท่านใดสนใจคลิกตาม link นี้ครับ

    Politics - Manager Online - ���� �ѵ��ǧ��ʡ�Ŕ ��Դ˹�Ҫ� ���¹ŧ FB ���������ǡ������ͧ�ִ��������”
     
  17. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466



    ...คำสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์เมื่อเย็นวันที่ ๑๔ มิ.ย.๕๔ ยังมีอีกบางส่วนที่ผมเห็นว่าสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราคนไทยทั้งหลาย ควรนำคำพูดของท่านไปใคร่ครวญให้จงหนัก ผมจะยกจากข่าวมาให้ท่านอ่านอีกครั้ง ดังนี้
    "ฝ่ายความมั่นคงพบว่า ขณะนี้มีการทำผิดกฎหมายเรื่องสถาบันมากขึ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับสถาบันด้วย พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่างอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญมาโดยตลอดตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ ในวิธีการตามปกติตามประชาธิปไตย แน่นอนมีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่งต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเป็นวิธีการตามปกติ
    แต่วันนี้ไม่ปกติ ผมจึงจำเป็นต้องออกมาพูด หรือทหารต้องออกมาเคลื่อนไหวบ้าง ไม่ใช่ว่าทหารเป็นพวกที่ผูกขาดความจงรักภักดี แต่ในฐานะที่ทหารเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องพิทักษ์ปกป้องการปกครองอันเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สถาบันทรงมีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน พระองค์ไม่เคยลงไปเกี่ยวข้องในเรื่องใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่พระราชกรณียกิจของท่าน
    ผมเสียใจ ตรงที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มซึ่งไม่ปกติ กระทำผิดเรื่องนี้มีมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเลือกตั้ง โดยคนกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกลุ่มคนที่อยู่ต่างประเทศ เช่น นาย............., นาย.......... ผมพูดได้ ผมไม่กลัวที่จะพูด เพราะเขาทำผิดกฎหมายหลายฉบับ และพยายามทำให้สถาบันเสียหาย ซึ่งเกี่ยวพันยึดโยงคนอีกกลุ่ม ผมถือว่าเรายอมไม่ได้
    ดังนั้น ต้องออกมาช่วยกันดูแลพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านไม่เคยขอความเข้าใจจากใครได้ พระองค์ท่านไม่เคยมาตอบคำถามใครได้ แต่สิ่งที่กล่าวอ้างทั้งหมด ผมดูแล้วไม่เป็นธรรมและไม่สุภาพ สังคมต้องไปดูว่าเกิดจากที่ไหน อย่างไร เกี่ยวพันเรื่องใด ทำไมถึงมากขึ้นในตอนนี้ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก สื่อสิ่งพิมพ์โฆษณา ทั้งหมดระดมขึ้นมาช่วงเลือกตั้ง ผมถามว่าควรจะเกิดขึ้นหรือไม่ในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนหน้านี้ก็ตาม เพราะสถาบันไม่เคยลงมาสั่งให้ใครทำโน้นทำนี่....


    แหล่งที่มา : คำให้สัมภาษณ์ของท่านผู้บัญชาการทหารบก ทางสถานีโทรทัศน์ เมื่อ วันที่ 14 มิ.ย.54 รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จาก
    "ทหารต้องออกมาเคลื่อนไหวบ้าง" | ไทยโพสต์
     
  18. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    รับรองจารึกวัดโพธิ์มรดกโลก

    <!-- main-content-block --><!--16 มิถุนายน 2554 - 00:00-->16 มิถุนายน 2554 - 00:00


    ยูเนสโกประกาศรับรองจารึกวัดโพธิ์เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกแล้ว เผยมีทั้งหมด 1,440 ชิ้น คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกฯ นัดแถลงข่าว
    คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก ขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ว่า ตามที่คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกฯ ได้เสนอจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ ต่อยูเนสโก เพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาตินั้น ขณะนี้ได้รับรายงานจาก ม.ร.ว.รุจยา อาภากร กรรมการในคณะกรรมการว่าด้วยแผนงานมรดกความทรงจำของไทย ว่ายูเนสโกได้ประกาศรับรองจารึกวัดโพธิ์เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกในทะเบียนนานาชาติ (International Register) แล้ว ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษานานาชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกของยูเนสโก ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่าน ณ เมืองแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร
    ......................


    คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกฯ จะแถลงข่าวเรื่องดังกล่าววันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน เวลา 14.00 น. ณ ศาลาธรรมปัญญาบดี ที่วัดโพธิ์.


    แหล่งที่มา : http://www.thaipost.net/x-cite/160611/40258
     
  19. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    คำเตือนที่ต้องอ่าน
    เรื่อง การส่งต่อ Forward Mail
    จาก DSI พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน
    เรียนท่านผู้ใช้ อีเมล์และอินเทอร์เน็ต ที่เคารพทุกท่าน
    ทุกครั้งที่ท่าน รับ-ส่ง อีเมล์ กรุณาใช้วิจารณญาณด้วยว่า ข้อความ หรือ ภาพ นั้น จะเท็จ จะจริง หรือไม่ อย่างไรก็แล้วแต่
    1. อาจก่อความเสียหายให้ ผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่
    2. อาจสร้างความตื่นตระหนก ตกใจกลัว แก่คนทั่วไปหรือไม่
    3. อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ สถาบัน หรือเป็นความผิดด้านการก่อการร้าย หรือไม่
    4. มีเนื้อหา ภาพ อันเป็นลามก หรือไม่
    หากท่านคิดว่าใช่ แต่ก็ยัง เผยแพร่ ส่งต่อ(Forward) ยังไปพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติมิตร ด้วยกลัวว่า บุคคลเหล่านั้น อาจตกข่าว และท่านเองอาจคิด ภูมิใจ ไปว่า เป็นคนแรกๆที่รู้ข่าว และเอื้อเฟื้อต่อ ญาติมิตร หรือท่านอาจนำ ข้อความ หรือ ภาพ ที่ได้รับมานั้น นำไปเผยแพร่ลงใน เว็บบอร์ด ในเว็บไซต์ต่างๆ นั้น
    ท่านทราบหรือไม่ว่า ท่านอาจทำผิดกฎหมาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการ และด้วยความไม่รู้ทางเทคนิค อาจนำภัย ไปสู่ พรรคพวก เพื่อนฝูง ที่ได้ส่งข้อความ ภาพ นั้น มายังท่านด้วยเพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าง่ายว่า ใครส่งต่อไปหาใคร ใครได้รับ แล้วส่งต่อไปหาใครต่อ....อาจต้องรับโทษ จำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    เพราะ ตามกฎหมายใหม่ " พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550" ได้กำหนดโทษเกี่ยวกับ การนำเข้า/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม ไว้ดังนี้
    มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    1. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
    2. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
    3. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
    4. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
    5. เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม 1,2,3 หรือ 4
    สรุป
    ดังนั้น ทุกครั้งที่ท่านได้รับ อีเมล์ ข่าว เนื้อความ หรือ ภาพ มาจากอินเทอร์เน็ตก่อนที่ท่านจะเผยแพร่ ส่งต่อ(Forward) ยังไปพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติมิตร หรือท่านจะนำ ข้อความ หรือ ภาพ ที่ได้รับมานั้น ไปเผยแพร่ลงใน เว็บบอร์ด ในเว็บไซต์ต่างๆ นั้น
    กรุณาใช้วิจารณญาณ ก่อนด้วยว่า ไม่ว่า ข้อความ/ ภาพ นั้น จะเท็จ จะจริง หรือไม่อย่างไรก็ตาม
    1. อาจก่อความเสียหายให้ ผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่
    2. อาจสร้างความตื่นตระหนก ตกใจกลัว แก่คนทั่วไปหรือไม่
    3. อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ สถาบัน หรือเป็นความผิดด้านการก่อการร้าย หรือไม่
    4. มี เนื้อหา/ภาพ อันเป็นลามก หรือไม่
    ถ้าคิดแล้ว เห็นท่าจะไม่ค่อยดี ก็อย่า Forward ไปเลยครับ ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านและพรรคพวก เพื่อนฝูง ของท่าน อาจกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการ ตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (5)
    ด้วยความเคารพ
    พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน
    ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ
    กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กระทรวงยุติธรรม
     
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ได้คำตอบสำหรับคำถามที่เคยสงสัยแล้ว เพราะสักครู่นี้ได้คุยกับพระอาจารย์มหาฤทธิชัย ท่านบอกว่าทองกรที่ว่านี้มาจากกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา แต่ตอนนี้องค์จริงอยู่ในตู้เซฟ ที่ท่านได้เห็นต้นแบบ เป็นทองที่จำลองมาทอดหนึ่งแล้ว ท่านก็นำมาจำลองจากองค์จำลองอีกที องค์จริงมีผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์เนื้อทองว่าเป็นทองเก่าประมาณ 400 ปี ก็น่าจะเป็นไปได้อย่างสูงมากที่จะมีทองของพระมหากษัตริย์และเจ้านายในยุค 400 ปีก่อนฝังอยู่ในกรุวัดราชบูรณะด้วย

    คิดว่าในการคุยกันในแง่ของประวัติศาสตร์นั้นต้องคุยกันตามหลักฐาน หากไม่มีหลักฐานก็อาจจะถือได้ว่าเป็นความคิดเลื่อนลอย หาจุดสิ้นสุดในความคิดไม่ได้ อันเป็นเหตุให้ติดนิวรณ์ข้ามวันข้ามปี ข้ามภพข้ามชาติ ต่อเมื่อกระจ่างสว่างโล่แล้ว จึงหมดสงสัย หมดนิวรณ์ไม่ติดค้าง ดังนั้นกระทู้นี้ทางสายธาตุจึงจะเป็นแบบคุยอยู่ในกรอบเท่านั้นค่ะ เพราะถือว่าเป็นการคุยในที่สาธารณะ โดยเขียนไปตามหลักฐานที่พอจะหาได้เท่านั้น

    วันนี้ขอเขียนเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ หลังจากงานศพคุณแม่แล้ว ดิฉันยังติดอาลัยอาวรณ์ท่านอยู่มากทีเดียว อาจจะหลังเลือกตั้ง วันที่ 3 ก.ค.ไปแล้วมังคะ จึงจะเขียนต่อ เพื่อให้หลายท่านมั่นใจว่าข้อเขียนของทางสายธาตุไม่เกี่ยวข้องด้วยเรื่องการเมือง จึงขอยุติการเขียนไว้แค่นี้ก่อน ต่อเมื่อการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว จึงจะกลับมาเขียนอีกค่ะ

    คิดถึงทุกท่านค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...