การฝึกกสิณ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 ธันวาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    1BC579A0-7A6F-4279-B59D-1CD08BF3DB63.jpeg

    สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงยังอยู่นั้น ท่านปรารภในเรื่องของการฝึกกสิณ เพราะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพที่บ้าเลือดที่สุด กว่าจะฝึกกสิณแต่ละกองได้ก็แทบจะเลือดตากระเด็น เพราะว่าไม่มีความเข้าใจ อย่างเช่นว่าการกำหนดภาพกสิณ ก็ใช้วิธีนั่งจ้อง พอจ้องนาน ๆ ไปก็แสบตา น้ำตาไหล เป็นต้น กว่าที่จะทำได้ถูกก็แทบที่จะต้องจ้องกันจนตาทะลัก..!

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าคำว่า "เพ่ง" ในที่นี้นั้น เป็นการเอาใจกำหนดจดจำภาพกสิณ ลืมตามองภาพ ตั้งใจจำไว้แล้วหลับตานึกถึง พร้อมกับคำภาวนา เมื่อภาพนั้นเลือนหายไป ก็ลืมตามอง ตั้งใจจำใหม่ หลับตาลง นึกถึง ทำอย่างนี้เป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง จนกระทั่งลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น แล้วทำการประคับประคองภาพกสิณนั้นเอาไว้ ให้อยู่กับเราทั้งหลับ ทั้งตื่น ทั้งยืน ทั้งนั่ง

    ช่วงนั้นกิเลสรัก โลภ โกรธ หลงอะไรจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย เพราะว่าถ้าพลาดเมื่อไรภาพกสิณก็หายไป กระผม/อาตมภาพเคยปรารภกับพระพี่พระน้องในยามที่มาคุยกันถึงการปฏิบัติว่า ยิ่งกว่าเลี้ยงลูกแก้วบนปลายเข็มอีก พลาดเมื่อไรก็ตกแตกเป๊ะ..! ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่

    เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเห็นวิธียากขนาดนั้น จึงกราบขออนุญาตองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วนำมาเอาพระคาถาสัมปะจิตฉามิมาให้พวกเราได้ภาวนากัน โดยที่ท่านกำหนดว่า

    อันดับแรกเลย ให้ขึ้นนะโมฯ ๓ จบ เป็นการบูชาพระรัตนตรัย แล้วสวด อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ อย่างน้อย ๑ จบ จากนั้นถึงได้เริ่มกำหนดคำว่า สัมปะจิตฉามิ พร้อมกับลมหายใจเข้าออกไปเรื่อย ๆ

    ท่านยืนยันว่าพระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ถ้าใครตั้งใจทำจริง ถ้ากำลังถึงที่สุด สามารถแสดงฤทธิ์ได้เหมือนกับการฝึกกสิณ ๑๐ โดยตรง

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...