กราสร้างบุญบารมี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย toomdoi, 21 มกราคม 2011.

  1. toomdoi

    toomdoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +839
    บุญ เครื่องชำระสันดาน, ความดี, กุศล, ความสุข, ความประพฤติชอบทางกายวาจาและใจ, กุศลธรรม

    บารมี คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงยิ่ง มี ๑๐ คือ ทาน, ศีล เนกขัมมะ, ปัญญา, วิริยะ, ขันติ, สัจจะ, อธิษฐาน, เมตตา, อุเบกขา
    วิธีสร้างบุญบารมีในพระพุทธศาสนามีอยู่ ๓ ขั้นตอนคือการให้ทาน การถือศีล และการเจริญ ภาวนา ที่นิยมเรียกกันว่า "ทาน ศีล ภาวนา" ซึ่งการให้ทานหรือการทำทานนั้น เป็นการสร้างบุญที่ต่ำที่สุด ได้บุญน้อยที่สุด ไม่ว่าจะทำมากอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากไปกว่าการถือศีลไปได้ การถือศีลนั้นแม้จะมากอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากเกินไปกว่าการภาวนาไปได้ ฉะนั้น การเจริญภาวนานั้น จึงเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด ได้มากที่สุด ในทุกวันนี้เรารู้จักกันแต่การให้ทานอย่างเดียว เช่นการทำบุญตักบาตร ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สละทรัพย์สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ส่วนการถือศีล แม้จะได้บุญมากกว่าการทำทาน ก็ยังมีการทำเป็นส่วนน้อย เพื่อความเข้าใจอันดี จึงขอชี้แจงการสร้างบุญบารมีอย่างไรจึงจะเป็นการลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้บุญบารมีมากที่สุด ดังนี้คือ "ทาน ศีล ภาวนา"
     
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ขั้นบันไดของการทำความดีก็คือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นอย่างนี้ก็จริง แต่ไม่ใช่หมายความว่า การทำทาน จะทำอย่างไรก็สู้การรักษาศีลไม่ได้ สู้การภาวนาไม่ได้ มันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป

    ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. ทำบุญ ทำแบบไม่หวังผลจะต้องถูกล็อตเตอรี่เป็นร้อยล้าน ทำเพื่อสงเคราะห์ ทำเพื่อค้ำจุนพระศาสนา ทำเพื่อสละ ทำแล้วก็วาง ทำแล้วก็วาง.....

    กับนาย ข. ภาวนาหลับตาปี๋ แต่ที่เค้าปฏิบัติ เค้าปฏิบัติแบบผิดๆ เข้าใจผิด ยิ่งทำยิ่งยึดมั่น ยิ่งทำยิ่งถือมั่น

    อย่างนี้ถามว่าใครจะได้บุญมากกว่ากัน

    เพราะฉะนั้น เรื่องบางเรื่อง มันมีปัจจัย มีตัวแทรก อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจก็ได้

    จริงๆ เมื่อทำจนถึงที่สุด ก็จะพบว่า ทาน ศีล ภาวนา นั้นเกื้อหนุนกัน

    พระอนิรุทธ์เถระถวายประทีปแก่พระพุทธศาสนา และด้วยกำลังแห่งทานนั้น ส่งผลให้พระอนิรุทธ์เถระมีทิพยจักขุญาณแจ่มใส

    ด้วยผลแห่งทาน ทำให้เกิดมาในชาตินี้มีทรัพย์ มีสมบัติ ไม่ต้องอดอยากจนถึงขนาดไปลักขโมยใครเพื่อความอยู่รอด เพื่อเสาะแสวงหาอาหารใส่ท้อง

    และด้วยผลแห่งทาน ที่ทำไว้กับพระสุปฏิปันโน ย่อมส่งผลให้พระสุปฏิปันโนมาเกื้อหนุน มาช่วยเหลือ มานำทาง ให้ปฏิบัติดีให้ปฏิบัติชอบ

    นี่แหละคือความสัมพันธ์ระหว่าง ทาน ศีล ภาวนา
     
  3. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ทาน ศิล ภาวนา ทุกอย่างล้วนเกื้อหนุนกัน เราควรทำให้ถึงพร้อมทุกอย่าง

    เพราะอานิสงค์ ของทาน ศิล ภาวนา นั้่นก็ไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าการภาวนา

    มีอานิสงค์สูง เพราะทำให้เข้าสู่นิพพานอันเป็นเป้าหมายสูงสุดได้ แต่เราไม่ควรคิดว่า

    ทานมีอานิสงค์ต่ำสุดเลยล๊ะเลยไม่สนใจทำ เพราะถ้าเราไม่รู้จักการทำทาน เสียสละ

    ถ้าชาตินี้ยังไม่นิพพาน ชาติหน้าก็อาจเกิดมามีความยากจนขัดสน มีชีวิตอย่าง

    ลำบาก และอานิสงค์ของการทำทานอีกอย่างคือ การขัดเกลาอนุสัย คือความโลภ

    หรือความตระหนี่ ..ฉนั้นเพื่อความไม่ประมาท ก็ทำทุกอย่างไปพร้อมๆกันครับ

    เกิดมาแล้วจะได้มี ชิวิตที่สมบูรณ์ มีร่างกายที่สมประกอบสวยงาม มีปัญญาดีได้

    เจอพุทธศาสนาได้มาภาวนา ในชาติต่อๆไปจนจบกิจพระนิพพาน....
     

แชร์หน้านี้

Loading...