@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 57 - 1.jpg
      57 - 1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      5,612
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    ประโยชน์ของการสัพเพนำไปสู่กรรมฐานแบบง่ายๆ

    <iframe width="640" height="480" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/TnptfOYBVSk?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



    ....เมตตากรรมฐาน พรหมวิหารสี่ เจริญไปจนถึงอัปปมัญญาพรหมวิหาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 สิงหาคม 2015
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]


    ทำแล้วอย่าไปกลัว ถ้ากลัวอย่าไปทำ...

    ..มุ่งมั่นสวดมนต์ เชื่อมั่นและศรัทธาในหลวงปู่ ยึดธรรม

    หลวงปู่จะกล่าวเสมอว่า “ที่แกปฏิบัติอยู่ ให้รู้ว่าไม่ใช่เพื่อข้า แต่เพื่อตัวแกเอง” ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]



    .......ทำกรรมดีในปัจจุบัน ให้มากที่สุด

    อย่ากังวลกรรมในอดีต
    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 สิงหาคม 2015
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    ถาม..ทราบได้อย่างไร ว่าจิตได้ฐานแล้ว มีฐานแล้ว



    ตอบ....จิตไม่หวั่นไหวกับอารมณ์อกุศล มีความตั้งมั่นมากขึ้น

    ยิ่งตั้งมั่นในฐานได้มาก ยิ่งสามารถยิ้มและแผ่พรหมวิหารกลับไปได้ซะด้วยซ้ำไป
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    <iframe width="640" height="480" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/TLokfpcd9g4?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]



    ชั้นตอน และวิธีการอธิษฐาน ในการเทพระผงจักรพรรดิ

    << @@@ ---วิธีการเทพระผงจักรพรรดิ---@@@>>
     
    เนื่องด้วยหลายท่านได้รับแม่พิมพ์พระจากโครงการ "สานกระแสจักรพรรดิ รวมใจสร้างพิมพ์พระ รวมกำลังสร้างพระพิมพ์ " ...แต่ยังไม่เคยเทพระผงจักรพรรดินี้มาก่อน
     
    เป็นที่ทราบกันดีว่า...ปัจจุบันได้มีหลายๆท่านได้สนใจที่จะเริ่มสร้างพระผงจักรพรรดิด้วยตนเองกันมากขึ้น  แต่ก็มีอีกหลายๆท่านที่มิได้เรียนวิธีการเทพระนี้มาโดยตรง เพียงแต่มีปฏิปทาตั้งมั่นที่จะเทพระ เพื่อจุดประสงค์หลักคือ  “สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา” นั่นเอง
     
    ผมได้มีโอกาสเทพระผงนี้อยู่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ   แต่ด้วยภาระกิจต่างๆ ประกอบกับเป็นโรคภูมิแพ้ฝุ่นปูน ฝุ่นซิเมนต์อย่างรุนแรง  จึงต้องขอยุติการเทพระไปก่อน....และในโอกาสนี้ พี่วิษณุ ...ซี่งเป็นศิษย์หลวงตายุคแรกๆ และได้เทพระผงจักรพรรดิมามากมาย โดยปัจจุบันเทวันละ 2,200 องค์....ได้เมตตาแนะนำขั้นตอนและเคล็ดไม่ลับเล็กๆน้อยๆ มาฝากกันนะครับ....ลองมาติดตามกันนะครับ....
     
    << ขั้นตอนการเตรียมแม่พิมพ์...>>
     
    1) หลังจากที่ได้แม่พิมพ์มาใหม่....  ให้นำมาเป่าหรือปัดฝุ่นทำความสะอาดเบื้องต้น  และให้นำซิเมนต์ขาวที่เตรียมไว้  มาทาลงบนแม่พิมพ์นั้น โดยอัดให้เข้าไปตามซอกเล็กๆให้หมด....ทั้งนี้เพื่อเป็นการล้างวาสลินที่ทาไว้ในช่วงการทำแม่พิมพ์   ออกจากผิวยางแม่พิมพ์
     
    2) หลังจากนั้นให้เคาะแม่พิมพ์ เอาซิเมนต์ขาวออก ....พร้อมกับแช่แม่พิมพ์ลงในน้ำผสมน้ำยาล้างจาน   โดยผสมให้มีสีเข้มหน่อยนะครับ...แช่ไว้อย่างต่ำ 4 ชม. หรือถ้าให้ดีก็ทิ้งไว้ข้ามคืนเลยก็จะดี
     
    3) ก่อนนำมาใช้งานให้ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง  จากนั้นก็เตรียมการเทพระได้เลย....
     
     
     
    1)กรณีที่เพิ่งจะเริ่มการเทพระครั้งแรก...
     
    1.1)ให้เตรียมสิ่งของดังนี้....
     

    ผงจักรพรรดินี้.....อาจจะได้มาจากหลวงปู่ หลวงตา หรือมีผู้นำมอบมาให้อีกต่อหนึ่ง จะสังเกตได้ว่าที่ผง จะมีลักษณะเป็นผงสีขาว มีเกล็ดละเอียดๆสะท้อนแสง ....คล้ายแก้วบ้าง.... คล้ายเปลือกหอยบ้าง อันนี้แล้วแต่ที่มานะครับ...โดยส่วนตัวผมจะเก็บผงที่ได้จากการรวมพระผงจักรพรรดิใส่ในถุง  จะสังเกตว่าจะมีผงสีขาวหล่นอยู่ก้นถุงทุกครั้ง...นี่แหละครับนำมาเป็นเชื้อ เป็นผงจักรพรรดิที่จะใช่หล่อพระต่อไปได้ทันที.....จุดนี้ให้เก็บไว้ทุกครั้งที่เรามีการหล่อพระ เรียกว่าเก็บให้เรียบอย่าให้เหลือครับ...
    ในกรณีที่หาผงไม่ได้เลย....แต่มีพระผงจักรพรรดิอยู่องค์หนึ่ง...มีทางเลือกอยู่ 2 ทางครับ...
     
          1.1.7.1) การขูดผงด้านหลังองค์พระ......ให้อธิษฐานจิต ประนมมือขึ้นแล้วอธิษฐานว่า.....
    “....ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน ..ที่จะสร้างพระผงจักรพรรดิขึ้น เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา..หากแต่ข้าพเจ้าไม่มีผงจักรพรรดิที่จะใช้ในการหล่อพระในครั้งนี้...ข้าพเจ้าขออนุญาตนำผงจากองค์พระนี้เพื่อไปสร้างบุญ ต่อกุศล ให้ปรากฏเป็นอานิสงส์ใหญ่ แผ่ไปทั่วสามแดนโลกธาตุ...ขอพระทุกพระองค์โปรดจงงดโทษ เว้นภัย แก่ข้าพเจ้านี้ด้วยทอญ... โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะ ปาปัง วินาสสันตุ...”
    จากนั้นให้ใช้มีด หรือช้อนโลหะเล็กๆขูดที่ด้านหลังพระผงนั้น ให้ได้ผงสีขาว ประมาณ 1 หัวไม้ขีด...ก็เพียงพอแล้ว
    อย่าลืมว่า...ระหว่างขูดผง ให้สวดพระคาถามหาจักรพรรดิด้วยนะครับ ...สวดจนขูดเสร็จละครับไม่จำกัดจำนวนรอบ...
    การเตรียมผงนี้ให้ทำในครั้งแรกที่เริ่มเทพระครั้งเดียว...และในครั้งต่อไปให้เก็บเศษผงที่เหลือจากการเทพระนั้นไว้เป็นชนวน เป็นเชื้อ ที่จะเทพระครั้งต่อไปนะครับ
     
            1.1.7.2)  การนำพระผง หรือ วัตถุมงคลต่างๆที่ได้รับการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า หรือครูบาอาจารย์สายหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ...เช่น พระขรรค์  พระเครื่องเนื้อโลหะ  เนื้อดิน หรือเนื้อผง  ประคำ  แหวน  จักร  พระพุทธรูป  ฯลฯ
    ให้นำวัตถุมงคลทั้งหลายนั้น...วางลงในขันน้ำมนต์ หรือ ภาชนะที่เหมาะสม....โดยจะต้องเทน้ำสะอาด หรือน้ำมนต์นั้นไว้ก่อนแล้ว...จึงจะนำวัตถุมงคลนั้นวางลงไปในขันหรือภาชนะนั้นๆ  ...พูดง่ายๆคือ ใส่น้ำก่อน แล้วค่อยวางวัตถุมงคลลงไปแช่
    โดยถ้าวัตถุมงคลนั้น มีการเลี่ยมกรอบพลาสติกไว้ ก็ไม่จำเป็นต้องแกะออกนะครับ...พลังงาน หรือกระแสพระจักรพรรดิไม่ถุกกั้นด้วยพลาสติกนะครับ
    บางท่านอยากให้ดูขลัง....จะเอาเทียนน้ำมนต์มาหยดระหว่างทำพิธีก็ได้นะครับ สุดแท้แต่ความถนัด และความชอบส่วนบุคคล
    จากนั้นให้นำจัดวางไว้ในพิธีที่จะเตรียมต่อไปนี้ครับ...
    ***โดยส่วนตัว...ผมแนะนำวิธีนี้นะครับ  จะได้ไม่ต้องไปขูดองค์พระให้เสียผิวพระ ***
     
      1.2) การจัดโต๊ะบูชา ....
     
    ให้ใช้โต๊ะพับแล้วมีผ้าขาวปูรองรับก็ได้  ถ้าไม่มีผ้าขาวก็หากระดาษขาวปูรองหลายๆแผ่นก็ได้...ถ้าไม่มีอีกก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องมีอะไรรองก็ยังไหว.... นำดอกไม้ใส่ในแจกัน ....หรือถ้าไม่มีแจกัน ก็ให้หาถาดมาวางรองรับ  ไม่มีถาด จะเอาจานก็ยังดีครับ
    นำเทียนปักลงบนเชิงเทียน....ไม่มีก็เอาแก้วน้ำคว่ำลง แล้วหยดน้ำตาเทียน เอาเทียนใหม่นี้ติดที่ก้นถ้วยก็พอได้ครับ
    นำกระถางธูป.....จัดวางไว้ด้านหน้าระหว่างเชิงเทียนทั้งสอง....หรือถ้าไม่มีก็เอาแก้วน้ำใส่ ดิน ทราย หรือข้าวสาร ก้ได้ครับ ขอให้ปักธูปได้ก็พอ
    ถ้ามีบายศรี หรือมีเครื่องบูชาสังเวย ......ที่เป็นผลไม้เป็นหลัก ( ห้ามมีของคาว) ก็ให้จัดวางตรงหน้า และอยู่ด้านหลังกระถางธูป และ เชิงเทียน ...ส่วนบายศรี ให้วางไว้ซ้าย – ขวา ตำแหน่งใกล้ๆเชิงเทียน
    ให้นำแม่พิมพ์ที่จะใช้......ให้วางไว้กลางโต๊ะ คู่กับน้ำมนต์จักรพรรดิ  และ/หรือ ผงจักรพรรดิที่เตรียมไว้  (อาจจะมีนิดเดียว ให้ใส่ภาชนะเล็กๆไว้นะครับ )
     
    1.3)การเริ่มพิธีตั้งสัจจะอธิษฐาน ขออนุญาติครูบาอาจารย์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า ...
     
    ให้จุดเทียน...เริ่มจากซ้าย ไปขวา
    ให้จุดเทียนน้ำมนต์ ถ้ามีนะครับ
    ให้จุดธูป...แล้วตั้งใจอธิษฐานตามนี้.....
     
    “..พุทธัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ ..... ธัมมัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ ..... สังฆัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ
    พุทธัง วันทามิ.....ธัมมัง วันทามิ ....สังฆัง วันทามิ....
    ครูอุปัชฌาย์อาจาริยะคุณัง...วันทามิ
    มาตาปิตุ คุณัง...วันทามิ
    พระไตรสิกขา คุณัง...วันทามิ .....( จบแล้วให้ปักธูป ในกระถางธูป )
    จากนั้น ให้ตั้ง นะโม ... 3 จบ....และกล่าวดังนี้
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ  .... ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ.....สังฆัง สรณัง คัจฉามิ... (ต่อไปก็ ทุติยัมปิ...และ...ตะติยัมปิ   ตามลำดับ)
    จากนั้นก็ว่า...ศีล 5 ให้ครบ 5 ข้อตามลำดับ...(คงไม่ต้องพิมพ์มั้งครับ) “
     
    จากนั้นให้กล่าวคำตั้งสัจจะอธิษฐานตามนี้ครับ....
     
    “   อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐามิ .....ทุติยัมปิ อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐามิ ....ตะติยัมปิ อิมัง สัจจะวาจัง อธิษฐามิ....
    ข้าพเจ้า (ชื่อ นามสกุล) ขอตั้งสัจจะอธิษฐาน...กระทำมหาบารมีทั้ง 10 ประการ...เนื่องด้วยการสร้างพระผงจักรพรรดิ
    อันมี ...
    ทานะบารมี...เป็นการสร้างพระเพื่อเป็นมหาทานแก่ชนทั้งหลาย
    ศีละบารมี...เป็นการสำรวมระวังศีลทั้งปวง ระหว่างการเทพระทั้งสิ้นนี้
    เนกขัมมะบารมี....เป็นการสำรวมระวัง ประพฤติอยู่ในพรหมจรรย์ ดั่งการบวชนอก บวชใน ในขณะที่สร้างพระ
    ปัญญาบารมี...เป็นการเจริญในสมาธิขณะเทพระ..เพื่อก่อเกิดปัญญาในการรู้แจ้ง
    วิริยะบารมี....เป็นการตั้งมั่นในความเพียร มิลดละย่อท้อต่อในการสร้างพระ
    ขันติบารมี...เป็นการตั้งมั่นอดทนต่อความลำบากในการเทพระให้สำเร็จสมดังสัจจะที่ตั้งไว้
    สัจจะบารมี...เป็นการกระทำให้สำเร็จปรากฏเป็นความจริงตามที่ได้ตั้งจิตไว้แต่ต้น อันเป็นการทรงไว้ซึ่งความจริงเป็นนิจ
    อธิษฐานะบารมี....เป็นการตั้งจิต กำหนดทิศทางแห่งใจ ให้ประสิทธิ์สำเร็จ ตามใจที่ปรารถนานั้นไว้ในการเทพระ
    เมตตาบารมี...เป็นการตั้งมั่นตนให้ดำรงซึ่งความเมตตา..อันเกิดจากการปรารถนาสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ได้เป็นที่พึ่งแก่ชนทั้งสามแดนโลกธาตุ...เป็นการปรารถนาให้ผู้อื่นได้พบกับความสุข ดังเช่นตนได้รับ
    อุเบกขาบารมี....เป็นการทรงไว้ซึ่งการวางเฉย  เมื่อสิ่งทั้งหลายที่ได้ มิเป็นไปตามที่กำหนดไว้
     
    ข้าพเจ้า ขอกราบอนุญาติ บูรพะ ครูอาจารย์  อันมี หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ  และ หลวงตาม้า ...เพื่อสืบต่อ การสร้างพระผงจักรพรรดิ นี้...ให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสามแดนโลกธาตุ...และเป็นการสืบต่อ และเผยแผ่ พระพุทธศาสนา....ด้วยใจเคารพบูชา
     
    หากว่ามีสิ่งใด... ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปบ้าง... ขอจงอย่าได้สร่างซึ่งเมตตา ... กรุณาอภัยโทษ และโปรดชี้แนะ ดลบันดาล ...ให้การสร้างพระผงจักรรรดินี้ สำเร็จ สมบูรณ์ ....สมความปรารถนา ดังสัจจะวาจาที่ตั้งไว้ ทั้งหมดทั้งสิ้น...
     
    ขอเมตตา พระทุกพระองค์ .... อันมีสมเด็จองค์ปฐม บรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า บรมมหาจักรพรรดิ เป็นต้น จวบจน พระสมณโคดมพุทธเจ้า บรมมหาจักรพรรดิ...
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์....
    พระธรรมเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์....
    พระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง โสดา..สกิทาคา..อนาคา..และพระอรหันต์  ....
    พระโพธิสัตว์ และมหาโพธิสัตว์ทั้งปวง อันมีพระศรีอริยะเมตไตรยเป็นที่สุด...
    ตลอดจนทั้ง ทวยเทพทั้ง 6 ชั้นฟ้า และ พรหมมา ทั้ง 20 ชั้นเบื้องบน...อันมีพระอินทร์  ,พระยายมราช ,พระยามาราธิราช ,พระศรีสยามเทวาธิราช และท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 เป็นอาทิ....
    และในที่สุดคือ...หลวงปู่ทวด สามีราโม  .... หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ....และหลวงตาม้า พระวรงคต วิริยธโร....
    โปรดรวมกำลังพระจักรพรรดิบารมีทั้งหลายทั้งปวงนั้น....  เข้ากับกำลังบารมีทั้งหลายของข้าพเจ้า....เข้ามาเป็นประโยชน์ ในการสร้างพระผงจักรพรรดินี้  ...ขอน้ำมนต์พระจักรพรรดิ  .... ขอผงจักรพรรดิ  ...และแม่พิมพ์พระทั้งหลายนี้  ...จงทรงไว้ซี่งฤทธานุภาพ ทรงเดชเดชะ ทรงกำลังพระจักรพรรดิ...
     
    พระผงจักรพรรดิใดๆ....ที่ข้าพเจ้าได้สร้างขึ้นไว้ดีแล้ว ด้วยผง น้ำมนต์ และแม่พิมพ์นี้.....ขอจงเป็นที่สุดแห่งกำลังทั้งปวง...จงสำเร็จ อย่างฉับพลันทันใด ในสิ่งที่ผู้นำมาใช้อธิษฐานตั้งไว้ในสัมมาทิฐิ ... และทรงกำลังบารมีคุ้มครองป้องกันสรรพอันตรายทั้งปวงดั่งกรอบเพชรกำแพงแก้วครอบกายา...อย่าได้มีอณูแห่งอันตราย หรือไสยยะ อวิชชาใดๆผ่านเข้ามายังผู้ดำรงไว้ซึ่งพระผงนี้ อันทรงศีลอย่างน้อย 3 ใน 5 ข้อของเบญจศีล...และความเสื่อมลงของพระผงนี้จักบังเกิดตามกฏพระไตรลักษณ์เมื่อสิ้นสภาพแห่งปัถวีธาตุ ...ลงสู่อาโปธาตุคือน้ำในที่สุดนั้นเถิด....
     
    ด้วยอานุภาพแห่งอานิสงส์ทั้งหลายที่เกิดจากการสร้างพระผงจักรพรรดินี้...ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานรวมให้เป็นกำลัง..เพื่อการพ้นจากทุกข์ และวัฏฏะสงสาร มีพระนิพพานเป็นที่สุด ( หรือขอให้มีความตั้งมั่นดำรงคงไว้ ในความปรารถนาซึ่งพระโพธิญาณ ) ....หากแต่ยังก้าวข้ามไม่ถึงยังประตูแก้วพระนิพพาน  ขอข้าพเจ้าทั้งหลายจงอย่าได้พบกับคำว่าไม่มี... ในสิ่งที่ควรจะพึงมี....  และได้ประสพพบเจอแต่สิ่งที่ดี ห่างไกลจากสิ่งที่ชั่ว  และได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา และแผ่นดินที่ร่มเย็น และเกิดในตระกูล อันมีปรกติวิสัยยินดีในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นนิจ ...ได้บำเพ็ญบารมีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขัดข้อง...และขอให้กำลังแห่งบุญนี้ ...จงเหนี่ยวนำดวงจิตของข้าพเจ้าไว้ ให้ดำรงคงอยู่ในพระไตรสรณคมณ์ ในทุกลมหายใจเข้าออก อย่าได้ขาด...แม้ในวาระสุดท้ายของสังขารนี้ เพื่อปิดซึ่งประตูแห่งอบายภูมิทั้งปวง...
     
    ด้วยกำลังแห่งกุศลบารมีทั้งหลายนี้...ข้าพเจ้าขอยกถวายขึ้นเป็นพุทธบูชา แด่พระทุกพระองค์...เป็นธรรมบูชา แด่พระธรรมเจ้าทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์  และเป็นสังฆบูชา แด่พระอริยะเจ้าทั้งปวง....
    ด้วยอานิสงส์แห่งการบูชาพระรัตนตรัย และการสร้างพระทั้งหมดนี้...
    ขอบุญทั้งหลาย....
    จงสำเร็จแก่ บิดา มารดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ และผู้มีพระคุณของข้าพเจ้าทุกท่าน ทุกภพชาติที่ผ่านมา...
    จงสำเร็จแก่ ญาติ ของข้าพเจ้า อันมี สามี ภรรยา พี่น้อง บุตร และผู้มีความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน ในทุกภพชาติ...
    จงสำเร็จแก่ เจ้ากรรมนายเวร ทั้งน้อยและใหญ่ ที่ผูกเวร ผูกกรรม ทั้งหลาย...
    โดยข้าพเจ้าขอตัดซึ่งกรรมทั้งปวง... ด้วยการอโหสิ ในเวรกรรมใดๆ หรือในคำสาบถ... สาบาน ...สัญญาใดๆ อันเป็นบ่วงผูกรัดข้าพเจ้า และดวงจิตใดๆเข้าไว้...
    ข้าพเจ้าขออานิสงส์แห่งบุญนี้  จงตัดให้ขาดสิ้น ...เป็นโมฆะ และอโหสิกรรมให้ในทุกๆข้อ...และขอท่านทั้งหลายจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า...ในกรรมอันข้าพเจ้าได้กระทำลงไปแล้วนั้นด้วยเถิด.... ขอบุญทั้งหลาย....จงสำเร็จ แด่ทวยเทพ เทวา พรหมมาทุกชั้นฟ้า ทั้งที่เกี่ยวเนื่องก็ดี ไม่เกี่ยวเนื่องก็ดี....
    จงสำเร็จ แด่พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ และราชวงค์ทุกท่าน ตลอดจนพระหลักเมือง และพระศรีสยามทุกๆพระองค์ และผู้มีคุณแก่แผ่นดินไทยทุกท่าน
    จงสำเร็จ...แก่ผู้ที่ตกอยู่ในอบายภูมิทั้งหลาย อันมีเดรัจฉาน เปรต อสุรกาย และสัตว์นรก เป็นต้น
    จงสำเร็จ แก่  โอปปะปาติกะ ทั้งปวง และสัมภะเวสี...ขอจงมีความสุข และภพภูมิที่สูงขึ้นตามแต่บุญ และเหตุปัจจัยทั้งหลายจะเกื้อหนุน...
     
    และด้วยอำนาจแห่งพระรัตนตรัย และบุญทั้งหลายของข้าพเจ้าที่ได้กระทำไปแล้วนั้น...ขอสัจจะอธิษฐานของข้าพเจ้าจงสำเร็จเป็นจริง ทุกประการด้วยเทอญ.... “
     
    จากนั้นให้สวดพระคาถาจักรพรรดิ  3 จบ  และ สัพเพฯ พุทธา  3 จบ....รวมกำลังจักรพรรดิ และกำหนดจิตให้มีสมาธิ....
    และ ให้กำหนดจิตให้เห็นเป็นภาพลำแสง ...ผ่านลงมาจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า หรือสมเด็จองค์ปฐม หรือจากพระที่เราจำได้ ระลึกได้ ที่อยู่ข้างบน.....ผ่านลำแสงลงมาที่กลางกระหม่อมของเรา.....ผ่านลงมายังมือที่ประนมไว้....ผ่านลงไปยัง ผงจักรพรรดิ  น้ำมนต์ และ แม่พิมพ์.... เป็นอันจบพิธีเริ่มต้น.....
    จากนั้นให้เตรียมผสมซิเมนต์ขาว....และน้ำสะอาด...ตามที่จะอธิบายไว้ในข้อ 2 …..
    และในระหว่างผสม และเทพระ ให้สวดพระจักรพรรดิ ไปตลอด จนเมื่อสำเร็จเสร็จสิ้น...ให้สัพเพ ฯ อีก 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นการเทพระครับ
     
    ---------------------------------------------------------------------------------------
     
    2) การตั้งสัจจะอธิษฐาน เมื่อเทพระในครั้งต่อๆไป
     
    ให้จุดธูป หรือพนมมือ ไหว้พระ และอาราธนาศีล ให้เรียบร้อยดังข้างต้น (ข้อ 1.3)
    และกล่าวคำตั้งสัจจะอธิษฐาน....ตามบทที่ได้เขียนไว้ข้างต้นนี้ หรือจะย่อลง ในบางส่วน ตามความเหมาะสม...
    จากนั้นให้เริ่มเทพระ โดยสวดพระคาถาจักรพรรดิ และดำรงสมาธิให้ดีขณะเท จนจบการเทแล้ว จึงกล่าวบท สัพเพฯพุทธา ...3 จบ เป็นอันเสร็จพิธี
     
     
     
     
    ในขั้นตอนนี้....ให้เตรียมวัสดุ ดังนี้.... 
    1)ซิเมนต์ขาว....โดยปรกติ ผมจะใช้ตราเสือนะครับ....ย้ำว่า “ซิเมนต์ขาว” ไม่ใช่ปูนขาว หรือปูนซิเมนต์ทั่วไป  ให้เตรียมพอประมาณกับที่จะเท  โดยใช้ภาชนะตวงไว้ 
    2) น้ำสะอาด.....ให้ค่อยๆเทน้ำสะอาดนี้ ลงไปผสมกับซิเมนต์ขาว  โดยค่อยๆเติมลงไป และกวนไปพร้อมๆกัน  จนซิเมนต์ขาวมีความหนืดประมาณ “น้ำผึ้ง” หรือเหนียวกว่าเล็กน้อย....กวนให้เข้ากันเหมือนน้ำนม โดยไม่มีเศษก้อนซิเมนต์ขาวเหลืออยู่  หากพบว่ามีส่วนใดไม่ละลายให้ตักออกครับ.....
     
    3) เมื่อผสมซิเมนต์ขาวได้สัดส่วนแล้ว...ให้ผสมผงจักรพรรดิ และ/หรือ น้ำมนต์จักรพรรดิ ลงไปในจำนวนเล็กนอย แล้วกวนให้เข้ากัน.....อย่าให้มีฟองอากาศเหลืออยู่
     
    4) แม่พิมพ์ที่จะเทนั้น...เมื่อล้างน้ำยาซันไลท์ออกแล้ว   ให้เทได้เลยอย่าให้แม่พิมพ์แห้งในขณะเท....
    กรณีที่ทิ้งแม่พิมพ์ให้แห้งไว้นาน...อย่างน้อยที่สุดต้องแช่น้ำก่อนทำการเท ไม่น้อยกว่า 30 นาที
     
    5) ระหว่างการเทพระนั้น...ให้เคาะที่แม่พิมพ์  เพื่อให้น้ำซิเมนต์ขาวนั้นเข้าไปตามซอกต่างๆของพิมพ์อย่างทั่วถึง....และพยายามเขย่าจนไม่มีฟองอากาศ... อย่าลืมว่าระหว่างเทพระนี้...จะต้องสวดพระคาถามหาจักรพรรดิด้วยตลอด อย่างมีสมาธินะครับ....เมื่อเทพระแล้วเสร็จ ให้สวดบท สัพเพฯ 3 จบ...รวมกำลังทั้งหมดลงไปในองค์พระนะครับ
    กรณีที่จะฝังวัตถุมงคลใดๆลงไปด้านหลังองค์พระ  เช่นพระธาตุ หรือตะกรุดเล็กๆ แนะนำให้ฝังหลังจากเทพระทิ้งไว้แล้ว 2 ชั่วโมงนะครับ...วัตถุนั้นจะได้ไม่จมลงไปในองค์พระเกินไป หรือไม่จมลงไปจนทะลุถึงด้านหน้า...
     
    6) ตั้งแม่พิมพ์ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง...ประมาณ 9-13 ชั่วโมง  แล้วแต่สภาวะอากาศ  ถ้าอากาศแห้งจะทำให้พระแห้งเร็วขึ้นกว่าอากาศชื้นครับ
     
    7) เมื่อครบกำหนดเวลา..ให้ตรวงดูว่าพระแห้งสนิทหรือไม่...ถ้าแห้งสนิทแล้วค่อยๆแกะพระออกจากพิมพ์อย่างช้าๆ ...โดยการบิดแม่พิมพ์เล็กน้อยนะครับ  ...
     
    8) ให้นำพระที่ได้ทิ้งไว้ให้แห้งสัก 1 วัน....จากนั้นให้นำพระไปแช่ในน้ำมนต์จักรพรรดิ...โดยให้เตรียมจาก...
    นำน้ำมนต์...ที่เราทำพิธีในตอนแรก หรือน้ำมนต์จักรพรรดิ ที่ได้รับมา.....มาหยดลงในน้ำที่เตรียมไว้ในขันน้ำมนต์...ย้ำว่าให้เอาน้ำมนต์จักรพรรดิ  หยดลงในน้ำสะอาดที่เตรียมไว้นะครับ....อย่าเอาน้ำสะอาด มาเทใส่น้ำมนต์.... จากนั้นสวดจักรพรรดิ สัก 3 จบ...สวดบท สัพเพ ฯ  รวมกำลังลงไปในน้ำมนต์ แล้วนำพระผงจักรพรรดิที่แห้งสนิทแล้ว ลงแช่ในน้ำมนต์...ทิ้งไว้สัก 1 วัน จึงนำขึ้นมาครับ......การแช่พระในน้ำมนต์นี้ จะช่วยเร่งการเกิด “พระธรรมธาตุ” ให้ไวขึ้น หรืออาจจะมากขึ้น...แต่หากท่านใดจะไม่นำไปแช่ก็ไม่เป็นไรครับ  ทุกอย่างสำเร็จสมบูรณ์ตั้งแต่พระแห้งเป็นองค์แล้ว....
     
    9) การเกิดพระธรรมธาตุ.....
    หลายๆท่านสงสัย...ว่าพระธรรมธาตุเกิดมาจากอะไร....ในทางวิทยาศาสตร์  สามารถอธิบายได้ว่า ผลึกที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลึกแคลเซียม  ที่เป็นส่วนประกอบหลักของซิเมนต์ขาว...โดยผลึกใสนี้คือ แคลเซียมซัลเฟต...ที่สามารถเกิดขึ้นได้บนผิวของซิเมนต์ขาวนี้แต่จะเกิดได้ต้องผ่านความร้อนที่อุณหภูมิสูงนับร้อย นับพันองศาเซลเซียสทีเดียว....แต่ในที่นี้เกิดขึ้นมาได้แทบจะทันทีหลังจากที่เราเทพระและทิ้งไว้จนแก้งที่อุณหภูมิห้อง....
    ธรรมธาตุที่เกิดขึ้น...อาจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป  เช่นพระของหลวงปู่ดู่ และหลวงตาม้า...จะมีรูปร่างของพระธรรมธาตุที่แตกต่างกัน....โดยของหลวงตาม้า มักจะเกิดเป็นรูปหกเหลี่ยม หรือ แปดเหลี่ยมเสียมากกว่า....บางคนที่ทำออกมาก็จะเป็นจุดใสๆเล็กเต็มทั่วองค์พระ  ( จากที่ผมเทเองนะครับ อิอิ ) ....เรียกว่าบางทีอาจใช้เป็น อัตตลักษณ์ ประจำตนได้เลยครับ...ว่าใครเป็นผู้เทพระ
    แต่สำหรับบางท่าน...เทพระแล้ว อาจจะไม่เกิดพระธรรมธาตุเลยก็เป็นได้....ไม่ได้หมายความว่าพระนั้นจะไม่สมบูรณ์ จะไม่สำเร็จ...ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจในเบื้องต้นแล้ว...การแสดงออกทางธาตุให้เห็นด้วยตานั้น อาจจะมีเงื่อนไขอื่นๆที่มากกว่านั้น  เช่น..พระผงจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่ ท่านเทเอง...และนำไปแช่น้ำชา  จะไม่มีพระธรรมธาตุขึ้นเลย..เป็นต้น
    อย่าให้การเกิดมี หรือไม่มี พระธรรมธาตุ...เป็นอุปสรรค เป็นตัวบั่นทอนกำลังใจ ในการสร้างพระนะครับ.....
    ความอดทน...ความวิริยะ ... นี่แหละเป็นหัวข้อหลักที่เราจะสร้างบารมี  ..เพราะ บารมี = กำลังใจ นะครับ.....
     
     
    คำอธิษฐานต่างๆในการเทพระนี้...ผมได้แต่งขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัว  หากท่านใดจะลดทอน ดัดแปลงก็ยินดีนะครับ  อาจจะไม่สมบูรณ์ไปเสียทุกประการ  แต่หากพอมีคุณประโยชน์อยู่บ้าง...ขอยกคุณความดีนี้ถวายแด่ ครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ และหลวงตาม้า  รวมถึงบิดา มารดา เป็นที่สุดครับ....สาธุๆๆ
     
    ขอให้ทุกท่านมีความสุข สำเร็จสมบูรณ์ ..ในการสร้างพระ นะครับ....
     
    และที่ขาดมิได้....องค์ความรู้ และเคล็ดลับ วิธีการ ต่างๆ ในการเทพระผงจักรพรรดินี้....พี่วิษณุ ( วิษณุ เทพศิริ-เวียงยาเภสัช) เป็นผู้ถ่ายทอดมาให้นะครับ...ขอกราบมหาโมทนาสาธุการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 สิงหาคม 2015
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    <iframe width="853" height="480" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/tyWbj-gEnAg?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]


    ต้องแยกกันอยู่บ้าง ดูจิตตัวเองให้ดี อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    <iframe width="640" height="480" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/pK1SAc7_BjI?&autoplay=1&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]


    วันหนึ่ง หลวงปู่ดู่ท่านมองไปที่ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นว่า "ข้าตายแล้วต้องลงนรก" พอลูกศิษย์ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเรียนถามท่านในทันทีว่า"หลวงปู่จะตกนรกได้อย่างไร ในเมื่อหลวงปู่บำเพ็ญคุณงามความดีมามากออกอย่างนี้"

    หลวงปู่ตอบกลับไปว่า "ข้าก็จะลงนรก เพื่อไปเตะพวกแกขึ้นมาน่ะสิ"

    คำเตือนของหลวงปู่นั้น ชวนให้ศิษย์ทั้งหลายต้องมานึกทบทวนตัวเองว่าการที่ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ครูบา อาจารย์นั้นก็มิใช่เป็นหลักประกันว่าจะไม่ลงนรก ตรงกันข้าม หลวงปู่ท่านได้พูดเตือนทำนองเดียวกันนี้หลายครั้งหลายหน เพราะช่องทางทำบาปของคนเรามีมากเหลือเกิน จนท่านเอ่ยว่า คนเราเป็นอยู่โดยบาปทั้งนั้น เพียงแต่ผู้ที่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ก็บาปน้อยหน่อย

    หลวงปู่ท่านเป็นแบบอย่างที่หาได้ยากในเรื่องความระมัดระวัง ไม่ให้เป็นหนี้สงฆ์ ถึงขนาดว่าก่อนที่ท่านจะมรณภาพไม่กี่วัน ท่านได้บอกช่องลับกับโยมอุปัฏฐากให้ทราบ เพื่อว่าจะได้สามารถเปิดประตูเข้ากุฏิท่านในกรณีฉุกเฉินได้ โดยไม่ต้องไปงัดประตู อันเป็นการทำลายของสงฆ์ ซึ่งในที่สุดก็มีเหตุให้ได้เปิดประตูกุฏิท่านผ่านทางช่องลับนั้นจริงๆ ในเช้าตรู่ของวันอังคารที่ 17 มกราคม 2533 อันเป็นวันที่ท่านละสังขาร

    นอกจากนี้ ท่านยังได้พูดเตือนอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราอาจมองข้าม เป็นต้นว่า เอ่ยปากใช้พระหยิบโน่นหยิบนี่ ไม่ยกเว้นแม้กรณีขอให้พระท่านหยิบซองให้เพื่อจะใส่ปัจจัยถวาย การหยิบฉวยของสงฆ์ไปใช้ส่วนตัว การพูดชักไปในทางโลกในขณะที่ผู้อื่นกำลังสนทนาธรรม การส่งเสียงรบกวนผู้ที่กำลังปฏิบัติภาวนา การขายพระกิน ซึ่งเรื่องหลังนี้ ท่านพูดเอาไว้ค่อยข้างรุนแรงว่า ใครขายพระกิน จะฉิบหาย สมัยท่านยังมีชีวิต ท่านจะพูดกระหนาบบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเวลารับประทานอาหาร ทานไม่ให้พูดคุยกัน จะทำกิจอันใดอยู่ ก็ให้มีสติ พยายามบริกรรมภาวนาไว้เรื่อยๆ เรียกว่าเกลี่ยจิตไว้ให้ได้ทั้งวัน เมื่อถึงคราวนั่งภาวนา จิตจะได้เป็นสมาธิได้เร็ว เวลาจิตจะโลภ จะโกรธ จะหลง ก็จะได้รู้ได้เท่าทัน

    ดังที่หลวงปู่สอนว่า การตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเท่านั้น จึงจะช่วยให้เราห่างจากนรกได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องคอยสอบทานตัวเองอยู่เสมอๆ ว่าเราเข้าวัดเพื่ออะไร เพื่อความเด่นความดัง หวังลาภสักการะ หวังเป็นผู้จัดการพระ ผู้จัดการวัด ฯลฯ หรือเพื่อมุ่งละโลภ โกรธ หลง ซึ่งเป็นตัวก่อทุกข์ก่อโทษข้ามภพข้ามชาติไม่รู้จักจบจักสิ้นที่มีอยู่ในใจ เรานี้

    ปฏิปทาที่จะช่วยให้เราปลอดภัย และห่างไกลจากนรกคือ การเกรงกลัวและละอายใจในการทำบาปกรรม หรือสิ่งที่จะทำจิตใจเราให้เศร้าหมองขุ่นมัว ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับหมู่คณะโดยไม่จำเป็น หากแต่ควรมุ่งเน้นการปฏิบัติภาวนาเป็นหลัก เป็นผู้พร้อมรับฟับคำตักเตือนของผู้อื่น โดยเฉพาะคำตักเตือนจากครูบาอาจารย์ อย่างที่ทางพระท่านสอนว่า ให้อดทนในคำสั่งสอน คิดเสียว่าท่านกำลังดุด่ากิเลสของเราอยู่

    ท่อนซุงทั้งท่อน ถ้าไม่ได้ขวานช่วยสับช่วยบาก ไม่ได้กบไสไม้ ช่วยทำพื้นไม้หยาบๆ ให้เกลี้ยงเกลาขึ้น ไม่ได้กระดาษทรายช่วยขัดให้ไม้เรียบเนียน ไม่ถูกดัดถูกประกอบ ก็คงไม่กลายมาเป็นเครื่องเรือนเครื่องใช้ที่มีประโยชน์ ฉันใดก็ฉันนั้น จิตใจของเราที่หยาบอยู่ หากไม่ได้รับการขัดเกลาหรืออบรมจากครูอาจารย์ไม่ได้รับการอบรมด้วยธรรมของ พระพุทธเจ้า จิตใจนั้นก็ย่อมเอาเป็นที่พึ่งไม่ได้

    ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์ได้โอกาสเรียนถามหลวงปู่ว่า "หลวงพ่อครับ ที่ว่าธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมนั้น ธรรมที่ว่านั้นท่านหมายถึงธรรมเรื่องใดครับ" เมื่อสิ้นเสียงคำถาม หลวงพ่อท่านก็ตอบในทันทีว่า "กายสุจริต วาจาสุจริต และมโนสุจริต"

    ซึ่งคำสอนของท่านข้างต้น ก็เป็นการตอบให้ชัดอีกครั้วว่า อานิสงส์แห่งการประพฤติความดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจนี้แหละ จะกลับมารักษาเราไม่ให้ตกไปสู่โลกที่ชั่ว จึงเป็นหลักประกันที่ช่วยให้เราห่างไกลจากนรก อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถเข้าใกล้หลวงพ่อด้วยการเพิ่มพูนคุณธรรมความดีให้ ยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อว่าในที่สุดจะได้ไม่ต้องรบกวนหลวงปู่ให้ต้องลำบากลงนรกมาสงเคราะห์ ศิษย์ ดังที่ท่านปรารภด้วยความห่วงใย ตั้งแต่ครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่..



    watthummuangna.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]


    พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ


    ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ


    สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]



    " กรรมตัดรอน... ทำให้เวลาปฏิบัติมันจะหงุดหงิด ดังนั้นเราอย่าไปคิดไม่ดีกับใคร

    อย่าคิดด่าใคร อย่าว่าใคร "

    " แผ่บุญไปก็ไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะได้หรือไม่ได้ให้ทำไปเรื่อยๆ เพราะความลังเลสงสัย

    เป็นบ่อเกิดของความไม่แน่นอน ถ้ายังลังเลสงสัยอยู่มันจะไม่เดินหน้า "


    ที่มา: คำสอนหลวงตาม้าจากเฟส Ask Luangta (30/5/58)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    น้ำมนต์จักรพรรดิ



    วิชา นี้อาศัยบารมีพระท่าน เมื่อยืมบารมีท่าน ก็จงโปรดใช้คืนบ้าง พระท่านไม่ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าให้ท่านเป็นคนดี รู้จักคิดถึงตัวเองและคนอื่นบ้าง สร้างประโยชน์ให้สาธารณะชนบ้าง ซึ่งการสร้างประโยชน์นั้นคือวิชาลำดับขั้นต่อไปนั่นเอง โปรดติดตาม ขอโมทนา......


    ใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค


    หลักการ

     
    พระ สูตรหลวงปู่ดู่ จะมีการแช่น้ำมนต์จักรพรรดิ ก่อน 3-15 วัน น้ำมนต์จักรพรรดินี้รักษาโรคและปรับธาตุ 4 ในร่างกายได้ดีมาก (ประสบการณ์ตรง) หากต้องการโปรดไปขอได้ที่วัดของหลวงตาม้าครับ เรื่องหวัดนกที่เรากลัวกัน แม้กระทั่งเอดส์ นอกจากจะใช้วิชาของหลวงพ่อฤาษีในการป้องกัน รักษาแล้วก็สามารถใช้น้ำมนต์จักรพรรดิป้องกันและรักษาได้เช่นเดียวกัน (หลวงปู่ดู่ท่านทราบล่วงหน้าเรื่องโรคระบาดต่าง ๆ และได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นกัน) พระนี้ (โดยเฉพาะที่ยังไม่ได้เลี่ยมกรอบ) จึงใช้แช่น้ำมนต์รักษาโรคได้ทุกประการ ยิ่งได้ถ้าได้ใช้ร่วมกับเหรียญทำน้ำมนต์ สูตรหลวงปู่ดู่ ซึ่งตอนนี้หลวงตาม้าเท่านั้นที่สืบทอดวิชามา เท่านั้นที่ทำได้ + กับวิชาการรักษาโรคของหลวงปู่แล้ว จะหายได้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่หนักหนานัก ลองเพียงแค่สูตรที่ผมกำลังแนะนำนี้สิครับ ....
     

    วิธีการ

    ๑. ให้นำพระเลี่ยมก็ได้ไม่เลี่ยมก็ได้ไม่ต่างกัน มากำสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ 7 จบ แล้ว อธิษฐานว่า
    ข้าพเจ้า ผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขออัญเชิญบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่ อดีตปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด (อันนี้จำเป็นต้องขอบารมีีท่านโดยตรง)ขอได้โปรด ให้น้ำใด ๆก็ตามไม่ว่าเล็กว่าน้อย หรือมากมายดังมหาสมุทร ที่ถูกแช่ในพระผงกำลังพระจักรพรรดินี้ จงมีพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เฉกเช่นเดียวกับหัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดิทุกประการ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยทุกประเภทขอบารมีอันหาที่สุดมิได้ของหลวงปู่ จงโปรดให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ด้วยเถิดจึงค่อย ๆ จุ่มพระลงในภาชนะใส่น้ำ (พระสูตรท่านชอบน้ำครับ สำหรับองค์ที่ยังไม่เลี่ยมแช่ได้เลยไม่ต้องห่วงยิ่งแช่น้ำยิ่งแกร่งไม่ต้อง เกรงว่าพระจะร่วนแตกหักหรือ)

    ๒. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง

    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

    (ใน ระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมดในขณะเดียวกับแสงนั้น ก็พุ่งตรงไปยังน้ำทั้งภาชนะ และจะรู้สึกว่าน้ำนั้นจะมีกระแสเย็นชุ่มชื่น ดื่ม กินแล้วก็รู้สึกสดชื่น)
     

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ



    *****************************
    การนำไปใช้จริง

     
    ๑. บ้านใดที่มีถังน้ำใหญ่ หรือโอ่งมังกร แนะนำให้แช่พระไว้ตลอดอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องอธิษฐานหลายครั้งครับให้กินอาบ ใช้ จนเลือดจนเนื้อ เป็นกำลังพระจักรพรรดิเลยครับ ทำได้อย่างนี้ ผิวพรรณจะเยาว์ลง และยังมีผลเรื่องป้องกันรังสีด้วย
     
    ๒. จะใช้กิน อาบ ล้างอะไรก็แล้วแต่ ได้ทั้งนั้น มีคนเคยถามหลวงปู่ว่าไม่เป็นอะไรหรือ หลวงปู่ก็ว่า

    " น้ำมนต์ข้าเป็นของดี จะเอาไปทำอะไรก็ดีหมด "

    ๓. หัวเชื้อน้ำมนต์จักรพรรดินี้ต่อได้เหมือนน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อปาน หรือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงตาม้าท่านบอกว่า "
    แม้ เพียงหยดเดียวของน้ำมนต์จัรพรรดิ เมื่อหยดลงในตุ่ม น้ำทั้งตุ่มนั้นก็จะกลายเป็นน้ำมนต์จักรพรรดิหมด" เราก็แช่พระไว้ในภาชนะใดก็ได้ตลอดเวลา แล้วคอยเติมอยู่เสมอไม่ให้แห้ง แล้วก็เอาน้ำมนต์หัวเชื้อนี้คอยเติมภาชนะต่าง ๆ เอา จะเอาไปแจกจ่ายก็ได้ครับ

    ๔.ไม่ต้องกลัวพระธรรมธาตุหลุดครับ พระธรรมธาตุท่านเกาะที่ผิวพระอยู่แล้ว เพียงแต่อย่าเอาอะไรไปขัดไปถูเป็นใช้ได้






    5 พระผงบรมมหากำลังจักรพรรดิ - โครงการสร้างพระผงบรมมหาจักรพรรดิฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ แจกปร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กันยายน 2015
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    อธิษฐานรวมบุญ เพื่อความคล่องตัวในเรื่องการเงิน และทุก ๆเรื่อง
    เป็นการเบิกบุญเก่า และบุญใหม่ที่ยังไม่ให้ผลให้ส่งผลเร็วขึ้น

     หลักการ

    ตาม ปกติเมื่อเราสร้างกุศลใด ๆ กระแสบุญจะจับอยู่ที่ตัวผู้สร้างสักระยะหนึ่งใดตราบที่ยังคงทรงกำลังความ ชุ่มชื่นอยู่ได้นั้น หลังจากนั้นจะไปรวมตัวรอที่ภพภูมิสุขคติ เมื่อเราสิ้นธาตุขันธ์ก็จะไปเสวยสุขอยู่ในสุขคติภูมิ ตราบจนกว่าจะหมดบุญ แต่ยังมีอีกหลายผู้ โดยเฉพาะนักสร้างบารมีที่จะตายเกิด ๆ ทันทีไม่ยอมเสวยสุขก่อน เพราะจะเสียเวลา บุญก็ยังคั่งค้างอยู่ เอามาใช้ได้ได้แค่ส่วนหนึ่ง (คงต้องออกตัวว่าอจินไตยข้อนี้ผมจะพูดแค่ส่วนจำเป็นเท่านั้น ยังมีีอีกหลายอย่างพูดได้ไม่หมด นะครับ มันมีข้อแม้ต่าง ๆมากมาย ผมขอละไว้ครับ ) หรือใครก็ตามที่ชอบบ่นว่า ทำแต่ความดี สร้างแต่ทาน แต่ทำไมยังจน ยังถูกกลั่นแกล้ง ลำบากไม่คล่องตัว ครับเหมือนการปลูกต้นไม้ ปลูกเดี๋ยวนี้จะกินผลเดี๋ยวนี้เลยเป็นไปไม่ได้มันต้องมีวาระของมัน คานดุลกันทั้งบุญและบาป ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วที่ยังได้สร้างบุญไว้เป็นเสบียง เพราะการได้พบพระพุทธเจ้าแต่ละครั้งนั้นยากเย็น ลองคิดดูสิครับ บางช่วงในอดีตมีสูญญะอสงไขย์ด้วย โอ้กรรมแท้ ตลอดอสงไขยไม่มีพระพุธเจ้ามาโปรด.....


    ยิ่งคุณเกิดในยุคที่มีครู บาอาจารย์ที่หาได้ยากยิ่ง หลาย ๆ องค์ อาทิ หลวงพ่อฤาษีที่ท่านเด่นด้านพาคนเข้าพระนิพพาน หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ที่ท่านเด่นด้านพาคนสร้างบารมี ยิ่งมีโอกาสได้ยากยิ่งครับ ก็เห็นจะมีแต่ในระยะยืดพระศาสนานี่กระมังแต่...เราก็มีวิชาที่จะขอเบิกบุญ รวมบุญ และเร่งบุญเอามาใช้ได้ ได้มากบ้างน้อยบ้างก็ตามเหตุ ตามปัจจัย

     

    วิธีการ

     ๑. วิชานี้ให้ทรงกำลังใจแบบทานบารมี คือในใจให้เเช่มชื่นด้วยความรู้สึกว่า หากเราพอมีอะไรจะช่วยเหลือในบุคคลที่สมควรจะช่วยเราจะรีบช่วยโดยไม่รั้งรอ ไม่ด้วยกำลังปัจจัย ก็กำลังแรงกาย(เป็นการทอดสะพานกระแสบุญจากทานให้ย้อนกลับมา ด้วยลาภเกิดจากทาน การจะดึงผลแห่ง ลาภให้ได้ผลดี ต้องมีกระแสทานมาเป็นสะพานต่อเชื่อม)

    ๒. ตั้งจิตกำหนดภาพพระมหาจักรพรรดิ กำพระในมือขอบารมีคุณพระโดยมีบารมีแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิเป็น ประธาน และมีบารมีรวมแห่งมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด (ให้ยึดถือรูปลักษณ์นี้เป็นหลัก เนื่องจากเป็นรูปลักษณ์ที่ช่วยเหลือในเรื่องทางโลกได้คล่องตัวกว่า)

    ๓. อธิษฐานว่า

    " ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุก ๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตโดยบารมีแห่งองค์พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า...(นาม).....
    เพื่อเบิกมาใช้ ให้มีความคล่องตัวในทุก ๆเรื่อง อันใดติตขัด ขอให้คล่อง ดั่งน้ำที่ไหลออกจากคณโฑที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใดคล่องตัวอยู่แล้วขอให้คล่องตัวยิ่ง ๆขึ้นไป โดยขึ้นชื่อว่าความอดความอยาก ความยาก ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดมีในข้าพเจ้า ผู้เป็นผู้รับใช้แห่งพระพุทธศาสนานับตั้งแต่กาลบัดเดี๋ยวนี้ ตราบจนข้าพเจ้า เข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด และโดยเฉพาะกาลนี้ขอให้มีความคล่องตัวในเรื่อง ...(อธิษฐานขอพิเศษเอา).....เช่น ตอนนี้ขายของไม่ดีเลยลูกขอให้ขายได้วันละ......ด้วยเถิด

    ๔. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง

    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส


    (ใน ระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรังสีทางโชคลาภมักจะเป็นรังสี สีทอง)

     
    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
     
    ๕. ให้อธิษฐานทุกวัน เช้าตอนก่อนออกทำงาน-ก่อนนอน หากได้เวลา 20.30 น.ด้วยยิ่งดีครับ

     ________________________________________
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    อธิษฐานให้บุตร คนรัก หรือคนในปกครอง แม้กระทั้งเจ้านาย ละมิจฉาทิฐิ อยู่ในโอวาท
    เป็นคนดีขึ้น จิตใจเยือกเย็นขึ้น
     


    หลักการ

    ๑. เป็นเรื่องของการใช้ พลังพระและพรหมวิหารสมาธิครับ ให้ทำตอนที่คนที่เราต้องการปรับเขาหลับอยู่เนื่องเป็นเวลาที่เหมาะที่จะทำ การปรับร่างกายและจิตใจคนได้ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เขาพักผ่อนจากอายตนะและนิวรณ์ทั้งปวง แต่จริงๆ แล้ว ตอนที่ดีกว่าคือตอนที่เขานั่งหรือทำสมาธิอยู่

    ๒. ใช้คู่กับวิชาการครอบวิมานจะยิ่งได้ผลดียิ่งขึ้น...
     

    วิธีการ

    ๑. วิชานี้ผู้ใช้ต้องฝึกสมาธิด้วย เนื่องจากต้องอาศัยกำลังสมาธิและตัวเจตนาในฝ่ายดีอันแรงกล้าเป็นตัวกำหนดรูป แบบและทิศทางของพลังงาน จากนั้นจึงขอบารมีหรือพลังงานของคุณพระโดยเฉพาะพระจักรพรรดิเป็นตัวช่วย 

    ๒. ให้รักษาศีล 5 ให้ดีก่อนเพราะเป็นกำลังบาทฐานของสมาธิ

    ๓. ตื่นเช้าเมื่อตั้งสติได้ดีแล้ว หลังจากอธิษฐาน ตามบท


    ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นข้ารับใช้แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอาริยะเมตตรัยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศพระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวารของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ........

    แล้วให้ นั่งสมาธิโดยมือกำพระไว้ ภาวนาด้วยคาถาพระมหาจักรพรรดิ กุมลมหายใจสบาย ๆ โดยมีอาณาปาณสติเป็นบาทฐานเบาๆ ภาวนาไปเรื่อย  ๆ สัก 2 นาที สำคัญที่จิตสงบนะครับอย่าให้ความสำคัญที่จำนวนเวลาของการนั่งมาก
     

    จากนั้นอธิษฐานว่า

    " ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุก ๆพระองค์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยบารมีแห่งองค์พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหาจักรพรรดิเป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้โปรดกล่อมเกลาปรับสภาพร่างกายและจิตใจของ....(.ชื่อ... นาม.... หรือกลุ่ม..)...ให้ดีขึ้น ขอให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจเยือกเย็น เบิกบานให้มีหิริ-โอตตัปปะ มีจิตใจฝักใฝ่แต่ความดี เกลียดกลัวความชั่วทั้งปวง ให้ว่านอนสอนง่ายอยู่ในโอวาท....(ตามแต่จะขอแล้วกันครับ)...หากแม้นเขาดื้อ ดึงเพียงใด ด้วยอำนาจกงจักรพระจักรพรรดิจงโปรดส่งสอนให้หลาบจำ "

     ๔. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง

    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

     

    (ใน ระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกันแสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังผู้ที่จะปรับร่างกายและจิตใจ แต่จะเห็นว่าแสงนั้นอ่อนโยนนิ่มนวลมาก ติดตัวเขาไปทั้งวันหากเป็นลูกให้ลูบศรีษะเบาๆด้วย เด็กจะว่าง่ายขึ้น )

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ


    ๕. ให้ทำทุกเช้า-ค่ำ คือพูดง่าย ๆต้องพยายามตื่นก่อน-นอนทีหลังแล้วให้ทำน้ำมนต์ให้ดื่มกิน ใช้ล้าง-อาบ ได้หมด จะช่วยให้ผลปรากฎเร็วขึ้น

    ๖. สำหรับผู้ที่คอยขัด หรือไม่เห็นด้วย เวลาเราทำบุญนั้นให้ใช้วิธี พอเวลาทำบุญก็ให้บุญกับเขา เรียกกายทิพย์เขามารับบุญ เขาเรียกว่าให้บุญในหรือให้ทางใน นานไปเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเอง หรือเราจะให้กับคนที่โกรธเรา อาฆาตพยาบาทตัวเราก็ได้ บุญเป็นของดีเราให้ใครก็ได้ ไม่ว่าเจ้านาย ลูกน้อง หรือคนที่เราจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทั้งนั้นบุญคือความสบายใจ การสร้างบุญโดยการให้ด้วยจิตใจที่เมตตา ถือเป็นการกล่อมเกลาจิตใจไปในตัวและเป็นการปฏิบัติธรรมอีกอย่างหนึ่งด้วย
    _
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...