เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

คนที่บอกว่านั่งสมาธิไม่ได้ พอนั่ง ก็ฟุ้งซ่าน คิดนู่น คิดนี่ ร้อนตัว ร้อนใจไปหมด ไม่เห็นหายทุกข์เลย...ที่บ่นมา ก็มาถูกทางแล้วนี่ ใครๆนั่งก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว คิดก็รู้ ฟุ้งซ่านก็รู้ ใจร้อนก็รู้ ไม่สบายใจก็รู้ คันก็รู้ ผลอยหลับก็รู้ อยากก็รู้ เป็นทุกข์ก็รู้ ..ก็ตามดูเฉยๆ ตามกำหนดสิ่งที่รู้แบบนี้ไปเรื่อยๆไง แค่นี้ก็ได้อย่างแรกแล้ว นี่คือการเจริญ "สติ" คือรู้ตัวทั่วพร้อม อยู่กับปัจจุบัน ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับกาย ใจ ของเรา

ซึ่งโดยปกติเวลานั่งเราจะยึดอะไรซักอย่างไว้เป็นฐานเพื่อให้มีสติรู้ตัว ไม่หลงไป เช่นบางคนใช้ลมหายใจ บางคนใช้ความรู้สึกพองยุบที่ท้อง บางคนยึดกาย พอใจจดจ่อกับฐานได้ มันก็จะเกิดความนิ่ง (สมาธิ) ได้เป็นอย่างที่สองความจดจ่อนี้ไม่จำเป็นต้องนานก็ได้ ฝึกใหม่ๆ มันก็สั้นๆ เหมือนอ่านหนังสือ ไม่มีสมาธิ พอเข้าที่มันก็ทำได้ ค่อยๆนานขึ้นๆไปเอง

นิ่งได้ซักพักปัญญาก็มาเอง เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม สติมี สมาธิมี ปัญญามา "ปัญญา" แบบนี้ไม่ได้เกิดจากการพยายามคิด ตอนนี้ไม่ต้องคิด หรือสงสัยอะไรแล้ว ชีวิตประจำวันคิดพอแล้ว แล้วที่คิดก็คิดงูๆปลาๆ รู้จริงบ้าง ไม่รู้จริงบ้าง ปรุงแต่ง ดราม่า สร้างทฤษฏีกันไปเรื่อย จริงๆไม่มีเรื่อง คิดกันจนเป็นเรื่อง บทสรุปที่เกิดจากความคิด จะเห็นถูกตามความจริงกันซักเท่าไหร่กัน ณ ตอนที่นั่งนี้ มีหน้าที่แค่เป็นผู้ดู ผู้รู้ธรรมชาติของจิตเราเอง กระทบอะไร เกิดอะไร และกลับมาที่ฐานของเรา พอ -

เมื่อเห็นบ่อยๆ จนเข้าใจธรรมชาติของจิต ก็เกิดปัญญาด้วยตัวเองจริงๆ ไม่ใช่จำมาจากคนอื่นเล่ามา - เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ของความฟุ้งซ่าน ของความหงุดหงิด ของความล้า ความปิติที่เกิดเวลาเกิดความเข้าใจ หรือแม้แต่สมาธิที่ตั้งมั่นได้นานมั่ง ไม่นานมั่ง เดี่๋ยวมา เดี๋ยวไป เห็น"ความไม่แน่ไม่นอน" บางวันมีสมาธิ บางวันก็ไม่มี เห็นความไม่เที่ยงของทุกสิ่ง แม้กระทั่งปัญญา จะบังคับให้จิตมี ความเข้าใจเดี๋ยวนี้ ก็ทำไม่ได้ และนี่แหละ คือวัตถุประสงค์หลักของวิปัสนากรรมฐานให้เกิด สติ สมาธิ และปัญญา ส่วนจะเป็นคนดีขึ้นไหม หายป่วยรึเปล่า ทุกข์จะหายมั้ย หรือจะมีอิทธิฤทธิ์อะไรบ้าง นั่นมันผลพลอยได้.. ซึ่งจริงหรือไม่ อยากรู้ ก็ลองลงมือปฏิบัติด้วยเองตามแนวทางที่ถูกต้อง อย่าเพิ่งเชื่อใคร

 

เห็นลงธรรมะกัน ขอแชร์บ้างครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)

 

น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี -/\-

สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ​

 

สวัสดีครับคุณปู คุณธีระศาสตร์

 

(จากหนังสือ "รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 11 หน้า 23)

 

ระฆังหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์รุ่น 1, 2 และ 3 ของพี่ Cobraa ครับ

 

พระรอดพรหมเสโน




พระรอดพรหมเสโน สร้างประมาณปี 2516 โดยหลวงปู่ครูบาบุญทืม พรหมเสโน วัดจามเทวี มีหลายพิมพ์หลายขนาดหลายสี หลังจากหลวงปูุ่บุญทึมปลุกเสกเองเป็นเวลานาน คุณอรรณพ กอวัฒนาได้นำพระชุดนี้จากหลวงปู่หลายพันองค์(ท่านบอกว่ามีประมาณ 5,000 องค์)มาทำกล่องใส่และนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ในอุโบสถวัดท่าซุงเมื่อวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2518 อยู่ในระหว่างงานเททองหล่อรูปหลวงปู่ปาน(งานทำบุญครบรอบ 100 ปีของหลวงปู่ปาน) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 สิงหาคม 2518 เป็นพิธีเดียวกับพระทุ่งเศรษฐีรุ่นครบ 100 ปีเกิดหลวงปู่ปานและเหรียญรุ่นต่างๆที่สร้างเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 100 ปีเกิดหลวงปู่ปาน


พระสุปฏิปันโนที่หลวงพ่อนิมนต์มาร่วมงานในครั้งนั้น มีรายชื่อดังนี้คือ

1. หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จ.ลำพูน
2. หลวงปู่ครูบาชัยวงษาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
3. หลวงปู่คำแสน (ใหญ่) (พระครูสุคันธศีล) วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่
4. หลวงปู่คำแสน (เล็ก) คุณาลังกาโร วัดดอนมูล จ.เชียงใหม่
5. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร (พระครูสันติวรญาณ) ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
6. หลวงปู่บุดดา ถาวโร สำนักสงฆ์สองพี่น้อง จ.ชัยนาท
7. หลวงปู่มหาอำพัน วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ

องค์ที่ถ่ายภาพมานี้ผมเช่าจากบ้านสายลมประมาณปี 2531 องค์ละเพียง 20 บาทในขณะนั้นครับ


หมายเหตุ : 1. พระรอดพรหมเสโนสร้างหลังจากครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพลงแล้วในปี พ.ศ. 2481 เป็นพระรอดคนละรุ่นกับพระรอดเณรจิ๋วเพราะพระรอดเณรจิ๋วสร้างเมื่อครั้งครูบาศรีวิชัยยังมีชีวิตอยู่ครับ

2. มีผู้ให้สังเกตุว่าพระรอดรุ่นนี้สร้างไม่น่าถึงห้าพันองค์เพราะแทบไม่มีพระรอดรุ่นนี้หมุนเวียนอยู่ในตลาดเลยแต่ท่านที่ให้ข้อมูลจำนวนองค์พระที่นำมาจากหลวงปู่บุญทึมพรหมเสโนคือคุณอรรณพเอง คุณอรรณพเป็นผู้นำพระรอดรุ่นนี้มาจากหลวงปู่และเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุงปี 2518 และทำกล่องพระมาใส่รุ่นนี้ ท่านต้องทราบดีชัดกว่าใครถึงจำนวนพระของรุ่นนี้ครับ

3. สำหรับท่านที่ต้องการเช่าบูชาพระรอดพรหมเสโน ก็ขอให้อดใจรอเช่าได้โดยตรงกับทางคุณอรรณพ นะครับเพราะได้ทราบมาว่าท่านได้เก็บพระรอดรุ่นนี้เอาไว้อีกจำนวนหนึ่งและจะได้นำออกให้เช่าบูชาเอาเงินเข้าร่วมทำบุญในวันที่เปิดพิพิธภัณฑ์สมบัติพ่อให้

 

ไปวัดสามพระยา

เมื่อไปถึงวัดสามพระยา ถามพระว่าเวลานี้หลวงพ่อสมเด็จอยู่ที่ไหน พระบอกให้ทราบว่า อยู่ในพระอุโบสถ เมื่อเข้าไปและถวายเครื่องสักการะแล้ว ก็ถวายซองเงินสองแสนบาท ท่านบอกว่า ไปนั่งเก้าอี้ ท่า่นชี้ไปที่่เก้าอี้ นั่งพับเีพียบนานไม่ได้ ทั้งนี้ท่านอาจจะทราบว่า ขณะนั้นและขณะที่เขียนหนังสือนี้ อาตมาเป็นโรคเก๊าที่เท้าและขา มันปวดเป็นปรกติ ยี่ห้อนี้น่าคิดบวชมานาน เป็นพระทั้งตัว ต่อมาเมื่อแก่จะเข้าโลงผีแล้ว กลายเพศเป็นตัวเป็นพระ เท้าและขาเป็นเก๋า(หมา) แต่ทว่ามันเป็นเท้าและขาหมาที่เดินไม่ใคร่ไหว ไ่ม่มีกำลังขาอ่อนแบบขาคนแ่ก่ ไม่ใช่ขาอ่อนที่เขาชอบกัน เมื่อลุกไปนั่งที่่เก้าอี้ก็มีความสุขขา เพราะขามีความสุข คือ ไม่ใคร่ปวด

ตอนนั้นท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั่งอยู่ใกล้ๆ ถามท่านว่าท่านมานานแล้วหรือ ท่านตอบว่า ท่านมาเรียน ว.ป.อ. (ศัพท์พวกเด็กๆ ชอบล้อว่า วิทยาลัยปัญญาอ่อน) ความจริงเป็นโรงเรียนที่สร้างความมั่งคงให้ชาติอย่างดีเยี่ยม

สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ

ทราบ จากท่านผู้ว่าแม่ฮ่องสอนว่ามีคนมาบอกว่า สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ เรื่องนี้เป็นปรกติเพราะสมเด็จพระสังฆราชองค์นี้เป็นพระที่ควรแก่การบูชา ไม่มีเวร มีภัยกับใครๆ ตั้งแต่รับตำแหน่งมา ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่พระใต้บังคับบัญชา มีแต่เตือนให้สามัคคีกัน เมื่อท่านเสด็จมา ก็ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพด้วยศรัทธาแท้ คิดว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ท่านจะยืนรับเหมือนผู้เขียน เห็นท่านนั่งเป็นปรกติ สมเด็จพระสังฆราชท่านเข้ามาถึง ท่านนั่งกับพื้น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นั่งบนเตียงตามปรกติ สมเด็จพระสัึงฆราชท่านกราบแล้วถวายของ(เครื่องสักการะและของใช้) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์พนมมือให้พร

ท่านที่ควรบูชา

เป็นอันว่า เมื่อเห็นเข้าอย่างนั้น จิตก็มีอารมณ์คิดบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้นอย่างยิ่ง ท่านอาจจะเคารพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ในฐานะอะไรเป็นเรื่องของท่าน แต่ที่เพิ่มความเคารพบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้น เพราะท่านไม่มีมานะ คำว่า มานะ แปลว่า การถือตัวถือตน หรือถือยศถือศักดิ์ โดยคิดว่าเวลานี้ฉันเป็นสังฆราช ใครจะโตกว่าฉันไม่ได้ ฉันต้องโตกว่าทุกคนที่เป็นพระสงฆ์ การตัดมานะตัวนี้ เป็นเรื่องที่ผู้เขียนบูชาน้ำใจอย่างยิ่ง และบูชาทุกคนที่ตัดได้ ไม่ใช่เฉพาะสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น วันนั้นถือว่า เฮงที่สุด ท่านที่ตัดมานะ หมดการถือตัวถือตน ตามภาษาพระที่เรียกว่า สังโยชน์ ท่านถือว่ามีความดีสูง ควรแก่การบูชาอย่างยิ่ง ใครบูชา คนนั้นเป็นคนมีอุดมมงคล คือมงคลสูงสุด(หรือเฮงที่สุด)



(จากไปวัดสามพระยา ธัมมวิโมกข์ เมษายน 2533)

 

เหรียญสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา รุ่น 1 ปีพ.ศ. 2518 และรุ่น 2 ปีพ.ศ.2522 หลวงพ่อร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วยครับ






เหรียญ 2 รุ่นบนนี้ไม่ทันหลวงพ่อและหลวงปู่วัดสามพระยาปลุกเสกครับ

 

พระหางหมากปิดทองคำเปลวแท้หุ้มทั้งองค์ครับ