เรื่องเด่น แชร์เล่าเรื่องหลวงปู่มีชัย กามฉินโธประสบการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ

ก้าวที่ห้า
รับตำแหน่ง ร้อยตำรวจตรี ปี2547เดินทางสู่ สถานีตำรวจภูธรปะนาเระ อำเภอปะนาเระจังหวัดปัตตานีตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ไปวันแรกออกอุบายให้ตำรวจมาจับเพราะไปไม่ถูกได้แต่งกายเป็นมุสลิมแต่แต่งไม่ถูกชาวบ้านนึกว่าเป็นโจรตำรวจก็มาจับกุมสู่โรงพักปะนาเระตำรวจไม่เชื่อว่าเป็นตำรวจจริงให้ดูคำสั่งจึงยอมปล่อยตัว รอดไปนึกว่าตายยังเขียดแล้ว

 

อีกภาพหนึ่งตอนอยู่สามจังหวัด
เขาเรียกผมว่าวีระบุรุษ ภูมิใจจริงๆได้รับใช้ชาติ

 

และเหตุการณ์ที่ผมอยู่ในสามจังหวัดชายแดนใต้นี่เองทำให้ผมเลิกเล่นพระเครื่องอย่างเด็ดขาดไปเลยทั้งๆที่ผมเล่นพระเครื่องมาตลอดถึง30ปีหลงทางอยู่ได้ตั้ง30ปีผมนี่โง่จริงๆเอาเหตุการณ์แรกเลย
เหตุการณ์ที่1 ปะนาเระเรียก 20 ตอบ 20 ว2 เหตุล้มรถเป็นอดีตตำรวจให้20 ว15 ไปพบและให้ช่วยเหลือนำกลับบ้าน สองศูนย์ทราบ ได้นำกำลังพร้อม ชป หรือชุดปฏิบัติการณ์ไปพบรอยถไลของรถจักรยานยนต์สัก20เมตร ห่างจากนั้นพบ ดต ประเทืองนอนสลบอยู่ไม่ตายแต่แกเมามากแกถไลออกจากตัว จยยประมาณ50 เมตรแสดงว่าเมาแล้วขับนำกลับบ้านแต่ก็น่าแปลกใจเพราะเนื้อตัวไม่เป็นอะไรเลยเพียงแต่เสื้อขาดเท่านั้น สอบถามในภายหลังทราบว่าแกใส่พระปิดตาเนื้อสีดำประคำรอบของอาจารย์ทองวัดสำเภาเชยครับ ราคา50 บาทเท่านั้นเองครับเช่าจากวัด ซึ่งวัดแห่งนี้ก็อยู่ในอำเภอปะนาเระของกระผมนั้นเอง มันน่าจะมีหักบ้างนาหรือไม่ก็แผลถลอกบ้างแต่กลับไม่มี ท่านว่าแปลกไหม

 

แบบนี้แต่สีดำ

 

เหตุการณ์ที่2 เหตุมีอยู่ว่ามี ชรบ ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเบอร์เก้าจากผู้ก่อความไม่สงบแต่แกกลั้นใจกะว่าจะไปตายที่บ้านได้บิด จยย แหกด่านตำรวจทหารที่บ้านกลางตำรวจก็ตามไปช่วยเหลือแกบิดมาที่บ้านได้แสดงว่าแกไม่ตายแกให้ภรรยาดูแผลว่าเป็นอย่างไร คุณพระช่วยกระสุนเบอร์เก้าไม่ระคายผิวแม้นแต่น้อยมีแต่จุดดำๆเสื้อขาดเป็นรูเท่านั้น สอบถามแกดูแกบอกว่าแกพกผ้ายันต์หนุมานอาจารย์ทองที่แจกในงานศพพระมรณภาพที่วัดเกาะนั้นเอง ไม่เข้าจริงๆ

 

เหตุการณ์ที่3 ตำรวจ 2 นายขี่จยยกำลังหน้าที่ลาดตระเวณรักษาความปลอดภัยพระและครูอยู่ในตอนเช้าวันหนึ่งโดยไม่รู้ว่ามัจจุราชกำลังจ้องจะเอาชีวิตตำรวจ 2 นายนั้น ทันใดเสียงปืนอาก้าดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวตำรวจทั้ง2นายกระเด็นตกจากรถ จยย ไปข้างทางทันที คุณพระช่วยตำรวจทั้งสองนายสำรวจตัวเองปรากฏว่ามีแต่เสื้อเป็นรูๆเราไม่ตายจึงได้โอกาสหยิบปืนประจำกายต่อสู้คนร้ายที่กำลังเข้ามายิงซ้ำอีก ตายทั้งสองคน แน่นอนสิ่งที่ผมขอดูก็คือท่านแขวนพระอะไรเป็นหลวงพ่อวัดทุ้งคาพระวัดที่เป็นฐานปฏิบัติการที่เขาตั้งอยู่ที่อำเภอยะหริ่ง จวปัตตานีนี้เอง

 

องค์นี้เลย

 

น่าติดตามมากครับ ขอบคุณครับ

 

เหตุการณ์ที่4 เทิดไท้องค์ราชันย์ เป็นเหตุลักลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนบ้านน้ำบ่อ และโรงเรียนอีกแห่งจำชื่อไม่ได้แล้วอยู่เส้นทางระหว่างบ้านควนถึงบ้านท่าข้ามเหตุวางเพลิงทั้งสองเกิดเวลาใกล้เคียงกันซึ่งผมทำหน้าที่ สองศูนย์เข้าที่เกิดเหตุและได้ร่วมดับเพลิงกับเทศบาลตำบลปะนาเระเพลิงนะเผาไหม้โรงเรียนทั้งสองแห่งเหลือแต่ตอโรงเรียนบ้านน้ำบ่อแต่ที่อีกแห่งหนึ่งใหม้ไม่หมดแต่ที่ปรากฏแก่สายตาก็คือภาพปฏิทินในหลวงของเราขอบใหม้แต่ไฟไม่กินเข้าไปในภาพพระบรมฉายาลักษณ์แปลกมากส่วนอื่นไม่เหลือไม้ทั้งหลังทำไมปฏิทินรูปในหลวงไม่ไหม้ไฟเลย ลมยังพัดห้อยโต๊งเต๊งไปมาภาพนี้ได้ลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศด้วยผมจำไม่ได้ว่าประเทศอะไรจึงไม่มีภาพมาให้ชมกันแต่ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่น่าแปลกครับ

 

ขอติดตามด้วยคนครับ
ของจริง เรื่องจริง น่าติดตามมากครับ

 

เหตุการณ์ที่5 ตระกรุดกระโดด ครั้งนั้นตอนประมาณเพลหลังจากอาจารย์ทองท่านฉันจังหันแล้วก็มีคณะศิษย์รออยู่ใกล้ๆมีคนมาขอของดีจากท่านท่านก็มอบตระกรุดให้มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนที่ มอ ปัตตานีท่านนั่งอยู่ห่างพอสมควรอาจารย์ทองก่อนมอบให้ท่านก็เสกตระกรุดบนฝ่ามือของท่านปรากฏว่าตระกรุดกลิ้งไปกลิ้งมาได้บนฝามือของท่าน ท่านอาจารย์ มอท่านนี้คิดในใจก็ตะแคงมือมันก็กลิ้งนะดิ อาจารย์ท่านรู้วาระในใจของท่านอาจารย์ มอ ปัตตานีท่านอาจารย์ทองก็หัวเราะไม่ว่าอะไรนั้งยิ้มสักพักตระกรุดที่กลิ้งไปกลิ้งมาได้กลับหยุดแต่กลับตั้งขึ้นไม่พอกลับกระโดดบนฝ่ามือของท่านลอยขึ้นบนฝ่ามือของท่านหน้าตาเฉย อาจารย์ มอ ถึงกลับก้มลงกราบอาจารย์ทอง ท่านเป็นอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์เห็นอย่างนี้คงปฏิเสธไม่ได้แน่นอนว่าสิ่งศักดิ์สิทธิมีจริง สาธุ สาธุ

 

ติดตามอยู่ครับ น่าสนใจมากครับพระเกจิภาคใต้ที่ยังมีชีวิตอยู่และขลังๆตอนนี้ยังพอมีไหมครับ

 

ติคตามครับ

 

เหตุการณ์ที่6 หิ่งห้อยกลายเป็นตระกรุด เรื่องมีอยู่ว่าพระโครงการณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าได้มาอยู่ที่วัดสำเภาพร้อมกับเณรน้อยอีกหนึ่งองค์อายุราวๆ7-8ขวบยังเล่นชุกซนอยู่ เวลาใกล้ค่ำก็วิ่งเล่นแถวๆหน้ากุฏหลวงพ่อที่มาด้วย ทันใดนั้นเณรสังเกตุเห็นหิ่งห้อยสองตัววิ่งไล่กันเณรก็วิ่งไล่ตระครุบหิ่งห้อยแต่ตระครุบไม่ติดเณรเล่าว่าเพราะมันลื่นๆแปลก เณรก็วิ่งไล่ตระครุบไปเลื่อยๆหิ่งห้อยก็วิ่งลงสู่ดินหลังห้องน้ำ เณรจึงขุดตระโป๊บได้แล้วอย่างดีใจแต่อนิจจามันไม่ใช่หิ่งห้อยแต่เป็นตระกรุดสองดอก เณรจึงร้องขึ้นมาเสียงดังทำให้พระหลวงพ่อตกใจกล้วว่าเณรจะเป็นอะไร เณรจึงเล่าให้ฟัง อาจารย์ทราบเรื่องสั่งให้กระผมตามไปดูและสอบถามว่ามันเป็นตระกรุดอะไรมีแสงเหมือนหิ่งห้อย ได้ความว่าเป็นตระกรุดของอาจารย์เองนั้นแหละหลวงแก้วท่านเอาไปทักและชุบครั้งตากแดดเอาไว้คงเก็บไม่หมดตกลงดินบริเวณนั้น แต่ตระกรุดกับแสดงปราฏิหารให้เณรเอาเก็บไว้ จะเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่าอาจารย์ทองท่านสำเร็จวิชายันต์กำเหนิด ท่านเรียนมาจากคนในป่าเมื่อเสกแล้วจะเกิดเป็นอะไรก็ได้อย่างใจต้องการแต่ไม่ได้หมายถึงการเกิดแบบมนุษย์แต่เป็นการเกิดจากการรวมธาตุ4 กล่าวคือเป็นการเกิดจาการรวมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ท่านอธิบายให้ผมฟังดังนี้ครับลือกันว่าท่านเสกแมลงปอไม้ให้บินได้เลยเชียวอันนี้ผมไม่เห็นกับตานะครับ

 

ขอบคุณครับ ที่นำประสบการณ์ในพื้นที่ที่อันตรายมาให้อ่าน

คุณพระคุ้มครองครับ

 

เหตุการณ์ที่7 กราบเป็นศิษย์วิทยาคมอาจารย์ทอง อาจารย์ทองเป็นศิษย์ของอาจารย์เริ่มได้ถ่ายทอดวิทยาคมให้ทั้งหมดและได้สั่งอาจารย์ทองไว้ว่าให้เขียนตระกรุดไว้แค่1-3บทไม่ให้เขียนสี่บท เพราะบทที่สี่จะเขียนได้ดอกเดียวเท่านั้นและจะมอบให้แกศิษย์คนเดียวเท่านั้นนั้นคือตระกรุดคงกระพัน เย็นวันหนึ่งท่านได้พิจารณาแล้วด้วยจิตว่ากระผมจะเป็นกำลังหลักของการปราบปรามผู้ก่อการร้ายและสอบจิตผ่านท่านจึงนัดผมให้มาพบและเย็นวันนั้นเองท่านได้อัดพลังเข้าใส่ตัวกระผมพร้อมทั้งเขียนยันต์รอบศีรษะไว้ยังไม่พอท่านได้มอบตระกรุด4บทให้กระผมเอาไว้อาบให้หนังเหนียวอาบ 7 วันท่านให้ลองถูแขนทอนบนทั้งสองดูว่ารู้สึกหนืดๆหรือไม่ถ้าหนืดๆก็สำเร็จ แล้วให้เก็บเอาไว้ให้ดีท่านมอบให้กระผมคนเดียว ถ้าสมัยก่อนก็คงเป็นเสือต่างๆที่โด่งดังเช่นเสือขาว เสือยอดศิษย์หลวงพ่อเงินที่หนังเหนียวยิงไม่เข้า

 

เหตุการณ์ที่8 เหตุระเบิดแยกอีเระ ได้รับแจ้งว่าพบกล่องต้องสงสัยที่แยกอีแระซึ่งผมเป็นร้อยเวรสองศูนย์ต่อจากเพื่อน ร้อยเวรคนเก่าได้เรียกชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือeod ไปตรวจสอบและใช้เครื่องสแกมเมอร์ตัดสัญญาณรีโมดไว้ เมื่อตรวจสอบเสร็จก็ทราบว่าเป็นวัตถุระเบิดปลอม ร้อยเวรเก่าจึงสั่งยกเลิกเมื่อเสร็จภาระกิจก็กลับที่ตั้งแต่กระผมเข้าเวรใหม่ก็ได้ตามไปดูจุดที่เกิดเหตุระหว่างเดินทางไปได้สวนกับชุดเก็บกู้ได้ตะโกนบอกว่าเคลียแล้ว ผมไปถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถไว้ใกล้ๆป่ากล้วยทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังกึกก้อง ผมเห็นวัตถุอะไรสักอย่างกระเด็นขึ้นลูกน้องคนขับรถตระโกนบอกผมว่าเราโดนระเบิด เป็นเพราะรถสแกมเมอร์เลิกตัดสัญญาณระเบิดจึงทำงานหลังจากที่เขาถอนกำลังแต่มาระเบิดกับชุดของผมแต่คุณพระช่วยผมไม่เป็นไรทั้งชุด อีโอดีได้ยินเสียงระเบิดรีบกลับมาดูผมและชป ตรวจสอบระเบิดแถบตระลึงระเบิดมันทำงานแต่ทำงานแค่ซีกเดียวคือซีกไปทางอื่นซีกทางผมกับไม่ระเบิดกระจายมาทางผมเลยแม้นแต่น้อย อีโอดีถามผมว่าผมใส่พระอะไร ผมไม่ตอบเอาไว้เล่าตอนหลัง ผมจึงได้ฉายาว่าผู้หมวดหนังเหนียวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ท่านคงอ่านตระกรุดกระโดดแล้ว เหตุการณ์ในวันนั้นแหละที่ผมได้คุยกับอาจารย์ท่านนั้นเพราะหลังจากนั้นก็พบกันบ่อยๆส่วนมากจะเจอท่านตอนเพลเสมอเพราะคอยปฏิบัติอาจารย์ทอง และบุคคลอีกคนหนึ่งที่มักมามอบของดีให้หรือเอาของดีมาให้อาจารย์ทองเสกเสมอ ท่านเหล่านั้นได้คุยกับผมแล้วบอกผมว่าเห็นผู้หมวดศรัทธาอาจารย์ทองเล่าเรียนวิชาอยากรู้จักพระที่เก่งกว่าอาจารย์ทองไหม ผมตกใจยังมีอีกหรือเพราะผมเล่นพระมาไม่เคยเห็นกับตาอะไรแบบนี้เห็นแต่เขาเล่าว่ามาตลอด30ปี ของจริงเพิ่งเห็นกับตาจะจะก็คราวนี้ ตอบไปว่าครับอยากรู้จัก เขาบอกชื่อหลวงปู่มีชัย แต่พบยากมากท่านมักอยู่ตามป่าเขาที่ห่างไกล โปรดติดตามตอนต่อไป

 

ขอบคุณกระทู้ดีๆครับ....ผมมีพระของหลวงปู่อยู่ 1 องค์เป็นเหรียญ...พ่อแฟนที่บวชเป็นพระท่านเคยอยู่วัดเขาศาลา จ.สุรินทร์ ตอนที่อยู่วัดเขาศาลาเจ้าอาวาส(หลวงพ่อเยื้อนหรือเปล่า..ไม่แน่ใจครับ)ท่านให้ไปเฝ้าบนเขากับพวกทหารพราน...ท่านเอามาให้...เดี๋ยวถ่ายรูปมาให้ดูครับ...

 

ลองดูครับ...ด้านหน้า....ด้านหลัง