รวมสุดยอดสายวิชาแหวนนพสูรย์+ปรอทกินทอง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย anuchang, 17 มิถุนายน 2012.

  1. ต้นบางปลา

    ต้นบางปลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2011
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +479
    :d:d:d:dขอชมแหวนเงิน หัวเมฆสิทธิ มั่งสิครับ อยากเห็นจัง
     
  2. ธรรมประทีป

    ธรรมประทีป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    2,208
    ค่าพลัง:
    +6,617
    วันศุกร์ ๑๓ ที่ผ่านมาได้ไปงานทำบุญของเพื่อนรุ่นน้องที่สิงห์บุรี
    เค้าทำบุญใหญ่ นิมนต์พระมากกว่า 20 องค์ เจริญพระพุทธมานต์ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร

    รายนามพระที่มาในพิธี อาทิ
    หลวงปู่วัดพระพุทธบาท สระบุรี

    หลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู่ สุพรรณบุรี
    หลวงปู่สม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง
    หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย



    [​IMG]


    รูปนี้ พระทั้ง 3 ท่านอยู่ในห้องพักรับรอง
    ต่างแสดงมุฑิตา สนทนากันอย่างน่าประทับใจ


    "แหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล" ก็ได้นำเข้าในพิธีครั้งนี้ด้วยครับ


    [​IMG]


    ...​
     
  3. ธรรมประทีป

    ธรรมประทีป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    2,208
    ค่าพลัง:
    +6,617
    .



    "แหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล" ก็ได้นำเข้าในพิธีครั้งนี้ด้วยครับ


    [​IMG]



    "แหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล" ทั้งเนื้อเงินและสัตตโลหะ

    [​IMG]


    รูป "แหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล" หัวปรอทกินทอง

    [​IMG]



    ...


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ธรรมประทีป

    ธรรมประทีป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    2,208
    ค่าพลัง:
    +6,617
    .

    พระเถระเจริญน้ำพระพุทธมนต์ในพิธี


    หลวงปู่วัดพระพุทธบาท สระบุรี

    [​IMG]



    หลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู่ สุพรรณบุรี

    [​IMG]




    หลวงปู่สม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง

    [​IMG]




    หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]






    นอกจากนี้ ทางครอบครัวของคุณอ๊อพ เจ้าภาพ
    ยังได้ทำกุศลไถ่ชีวิตกระบือที่ติดลูกในท้องจากโรงฆ่าสัตว์ด้วย

    [​IMG]

    สาธุ ขออนุโมทนาบุญนี้ครับ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. putsudsoi

    putsudsoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +8,396

    มหาโมทนาสาธุครับ.................
     
  6. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]
    ยันต์หัวใจเศรษฐี


    เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำการอุดมวลสารที่กุฏิที่พักชั่วคราวของลพ.วิชัย วัดถ้ำผาจม (พอดีท่านลงมางานวันเกิด หลวงพ่ออำนวย วัดบรมนิวาศ)
    ซึ่งท่านเห็นมวลสารที่จะผสมใส่ในแหวนแล้วท่านก้ร้องอู้ฮู...เลยทีเดียว
    แถมตอนกำลังนั่งบรรจุมวลสารกันท่านก็ยังอุตส่าห์เดินมาดูถึง 3 รอบ
    และบอกว่า " ของหลวงพ่อเอาแบบนี้เลยนะ ทำแล้วก็ต้องทำให้ดี"
    แล้วท่านก็มาหยิบหัวแหวนไป จะเอาไปเป็นแบบให้ช่างหยกเขาแกะทำขนาดหัวแหวน
    ก็เลยต้องกราบเรียนท่านว่า " ของหลวงพ่อเดี่ยวทำใหม่เลย ไม่ใช่ขนาดนี้
    ของหลวงพ่อจะทำให้หัวแหวนเล็กกว่านี้ ผู้หญิงจะได้ใส่ได้ไม่เทอะทะ"

    ดูแล้วท่านชอบแหวนนพสิทธิ์นี้มาก ท่านชมว่าออกแบบได้สวย
    แถมก่อนออกไปงานวันเกิดท่านเจ้าคุณอำนวย ท่านยังกำชับก่อนไปว่า
    อุดกันให้เสร็จนะ เดี๋ยวคืนนี้หลวงพ่อกลับมาจะทำให้เต็มที่อีกคืนหนึ่ง
    (เพราะแหวนฝากท่านนำกลับมาจากงานพิธีสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา
    ที่ท่านได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกที่สิงห์บุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ค.)

    [​IMG]

    กลับมาคืนนั้นท่านก็เมตตาเขียนยันต์หัวแหวนให้
    และคืนนั้นท่านเสกแหวนนพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล โดยเน้นด้านกันมะเร็งให้เป็นพิเศษโดยเฉพาะ
    และมีการสวดยัติให้ด้วย

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  7. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]
    มวลสารรวมที่ผสมเข้าด้วยกันเพื่อบรรจุที่ตัวเรือนแหวน

    มวลสารที่บรรจุในแหวน
    1. ผงพระสมเด็จและผงกรุบางขุนพรหม (อ.ธรรมนูญ บุญธรรม มอบให้)
    2. ผงธูปกรรรมฐานและมวลสารราชทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศน์
    (พระอาจารย์พงษ์ศักดิ์ วัดพระธาตุดอยกวางคำ ลำพูน มอบให้)
    3. ผงธูปกรรมฐานและมวลสารของ พระราชกวี วัดโสมนัส
    4. ผงโสฬสมหาพรหม ของวัดสัมพันธวงศ์ ที่ใช้สร้างพระมงคลมหาลาภ
    5. พริกไทเสก ลป.ยวง วัดโพธิ์ศรี
    6. ผงพุทธคุณและแท่งผง ลป.ยิ้ม วัดหนองบัว
    (ได้รับมอบจากตระกูลที่อุปัฏฐาก ลป.เหรียญ วัดหนองบัว)
    7. ผงอังคารไม้จันทน์หอม เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    8. ผงเสกเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ ปี 2510
    9. ผงเสกสมเด็จพระวันรัต วัดเทพศิรินทร์
    10. ผงสร้างพระรวมของวัดเทพศิรินทร์
    11. ผงมหาจักรพรรดิ และผงจากลูกแก้วมณีนพรัตน์ ลป.ดู่ วัดสะแก
    12. ผงธรรมธาตุทั้งของ ลป.ดู่ วัดสะแก และหลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ)
    13. ผงพุทธคุณ 108 ของกองทุนคุณพระรวบรวมไว้
    14. ผงวิเศษ 5 ประการ ที่ ลป.สม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง ได้เขียนลบตามตำรา อันได้แก่
    ผงปถมัง อิทธิเจ มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห
    แล้วทับด้วยพุทธอุดม้วนโลกตามตำรับของ ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    15. ผง 13 ยอดพระไตรปิฎก ลพ.สวัสดิ์ พุทธสุโส วัดจันทร์แสงศรี จันทบุรี
    (ท่านเป็นผู้ที่เขียนลบผงวิเศษให้ลพ.ปาน วัดบางนมโค และเป็นผู้ที่พา แม่ชีประทุม โชติอนันต์ เหาะไปนมัสการสังเวชนียสถานทั้ง 4 ที่อินเดีย)
    16. ผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน ลพ.แดง วัดห้วยฉลองราษฎร์ อุตรดิตถ์
    17. ผง 12 นักษัตร ลพ.ชำนาญ วัดบางกุฏิทอง ปทุมธานี
    18. ผงปถมังมหาคุณ ลป.บุญ วัดหัวเขา ลพบุรี
    19. ผงรวมพระเกจิยุคเก่ากว่า 200 รูป ของ อ.ธรรมนูญ บุญธรรม (เป็นผงเดียวกับที่ใช้สร้างพระปิดตาเนื้อผงของท่าน)
    20. ผงมวลสารของ คุณลุงพงศ์ทิพย์ อินทรสูตร (ศิษย์ของ ท่าน อ.ปถัมภ์ เรียนเมฆ)
    ท่านใช้เวลารวบรวมกว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี 2500 เป็นต้นมา รวมแล้วกว่า 500 รายการ
    21. ผงมวลสารกว่า 200 ชนิด ที่ใช้สร้างพระถวาย หลวงตาแตงอ่อน วัดป่าโชคไพศาล สกลนคร ผ่านการอธิษฐานจาก ลป.บุญหนา วัดป่าโสตถิผล ลป.บุญพิณ วัดผาเทพนิมิต หลวงตาแตงอ่อน
    22. ผงยาจินดามณี ลป.เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม และ ลป.อั๊บ วัดท้องไทร
    23. ผงพรายกุมาร+สีผึ้งพรายกุมาร+สีผึ้งผีหุง ลป.ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    24. ผงนะหน้าทอง ลป.ดี ธัมมธีโร ที่ท่านเขียนลบเอง
    25. ผงที่ใช้อุดตะกรุดไม้รวก ลป.ดี ธัมมธีโร อันได้แก่
    ผงรังนกเงือก ผงรังนกสาลิกา ผงเครือเถาหลง รังหมาล่าปิดนัยน์ตาพระพุทธ เป็นต้น
    26. แป้งเจิมดินสอพอง พระอาจารย์ปรินทร์ (ลพ.เอก) วัดเขาแร่ สุโขทัย
    27. แป้งเสกครูบาอาจารย์ต่างๆ เช่น
    - ลป.บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี
    - ลพ.ดาบส สุมโน อาสรมไผ่มรกต เชียงราย
    - ครูบาอิน วัดทุ่งปุย เชียงใหม่
    - ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่
    - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    - ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม เชียงใหม่
    - ลป.บุญ วัดหัวเขา ลพบุรี>>
    - ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
    - ลป.สุภา วัดเขารัง ภูเก็ต

    ฯลฯ
    28. ผงหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด ที่ผ่านการเสกจากเกจิในยุคปัจจุบันมากว่า 112 คณาจารย์
    29. หอยจั่นที่ใช้วางรองรับผอบพระธาตุที่บรรจุในเจดีย์เก่าสุโขทัย
    30. พระเก่าที่แตกหักชำรุดต่างๆ
    31. ผงไม้หอมเทพธาโร ที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากครูบาอาจารย์สายกรรมฐานหลายรูป เช่น
    ลป.เหรียญ วรลาโภ ลป.จันทร์โสม กิตติกาโร ลป.พวง สุวีโร ฯลฯ
    32. ผงขี้ตะกรันก้นเบ้าที่ได้จากการหลอมทองชนวน

    [​IMG]

    หมายเหตุ มวลสารส่วนนี้ได้ผสมแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยแยกผสมเป็น หัวเชื้อล้วนๆ แยกไว้ต่างหากส่วนหนึ่งเพื่อบรรจุในหัวแหวน
    อีกส่วนหนึ่งคือผสมมวลสารรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วบรรจุที่ตัวเรือนแหวน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  8. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]

    1. มณีนพเก้า อันประกอบด้วย เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิลกาฬ (ไพลิน) มุกดาหาร เพทาย และไพฑูรย์ อธิษฐานจิตโดย
    1) ลพ.หวล วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา
    2) ลพ.เอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา
    3) ลพ.แก่ วัดกล้วย อยุธยา
    4) ลพ.อุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา
    5) ลพ.สมคิด วัดเขาวงศ์ สุพรรณบุรี
    6) ลป.นาม วัดน้อยชมพู่ สุพรรณบุรี
    7) ลป.น่วม วัดโพธิ์ศรีเจริญ สุพรรณบุรี
    8) ลป.สุพีร์ วัดถ้ำซับมืด นครราชสีมา
    9) ลพ.วิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย

    2. ผงหยกจากแหวนหยก ของ
    - ลพ.ดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต เชียงราย
    - ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย
    - ลพ.วิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย
    - ลป.ลือ วัดคำหยาด อ่างทอง

    3. แก้วนางฝาน เป็นแก้วที่มีอานุภาพทางค้ำคูณ ทำให้เจริญ ล้างอาถรรพ์ทั้งมวล
    โดยนำมาสรงทำน้ำมนต์กันคุณไสย กันผี กันไฟ เชื่อว่าถ้าบูชาดีๆ แก้วนี้จะออกแสงได้
    4. ข้าวสารหินพันปี
    5. ข้าวสารเสกในโถพระปัจเจกพุทธเจ้า ลพ.ชำนาญ วัดบางกุฏิทอง
    6. ทรายคำจากวัดพระธาตุจอมทอง เชียงใหม่ ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน อธิษฐานจิตไว้ให้
    7. ผงแร่โคตรเศรษฐีแม่ชีประทุม โชติอนันต์
    8. ผงตะไบชนวนหล่อแหวน ลป.ดู่ วัดสะแก
    9. ทรายเสก
    - ลพ.ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี
    - ลป.ฉาบ วัดศรีสาคร สิงห์บุรี
    - ลพ.เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง รุ่น “ มงคลเกษม 7 รอบ ”

    10. ผงปูนเสกของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม (ทันสมัยคุณแม่)

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  9. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]

    1. สีผึ้งพรายกุมาร+สีผึ้งผีหุง ลป.ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    2. สีผึ้ง ลพ.สร้อย วัดมงคลคีรีเขตร์ ตาก
    3. สีผึ้งรวม 108 คณาจารย์ ของโครงการโพธิจิต
    4. สีผึ้งจันทร์เพ็ญ อ.ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักท่านย่าเฒ่า<O:p</O:p
    5. เทียนชัยพุทธาภิเษก ลพ.จรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี<O:p</O:p
    6. เทียนขี้ผึ้งแท้ที่ใช้ปิดตาพระพุทธ ตอนทำพิธีเบิกเนตรพระประธานประจำพระอุโบสถ วัดพระพุทธบาท 4 รอย เชียงใหม่<O:p</O:p
    7. เทียนทำน้ำมนต์จินดามณี พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน ตลิ่งชัน<O:p</O:p
    8. น้ำมันมหารัญจวน อ.หม่อม <O:p
    9. น้ำมันว่าน 108 ลพ.พิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่<O:p</O:p
    10. น้ำมัน ลป.ปาน วัดท่าซุง<O:p</O:p
    11. น้ำมันชาตรี ลพ.ฤาษี (ลิงดำ) วัดท่าซุง<O:p</O:p
    12. น้ำมันเก้ากลิ่น อ.ธรรมนูญ บุญธรรม<O:p</O:p
    13. น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์
    14. น้ำมันงาเสก ลป.เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง (ลป.วาส วัดสะพานสูง มอบให้)

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  10. ต้นบางปลา

    ต้นบางปลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2011
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +479
    โฮ้ๆๆๆๆ สุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ:cool:
    สวดหยวดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กรกฎาคม 2012
  11. RedDragon999

    RedDragon999 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +54
    ใส่ลุยน้ำได้ไหมครับพี่หมอ คือกลัวว่าลุยแล้ว ผงต่างๆจะหลุดหรือเปล่าครับ
    ขอบคุณครับ
     
  12. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748

    คิดว่าไม่หลุดนะครับเพราะหลอมเทียนชัยและสีผึ้งปิดทับมวลสารต่างๆ อีกทีกันน้ำเข้า
    นอกจากจะไปโดนความร้อนแล้วสีผึ้งละลายเท่านั้นเอง

    ขอเล่าถึงสีผึ้งพรายกุมารซึ่งเป็นมวลสารหลักสักหน่อย (~80% เลยก็ว่าได้)
    คือ สีผึ้งนี้ใช้มวลสารของลป.ทิมมาหุงใหม่
    โดยคุณป้าผมที่นับถือกัน ท่านรู้จักกับอดีตพระเย็น คำมี
    ตอนหลวงปู่ทิมท่านมรณภาพแล้ว พระเย็น คำมี ท่านก็อยากจะสึก
    ท่านก็ได้มาหาคุณป้าเพื่อหาทุนไปประกอบอาชีพสักก้อนหนึ่ง
    ก็เลยขนของ ลป.ทิม วัดละหารไร่ มาให้ป้าผมเป็นการตอบแทน
    ทั้งผงพรายกุมาร น้ำมันผีอีส้ม ปิดตาบัวผุด (1 ใน 9 องค์) ปิดตาโสฬสมหาพรหมบินเดี่ยว และที่สำคัญ คือ อัฐิธาตุและเกศาของลป.ทิม
    ซึ่งปัจจุบันแปรสภาพเป็นพระธาตุไปแล้วบางส่วน


    ทั้งผงพรายกุมารและน้ำมันผีอีส้มนี้ คุณป้าเคยทำพระสมเด็จถวาย ลป.เหรียญ วรลาโภ อยู่รุ่นหนึ่ง
    ตอนนำไปให้ท่านเสกท่านมองหน้าป้า และก็บอกว่า " เดี๋ยวนี้...เอาถึงขนาดนี้เลยเหรอโยม....(ขอปิดชื่อป้าป้องกันการโดนรบกวน)"
    ที่บ้านป้าแต่ก่อนท่านจะปลูกเรือนหลังเล็กไว้ให้ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานมาพัก และเปิดบ้านให้คนทำบุญอยู่ประจำ
    ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นหลวงปู่เหรียญ หลวงปู่จันทร์โสม หลวงปู่พวง สุวีโร ที่มาพักบ่อย
    องค์อื่นก็มีแวะเวียนมาพักบ้าง เช่น ลป.ผ่าน วัดป่าประทีปปุญญาราม ลป.ท่อน ลป.บุญพิณ ลป.บุญมา วัดป่าสีห์พนม เป็นต้น
    แม้แต่ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง พม่า (ในสมัยนั้น) ก็ยังมาที่บ้านป้า
    เพราะนับถือกัน โดยท่านยกให้ป้าเป็นแม่บุญธรรมท่าน
    และเนื่องจากป้าเป็นคนชอบสร้างพระ ก็ได้สร้างพระถวายท่านเหล่านี้ และก็ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่บ้านบ่อยๆ
    ช่วงที่จตุคามกำลังบูม ป้าก็ได้สร้างจตุคามอยู่รุ่นหนึ่งถวายให้วัดป่าเลิงจาน
    ประจวบกับครูบาบุญชุ่มท่านลงมากทม.พอดี แต่ป้ายุ่งกับการจัดเตรียมงานพิธีพุทธาภิเษกก็เลยไม่มีเวลาไปนิมนต์ท่าน
    ได้แต่นึกตัดพ้อในใจว่า " ไหนว่านับถือเป็นแม่ลูกกัน ลงมาไม่มาเยี่ยมแม่บ้างเลย"
    จู่ๆ ช่วงบ่ายครูบาบุญชุ่มท่านก็มาหาถึงที่บ้าน และก็บอกว่า
    "ไม่มาไม่ได้ เทวดาไปฟ้องหนวกหูเหลือเกิน ไหนมีอะไรมาจะทำให้ เราอนุญาตให้ถ่ายรูปเอาไปโฆษณาได้ "
    สีผึ้งพรายกุมารนี้จึงได้รับกระแสเมตตาจิตจากพระอริยเจ้าทั้งหลายเหล่านี้หลายวาระหลายหนด้วยกัน

    มูลเหตุ การหุงสีผึ้งพรายกุมารนี้ เกิดขึ้นจากคราวหนึ่งเปิดบ้านให้ทำบุญเลี้ยงพระตามปกติ
    ก็ได้มีชายชราชาวเขมรคนหนึ่งอายุ 113 ปี ที่ได้มาร่วมทำบุญด้วยได้บอกกับป้าว่าที่บ้านนี้มีของดีอยู่
    ตัวแกเองมีวิชาหุงสีผึ้งตำรับเขมรโบราณจะทำให้ฟรี
    ป้าก็เลยนำผงพรายกุมารและน้ำมันพรายผีอีส้มที่เหลือจากการทำพระสมเด็จถวายหลวงปู่เหรียญ ให้คุณตาคนนี้ทำพิธีหุงสีผึ้งให้จนหมด
    โดยทำพิธีหุงกันที่บริเวณลานหญ้าหน้าที่พักสงฆ์ของหลวงปู่เหรียญในบริเวณบ้านตอนเที่ยงคืนตรงเพื่ออาบรับแสงจันทร์เพ็ญ
    โดยใช้ต้นเทียนชัยพิธีพุทธาภิเษกของหลวงปู่เหรียญที่ทำด้วยขี้ผึ้งแท้สูงเท่าตัวของหลวงปู่เหรียญมาเป็นมวลสารหลัก
    ซึ่งตอนที่หุงนี่ต้องมีการลงยันต์ในกะทะ ในก้นเส้า ไม้พาย และนำขี้ผึ้งมาแผ่เป็นแผ่นลงยันต์ต่างๆ ตามตำรับโบราณจริงๆ
    ตอนที่ทำพิธีหุงนี่หมาหอนกันเกรียวเลย
    ได้สีผึ้งมาหม้อใหญ่ขนาดคนโอบใบนึง
    แบ่งแจกคนรู้จักไปก็ยังเหลืออยู่ครึ่งค่อนหม้อใหญ่
    และก็ได้เก็บไว้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกจากหลวงปู๋หลวงพ่อสายกรรมฐานหลายครั้ง
    ส่วนคุณตาที่มาหุงสึผึ้งให้ ก็อยู่มาจนอายุได้ 115 ปีจึงได้เสียชีวิตลงตามอายุขัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  13. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]
    สีผึ้งผีหุง ที่โชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ ลป.ทิม

    สีผึ้งผีหุง นี้เป็นสีผึ้งอาถรรพ์ที่เฮี้ยนมากๆ เนื่องจากต้องต้องผสมน้ำมันของคนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร
    หลวงตาพูน (อดีตสัปเหร่อเก่า) ศิษย์อาวุโสที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาทำสีผึ้งจากหลวงปู่รบเร้าให้หลวงปู่ทำ ยังไงท่านก็ไม่ยอมทำ
    หลวงปู่ท่านเลยบอกว่าเรียนวิชาไปแล้วก็ต้องลอง
    <O:p</O:p
    หลวงตาพูน จึงนำสีผึ้งปิดปากผีไปหุงที่ทางสามแพร่งในป่าช้า
    โดยนำเครื่องเซ่นสังเวยนายป่าช้าไปทำพิธีบอกกล่าวนายป่าช้าก่อน
    แล้วนำสีผึ้งที่เตรียมไว้ใส่ในขันและเตรียมฟืนสามท่อนมาวางไว้
    และเตรียมเครื่องเซ่นสังเวยอีกชุดหนึ่งมีปลาพร่า ปลายำ และเรียกผีผู้ตายมากินเครื่องเซ่น
    จากนั้นเอาขันที่ใส่สีผึ้งนี้วางบนฟืนโดยไม่ต้องจุดไฟ
    และกล่าวว่า “ เมื่อเอ็งกินอิ่มแล้วช่วยหุงสีผึ้งนี้ด้วย พรุ่งนี้ข้าจะมาเอา ”
    และรีบเดินออกมาให้เดิน หน้าอย่างเดียวห้ามหันหลังเหลียวหลังมามองโดยเด็ดขาด
    พอพรุ่งนี้เช้าไปดู ถ้าสีผึ้งนี้หุงเสร็จโดยที่ไม้ฟืนยังอยู่เหมือนเดิมแสดงว่าวิชาที่ฝึกมาสำเร็จเป็นอันใช้ได้

    <O:p</O:p
    ผลปรากฏว่า สีผึ้งที่หลวงตาพูนนำไปใช้ผีหุงสำเร็จ จึงนำกลับมาให้หลวงปู่ทิมท่านดู
    หลวงปู่ท่านก็มองดูแต่ก็ไม่กล่าวอะไรได้แต่ยิ้มๆ และนำเข้าไปในกุฏิท่านปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง
    และท่านก็ได้เก็บไว้โดยไม่ได้แจกใครจนท่านมรณภาพ และคุณเพียรวิทย์ได้เก็บรักษาไว้

    [​IMG]

    สีผึ้งที่นำมาเป็นมวลสารในครั้งนี้ได้รับมอบจากคุณอาเพียรวิทย์
    เป็นชุดเดียวกับที่อยู่ในโหลที่โชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ
    เป็นสีผึ้งที่แรงมากจริงๆ เพราะเคยแบ่งให้คนที่รู้จักกันไปใช้แล้วมีประสบการณ์จริงๆ
    คือ พี่คนนี้ได้ไปติดต่อเรื่องที่ดินที่มีปัญหา
    ปรากฏว่าวันแรกที่ไป เจ้าหน้าที่ที่สนง.ที่ดินไม่สนใจใยดีเลย จนหมดวันก็ไม่ได้เรื่องราวอะไร
    วันรุ่งขึ้นพี่คนนี้ก็ไปใหม่ คราวนี้เอาสีผึ้งผีหุงนี่ติดไปด้วย
    ก่อนไปก็บอกลป.ทิมและบอกอีส้มให้ช่วย
    คราวนี้พอไปถึง เจ้าหน้าที่คนเดิมเมื่อวานที่ไม่สนใจใยดี
    กลับลุกมากุลีกุจอต้อนรับอย่างดี พร้อมทั้งหาน้ำเย็นมาให้ดื่ม และค้นเอกสารให้ทั้งวัน
    เรียกได้ว่าผิดจากเมื่อวานลิบลับยังกะคนละคน


    ต่อมาแกเอาไปเลี่ยมพร้อมกับพวงกุญแจรถมอเตอร์ไซด์
    แต่มีอยู่วันหนึ่งแกขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปทำธุระแล้วกุญแจรถตกหายกลางทางไม่รู้ตัว
    พอรู้ตัวได้ก็ขี่รถกลับไปหาตามเส้นทางที่ขี่ผ่านมาก็ไม่เจอ
    ต้องกลับมาเอากุญแจสำรองที่บ้านแล้วขี่กลับไปหาเส้นทางเดิมอีก 3-4 รอบก็ไม่เจอ
    แกก็เลยไปที่ตลาดพระเผื่อว่ามีใครเก็บได้แล้วจะเอาไปขายที่ตลาดพระ
    ก็ไม่พบ โชคดีที่แกมีรูปถ่ายไว้ก็เลยเอารูปถ่ายให้ดูแล้วสั่งเอาไว้ว่าถ้ามีใครเอามาปล่อยให้เก็บไว้ให้แกด้วย
    กลับมาถึงบ้านคืนนั้นจนเที่ยงคืนก็นอนไม่หลับ เลยลุกมาจุดธูปบอกลป.ทิมและผีอีส้ม บนกับท่านว่าถ้าได้คืนจะไปกราบท่านที่วัดเลย


    รุ่งเช้าก็ขี่รถออกไปตามเส้นทางเดิมเมื่อวาน ถามชาวบ้านแถวนั้นดูเผื่อจะมีใครเก็บได้แล้วฝากไว้ก็ไม่มี
    แล้วนึกอย่างไรก็ไม่รู้ให้อยากไปที่ตลาดพระในตอนเช้า ซึ่งปกติตลาดพระเขาจะเปิดกันหลังเที่ยง
    ไปถึงก็มีร้านเปิดอยู่ 2-3 ร้าน ก็เข้าไปถามและเอารูปให้เขาดูก็ไม่มีใครเห็น
    กำลังจะกลับก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มานั่งส่องพระอยู่ก็เลยขอดูรูป แล้วก็บอกว่าเขาเห็นอยู่ที่ป้าร้านขายของชำเมื่อวาน
    ป้าแกบอกว่ามีคนมาฝากไว้ให้เจ้าของ
    พี่คนนี้ก็เลยให้เด็กหนุ่มคนนี้ซ้อนรถแกไปที่ร้านขายของชำ
    ไปถึงก็เอารูปให้ป้าเจ้าของร้านดู แกก็เลยคืนให้
    แกบอกว่า " เมื่อเย็นวานตอนโพล้เพล้มีคนเก็บได้มาฝากไว้ให้ บอกว่าเดี่ยวเจ้าของเขาจะมาเอา"
    พี่แกก็เลยถามลักษณะของผู้หญิงคนนั้น ป้าแกก็เล่าว่า
    เป็นหญิงวัยกลางคน ใส่เสื้อยืดแต่นุ่งผ้าถุง หน้าตาไม่ใช่คนแถวนี้
    พี่เขาฟังแล้วก็ขนลุกขึ้นมาเลย เพราะสงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร
    เพราะตามปกติบ้านนอกคนในละเวกหมู่บ้านจะรู้จักกันหมดว่าใครเป็นลูกเต้าเหล่าใคร

    <O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  14. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,806
    เห็นแล้วจะละลาย........
     
  15. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748

    หมายถึงสีผึ้งใช่ไหมครับ....yimm
     
  16. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]
    สีผึ้งจันทร์เพ็ญ
    อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ชลบุรี


    สีผึ้งของอาจารย์ธรรมนูญนั้นทำขึ้นจากวัสดุธรรมชาติล้วนๆ และเป็นมงคลอย่างยิ่ง
    มิได้สร้างขึ้นจากวัตถุอาถรรพ์ที่อาจมีโทษมีอันตรายเมื่อภายหลังได้ เพราะสำนักของท่านปู่พ่วงใช้แต่พระพุทธคุณ
    ไม่มีส่วนผสมของกระดูกผี ขี้เถ้าศพ น้ำมันพราย อะไรทำนองนี้

    ตำรับการทำสีผึ้ง ของสำนักท่านมีพิธีกรรมและขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากมาก
    โดยในปี 2552 จู่ๆ ท่านก็นึกอยากทำสีผึ้งขึ้น
    ก็เริ่มเตรียมการตั้งแต่ซื้อหม้อใหม่มาลงอักขระเลขยันต์
    แล้วลงยันต์ในกระดาษสาวางที่ก้นหม้ออีกทีหนึ่ง
    <O:p</O:p
    หลังจากนั้นก็นำต้นเทียนชัยยาวเป็นวา ที่อาจารย์เก็บรักษาไว้จากงานพุทธาภิเษกของวัดเครือวัลย์
    ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อแก้ว ผู้สร้างพระปิดตาอันโด่งดังไปทั้งประเทศ
    อาจารย์ได้เอาเทียนชัยต้นนั้นมาผ่าเอาไส้เทียนออกแล้วแผ่ให้แบน
    จากนั้นลงจารพระยันต์ที่ล้วนแล้วแต่เป็นเลิศทางเมตตามหานิยม และโชคลาภโดยเฉพาะ อาทิ
    ยันต์สุกิตติมา ที่หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยกย่องว่าเป็นเลิศ
    ยันต์ช้างประสมโขลง ที่พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทองบอกว่าเมตตาไม่มีใดเทียม
    ยันต์เทพรำลึก
    ยันต์เทพรัญจวน
    ยันต์นะฤาชัย ยันต์นะฤาชา
    ยันต์มหาละลวย ฯลฯ
    แต่ที่จะขาดเสียมิได้คือ ยันต์นะหน้าสิงห์ และยันต์นะหน้าทอง
    <O:p</O:p
    จากนั้นก็นำเทียนชัยที่ลงอักขระเลขยันต์ไว้แล้วมาทำการเสกจนแน่ใจ
    แล้วนำไปเคี่ยวประสมกับขี้ผึ้งแท้และน้ำมันมะพร้าว
    โดยต้องเคี่ยวกลางแดดเมื่อเที่ยงตรงเพราะอาศัยฤกษ์ให้ทรงฤทธาว่าเขาย่อมมีใจกับเราอย่างเที่ยงตรงดี ไม่คด ไม่โกง
    ไม้พายที่ใช้กวนสีผึ้งทำจากไม้กาหลง แล้วต่อด้ามด้วยไม้รักซ้อน ส่งผลให้ผู้คนทั้งหลงใหลและรักแล้วรักอีกซ้ำซ้อนเหมือนชื่อไม้
    ทั้งหม้อบรรจุ เตาไฟ และไม้ฟืน (ต้องเป็นไม้มะยมกับไม้รักเท่านั้น) ก็ล้วนลงอักขระเลขยันต์ตามตำรับตำราไว้ถ้วนทั่ว
    จะหาเครื่องประกอบยาแม้สักชิ้นหนึ่งที่มิได้ลงอักขระพระยันต์ไม่มีเลย
    <O:p</O:p
    เมื่อเคี่ยวกวนยามเที่ยงวันแล้ว ครั้นตกถึงเที่ยงคืนอันเป็นวันศุกร์ยอดแห่งความเย็น
    ทั้งยังเป็นเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง เดือนสิบสอง ปี 2549
    อาจารย์ก็นำหม้อสีผึ้งมาเคี่ยวบริกรรมภาวนากลางแจ้งรับแสงจันทร์เพ็ญ ให้ซึมซาบเอิบอาบความเยือกเย็นและผ่องอำไพ
    เป็นเคล็ดว่าเมื่อใครเห็นหน้าก็ดูสดใสชวนให้หลงใหลเหมือนได้มองพระจันทร์เมื่อวันเพ็ญนั่นแล
    <O:p</O:p
    ในขั้นตอนการทำสีผึ้งของสำนัก
    อาจารย์ธรรมนูญเล่าให้ฟังว่า ถ้าจะให้เข้มขลังเอกอุจะต้องหุงถึง 3 ไฟ
    ซึ่งอาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่า ตัวท่านเป็นคนโลภมาก ทำอะไรก็อยากทำให้ดี มีวิชาอะไรก็ใส่ไปหมด
    ดังนั้นสีผึ้งนี้ท่านจึงทำถึง 3 ไฟ ด้วยกัน คือ
    <O:p</O:p
    ไฟแรก จะต้องหุงและบริกรรมจนเกิดเป็นรูปนิมิตผู้หญิงห่มสไบลอยขึ้นมาเหนือสีผึ้งที่กำลังหุงอยู่ <O:p</O:p
    ซึ่งแค่ไฟแรกนี้ก็ถือว่าขลังใช้ได้แล้ว และหาคนที่จะหุงให้สำเร็จแบบนี้ได้ก็ยากเต็มที<O:p</O:p
    ไฟที่สอง ต้องบริกรรมหุงไปจนกระทั่งรูปนิมิตดังกล่าวเปลื้องผ้าสไบออกหมด
    ไฟที่สาม ท่านเล่าให้ฟังว่าต้องเพ่งจิตให้หนักเข้าจนรูปนิมิตนั้นเดินเข้ามากอดตัวเรา จึงจะถือว่าสำเร็จ เป็นเมตตามหานิยมชั้นสูง
    <O:p</O:p
    สีผึ้งนี้มีอานุภาพทางเมตตาอย่างร้ายกาจ ขนาดที่ลูกศิษย์อาจารย์สีปากไปทำงานในโรงงาน นั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนร่วมงาน
    พอดีเจ้านายเรียกจึงลุกพรวดพราดออกไป ทิ้งขันน้ำดื่มซึ่งตนเองดื่มไว้โดยที่ปากยังมันแผล็บจากสีผึ้ง
    มันจากสีผึ้งก็ลงไปลอยเป็นฝ้าอยู่ในน้ำ ปรากฏเจ้ากรรมผู้หญิงในโรงงานมาพอดีหยิบขันน้ำขึ้นกินทั้งสาวทั้งแก่
    ทีนี้แหละตามลูกศิษย์ตัวดีมาเป็นภรรยาตั้ง 2-3 คน <O:p</O:p

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  17. ต้นบางปลา

    ต้นบางปลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2011
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +479
    ยิ่งอ่านยิ่งรู้ ใครได้แหวนไปถือว่าเป็นบุญมากๆ ครับ แล้วการเชื่อมหัวแหวนกับตัวแหวนเชื่อมยังไงครับ ขอบคุณครับ(y)(y)(y)(y)(y)
     
  18. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]
    แก้วนางฝาน

    ที่วัดนิกรบำรุง สกลนคร ขุดได้แก้วแปลกๆ เรียกว่า " แก้วนางฝาน " โดยก่อนหน้านี้ที่วัดแห่งนี้มีคนเห็นแสงแก้วเสด็จมานานแล้ว


    " แก้วนางฝาน " มิใช่ “ แก้วนางขวัญ ” ของทางเหนือที่มีสีม่วงแบบพลอยดอกตะแบก หรือพลอยจำปาสัก


    แก้วนางฝาน นี้ตอนขุดได้ใหม่ๆ แก้วนี้จะอ่อนจนเอามีดมาฝานได้
    แต่พอทิ้งไว้โดนอากาศสักพักก็จะเริ่มแข็งขึ้นเรื่อยๆ

    เหตุที่เรียกแก้วนางฝานเพราะมีตำนานว่า
    ท้าวศรีโคตรบูรณ์ ได้เอาไม้งิ้วดำกวนข้าวจนกลายเป็นข้าวดำ และกินข้าวเข้าไปทำให้มีอิทธิฤทธิ์ ปราบช้างเมืองลาวได้
    จนพระราชาต้องยกลูกสาว คือ นางเขียวค้อม ให้เป็นเมีย และยกเมืองให้ครึ่งหนึ่ง


    ต่อมาพ่อตาอิจฉาวางแผนฆ่าลูกเขย ฆ่าเท่าไรก็ไม่เป็นไร เพราะท้าวศรีโคตรบูรณ์คงกระพันเป็นเลิศ
    พ่อตาจึงออกอุบายขอดูขี้คนหนังเหนียว จึงให้ท้าวศรีโคตรมาถ่ายหนักที่ถาน(ส้วม) โดยในส้วมนี้ต่อพยนต์ลูกดอกไว้
    ลูกดอกนี้ทำจากแก้วชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าล้างอาถรรพ์ใดๆ ก็ได้ เพราะแรงกว่าของทั้งมวล
    โดยนางเขียวค้อมเอามีดแกะหินเป็นหัวลูกดอก จึงเรียกแก้วนี้ว่า " แก้วนางฝาน " ตั้งแต่นั้นมา


    <O:p</O:p
    อีกตำนานหนึ่งว่าหลวงปู่ศรีทัต สุวรรณมาโจ ผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน (ตำราอีสานว่าเป็นธาตุประจำ วันเกิดของวันศุกร์)
    ท่านไม่ได้ก่อเสาเข็มแต่อย่างใด หากแต่ท่านใช้แก้วนางฝานนี้แล มารองรับองค์พระธาตุไว้


    คนโบราณเชื่อว่าแก้วนางฝานมีอานุภาพค้ำคูณ ทำให้เจริญ ล้างอาถรรพ์ทั้งมวล
    ใช้ทำน้ำมนต์กันคุณไสย กันผี กันไฟ
    เชื่อว่าถ้าบูชาดีๆ แก้วนี้จะออกแสงปรากฏให้เห็นได้


    ก่อนจะได้แก้วนี้มาก็มานั่งคิดว่าอยากจะหาของะไรบรรจุในหัวแหวนเป็นพิเศษนอกจากพวกพลอยนพเก้า
    ตอนแรกก็ว่าจะเอาเชือกปะกำช้างมาบรรจุไว้เพื่อข่มล้างอาถรรพ์ต่างๆ
    แต่มาคิดดูรู้สึกไม่ค่อยเหมาะ เพราะครูคนละสายวิชากัน


    เชือกปะกำช้างแรงครูมักจะเป็นกึ่งอสูรเทพบุตร
    แต่แหวนที่สร้างเป็นแนววิชาขั้นสูงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า มหาเทพ และอริยเทพทั้งสิ้น
    ตอนนั้นก็เลยคิดถึงพวกโป่งข่ามตามตำนานวชิรเป็กของล้านนา
    แต่อยากจะได้แนวที่มีอานุภาพทางค้ำคูณ ล้างอาถรรพ์ได้
    ก็พอดีไปได้แก้วชนิดนี้มา ตอนได้มาทีแรกก็ไม่ค่อยเชื่อว่าจะนิ่มจนตัดได้
    เพราะจับดูแล้วแข็งเหมือนพวกหินโป่งข่าม พวกควอตซ์ทั่วๆ ไป
    เรียกว่าถ้าปาหัวก็หัวแตกได้ก็แล้วกัน


    แต่พอลองเอากรรไกรมาตัดดู แแปลกแต่จริง ที่สามารถตัดได้จริง
    เอามีดมาเฉือนดูก็เฉือนได้ นับได้ว่าเป็นแก้วที่แปลกมากจริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013
  19. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748

    แหวนนี้เป็นงานกึ่งจิวเวลรี่
    งานประกอบตัวแหวนกับหัวแหวนจึงคล้ายๆ กับการประกอบพลอยเข้ากับตัวเรือน ที่ใช้หนามเตยเป็นตัวยึด
    ซึ่งหนามเตยในที่นี้ ก็คือ นภศูล หรือ เพกา 9 อัน
    (ตอนออกแบบตั้งใจให้แทนตรีศูลของพระศิวะ แล้วลงด้วยพุทธคุณกำกับ คือ นวหรคุณทั้ง 9)
    เมื่อนำหัวแหวนใส่ไป ช่างเขาก็จะบีบเพกาทั้ง 9 อันนี้เข้ามา
    ก็จะเป็นการล๊อคหัวแหวนไม่ให้หลุดออกมา

    ตอนออกแบบทีแรกได้มองการณ์ไกลเผื่อไว้แล้วว่า
    หากต่อไปใครไปได้หัวแหวนที่เป็นธาตุกายสิทธิ์อะไรมา
    เช่น หยก อุลกมณี (สะเก็ดดาว) โป่งข่าม แร่โคตรเหล็กไหล ปรอท
    แล้วอยากจะเปลี่ยนนำมาใส่แทนหัวเมฆสิทธิ์เดิมก็ได้
    (แต่หัวแหวนต้องมีขนาดใกล้เคียงกัน)
    แค่นำไปให้ช่างพลอยเขาถอดหัวเก่าออกแล้วประกอบหัวใหม่ให้ก็เรียบร้อย
     
  20. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    [​IMG]

    น้ำมันว่านมหารัญจวน
    ทำขึ้นจากมวลสารอาถรรพ์ที่หายากยิ่ง คือ น้ำตาปลาพะยูน
    ผสมกับน้ำมันว่านทางมหาเสน่ห์กว่า 108 ชนิด
    น้ำมันว่านจากพระเกจิต่างๆ ทั่วประเทศ
    และแผ่นทอง สีผึ้ง ที่ปลุกเสก ผสมผสานกันอย่างลงตัว
    น้ำมันนี้ปลุกเสกหลายวาระหลายพิธี ที่อาจารย์หม่อมได้จัดขึ้น

    พิธีการปลุกเสกหุงน้ำมันว่านมหาเสน่ห์ ของ อาจารย์หม่อม นี้ทำร่วมกับ พ่อท่านนวล วัดแจ้ง จ.ตรัง
    ทำตั้งแต่ปี 2548 มีกรรมวิธีแบบโบราณ ใช้เวลานานร่วม 3 เดือน ทำกันในป่า
    และส่วนผสมแต่ละครั้งแต่ละอย่างต้องใช้เวลา
    และที่สำคัญต้องท่องบทสวดตลอดระยะเวลาในการหุงน้ำมันว่านมหาเสน่ห์
    รูปถ่ายต่างๆ ในการหุงน้ำมันท่านอาจารย์หม่อมเก็บไว้ที่วัดแจ้ง จ.ตรัง
    ช่วงที่ปลุกเสกมีไก่ป่าฝูงหนึ่งหลงเข้าไปในพิธีพยายามหาทางออกจากสายสิญจน์แต่ก็หาทางออกไม่ได้
    ไก่ตัวผู้กับปี้ไก่ตัวเมียกลางปะรำพิธี ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจมากแก่ผู้เข้าร่วมพิธี


    อาจารย์ศุภณัฐ ชัยชนิตย์ ( อาจารย์หม่อม) เป็นอาจารย์ที่เหล่าคนในวังต่างรู้จักกันดี
    และเป็นผู้ที่ประกอบพิธีในวัง หรือ จะเรียกว่า อาจารย์สายวังก็ไม่

    อาจารย์หม่อมท่านมีอาจารย์ที่ศรัทธาหลายรูป เช่น <O:p</O:p
    - พระเทพโมลี เป็นลูกศิษย์ของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ถวาย<O:p</O:p
    ธรรมะให้แก่ในหลวงทุกๆ วันพระ
    และเป็นพระอาจารย์ที่ได้เข้าพิธีตอนในหลวงทรงผนวช <O:p</O:p
    - หลวงปู่จันทร์หอม วัดบุ่งขี้เหล็ก อุบลราชธานี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จลุน <O:p</O:p
    สังฆราชฝั่งลาว <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...