หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 16 พฤษภาคม 2011.

  1. เด็กไทรน้อย

    เด็กไทรน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,259
    ค่าพลัง:
    +4,327
    ท่านสันติภาพ อย่าเพิ่งเก็บหมด ปล่อยให้หลุดมา กทม.ส่วนกลางบ้างเน้อ...55
     
  2. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    ครับขอให้โชคดีนะครับ ท่านสันติภาพจําเนื้อจําพิมพ์ไว้ให้ดีนะครับ ไม่ยาก พระรุ่นนี้ยังไม่มีปลอมหรอกครับ ลองดูนะครับ
     
  3. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wabJH3WElf9efhT3" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/b9d/v5OrZW.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/wabJGHXY3PRQxNXI" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/600/25HxSp.JPG" /></a>

    มาดูกันต่อครับ ในรูปคือพระกสินพิมพ์รูปเหมือนองค์หลวงปู่ เป็นพระพิมพ์สี่เหลี่ยมโดยองค์หลวงปู่นั่งสมาธิ ข้างใต้องค์พระจะมีคําว่าธมมจารี จุดสังเกตที่แตกต่างจากพิมพ์อื่นของพิมพ์นี้ง่ายนิดเดียวครับคือขอบพระด้านหน้าจะเหมือนกรอบรูปครับ มีมวลสารหลักๆคือ ผงองค์หลวงปู่ลบ ผงว่านต่างๆ ดอกไม้ที่องค์หลวงปู่ไหว้พระ แร่ต่างๆ ว่านยา ไพร ผงวิเศษครูบาอาจารย์ ดินริมนํ้าในวัดครับ ส่วนองค์ในรูปจะแก่ผงธูปอธิฐานครับ ส่วนมากพิมพ์นี้พบเจอจะเป็นหลังจารตามในรูปครับ จารแบบอื่นก็มีพบนะครับ แต่น้อยวันหลังจะเอาให้ดูครับ จริงๆใครเจอไม่ต้องไปหลงประเด็นเรื่องจารหรอกครับ เอาแยกพิมพ์แยกเนื้อได้ก็พอแล้วครับ

    พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน

    นะมะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิสดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิน. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ
     
  4. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    กทม หลุดมาตั้งนานแล้วครับ ก็ผมนิมนต์มาอยู่ที่บ้านไงครับ 55 ตอนนี้พระองค์หลวงปู่ไม่ว่ารุ่นใหนก็ถูกนิมนต์ไปอยู่ต่างถิ่นนานแล้วครับ ต่างประเทศยังมีไปเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นพระกสินหรือรุ่นอื่นๆ อีกหน่อยคงเห็นแต่รูปไม่ได้เห็นของจริงกันครับ
     
  5. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wabOVMtm5v1OdYao" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/8fb/5dICO9.JPG" /></a>

    อีกองค์ครับ ผมคงไม่ลงรูปถ่ายทุกเนื้อของทุกพิมพ์นะครับ เพราะเนื้ออื่นสามารถดูได้จากพิมพ์อื่นครับ พิมพ์นี้มีข้อสังเกตอีกอย่างครับคือริ้วจีวรองค์หลวงปู่จะติดชัดกว่าครับ ลองดูกันนะครับ ผมก็ไม่เก่งเท่าไรเผื่อมีใครมีจุดสังเกตที่ผมไม่เห็นครับ
     
  6. เด็กไทรน้อย

    เด็กไทรน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,259
    ค่าพลัง:
    +4,327
    ของหลวงปู่ผมว่าอีกหน่อยคงเป็นตำนานอ่ะครับ...
     
  7. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,806
    วันนี้ได้รับเหรียญ + จีวร + สายสิญจน์ จากพี่ใจดีท่านหนึ่งมาครับ.......

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ธมฺมสิทโธ

    ธมฺมสิทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +714
    กราบนมัสการหลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ปิยัง มะมะ
    สวัสดี ลูกศิษย์หลวงปู่ทุกท่าน และสมาชิกทุกคน

    มหัศจรรย์พระพุทธบาทสี่รอย




    รอยพระพุทธบาท 5 แห่งที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ประกอบด้วย
    1. สุวัณณมาลิก (ลังกา)
    2. เขาสัจจพันธ์คีรี (สระบุรี ประเทศไทย)
    3. เขาสุมนกูฏ (ลังกา)
    4. แม่น้ำนัมมทานที (อินเดียหรือพม่า)
    5. โยนกปุระ (ดินแดนทางภาคเหนือของไทย)
    ที่เคยเป็นอาณาจักรล้านนา ที่นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดีทั่วโลกต่างสืบเสาะแสวงหากันมาเนิ่นนานก็ได้ปรากฏหลักฐานทั้งทางฝ่ายวัตถุและบุคคล ดังเช่น คำบอกเล่าของพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี ก็ได้เคยเล่าให้ผู้เขียน(เนาว์ นรญาณ) ฟังโดยตรงเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2538-2539 ว่า
    “พระพุทธบาทสี่รอยนี้ เราเคยได้ธุดงค์ไปกราบมาแล้ว...”
    “สมัยก่อน ตอนที่เรายังธุดงค์อยู่ในเขตภาคเหนือนั้นเราเคยได้ยินเขาเล่าลือกันว่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่ที่โยนกนคร(ปุระ)เราก็ธุดงค์ไปหาอยู่ สมัยที่เราไปนั้น เป็นราวพ.ศ. 2490 ถนนหนทางยังไม่มีเราต้องธุดงค์ข้ามเขาไปหลายลูก จึงไปถึง พบเป็น 4 รอยพระบาท...”
    และที่สำคัญที่สุด ก็คือการที่หลวงพ่ออุตตมะได้กล่าวย้ำอย่างหนักแน่นว่า
    “พระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้เป็นรอยพระพุทธบาทที่พระพุทธเจ้าทรงเหยียบไว้เองจริงๆนะ..!!!!!” และ
    “พระพุทธบาทสี่รอยนี้ ทางเมืองนอก(พม่า)เขาก็รู้ และเสาะหาอยู่เหมือนกันคิดกันไปว่าน่าจะอยู่ในเขตพม่า แต่จริงๆแล้ว ก็มาอยู่ที่เมืองไทยเรานี่แหละ....”
    นอกจากนี้ หลักฐานในทางวัตถุที่ยืนยันว่า รอยพระพุทธบาทแห่ง “โยนกปุระ” แท้จริงแล้วก็คือ “พระพุทธบาทสี่รอย” ก็คือ แผ่นศิลาจารึก ที่ติดอยู่บนพื้นผนังกำแพงมุขหลังพระวิหาร พระนาคปรก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กทม. อันสถาปนามาแต่รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในศิลาจารึกนั้น ได้บรรยายถึงรอยพระพุทธบาททั้ง 5 แห่ง โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่โยนกปุระนั้น ในศิลาจารึกแผ่นนี้ ได้ขยายความระบุถึงที่ประดิษฐานไว้อย่างชัดเจนยิ่งว่า
    “รอยพระพุทธบาท อันพระพุทธเจ้าทรงประดิษฐานไว้บนยอดเขา “รังรุ้ง” แดนโยนกประเทศ คือเมืองเชียงใหม่”
    ยิ่งไปกว่านี้ หลักฐานในทางวัตถุที่สำคัญอย่างยิ่งยวดอีกประการก็คือ “คำให้การของขุนหลวงหาวัด” อันว่าด้วยเรื่องราวต่างๆของกรุงศรีอยุธยา ที่พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่าให้อาลักษณ์บันทึกรับสั่งของเจ้าฟ้าอุทมพร(ขุนหลวงหาวัด) ภายหลังจากที่กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2310 ไว้อย่างละเอียด โดยตอนหนึ่งได้กล่าวถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จพระราชดำเนินปทรง นมัสการพระพุทธบาทสี่รอย (สมัยโบราณเรียก “พระพุทธบาทรังรุ้ง) ไว้อย่างชัดเจนว่า
    “....สมัยสมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปรบที่เมืองหางพระองค์ทรงทราบว่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่บนยอดเขา เรียก “เขารังรุ้ง” จึงได้เสด็จขึ้นไปนมัสการ ทรงเปลื้องเครื่องทรง ทั้งสังวาลและภูษาแล้วทรงถวายไว้ในรอยพระบาท และทำสักการบูชาด้วยธง ธูปเทียน ข้าวตอกดอกไม้มีเครื่องทั้งปวงเป็นอันมาก แล้วจึงทำการพิธีสมโภชอยู่เจ็ดราตรี”
    ด้วยเหตุดังพรรณนามานี้เอง “พระพุทธบาทสี่รอย” ที่มีหลายชื่อหลายนาม ไม่ว่าจะเป็น “พระพุทธบาทรังรุ้ง” หรือ “พระพุทธบาทแห่งโยนกปุระ” จึงเป็นรอยพระพุทธบาทรอยแรกที่คนไทยได้เคยค้นพบและกราบนมัสการ สมดังที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยได้ทรงรับรองไว้ครั้งหนึ่งว่า
    “พระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้ เป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย"
    ด้วยเหตุนี้ แม้พระเดชพระคุณพระญาณสิทธาจารย์ หรือหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณธรรมและญาณสมาบัติชั้นสูงสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ แห่งสำนักถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก็เคยธุดงค์ไปกราบพระพุทธบาทสี่รอย และนำมาเทศนาบอกเล่ารับรอง ภายหลังจากตรวจการทั้งปวงด้วยญาณวิถีแห่งพระอรหันตเจ้าที่ไม่มีกิเลสาสวะใด มากีดกันปิดกั้นได้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์เป็นหลายครั้ง จนพระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้ เป็นที่รู้จักมักคุ้นและแพร่หลายกันโดยทั่วไปในเวลาต่อมาว่า
    “ในเขตเชียงใหม่นี้ ยังมีพระบาทสี่รอย อยู่ในเขตอำเภอแม่ริม แต่ว่าลึกเข้าไปในภูเขาหลวงปู่ผู้เทศน์ไปดูมาแล้ว ไปกราบไปไหว้ มันเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นไปอยู่ข้างริมแม่น้ำ.....พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ได้มาตรัสรู้ในโลก ท่านก็มาเหยียบรอยพระพุทธบาทไว้ในยอดก้อนหินนั้น ยาวขนาด 12 ศอก...ขนาดนั้น.... พระพุทธเจ้ากกุสันโธก็โปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลาย นำพระสาวก อุบาสก อุบาสิกาไปสู่นิพพาน

    เมื่อหมดศาสนาพระพุทธเจ้ากกุสันโธแล้ว ศาสนาพระพุทธเจ้าโกนาคมโน ก็มาตรัสมาสอนรื้อขนสัตว์ไปอีก ก่อนนิพพาน ท่านก็มาเหยียบไว้ที่พระบาทแม่ริมนี้ เป็นรอยที่สอง (ขนาด) ลดลงมา คือคนสมัยนั้นก็เรียกว่า มันกำลังทดลง ไม่ได้ใหญ่ขึ้น(ตัวเล็กลง)
    เมื่อพระพุทธเจ้าโกนาคมโนนิพพานไปพร้อมด้วยสาวกแล้วศาสนธรรมคำสอนท่าน หมดไป ก็ มาถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโปมาตรัสรู้ ท่านก็มาเหยียบไว้ ได้สามรอยละ....
    เมื่อศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโปหมดไปแล้ว มาถึงศาสนาพระพุทธเจ้าของเราในปัจจุบันนี้ ให้ชื่อว่าพระพุทธเจ้าโคตมโคตร พระพุทธเจ้าโคดมมาตรัสรู้ ก่อนที่ท่านจะนิพพาน ก็มาเหยียบรอยพระบาทไว้ในก้อนหินก้อนเดียวกัน จึงให้ชื่อว่า “พระพุทธบาทสี่รอย”.......
    คือในโลกนี้แผ่นดินนี้ ยังเหลืออยู่อีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ที่เราทุกคนได้ยินได้ฟังกันมาจนชินหูแล้วก็มี ว่ายังมี
    พระศรีอาริยเมตไตรโยโพธิสัตว์ จะมาตรัสรู้เป็นองค์สุดท้ายเมื่อตรัสรู้แล้ว โปรดเวไนยสัตว์แล้ว ก็มาเหยียบไว้อีกเหยียบทีนี้น่ะดูเหมือนจะใหญ่ คือว่าเหยียบเต็มเลย ก็คล้ายๆกันกับว่า เหยียบปิดเลยละลายหินก้อนนั้นเพราะว่าเมื่อหมดศาสนาพระศรีอาริย์แล้ว.....ก็ไม่มีศาสดาใดที่จะมาตรัสรู้อีกเรียกว่า แผ่นดินที่เราเกิดนี้ นับว่าเป็นแผ่นดินที่ร่ำรวยที่สุด ....แผ่นดินนี้เรียกว่า “ภัทรกัปมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ได้ห้าพระองค์....”
    หรือแม้แต่ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม พระอริยเจ้าผู้ทรงฤทธิ์อย่างยวดยิ่งแห่งวัดป่าอรัญญวิเวก จ.นครพนม เมื่อครั้งยังเที่ยวธุดงค์อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยเช่นกันว่า
    “พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งมหาภัทรกัป ที่มีความสำคัญที่สุดในจักรวาล...”
    ด้วยเหตุดังกล่าวมาทั้งหมดนี้เอง จึงเป็นที่สมมุตยุติสรุปการทั้งปวงได้อย่างสิ้นสงสัยอย่างสิ้นเชิงแล้วว่า อัน “พระพุทธบาทแห่งโยนกปุระ” หรือ “พระพุทธบาทรังรุ้ง” และหรือ “พระพุทธบาทสี่รอย” ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ ที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ. แม่ริม จ.เชียงใหม่ดังที่พรรณนามานี้ เป็นรอยพระพุทธบาทที่แท้จริง และมีความสำคัญอย่างที่สุด อย่างที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อนตลอดระยะเวลา 4 อสงไขย 100,000 มหากัปถึงเพียงไหน..???
    เพราะที่สุด พระคุณเจ้า หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ พระผู้ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานแห่งยุคก็ยังได้เคยพยากรณ์ไว้ เมื่อครั้งที่หลวงปู่สิมยังเป็นสามเณรอยู่ว่า “เณรสิมนี้ ยังเป็นดอกบัวที่ยังตูมอยู่ ถ้าเบ่งบานเมื่อได้ จะหอมกว่าหมู่” เมื่อได้เล็งญาณพิจารณาการทั้งสิ้นแล้ว จึงได้กล่าวสรุปปิดท้ายไว้ก่อนละสังขารไม่นานว่า
    “พระบาทสี่รอยนี้เป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาเหยียบรอยพระบาทไว้เองจริงๆ....”
    “รอยพระบาทที่จังหวัดสระบุรีเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคดมเพียงพระองค์เดียว แต่ที่พระบาทสี่รอยนั้นเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ ไหว้พระบาทสี่รอยครั้งหนึ่งก็เท่ากับได้ไหว้พระพุทธเจ้ารวดเดียวถึง 4 พระองค์นั่นแหละ....”

    ที่มา: Piyaa
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2012
  9. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    ยินดีด้วยครับ สวยยอด
    (ปนน้ำลายไหล อิอิ)
     
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,591
    ค่าพลัง:
    +30,884
    หวัดดีท่านเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกท่านครับ
     
  11. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ
     
  12. จันท์คับ

    จันท์คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,334
    ค่าพลัง:
    +11,056
    กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน
     
  13. จันท์คับ

    จันท์คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,334
    ค่าพลัง:
    +11,056
    สาธุครับ โดนใจผมมากๆเลยครับกับคำนี้ ของบางอย่างมันมีคุณค่าของมันไม่ได้อยู่ที่ความสวย
     
  14. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,413
    ค่าพลัง:
    +7,058
    กราบหลวงปู่พิศดู กราบครูบากฤษฎา
    สวัสดีพี่ ๆ ทุกท่านครับ
     
  15. ราหูอมจัน

    ราหูอมจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +563
    สวัสดีครับ ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ

    สีผึ้งของหลวงปู่มีกี่รุ่น กี่แบบ พอมีตัวอย่างบ้างไหมครับ:cool::cool:
     
  16. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/waoVRi1KyUzY8ZcA" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/ba7/iJJhfi.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/waoVSHWtHgGWLJG0" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/8e3/9Ki089.JPG" /></a>

    วันนี้ของพระกสินพิมพ์รูปเหมือนต่อครับ สําหรับท่านที่พึ่งเข้ามาอ่าน พระกสินเป็นพระที่องค์หลวงปู่และคณะลูกศิษย์ในสมัยก่อนได้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ประมาณปี 19 เรื่อยมาครับ โดนทํากันเองในวัด กดในวัดกันตามประสาภูมิปัญญาชาวบ้านสมัยนั้น ขณะทําองค์หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์โดยวางพระเรยงไว้แล้วปูผ้าขาวลองเป็นชั้นๆ แล้วท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ ท่านเสกอยู่หลายวาระแล้วค่อยนําแจก พระกสิน หลวงปู่ได้บอกคณะสมัยนั้นว่า พระนี้เมตตามากนะ ถึงไม่สวยเท่าไร แต่อีกหน่อยจะหายาก

    พระรูปเหมือนในรูปข้างบน เป็นพิมพ์องค์หลวงปู่นั่งสมาธิโดยมีคําว่า ธัมมจารี ที่ด้านล่างองค์พระ ด้านหลังมีกรอบสี่เหลี่ยมนูนขึ้นมาเหมือนกรอบรูป ดดยมีอักษรนูนขึ้นมาเป็นคําว่า ธัมมจารี พิศดู ส่วนสองบรรทัดสุดท้ายน่าจะเป็นยันต์นะครับ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่แก่ผงธูปครับแต่น่าจะผสมว่านเสน่ห์จันขาวไปพอสมควร

    พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน

    นะมะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิสดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิน. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ


     
  17. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    คิดถึงหลวงปู่มาก ๆ ได้คุยกับคุณทุเรียนทอดและคุณแฝงจันทร์ แล้วได้รับรู้ถึงกระแสความเมตตาจากหลวงปู่ที่มีต่อเหล่าลูกศิษย์อย่างมากมายจริง ๆ
     
  18. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    กราบหลวงปู่พิศดูครับ :cool:
     
  19. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/waqq8uWqZLygc3bB" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/60c/62u3C.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/waqqlC9Fu42amsOW" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/249/2KcaPB.JPG" /></a>

    พระกสินพิมพ์รูปเหมือนในรูปเป็นพิมพ์สามเหลี่ยมครับ ด้านหน้าจะเป็นองค์หลวงปู่นั่งสมาธิ และด้านหลังจะเป็นยันต์นูน องค์นี้มีเกสาโผล่ออกมาครับ จริงๆแล้วพระกสินทุกพิมพ์จะมีเกสาองค์หลวงปู่ทุกองค์แต่ส่วนมากหลบในครับ เพราะสมัยนั้นไม่ได้นิยมโชว์เกสาไว้ข้างนอก มีมวลสารหลักๆคือ ผงองค์หลวงปู่ลบ ผงว่านต่างๆ ดอกไม้ที่องค์หลวงปู่ไหว้พระ แร่ต่างๆ ว่านยา ผงวิเศษครูบาอาจารย์ ดินริมนํ้าในวัด ข้านก้นบาตร องค์หลวงปู่ กาฝากต่างๆ องค์ในรูปจะแก่ปงธูปอธิฐานครับ


    พระเนื้อดินของท่าน เรียกว่า พระกสิน ครับ หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมดครับถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้าตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับสำหรับพระยุคแรกๆของท่าน

    นะมะภะทะจะภะกะสะนะโมพุทธายะนะชาลีติพุทธคุณังธัมมะคุณังสังฆคุณังสะระนังคัจฉามิ พระคาถาหลวงปู่พิสดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิน. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติสาคะลังและอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วยสมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่ารู้ดีครับ
     
  20. แฝงจันทร์

    แฝงจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +8,855
    ขอแก้ข้อมูลหน่อยครับ ในข้อสี่ผมได้พิมพ์ตกหล่น ผมขอแก้จากว่านร้อยแปดเป็น กาฝากร้อยแปดครับ ขออภัยด้วยครับ เพราะจะทําให้คลาดเคลื่อนไปเยอะ เพราะจําพวกกาฝากนี้ต้องเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องเวลาและวิธีการพีครับ และถ้าจะให้ดีไปใหญ่สามารถสื่อกับ เทวดารักษาต้นไม้ จึงจะสามารถพีออกมาได้ถูกต้อง จึงสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...