หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

เป็นเรื่องน่าแปลก ที่ท่านสมบัติและครูชาติ(naichraty) เคยเรียนและเคยอยู่พิษณุโลก เหมือนกันกับผม ต่างมีความศรัทธาและเคารพบูชาในองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช เหมือนกัน ในวันนั้นเราไม่เคยรู้จักพบเจอกัน
แต่ในวันหนึ่งเราก็ได้มาพบเจอกันและอยู่ในแนวทางจุดร่วมเดียวกัน ทั้งยังสนิทสนมคุ้นเคย หากเป็นความบังเอิญคงเป็นความบังเอิญที่ไม่ธรรมดากระมังครับ..หึหึ

 

สนใจนำมาศึกษาเช่นกันครับ ขออนุโมทนานะครับ

 

ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง.....ขอบคุณครับ
สมาชิกธรรม

 

พระเหล็กไหล

เมื่อประมาณปี 2549 ผมได้ทำบุญที่วัดภูเขาทอง
(เห็นรูปที่ท่านอ๊อดปิดทองหลวงพ่อพระขาวในโบสถ์นั้นแหละครับ)
ได้รับพระเหล็กไหลจากท่านเจ้าอาวาสมา 2 องค์
เข้าใจว่าน่าจะเป็นของท่านอาจารย์เสือกระมังครับ?

วันนี้เลยถือโอกาสถ่ายรูปและอาราธนาท่านอาบแสงจันทร์คืนวันวิสาขะ
พร้อมๆกับประคำเหล็กไหลไพรดำของปู่โต
เพื่อเป็นศิริมงตล ตามที่ท่านอ๊อดเคยแนะนำไว้

ไม่ทราบว่าต้องมีพิธีรีตองอะไรหรือเปล่า ผมเพียงอาราธนาอาบแสงจันทร์
และถวายน้ำผึ้งเวชพงษ์ให้เท่านั้น หากมีโอกาสจะอาราธนาอาบแสงจันทร์ให้บ่อยขึ้น

กรุณาแนะนำด้วย

 

"พระดีของคนบุญ"(ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไห)หากต้องการที่จะได้และมีไว้บูชา.....ได้ทุกองค์ ชมภาพก่อนนะครับ

สมาชิกธรรม/085-0977531(บ่ายๆ)

 

[FONT=&quot]

พระพุทธปฐวีธาตุ แห่ง ภูดานไห



พระพุทธปฐวีธาตุ เป็นปฐวีธาตุ จากลุ่มน้ำโขง ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช แห่ง ภูดานไห ได้มอบให้กับผู้ที่ไปศึกษา ปฏิบัติธรรมกับท่าน เพื่อเป็นพุทธานุสติ เครื่องระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า น้อมนำพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มาปฏิบัติและดำเนินวิถีทาง ตามรอยบาทท่าน จุดประสงค์หลักมุ่งประโยชน์แก่การภาวนา ประพฤติปฏิบัติธรรม



มีตำนานได้กล่าวถึงปฐวีธาตุ จากลุ่มน้ำโขง ว่าพญานาคเป็นผู้เก็บ ดูแล รักษาธาตุกายสิทธิ์นี้ จะได้ส่งต่อมอบให้ผู้มีบุญวาสนา ในอันจะยังประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป และเกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ครอบครองบูชา

ปฐวีธาตุมีความงดงามและมีเอกลักษณ์ในตัวเอง ด้วยผ่านการเจียรนัยจากธรรมชาติมานับเป็นพันปีจนได้รูปร่างลักษณะเฉพาะตัว องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านกล่าวให้ฟังเสมอๆว่าปฐวีธาตุเป็นธาตุสำเร็จ คือมีความสำเร็จอยู่ในตัวเอง ในแต่ละชิ้นแต่ละอันของใครของมัน ไม่ได้เป็นชิ้นส่วนที่ตัดแบ่งแยกมาเพื่อที่จะหาเหลี่ยมมุม เจียรนัย ตกแต่งให้งดงาม เหมือนอัญมณีโดยทั่วไป

ปฐวีธาตุจึงเป็นอัญมณีจากเมืองบาดาล ที่งดงาม กายสิทธิ์และเป็นธาตุสำเร็จ รวมอยู่ภายในชิ้นเดียวกัน

[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]
​

[FONT=&quot]
พระพุทธปฐวีธาตุ แห่ง ภูดานไห ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้มอบให้นั้น แต่ละองค์ท่านเพียรเพ่งจารอธิษฐานจิต เป็นองค์พระพุทธ อักขรเลขยันต์ บ้างเป็นพระพุทธบาท ด้วยความประณีตบรรจง ละเอียดสวยงาม เป็นพุทธศิลป์ที่ผนวกความสวยงามของธรรมชาติในหินแต่ละก้อนเข้าด้วยกันไม่ต่างจากงานศิลปะชิ้นเอกทีเดียว





นอกจากความเป็นธาตุที่มีกายสิทธิ์ในตัวดังตำนานที่กล่าวกันมา ยังได้ผนวกบารมีขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านอธิษฐานจิต แผ่มายังวัตถุธาตุนั้น ด้วยสัมผัสจับต้อง จารมือ ด้วยตัวท่านเองทุกชิ้นทุกองค์ จึงคงไม่ต้องกล่าวถึงพลัง และพลานุภาพของพระพุทธปฐวีธาตุว่ามากน้อยเพียงใด หรือมีคุณไปในทางไหน เพราะหลายท่านที่ได้รับไป ต่างมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์แก่ใจมาแล้วแทบทุกคน



และไม่ต้องสงสัยเลยว่าในหมู่นักรบธรรม แม้ว่าจะจะเคยได้รับพระพุทธปฐวีธาตุมาแล้ว ทำไมจึงยังปรารถนาที่จะขอรับจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์อีก ในทุกครั้ง ทุกวาระ ที่ได้มีโอกาสได้ไป ภูดานไห

[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT]
​

[FONT=&quot]พระพุทธปฐวีธาตุองค์พิเศษ : พระโลกุตตรธรรม9 (องค์สีดำ) และพระอริยสัจจธรรม (องค์กลม)[/FONT]
​

[FONT=&quot]
[/FONT]

[FONT=&quot]
[/FONT]

[FONT=&quot]องค์พ่อแม่ครูอาจารย์อัญเชิญประดิษฐานไว้บนพระหัตถ์พระประธาน ภายในหอฉัน[/FONT]​

[FONT=&quot]
รายละเอียดเพิ่มเติม : [/FONT]พระพุทธปฐวีธาตุ

 

คุณภูเบศร์ ผสมนใจครับ ถ้ายังมีผมขอสักเล่มครับ

ถวัลย์ ตันรัตนาวงศ์
204/179 ชัยพฤกษ์ ซอย10/5 ถ.บางกรวยไทรน้อย ต. พิมลราช อ.บางบัวทอง
จ.นนทบุรี 11110

ขอบคุณครับ

ถวัลย์


QUOTE=Phoobes;6211191]สนใจนำมาศึกษาเช่นกันครับ ขออนุโมทนานะครับ[/QUOTE]

 

ท่านสามารถศึกษาเรื่องราวของพระพุทธปฐวีธาตุเพิ่มได้ที่:
ทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก
ซึ่งเป็นบทความที่รวบรวมจากหลายแหล่ง : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์​

 

ปลูกป่า วันวิสาขบูชา

ปลูกป่า วันวิสาขบูชา

ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันวิสาขบูชา ได้มีญาติธรรมหลายคณะมาสร้างบุญกุศลที่ พุทธสถานภูดานไห หนึ่งในกิจกรรมที่ได้ร่วมทำกันคือ การปลูกป่า
ก่อนหน้าวันที่ผมจะไปถึง คุณอินทร์ธัชว์ และนักศึกษาม.ราชภัฏมหาสารคาม ได้นำต้นยางนามาปลูกในสวนป่าบริเวณ พุทธสถานภูดานไห เพื่อในวันข้างหน้าจะได้เป็นร่มเงา ความชุ่มชื้นและความสมบูรณ์กลับคืนมาสู่ป่า ขออนุโมทนาครับ
และในวันที่ผมไปถึงก็ยังคงมีคณะญาติธรรมอีกคณะหนึ่ง ได้ร่วมกิจกรรมปลูกป่าด้วยเช่นกัน



องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ คุณแม่ชม นำพาทำกิจกรรมปลูกป่า









ที่ขาดเสียไม่ได้ พรีเซนเตอร์ของเรา



คณะที่มาร่วมกิจกรรม กราบลาพ่อแม่ครูอาจารย์เดินทางกลับ หลังจากได้ร่วมกันปลูกป่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

ศาลาปฏิบัติธรรม พุทธสถาน ภูดานไห

จากวาระก่อนที่ได้มายัง ภูดานไห ที่ได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นหอฉัน โรงครัว กุฏิกาลิก ไฟฟ้า น้ำใช้ ถนนหนทางเข้าสู่วัด ซึ่งได้อำนวยประโยชน์และความสะดวกให้แก่ผู้ที่มาศึกษาปฏิบัติธรรมกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์เป็นอันมาก
ถาวรวัตถุและสิ่งต่างๆเหล่านั้นก็เกิดจาก จิตศรัทธาอันเป็นกุศลจากหลายๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญกันมา ทั้งทรัพย์ปัจจัยและแรงกาย แรงใจ จากผู้อยู่ใกล้ ไกล จึงทำให้ปรากฏขึ้นมา เป็นที่ปลื้มปิติในบุญกุศลนั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่สำเร็จเสร็จสิ้น ก็เป็นในส่วนของศาลาปฏิบัติ ทำวัตร สวดมนต์ ซึ่งในอีกไม่ช้านานก็จะเข้าสู่ช่วงเข้าพรรษาที่ฝนตกชุก หากในส่วนของหลังคาศาลาและพื้นได้เสร็จก่อนช่วงเวลาดังกล่าว คงจะพอได้เป็นประโยชน์แก่ผู้มาปฏิบัติได้เป็นที่พักชั่วคราว หลบแดดหลบฝนได้บ้าง

​

สิ่งจำเป็นที่จะต้องได้ทำก่อนคือในส่วนของหลังคาและพื้น ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมากพอสมควร ได้รับทราบมาว่าในส่วนของหลังคานั้น ค่าวัสดุอุปกรณ์ตกอยู่ที่ประมาณ 200,000บาท และในส่วนค่าแรงก็ประมาณ 120,000บาท
และในส่วนพื้นศาลา ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำ คงจะได้กล่าวถึงรายละเอียดต่างๆในลำดับถัดมา

เป็นที่กังวลและหนักใจอยู่สำหรับผู้ดูแลจัดการอย่างคุณแม่ชม เพราะปัจจัยที่มีอยู่ก็ได้จัดสรรค์ไปในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นถาวรวัตถุ และสาธารณูปโภค ที่ปรากฏให้เห็นและได้ใช้ประโยชน์กันมาแล้ว คงเหลือปัจจัยแต่เพียงเล็กน้อย

ด้วยการรับรู้รับทราบดังกล่าวมานั้น ผมก็เลยขอโอกาสจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อบอกกล่าวความเป็นไปให้ทุกท่านทราบ และขอบอกบุญมาด้วยในโอกาสนี้ นับได้ว่าเป็นบุญใหญ่ที่จะได้มาร่วมกันสร้างบุญกุศล บุญบารมีกัน เพื่อผลแห่งอานิสงค์ในบุญกุศลนั้น จะเป็นเสบียงที่จะติดตัวเราไปไม่ว่าในภพนี้ หรือภพหน้า

ได้โอกาสอันเป็นข่าวดี ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้เมตตา มอบพระพุทธปฐวีธาตุองค์พิเศษ ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ที่พระหัตถ์องค์พระประธาน คือองค์พระอริยสัจจธรรม และองค์พระโลกุตตรธรรม9 ที่จะมอบให้ผู้ร่วมบุญในการบุญอันใหญ่นี้

พระอริยสัจจธรรม
​

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระอริยสัจจธรรม

​

พระอริยสัจจธรรม เป็นพระพุทธปฐวีธาตุที่มีสัณฐานกลม แบน โดยธรรมชาติ สำเร็จในตัวเอง ไม่ได้ผ่านการตัด ขัด เจียร ให้เป็นรูปร่างดังกล่าว
เป็นปฐวีธาตุจากลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีความเป็นธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่ง องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้บรรจงเสกสรรได้งดงาม และคงความหมายเป็นพิเศษแก่ พระอริยสัจจธรรมนี้ ด้วยพุทธลักษณะเป็นรูปพระพุทธเจ้าปางตรัสรู้ ประทับนั่งบนฐาน4ชั้น โดยนัยยะแห่งการตรัสรู้พระอริยสัจจธรรม4ประการ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) และความหมายแห่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าชัยชนะทั้งปวง ที่พระพุทธองค์ทรงมีเหนือหมู่กิเลสมาร"พุทธชยันติ"

พระโลกุตตรธรรม9
​

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระโลกุตตรธรรม9

พระโลกุตตรธรรม9 เป็นพระพุทธปฐวีธาตุ สีดำสนิท สัณฐานเหมือนเมล็ดข้าวสารขนาดใหญ่ ด้านบนเรียวชี้ขึ้นไป อุปมาดั่งความเจริญงอกงาม สมบูรณ์พูนผล
ลายจารด้านหน้า เป็นพระพุทธปางสมาธิ ประทับนั่งบนฐาน9ชั้น โดยนัยยะแห่งโลกุตตรธรรม(ธรรมอันเหนือโลก)9ประการ อันได้แก่ มรรค4 ผล4 นิพพาน1 สีทองสว่างไสว
ลายยันต์ด้านหลัง รูปเหมือนจักรในความหมายแห่งเครื่องประหัตปหารกิเลส สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง

​

เปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง กับขนาดของเหรียญ 10บาท

ด้วยพระพุทธปฐวีธาตุองค์พิเศษ มีเพียง 2องค์ หากมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญหลายท่านแจ้งความจำนงค์ร่วมทำบุญเข้ามา เป็นการยากที่จะมอบให้ท่านใดท่านหนึ่ง คงขออนุญาตใช้เกณฑ์ในแนวทางของการประมูล ที่จะมอบให้ผู้ร่วมทำบุญในปัจจัยจำนวนสูงสุด และลำดับถัดมาเป็นผู้ได้รับพระพุทธปฐวีธาตุองค์พิเศษนี้นะครับ
ส่วนท่านที่ร่วมทำบุญลำดับถัดลงมาอีก นักรบธรรมก็จะได้มอบวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกให้ด้วยเช่นกันครับ
สำหรับในเกณฑ์ของเวลา ถือเอาวันสิ้นสุดของเดือนมิถุนายน(30 มิ.ย.เวลา 24.00น.)นี้ เป็นการปรากฏผลผู้ที่จะได้รับมอบ พระพุทธปฐวีธาตุองค์พิเศษทั้งสององค์ตามลำดับนะครับ

ขอมีความสุขความเจริญในธรรม
นรธ.ภูเบศวร์
8 มิถุนายน 2555

*** ร่วมทำบุญ ดูรายละเอียดที่นี่ครับ http://surathecho.blogspot.com/2011/09/07.html
​

 

กราบ กราบ กราบ

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระอริยสัจจธรรม และ

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระโลกุตตรธรรม 9


สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขออนุโมทนาด้วยครับ..สาธุ

 

เรียน นรธ.ทุกท่านเพิ่มเติมเป็นอีกทางเลือกครับ

ผมมีอีกเล่มหนึ่งของ ลุงหวีด บัวเผื่อน ชื่อ "จิตเป็นอมตะ"

เข้าไปอ่านหรือโหลดได้ที่เวบ กัลยาณธรรม

..

ยังมีหนังสือธรรมะให้อ่านอีกมาก ครับ

 

9 มิ.ย.ขอเชิญรับเสด็จฯ“ในหลวง”ในการทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.8
​

กทม.เตรียมจัดพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 เพื่อเตรียมรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ทรงอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ เชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด ในวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2555 เวลา 17.30 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดสด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมการจัดพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 เพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ และจัดพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติ
ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีของปวงชนชาวไทยที่จะได้เฝ้าชื่นชมพระบารมี และถวายความจงรักภักดีตลอดเส้นทางเสด็จฯ ตั้งแต่โรงพยาบาลศิริราช ไปจนถึงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด
โดย กทม.ได้เข้าสำรวจและปรับปรุงด้านกายภาพของพื้นที่ดังกล่าว และเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ แก่ประชาชนที่จะมาเฝ้ารับเสด็จฯ อาทิ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ น้ำดื่มบริการประชาชน ฯลฯ
สำหรับความเป็นมาของพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 นั้น เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ขนาด 3 เท่าของพระองค์จริง พระอิริยาบถทรงยืน ประดิษฐานบนแท่นที่ความสูงระดับเดียวกันกับราวสะพานพระราม 8 เพื่อให้พระบรมราชานุสาวรีย์มีความยิ่งใหญ่สง่างามสมพระเกียรติ
และเพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งของสะพานพระราม 8 ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2538
โดยพระองค์มีพระราชดำริให้ กทม.ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ
โดยภายใต้พระบรมราชานุสาวรีย์ ยังได้ถูกออกแบบให้เป็นอาคารอเนกประสงค์บนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดีในหลายๆ ด้าน มีบรรยากาศและทิวทัศน์งดงาม
สามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้หลายแห่ง เช่น ป้อมพระสุเมรุ วังบางขุนพรหม ยอดอาคารโดมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสะพานพระปิ่นเกล้า รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาให้เกิดภูมิทัศน์ที่ดี เป็นมุมมองที่สำคัญแห่งใหม่ของการสัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการสัญจรบนสะพานพระราม 8
นอกจากนี้ กทม.ได้ก่อสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 8 ในพื้นที่บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณฝั่งธนบุรี เพื่อถวายเป็นราชสักการะ ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้ถวายความเคารพและใช้เป็นสถานที่สาธารณะ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ
ซึ่งต่อมาสวนแห่งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “สวนหลวงพระราม 8” และเนื่องจากเป็นสวนสาธารณะประกอบพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 ประชาชนทั่วไปสามารถใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หรือออกกำลังกาย
ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะได้รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ภายใต้บรรยากาศความร่มรื่นและภูมิทัศน์ที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

​

----------------------------------​

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากโรงพยาบาลศิริราช เพื่อทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่8 ณ เชิงสะพานพระราม8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีประชาชนมารอรับเสด็จอย่างเนื่องแน่นเต็มพื้นที่โรงพยาบาลพร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง

​

เวลา17.50น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาถึงพลับพลาพิธีบริเวณเชิงสะพานพระราม8 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถวายรายงานความเป็นมาและน้อมเกล้าฯถวายสูจิบัตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

จากนั้นทรงเสด็จทอดพระเนตรชมวิดิทัศน์ประวัติความเป็นมาของการก่อสร้างสะพานพระราม8และพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่8ซึ่งพระบรมราชานุสาวรีย์นี้เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยเคยสร้างมาโดยมีส่วนผสมจากทองแดง ตะกั่ว สังกะสีและดีบุก โดยใช้เวลาการสร้างทั้งสิ้น18เดือน ออกแบบโดยกรมศิลปากร

เวลา18.00น.ทรงเสด็จทอดพระเนตรชมนิทรรศการพระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลฯซึ่งบรรยากาศบริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ประชาชนแห่จับจองพื้นที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กันอย่างเนื่องแน่น และเวลา18.09น. ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 อย่างเป็นทางการ

จากนั้นทรงประกอบพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานทรงพระราชอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลฯกระทั่งเวลา19.15น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ
และ สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับ โดยสร้างสร้างความปลื้มปิติให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้ารอส่งเสด็จจำนวนมากและต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

สำหรับสะพานพระราม8นี้เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้นเมื่อทรงเสด็จเยี่ยมสมเด็จพระบรมราชชนนีที่ทรงประทับรักษาพระอาการที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อปีพ.ศ.2538 ทรงเห็นถึงปัญหาการจราจรที่หนาแน่น จึงทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้น

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=580 align=center><TBODY><TR><TD class=content-bg><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>

สวนหลวงพระราม 8 สวนสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยา​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จากการก่อสร้างสะพานพระราม 8 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเชื่อมต่อถนนวิสุทธิกษัตริย์กับถนนอรุณอัมรินทร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพระราชดำริเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรภายในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ ให้ระบายออกสู่ย่านธนบุรีให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

​

​

สวนหลวงพระราม 8 ​

และเนื่องจากพื้นที่ริมน้ำบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีคุณสมบัติ เฉพาะตัวที่ดีในหลายๆด้าน กล่าวคือการเป็นพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีบรรยากาศและทิวทัศน์งดงาม ทั้งสามารถมองเห็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้หลายแห่ง เช่น ป้อมพระสุเมรุ วังบางขุนพรหม ยอดอาคารโดมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสะพานพระปิ่นเกล้า

รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาให้เกิดภูมิทัศน์ที่ดี เป็นมุมมองที่สำคัญแห่งใหม่ของการสัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการสัญจรบนสะพานพระราม 8 กรุงเทพมหานครจึงได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 8 ในพื้นที่บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณฝั่งธนบุรี เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี

ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้ถวายความเคารพและใช้เป็นสถานที่สาธารณะ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งต่อมาสวนแห่งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “สวนหลวงพระราม 8” และเนื่องจากเป็นสวนสาธารณะประกอบพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 ประชาชนทั่วไปสามารถใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหรือออกกำลังกาย ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะได้รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ภายใต้บรรยากาศความร่มรื่นและภูมิทัศน์ที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

​

​

สวนหลวงพระราม 8 ​

นอกจากจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรแล้ว สะพานพระราม 8 ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นสะพานข้ามแม่น้าเจ้าพระยาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีเสาตอม่อออกแบบก่อสร้างเป็นสะพานแขวนแบบอสมมาตร ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นสะพานแขวนอสมมาตรที่ยาวเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ซึ่งภายในสวนนอกจากความร่มรื่นของต้นไม้และสายน้ำที่ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามแล้วยังประกอบด้วย

พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ขนาด 3 เท่า ของพระองค์จริง พระอิริยาบถทรงยืน ประดิษฐานบนแท่นที่ความสูงระดับเดียวกันกับราวสะพาน เพื่อทำให้พระบรมราชานุสาวรีย์มีความยิ่งใหญ่และสง่างามสมพระเกียรติ และยังได้ออกแบบให้ภายใต้พระบรมราชานุสาวรีย์เป็นอาคารอเนกประสงค์ด้วย

พื้นที่นันทนาการริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่ดาดแข็งตลอดแนวเพื่อรองรับการใช้งานจากคนจำนวนมากรวมทั้งยังเป็นเขื่อนป้องกันน้ำท่วมที่สามารถใช้งานได้ในหลากหลายลักษณะ เช่น เดิน วิ่ง หรือนั่งเล่น จัดกิจกรรมในงานเทศกาล จัดงานแสดงต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมประเพณีที่เกี่ยวข้องกับน้ำโดยตรง เช่น การชมขบวนเรือพระราชพิธี ซึ่งประกอบด้วย ศาลาพักผ่อน และท่าเทียบเรือ

พื้นที่นันทนาการสาธารณะ แบ่งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะติดกับคลองบางยี่ขันและพื้นที่สวนสาธารณะติดกับพื้นที่ใต้สะพานพระราม 8 โดยมีอาคารพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นส่วนกั้น แต่สามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยการเดิน ใช้เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา รวมทั้งสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ด้วย

​

แผนผังสวนหลวงพระราม 8 ​

ที่ตั้ง - เชิงสะพานพระราม 8 ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
พื้นที่ - 24 – 0 – 0 ไร่
เวลาเปิดให้บริการ - 05.00 – 21.00 น.
รถโดยสารประจำทาง - สาย 57 81 149

ข้อมูลโดย : สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม
เว็บไซต์ : สำนักสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันนี้ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไห10,009 บาทบัญชีคุณแม่ชมครับ

 

คุณธีรภัทร พิสุทธิสกุลชัยได้ร่วมทำบุญกับ พุทธสถานภูดานไห บูชาพระพญาเหล็ก พระศรีสรรเพชร วรรณะสีปีกแมลงทับ ผ่านทางผมเป็นจำนวน 6,119บาท



ขออนุโมทนาในบุญกุศลนี้ ขอให้ท่านพบแต่ความสุขความเจริญ สว่างไสวทั้งทางโลกทางธรรมครับ

ภูเบศวร์
10มิถุนายน2555

 

สวัสดีครับท่านสมาชิกธรรม วันนี้ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีคุณแม่ชมเพื่อร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไห 10,009 บาทส่วนที่อยู่ผมแจ้งทาง PMนะครับ ขอบคุณครับ

 

ครับผม.....ได้รับที่อยู่แล้วครับ พรุ่งนี้จะดำเนินการจัดส่ง EMS ให้นะครับ และขอขอบพระคุณในจิตอันเป็นกุศลที่ท่านพิศดูได้เสียสละปัจจัยร่วมสร้างพุทธสถานภูดานไหเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่ญาติธรรมทั้งหลายสืบไป

ขอให้ท่านและครอบครัวเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขี้นไปครับ
สมาชิกธรรม/085-0977531

"พระดีของคนบุญ"โมทนาบุญและยินดีกับท่านพิศดูด้วยนะครับ

 

ขอเปิดช่องทางทำบุญอีกทางหนึ่งเพื่อร่วมกันสร้าง ศาลาปฏิบัติธรรม ภูดานไห

สำหรับท่านที่ชื่นชอบและศรัทธาใน พระพญาเหล็ก ผมได้อัญเชิญพระพญาเหล็กมาให้บูชาครบทุกวรรณะ เป็นพิมพ์ที่โบราณมีกิตติศัพท์ว่า "มีกูแล้วไม่จน" กล่าวขานว่าเด่นทางด้านเมตตา ค้าขาย ความมั่งคั่ง มั่งมี สมบูรณ์พูนสุข แลยศฐาบรรดาศักดิ์

มุมมองส่วนตัวในแนวทางการออกแบบพิมพ์ เป็นไปได้ว่า พิมพ์ที่ปัจจุบันนิยม ที่เรียกกันว่าพิมพ์ "เจ้าสัว" อาจประยุกต์มาจากพิมพ์ซุ้มกอนี้ก็เป็นได้ ซึ่งลักษณะดังกล่าวมีคุณบารมีเด่นเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เหมือนๆกัน (ความคิดเห็นส่วนตัว)







พระพญาเหล็กทั้งสามวรรณะนี้ ท่านที่มีจิตศรัทธาทำบุญเพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ภูดานไห เป็นจำนวน 7,000บาท จะได้อาราธนาอัญเชิญพระพญาเหล็ก "มีกูแล้วไม่จน" องค์ใดก็ได้สุดแล้วแต่ความประสงค์ ไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมความมั่นคงในใจ ในอาชีพ กิจการงาน ทั้งยังได้บุญกุศลที่ได้ร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเพื่อยังประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และผู้ที่ตั้งใจมาประพฤติปฏิบัติธรรมอีกด้วย

ติดต่อได้ที่ phoobes@gmail.com โทร.08-1682-2918

ขออนุโมทนาครับ
ภูเบศวร์
10 มิถุนายน 2555