พลังเอกภพยูเรอัส

มาลงชื่อเข้าอบรมค่ะ....

 

ผมอยากเรียนบ้างแต่ก็เป็นไปไม่ได้ครับ คงจะมีอีกหลายท่านที่ต้องการจะเรียนเหมือนผมแต่ก็ไม่มีโอกาสครับ
อาจารย์ กิติชัย มีแผนที่จะทำ DVD หรือเปล่าครับ คนที่อยู่ทางไกลจะได้มีโอกาสเรียนกับเขาด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

 

คุณชัยวัฒน์ โทร ไป ปรึกษา อ.กิติชัย
โดยตรง เลย

น่าจะ ดี
ครับ

​

 

เริ่มต้นให้ได้ เสียก่อน
ได้มาก ได้น้อย ไม่ เป็นไร
ฝึกฝน และ พัฒนาต่อได้

:z17การอบรมในวันที่24เมษา
ก็ถือเป็นการเริ่มต้น ได้ไหมครับ ? หรือต้องเริ่มคอร์สอื่น
( ยังไม่มีอุปกรณ์เครื่องบันทึกเสียงที่ว่าเลย )

 

เริ่มเรียนกับ อาจารย์
จะ ครอส ด้านไหน ก็ อยู่ในเนื้อหา ด้านพลัง
ด้วยกันทั้งสิ้น

เริ่ม เรียนได้ เลย ครับ

ถ้าไม่มี เครื่องบันทึกเสียง ก็ไม่เป็นไร

ใช้โทรศัพท์ มือถือ นั่นแหละ
เอาสายต่อ usb สำหรับ เชื่อม กับคอมพิวเตอร์+โทรศัพท์
​

สายหูฟัง ก็ เอาไป ด้วย ... นะ อย่าลืม​

เข้าใจว่า อาจารย์ คง จะ ให้ ไฟล์ เสียง
โหลด เก็บไว้ แล้ว ให้ เปิดฟัง

กัน ในระหว่าง การ ฝึกอบรม


​

 

เท่าที่สังเกตดู คนที่เข้ามาดู
ในกระทู้ นี้
ส่วนใหญ่ สนใจ ในเรื่องพลัง.....ฯ

จะ มุ่งหวัง เอาไปใช้รักษาตัวเอง ก็ส่วนหนึ่ง
หวังจะเอาไป ช่วยผู้อื่น ก็ พอมี

หวังอยากได้ ความสามารถพิเศษ ตรงนี้ ก็ เยอะ

ขอบอก กัน ตรงๆ
ว่า เพียงแค่ อ่าน เฉยๆ คง ทำเองไม่ได้ หรือได้ ก็ นิดหน่อย

ยังมี ประเด็น หลัก อีก
ที่ ต้อง มาเรียน มาเจอหน้ากัน
รับ รู้ เนื้อหา ทางทฤษฏี ในส่วนละเอียด ( มีมากมายนัก )
และ ยัง ต้องมา รับการถ่ายทอดพลัง จากอาจารย์
การที่ อาจารย์ ท่านถ่ายทอดพลังให้

เป็นเคล็ดวิชา ที่สำคัญ
อีกส่วนหนึ่ง

ตั้งแต่ คนเริ่มใหม่ เป็นการเปิดจักระ
แล้ว พัฒนาจักระ ให้ ทำงาน อย่างสมบูรณ์
ปรับสมดุลย์ ไป ทีละขั้น

เพียงขั้นตอนนี้ ก็ ยัง ต้องรับพลัง กัน อยู่ หลายๆครั้ง

ต่อจากนั้นการรับพลัง
ยัง ใช้ ถ่ายทอด ข้อมูลความรุ้ ใหม่ๆให้ พวกเราอีก

( เหมือน เครื่องคอมพิวเตอร์ ต้องอัพเดรท ข้อมูล
เวอชั่นล่าสุด มาใช้ อย่างนั้นแหละ )

และ ทุกครั้งผม สังเกต เห็น ได้ว่า
มี พระอาจารย์ เบื้องบน ท่านมาช่วยถ่ายทอดวิชา
และ พลังงาน ให้ พวก เราด้วยเสมอๆ

มาถึงขั้น ข้อมูล ที่ส่งมาพร้อมกับพลัง
ในส่วนนี้
แต่ ละคน แม้น นั่งอยู่ด้วยกัน รับพร้อมๆ กัน
ก็ อาจได้ ข้อมูล และ วิชา
ที่ต่างกัน
ตาม ความเหมาะสม ความพร้อม ของ แต่ละคนไป

การได้ เรียนกับครูบาอาจารย์ จริงๆ
จึง เป้นเรื่องสำคัญ

.................
​

 

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ

 

ติดต่อท่านอาจารย์กิตติชัย ยังไม่ได้
ขอลงชื่อเข้าอบรมที่นี้ก่อนแล้วกันครับ
(หวังอยากมีอาจารย์ดีมานาน โลกนี้มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากครับ)

หวังว่าจะได้พบคุณดาวทะเลทราย จะได้คารวะเป็นศิษย์พี่(หรือศิษย์น้า)

 

การปฏิบัติขั้นพื้นฐานและการทำความรู้จักคริสตัล

1. การหายใจในระดับสม่ำเสมอควรหายใจด้วยลมหายใจยาว อย่างน้อย 5 นาที เพื่อเป็นการปรับสมดุลย์ให้สภาพจิตที่สัดส่ายที่กำลังคิดเรื่องต่างๆ หรือยังวุ่นวายใจให้เข้าสู่ความสงบได้ง่ายขึ้นเมื่อปรับลมหายใจไปสักพัก จะรู้สึกตัวเองว่า พอจะเริ่มสร้างความสงบให้กับตนเองได้พอสมควร<O</O

2. ถือคริสตัลในมือข้างใดก็ได้ จ้องมองดูผลึก ส่วนต่างๆ ภายในคริสตัลอย่างละเอียด มองด้วยอาการปล่อยวางแบบสบายๆเช่นกัน<O</O
การปฏิบัติขั้นพื้นฐาน ผู้ฝึกควรใช้เวลาอย่างน้อย 15-30 นาที หากยังไม่เกิดความรู้สึกใดๆ ให้หยุดพัก แล้วหาเวลาฝึกทำบ่อยๆ เพื่อเป็นการปรับคลื่นความถี่ในตัวเราเข้ากับคริสตัล ในระยะแรกๆ อาจใช้เวลาพอควร การเข้าถึง การทำความเข้าใจคริสตัล แต่ละท่านใช้เวลาไม่เท่ากัน มีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวประกอบ
<O</O
หมายเหตุ การทำความเข้าใจและเข้าถึงเนื้อหาของคริสตัล และการทำความรู้จักคริสตัล ไม่ได้มุ่งเน้นการทำสมาธิตามแบบที่ท่านเคยเรียนรู้การปฏิบัติจากพระ เพราะการทำความเข้าใจและเข้าถึงเรื่องคริสตัล ขอให้ท่านปล่อยวางจิตเพียงอย่างเดียว ไม่เพ่ง ไม่ใส่ความเข้มงวดจนเกินไป ทำตนเองเสมือนเป็นผู้สังเกตการณ์ เฝ้าดู ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องตั้งคำถามเมื่อเกิดความรู้สึกขึ้น หรือสัมผัสบางอย่างได้ ปล่อยทุกอย่างให้ดำเนินไปจนสมควรแก่เวลา แล้วค่อยไปถามผู้รู้หลังจากนั้น<O</O
มีสิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวสำหรับการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน คือการปฏิเสธ หรือไม่รับในเบื้องต้นในสิ่งที่เป็นเรื่องใหม่ ความไม่เชื่อ แอนตี้สิ่งที่กำลังจะเรียนรู้ จะทำให้ท่านไม่สามารถเข้าถึง หรือสัมผัสพลังของคริสตัล หรือสิ่งต่างๆ ที่จะตามมาได้เลย เหมือนว่าท่านได้บล็อกจิตของท่านเองตั้งแต่ต้น "ขอให้ลองเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แล้วปฏิบัติตามก่อน หากเห็นตามจริงที่สอนไว้แล้ว ค่อยเชื่อทั้งหมด จึงจะถือเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า"<O</O

Exercise : ให้วางคริสตัลไว้ใต้หมอน หรือข้างตัวเวลานอน สังเกตผลที่เกิดขึ้น จดจำรายละเอียดต่างๆ
ปล. มีคริสตัลจริงและปลอม ปะปนอยู่ทั่วไป ขอให้ถามผู้รู้ก่อนใช้ เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพเต็มที่

 

ขอขอบพระคุณ อ. กิติชัย ที่มาสอนให้พวกเราครับ

 

ขอนำข้อความที่คุณปุ๋ยเขียนถึงผม ได้สัมผัสประสบการณ์ตรงจากการใช้คริสตัล นำมาให้ทุกท่านได้อ่าน
-------------------------------------------------------------------------
"ขอบคุณค่ะอาจารย์
คริสตัลที่นำไปใช้ดีมากๆเลยค่ะ กลับกลายเป็นว่าปุ๋ยชอบคริสตัลแท่งนี้แล้วล่ะค่ะ เพราะจับถนัดมือเพราะใหญ่ และผลึกในแท่งแก้วนั้นก็สวยมากๆค่ะ โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดพลังแท่งนี้จะมากและเวลานำมารักษาทุกครั้งแต่ละอาการจะหายจากการเจ็บป่วยอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกปุ๋ยเหมือนคริสตัลเป็นแก้วสารพัดนึกเลย (เพราะมีสายรุ้งครบถึง 7 สี)
ทุกครั้งที่ปุ๋ยรักษาตัวเองจะรักษาตัวก่อนนอน นั่นก็คือนอนกำคริสตัลมือขวา(ในลักษณะกำมือเหมือนเรากำมือแบบกำปั้นทุบดินให้ปลายแหลมอยู่ด้านบน) และก่อนที่จะรักษาจะนึกถึงว่าเราเจ็บป่วยตรงไหน จากนั้นก็นอนทำสมาธิทำจิตสงบปล่อยวาง นิ่งและสงบปล่อยให้เป็นกลไกของธรรมชาติที่จะให้คริสตัลได้ทำการรักษา ทุกครั้งจะมีอาการร้อนวูบวาบ พลังวิ่งผ่านไปมา บางครั้งก็มีกระแทกแบบหมุนๆ แต่ก็จะสงบเอง (บางครั้งเราก็จะรู้ตัวเองว่าเลิกกำคริสตัลได้แล้ว แบบว่ารักษาเสร็จแล้ว)
ตั้งแต่ปุ๋ยได้ นำคริสตัลจากอาจารย์ไป ได้ใช้คริสตัลรักษาและเห็นผลอย่างเร็ว โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงค่ะของแต่ละอาการ เหมือนคริสตัลนั้นเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรารักษาตัวเราเองไวขึ้น โดยไม่ต้องรักษาเป็นวันๆหรือต้องต่อเนื่อง นั่นก็คือวันเดียวจบ (ทุกครั้งหลังรักษาเสร็จก็ยังนึกถึงพระอาจารย์ดาสิราให้ท่านปรับสมดุลร่างกายของเรา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

ที่ผ่านมาก็รักษาตัวเองหลักๆ ก็คือ

<o></o>
ปวดเมื่อยแขนทั้ง 2 ข้างมากๆ เนื่องจากอุ้มลูกอยู่บ่อยๆ ลักษณะพลังจะออกจากมือที่เรากำคริสตัลข้างขวา และวิ่งไปที่มือด้านซ้ายลักษณะเป็นเส้นตรง พลังจะวิ่งกลับไปมามีความรู้สึกร้อนวูบวาบอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีร้อนไปต้องใช้หัวนิ้วโป้งกดตรงหัวปลายแหลมของคริสตัล กดแล้วปล่อย กดแล้วปล่อย ทำอยู่ 20 นาที และหยุด แขนที่ล้ามากๆ ก็หายปวดเป็นปกติค่ะ<o></o>

หายใจไม่สะดวก คัดจมูก มีความรู้สึกเหมือนจะเป็นหวัด แต่ปุ๋ยรักษาก็คือ นอนกำคริสตัลในลักษณะนำไปจ่อที่กึ่งกลางหน้าผากระหว่างหัวคิ้ว(ไม่แตะเนื้อ) กำจ่อไปที่จักระ6 ลักษณะพลังจะวิ่งไปกระแทกที่ปลายจมูก และร้อน และวิ่งลงไปถึงจักระ 4 วิ่งลงไปเป็นเส้นตรง วิ่งขึ้นวิ่งลง และพลังก็หยุดเอง ไม่ถึง 15 นาที อาการที่ป่วยก็หายเป็นปกติ หายใจสะดวกขึ้น น้ำมูกที่มีอยู่นิดๆก็แห้งหายไป

<o></o>
หูอื้อ เนื่องจากวันๆ ก็พูดเยอะมาก กับลูก กับลูกค้า คนในครอบครัว รักษาในลักษณะกำคริสตัลและจ่อจักระ 6 แต่พลังจะวิ่งในลักษณะวิ่งจากกิ่งกลางจากหน้าผากไปยังหูขวา และกลับไปยังหูซ้าย พลังจะวิ่งวนเป็นรูปสามเหลี่ยม ร้อนและอุ่น ไม่ถึง 15 นาที ความรู้สึกบอกว่าเลิกกำคริสตัลได้แล้วก็หยุด หูที่อื้อก็หายเป็นปกติ

<o></o>
เจ็บคอ ระคายคอ เหมือนจะร้อนใน รักษาในลักษณะนอนกำคริสตัล จะเป็นพลังแบบอุ่นๆ จะวิ่งไปในลักษณะผ่านจากจักระ 6 มาที่ลำคอและวิ่งลงมาที่จักระ 4 ลงมาด้านล่างเลย รักษาอยู่นานเหมือนกันค่ะเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะเป็นหนัก แต่ผ่านไปก็อาการดีขึ้น นี่เป็นเพียงบางส่วนคะ ที่ได้นำคริสตัลมารักษาและใช้ได้ผลจริงๆ
--------------------------------------------------------------------------------------

 

นำบทขอขมากรรม
เผยแพร่
หวังว่า คงเป็นประโยชน์
​

บทขอขมากรรมสำนึกผิด

• คำอธิษฐาน

โดยหลวงพ่อชุมพล พลปญฺโ
๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓




ด้วยเดชะ พุทธบารมี ธัมมบารมี สังฆบารมี ข้าพเจ้าจะขอน้อมอัญเชิญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดาทั้งหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล มาเป็นพยานในการขอขมาลาโทษ ขออโหสิกรรม สำนึกผิด ตั้งจิตใหม่ ของข้าพเจ้า ในกาลบัดนี้ด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าจะขอตั้งความใฝ่ดี ความละอายต่อบาป และความเกรงกลัวต่อบาป ไว้เป็นเบื้องหน้า จะกราบแทบเท้าขอขมา ขอลาโทษ กระทำคืนความผิดของตน ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้

๑. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อพระพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ พระธรรมเจ้าทุกทุกพระธรรมขันธ์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์สาวกทุกทุกองค์ และปูชนียวัตถุสถานอันเกี่ยวเนื่องกับพระรัตนตรัยและสิ่งมีคุณทุกทุกสิ่งสถาน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๒. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อพระโพธิสัตว์ทุกทุกองค์ และท่านผู้ทรงคุณ ซึ่งกำลังขวนขวายสร้างบารมี อยู่ในเส้นทางเครือข่ายแห่งพุทธะทั้งปวง มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๓. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อบิดามารดาผู้มีพระคุณชุบเลี้ยงข้าพเจ้ามาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย มีการไม่รู้จักสำนึกบุญคุณที่ท่านชุบเลี้ยงมา ดื้อด้านไม่ฟังคำสั่งสอน ต่อล้อต่อเถียงทำให้ท่านเสียใจ ไม่กระทำตามโอวาทที่ท่านสอนสั่ง ไม่ขวนขวายตอบแทนบุญคุณท่าน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๔. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อครูบาอาจารย์ผู้สอนสั่งด้วยหวังดี โอบอ้อมอารีมีพระคุณเกื้อหนุนด้วยเมตตา โดยทำให้ท่านต้องระอา เพราะความดื้อด้านถือตัวหัวแข็ง บ้างก็แข่งดีเข้าใจว่าตัวเองนี้เก่งกล้า ทั้งที่สงวนรักษาความโง่เขลาเบาปัญญาไว้อย่างประคบประหงม ไม่น้อมรับโอวาทที่ท่านเมตตาสอนสั่งด้วยห่วงใย ทำให้ท่านผู้หวังดีต้องคับแค้นแน่นใจ มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๕. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยหักหลัง ทรยศ คดโกง ต่อท่านผู้มีพระคุณ ผู้มีบุญคุณ ต่อท่านผู้มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี จริงใจต่อข้าพเจ้า มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๖. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยลบหลู่ล่วงเกิน ต่อท่านผู้มีคุณธรรมอันสูงส่ง เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี หรือเพราะความเย่อหยิ่งถือดี ยกตนข่มท่าน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๗. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยแสดงความไม่ยำเกรง ต่อจิตวิญญาณ ทั้งในภูมิชั้นสูง ภูมิชั้นกลาง ภูมิชั้นต่ำ ได้เคยล่วงเกินทำร้ายทำลายให้ท่านเดือดร้อน ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๘. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยทำให้ท่านผู้ใกล้ชิดสนิทแน่น ทั้งเป็นญาติมิตรสามีภรรยาลูกหลานเหลนสืบสายโลหิต ต้องคับแค้น ขัดข้อง ผิดหมองใจ โดยการแสดงนิสัยอันธพาลมารโหดร้ายต่อคนใกล้ชิด มองข้ามคนสนิทไปสนใจแต่คนนอก ทำให้ท่านต้องน้อยใจ เสียใจ น้ำตาตก เพราะว่าข้าพเจ้าถือทิฏฐิหยาบกระด้าง เอาแต่ใจและความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๙. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยกระทำไปโดยไม่สมควรแก่ศักดิ์ศรีและฐานะ กระทำไปโดยไม่ละอายต่อบาป ไม่เกรงกลัวต่อบาป ผิดสัจจะ ผิดศีล ผิดธรรม ไม่ยำเกรงต่อโอวาทของพระศาสดา โดยละเมิดข้อห้าม หรือไม่เอื้อเฟื้อกระทำตามที่พระองค์สั่งสอน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

๑๐. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำการกักขฬะ เหี้ยมโหด เลวร้าย อาฆาต พยาบาท สาปแช่ง จองเวร อิจฉา ริษยา ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี ทั้งด่าว่า ใส่ร้ายป้ายสี นินทา กล่าววาจาส่อเสียดยุยงให้แตกสามัคคีกัน ปั้นโยนความผิดให้ผู้อื่นโดยไม่เป็นความจริง หรือพูดจาพล่อย ๆ โดยไม่ยั้งคิดไม่รับผิดชอบ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นต้องลำบากเดือดร้อน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น
ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ข้าพเจ้าขอตีแผ่ความจริงใจ ในการยอมรับสำนึกผิดของข้าพเจ้า ไปตลอดหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล
ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ ได้โปรดเมตตามาเป็นพระประธาน ในการขอขมาลาโทษของข้าพเจ้าในกาลครั้งนี้ด้วยเทอญ
ขอแสดงอาการ ละพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิ ขอสำนึกผิดในบาปกรรมที่ทำมา ต่อไปนี้จะตั้งตา ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตให้ขาวรอบ เชื่อฟังพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เดินตามพระอริยสงฆ์
ด้วยอำนาจเดชพระเมตตาของพระบรมศาสดาจารย์เจ้า ในวาระโอกาสที่ข้าพเจ้าได้กราบขอขมาลาโทษ ยอมรับสำนึกผิดในกาลครั้งนี้ ขอให้ญาณบารมีของข้าพเจ้า ได้ผุดเกิดใหม่ ภายใต้ร่มธรรมรอยพระพุทธบาท ปกเกล้า ปกเกศ ให้ข้าพเจ้าได้เจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข ในเส้นทางธรรมยาตราของพระพุทธองค์ตลอดไป
ในวาระมงคลโอกาส ที่ข้าพเจ้าได้เกิดใหม่ ภายใต้ร่มพระบารมีธรรมญาณของพระองค์เจ้านี้ ข้าพเจ้าจะพึงแสดงออก ซึ่งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันประกอบด้วยกุศลและเมตตา ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ข้าพเจ้าจะตั้งจิตยำเกรงอย่างแรงกล้า ต่อพระพุทธเจ้า ต่อพระธรรมเจ้า ต่อพระสงฆเจ้า มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป มีความยินดีในการบริจาคทาน ในการรักษาศีล ในการเจริญภาวนา ในการสร้างบารมี ในการสร้างความดี ในการสร้างกุศลจิต ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ
เพราะว่าข้าพเจ้าได้มีศรัทธาความเชื่ออย่างแรงกล้า ในเรื่องกฎแห่งกรรม ว่าบุคคลกระทำการสิ่งใด ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม ตนเองนั่นแล ที่จะเป็นผู้รับทั้งผลดีและผลชั่ว ไม่ใช่ผู้อื่นจะมาเป็นผู้รับผล ตนเองนั่นแลที่จะเป็นผู้รับผลอย่างเต็มที่ อย่างถี่ถ้วนทุกคดี ไม่ว่าชั่วหรือดี เป็นกฎตายตัว ตลอดกาลนาน จนสิ้นโลก
ข้าพเจ้าขอตีแผ่ความจริงใจไปตลอดโลกธาตุ ประกาศโทษตน ด้วยความละอายต่อบาป และความเกรงกลัวต่อบาป ข้าพเจ้าจะขวนขวายปรับปรุงตนเป็นคนใหม่ จะเห็นโทษในความชั่วแม้เล็กน้อย แล้วไม่ฝืนกระทำ จะเห็นคุณในความดีแม้เล็กน้อย แล้วขวนขวายกระทำโดยเคารพเอื้อเฟื้อ จะไม่ประมาท ไม่ทอดธุระ ไม่เชือนแช ต่อความดีและคนดีทั้งปวง จะไม่ทำตัวให้คุ้นเคยเป็นสหายใกล้ชิด ต่อความชั่วและคนชั่วทั้งปวง จะขวนขวายคบหากัลยาณมิตรผู้เป็นบัณฑิต เพื่อเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ในเส้นทางแห่งการปฏิบัติบูชา ด้วยความยำเกรงอย่างแรงกล้าต่อพระธรรม ไปจนกว่าที่จะถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ



พระชุมพล พลปญฺโ
เขียนเพื่อเป็นพุทธบูชา ในวันวิสาขบูชา ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓

(บทขอขมากรรมสำนึกผิดนี้ ถ้าใครใช้ทุกวันจะช่วยแก้ไขวิบากเวรกรรมให้เบาบางลง และช่วยให้เจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง)
(ไม่สงวนลิขสิทธิ์)​

 

ขอบคุณคุณดาวครับ ที่นำความรู้และข้อความดีดีมาให้พวกเราได้อ่านกัน
สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผมดูพระเครื่องไม่เป็นอะครับ
ใครรู้ช่วยบอกหน่อยครับ

มีพุทธคุณด้านใดอะครับ.... ขอบคุณครับ

 

คุณไมค์ มาถาม กลางห้อง อย่างนี้
ตอบหลังไม ดี กว่า นะ
ว่างๆ โทรมา จะเล่าให้ฟัง

หากตอบไป ในกระทู้ จะ ดู ไม่ เหมาะ​

 

ขอสมัครด้วยครับ ส่วนคริสตัลผมไม่มีครับ จะหาซื้อได้ที่ไหนครับหรือทางอาจารย์มีไหมครับ ขอบคุณครับ

 

สวัสดืค่ะอาจารย์ และ พี่ๆน้องๆทุกท่าน

คือ ว่าไม่ได้เข้ามานานนมาก
เลยพลาด เรื่องคริสตัลไปอย่างน่าเสียดาย
ขอบคุณพี่ดาวค่ะ ที่โทรมาอัพเดทข้อมูลให้

จะพยายามไปวันที่ 24 ค่ะ
(ต้องเคลียร์กำหนดการเก่าก่อน ... เฮ้อ)

จ๋า ค่ะ

 

คนที่มี คริสตับ อยู่แล้ว นำติดตัวไปใน วัน อบรม ด้วย​

สำหรับ ผุ้ ที่ ยังไม่มี
หรือ อยากจะ หาซื้อ แต่ ดู ไม่ เป็น ว่า เป็นของแท้ หรือไม่​

ผม เคยเห็น ในตู้ ของ อาจารย์ มี สะสมไว้ พอสมควร
พวกเรา ก็ เคย ขอ แบ่ง จากท่านมาบ้าง​

ลองโทร ไป สอบถาม ท่านดู ก่อน นะครับ​

 

แจ้งข่าว

การสอนในชั้นเรียนนับแต่นี้เป็นต้นไป ตัวครูและอาจารย์จิตรา จะมาสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ รวมถึงเล่าประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้น ให้พวกเราได้เข้าถึงเนื้อหาและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้น เพื่อจะนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง จึงแจ้งให้ทราบมา ณ ที่นี้


ครู

 

ขอบคุณครับพี่ดาวฯที่แนะนำ