พรในหลวง5ธันวา สมานฉันท์กำจัดอคติ-มีเมตตา

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย Catt Bewer, 6 ธันวาคม 2006.

  1. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ร่วมหาเหตุผลสร้างสรรค์ชาติ ให้ร่มเย็นสืบไปทั่วประเทศน้อมจัดเฉลิมฉลอง



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร เสด็จออกมหาสมาคม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในหลวงเสด็จออกพระราชพิธีวันเฉลิมฯ 5 ธันวา ทรงเตือนสติสังคมไทยให้มีความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง ร่วมหาเหตุผลความถูกต้อง ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมอย่างจริงจัง กำจัดอคติ สร้างเสริมความเมตตา รวมกำลังกันสร้างสรรค์จรรโลงประเทศชาติให้มั่นคงเข้มแข็ง ให้เป็นแผ่นดินที่คนไทยจะอาศัยอย่างร่มเย็นไม่มีที่สิ้นสุด เผยพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรที่ท้องสนามหลวง พสกนิกรเปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้องตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน ก่อนปิดท้ายด้วยพลุสว่างไสวนับแสนลูก

    -ในหลวงเสด็จฯ"อมรินทรวินิจฉัย"

    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต มายังพระบรมมหาราชวัง โดยเสด็จฯมาทางประตูวิเศษไชยศรี รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนมาทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี และเทียบที่พระทวารเทเวศรักษา แล้วเสด็จเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

    จากนั้นทรงประกอบการพระราชพิธี โดยทรงฉลองพระองค์ครุยราชูปโภค จากนั้นพระองค์จะประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ซึ่งเป็นพระราชอาสน์ ประดิษฐานบนพระราชบัลลังก์อีกชั้นหนึ่ง ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

    ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร นายกรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลตามลำดับ

    -พระบรมฯกราบทูลถวายพระพรชัย

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลฯ มีใจความดังต่อไปนี้

    "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้บรรลุอุดมมงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษา ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมทย์เต็มพ้นประมาณที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล ในปัจจุบันนี้ มิใช่เพียงแต่ประชาชนชาวไทย แม้ชาวโลกทั่วไปต่างประจักษ์แก่ตา แก่ใจว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นพระมหากษัตริย์สุดประเสริฐเลิศด้วยบุญญาธิการ และเพียบเพ็ญด้วยพระบารมี พระบารมีทั้งนั้น

    ข้าพระพุทธเจ้า ได้เฝ้าสังเกตศึกษาจนเห็นแท้แน่แก่ใจว่า มิได้เกิดมีขึ้นเองหากเป็นพระบารมีที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงสร้างสมให้เกิดมีขึ้น ด้วยพระราชจริยาวัตร ที่ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญเพื่อความเจริญร่มเย็นของอาณาประชาราษฎร์ และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติตลอดมา ด้วยเหตุนี้ประชาชนผู้อยู่บนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ศาสนาใด อยู่ ณ ถิ่นฐานใด จึงได้รับพระบารมีแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมอยู่ตลอดเวลา และต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่ถ้วนหน้า

    เห็นได้จากคราวฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ประชาชนทุกหมู่เหล่าแม้ผู้พำนักอยู่ในถิ่นที่ห่างไกล ได้พรั่งพร้อมกันมาชุมนุม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วยศรัทธา สามัคคี ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงระลึกอยู่เสมอว่า โชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทยภายใต้พระบุญญาบารมี จึงได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุข ความเจริญ และเกียรติยศพร้อมทุกสิ่ง ในมหามงคลสมัยนี้จึงขอถวายสัตย์ปฏิญาณด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิตว่าจะตั้งใจปฏิบัติภาระ หน้าที่ และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สืบสานพระราชปณิธานแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท โดยเต็มกำลังสติปัญญา ความสามารถ และจะละเว้นการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ทำให้เป็นที่รบกวน กังวลพระราชหฤทัย กับขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล

    -ทรงพัฒนาที่ห่างไกล-ทุรกันดาร

    ขออานุภาพแห่งพระคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก พร้อมทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเกษมสุข ปราศจากมลทินทุกข์และพยาธิภัย เป็นร่มฉัตร ร่มโพธิ์ ร่มไทร เป็นหลักชัย หลักชีวิตของปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชาติไทย ตลอดไปชั่วกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"

    ต่อมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถวายพระพร ความว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ถึงความปีติชื่นชมโสมนัส และความจงรักภักดีของปวงข้าพระพุทธเจ้า ในพระมหากรุณาธิคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายเป็นพระราชสดุดีในมหามงคลสมัยคล้ายวันพระบรมราชสมภพที่เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันนี้

    ตลอดระยะเวลา 60 ปี ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงแสดงให้เป็นที่ประจักษ์อย่างชัดแจ้งว่า ทรงยึดมั่นในหลักทศพิธราชธรรมในการปฏิบัติ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อทำนุบำรุงอาณาประชาราษฎร์ สร้างความผาสุกร่มเย็นให้แก่บ้านเมือง สมดังพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม โดยมิทรงย่อท้อต่อความยากลำบากตรากตรำ หรืออุปสรรคภยันตรายทั้งปวง ในปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์ว่า อาณาประชาราษฎร์ โดยเฉพาะในที่ห่างไกล ทุรกันดาร ต่างได้รับการพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตดีขึ้นตามสมควรแก่อัตภาพ นำมาซึ่งความผาสุกสวัสดี

    -ทรงสร้างแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง

    นับได้ว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงสร้างสรรค์แผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินธรรมและแผ่นดินทอง ซึ่งประวัติศาสตร์ของชาติจะจารึกไว้ตราบกาลนาน แม้ในยามที่บ้านเมืองประสบความวิกฤตทุกข์ร้อน ด้วยเดชะพระบารมี พระเมตตาธรรม และด้วยพระราชปณิธานอันมั่นคงที่จะทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงพสกนิกร บ้านเมืองก็สามารถกลับคืนสู่สันติได้ทุกครั้ง ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงทรงเป็นประดุจดวงประทีปส่องชีวิตของคนไทยทั่วราชอาณาจักรให้มีความหวัง และมีพลังในการร่วมพัฒนาต่อไป ทรงเป็นพลังส่งเสริมให้ทุกคนยึดมั่นในสามัคคีธรรม และสำนึกในความรับผิดชอบ ร่วมแรงร่วมใจกันทำนุบำรุงประเทศให้มั่นคงสถาพร เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงที่ปวงชนชาวไทยเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมตลอดกาล

    ณ ศุภวาระดิถีอันเป็นมิ่งมงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลได้โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพาธและอุปัทวันตรายทั้งปวง สถิตเสถียรในมไหศวรรย์ราชสมบัติ เจริญจำรัสด้วยพระเกียรติคุณอดุลยยศ ปรากฏขจายขจรไปทั่วทิศานุทิศ ทรงเป็นฉัตรแก้วคุ้มเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพสกนิกรชาวไทย ตราบกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"

    จากนั้นนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในนามสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวถวายพระพร ความว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ในศุภวาระมหามงคล อันอุดมที่วันเฉลิมพระชนมพรรษา แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2549 ข้าพระพุทธเจ้า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในนามสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคู่สมรส และปวงชนชาวไทย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

    -ยากจะหาประมุขชาติใดเท่าเทียม

    นับตั้งแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จวบจนถึงปัจจุบันนี้ นับเวลาได้ถึง 61 ปีแล้ว กาลเวลาได้พิสูจน์ให้มหาชนประจักษ์ว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงปฏิบัติตามแนวพระราชปณิธาน ในพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม อย่างแน่วแน่มั่นคง ทรงดำรงพระองค์ด้วยคุณธรรมแห่งพระบรมกษัตริยาธิราชเจ้าโดยถ้วนทั่ว ทรงทำนุบำรุงประชาราษฎร์ด้วยความเสียสละ ตรากตรำพระวรกาย เพื่อสร้างสรรค์แผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง สมดังพระปฐมบรมราชโองการ แม้นว่าประเทศชาติเกิดภัยพิบัติใดๆ ด้วยพระบารมี พระปรีชาญาณ พระเมตตาธรรม และความแน่วแน่ในน้ำพระราชหฤทัย แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ก็สามารถขจัดความยุ่งยากนานัปการนั้น นำประเทศชาติสู่ความสันติได้ทุกครั้งมา พระองค์จึงทรงเป็นดุจดวงประทีปส่องนำชีวิตของคนไทยทั่วราชอาณาจักร เป็นผลให้ปวงชนชาวไทย ล้วนมีความผาสุกสวัสดี ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร มาตราบเท่าทุกวันนี้ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อแผ่นดินนั้น ใหญ่หลวงสุดคณนา ซึ่งข้าพระพุทธเจ้ามิอาจนำมาพรรณนาได้หมดสิ้นในวโรกาสนี้ พระเกียรติคุณแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในฐานะพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ยังได้เลื่องลือไปไกลทั่วทิศา แม้ผู้นำต่างแดนก็ยกย่องชื่นชมในพระปรีชาสามารถ ความเสียสละและการเข้าถึงประชาชนอยู่เป็นนิจ พระองค์จึงสถิตเป็นศูนย์รวมจิตใจไทยทั้งมวล อันยากที่หาประมุขของประเทศชาติใดเทียมเท่าได้ นับเป็นบุญอันประเสริฐของพสกนิกรชาวไทย ที่เกิดมาภายใต้เบื้องยุคลบาท อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ได้อาศัยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม

    -ทรงเตือนใจให้คนไทยสมานฉันท์

    ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย พระบารมีแห่งพระสยามเทวาธิราช ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพ แห่งสมเด็จพระบูรพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยทุกประการ พระพลานามัยสมบูรณ์ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญแก่พสกนิกรชาวไทย ตลอดชั่วกาลนานเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบ ใจความว่า "ข้าพเจ้ามีความปีติชื่นชมอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลายมีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ขอขอบพระทัย และขอบใจในคำอำนวยพรอันเปี่ยมด้วยความมุ่งดี มุ่งเจริญ โดยประการต่างๆ ขอทุกท่านจงได้รับพรและไมตรีจากใจจริงของข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน

    คนไทยร่วมกันตั้งชาติ ตั้งประเทศจนเป็นปึกแผ่นและเจริญมั่นคง สืบต่อกันมาช้านาน แม้บางสมัยบ้านเมืองจะได้เกิดเหตุคับขัน เดือดร้อน แต่เราก็ร่วมกันปฏิบัติแก้ไขด้วยสติปัญญาอันฉลาด สามารถ ด้วยคุณธรรม ความดี และด้วยความสามัคคีปรองดอง ทำให้เรามีอิสรภาพและความสุข ความเจริญทุกอย่าง อายุยืนมาจนถึงทุกวันนี้ ข้อนี้ควรเป็นสิ่งเตือนใจเราทั้งหลายผู้ร่วมอยู่ในชาติ ในประเทศนี้ให้มีสมานฉันท์ มาหาเหตุผลความถูกต้องและความรับผิดชอบต่อส่วนรวมอย่างจริงจัง เพื่อกำจัดอคติและสร้างเสริมความเมตตา สามัคคีในกันและกันจะได้สามารถร่วมกำลังกันสร้างสรรค์ จรรโลงประเทศชาติของเราให้มั่นคงเข้มแข็ง เป็นแผ่นดินที่ทุกคนจะอยู่อาศัย และประกอบสัมมาอาชีพพร้อมกัน ร่วมกัน ด้วยความผาสุกร่มเย็นตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงอภิบาลรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และบันดาลให้ประสบแต่ความสุข สิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคล จงทุกประการ"

    -สนธิเทิดพระเกียรติร่วมกับอภิรักษ์

    เมื่อเวลา 06.00 น. ที่สนามเสือป่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานจัดกิจกรรม 80 ปี รวมใจภักดิ์ รักพ่อของแผ่นดิน เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช โดยมีข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่านับหมื่นคนพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองเดินเท้าจากสนามเสือป่ามาบริเวณพระราชวังสวนจิตรลดา โดยมีนายณรงค์ฤทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ออกมารับพานพุ่มสักการะ

    พล.อ.สนธิกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลว่า ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 5 ธันวาคม 2549 ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และนายอภิรักษ์ โกษโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้มาชุมนุมพร้อมกันเพื่อถวายเครื่องราชสักการะและขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบบังคบทูลถวายพระพรชัยมงคล จากหัวใจของพสกนิกรที่ระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

    -ทรงเป็นศูนย์รวมความสมานฉันท์

    ตั้งแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเป็นร่มฉัตรปกเกล้าปกกระหม่อมเหล่าพสกนิกรชาวไทยจนถึงปัจจุบันนี้ ประเทศไทยได้ดำรงความสวัสดิ์ต่อมาอย่างสงบ และพัฒนามาสู่ความรุ่งเรืองมาโดยตลอดด้วยพระบุญญาบารมีอันแผ่ไพศาล ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่ทรงยึดมั่นทศพิธราชธรรมแห่งพระบรมกษัตริย์ตรียาธิราช อีกทั้งทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ และพระขันติ มานะ อย่างที่สุด ที่พระราชทานพระกรณียกิจให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั่วราชอาณาจักรและผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลทั้งภายในและภายนอกประเทศ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมกันทั่วหน้า

    นอกจากนี้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้พระราชทานดำเนินโครงการนานัปการตามวิถีทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ประชาชนทุกระดับสามารถดำเนินชีวิตด้วยความสุขในทุกสถานการณ์ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจและความสมานฉันท์ของคนไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนา ทุกแห่งหน ในวันมหามงคลวโรกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จึงขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณด้วยความจงรักภักดีว่า จะรักษาเอกราชของชาติ และพระราชบังลังก์ ไว้ด้วยชีวิตและจะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ อุตสาหะ พากเพียร ความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันเพื่อสนองพระราชปณิธานอันประเสริฐแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเพื่อเสริมสร้างความเจริญ สมบูรณ์พูนสุขแก่ประเทศชาติและประชาชน

    ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายพระพรชัยมงคลขอให้อานุภาพแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลพิภพและอานุภาพแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช และพระบรมมหาราชดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงมีพระเกษมสำราญ หลังจากนั้น พล.อ.สนธิ นำประชาชนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชาและเพลงภูมิแผ่นดินนวมินทร์มหาราชา

    -นายร้อยสามพรานเยี่ยมชาวบ้าน

    ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.รร.นรต. เป็นประธานนำนักเรียนนายร้อยตำรวจ ออกดูแลช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ใกล้โรงเรียนที่ยังได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ 2 วโรกาสให้ประชาชนได้เข้าชมตลอดทั้งวันเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อตำรวจและพสกนิกรชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน สำหรับในช่วงค่ำ พล.ต.ท.พงศพัศเป็นประธานจุดเทียนชัยถวายพระพร ที่บริเวณถนนสุภาพบุรุษสามพราน โดยมีนักเรียนนรต.รวมทั้งข้าราชการตำรวจ พี่น้องประชาชนและครอบครัวเข้าร่วมในพิธี โดยทุกคนใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน

    -โคราชตักบาตรสงฆ์99รูป

    ส่วนบรรยากาศเฉลิมฉลองตามต่างจังหวัด เมื่อเวลา 06.30 น.ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผู้ว่าฯนครราชสีมา พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภาค 3 พล.ต.ธีระศักดิ์ ฤทธิวงศ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยข้าราชการทหาร ตำรวจ พ่อค้า และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมานับพันคน ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 99 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช

    จากนั้นผู้ว่าฯนครราชสีมา นำคณะข้าราชการทุกหมู่เหล่าจัดพิธีเฉลิมฉลองวันชาติไทยและร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล และประกอบพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน และมอบรางวัลพ่อดีเด่นของจ.นครราชสีมาจำนวน 10 คน อีกด้วย ณ หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    -กรุงเก่าจุดพล9,999ดอก

    นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา นำประชาชนกว่า 1 พันคน ตักบาตรพระสงฆ์ 80 รูป แล้วร่วมกันถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นเปิดหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤตของร.พ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายสมชาย ชุ่มรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และชาวอยุธยาร่วมกันบริจาคทรัพย์ 35 ล้านบาทสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วไปปล่อยพันธุ์ปลา ที่หน้าวัดกษัตราธิราชวรวิหาร 1 แสนตัว

    ส่วนตามวัดต่างๆมีบรรดาลูกๆพาพ่อแม่ที่สูงอายุเดินทางไปไหว้พระ 9 วัดของอยุธยา เช่น วัดพนัญเชิง วัดใหญ่ชัยมงคล วิหารพระมงคลบพิตร วัดกษัตราธิราช วัดหน้าพระเมรุ วัดท่าการ้อง วัดตูม วัดศาลาปูน วัดธรรมิการาช จนเนืองแน่นทุกวัด ส่วนช่วงเย็นเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรโดยจุดพลุ 9,999 ดอก บริเวณเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา

    -นครสวรรค์ปล่อยปลา4แสนตัว

    เมื่อเวลา 07.45 น.ที่สนามหน้าสำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ นายชนินทร์ บัวประเสริฐ ผู้ว่าฯนครสวรรค์ พร้อมด้วยนายภิญโญ นิโรจน์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ นายจิตตเกษม นิโรจน์ นายกเทศมนตรี เทศบาลนครนครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษาหลายพันคนร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้งถวายแด่พระสงฆ์จำนวน 80 รูป โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพญาณมุนี รองเจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดวรนาถบรรพต เป็นประธานสงฆ์พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์นำคณะสงฆ์ร่วมพิธีสวดมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 79 พรรษาและวันพ่อแห่งชาติ

    ต่อมาเวลา 09.39 น. ที่ศาลาประชาคมจังหวัดนครสวรรค์ ผู้ว่าฯนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธี 5 ธันวามหาราช โดยมีนายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล นายชาญเดช คงเอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าฯนครสวรรค์ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อัญเชิญพระแสงดาบขึ้นบนแท่นรับ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 9 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ จุดเทียนชัยถวายพระพร กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณทำความดีถวายในหลวง ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา อัญเชิญพระแสงดาบลง และมอบรางวัลพ่อตัวอย่าง 29 คน มอบทุนบุตรข้าราชการอาสาพัฒนาชุมชน 60 ทุน เป็นเสร็จพิธี

    เวลา 12.00 น.ที่แหล่งน้ำธรรมชาติ ต.หนองกรด อ.บรรพตพิสัย นายชาญเดช รองผู้ว่าฯนครสวรรค์ เป็นประธานพิธีปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ จำนวน 400,000 ตัว เช่น ปลาตะเพียน ปลายี่สก

    -น.ร.อิสลามยะลาถวายพระพร

    เมื่อเวลา 08.30 น.ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา นายณฐพล วิเชียรเพริศ รองผู้ว่าฯยะลา ร่วมกับประชาชนทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 80 รูป ต่อมาที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา เหล่ากาชาดจังหวัดยะลาได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต

    เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา นาธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯยะลา พร้อมด้วยผู้นำศาสนา นักเรียนนักศึกษา ประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ร่วมกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อให้ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาวไทย ตลอดจนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยเพื่อแสดงออกซึ่งความรัก ความสามัคคี พร้อมใจกันขอดูอาถวายพระพร

    -ผู้นำศาสนานราฯร่วมละหมาด

    เมื่อเวลา 06.30 น.ประชาชนชาวนราธิวาสร่วมทำบุญตักบาตร บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จากนั้นเวลา 09.00 น.ที่โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์เทศบาลเมืองนราธิวาส พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลและบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าฯนราธิวาส เป็นผู้นำกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ส่วนช่วงเย็นข้าราชการทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกันทั่วประเทศ

    ด้านพิธีทางศาสนาอิสลาม คณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส เชิญผู้นำศาสนา โต๊ะครู โต๊ะอิหม่ามร่วมละหมาดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วยเช่นกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามกลางประจำจังหวัด

    -ราชบุรีปล่อยสัตว์น้ำ2ล้านตัว

    ที่บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา จ.ราชบุรี ดร.วงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ผู้ว่าฯราชบุรี นำข้าราชการ พ่อค้าประชาชน กว่า 1000 คน กล่าวคำราชสดุดีถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 2,000,000 ตัว ลงสู่แม่น้ำแม่กลอง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

    ส่วนที่หน้าสภ.อ.เมืองราชบุรี เทศบาลเมืองราชบุรีและตำรวจราชบุรี ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดยตั้งเต็นท์บริการแจกจ่ายอาหารฟรีแก่ประชาชน และร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตลาดอำเภอเมืองราชบุรีให้สะอาดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

    เมื่อเวลา 07.00 น.นายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าฯอุทัยธานี นำประชาชนทุกหมู่เหล่าทำพิธีทำบุญตักบาตร ที่ห้าแยกน้ำพุ โดยมีพระอุทัยธรรมานุวัตร เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พร้อมพระภิกษุ 80 รูป รับบิณฑบาต จากนั้นเวลา 10.30 น.ปล่อยพันธุ์ปลาที่ลานสุพรรณิการ์ หน้าศาลากลางจังหวัด เวลา 17.00 น.ริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ พร้อมกัน ณ วงเวียนหอนาฬิกา หน้าวัดทุ่งแก้ว เคลื่อนขบวนมายังลานสุพรรณิการ์ โดยมีผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็นประธานประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล พร้อมจุดพลุดอกไม้ไฟ

    -กาญจน์ปลูกพันธุ์ไม้มงคล

    เวลา 09.09 น.นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.กาญจนบุรีพร้อมหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนองค์กรเอกชนและภาคธุรกิจกว่า 150 องค์กรได้ร่วมกันทำพิธีถวายพานพุ่มเพื่อสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อาคารอเนกประสงค์ศาลา 60 พรรษามหาราช

    เวลา 10.00 นายชนะ นพสุวรรณ รอง ผวจ.กาญจนบุรี ได้เป็นประธานในการปล่อยปลาจำนวน 999,999 ตัว ลงสู่แม่น้ำแควใหญ่ที่จัดขึ้นที่บริเวณเขื่อนขุนแผน ถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี มีประชาชนจำนวนกว่า 300 คนร่วมพิธีดังกล่าว และในเวลา 11.40 น.นายชนะเดินทางไปเป็นประธานในการจัดอาหารและแจกเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่คนชราที่บ้านพักคนชราหลวงพ่อลำไย ต.ลาดหน้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

    เวลา 10.30 น.นายวิชชาญ บุษปวนิช รอง ผวจ.กาญจนบุรีร่วมกับนายปราโมทย์ อุ่นจิตสกุล นายก อบต.ปากแพรก ร่วมเป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้เพื่อพ่อหลวง โดยประชาชนจำนวนกว่า 1,000 คนปลูกพันธุ์ไม้มงคลจำนวน 2,999 ต้น ปลูกที่บริเวณพื้นที่สวนป่าข้างเกาะสมเด็จพระญาณสังวร บ้านลิ้นช้าง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และมีกิจกรรมสาธารณกุศล ทำความสะอาดถนนสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ถนนข้างทางต่างๆ

    -3ศาสนาร่วมถวายพระพร

    ที่บริเวณลานอเนกประสงค์หน้าศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรีหลังเก่า พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ 79 รูป จากนั้นที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี นายประภาศ บุญยินดี ผู้ว่าฯสิงห์บุรี นำประชาชนลงนามถวายพระพร และจัดประกอบพิธีทางศาสนาและสดุดีเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 6 ราย เพื่อนำเงินไปซ่อมบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ในโครงการซ่อมสร้างบ้านผู้ยากไร้ ถวายไท้ 80 พรรษา

    เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ลานอเนกประสงค์หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองระนอง นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าฯระนอง พร้อมด้วยประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ สามเณร จำนวน 80 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    จากนั้นเวลา 09.00 น.จัดให้มีการลงนามถวายพระพร พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร 5 ธันวามหาราช และพิธีถวายพระพรชัยมงคลของศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม พร้อมทั้งอัญเชิญพระแสงราชศัสตราประจำจังหวัดประดิษฐานหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

    ที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด นายพินิจ พิชยกัลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา โดยมีข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน และประชาชน นิสิตนักศึกษาเข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก ส่วนในภาคค่ำประชาชนชาวร้อยเอ็ดทุกหมู่เหล่าจะพร้อมใจกันจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร จุดพลุดอกไม้ไฟ ณ มณฑลพิธีสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด พร้อมกับประชาชนทั่วทั้งประเทศ

    -เพชรบูรณ์ขอยึดเศรษฐกิจพอเพียง

    เมื่อเวลา 07.00 น.นายต่อพงษ์ อ่ำพันธ์ ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ นำชาวเพชรบูรณ์ร่วมทำบุญตักบาตร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา บริเวณลานวัฒนธรรม หน้าศาลหลักเมืองเพชรบูรณ์ พระธรรมวราลังการ เจ้าคณะภาค 4, 5, 6, 7(ธ) วัดเพชรวราราม และพระราชพัชราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง นำพระสงฆ์ 81 รูป ออกรับบิณฑบาต พระธรรมวราลังการ กล่าวสัมโมทนียกถา ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตแบบสงบ สมถะ ไม่ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และให้ทุกคน มีความรัก สามัคคี ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ทุกคนร่วมกันทำความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ด้วยการงดเว้นอบายมุข ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวกลางคืน งดเว้นดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ ทำตนโดยยึดถือศีล 5 ข้อเป็นหลัก ถ้าทุกคนทำได้นอกจากจะเป็นอานิสงส์แก่ตนเองแล้ว ยังเป็นการกระทำเพื่อในหลวงอีกด้วย

    นายวันชัย สุทิน ผู้ว่าฯสุโขทัย ร่วมกับชาวสุโขทัยทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 90 รูป บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด พร้อมทั้งลงนามถวายพระพร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

    -ขอนแก่นทำบุญสงฆ์179รูป

    เมื่อเวลา 06.00 น. นายปานชัย บวรรัตนปราณ ผวจ.ขอนแก่น ได้มาเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2549 ณ บริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น ซึ่งมีพระสงฆ์ 179 รูป มีนายพีระพล พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2549 โดยมีคณะผู้บริหารเทศบาลนครขอนแก่น ข้าราชการทุกหน่วยงานและประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมพิธีประมาณ 1,000 คน ต่อมา ผวจ.ขอนแก่นได้มาเป็นประธานพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2549 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีข้าราชการจังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมพิธีและร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลประมาณ 2 พันคน

    -พสกนิกรเปล่ง"ทรงพระเจริญ"สนั่น

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวังเพื่อกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ตลอดสองข้างทางที่ขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน

    พสกนิกรชาวไทยนับแสนคนพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองเฝ้าฯ รับเสด็จพร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" กันอย่างเซ็งแซ่ รวมทั้งจุดเทียนชัยถวายพระพร ที่คณะผู้จัดงานเตรียมเทียนไขไว้รองรับประชาชน ประมาณ 1,500,000 เล่ม โดยผ่านพิธีปลุกเสกจากวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ด้านภาครัฐ-เอกชน เตรียมจุดพลุสุดอลังการหลายแสนนัดบริเวณท้องสนามหลวงและหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ

    ต่อมาเวลา 19.29 น. ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา โดยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคล ว่า ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ทุกหมู่เหล่า ทั้งที่มาชุมนุมพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้ และในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ มีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสที่วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งในวันนี้

    -ทรงเป็นกษัตริย์ในดวงใจตลอดกาล

    นับแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จเถลิงถวัลยสิริราชสมบัติจวบจนปัจจุบัน ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ประจักษ์ชัด ถึงน้ำพระราชหฤทัยเมตตากรุณาที่ทรงมีต่อพสกนิกรตลอดมา พระราชกรณียกิจนานัปการและการทรงงานอย่างหนักในฐานะพระประมุขของชาติ ล้วนแสดงถึงพระราชปณิธานที่จะสนับสนุนส่งเสริม และแก้ไขปัญหาของชาติและราษฎรโดยแท้

    ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นพระมหากษัตริย์ในดวงใจของประชาชนตลอดกาล และทรงเป็นพระบิดาของแผ่นดิน ที่พระราชทานความรัก ความเอื้อเฟื้อ ความเอื้ออาทรยิ่งใหญ่แก่ภูมิบุตรถ้วนหน้า ทรงนำทางชีวิตของพสกนิกรให้พ้นจากทุกข์ภัยนานา ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระองค์ตามหลักศีลธรรมจรรยาเป็นแบบฉบับแก่ราษฎรและทรงสนับสนุนให้ราษฎรนำหลักธรรมเหล่านั้น ไปใช้ให้เกิดความผาสุก ร่มเย็นอย่างยั่งยืนยาวนาน

    ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นนักคิด และนักปฏิบัติ ทรงรอบรู้ปราดเปรื่องในสรรพวิทยาการ พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทำให้แผ่นดินในชนบทที่เคยแห้งแล้ง กลายเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ราษฎรสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ผลดีประชาชนมีความผาสุกในการดำรงชีวิต ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงพระกรุณาพระราชทานไว้ พระบรมราโชวาท พระราชดำรัสที่พระราชทานในโอกาสต่างๆ ก็เป็นแรงบันดาลใจ ก่อให้เกิดความหวังและความเชื่อมั่นในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของชีวิต ซึ่งส่งผลไปสู่ความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ

    พระมหากรุณาธิคุณแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นที่ประจักษ์เทิดทูน และแซ่ซ้องสาธุการนับเป็นบุญของพสกนิกรชาวไทยที่ได้เกิดมาภายใต้พระบรมโพธิสมภาร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเพียบพร้อมด้วยพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาญาณ พระเมตตากรุณา และพระราชจริยวัตรที่งดงามสมบูรณ์พร้อมทุกประการ

    ณ วโรกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพสกนิกรทั่วราชอาณาจักร น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลโดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้

    -จุดพลุสนามหลวงหลายแสนนัด

    "ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอประกาศความสมานฉันท์พร้อมเพรียงกันเฉลิมพระเกียรติและน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลได้โปรดอภิบาลบันดาลดล ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญปราศจากโรคาพาธ และอุปัทวันตรายทั้งปวง ทรงสถิตเสถียรเป็นพระร่มโพธิ์ทองของปวงข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนาน เทอญ" ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ร้องเพลงสดุดีมหาราชเสร็จ ที่บริเวณท้องสนามหลวง และหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จุดพลุถวายพระพรอย่างยิ่งใหญ่และสวยงามสมพระเกียรติโดยจะมีการจุดพลุจำนวนหลายแสนนัด

    การแสดงพลุแต่ละชุดนั้น มีความหมาย สะท้อนพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น ชุดไพรพนาพาสุขศรี สะท้อนพระอัจฉริยภาพ และสายพระเนตรในงานด้านเกษตร และการชลประทาน ป่าไม้

    ชุดสมานฉันท์สามัคคี หมายถึงพระองค์ ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย และชาวต่างชาติ ทรงห่วงใยดูแลพสกนิกร โดยมิได้เลือกว่าเป็นชนชาติใด ศาสนาใด

    ทั้งนี้ในส่วนของ 3 เหล่าทัพ ประกอบไปด้วย กองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ จะร่วมจุดพลุจำนวน 9 ชุด รวม 299 ดอก โดยในส่วนของกองทัพเรือ นำทีมโดย เรือตรีณรงค์พล ณ บางช้าง ตั้งชื่อพลุที่จะจุดดังนี้ ชุดที่ 1 ชื่อทรงพระเจริญ, ชุดที่ 2 ชื่อสถิตในดวงใจราษฎร, ชุดที่ 3 ชื่อน้อมอภิวาทองค์จักรี, ชุดที่ 4 ชื่อ บารมีแผ่ไพศาล, ชุดที่ 5 ชื่อมิ่งขวัญชาวประชา, ชุดที่ 6 ชื่อไตรรงค์คงคู่ฟ้า, ชุดที่ 7 ชื่อไพรพนาพาสุขศรี, ชุดที่ 8 ชื่อสมานฉันท์สามัคคี และชุดที่ 9 ชื่อสดุดีมหาราชา
    http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03p0101061249&day=2006/12/06
     
  2. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    ถ้ามีชาวต่างชาติถามว่า "พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยหรือ ?"
    เราคงจะต้องตอบว่า "ไม่ใช่"

    "พระองค์ทรงเป็นพ่อของชาวไทยทุกคน"

    ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง
     
  3. sutthida

    sutthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +3,388
    วันนั้นเอเอได้ไปเฝ้ารับเสด็จด้วย ไปสาธยายพระไตรปิฏกหมู่ที่สนามหลวงพอสวดเสร็จเดินออกมาเห็นเขากำลังรอรับเสด็จกัน เอเอก็เลยเข้าไปนั่งอยู่ด้วย เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นในหลวงกับพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ด้วยตาตนเองไม่ใช่ผ่านทีวี ประทับใจมากๆ ไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะได้ชื่นชมพระบารมีด้วยซ้ำ
    เรารักในหลวง
     

แชร์หน้านี้

Loading...