เรื่องเด่น 'ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์'ทรงชื่นชม รพ.ศิริราชที่พึ่งผู้ป่วยยากไร้

'ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์' ทรงชื่นชม รพ.ศิริราชที่พึ่งผู้ป่วยยากไร้

​

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก วันที่ 24 ก.ย. 2553 เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานจัดงานหารายได้วันมหิดล เสด็จไปทรงบันทึกแถบวีดิทัศน์และรายการพิเศษเนื่องใน “วันมหิดล” ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 โดยกำหนดออกอากาศเผยแพร่ ในวันเสาร์ที่ 18 ก.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 22.20 น. เป็นต้นไป เพื่อนำเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีรับสั่งถึงความร่วมมือในการช่วย เหลือผู้ป่วยที่ยากไร้และด้อยโอกาส โรงพยาบาลศิริราชว่า ทรงงานที่ศิริราชมา 17 ปี ทรงซาบซึ้งพระทัยดีว่า โรงพยาบาลศิริราชมิได้เป็นโรงพยาบาลทำกำไร แต่เป็นที่พึ่งของผู้ป่วยที่ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ ครั้งหนึ่งเคยเสด็จไปทรงงานที่โรงพยาบาลศิริราชตอนเช้า ทอดพระเนตรผู้ป่วยหอบเสื่อผืนหมอนใบ มารอรับการรักษาจากแพทย์ และมีบรรยา กาศเช่นนี้ทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์ ทั้งนี้มีพระประสงค์ชักชวนผู้ใจบุญร่วมบริจาค เงินสนับสนุนโรงพยาบาลศิริราชเนื่องในวัน มหิดลตามกำลังทรัพย์และจิตศรัทธา โดยทรงมีพระกรุณาธิคุณพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรักษาผู้ป่วยผู้ด้อย โอกาสในปีนี้เช่นกัน

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รับสั่งถึงแนวพระดำริที่ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ตามรอยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยการพัฒนาโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เปิดทำการมา 1 ปีเต็มแล้ว ปีที่ผ่านมาทรงดำเนินงานจัดโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในประชากรที่อายุ 50-65 ปี ในปีนี้ทรงจัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นปัญหามากทางภาคอีสาน โดยสาเหตุที่ให้ความสนพระทัยมะเร็งตับกับมะเร็งท่อน้ำดีนั้น เพราะคนไทยเป็นกันมาก แต่พบน้อยในชาวต่างชาติ จึงมีพระประสงค์ทำวิจัยหาสาเหตุที่แท้จริงและพัฒนายาตัวใหม่ ๆ ออกมาจากห้องปฏิบัติการ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มี รับสั่งว่า อยากให้ประเทศไทยสามารถผลิตยาได้เอง เรื่องการใช้ยาก็ควรพิจารณาใช้เท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม บางครั้งใช้ ยามากเกินไปไม่ให้ผลดีและอาจสิ้นเปลืองงบประมาณ คนไข้มะเร็งที่สำคัญพอกับยาคือ กำลังใจที่เขาจะต่อสู้ คนไข้มีกำลังใจจะอยู่ได้นานขึ้น มีคนไข้เป็นมะเร็งที่ตับและตับอ่อน หมอ บอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่นี่ 2 ปีแล้ว ยังมีชีวิตอยู่ และมาทำงาน ถือเป็นคนไข้ตัวอย่างทีเดียว อยากให้ผู้ป่วยทุกคนรู้ว่ากำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด รับสั่งกับคนไข้ที่โรงพยาบาลเสมอว่า หมอช่วยได้ครึ่งหนึ่ง แต่พวกคุณก็ต้องช่วยอีกครึ่งหนึ่ง.


วันศุกร์ ที่ 10 กันยายน 2553
Daily News Online > หน้าสตรี > 'ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์' ทรงชื่นชม รพ.ศิริราชที่พึ่งผู้ป่วยยากไร้