ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สำหรับประเทศลาว วิเคราะห์ได้ไม่ยาก.....อิอิอิอิ

ที่เค้าไม่ค่อยเป็นอะไร ก็เพราะไม่มีบทบาทหรือไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
การเป็นอยู่ของผู้คนเป็นลักษณะดั้งเดิม Primitive มากๆ

เมื่อไม่ไปทำอะไรให้ใคร ก็ไม่มีศัตรู เลยไม่มีกรรมต้องมาชดใช้

ทางด้านภูมิศาสตร์.....ลาวมีที่ราบเพียง 1/3 ของพื้นที่ทั้งหมด
นอกจากนั้นเป็นภูเขา เราจึงเห็นพวกลาวเทิง (ม้ง) เป็นประชากรที่สูงมากมาย
เดินกันอยู่เต็มไปหมด แม้กระทั่งในสนามบินวัดไต

แต่เพราะมีพื้นที่ราบน้อย ลาวถึงพัฒนาได้ยากลำบาก ในหลายปัจจัย

แต่น้ำก็ท่วมยาก เพราะไหลลงตามร่องเขาลงสู่ลำธาร เพราะไม่มีถนนหรือสิ่งปลูกสร้างมาขวางกั้นเหนือนประเทศไทย ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ

ในส่วนตัว Nirvana คิดว่าหลังภัยพิบัติ ลาวคงมารวมอยู่กับไทยในยุคไทยมหารัฐ ตามที่ครูอาจารย์เคยกล่าวไว้ เพราะไม่รู้จะไปอยู่กับใคร...หุหุหุห

 

ถ้าภัยพิบัติมา...จะเป็นแบบนี้กันหรือเปล่า

อึ้ง!! รถติดยาว100กิโลเมตร ค้างบนถนนนาน5วัน


ทางด่วนสายปักกิ่ง-ทิเบต เผชิญสภาพการจรจาจรติดขัดอย่างหนักอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่าน ยานพาหนะแทบเคลื่อนตัวไม่ได้เป็นระยะทางยาวถึง 30 กม. แต่ยังถือว่า การจราจรติดขัดน้อยกว่าเมื่อช่วง 4 วันก่อนหน้านี้
รถติดแทบเคลื่อนตัวไม่ได้เป็นระยะทางยาวเกือบ 100 กม.สาเหตุจราจรติดขัดอย่างหนักเพราะเกิดอุบัติเหตุและมีการซ่อมแซมถนนเป็น ระยะๆ สตรีผู้ใช้ถนนสายดังกล่าว โทรศัพท์แจ้งเตือนผู้คนให้หลีกเลี่ยงการใช้ทางด่วนสายปักกิ่ง-ทิเบต เพราะรถแทบเคลื่อนตัวไม่ได้ การจราจรติดขัดลามถึงเมืองใหญ่อีกหลายเมือง โดยเฉพาะเส้นทางมุ่หน้าสู่มองโกเลียใน ทางภาคเหนือของจีน
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา สภาพการจราจรบนทางด่วนสายปักกิ่ง - ทิเบต ติดขัดต่อเนื่องยาวนานถึง 10 วัน ยานหนะหลายคันติดค้างอยู่บนถนนนานถึง 5 วัน ถือเป็นสภาพการจราจรติดขัดมากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ ผู้คนต้องลงจากรถนั่งหลบหาที่บังแดดกันริมถนน บ้างเล่นไพ่ฆ่าเวลา บ้างต้องหลับนอนกันบนถนนลาดยางและซื้อหาอาหารกินกันตามร้านแผงลอยริมถนน ท่ามกลางการขูดรีดราคาอาหารแพงขึ้นหลายเท่า ตัวอย่างเฉพาะน้ำดื่มบรรจุขวด ราคาขายพุ่งถึงขวดละ 10 หยวน หรือราว 50 บาท สูงกว่าราคาปกติถึง 10 เท่า
ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจีนพยายามขยายเส้นทางถนนหลวงทั่วประเทศให้เป็น 4 เลน แต่ยังรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนไม่ทัน ขณะที่เศรษฐกิจจีนเพิ่งโตแซงญี่ปุ่นขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้.

 

"เรื่อง"เมฆจิต" หรือ"เมฆนิมิตร"แบบนี้ก็มีหลายท่านที่ประสพพบเห็นและถ่ายรูปได้บ่อยๆเช่น น้องนาคามูระ และที่ล่าสุดในงานที่ศูนย์พุทธศรัทธา ก็มีพี่กุ้งถ่ายรูปเมฆติดเป็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้อย่างชัดเจน"
ส่งมาให้ดูค่ะ พวกเราที่ไปในนามกลุ่มพลังจิต นำโดย อจ.คณานันท์ กำลังชักชวนให้ผู้มาหล่อพระเขียนคำอธิษฐาน ถวายอายุขัยให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นึกยังไงไม่ทราบรีบหากล้องถ่ายรูป มาถ่ายท้องฟ้าขณะกำลังมีพิธีหล่อพระ และก็เก็บกล้อง พอว่าง ๆ มาดูจึงเห็นรูปนี้ นับเป็นบุญยิ่งนักค่ะ

 

ขออนุญาต ส่งภาพใหญ่แทนพี่รัตติธรรมค่ะ

 

โมทนา สาธุ ... เห็นท่านนั่งในท่าเดียวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรโดยมือท่านจับอยู่ที่หัวเข่าทั้ง 2

 

======================================


30 ส.ค. 53

ช่วงนี้คนเริ่มตื่นตัวการหาซื้อที่ในที่ราบสูง แม่ของว่าที่หลานสะใภ้ก็สนใจจะซื้อ
อาได้นำภาพถ่ายไปให้ดูเขาบอกว่ายังไม่ชัดเจน เลยจะไปขอซีดีที่อาเคยถ่าย
ภาพแล้วลงไว้จากหลานจิ๊บ ปรากฏว่าหลานจิ๊บให้เพื่อนไปอีกทอด

วันนี้เจอหลานจิ๊บที่สถานธรรมดอนเมือง หลานจิ๊บได้ชวนอาไปสถานธรรม
ที่หนองแค สระบุรีในวันที่ 18-19 เดือนกันยายน อาก็รับปาก เพราะกลุ่มเรา
จะต้องฉุดช่วยคนดีมีศีลธรรมไปให้มากที่สุด อาก็ได้เล่าเรื่องมีคนสนใจจะซื้อ
ที่ดินที่เชียงคานที่เหลืออีก 4ไร่เศษให้หลานจิ๊บทราบ หลานจิ๊บถามอาว่าไม่
บล็อคเก็บไว้ก่อนหรือ? อาบอกว่าของใครก็ของเขา หลานจิ๊บบอกอาว่าพี่สาว
ของหลานจิ๊บก็สนใจ

ถ้าสนใจที่ตรงนี้จริงก็ต้องรีบเร่งขึ้นไปดูและตกลงมัดจำซื้อเลย ไม่ต้องรอถึง
เดือนตุลาคมก็ได้ หลานจิ๊บยังถามอาว่าที่ดินที่โคราชไม่ปลอดภัยพอหรือ?
อาก็ตอบว่า ถ้าจะให้ปลอดภัยเบ็ดเสร็จก็ควรจะซื้อในพื้นที่ๆถูกกำหนดไว้จะ
ได้ไม่เสียเงินเสียเวลาในการย้ายบ่อยๆ

ทำไมถึงต้องที่เชียงคาน?

ในตอนแรกอาเองก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องที่นี่ เพราะไกลจากกรุงเทพฯตั้ง 577
กิโลเมตร เมื่ออาได้เจอกับกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทั้งที่บ้านและบนวัดภูควาย
เงินในนิมิต จากการได้ยินเสียงท่านในช่วงทำงานอยู่บนวัดถึง 2ครั้ง ในเวลา
ต่างวันต่างเดือนกัน อีกทั้งตัวเลขที่รวมกันไม่ว่าจะเป็นตัวเลขโฉนด ตัว
เลขระยะทาง ตัวเลขถนนหลวงหรือตัวเลขของจำนวนเงินที่ซื้อที่ดิน เมื่อนำมา
รวมกันก็จะตกเลข 1และเลข7เสมอ นี่คือเครื่องยืนยันได้ว่าที่ตรงนี้คือพื้นที่ๆถูก
กำหนดไว้ อีกทั้งพื้นที่เจาะน้ำบาดาลที่เจาะไปแล้วเจอน้ำเพียงพอต่อความต้อง
การก็อยู่ตรงนี้ทั้งที่ๆเลยลงมาอีกนิดคือหมู่บ้านผาแบ่นกลับเจาะไม่ได้เลย

ข้อสำคัญอีกอย่างคือ จังหวัดเลยเป็นจังหวัดเดียวในภาคอีสานที่พื้นดินไม่มี
ความเค็มเลยปลูกพืชอะไรก็งอกงามดี(ความรู้จาก bio tech)อาถามจากลูก
สาวคนกลางที่เรียน ป.โท ที่มหาวิทยาลัยเกษตร บางเขน

อีกเรื่องสำหรับผู้ที่เตรียมการซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไว้ใชงานในพื้นที่ๆของตัว
เอง ผมขอแนะนำว่าหลอดไฟฟ้าชนิดประหยัดไฟ(ตะเกียบ)ไม่เหมาะนำมาใช้
ร่วมกับเครื่อง อันเนื่องมาจากกระแสไฟฟ้าที่ได้จากเครื่องจะไม่สมำเสมอทำ
ให้ไส้หลอดขาดทันที ทางที่ดีคือในยามค่ำคืนให้ใช้กระแสไฟจากแบตเตอรี่
กลางวันก็เดินเครื่องชาจ์ตไฟใส่แบตฯไว้ ถ้าจะใช้หลอดไฟกับเครื่องกำเนิดก็
ให้ใช้ชุดหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่ใช้บอลลาทชนิดขอลวด



องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น

 

วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:49:35 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
<center></center>
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]นักท่องเที่ยวตื่นเต้น...ฉลามวาฬยาวกว่า 5 เมตร โผล่มาให้จับเล่น [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> นายนิทัศน์ ผึ่งฉาย อายุ 48 ปี อาชีพ ประมง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ขณะที่ขับเรือเร็ว กลับจากส่งพนักงาน ของบริษัทเกาะล้าน ที่เกาะล้าน เพื่อที่จะเข้าฝั่งที่พัทยา พร้อมเพื่อนผู้ร่วมงาน อีก 4 คน พอมาถึงที่ ร่องน้ำระหว่างเกาะล้าน- ชายหาดพัทยา ห่างจากฝั่งพัทยาประมาณ 3.5 ก.ม.ได้พบเงาทะมึน อยู่บนผิวน้ำ สีดำ ขนาดใหญ่มาก จึง ชะลอความเร็วเรือดู เมื่อเข้าใกล้พบ ว่าเป็นปลาฉลามวาฬความยาวประมาณ 5 เมตร ความกว้าง 1 เมตร 70 เซนติเมตร จึงดับเครื่องเรือ พร้อมทั้งใช้โทรศัพท์ถ่ายคลีปวีดีโอ เอาไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ขณะนั้นตนได้ลงไปลูบตัวและกอด ปลาฉลามวาฬด้วย อยู่ด้วยกันนานกว่า 40 นาที ปลาฉลามวาฬก็ ดำน้ำหายไป นายนิทัศน์ กล่าวว่า ตนเป็นชาวประมงมามาก่อน รู้ว่าปลาชนิดนี้ไม่กินเนื้อ กินแต่แพลงตอล เป็นอาหาร และไม่ดุร้าย เหมือปลาฉลามทั่วไป และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พบเห็น ตนพร้อมเพื่อนผู้ร่วมงานต่างตื้นเต้น กับการที่ได้พบ ปลาฉลามวาฬตัวนี้

[/FONT]

 

พายุ 3 ลูก ใกล้กัน เหมือนเรื่อง The Day after tomorrow เลยครับ

 

<TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>Typhoon KOMPASU (08W) CAT1 # 7 : ประกาศเตือนภัยเรื่อง “ไต้ฝุ่น KOMPASU (คอมปาซุ/08W) พายุระดับ 1” ฉ </TD></TR><TR><TD>
<TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Typhoon KOMPASU (08W) CAT1 # 7 : ประกาศเตือนภัยเรื่อง “ไต้ฝุ่น KOMPASU (คอมปาซุ/08W) พายุระดับ 1” ฉบับที่ 7
ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 13.00น.
ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2553 ออกประกาศเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 30 สิงหาคม 2553 / 15.01 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 3 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 2 ลูก
1) Typhoon KOMPASU (08W,23.6N 131.4E,65kts): เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(30ส.ค.53) พายุโซนร้อน KOMPASU (คอมปาซุ/08W) ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลแปซิฟิคทางด้านใต้ของประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด ได้ทวีกำลังเป็น ไต้ฝุ่น ระดับ 1 แล้ว อยู่ที่ละติจูด 23.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 131.4 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ห่ างประมาณ 510 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 5 นอต(9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 นอต(120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 80นอต(148กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 974 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 5 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา…….. / คาดไต้ฝุ่น KOMPASU (คอมปาซุ/08W) ระดับ 1 จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือโดยส่วนใหญ่ต่อไป 24-48 ชั่วโมงข้างหน้ามีแนวโน้มทวีกำลังเป็นพายุระดับ 2 ในช่วงประมาณ 01.00น.(1ก.ย.53) จากนั้นในช่วง 48-72 ชั่วโมงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 1-2 ก.ย.53 จะเริ่มมีทิศทางขึ้นเหนือและบ่ายตัวไปทางตะวันออกมากขึ้น ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งประเทศเกาหลีเหนือหรือเกาหลีใต้ ในช่วง 96 ชั่วโฒงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 13.00น.(03ก.ย.53) คาดว่าจะทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในช่วงประมาณ 01.00น.(31 ส.ค.53) และมีแนวโน้มทวีกำลังเป็นพายุระดับ 2 ช่วงประมาณ 01.00น.(01ก.ย.53) นี้ ก่อนที่จะเบี่ยงตัวไปทางเหนือค่อนตะวันออก มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเกาหลีใต้หรือเกาหลีเหนือช่วงประมาณ 2-3 ก.ย.53 นี้ (ประกาศ Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

2)Tropical Storm LIONROCK (07W,21.2N 117.0E,45kts): เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(30ส.ค.53) พายุโซนร้อน LIONROCK(ไลออนร็อก/07W) ซึ่งมีศูนย์กลางปกคลุมทะเลจีนไต้ตอนบนหรือใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ มีศูนย์กลาง อยู่ที่ละติจูด 21.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะฮ่องกง ห่ างประมาณ 306 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันออกเล็กน้อยด้วยความเร็ว 2 นอต(4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 45 นอต(83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 55นอต(102กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 989 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 5 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาดพายุโซนร้อน LIONROCK(ไลออนร็อก/07W) จะเริ่มมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกมากขึ้นในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า ก่อนที่จะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวเบี่ยงไปทางเหนือมากขึ้น ในช่วง ประมาณ 1ก.ย.53 นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งมณฑลกวางตุ่ง ประเทศจีนตอนใต้ ช่วงประมาณ 1-2 ก.ย.53 นี้ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

3)Tropical Depression 09W (26.0N 122.8E,25kts): เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(30ส.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง 92W ฯ ติดตามประกาศได้ในกระทู้ของ ดีเปรสชันเขตร้อน 09W : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

4) Tropical Disturbance 93W (8.9N 146.0E,10-15kts): เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(30ส.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 93W มีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลแปซิฟิค อยู่ที่ละติจูด 8.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 146.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเกาะกวม ประเทศสหรัฐฯ ห่ างประมาณ 556 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือน้อยด้วยความเร็ว 5 นอต( 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างช้าๆ . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 10-15 นอต(19-28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 20-25นอต(37-46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1008 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา……. ภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหวหลายระบบบ่งบอกว่ามีการหมุนของความกดกดอากาศต่ำเป็นบริเวณกว้างและมีการก่อตัวของพายุฝนฟ้าคะนองอย่างอ่อนๆ. ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ลมระดับชั้นล่างมีกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าสู่ความกดอากาศต่ำ. ส่วนที่ลมระดับชั้นบนชี้ว่าลิ่มความกดอากาศสูงช่วงตอนกลางถึงช่วงล่าง กำลังช่วยให้บริเวณระดับชั้นกลาง(ของพายุ)เกิดการคลายตัวออกไป. อย่างไรก็ตามเริ่มมีปัจจัยเพิ่ม เนื่องจากมีร่องฝนเข้ามาปะทะทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพายุทำให้เกิดการหมุนเวียนในระดับชั้นบนของหย่อมฯขึ้น . / คาดหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 93W จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนทางเหนือโดยส่วนใหญ่ต่อไป 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากปัจจัยสภาวะโดยทั่วไปยังน้อย มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 48-72 ชั่วโมงนี้ หรือช่วงประมาณ 13.00น.(1ก.ย.53) นี้ (ประกาศ Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

5) Tropical Disturbance 93C (6.2N 176.0E,10-15kts): เมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(30ส.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 93C มีศูนย์กลางปกคลุมกลางทะเลแปซิฟิค อยู่ที่ละติจูด 6.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 176.0 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกจากเกาะมาจูโร่ ห่ างประมาณ 686 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้ด้วยความเร็ว 13 นอต( 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 10-15 นอต(19-28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 20-25นอต(37-46กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 1007 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา……. ภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหวระบบอินฟราเรดแสดงให้เห็นว่าการก่อตัวของแถบฝนบริเวณรอบๆศูนย์กลางมีเพียงเล็กน้อย. ที่ลมระดับชั้นบนชี้ให้เห็นว่าหย่อมฯ อยู่ใต้บริเวณปลายลิ่มความกดอากาศซึ่งมีกระแสลมในแนวดิ่งกำลังปานกลางถึงกำลังแรง. อย่างไรก็ตาม หย่อมฯ นี้ กำลังเคลื่อนเข้าใกล้บริเวณกระแสลมแอนติไซโคลนทางด้านตะวันตก ซึ่งจะทำให้กระแสลมในแนวดิ่งบริเวณนี้มีกำลังอ่อน. / คาดหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง 93C จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อยโดยส่วนใหญ่ต่อไป 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า จากนั้นจะเริ่มมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้นในระยะต่อไป มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนใน 48-72 ชั่วโมงนี้ หรือช่วงประมาณ 13.00น.(1ก.ย.53) นี้ (ประกาศ Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

<เพิ่มเติม/ความเห็น> พายุทั้งหมดไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ไทย ไต้ฝุ่น KOMPASU (คอมปาซุ/08W) ระดับ 1 มีแนวโน้มเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยัง ประเทศเกาหลีเหนือและประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงประมาณ 2 ก.ย.53 นี้, พายุโซนร้อน LIONROCK(ไลออนร็อก/07W) มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปยังมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนตอนใต้ ช่วงประมาณ 1 ก.ย.53 นี้, ดีเปรสชันเขตร้อน 09W มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้หัวเกาะไต้หวันช่วงประมาณ 30 ส.ค. -1 ก.ย.53 นี้, หย่อมฯ 93W มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปยังประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่นช่วงประมาณ 14 ก.ย.53 นี้ , หย่อมฯ 93C มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปยัง ประเทศญี่ปุ่น ช่วงประมาณ 18-19 ก.ย.53 (หากยังไม่สลายเสียก่อน) ---- กรมอุตุนิยมวิทยา / สำหรับวงสีเขียวคือบริเวณที่มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอนาคต (ถ้ามี)
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข่าวนี้ ทำให้นึกถึง Alien Crysis 11
น้ำลายของมันจะทำให้น้ำทะเล เน่าเหม็น

 

<CENTER>ตารางสรุปสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ <TABLE border=0 width="100%"><FORM method=post name=form1 action=/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.php><TBODY><TR><TD align=right>วันที่ก่อนหน้านี้ <TD align=middle>ข้อมูลล่าสุดวันที่ <INPUT id=sdate class=text value=2010-08-30 size=10 name=sdate> <SCRIPT type=text/javascript> Calendar.setup({ inputField : 'sdate', ifFormat : '%Y-%m-%d', // format of the input field showsTime : false, // will display a time selector button : 'sdate_c' // trigger for the calendar (button ID) }); </SCRIPT> <INPUT class=button value=แสดงข้อมูล type=submit name=submit> <TD>วันที่ถัดไป </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ภาค
อ่างเก็บน้ำ เขื่อน </TD><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ความจุ
ที่
รนก.
(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td colSpan=5 align=middle>ปริมาตรน้ำในอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=4 align=middle>ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปริมาณน้ำระบาย</TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปี 2552

(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปัจจุบัน</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ใช้การได้จริง</TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ค่าเฉลี่ย
รวมทั้งปี
(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
</TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปริมาตรน้ำ
(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53 </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>วันนี้
(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53
ม.(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ

(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td align=middle>% เทียบ
รนก.</TD><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ
(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
ใช้ได้ทั้งอ่างฯ </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตร
(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
ค่าเฉลี่ยทั้งปี </TD></TR><TR><TD class=td>ภาคเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ภูมิพล (2) <TD class=td align=right> 13,462 <TD class=td align=right> 6,294 <TD class=td align=right> 4,919 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 1,119 <TD class=td align=right> 8 <TD class=td align=right> 5,602 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 1,264 <TD class=td align=right> 23 <TD class=td align=right> 1.50 <TD class=td align=right> 4,292 <TR><TD class=td>สิริกิติ์ (2) <TD class=td align=right> 9,510 <TD class=td align=right> 5,363 <TD class=td align=right> 5,495 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 2,645 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 5,391 <TD class=td align=right> 156 <TD class=td align=right> 3,353 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 3,081 <TR><TD class=td>แม่งัด <TD class=td align=right> 265 <TD class=td align=right> 133 <TD class=td align=right> 169 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 147 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 332 <TD class=td align=right> 2 <TD class=td align=right> 154 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 0.24 <TD class=td align=right> 90 <TR><TD class=td>กิ่วลม <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 78 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 281 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 341 <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 3.41 <TD class=td align=right> 344 <TR><TD class=td>แม่กวง <TD class=td align=right> 263 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 84 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 186 <TD class=td align=right> 2 <TD class=td align=right> 91 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 0.03 <TD class=td align=right> 76 <TR><TD class=td>กิ่วคอหมา <TD class=td align=right> 170 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 99 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 93 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 297 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 80 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 89 <TR><TD class=td>แควน้อย <TD class=td align=right> 769 <TD class=td align=right> 151 <TD class=td align=right> 383 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 347 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 1,653 <TD class=td align=right> 12 <TD class=td align=right> 445 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 672 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคเหนือ <TD class=td_gray align=right> 24,551 <TD class=td_gray align=right> 12,171 <TD class=td_gray align=right> 11,231 <TD class=td_gray align=right> 46 <TD class=td_gray align=right> 4,499 <TD class=td_gray align=right> 52 <TD class=td_gray align=right> 13,742 <TD class=td_gray align=right> 242 <TD class=td_gray align=right> 5,728 <TD class=td_gray align=right> 42 <TD class=td_gray align=right> 5.18 <TD class=td_gray align=right> 8,645 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ลำปาว <TD class=td align=right> 1,430 <TD class=td align=right> 886 <TD class=td align=right> 1,091 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 1,006 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 1,985 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 1,087 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 3.36 <TD class=td align=right> 1,055 <TR><TD class=td>ลำตะคอง <TD class=td align=right> 314 <TD class=td align=right> 131 <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 85 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 270 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 89 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 0.01 <TD class=td align=right> 120 <TR><TD class=td>ลำพระเพลิง <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 25 <TD class=td align=right> 68 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 67 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 184 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 57 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 0.86 <TD class=td align=right> 41 <TR><TD class=td>น้ำอูน <TD class=td align=right> 520 <TD class=td align=right> 263 <TD class=td align=right> 257 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 214 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 443 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 152 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 77 <TR><TD class=td>อุบลรัตน์ (2) <TD class=td align=right> 2,432 <TD class=td align=right> 646 <TD class=td align=right> 1,393 <TD class=td align=right> 57 <TD class=td align=right> 812 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 2,271 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 1,259 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 9.17 <TD class=td align=right> 805 <TR><TD class=td>สิรินธร (2) <TD class=td align=right> 1,966 <TD class=td align=right> 1,305 <TD class=td align=right> 1,052 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 221 <TD class=td align=right> 11 <TD class=td align=right> 1,664 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 432 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 1.69 <TD class=td align=right> 511 <TR><TD class=td>จุฬาภรณ์ (2) <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 56 <TD class=td align=right> 91 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 2 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 0.32 <TD class=td align=right> 79 <TR><TD class=td>ห้วยหลวง <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 98 <TD class=td align=right> 83 <TD class=td align=right> 93 <TD class=td align=right> 79 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 87 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 0.05 <TD class=td align=right> 29 <TR><TD class=td>ลำนางรอง <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 13 <TR><TD class=td>มูลบน <TD class=td align=right> 141 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 24 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 0.05 <TD class=td align=right> 50 <TR><TD class=td>น้ำพุง (2) <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 95 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 86 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 103 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 75 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 0.60 <TD class=td align=right> 28 <TR><TD class=td>ลำแซะ <TD class=td align=right> 275 <TD class=td align=right> 179 <TD class=td align=right> 124 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 193 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 0.53 <TD class=td align=right> 122 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td_gray align=right> 7,756 <TD class=td_gray align=right> 3,725 <TD class=td_gray align=right> 4,469 <TD class=td_gray align=right> 58 <TD class=td_gray align=right> 2,826 <TD class=td_gray align=right> 96 <TD class=td_gray align=right> 7,551 <TD class=td_gray align=right> 201 <TD class=td_gray align=right> 3,387 <TD class=td_gray align=right> 45 <TD class=td_gray align=right> 16.64 <TD class=td_gray align=right> 2,929 <TR><TD class=td>ภาคกลาง <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ป่าสักฯ <TD class=td align=right> 960 <TD class=td align=right> 315 <TD class=td align=right> 422 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 419 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 2,200 <TD class=td align=right> 23 <TD class=td align=right> 493 <TD class=td align=right> 22 <TD class=td align=right> 2.57 <TD class=td align=right> 717 <TR><TD class=td>กระเสียว <TD class=td align=right> 240 <TD class=td align=right> 95 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 56 <TD class=td align=right> 94 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 256 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 153 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 1.07 <TD class=td align=right> 186 <TR><TD class=td>ทับเสลา <TD class=td align=right> 160 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 124 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 45 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคกลาง <TD class=td_gray align=right> 1,360 <TD class=td_gray align=right> 439 <TD class=td_gray align=right> 614 <TD class=td_gray align=right> 45 <TD class=td_gray align=right> 563 <TD class=td_gray align=right> 59 <TD class=td_gray align=right> 2,580 <TD class=td_gray align=right> 27 <TD class=td_gray align=right> 685 <TD class=td_gray align=right> 27 <TD class=td_gray align=right> 3.64 <TD class=td_gray align=right> 948 <TR><TD class=td>ภาคตะวันตก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ศรีนครินทร์ (2) <TD class=td align=right> 17,745 <TD class=td align=right> 14,786 <TD class=td align=right> 12,776 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 2,511 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 4,339 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 1,158 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 11.59 <TD class=td align=right> 3,817 <TR><TD class=td>วชิราลงกรณ (2) <TD class=td align=right> 8,860 <TD class=td align=right> 7,170 <TD class=td align=right> 3,925 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 913 <TD class=td align=right> 10 <TD class=td align=right> 5,369 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 1,080 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 3.00 <TD class=td align=right> 3,775 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคตะวันตก <TD class=td_gray align=right> 26,605 <TD class=td_gray align=right> 21,956 <TD class=td_gray align=right> 16,701 <TD class=td_gray align=right> 63 <TD class=td_gray align=right> 3,424 <TD class=td_gray align=right> 45 <TD class=td_gray align=right> 9,708 <TD class=td_gray align=right> 75 <TD class=td_gray align=right> 2,238 <TD class=td_gray align=right> 23 <TD class=td_gray align=right> 14.59 <TD class=td_gray align=right> 7,593 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>บางพระ <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 54 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 22 <TD class=td align=right> 50 <TD class=td align=right> 0.11 <TD class=td align=right> 29 <TR><TD class=td>หนองปลาไหล <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 119 <TD class=td align=right> 146 <TD class=td align=right> 89 <TD class=td align=right> 132 <TD class=td align=right> 81 <TD class=td align=right> 203 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 81 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 0.80 <TD class=td align=right> 117 <TR><TD class=td>คลองสียัด <TD class=td align=right> 420 <TD class=td align=right> 171 <TD class=td align=right> 229 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 199 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 204 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 168 <TD class=td align=right> 83 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 167 <TR><TD class=td>คลองท่าด่าน <TD class=td align=right> 224 <TD class=td align=right> 104 <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 105 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 337 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 126 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 0.13 <TD class=td align=right> 185 <TR><TD class=td>ประแสร์ <TD class=td align=right> 248 <TD class=td align=right> 157 <TD class=td align=right> 207 <TD class=td align=right> 83 <TD class=td align=right> 187 <TD class=td align=right> 75 <TD class=td align=right> 295 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 142 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 1.93 <TD class=td align=right> 109 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคตะวันออก <TD class=td_gray align=right> 1,173 <TD class=td_gray align=right> 593 <TD class=td_gray align=right> 746 <TD class=td_gray align=right> 64 <TD class=td_gray align=right> 665 <TD class=td_gray align=right> 109 <TD class=td_gray align=right> 1,083 <TD class=td_gray align=right> 10 <TD class=td_gray align=right> 539 <TD class=td_gray align=right> 50 <TD class=td_gray align=right> 2.97 <TD class=td_gray align=right> 608 <TR><TD class=td>ภาคใต้ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>แก่งกระจาน <TD class=td align=right> 710 <TD class=td align=right> 568 <TD class=td align=right> 194 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 127 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 929 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 278 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 0.89 <TD class=td align=right> 454 <TR><TD class=td>ปราณบุรี <TD class=td align=right> 347 <TD class=td align=right> 270 <TD class=td align=right> 88 <TD class=td align=right> 25 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 8 <TD class=td align=right> 436 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 0.22 <TD class=td align=right> 259 <TR><TD class=td>รัชชประภา (2) <TD class=td align=right> 5,639 <TD class=td align=right> 4,695 <TD class=td align=right> 3,461 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 2,109 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 2,598 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 1,024 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 3.18 <TD class=td align=right> 2,232 <TR><TD class=td>บางลาง (2) <TD class=td align=right> 1,454 <TD class=td align=right> 934 <TD class=td align=right> 700 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 440 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 1,545 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 668 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 2.11 <TD class=td align=right> 1,116 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคใต้ <TD class=td_gray align=right> 8,150 <TD class=td_gray align=right> 6,467 <TD class=td_gray align=right> 4,443 <TD class=td_gray align=right> 55 <TD class=td_gray align=right> 2,704 <TD class=td_gray align=right> 67 <TD class=td_gray align=right> 5,508 <TD class=td_gray align=right> 10 <TD class=td_gray align=right> 2,031 <TD class=td_gray align=right> 37 <TD class=td_gray align=right> 6.40 <TD class=td_gray align=right> 4,062 <TR class=td_gray><TD class=td>รวมทั้งประเทศ <TD class=td_gray align=right> 69,595 <TD class=td_gray align=right> 45,351 <TD class=td_gray align=right> 38,204 <TD class=td_gray align=right> 55 <TD class=td_gray align=right> 14,681 <TD class=td_gray align=right> 59 <TD class=td_gray align=right> 40,172 <TD class=td_gray align=right> 565 <TD class=td_gray align=right> 14,608 <TD class=td_gray align=right> 36 <TD class=td_gray align=right> 49.42 <TD class=td_gray align=right> 24,785</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>หมายเหตุ</TD><TD>รนก. หมายถึง ระดับน้ำเก็บกักของอ่างฯ </TD><TD>ศูนย์ประสานและติดตามสภานการณ์น้ำ กรมชลประทาน </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรที่ระดับน้ำสูงสุด </TD><TD>โทร./โทรสาร 0-2243-6956,0-2241-3350 </TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD><TD>www.rid.go.th</TD><TR><TD>จัดทำโดย : </TD><TD colSpan=2>สถาบันสารสนเทศทร้ัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

 

ภาพหลวงพ่อฤาษีฯ มาร่วมโมทนาบุญ...​

​

 

ภูเขาไฟอินโดนีเซียระเบิด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน​

​

​

​

ภูเขาไฟซินาบัง บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เริ่มปะทุอย่างรุนแรงอีกครั้งเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน

ภูเขาไฟซินาบัง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเมดานไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 60 กิโลเมตรและหลับไหลมานาน 400 ปี ได้พ่นลาวาและทรายร้อนขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 1,500 เมตร ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา เถ้าถ่านและควันได้แพร่กระจายไปในหลายหมู่บ้าน ซึ่งจนถึงขณะนี้มีประชาชนกว่า 19,000 คนแล้ว จาก 18 หมู่บ้านที่ต้องอพยพมาอยู่ในที่พักชั่วคราว มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน โดยรายหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากปัญหาทางเดินหายใจ ขณะที่อีกรายหัวใจวาย

ทางการอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนภัยภูเขาไฟซินาบังระดับสูงตั้งแต่เมื่อวานนี้และคาดว่า จะต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามการปะทุครั้งรุนแรงของภูเขาไฟ ยังไม่สร้างความเสียหายต่อถนนและสะพานและยังไม่ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินในเมืองเมดาน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/ข่าวต่างประเทศ/23360/ภูเขาไฟอินโดนีเซียระเบิดมีผู้เสียชีวิต-2-คน.html

 

เย้ คุณหนุมาน รัฐบาลเขาจะสร้างเเล้วค่ะ

สั่งลุยรถไฟความเร็วสูงหนองคาย-กทม.-ปาดังเบซาร์
30 ส.ค. 53 16.12 น.


สั่งลุยรถไฟความเร็วสูงหนองคาย-กทม.-ปาดังเบซาร์
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจวันนี้(30 ส.ค.)มีการหารือถึงการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงใน 4 เส้นทาง วงเงินลงทุนกว่า 7 แสนล้านบาท คือ กทม.-หนองคาย / กทม.-เชียงใหม่ /กทม.ระยอง และกทม.-ปาดังเบซาร์ โดยที่ประชุมมีมติให้ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 56,601 ล้านบาท และ กทม.-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.09 แสนล้านบาท แล้วนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ภายในกรอบเวลาเดิมคือ 30 ก.ย.นี้

ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงอีก 2 สาย คือ กทม.-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาท และ กทม.-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 982 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 แสนล้านบาท พบว่าเป็นเส้นทางเดียวกับ แผนการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีการดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการดังกล่าวอีก และสามารถเดินหน้าโครงการได้เลย

ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้เดินทางไปหารือร่วมกับนักลงทุนจีน พบว่า จีนมีความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 2 สายนี้ จึงให้คณะกรรมการศึกษารายละเอียดการร่วมทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟฟ้าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปศึกษาแผนการร่วมลงทุนทั้งเงื่อนไขการลงทุน (ทีโออาร์) รูปแบบการลงทุน และข้อปฏิบัติในแง่ของกฎหมายการลงนามร่วมลงทุนกับจีน(MOU) เพื่อเสนอเข้าที่ประชุม ครม.และรัฐสภาต่อไป โดยเมื่อผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วจึงจะเดินทางไปลงนามความร่วมมือกับจีนในโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้การลงทุนในเฟสแรก จะเดินหน้าเส้นทาง หนองคาย-กทม. ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงิน 1.8 แสนล้านบาท เป็นเส้นทางแรก ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะใช้เวลาเดินทางจากกทม.-หนองคาย ประมาณ 3 ชั่วโมงและเดินทางไปถึงคุนหมิง ประเทศจีน ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 41,000 คนต่อวันในระยะแรก ค่าโดยสารสูงสุดต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 984 บาท/คน/เที่ยว

-------------

 

*** อย่าใช้งบประมาณในที่สูญเปล่า ****

วันนี้...
ประเทศไทย เรายังมีโอกาสเลือกอนาคตให้ลูกหลานได้
พยายามทำดีให้มาก ใช้ชีวิตที่เหลือให้ดีที่สุด
รักษาคำพูด รักษาคำสัตย์ปฏิญาณตน
คือ รักษาด้วยสัจจะ ทำให้เกิดขึ้นจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ตะลึง! ปรากฏการณ์แม่น้ำสีแดง ในแคนาดา​

​

​

​

​

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ ได้เปิดเผยภาพน่าทึ่งของแม่น้ำแม่น้ำที่กลายเป็นสีแดงทั้งสาย โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ช่างภาพสมัครเล่นชาวแคนาดาได้บันทึกไว้โดยบังเอิญ ขณะที่ไปพักผ่อนกับครอบครัวที่น้ำตกคาเมรอน รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา

โดยราเชล คอฟฟีย์ ช่างภาพที่เก็บภาพปรากฏการณ์ดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า เธอกับสามีชอบเดินทางไปยังน้ำตกคาเมรอน เพื่อเก็บภาพความสวยงามของน้ำตกมานานกว่า 6 ปีแล้ว แต่เมื่อครั้งล่าสุดที่เธอไปเยือนนั้นเป็นช่วงฤดูฝน ที่น้ำตกมีน้ำมากพอสมควร และเป็นช่วงที่พายุฝนเพิ่งสงบได้ไม่นาน ซึ่งในวันนั้น เธอและสามีได้ขับรถไปยังลำห้วยที่น้ำจะไหลลงสู่น้ำตกแล้วหยุดพักผ่อนกันบริเวณนั้น และทันใดนั้นเอง เธอและสามีก็ได้เหลือบไปเห็นแม่น้ำกลายเป็นสีแดงราวกับน้ำมะเขือเทศกำลังไหลลงสู่น้ำตก ​

เธอและสามีจึงรีบวิ่งลงไปที่น้ำตกก่อนที่สายน้ำสีแดงจะไหลลงไป ซึ่งเมื่อเธอและสามีวิ่งไปที่น้ำตก ก็รีบตั้งกล้องเพื่อรอเก็บภาพปรากฏการณ์มหัศจรรย์นี้ จนในที่สุด น้ำตกก็กลายเป็นสีแดง เธอจึงเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้หลายภาพ และยืนชื่นชมมันตาไม่กระพริบ นอกจากนี้ ราเชลยังกล่าวอีกว่า ความจริงแล้วก่อนหน้าที่เธอจะวิ่งมาบริเวณน้ำตก มีช่างภาพอีกจำนวนหนึ่งกำลังถ่ายภาพน้ำตกเช่นกัน แต่พวกเขาก็กลับออกไปก่อนที่จะได้เห็นน้ำตกสีแดง ภาพน้ำตกสีแดงจึงมีเพียงเธอและสามีเห็นเท่านั้น ​

สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว สามารถอธิบายได้ว่า เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว พื้นที่บริเวณนั้นมีฝนตกหนักมากเป็นเวลานาน ชะล้างตะกอนสีแดงที่เรียกว่า อาร์โกไลต์ ที่ทับถมกันอยู่บนหินให้ไหลลงสู่ลำห้วย และทำให้สายน้ำกลายเป็นสีแดงในที่สุด ​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wikipedia
captured by Rochelle Coffey/solentnews.co.uk ​

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/51636​

 

SKYLINE วิบัติการณ์ เอเลี่ยนสะเทือนโลก​

​

​

​

​

เรื่องย่อ:

“Skyline เป็นหนังแนววิทยาศาสตร์ ที่มีแสงแปลกประหลาดที่เมือง Los Angeles ผู้คนเหมือนแมลงเม่าที่กำลังบินเข้ากองไฟ ที่มีไฟประหลาดกำลังคุกคาม”

“หลังจากงานเลี้ยง กลุ่มเพื่อนได้ตายในเวลากลางคืนโดยแสงประหลาดฉายแสงผ่านหน้าต่าง เช่นแมลงเม่ากับ เปลวไฟ, แสงเป็นรูปวาดคนภายนอกก่อนก็หายไปในอากาศ ซึ่งจะกลืนประชากรมนุษย์ทั้งโลก ตอนนี้คนที่รอดชีวิตต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเขา” มนุษย์ต่างดาวจากยานอวกาศดูน่ากลัว!

วันปล่อยหนัง Skyline 12 พฤศจิกายน 2010

ที่มา http://movienang.com

สำหรับหนังเอเลี่ยนตอนนี้...คงจะไม่ได้มีเพียง SUPER 8 ของ JJ Abrams ที่น่าสนใจเพียงเรื่องเดียวอีกต่อไปแล้ว ถ้าใครได้ติดตามข่าวงาน Comic-Con 2010 อาจจะได้ยินชื่อแว่วๆของ 'SKYLINE' โปรเจคเอเลี่ยนฟอร์มยักษ์อีกเรื่อง ที่ว่าด้วยการมาเยือนอันน่าสะพรึงกลัวของมนุษย์ต่างดาว หลัง NASA ได้ส่งข้อความเคว้งคว้างไปยังจักรวาลอันแสนไกล แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าจะมีคน 'ได้รับข้อความ!' จริงในทีแรกทีเปิดหนังค่อนข้างน่า 'หยี๋' ซะด้วยซํ้าเพราะนี่เป็นการแท็กทีมกำกับของ 2 พี่น้อง Strause แห่ง 'Aliens vs. Predators 2' นั้นเอง

แถม หน้าหนังในทีแรกก็ดูจะเป็นการเกาะกระแส ALIEN FEVER ต่่อจาก District 9 และ CLOVERFIELD แต่เมื่อตัวอย่างได้ถูกปล่อยออกมา ผมรู้สึกเลยว่า 'หนังเรื่องนี้มันไม่ธรรมดา' ตัวอย่างเปิดมาด้วยคำเกริ่นนำที่แปลไทยได้ว่า 'เมื่อ 28 สิงหาคม 2009 NAZA ได้ส่งข้อความออกไปยังอวกาศ ไกลแสนไกลเกินกว่าที่เราคิดว่าจะเป็นไปได้...เพื่อพยายามจะค้นหา สิ่งมีชีวิตจากต่างดาว' จากนั้นก็เปิดภาพให้เราเห็นเมือง Los Angelis (ไม่ใช่ New York อีกต่อไปแล้ว!) ชั่วขณะ ก่อนจะตัดสลับข่าวทีวี ที่ว่าด้วย 'อันตรายต่อการติดต่อกับต่างดาว' ทันใดนั้นแสงวูบวาบสีฟ้าก็พุ่งลงมายังเมืองและระเบิดเป็นควันสีฟ้าขนาดใหญ่ นับไม่ถ้วนทั่วเมือง ก่อนที่จะมียานลำยักษ์นับไม่ถ้วนโผล่ออกมาจากท้องฟ้าอันมืดมัว และ 'ดูดคนทั้งเมืองเข้าไปในยาน'

'มันเกิดอะไรขึ้น' 'พวกมันมีจุดประสงค์อะไร' 'จะเกิดอะไรกับคนที่ถูกดูด' เรายังไม่รู้แต่ที่บอกได้คือ...'อย่ามองขึ้นไป!'

ที่มา http://bkkonline.com/movie/news.aspx?id=2129

 

สุปะฏิปันโณ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ

กราบ กราบ กราบ พระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เครารพสูงสุด

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทั่วทุกภาคของไทยยังมีฝนตกชุกหนาแน่น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และอีสาน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่น...


กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 31 ส.ค.2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝน ตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านโดย เฉพาะพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศจีนด้านตะวันออก ฮ่องกง และไต้หวัน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางเนื่องจากมีพายุโซนร้อน“ไลออนร็อก (LIONROCK)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนกำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้บริเวณดังกล่าว

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และ อำนาจเจริญ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ยะลา และปัตตานี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบต้นกะเพราชนิดใหม่ของโลก ที่ภาคอีสาน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทีมสำรวจพันธุ์ไม้ของกรมอุทยานฯพบต้นกะเพราชนิดใหม่ของโลกในภาคอีสานของไทย ซ่อนตัวอยู่ตามภูเขาหิน


วันนี้ 30 ส.ค.ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

แถลงข่าวการค้นพบพันธุ์ไม้ใหม่ของโลกในประเทศไทย ว่า ขณะนี้มีเรื่องน่ายินดี เมี่อคณะสำรวจพันธุ์ไม้ของกรมอุทยานฯ นำโดยนายสมราน สุดดี ผู้เชี่ยวชาญไม้วงศ์กะเพราของไทย ได้สำรวจพบกะเพราชนิดใหม่ของโลก วงศ์ Labiatae ที่บริเวณเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว จ.หนองคาย ขึ้นอยู่บนดินตื้นๆ บนภูเขาหินทรายตามป่าเต็งรัง ลำต้นเป็นเหลี่ยม สูงประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร กิ่งมีขนสั้น นุ่ม ใบเดี่ยวเรียงตรงสลับตั้งฉาก ยาว 0.4 – 1 เซนติเมตร แผ่นใบมีขนสากด้านบน ก้านใบยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร ออกดอกและติดผลเดือน ต.ค. – ธ.ค.แต่กลิ่นไม่รุนแรงเหมือนกะเพราบ้านทั่วไป ส่วนจะรับประทานเป็นอาหารได้หรือไม่ ยังไม่ได้ทดลอง

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมตีพิมพ์ประกาศให้เป็นพืชชนิดใหม่ของโลก

โดยจะให้แล้วเสร็จในปี 2553 นี้ หลังจากที่ใช้เวลาในการตรวจสอบกับตัวอย่างพรรณไม้ต่างๆ ที่ใกล้เคียงในหอพรรณไม้ต่างๆ ทั่วโลก และไม่พบว่ากะเพราพันธุ์ใหม่ของไทยไปซ้ำหรือใกล้เคียงกับของประเทศอื่น ดังนั้นจึงเป็นกะเพราพันธุ์ใหม่ของโลก ทั้งนี้ จะให้ชื่อว่า“กะเพราศักดิ์สิทธิ์ (Platostoma tridechii Suddee )” เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ และคุณูปการแก่นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ได้ทำหน้าที่ปกป้อง ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ จนจบชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่

“การตั้งชื่อกะเพราพันธุ์ใหม่ของโลกชื่อกะเพราศักดิ์สิทธิ์ น่าจะเหมาะสมเพราะนายศักดิ์สิทธิ์ ชอบรับประทานผัดกะเพรามาก และกะเพราพันธุ์ใหม่ยังมีอยู่ที่เดียวคือภูวัว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภาคบ้านเกิดของนายศักดิ์สิทธิ์ โดยกรมอุทยานฯ จะศึกษาเพื่อขยายพันธุ์ เพราะจัดเป็นพืชหายากใกล้สูญพันธุ์”อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายจตุพร กล่าวต่อว่านอกจากนี้ทีมสำรวจพันธุ์ไม้ของกรมอุทยานฯ

นำโดยนายราชันย์ ภู่มา หัวหน้าคณะสำรวจ ยังค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในประเทศไทยในสกุลโมกอีก 3 ชนิด คือ โมกการะเกตุ พบเพียงแห่งเดียวทางภาคเหนือ ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใกล้ชายแดนไทย – พม่า เป็นไม้ต้นสูงประมาณ 5 – 10 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม มีดอกสวยงาม กลีบดอกเป็นรูปกงล้อ สีแดงสด มีสีเขียวที่โคนด้านนอก ช่อดอกออกสั้นๆ ตามปลายกิ่ง มีขนละเอียด ก้านช่อดอกยาวได้ประมาณ 2 เซนติเมตร ออกดอกประมาณเดือน พ.ค. ติดผลประมาณเดือน ก.ย. ต่อมาที่ค้นพบคือโมกพะวอ มีต้นสูงประมาณ 15 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม มีดอกสวยงาม เป็นรูปกงล้อ สีเขียวอมเหลือง ด้านในและด้านนอกมีสีเข้ม หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร กลีบรูปรี ยาวประมาณ 1.3 เซนติเมตร กระบังสีเหลือง เรียงติดกันเป็นวงคล้ายรูปถ้วย พบเฉพาะภาคเหนือบริเวณศาลเจ้าพ่อพะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ขึ้นบนเชิงเขาหินปูนในป่าเบญจพรรณ ออกดอกประมาณเดือน พ.ค. ติดผลประมาณเดือน ส.ค.

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า โมกชนิดใหม่ของโลกอีกชนิดหนึ่งคือ โมกนเรศวร ต้นสูงประมาณ 4 เมตร เปลือกสีเขียวปนเทา ดอกเป็นรูปกงล้อ

สีส้มอมเหลืองสวยงาม ดอกยาวประมาณ 2.7 เซนติเมตร มีปุ่มเล็กๆ ด้านใน กลีบรูปรี ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร พบเฉพาะทางภาคเหนือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อ.อุ้มผาง จ.ตาก ขึ้นตามสันเขาในป่าเบญจพรรณ ระดับความสูงประมาณ 700 เมตร ออกดอกเดือน พ.ค.ของทุกปี ทั้งนี้ โมกพันธุ์ใหม่ของโลกทั้ง 3 พันธุ์ ได้รับการยืนยันจากนายเดวิด มิดเดิลตัน ผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้ในสกุลโมกจากหอพรรณไม้เอดินเบอระ สหราชอาณาจักร และได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารการ์เดนส์ บุลเลติน สิงคโปร์ ( Gardens Bulletin Singapore) ซึ่งเป็นวารสารระดับโลกด้านพรรณไม้แล้ว ทำให้ประเทศไทยมีพืชสกุลโมกเพิ่มเป็น 14 ชนิด จากพืชสกุลโมกทั่วโลกทั้งหมด 25 ชนิด ซึ่งถือว่าประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการกระจายพันธุ์ของพืชสกุลโมกของโลกไปแล้ว.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คนไทยรวยจริง ป้ายแดง ครึ่งปี1.5ล้านคัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมการขนส่งทางบกเผยสถิติการจดทะเบียนรถใหม่ทั่วประเทศ เพียงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) สูงถึงเกือบ 1,500,000 คัน จยย.มากถึงเกือบ 1,000,000 คัน รองลงมาคือรถเก๋ง-รถปิกอัพ....

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2553 มีรถใหม่ (ป้ายแดง)

จดทะเบียนทั่วประเทศจำนวน 1,440,021 คัน หรือเฉลี่ยเดือนละกว่า 2 แสนคัน โดยรถจักรยานยนต์มียอดการจดทะเบียนมากที่สุดจำนวน 986,908 คัน รองลงมาคือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) มียอดจดทะเบียนจำนวน 241,820 คัน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถปิกอัพ) มียอดจดทะเบียนจำนวน 138,599 คัน สถิติการจดทะเบียนรถใหม่ (ป้ายแดง) ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 ปรากฏว่ารถยนต์นั่ง ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) มียอดจดทะเบียนจำนวน 241,820 คัน เพิ่มขึ้นจำนวน 68,029 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 39.14 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถปิกอัพ) มียอดจดทะเบียนจำนวน 138,599 คัน เพิ่มขึ้นจำนวน 23,867 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.80 ส่วนรถจักรยานยนต์มียอดจดทะเบียนจำนวน 986,908คัน เพิ่มขึ้นจำนวน 190,207 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 23.87

สำหรับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ได้แก่ รถโดยสารมียอดจดทะเบียนจำนวน 5,405 คัน เพิ่มขึ้นจำนวน 910 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.24 ในขณะที่รถบรรทุกมียอดจดทะเบียนจำนวน 29,705 คัน เพิ่มขึ้นจำนวน 4,577 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ18.21 ส่วนรถโดยสารขนาดเล็ก มียอดเพิ่มขึ้นเพียง 6 คัน ซึ่งนับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันการจดทะเบียนรถใหม่ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง

และจะสามารถรับแผ่นป้ายทะเบียนรถได้ทันทีกรณีที่หลักฐานครบถ้วน ซึ่งได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ, หนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต, หลักฐานการได้มาของรถ ได้แก่ สัญญาซื้อขาย สัญญาเช่าซื้อ ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี, หลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 และแบบคำขอจดทะเบียนรถ รวมทั้งหนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่มอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) จึงขอให้เจ้าของรถดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ต้องใช้รถป้ายแดงซึ่งอาจเป็นปัญหาในการติดตามตรวจสอบกรณีรถสูญหาย และเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการใช้งานต่อไป.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันจันทร์ ที่ 30 สิงหาคม 2553 เวลา 15:33 น.]
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 06:49:47 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
<center></center>
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ชาวบ้านหนีโกลาหล!อ่างเก็บน้ำทะลักกลางดึกท่วมอ.สันติสุขจ.น่าน หอประชุมหมู่บ้านถล่ม-ถนนถูกตัดขาด[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> เมื่อเวลา 04.00 น วันที่ 31 สิงหาคม นายพิษณุ สว่างทรัพย์ นายอำเภอสันติสุข จ.น่าน เปิดเผยว่า หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 02.00 น. วันเดียวกันได้เกิดกระแสน้ำป่าจากภูเขา ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านดู่พงษ์ ต.พงษ์ บ้านดอนไชย บ้านสบยาง บ้านอภัยคีรี บ้านดอนอภัย บ้านหลวงเจริญราษฎร์ ต.ป่าแลวหลวง อ.สันติสุข ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 คน โดยกระแสน้ำป่า ลำห้วยอิ่นคำและปริมาณน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยปลา อ่างน้ำพงษ์ ได้เอ่อล้นไหลบ่าท่วมถนนตลอดสายระหว่างบริเวณถนนอ.สันติสุข - บ้านน้ำยาว อ.ปัว สูงกว่า 50 เซนติเมตร และท่วมถนนระยะทาง 50 เมตร ระหว่างอ.สันติสุข - อ.เมืองน่าน ทำให้รถยนต์ไม่สามารถใช้เส้นได้ตามปกติ การจราจรสายหลักระหว่าง 2 อำเภอถูกตัดขาด ฝ่ายปกครองได้ประกาศเสียงตามสายกลางดึก แจ้งให้ชาวบ้านในที่เกิดเหตุรีบอพยพออกไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย กระทั่งพระ-เณรที่วัดวังหิน ต.ป่าแลวหลวง ต้องพากันขนย้ายสิ่งของหนีออกไปอย่างโกลาหล

“นอกจากนี้กระแสน้ำป่ายังมีความรุนแรง ทำให้หอประชุมบ้านศรีนาม่าน ต.พงษ์ พังลงมาทั้งหลัง พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บางคนในจังหวัดกลับปิดโทรศัพท์ จึงตัดสินใจติดต่อกับนายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้น พร้อมระดมอุปกรณ์และกำลังเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ นำน้ำและอาหารไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในชุมชนเบื้องต้นแล้ว กำลังเร่งสำรวจความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลายแห่ง” นายพิษณุกล่าว
[/FONT]