ผมขอนำคำ ตรัสของ องค์พระศรีอริยเมตไตย มาบอก กล่าว แบบชัดเจนเลยนะครับ ผมไม่อยากให้ชาว เวป พลังจิต ได้นำ พระเบื่องสูงมา สนทนา ถกเถียงกัน อีกเลย จริงๆๆ ตอนที่ ติดต่อกับท่าน ท่านจะไม่ สนทนา กับผม ท่าน กำลัง บำเพ็ญ บารมี พระองค์เดียว เงียบๆๆ พระองค์ท่าน แผ่เมตตา ไปทั่ว จักวาล สากลพิภพ ทำให้ผม ไม่กล้าที่จะถาม อะไรท่าน แต่พอผมมาอ่านในกระทู้ มีคนหนึ่ง ได้กล่าว่า เขาคือ พระศรี และ มีหลายท่าน ไปโพสกระทบกับ บุรุษผู้หนึ่งที่อ้างว่า คือพระศรี ทำให้ คนที่แอบอ้าง ค่อนข้างใช้ ถ้อยคำ ที่ไม่เหมาะสม ออกมา ด้วยเหตุ ดังนี้ ทำให้ ผมเลยกลับมา เจริญสมาธิ ติดต่อกับท่านใหม่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะ ติดต่อได้ไหม จนเมื่อเวลา 00.41 ผมได้ สนทนา กับ ท่านเพียงไม่กี่คำ ผมเพียงแค่ นึกถึงเรืองราว ที่กำลังจะบอกท่าน ในเรื่อง ที่ถกเถียงกันในเวปพลังจิต ปรากฎว่าเพียงแค่นึก ท่านก็ทราบ และ ท่านก็ตรัสออกมาว่า " จงรักษา ความดี ให้เหมือน น้ำทะเล ที่รักษาความเค็ม ไว้ได้ตลอด และ เมื่อวันเวลามาถึง ความดี ที่ทุกท่านรักษา จะนำพาให้ มาพบ กับเรา " ( จะเป็นเมื่อไรผมไม่ทราบ อาจจะ วัน? เดือน? ปี? กี่ชาติ? ) ท่านฝากมาเท่านี้ และ สิ่งที่ผมจะบอกอีกอย่าง อย่ามัวแต่สนใจเลยว่า พระศรี มาหรือ ยัง? ถ้าท่านใด ไป นิพพาน ในชาตินี้ได้ ก็ไปเลย ไม่งั้น ถ้า รอท่าน ก็ ยังต้อง เวียน ว่าย ตาย เกิด รอท่านอีก ก็ไม่ทราบว่า กี่ชาติ? และมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่ผมจะบอกแบบหนักแน่นเลยนะครับ ปัจจุบัน ท่านไม่ ยุ่งเรื่องที่สามารถสัมผัส จับต้องได้ทางโลก ท่านกำลัง บำเพ็ญ บารมี จนบุญเต็ม ส่วนวิธีที่ท่าน บำเพ็ญ บารมี ก็ มีหลายวิธีมาก ไปช่วย สรรพสัตว์โลก ทั้ว สากลพิภพ บ้าง แปลงกาย เป็นท่านนั้น ท่านนี้ บ้าง แปลงกาย เป็น คนที่คนนั้น เคารพบ้าง เพื่อโปรดให้เขาพ้นทุกข์ ท่านไป ด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ไปใน นิมิตฝันบ้าง นิมิตในญาณ บ้าง สุดแล้วแต่ท่าน เห็นว่าคนที่จะโปรด ถ้าโปรดแบบใด จะทำให้เขาเชื่อ และ พ้นทุกข์ ท่านก็จะเสด็จไป ถ้ามีท่านใด นำ ความคิดหลักการ ของตัวเอง ในเชิงทำนอง ธรรมของ องค์สเด็จพระสัมมาสัมพุทรเจ้า ก็ให้ ไม่ต้องสนใจอ่าน และ ข้ามไปเลยครับ ปัจจุบัน เรามี พระธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 84000 พระ ธรรม ก็ให้เราศึกษา พระธรรม 84000 นี้และ จนกว่าจะ ดวงตาเห็น ธรรม ไปเลย พระพุทธเจ้าของเรา ปูเส้นทางแห่ง ความหลุด พ้นให้เราเอาไว้แล้ว และ ท่านใดก็ตาม มีดวงตาเห็นธรรม ของพระพุทธองค์ และ สามารถปฎิบัติ ได้ ไม่ว่าจะมาก หรือ น้อย ขึ้นชื่อว่าได้ พระธรรม ของท่านสักข้อ ก็ยังดี หรือ ถ้าไม่อาจจะศึกษาให้รู้ พระธรรม ได้ครบทั้งหมด ก็ขอให้ ยึดสิ่งหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า ทำความดี เป็นพอละกัน ส่วนถ้า ปัจจุบัน จะมีใครก็ตาม คิดค้น หลักการ ของตนเองขึ้นมา ที่ ขัดต่อ พระธรรม ของ พระพุทธเจ้า ก็ไม่ต้องไปสนใจ และคิดจะอ่านแม้นแต่ คำเดียว ถ้าคิดอ่าน แม้น แต่คำเดียว และ ปักใจที่จะเชื่อ ก็ เหมือน เดินตามเขาเหล่านั้น ไป อเวจี สุดท้ายนี้ ผมอยากให้ ทุกท่าน อย่าสนใจ กระทู้ที่ อ้าง เลย อย่าให้ความสนใจ กระทู้ ที่ทำให้ใจท่าน ตกต่ำ เลย และถ้าจะ ให้ดี อยากให้ ผู้ดูและเวป เอากระทู้เหล่านี้ ออกไปเลยจะดีกว่าครับ ผมอยากให้ ทุกท่านที่เข้ามาในเวปนี้ เมื่ออ่าน ธรรม ในเรื่องต่างๆๆ ที่ อยู่ในเวป และ เรื่องราว ที่สอนให้คนเป็นคนดี เมื่อเขา อ่านใจ ย่อม คิดตาม ใจก็เริ่มใฝ่ดี จิตก็ชุ่มชื้น แต่พอมาเจอ กระทู้ อ้าง พอเข้าไปอ่านกัน ผมทราบเลยครับ จิตแต่ละคน ตก กันละนาว บางท่านก็ทรงได้ บางท่าน ทรงไม่ได้เลย ผมขอยืนยัน เลยนะครับ ปัจจุบันวันนี้ จนถึง พศ 5000 เป็นช่วงที่ท่าน บำเพ็ญ บารมี ไม่ว่าท่านจะมา บำเพ็ญ บนโลกมนุษย์ ท่านก็จะไม่บอก กับใครว่า ท่านคือพระศรี จนกว่าจะ ถึงช่วงหลังปี พศ 5000 ไปแล้ว เมื่อ นั้น บุญท่านเต็ม ท่านพร้อมที่จะเสด็จมา บนโลกอีกครั้ง ในนามพระศรี แบบ สง่างาม และพร้อมที่จะ ฉุดช่วย สรรพสัตว์ ที่ยังเหลือ อยู่บนโลก ให้ หลุดพ้นจากความทุกข์ และ เข้าสู่พระนิพพาน ในที่สุด และเมื่อนั้น โลก จะถึงคราว อวสาร จนไม่มีใคร สามารถจะ ห้ามไม่ให้แตกสลายได้ เหลือเวลา อีกแค่ 2000 กว่าปี ถ้าท่านคิดว่า ยังอีกนาน คิดผิดนะครับ ผู้ที่ยังไม่สามารไป นิพพานได้ หรือ รอบนสวรรค์ ถ้า บุญ บารมี สะสมไม่มาก ก็หมดสิทธ์ที่จะได้ เจอท่านนะครับ ดังนั้น รีบ กันได้แล้ว ขอให้โชคดีนะครับ
พระศรีฯ(หรือคนอื่นนี่ละ เพราะผมไม่ทราบว่าพระศรีหน้าตาเป็นยังไง)ท่านพูดภาษาไทยหรือครับ... คราวก่อนรู้สึกว่าจะเป็นบาลี(หรืออะไรนี่ละฟังไม่ออก)(หรือไม่คนที่ผมเจอก็คนละคนกันกับคุณน่ะครับ ไม่ทราบว่าคนที่เจอเป็นพระศรีฯท่านหรือเปล่านี่สิ)
พระศรี ท่าน เป็น มหาโพธิสัตว์ ท่านไปโปรดใคร สำหรับ พระโพธิสัตว์แล้ว ภาษา ไม่ใช้ของยากเลย ท่านโปรด ทั่ว สากลโลก และที่สำคัญนะครับ ในนิมิตร เวลา สนทนากัน เขาไม่ได้ใช้ ภาษา ในการสื่อสารกันนะครับ เขาใช้ ใจ นี้และ สนทนากัน เพียงแค่ มองหน้ากัน ก็ ทราบแล้วว่า ท่านต้องการ จะสื่ออะไร สิ่งที่ต้องการจะ สื่อ จะทำให้เรา ทราบเอง ส่วนที่คุณ ถามว่าท่าน หน้าตา เป็นอย่างไร ? ผมต้องถามคุณก่อน ว่า อยากจะรู้ว่าท่านมีหน้าตา ในภาคไหน ? บางสิ่งผมก็ไม่สามารถ ที่จะบอกอะไรได้มาก บางที เมือ กฎ ฟ้าดินไม่ให้เรา บอก หรือ รู้ เรา ก็ไม่สามารถ ที่จะ บอก และ รู้ ได้นะครับ แต่ใน ปัจจุบันมีแต่ คนสงสัยว่า ท่านมาหรือยัง อันนี้ผมก็บอกไม่ได้ อีก แต่ทราบ เอาเป็นว่า ให้คุณพูดทุกวันละกันว่า " เมื่อองค์พระศรี เสด็จมา บำเพ็ญ บารมี แล้ว ด้วย บุญ บารมี ใดๆๆ ก็ตาม ที่ องค์พระศรี ได้สำเร็จ ลูกขอ อนุโมทนา บุญนั้น กับองค์พระศรี ด้วยเทิด แล้วให้ หัน ทิศ ไปที่ จังหวัด กาญจนบุรี แล้วก้ม กราบงามๆ" ( ขอย่ำอีกทีนะครับ ไม่มีใครจะสามารถหา พบ ได้ ไม่งันเดียวจะ สงสัย กันใหญ่ว่า เป็นท่านนั้น ท่านนี้ หรือ เปล่า )
ส่วนมากในเว็บนี้มักเข้าใจกันแบบผิดๆว่าพระศรีอาริย์จะมาตรัสรู้ธรรมในอีก 2500 ปีข้างหน้า ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่แต่พระองค์จะมาตรัสรู้ในอันตรกัปป์หน้าซึ่งอีกนานมาก นับล้านๆๆปี ซึ่งพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้ตรัสถึงอนาคตกาลเกี่ยวกับพระเมตไตรยพุทธเจ้าไว้ในจักกวัตติสูตร(พระไตรปิฎกเล่มที่ 12) เล่าถึงพระเจ้าจักรพรรดิ์นามว่าทัฬหเนมิ จากนั้นก็มีพระเจ้าจักรพรรดิอีก 7 พระองค์ซึ่งยุคนี้มนุษย์มีอายุ 8 หมื่นปี ต่อมาถึงยุคของกษัตริย์องค์ที่ 8 ซึ่งอธรรมเริ่มเพิ่มพูนทำให้บุตรของมนุษย์มีอายุลดลงเรื่อยๆเป็นลำดับจนถึงมนุษย์มาอายุขัย 10 ปีจะเกิดยุคมิคสัญญีฆ่าฟันกันจนเกือบหมด มนุษย์ที่เหลือจึงสำนึกและเริ่มประพฤติธรรมจนมนุษย์มีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงยุคที่มนุษย์มีอายุ 80,000 ปีอีกครั้งหนึ่ง พระศรีอาริย์จึงจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ให้ลองอ่านที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้โดยตรงจะได้ไม่แสดงธรรมให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงกันอีก
บางเรื่อง คนที่มีภูมิธรรมอ่อนด้อยอย่างดิฉันก็ไม่อาจทราบได้หรอกค่ะ แต่ตามที่เคยอ่านเจอ น่าจะเป็นราวๆ หนึ่งล้านปีจากนี้ แต่จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ ผิดถูกประการใดชี้แนะด้วย ขอโทษที่จำแหล่งที่มาไม่ได้ค่ะ
ที่สำคัญ ผมไม่เชื่อว่า ใคร จะไปนั่งสมาธิ ไปพบ พระศรีอริยะเมตไตรได้ คนที่ไปนั่งแล้ว พบ พระพุทธเจ้าบ้าง พบ พระศีรอริยะเมตไตยบ้าง ล้วน แต่ มโนมย อัตตา ปั้นเอง เออเอง ถามเอง ตอบเอง ทั้งนั้น ขออภัยจริง ๆ ที่ต้องตอบตรง ๆ แบบนี้
คือมหาโพธิสัตว์นี่ เป็นความเชื่อทาง มหายาน ทางเถรวาทไม่มี เพราะเถรวาท จะมีอรหันต์ พระปัจเจก และพระพุทธเจ้าองค์เดียวและให้นับถือ"พระธรรม" ส่วนมหายานจะให้นับถือ ตัวรูปพระพุทธเจ้า เช่น 3 องค์ ดั่งนี้ แนวนิกายเถรวาท ขนาดพระเจ้าสิบชาติ ยังต้องสร้างบารมีสุดท้ายระทมทุกข์ต่างๆนาๆ ส่วนแนวมหายาน พระศรีอาริยะฯมีบารมีแล้วไม่ทุกข์แล้ว ออกช่วยคนแล้ว แต่เถรวาท ก็ได้ทำนายไว้ว่าพระศรีอาริยะจะมาอีก2พันกว่าปี และเถรวาทไม่ได้อธิบายความไว้ว่า ก่อนจะถึง5000ปีนั้น พระศรีอริยะเสวยพระชาติเป็นอะไร อีก10ชาติสุดท้ายจะเป็นอะไรบ้าง ไม่มี ตอนนี้ไม่ว่าพระท่านบางรูปบางองค์ก็สอนปนเปกันไประหว่างมหายานหินยาน(เถรวาท)อาจทำให้ผู้คนสับสนไปได้ รวมทั้งวัดหลายๆแห่งก็ผสมลัทธฮินดูพราห์ม มหายาน หินยาน จนคนสับสนในรูปลักษณ์ รูปปั้นต่างๆ คล้ายๆเป็นสถานศาสนาสากลไป ผมเคยสนทนากับพระป่าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตมา ก็ไม่เคยเห็นท่านอธิบายในเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะญาณท่านตรวจไม่พบพระศรีอริยะเสวยชาติอยู่เลยก็ได้ในปัจจุบัน ส่วนเทวดาชั้นสูงโน่นท่านอาจทราบ ว่าจะมาเกิดเมื่อใด จะได้บอกลูกหลานว่านเครือ ให้ไปดักรอบวชกับพระศรีอริย์ได้
ศาสดาองค์ปัจจุบัน แสดงวิธีการดับทุกข์ไว้ มิตกหล่น ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเพียร น้อมเอาวิธีที่ได้แสดงไว้ ไปปฏิบัติหรือเปล่า เกิดมาตอนนี้ ก็เพียรตอนนี้ จะไปเกิด ๆ ตาย ๆ หลาย ๆ ชาติ ให้ทุกข์ เพื่อรอศาสดาใหม่ ทำไม .. วิธีที่ศาสดาใหม่ จะชี้ มันก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ^-^
ถูกต้องที่สุด อ่านอีกร้อยเที่ยว ก็ถูกต้องทั้งร้อยเที่ยว ทำให้สงสัยว่า ทำไม คุณต้องไปรอสำเร็จในยุคพระศรีอริยเมตไตยกัน ถ้าสำเร็จได้ในยุคของ พระพุทธเจ้า พระสมณะโคดมเจ้า ก็ดีแล้ว แต่ถ้ายังเพียรไม่พอ แน่นอน กรรมที่คุณทำ ถ้าถึงขีด ถึงรอบ มันก็จะดลบันดาลไปให้คุณเกิดในยุค พระศรีอริยเมตไตย และถ้ายังไม่สำเร็จ คุณก็จะต้องเวียนเกิด เวียนตาย แล้ว ๆ เล่า ๆ ในยุค พระพุทธเจ้าองค์ต่อ ๆ ไป ที่สำคัญ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์นะ ผมพูดเองนะ โดยอ้างจาก พระพุทธเจ้าในยุคนี้ว่า ท่านไม่สรรเสริญ ความเนิ่นช้า ในการปฏิบัติธรรม ทำได้ตอนนี้ สำเร็จได้ตอนนี้ ได้ ก็รีบ ๆ ทำเลย
ตามพุทธประวัติ พระพุทธโคดม..ทรงเกิดวนเวียนมาแล้ว มากกว่า 500 ชาติ..เป็นสัตว์แทบจะทุกชนิด..ชาติสุดท้าย มาเกิด เป็นเจ้าชายในแคว้น ทางอินเดีย ทางเหนือ...แล้วหนีออกผนวชเนื่องจาก พบเห็น ทุกข์ ที่เรียกว่า เกิด แก่ จ็บ ตาย หรือ อริยสัจจ์สี่..ทรงแสวงหาวิธีพ้นทุกข์ แม้กระทั่ง ทนทุกขกิริยา อดอาหาร..แต่ในที่ สุด ก็ทรงตรัสรู้ใต้ต้ศรีมหามหาโพธิ แล้วจึงได้ เป็น พระพุทธเจ้า..และนิพพานในที่ สุด.... นั่นคือ ต้องลงมาเกิด ก่อน จึงจะได้ เป็น พระพุทธเจ้า แต่เนื้อความของ จขกท..มาในแนวว่า พระศรีอริยเมตตรัย ทรง เป็น พระพุทธเจ้าเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ได้ถอดจิตไปหา...ไม่ต้องลงมา พบอะไร อื่น ในทำนอง มาค้น แล้ว พบ ความสำเร็จแบบ พุทธโคดม...เพียงแต่พุทธองค์ ใหม่ ที่ จะมา ทรงรอเวลา..ให้ โลก มีความศิวิไลซ์ ก่อน แล้ว ค่อยลงมา..เมื่อ โลกศิวิไลซ์ แล้ว..คนก็ไม่มีทุกข์..ดังนั้นพระองค์ ลงมาเพื่อ กิจการใด...อย่างนั้นใช่ใหม