ภัยน้ำท่วม!!!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 7 ตุลาคม 2006.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ข้อมูลภัยน้ำท่วม ต่างๆ .....และเตือนภัย:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2011
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทธ.เตือนภาคตะวันออก-ใต้ระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 ตุลาคม 2549 19:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) ออกประกาศฉบับที่ 55/2549 ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูงและหมู่บ้านในหุบเขาบริเวณภาคตะวันออก จ.จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว และบริเวณภาคใต้ จ.ชุมพร ระนอง พังงา และจังหวัดใกล้เคียง ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกัน โดยเฉพาะในเขต อ.มะขาม ขลุง กิ่งอ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อ.เกาะช้าง คลองใหญ่ และบ่อไร่ จ.ตราด อ.เมือง สุขสำราญ จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า กะปง จ.พังงา จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางซึ่งอาจเกิดดินไหลหรือหินร่วงมาปิดทับเส้นทาง พร้อมทั้งให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่องและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ได้มีการอบรมไว้แล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผบ.สส.เรียกผู้ว่าฯ พื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมถกแนวทางป้องกัน-แก้ปัญหาน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ตุลาคม 2549 09:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานคณะอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เข้าหารือในเวลา 10.00 น. เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วม ในพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง เป็นการเร่งด่วน ซึ่งในเบื้องต้นทางกองทัพจะสั่งการให้กำลังพลทหารทุกหน่วยในพื้นที่ออกช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้เพื่อให้มีความพร้อม ทั้งในส่วนของกำลังพลและเครื่องมือในการเข้าไปให้ความช่วยบรรเทาปัญหาของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วม จ.อ่างทอง ยังวิกฤต ล่าสุดพบผู้เสียชีวิต 3 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ตุลาคม 2549 09:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายบุญถิ่น มั่นเกษวิทย์ นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดภายในจังหวัดว่า ยังทรงตัวและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณวันละ 8 - 10 เซนติเมตร โดยในปีนี้มีปริมาณสูงถึง 8. 50 เมตร ซึ่งสูงกว่าปี 2545 ที่สูง 8.30 เมตร ทำให้ต้องอพยพคนมาอยู่ริมถนนกางเต็นท์พักชั่วคราว และขณะนี้ตามรายงานพบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ที่อำเภอป่าโมก 1 ราย และเทศบาล 2 ราย นอกจากนี้ พื้นที่ภายในตัวจังหวัด ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากปริมาณน้ำ ซึ่งพยายามปิดกันน้ำไม่ให้เกินกว่าคันคลอง ที่ทำไว้สูง 2 เมตร เพื่อป้องกันพื้นที่การเกษตรที่ค่อนข้างมีมากภายในจังหวัด ส่วนความช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐบาลและเอกชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เขื่อนปากคลองบางแก้ว ที่ยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
    อย่างไรก็ตาม จากรายงานของกรมชลประทานคาดการณ์ว่าระดับน้ำน่าจะลดลงในวันที่ 11 - 12 ตุลาคมนี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวกรุงเก่าลุยน้ำท่วมทำบุญวันออกพรรษากันคึกคัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ตุลาคม 2549 09:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังมีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ และเป็นวงกว้าง มีโบราณสถานถึง 15 แห่ง ที่ถูกน้ำท่วม ที่อยู่นอกเกาะเมือง วัดต่างๆ รวม 100 กว่าวัด เช่น วัดกำแพงแก้ว อ.บางบาล ระดับน้ำสูงถึง 1.50 เมตร พระสงฆ์และลูกวัดต้องนำเรือท้องแบนมาทยอยรับประชาชนที่นำอาหารคาวหวานมาทำบุญในวันออกพรรษา ครั้งละ 5-6 คน ทั้งนี้ เรือของทางวัดมีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการประชาชนจนต้องเดินลุยน้ำแบกสัมภาระทำบุญ และไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนวัด สร้างความทุลักทุเลเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ทางวัดยังต้องประกาศเลื่อนพิธีสงฆ์จากเดิม 08.00 น. เป็น 09.00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>อ่างทองพนังเขื่อนพังอพยพหนีตายน้ำท่วม</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] ในหลวงพระราชทานถุงยังชีพซับน้ำตาชาว จ.ชัยภูมิ ที่อ่างทองระทึก ชาวบ้านหนีตาย หลังพนังเขื่อนเจ้าพระยาพัง ขณะที่น้ำในเขื่อนป่าสักฯ เข้าขั้นวิกฤติ อุตุฯ เตือน10 จว.ภาคอีสานฝนตกหนักใน2วัน

    กว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังประเทศไทยถูกพายุ "ช้างสาร" พาดผ่าน ส่งผลให้เกิดพายุลมและมีฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเกิดน้ำท่วมอย่างหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณด้านหลังวัดสนามชัย ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ยังกัดเซาะดินใต้เขื่อนริมแม่น้ำ โดยดันพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นถนนด้านหลังเขื่อนพัง ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบริเวณชุมชนตลาดหลวงอย่างรวดเร็ว เริ่มไหลเข้าท่วมวัดโลห์สุทธาวาส ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับสูงกว่าตลาดอ่างทอง เกือบ 2 เมตรไหลบ่าเข้าท่วมตลาดนพรัตน์ ซึ่งเป็นตลาดเก่า และน้ำบางส่วนยังได้ไหลลงคลองลำท่าแดง
    เจ้าหน้าที่เทศบาลได้ใช้กระสอบทรายหลายหมื่นใบ ทำการอุดพนังกั้นน้ำ แต่ก็ไม่สามารถอุดอยู่ เพราะทนความแรงดันน้ำที่สูงกว่าระดับพื้นตลาดไม่ไหว ทำให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและแรงเข้าท่วมตัวตลาดอ่างทองทั้ง 2 ฝั่งถนนอย่างรวดเร็ว จนระดับน้ำสูงกว่า 70 ซม. ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ต้องวิ่งหนีกันโกลาหล บางส่วนที่อยู่ภายในร้านต่างปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมภายในร้านค้า
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการปิดกั้นการจราจร พร้อมกับไม่ให้รถวิ่งเข้า-ออกตัวเมืองอ่างทอง โดยเด็ดขาด เนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นอันตรายต่อประชาชน โดยชาวบ้านที่มีบ้าน 2 ชั้น กำลังขนย้ายข้าวของจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นสองอย่างเร่งด่วน ส่วนชาวบ้านที่อยู่บ้านชั้นเดียวกว่า 100 คน ต่างขนย้ายข้าวของจากบ้านเรือนมาไว้ที่ริมถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง ขณะที่เทศบาลตำบลตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้ร่วมกับทหารจากศูนย์การบินทหารบก 3 กองพันประมาณ 3,000 นาย พร้อมเครื่องจักรกลช่วยกู้ทำนบกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังรั่วเข้ามายังตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง
    นายสันติ จารุเอก อายุ 65 ปี เจ้าของร้านถ่ายรูปเมโทร อยู่บ้านเลขที่ 5 ต.ตลาดหลวง ถ.สายอ่างทอง-โพธิ์ทอง กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากที่เห็นน้ำเข้าท่วมอย่างรวดเร็วโดยไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาทุกปีน้ำไม่เคยท่วมเร็วและรุนแรงขนาดนี้ แม้ว่าจะเคยเกิดน้ำท่วมเมื่อปี 2526, 2538 และ 2545 น้ำก็ไม่เคยล้นเข้าอย่างรวดเร็วมาก่อน กลัวน้ำล้นเข้ามามากกว่านี้ อยากให้เจ้าหน้าที่รีบกู้ทำนบกั้นน้ำโดยเร็ว ส่วนตัวเองยังไม่ได้เตรียมพร้อมเสบียงไว้
    นางยุพา สิทธิพงศ์ พานิช อาย ุ54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ถ.เทศบาล 2 ต.ตลาดหลวง กล่าวว่า บริเวณนี้ใกล้กับวัดหงส์ เป็นจุดที่ทำนบกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่สามารถกั้นน้ำได้ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดจนอายุ 54 ปีไม่เคยเห็นกระแสน้ำรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ต้องระดมหลานๆ มาช่วยเก็บของอยู่ ถ้าน้ำท่วมสูงกว่านี้ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร อาหารก็ยังไม่ได้เตรียมตัว แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เทศบาลจะประชาสัมพันธ์เตือนว่าระดับน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้น ให้ชาวบ้านเก็บข้าวของหนีน้ำประมาณ 1 สัปดาห์เศษ แต่เตรียมตัวไม่ทัน
    ด้านเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่ง กล่าวว่า ระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และมีกระแสน้ำไหลแรงเช่นนี้ ยังไม่มั่นใจว่าจะกู้นบกั้นแม่น้ำได้หรือไม่
    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางความโกลาหลของประชาชนที่กำลังขนย้ายข้าวของหนีน้ำนั้น ประชาชนบางส่วนเริ่มทอดอาลัยอยู่หน้าบ้าน เพื่อรอลุ้นว่าอีกนานเท่าไรระดับน้ำจะลดลง ทั้งนี้ พื้นที่บางส่วนที่ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ทางเทศบาลได้ตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วแล้ว
    ขณะที่ จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่ อ.พรหมบุรี อ.ต้นโพธิ์ และ อ.เมืองสิงห์บุรี นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลข้ามถนนสาย 309 สิงห์บุรี-อ่างทอง เข้าไปในเขตพื้นที่ของอำเภอท่าช้าง และทำให้ท่วมพืชผลทางการเกษตรจำนวนมาก สำหรับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยใน จ.สิงห์บุรีขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 65 หมู่บ้านแล้ว รวม 4 อำเภอ อำเภอล่าสุดได้แก่ อ.ท่าช้าง ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานรอบนอกเกาะ ซึ่งมีทั้งวัดกุฎีดาว และวัดมเหยงค์ น้ำท่วมแล้วรวมทั้งเจดีย์ช้างล้อม ได้เสริมกระสอบทรายด้านนอกไว้อีก รวมทั้งตั้งระบบเครื่องสูบน้ำให้ระบายเร็วขึ้น โดยเชื่อว่ายังสามารถป้องกันได้ หากระดับน้ำไม่มากกว่านี้
    6-10 ต.ค.ฝนตกหนักทุกภาค
    ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉบับที่ 1 (172/2549) ว่า ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกในขณะนี้ จะเคลื่อนตัวลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทย ในวันที่ 10 ตุลาคม และบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน จะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันที่ 9 ตุลาคม ลักษณะดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับสภาวะอากาศและสภาวะฝนของประเทศไทย ส่งผลภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงอย่างชัดเจน และเริ่มมีอากาศเย็น ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม หลังจากนั้นปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มคลี่คลายและลดลงตามลำดับ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยพื้นที่ตอนบนของภาค จะมีฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป
    ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสาน จ.ขอนแก่น แม่น้ำชีปล่อยน้ำลงสู่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ส่งผลให้ชาวบ้านนาโพธิ์ และบ้านชีท่าวังเวิน ประสบภัยน้ำท่วม พื้นที่การเกษตร นาข้าวบ่อปลาเสียหายไม่ต่ำกว่า 8,000 ไร่ ปริมาณน้ำยังทรงตัวในระดับ 1.5-2 เมตร ขณะที่ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 1-2 ซม. ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.วารินชำราบ และกิ่ง อ.นาเยีย เป็นบริเวณกว้าง และไหลท่วมถนนเชื่อมเส้นทางระหว่าง ต.นาเยีย อ.นาเยีย ไป ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร ขณะเดียวกัน จ.กาฬสินธุ์ น้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว ฝนตกหนักที่สุดใน 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กมลาไสย และ อ.สมเด็จ วัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 112 มิลลิเมตร ล่าสุดมีรายงานลำน้ำพานทะลักท่วม ต.หลุบ บ้านเรือน 50 หลังจมน้ำ
    ขณะที่ภาคเหนือ ฝนทิ้งช่วงก่อนเข้าหนาวกลางเดือนนี้ นางสันทนีย์ ไชยเชียงพิณ เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า ในวันที่ 8-10 ตุลาคม จะมีมวลอากาศเย็น หรือลมหนาวจากประเทศจีนระลอกแรก เข้าปกคลุมประเทศไทยทางภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง ลักษณะดังกล่าวจะส่งผลให้อากาศแปรปรวน และเกิดฝนตกชุก มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วง 2-3 วันดังกล่าว จากนั้นอุณหภูมิในพื้นที่ จ.เชียงราย ตอนบน และ จ.เชียงใหม่ จะค่อยๆ ลดต่ำลงเรื่อยๆ และมีหมอกในตอนเช้า โดยฤดูหนาวปีนี้คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และหนาวจัดในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2549 ต่อเนื่องถึงต้นเดือนมกราคม 2550
    พิษณุโลกท่วมรอบสองศก.อ่วม
    นายสันติ กรุสวนสมบัติ รองผู้ว่าฯ พิษณุโลก ประเมินความเสียหายว่า น้ำท่วมรอบแรกเกือบ 600 ล้านบาท ไม่นับรวมหนี้สินของเกษตรกรต่อครัวเรือนที่มีหนี้สินจากเงินลงทุนปลูกข้าว ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าแรง ค่างปุ๋ย ค่ายา ที่กู้เงิน ทั้งจากนอกและระบบอีกเฉลี่ยครอบครัวละ 1 แสนบาท จากนั้นน้ำท่วมรอบที่สอง พื้นที่นาข้าวเสียหายครบทั้ง 9 อำเภอ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ มีนาข้าวเสียหายร่วม 2 แสนไร่ ประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง 700-800 ล้านบาท ขณะที่ จ.ตาก ดินจากภูเขาถล่มลงมาเคลื่อนตัวปิดถนนสาย อ.อุ้มผาง-อ.แม่สอด บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 60 ส่งผลให้รถยนต์โดยสาร และรถยนต์บุคคลทั่วไปกว่า 40 คันติดอยู่ระหว่างทางไม่สามารถสัญจรไปมาได้
    ทธ.เตือนดินถล่ม-น้ำป่าภาคตะวันออก-ใต้
    ขณะเดียวกัน ภาคตะวันออก กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) ออกประกาศฉบับที่ 55/2549 ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูงและหมู่บ้านในหุบเขาบริเวณภาคตะวันออก จ.จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว และบริเวณภาคใต้ จ.ชุมพร ระนอง พังงา และจังหวัดใกล้เคียง ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ โดยเฉพาะในเขต อ.มะขาม ขลุง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อ.เกาะช้าง อ.คลองใหญ่ และ อ.บ่อไร่ จ.ตราด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง จ.พังงา เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางซึ่งอาจเกิดดินไหลหรือหินร่วงมาปิดทับเส้นทาง
    ในส่วนของ จ.จันทบุรี นั้น น้ำป่าทะลักไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีและตลาดน้ำพุ ระดับน้ำสูงกว่า 150 ซม. ประชาชนเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 1,000 ครอบครัว มีพื้นที่ 7 อำเภอ ได้รับความเดือดร้อน อาทิ อ.เมือง อ.ท่าใหม่ อ.นายายอาม อ.มะขาม อ.แก่งหางแมว กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ และ อ.ขลุง แต่ที่ท่วมหนัก คือ ถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองจันทบุรี และขยายวงกว้างมาถึง ต.จันทนิมิต ท่วมบริเวณวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.ตราด และกินบริเวณกว้างมาถึงถนนสุขุมวิท แยกปั๊มศักดิ์ชัย ใกล้โรงพยาบาลสิริเวช จ.จันทบุรี ไปจนถึงบ้านคลองนารายณ์ ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 ซม. รถยนต์ขนาดเล็กแล่นผ่านด้วยความลำบาก มีรถยนต์จอดเสียข้างถนนหลายสิบคัน
    ในขณะเดียวกัน ที่ จ.ตราด ฝนตกหนักน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนสุขุมวิทและตัวเมืองเทศบาล ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ระดับน้ำสูงกว่า 40 ซม. รถยังแล่นผ่านไปมาได้ และถนนสายเขาสมิง-บ่อไร่ หลัก กม.ที่ 4-5 บริเวณโรงงานแปรรูปสับปะรด ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. รถยนต์ไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้ ที่หมู่ 5, 7 ต.ประณีต และหมู่ 3, 7 ต.สะตอ อ.เขาสมิง ระดับน้ำท่วมสูง 3-5 ซม. ถนนในหมู่บ้านท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร ที่ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด พบว่าคอสะพานบ้านท่าเส้นถูกน้ำพัดขาด แต่รถยนต์ยังแล่นผ่านไปมาได้ ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
    ส่วนภาคใต้ เกิดอุบัติเหตุต้นไม้ใหญ่ในสุสานบ้านช่องพลี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โค่นล้มใส่ชาวบ้านประมาณ 30 คนที่มาประกอบพิธีฝังศพ มีผู้บาดเจ็บ 10 คน มี ด.ช.ลาดิบ หว้ายา อายุ 3 ขวบ ต้องนำเข้าห้องผ่าตัด หลังเอกซเรย์ศีรษะพบอาการบวมและเลือดคั่งใต้ผิวหนัง ขณะที่ จ.ตรัง แม่น้ำตรังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วที่บริเวณวัดประสิทธิชัย ต.บางรัก และที่ อ.รัษฎา จะทำให้เกิดน้ำท่วมล้นตลิ่งใน อ.รัษฎา อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ อ.สิเกา และ อ.เมือง จ.ตรัง รวมทั้งเขตเทศบาลนครตรัง โดยเฉพาะวันที่ 6 ตุลาคม ขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤติรีบแจ้งจังหวัดทราบ
    ในส่วนกรุงเทพมหานคร พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมด้วยนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ลงพื้นที่บริเวณเคหะฉลองกรุง และวัดลำต้อยติ่ง เพื่อตรวจสอบความเสียหายน้ำท่วมขังมาหลายสัปดาห์แล้ว เพราะระดับน้ำในคลองหลวงแพ่ง อยู่สูงเกินจุดวิกฤติแล้ว ซึ่งในวันอาทิตย์นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในชุมชนวัดลำต้อยติ่ง เพื่อพระราชทานถุงยังชีพให้ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากวันนี้จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม จะต้องออกตรวจดูระดับน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงมากเกิน 2 เมตร เป็นครั้งแรก
    ด้านนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงสรุปผลพื้นที่ประสบภัยว่า ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม-6 ตุลาคม มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 39 จังหวัด 206 อำเภอ 15 กิ่งอำเภอ 1,176 ตำบล 6,336 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,373,291 คน 376,115 ครัวเรือน มูลค่าความเสียหายประมาณ 189,810,541 บาท มีผู้เสียชีวิตรวม 24 คน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีอีก 23 จังหวัดที่น้ำท่วม ได้แก่ กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร นครสรรค์ เพชรบูรณ์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด นครราชสีมา ขอนแก่น ศรีสะเกษ และกรุงเทพมหานคร โดยจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ ได้แก่ จังหวัดที่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง มีปริมาณน้ำประมาณ 3,000 ล้าน ลบ.ม. และอยู่ระหว่างการรอระบายลงสู่ทะเลตามแม่น้ำสายหลัก
    -->
    ในหลวงพระราชทานถุงยังชีพซับน้ำตาชาว จ.ชัยภูมิ ที่อ่างทองระทึก ชาวบ้านหนีตาย หลังพนังเขื่อนเจ้าพระยาพัง ขณะที่น้ำในเขื่อนป่าสักฯ เข้าขั้นวิกฤติ อุตุฯ เตือน10 จว.ภาคอีสานฝนตกหนักใน2วัน
    กว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังประเทศไทยถูกพายุ "ช้างสาร" พาดผ่าน ส่งผลให้เกิดพายุลมและมีฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเกิดน้ำท่วมอย่างหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณด้านหลังวัดสนามชัย ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ยังกัดเซาะดินใต้เขื่อนริมแม่น้ำ โดยดันพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นถนนด้านหลังเขื่อนพัง ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบริเวณชุมชนตลาดหลวงอย่างรวดเร็ว เริ่มไหลเข้าท่วมวัดโลห์สุทธาวาส ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับสูงกว่าตลาดอ่างทอง เกือบ 2 เมตรไหลบ่าเข้าท่วมตลาดนพรัตน์ ซึ่งเป็นตลาดเก่า และน้ำบางส่วนยังได้ไหลลงคลองลำท่าแดง
    เจ้าหน้าที่เทศบาลได้ใช้กระสอบทรายหลายหมื่นใบ ทำการอุดพนังกั้นน้ำ แต่ก็ไม่สามารถอุดอยู่ เพราะทนความแรงดันน้ำที่สูงกว่าระดับพื้นตลาดไม่ไหว ทำให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและแรงเข้าท่วมตัวตลาดอ่างทองทั้ง 2 ฝั่งถนนอย่างรวดเร็ว จนระดับน้ำสูงกว่า 70 ซม. ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ต้องวิ่งหนีกันโกลาหล บางส่วนที่อยู่ภายในร้านต่างปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมภายในร้านค้า
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการปิดกั้นการจราจร พร้อมกับไม่ให้รถวิ่งเข้า-ออกตัวเมืองอ่างทอง โดยเด็ดขาด เนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นอันตรายต่อประชาชน โดยชาวบ้านที่มีบ้าน 2 ชั้น กำลังขนย้ายข้าวของจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นสองอย่างเร่งด่วน ส่วนชาวบ้านที่อยู่บ้านชั้นเดียวกว่า 100 คน ต่างขนย้ายข้าวของจากบ้านเรือนมาไว้ที่ริมถนนสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง ขณะที่เทศบาลตำบลตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้ร่วมกับทหารจากศูนย์การบินทหารบก 3 กองพันประมาณ 3,000 นาย พร้อมเครื่องจักรกลช่วยกู้ทำนบกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังรั่วเข้ามายังตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง
    นายสันติ จารุเอก อายุ 65 ปี เจ้าของร้านถ่ายรูปเมโทร อยู่บ้านเลขที่ 5 ต.ตลาดหลวง ถ.สายอ่างทอง-โพธิ์ทอง กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากที่เห็นน้ำเข้าท่วมอย่างรวดเร็วโดยไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาทุกปีน้ำไม่เคยท่วมเร็วและรุนแรงขนาดนี้ แม้ว่าจะเคยเกิดน้ำท่วมเมื่อปี 2526, 2538 และ 2545 น้ำก็ไม่เคยล้นเข้าอย่างรวดเร็วมาก่อน กลัวน้ำล้นเข้ามามากกว่านี้ อยากให้เจ้าหน้าที่รีบกู้ทำนบกั้นน้ำโดยเร็ว ส่วนตัวเองยังไม่ได้เตรียมพร้อมเสบียงไว้
    นางยุพา สิทธิพงศ์ พานิช อาย ุ54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ถ.เทศบาล 2 ต.ตลาดหลวง กล่าวว่า บริเวณนี้ใกล้กับวัดหงส์ เป็นจุดที่ทำนบกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่สามารถกั้นน้ำได้ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดจนอายุ 54 ปีไม่เคยเห็นกระแสน้ำรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ต้องระดมหลานๆ มาช่วยเก็บของอยู่ ถ้าน้ำท่วมสูงกว่านี้ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร อาหารก็ยังไม่ได้เตรียมตัว แม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เทศบาลจะประชาสัมพันธ์เตือนว่าระดับน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้น ให้ชาวบ้านเก็บข้าวของหนีน้ำประมาณ 1 สัปดาห์เศษ แต่เตรียมตัวไม่ทัน
    ด้านเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่ง กล่าวว่า ระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และมีกระแสน้ำไหลแรงเช่นนี้ ยังไม่มั่นใจว่าจะกู้นบกั้นแม่น้ำได้หรือไม่
    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางความโกลาหลของประชาชนที่กำลังขนย้ายข้าวของหนีน้ำนั้น ประชาชนบางส่วนเริ่มทอดอาลัยอยู่หน้าบ้าน เพื่อรอลุ้นว่าอีกนานเท่าไรระดับน้ำจะลดลง ทั้งนี้ พื้นที่บางส่วนที่ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ทางเทศบาลได้ตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วแล้ว
    ขณะที่ จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่ อ.พรหมบุรี อ.ต้นโพธิ์ และ อ.เมืองสิงห์บุรี นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลข้ามถนนสาย 309 สิงห์บุรี-อ่างทอง เข้าไปในเขตพื้นที่ของอำเภอท่าช้าง และทำให้ท่วมพืชผลทางการเกษตรจำนวนมาก สำหรับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยใน จ.สิงห์บุรีขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 65 หมู่บ้านแล้ว รวม 4 อำเภอ อำเภอล่าสุดได้แก่ อ.ท่าช้าง ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานรอบนอกเกาะ ซึ่งมีทั้งวัดกุฎีดาว และวัดมเหยงค์ น้ำท่วมแล้วรวมทั้งเจดีย์ช้างล้อม ได้เสริมกระสอบทรายด้านนอกไว้อีก รวมทั้งตั้งระบบเครื่องสูบน้ำให้ระบายเร็วขึ้น โดยเชื่อว่ายังสามารถป้องกันได้ หากระดับน้ำไม่มากกว่านี้
    6-10 ต.ค.ฝนตกหนักทุกภาค
    ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉบับที่ 1 (172/2549) ว่า ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกในขณะนี้ จะเคลื่อนตัวลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทย ในวันที่ 10 ตุลาคม และบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน จะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันที่ 9 ตุลาคม ลักษณะดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับสภาวะอากาศและสภาวะฝนของประเทศไทย ส่งผลภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงอย่างชัดเจน และเริ่มมีอากาศเย็น ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ภาคกลางและภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม หลังจากนั้นปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มคลี่คลายและลดลงตามลำดับ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยพื้นที่ตอนบนของภาค จะมีฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป
    ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสาน จ.ขอนแก่น แม่น้ำชีปล่อยน้ำลงสู่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ส่งผลให้ชาวบ้านนาโพธิ์ และบ้านชีท่าวังเวิน ประสบภัยน้ำท่วม พื้นที่การเกษตร นาข้าวบ่อปลาเสียหายไม่ต่ำกว่า 8,000 ไร่ ปริมาณน้ำยังทรงตัวในระดับ 1.5-2 เมตร ขณะที่ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 1-2 ซม. ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.วารินชำราบ และกิ่ง อ.นาเยีย เป็นบริเวณกว้าง และไหลท่วมถนนเชื่อมเส้นทางระหว่าง ต.นาเยีย อ.นาเยีย ไป ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร ขณะเดียวกัน จ.กาฬสินธุ์ น้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว ฝนตกหนักที่สุดใน 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กมลาไสย และ อ.สมเด็จ วัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 112 มิลลิเมตร ล่าสุดมีรายงานลำน้ำพานทะลักท่วม ต.หลุบ บ้านเรือน 50 หลังจมน้ำ
    ขณะที่ภาคเหนือ ฝนทิ้งช่วงก่อนเข้าหนาวกลางเดือนนี้ นางสันทนีย์ ไชยเชียงพิณ เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า ในวันที่ 8-10 ตุลาคม จะมีมวลอากาศเย็น หรือลมหนาวจากประเทศจีนระลอกแรก เข้าปกคลุมประเทศไทยทางภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง ลักษณะดังกล่าวจะส่งผลให้อากาศแปรปรวน และเกิดฝนตกชุก มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วง 2-3 วันดังกล่าว จากนั้นอุณหภูมิในพื้นที่ จ.เชียงราย ตอนบน และ จ.เชียงใหม่ จะค่อยๆ ลดต่ำลงเรื่อยๆ และมีหมอกในตอนเช้า โดยฤดูหนาวปีนี้คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และหนาวจัดในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2549 ต่อเนื่องถึงต้นเดือนมกราคม 2550
    พิษณุโลกท่วมรอบสองศก.อ่วม
    นายสันติ กรุสวนสมบัติ รองผู้ว่าฯ พิษณุโลก ประเมินความเสียหายว่า น้ำท่วมรอบแรกเกือบ 600 ล้านบาท ไม่นับรวมหนี้สินของเกษตรกรต่อครัวเรือนที่มีหนี้สินจากเงินลงทุนปลูกข้าว ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าแรง ค่างปุ๋ย ค่ายา ที่กู้เงิน ทั้งจากนอกและระบบอีกเฉลี่ยครอบครัวละ 1 แสนบาท จากนั้นน้ำท่วมรอบที่สอง พื้นที่นาข้าวเสียหายครบทั้ง 9 อำเภอ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ มีนาข้าวเสียหายร่วม 2 แสนไร่ ประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง 700-800 ล้านบาท ขณะที่ จ.ตาก ดินจากภูเขาถล่มลงมาเคลื่อนตัวปิดถนนสาย อ.อุ้มผาง-อ.แม่สอด บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 60 ส่งผลให้รถยนต์โดยสาร และรถยนต์บุคคลทั่วไปกว่า 40 คันติดอยู่ระหว่างทางไม่สามารถสัญจรไปมาได้
    ทธ.เตือนดินถล่ม-น้ำป่าภาคตะวันออก-ใต้
    ขณะเดียวกัน ภาคตะวันออก กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) ออกประกาศฉบับที่ 55/2549 ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูงและหมู่บ้านในหุบเขาบริเวณภาคตะวันออก จ.จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว และบริเวณภาคใต้ จ.ชุมพร ระนอง พังงา และจังหวัดใกล้เคียง ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ โดยเฉพาะในเขต อ.มะขาม ขลุง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อ.เกาะช้าง อ.คลองใหญ่ และ อ.บ่อไร่ จ.ตราด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง จ.พังงา เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางซึ่งอาจเกิดดินไหลหรือหินร่วงมาปิดทับเส้นทาง
    ในส่วนของ จ.จันทบุรี นั้น น้ำป่าทะลักไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีและตลาดน้ำพุ ระดับน้ำสูงกว่า 150 ซม. ประชาชนเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 1,000 ครอบครัว มีพื้นที่ 7 อำเภอ ได้รับความเดือดร้อน อาทิ อ.เมือง อ.ท่าใหม่ อ.นายายอาม อ.มะขาม อ.แก่งหางแมว กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ และ อ.ขลุง แต่ที่ท่วมหนัก คือ ถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองจันทบุรี และขยายวงกว้างมาถึง ต.จันทนิมิต ท่วมบริเวณวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.ตราด และกินบริเวณกว้างมาถึงถนนสุขุมวิท แยกปั๊มศักดิ์ชัย ใกล้โรงพยาบาลสิริเวช จ.จันทบุรี ไปจนถึงบ้านคลองนารายณ์ ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 ซม. รถยนต์ขนาดเล็กแล่นผ่านด้วยความลำบาก มีรถยนต์จอดเสียข้างถนนหลายสิบคัน
    ในขณะเดียวกัน ที่ จ.ตราด ฝนตกหนักน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมถนนสุขุมวิทและตัวเมืองเทศบาล ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ระดับน้ำสูงกว่า 40 ซม. รถยังแล่นผ่านไปมาได้ และถนนสายเขาสมิง-บ่อไร่ หลัก กม.ที่ 4-5 บริเวณโรงงานแปรรูปสับปะรด ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. รถยนต์ไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้ ที่หมู่ 5, 7 ต.ประณีต และหมู่ 3, 7 ต.สะตอ อ.เขาสมิง ระดับน้ำท่วมสูง 3-5 ซม. ถนนในหมู่บ้านท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร ที่ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด พบว่าคอสะพานบ้านท่าเส้นถูกน้ำพัดขาด แต่รถยนต์ยังแล่นผ่านไปมาได้ ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
    ส่วนภาคใต้ เกิดอุบัติเหตุต้นไม้ใหญ่ในสุสานบ้านช่องพลี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โค่นล้มใส่ชาวบ้านประมาณ 30 คนที่มาประกอบพิธีฝังศพ มีผู้บาดเจ็บ 10 คน มี ด.ช.ลาดิบ หว้ายา อายุ 3 ขวบ ต้องนำเข้าห้องผ่าตัด หลังเอกซเรย์ศีรษะพบอาการบวมและเลือดคั่งใต้ผิวหนัง ขณะที่ จ.ตรัง แม่น้ำตรังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วที่บริเวณวัดประสิทธิชัย ต.บางรัก และที่ อ.รัษฎา จะทำให้เกิดน้ำท่วมล้นตลิ่งใน อ.รัษฎา อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ อ.สิเกา และ อ.เมือง จ.ตรัง รวมทั้งเขตเทศบาลนครตรัง โดยเฉพาะวันที่ 6 ตุลาคม ขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤติรีบแจ้งจังหวัดทราบ
    ในส่วนกรุงเทพมหานคร พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมด้วยนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ลงพื้นที่บริเวณเคหะฉลองกรุง และวัดลำต้อยติ่ง เพื่อตรวจสอบความเสียหายน้ำท่วมขังมาหลายสัปดาห์แล้ว เพราะระดับน้ำในคลองหลวงแพ่ง อยู่สูงเกินจุดวิกฤติแล้ว ซึ่งในวันอาทิตย์นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในชุมชนวัดลำต้อยติ่ง เพื่อพระราชทานถุงยังชีพให้ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากวันนี้จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม จะต้องออกตรวจดูระดับน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงมากเกิน 2 เมตร เป็นครั้งแรก ด้านนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงสรุปผลพื้นที่ประสบภัยว่า ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม-6 ตุลาคม มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 39 จังหวัด 206 อำเภอ 15 กิ่งอำเภอ 1,176 ตำบล 6,336 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,373,291 คน 376,115 ครัวเรือน มูลค่าความเสียหายประมาณ 189,810,541 บาท มีผู้เสียชีวิตรวม 24 คน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีอีก 23 จังหวัดที่น้ำท่วม ได้แก่ กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร นครสรรค์ เพชรบูรณ์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด นครราชสีมา ขอนแก่น ศรีสะเกษ และกรุงเทพมหานคร โดยจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ ได้แก่ จังหวัดที่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง มีปริมาณน้ำประมาณ 3,000 ล้าน ลบ.ม. และอยู่ระหว่างการรอระบายลงสู่ทะเลตามแม่น้ำสายหลัก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>กาฬสินธุ์เขื่อนลำปาวน้ำมาก ย้ำราษฎรระวังน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนระวังปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในเขตชลประทาน เนื่องจากขณะนี้น้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว
    หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนักที่สุดใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอกมลาไสย และอำเภอสมเด็จ วัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 112 มิลลิเมตร ส่วนปัญหาน้ำท่วมในกิ่งอำเภอดอนจาน อำเภอสมเด็จ อำเภอยางตลาด อำเภอนามน และอำเภอเมือง เส้นทางคมนาคมเสียหายอย่างหนักรวมกว่า 200 สาย ล่าสุดมีรายงานลำน้ำพานทะลักท่วมพื้นที่เพิ่มอีกในตำบลหลุบ อำเภอเมือง บ้านเรือนราษฎร 50 หลัง จมน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร
    -->
    นายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนระวังปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในเขตชลประทาน เนื่องจากขณะนี้น้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนักที่สุดใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอกมลาไสย และอำเภอสมเด็จ วัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 112 มิลลิเมตร ส่วนปัญหาน้ำท่วมในกิ่งอำเภอดอนจาน อำเภอสมเด็จ อำเภอยางตลาด อำเภอนามน และอำเภอเมือง เส้นทางคมนาคมเสียหายอย่างหนักรวมกว่า 200 สาย ล่าสุดมีรายงานลำน้ำพานทะลักท่วมพื้นที่เพิ่มอีกในตำบลหลุบ อำเภอเมือง บ้านเรือนราษฎร 50 หลัง จมน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]

    ช้างหนีน้ำ
    วังช้างพระนครศรีอยุธยาย้ายช้างออกจากเพนียดคล้องช้าง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หนีน้ำท่วมนำไปไว้ในเพนียดชั่วคราว เนื่องจากมีลูกช้างจำนวนมาก วันที่ 5 ตุลาคม
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]

    พนังกั้นน้ำพัง
    น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงระดับ 9 เมตร เกิดแรงกระแทกพนังกั้นน้ำประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง-แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท้ายวัดสนามชัย เทศบาลเมืองอ่างทองพังทลายเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร
     
  10. ทาโร่

    ทาโร่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +126
    อย่าออกตัวเช่นนั้นเลยครับ
    ที่นี่เป็นเวปเสรี แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่
    ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่หามาให้อ่านนะครับ
    ส่วนใหญ่ผมชอบอ่านมากกว่าตั้งกระทู้ครับ
    (f)
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]

    น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงระดับ 9 เมตร เกิดแรงกระแทกพนังกั้นน้ำประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง-แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท้ายวัดสนามชัย เทศบาลเมืองอ่างทองพังทลายเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]

    น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงระดับ 9 เมตร เกิดแรงกระแทกพนังกั้นน้ำประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง-แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท้ายวัดสนามชัย เทศบาลเมืองอ่างทองพังทลายเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร
     
  13. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยกันบริจาคช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่กำลังประสบความเดือดร้อนอย่างเต็มที่
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]

    น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงระดับ 9 เมตร เกิดแรงกระแทกพนังกั้นน้ำประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง-แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท้ายวัดสนามชัย เทศบาลเมืองอ่างทองพังทลายเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    [​IMG]
    น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงระดับ 9 เมตร เกิดแรงกระแทกพนังกั้นน้ำประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง-แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท้ายวัดสนามชัย เทศบาลเมืองอ่างทองพังทลายเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เมืองจันทน์ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย จากเหตุน้ำท่วม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ตุลาคม 2549 11:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวศรีราชา - จังหวัดจันทบุรี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย หลังจากเกิดฝนตกอย่างหนักจนทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดจันทบุรีว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยได้กระจายกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือ แจกจ่ายสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชนที่ถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่วิกฤติหนัก ไปรวมไว้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่สำนักงานเทศบาลแต่ละแห่ง รวมถึงที่ศาลากลางจังหวัด

    ในส่วนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน ที่อำเภอมะขามและอำเภอนายายอาม โดยเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ซึ่งถูกน้ำป่าพัดจมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ผู้บาดเจ็บ พบว่ามีประชาชนหลายรายถูกงูกัดและกระเบื้องบาด

    ทั้งนี้จากการสอบถามผู้นำชุมชนและประชาชนชาวจันทบุรี ต่างยอมรับว่าเหตุการณ์น้ำท่ามในครั้งนี้มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว หลังจากจังหวัดจันทบุรีเคยถูกน้ำท่วมหนักที่สุดในปี 2542 มาแล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ระยองประกาศทุกอำเภอเตรียมรับน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ตุลาคม 2549 11:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ศูนย์ข่าวศรีราชา - จังหวัดระยอง ออกประกาศให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในเกือบทุกอำเภอ 1-2 วันนี้

    นางพิศจุไร ปานทิพย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง เปิดเผยว่าได้รับรายงานยังมีฝนตกเกือบทุกอำเภอในขณะนี้ หลายตำบลที่ประสบภัยน้ำท่วมในปีที่แล้วระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ล่าสุดได้รับรายงานว่าน้ำทะเลจะสูงขึ้น อาจทำให้น้ำทะเลหนุนเข้าพื้นที่ลุ่มโดยเฉพาะเขตเทศบาลตำบลแกลงกะเฉด อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนที่ ต.ทุ่งควายกินและ ต.บ้านนา อ.แกลง ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ต.น้ำเป็น กิ่ง อ.เขาชะเมา เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะพื้นที่แห่งนี้ในปีที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่น้ำเป็นเหมือนกัน

    นางพิศจุไร กล่าวว่า จังหวัดมีประกาศ ในช่วง 1-2 วันนี้ คาดว่าจะเกิดน้ำท่วมเกือบทุกอำเภอ จึงได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือจากกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 18 นายพร้อมเรือท้องแบนและอุปกรณ์การช่วยเหลือเข้าพื้นที่ ต.ทุ่งควายกิน ต.น้ำเป็นแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานสถานการณ์เข้ามา จังหวัดระยองเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฯและกำลังทหารเรือจำนวน 200 คน พร้อมที่จะออกปฏิบัติการณ์ได้ทันที ล่าสุดจากการสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยรวม 4 อำเภอ 11 ตำบล 56 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 8,363 ครัวเรือน 24,127 คน บ้านเรือนเสียหาย 7 หลัง ถนนเสียหาย 53 สาย คอสะพาน 1 แห่ง ฝาย 2 แห่ง นาข้าวเสียหาย 100 ไร่ พืชไร่ 80 ไร่ พืชสวน 30 ไร่ รวมมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้น จำนวน 2,504,400 บาท</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จันทบุรีน้ำท่วมหนัก! เร่งอพยพนักโทษฝากขังที่เรือนจำตราด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 ตุลาคม 2549 11:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ศูนย์ข่าวศรีราชา- น้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่จันทบุรี –ตราด ลุกลามท่วมถึงเรือนจำจังหวัดจันทบุรี ทำให้ต้องอพยพนักโทษ280 คน ไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดตราด ในขณะที่นายอำเภอเขาสมิง จันทบุรี ต้องอพยพกว่า 300 คนจากสามหมู่บ้านออกนอกพื้นที่เช่นกัน ด้านนักศึกษากศน. ต้องเลื่อนการสอบอีกสัปดาห์

    วันนี้(7 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่าที่ อำเภอเขาสมิง จ.จันทบุรี เกิดน้ำท่วมเขตเทศบาล ต.แสนตุ้ง โดยถนนสุขุมวิทช่วงร้านโฮมวัสดุภัณก่อสร้าง - หมู่บ้านโพธิกิจ ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทั้ง 4 ช่องจราจร ได้เกิดน้ำท่วมสูงประมาณ 30 - 80 ซม. ทำให้รถยนต์สัญจรไปมาได้เพียง 2 ช่องจราจร ขณะที่บริเวณ ถนนสายแสนตุ้ง - อ.บ่อไร่ ก็เกิดน้ำท่วมเป็นระยะทางยาว 100-150 เมตร มีระดับความสูง 50 ซม. แต่ในช่วงเวลา 10.00 น. ระดับน้ำได้ลดลงอยู่ในภาวะปกติ

    นอกจากนั้นยังเกิดน้ำป่าไหลหลากจากแม่น้ำเวฬุ ซึ่งไหลล้นเข้าท่วม ต.ประณีต ในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน จาก 10 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อน 155 ครัวเรือน และน้ำยังเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและ สวนผลไม้จำนวนกว่า 3,000 ไร่ ขณะที่ถนนสาย ต.สะตอ - นาวง ,ถนนสายสะตอ - นาแกลง มีน้ำท่วมหลายจุด มีระยะทาง ยาวกว่า 2-3 กิโลเมตร มีระดับความสูง 20-80 ซม. รถยนต์เล็กสัญจรไปมาไม่ได้ โดยเฉพาะสายนาแกลง - ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี มีน้ำท่วมถนน มีความยาว กว่า 2 กิโลเมตร มีความสูงประมาณ 80 ซม. และมีบ้านเรือนกว่า 30 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม โดยมีบ้านหลังหนึ่งที่มีระดับความสูงถึง 2 เมตร ก็ถูกน้ำท่วมด้วยเช่นกัน

    นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ นายอำเภอเขาสมิง ได้นำเจ้าหน้าที่ อส.อ.เขาสมิง พร้อมหน่วย นพค. 14 (อ.บ่อไร่) นำรถยนต์ และเรือท้องแบนพร้อมทหารเดินทางไปยัง ต.ประณีต เพื่อตรวจดูพื้นที่น้ำท่วมในหลาย หมู่บ้านพบว่า ประชาชนกว่า 6 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมหนักมีระดับความสูงถึง 1-1.50 เมตร ทั้งนี้เนื่องจากมีการระบาย น้ำจากเขื่อนคีรีธาร อ.ขลุง จ.จันทบุรี ลงมา เนื่องจากรับปริมาณน้ำไม่ไหว และระดับน้ำยังมีความสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึง ได้แจ้งให้ประชาชนเตรียมการอพยพหากปริมาณน้ำยังสูงขึ้น และล่าสุดได้มีการอพยพประชาชนที่ประสบภัย น้ำท่วมจำนวนกว่า 300 คนออกจาก 3 หมู่บ้าน เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นและมีความรุนแรงอาจทำให้เกิดอันตรายได้

    นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินของทางราชการเช่น ศาลาพักผู้โดยสาร ถูกน้ำพัดพังเสียหาย ถนนหลายสาย สะพานหลาย แห่งถูกทำลายได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน เช่น ทุเรียน เงาะ สวนยาง ถูกน้ำท่วมมากกว่า 3,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอีกจำนวนหนึ่งด้วย

    ขณะที่นายสมบัติ สมสมัย กำนัน ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด ระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการ ระบายน้ำจากเขื่อนคีรีธาร จ.จันทบุรี ลงมาจนล้นแม่น้ำเวฬุ และคลองสะตอ ทำให้น้ำท่วมเกือบทั้ง ต.ประณี และ ต.สะตอ จึงอยากขอร้องว่าทางเขื่อนคีรีธารอย่าได้ปล่อยน้ำมาขณะนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน มากขึ้น อีกและระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็ต้องช่วยกันตามอัตภาพเท่าที่จะทำให้

    ส่วนที่ ต.สะตอ อ.เขาสมิง ระดับน้ำในคลองสะตอ มีความสูง 9.80 เมตร ทำให้ทุกหมู่บ้านใน ต.สะตอ เกิดน้ำท่วมแล้วในระดับ 1-1.80 เมตร ประชาชนนับ 1,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน โดยนายปราโมทย์ จันทร์กระจ่าง กล่าวว่า น้ำที่ท่วม ต.สะตอ ในขณะนี้เพราะฝนตกและน้ำที่ระบายจากเขื่อนคีรีธาร

    ทางด้านมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี จันทบุรี ได้แจ้งมายังส่วนประสานงานนักศึกษาที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนตราดว่า นักศึกษา กศปช. (นักศึกษาภาคพิเศษเสาร์-อาทิตย์) ที่จะมีการสอบปลายเทอมระหว่างวัน เสาร์-อาทิตย์ จะเลื่อนสอบไปสอบในระบบเสาร์-อาทิตย์ ที่ 14-15 ตุลาคม 2549 เนื่องจากเกิดภาวะน้ำท่วมที่จะ จ.จันทบุรี อย่างหนัก ทำให้นักศึกษา กศปช. กว่า 500 คน โดยเฉพาะผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นต้องชะลอ การสอบไปด้วย

    ขณะเดียวกัน ได้เกิดน้ำท่วมที่เรือนจำ จ.จันทบุรี อย่างหนักทำให้ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.จันทบุรี ได้ขอประสานนาย วิกรม พันธุสาคร ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ตราด เพื่อขอส่งผู้ต้องขังจำนวน 290 คน มาฝากขังที่เรือนจำ จ.ตราด ทั้งนี้ เรือนจำ จ.ตราด สามารถรองรับได้และไม่เกิดปัญหาด้านความแออัดแต่ประการใด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="99.5%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="99.5%" align=center border=0 valign="top"><!--// r1 c1 //--><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="99%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="95%" align=center bgColor=#ffffff border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#eeeeee>
    หลายอำเภอจ.ตากน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะอ.บ้านตากสูงกว่า 3 เมตร
    วันที่ 07 ต.ค. 2549​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    วันนี้ (7 ต.ค.) รายงานจากจังหวัดตาก ภายหลังพายุฝนถล่มในพื้นที่เขต อ.เมืองตาก จ.ตาก น้ำฝนไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ซอยเทศบาลเมิน ชุมชนบ้านหนองหลวง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนถนน และซอยในเขตชุมชนบ้านหัวเดียด ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 0.30-1.20 เมตร ร้านค้า บ้านเรือน นับร้อยหลังคาเรือน ในเขตเทศบาลเมืองตาก ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฝนที่ตกหนักเมื่อคืน (6 ต.ค.) ที่ผ่านมา

    ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกับน้ำท่วมขัง ไม่พอใจอย่างมาก เมื่อโทรศัพท์แจ้งความเดือดร้อนไปที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาก เจ้าหน้าที่รับสาย แต่กลับแจ้งว่า เป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบไม่มาทำงาน และไม่สามารถที่จะติดต่อได้ ขอให้โทรศัพท์มาใหม่ ในวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม ที่จะถึงนี้

    นอกจากนี้ พายุฝนที่ตกหนักเมื่อคืนนี้ ยังทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่ปิงสูงขึ้น เนื่องจากน้ำป่าในลำห้วยต่างๆ ในเขต อ.บ้านตาก อ.เมือง และกิ่ง อ.วังเจ้า ไหลสมทบกับน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนภูมิพล 20 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ระดับน้ำที่ไหลผ่านในตัวเมืองตาก วัดได้ที่สถานีอุทกวิทยา ต.แม่ท้อ อ.เมือง ประมาณ 1,350 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และร้านอาหารที่อยู่ติดริมตลิ่งแม่น้ำปิงในตัวอำเภอบ้านตาก อ.เมือง และกิ่ง อ.วังเจ้า กว่า 1,000 หลังคาเรือน บางแห่งมีน้ำท่วมสูงมากกว่า 3 เมตร ผู้คนต้องอพยพไปบนที่สูงและปลอดภัย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]
    วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5791​

    จมอยุธยาวัดนับร้อยท่วมหนัก




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ปรับตัว - พระสงฆ์วัดไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องหุงหาอาหารฉันเองในกุฏิที่น้ำท่วมขัง เสี่ยงต่อการถูกไฟชอร์ต เพราะในพื้นที่อ.บางบาล ถูกน้ำท่วมจนออกบิณฑบาตไม่ได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>อธิบดีกรมชลฯ ปลุกผีสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ "แก่งเสือเต้น" และ "แม่วงก์" อ้างแก้น้ำท่วมระยะยาว เตรียมชงรัฐบาลใหม่อนุมัติ ไม่สนผลกระทบ เสียงคัดค้าน คิดไปถึงขั้นจะหาสถานที่ปลูกป่าสักทองผืนใหม่ ขณะที่หลายจังหวัดภาคกลางยังอ่วม "อยุธยา"ทั้งโบราณสถาน วัดโดนท่วมหนัก พระ-เณรบิณฑบาตไม่ได้ แถมยังต้องจัดเวรยามคุ้มกันพระพุทธรูปเก่าแก่ หวั่นโจรฉวยโอกาสขโมย "อ่างทอง"พนังกั้นน้ำแตก ชาวบ้าน-ทหารนับร้อยช่วยกันอุด แต่ก็ต้านไม่ไหว ทะลักหลายหมู่บ้าน "สิงห์บุรี"ก็ยังไม่ฟื้น แถมแนวกั้นน้ำโดนน้ำซัดพังอีก ส่วน"จันทบุรี"น้ำป่าทะลักเข้าเมือง ขนข้าวของหนีน้ำกันโกลาหลกลางดึก

    เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 1 เรื่องสภาวะอากาศและสภาวะฝนของประเทศไทย ว่าจากการที่มีฝนตกชุก และเกิดน้ำท่วมขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาขอประกาศให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์ของสภาวะอากาศและสภาวะฝนดังต่อไปนี้ 1.ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกในขณะนี้ จะเคลื่อนตัวลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทย ในวันที่ 10 ต.ค.นี้

    ประกาศระบุต่อว่า 2.บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันที่ 9 ต.ค. จะส่งผลกระทบกับสภาวะอากาศและฝนของประเทศไทยดังนี้ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงอย่างชัดเจนและเริ่มมีอากาศเย็น ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. ภาคกลางและภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งได้ในช่วงวันที่ 6-8 ต.ค. หลังจากนั้นปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มคลี่คลายและลดลงตามลำดับ ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยพื้นที่ตอนบนของภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. และภาคใต้ฝั่งอันดามันยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป

    ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมนอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และริมคลองบางกอกน้อยว่า จัดเตรียมเตียงชั่วคราว และสะพานทางเดินไม้ไปให้ พร้อมทั้งสั่งให้สำนักงานเขตนำเครื่องสูบน้ำช่วยกู้พื้นที่อย่างเร่งด่วน ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในแนวคันกั้นน้ำไม่น่ามีผลกระทบ แม้กรมชลประทานจะปล่อยน้ำท้ายเขื่อนในระดับ 3,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อย่างไรก็ตาม แม้จะมีระดับน้ำทะเลหนุนสูงประมาณ 2.02 เมตร แต่แนวคันกั้นน้ำของ กทม.ยังสามารถรับปริมาณน้ำได้ประมาณ 3 เมตร ส่วนบริเวณนอกคันกั้นน้ำ กทม.วางกระสอบทรายในระดับ 2.2 เมตร และเตรียมพร้อมเสริมในบางพื้นที่ประมาณ 2.5 เมตรหากจำเป็น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    จันท์จม - ตัวเมืองจันทบุรีถูกน้ำท่วมอย่างหนัก เพราะมีน้ำป่าไหลมาจากกิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ ประกอบกับฝนตกหนักและน้ำทะเลหนุน ล่าสุดที่อ.มะขาม มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว 1 ศพ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ด้านนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาวว่า เตรียมสร้างคลองระบายน้ำเพิ่มเติม รวมทั้งรื้อฟื้นโครงการสร้างพื้นที่เก็บกักน้ำด้านเหนือลุ่มน้ำเจ้าพระยาขึ้นมาอีกครั้ง เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำแก่งเสือเต้น จ.แพร่ จะทำหน้าที่เก็บกักน้ำจากลุ่มน้ำยม และโครงการอ่างเก็บน้ำแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เป็นต้น อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลจะนำเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณา

    ต่อข้อถามถึงการคัดค้านก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ต้องการให้ตั้งคนกลางที่ไม่ใช่ทั้งผู้ต้องการให้สร้าง และผู้คัดค้านการสร้าง มาพิจารณาผลดีผลเสียอย่างเป็นธรรมแล้วนำเสนอต่อรัฐบาล แต่ส่วนตัวเห็นว่าทุกฝ่ายน่าจะร่วมกันคิดหาทางแก้ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบของการสร้างอ่างเก็บน้ำ เช่น หาสถานที่ปลูกป่าสักทองผืนใหม่ หรือหาทางพัฒนาที่อยู่สัตว์น้ำที่จะได้รับผลกระทบ มากกว่าที่จะนำปัญหามาคัดค้าน เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีวิชาการมีความก้าวหน้ามาก

    สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ นั้น จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำทะลักล้นถนนคันคลองชลประทานในเขต ต.บางชะนี ต.บางบาล ต.วัดยม อ.บางบาล กรมชลประทานต้องระดมรถแบ๊คโฮทำคันดินอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาถนนให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร และพักอาศัยเป็นการชั่วคราว ขณะที่วัดติดแม่น้ำลำคลองกว่า 100 วัดถูกน้ำท่วมเสียหาย พระเณรเดือดร้อน โดยเฉพาะที่วัดไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.บางบาล ซึ่งติดคลองบางบาล ปรากฏว่าน้ำท่วมสูง 3 เมตร ถึงพื้นศาลาวัดและกุฏิพระที่ยกใต้ถุน ต้องปล่อยให้พระพุทธรูปขนาดใหญ่และหนักจมอยู่ใต้น้ำ เพราะไม่สามารถยกขึ้นมาไว้ที่สูงได้

    พระประจวบ เขมโก อายุ 72 ปี พระลูกวัดไทรน้อย กล่าวว่า ออกบิณฑบาตไม่ได้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อน พระเณรก็เดือดร้อนตามไปด้วย ต้องหุงหาอาหารฉันกันเองด้วยความยากลำบาก เพราะวัดถูกน้ำท่วมถึงในกุฏิสูงกว่า 50 เซนติเมตร กลัวถูกไฟรั่วชอร์ตมาก เพราะไม่รู้จะอพยพไปอยู่กันตรงไหน สภาพแบบนี้เป็นกันเกือบทุกวัดใน อ.บางบาล

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนโบราณสถานรอบเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาก็ถูกน้ำท่วมหมดเช่นกัน หนักสุดที่โบราณสถานทิศเหนือของเกาะเมือง กลุ่มคลองสระบัว เช่น วัดเจ้าย่า วัดแค และวัดกลางคลองสระบัว พระอุโบสถและวิหารถูกน้ำท่วม พระสงฆ์และกรรมการวัดต้องอัญเชิญพระพุทธรูปเก่าแก่หน้าตัก 3 ศอก อายุกว่า 500 ปี หลายองค์ อาทิ หลวงพ่อทันใจ หลวงพ่อเพชร ออกจากพระอุโบสถขึ้นไปประดิษฐานที่ศาลาหน้าวัด ซึ่งยังไม่ถูกน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว และต้องจัดเวรยามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันโจรเข้ามาโจรกรรมพระเก่าแก่

    พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กำชับให้ตำรวจทุกโรงพักออกตรวจให้ความปลอดภัย โดยเฉพาะทรัพย์สินและวัตถุโบราณของวัดต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งทางวัดขนย้ายออกมาเก็บในที่สูง พร้อมทั้งประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจชุมชน เข้าไปช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของวัดด้วยเช่นกัน

    ด้าน จ.อ่างทอง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงระดับ 9 เมตร ไหลทะลักกัดเซาะฐานรากชั้นใต้ดินพนังเขื่อนกั้นน้ำประตูระบายน้ำคลองลำท่าแดง-แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท้ายวัดสนามชัย ต.ตลาดหลวง เขตเทศบาลเมืองอ่างทอง พังทลายเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร กำลังทหาร 100 นาย และประชาชนอีกนับร้อย ช่วยกันนำกระสอบทรายมาสร้างคันเสริม แต่ไม่สามารถต้านทานแรงดันของน้ำได้ กระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนทรัพย์สิน ชุมชนตลาดหลวง ตลาดนพรัตน์ วัด 2 แห่ง โรงเรียน 2 แห่ง และท่วมย่านธุรกิจการค้าอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านแตกตื่นขนย้ายสิ่งของโกลาหล นอกจากนี้น้ำไหลลงคลองลำท่าแดง เอ่อล้นท่วมนาข้าวและพื้นที่เกษตรใน อ.เมืองอ่างทอง อ.โพธิ์ทอง และ อ.ไชโย เสียหายหลายหมื่นไร่

    ที่ จ.สิงห์บุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณ ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี พังทลายทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1-4 ต.โรงช้าง อย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร ประชาชนกว่า 300 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก อีกทั้งน้ำยังทะลักท่วมถนนสายสิงห์บุรี-อ่างทอง ช่วงหลักก.ม.ที่ 83-86 สูง 50 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และจากรายงานล่าสุดมีหมู่บ้านใน จ.สิงห์บุรี ถูกน้ำท่วมแล้ว 67 หมู่บ้าน 8 ชุมชน 16 ตำบล 15,000 กว่าครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 50,000 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 23,500 ไร่ โดยเฉพาะ อ.อินทร์บุรี และ อ.พรหมบุรี เสียหายหนักสุด

    ส่วน จ.จันทบุรี เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางดึกวันที่ 5 ต.ค. ล่วงมาถึงช่วงเช้าวันที่ 6 ต.ค. ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาสอยดาวไหลทะลักเข้าท่วมหลายอำเภอ รวมทั้งเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ทางจังหวัดต้องระดมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและทหารเข้าช่วยเหลือประชาชน ขนข้าวของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล

    ด้านนายพนัส แก้วลาย ผวจ.จันทบุรี เปิดเผยหลังขึ้นเครื่องบินตรวจพื้นที่น้ำท่วมว่า น้ำท่วมหนักในพื้นที่ทุ่งสระบาป เขตติดต่อระหว่างเทศบาลตำบลจันทนิมิต กับเทศบาลเมืองจันทบุรี มีระดับน้ำสูง รวมทั้งพื้นที่ อ.มะขาม และกิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ ซึ่งอยู่ต้นน้ำแม่น้ำจันทบุรี ถูกน้ำท่วมหนักเช่นกัน

    นายดิลก บัวเกิด นายก อบต.มะขาม อ.มะขาม เปิดเผยว่า พื้นที่ อบต.มะขาม และข้างเคียงทุกตำบลถูกน้ำท่วมหมดเต็มพื้นที่ และน้ำป่ายังไหลไปสู่เขต อ.เมืองจันทบุรี น้ำไม่มีท่าทีจะลดลง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้น้ำไหลงลงคลองน้ำใส และเข้าเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีมากยิ่งขึ้น ทำให้ตลาดร้านค้าขายในตลาดน้ำพุ ตลาดค้าพลอยอัญมณี ร้านค้าทั่วไป อาคารพาณิชย์ ต้องปิดกิจการ รวมถึงโรงเรียนทุกแห่ง ทางการไฟฟ้าฯ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ เพื่อตัดและย้ายกระแสไฟฟ้าในเขตพื้นที่น้ำท่วม ป้องกันไฟฟ้ารั่วชอร์ต ขณะที่เขตเทศบาลตำบลจันทนิมิตทุกหมู่บ้านตกอยู่ในสภาพน้ำท่วมเกือบร้อยเปอร์เช็นต์ เพราะพื้นที่ต่ำและอยู่ติดแม่น้ำจันทบุรี ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร กระแสน้ำยังไหลเพิ่มยิ่งขึ้น ไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง

    ขณะที่ จ.นครราชสีมา ฝนที่ตกลงมายังทำให้ถนนมิตรภาพขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา บริเวณหลักก.ม.ที่ 229-230 บ้านสลักได อ.สูงเนิน ทรุดตัวลงลึกประมาณ 20 เซนติเมตร เนื่องจากบริเวณใต้ท้องถนนดังกล่าวมีท่อระบายน้ำขวางถนน น้ำที่ไหลแรงและมีปริมาณมากกัดเซาะจนเป็นโพรง ทำให้ถนนด้านบนทรุดตัวลงมา ผู้ที่ขับขี่ยวดยานพาหนะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
    [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...