มาวิเคราะห์คำทำนาย จากภัยธรรมชาติ

ไม่ได้เข้ามาป่วนหรือมาลบหลู่คำทำนายของผู้ใดนะครับ แต่ ผมเคยอ่านคำทำนายโลกของ นอสตราดามุส เขาทำนายไว้ว่า ปี 1999 เกาะอังกฤษจะจมหายไปในทะเลครึ่งนึง ...แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้น ...ขนาดนักทำนายผู้ที่ได้ชื่อว่าแม่นมาก ๆ มีชื่อเสียงมาก ๆ ของโลกยังทำนายไม่ถูก ผมว่า ก็ไม่น่าจะนั่งกังวลอะไรกันนะครับ ทุกอย่างผมว่าอยู่ที่จินตนาการกับสันนิษฐานกันทั้งนั้นล่ะครับ ทุกอย่าง มีเกิด มีเสื่อม มีดับ ไม่มีอะไรอยู่คงทนถาวร สักวันดวงอาทิตย์ที่เคยร้อนแรง ก็ดับลงได้เหมือนกัน ...หมั่นทำบุญอุทิศกุศลกันดีกว่า

 

การที่เหตุการณ์ตามคำทำนายไม่เกิดขึ้นตรงตามเวลาที่ได้บอกเอาไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาทำนายผิดนะครับ เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นมันสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยในปัจจุบันเป็นตัวกำหนด อย่างเรื่องสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2547 ก็มีผู้ทำนายเอาไว้ก่อนแล้วเพียงแต่ไม่เกิดขึ้นตรงตามเวลาที่ระบุเอาไว้เท่านั้น แต่ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจนได้

การที่คนเราได้รับคำเตือนจากท่านผู้รู้หลายๆ ท่านแล้วคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหลในทันที่โดยยังไม่ได้ศึกษาให้แน่ชัดก่อน ว่ามีเหตุมีผลเป็นมาอย่างไร ก็ถือว่าตั้งตัวอยู่ในความประมาท และถือได้ว่าไม่ได้ศึกษาในคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ที่ทรงสอนให้คนเราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพราะความประมาทย่อมเป็นหนทางไปสู่ความเสียหาย ทั้งต่อตัวเองและหมู่คณะครับ

 

"ใกล้กำหนด เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า
ไร้เดือนดาวดินฟ้าพามืดมิด
มารทั้งห้ารังควานโลกวิปริต
สุดจะคิดถูกผ่าแตงดินแดนกลาง (แกนโลกจะสั่นไหว)

พอรุ่งเช้า รวดร้าวพ่อพลัดลูก
ระงมทุกข์ทุกหย่อมหญ้าพาใจหมอง
วิทยาศาสตร์ด้อยกว่ามารจึงครอง
ชูสลอนลัทธิศาสตร์ประกาศตน

ลมกรรโชกผลไม้ตกใต้ต้น
ผู้มั่นคงเพียรธรรมถูกหยามหน้า
โลกวุ่นวายนุงนังเหมือนหางม้า
ดูซิว่า...เจ้าจะไปทางไหนกัน?

ข้อความจากกระบะทรายโดย "พระอนุตรธรรมมารดา"
​

ความลับสวรรค์ เป็นเรื่องแยบยลและยากนักที่คนธรรมดาสามัญจะรับรู้ได้ มีแต่พระอริยเจ้าเท่านั้นที่จะล่วงรู้กำหนดความเป็นไป

แต่อริยเจ้าทั้งปวงก็ไม่อาจเปิดเผยความลับสวรรค์ได้ อย่างไรก็ตามด้วยความเมตตาที่มีต่อมวลมนุษย์ พระองค์ก็ได้ไขความลับสวรรค์ออกมาในรูปของ"คำพยากรณ์"บ้าง" คำเตือนภัย"บ้าง เพื่อให้มนุษย์ทั้งหลายได้เตรียมตัวเตรียมใจ ในอันที่จะหลีกหนีให้พ้นภัยนั้น

แต่ปุถุชนจะมีความเชื่อถือในคำพยากรณ์ของอริยเจ้านั้นก็หาไม่ ยังคงทำการทุจริตและยึดมั่นในมิฉาทิฐิของตน โดยเห็นคำเตือนเป็นเรื่องไร้สาระ ในที่สุดคนเหล่านั้นก็ต้องประสบกับภัยภิบัติอย่างน่าเวทนา...

เมื่อโลกพัฒนาก้าวหน้าด้วยวิทยาการ ก็ยิ่งทำให้จิตใจของปุถุชน มืดมนอนธกาล จึงเห็นคำพยากรณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องชวนหัวมากขึ้น
แต่ถึงวิทยาศาสตร์จะเจริญก้าวหน้าเพียงไร นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจล่วงรู้ความลับแห่งสวรรค์ได้...

เหตุใดคำพยากรณ์เหล่านั้นจึงเป็นความจริงขึ้นมาได้? นักวิทยาศาสตร์เองก็คงจนปัญญาที่จะตอบ และคิดว่าเป็นเพียงจิตนาการที่ไม่อาจจะเป็นจริงได้เลย...

"เบื้องบนโปรดบัญชาพระธรรมาจารย์สมัยที่สิบแปด
พระพุทธพระโพธิสัตว์แบกงานแพร่ธรรมครั้งใหญ่
เป็นงานศักดิ์สิทธิ์จงเห็นสำคัญกว่างานทางโลกทั่วไป
พระแม่องค์ธรรมหวังให้รู้ตนพ้นภัยขึ้นเรือธรรม"​

"สิ้นปีนี้แล้วปีใหม่ใกล้เข้ามา จงอย่าลืมว่าคนอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับวิถีอนุตรธรรม ต้องรีบไปเชื่อมบุญสัมพันธ์กับพวกเขา ถ้าไม่เชื่อ มหัตภัยยุคสุดท้ายมาถึงเมื่อไรก็จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ จะขึ้นไปสุขาวดีหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเจ้าเอง" หากยังดื้อรั้นถือดี มีทิษฐิก็ต้องตกอยู่ในวัฎสงสาร เวียนว่ายตายเกิดต่อไปในชีววิถีหก อีกหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี"

"เมื่อชีวิตอยู่ในระหว่างหัวเลี้ยวหัวต่อของความตาย เมื่อนั้นจึงวิงวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยก็ไร้ประโยชน์เสียแล้ว" สมัยนี้อบายมุขครอบคลุมอยู่เต็มไปในสังคม ผู้คนหลงทางชีวิตไม่รู้ทางกลับคืน

"ในปีกุน อัคคีภัยและวาตภัยอาจจะร้ายแรงมาก ถ้าแม้ให้ภัยภิบัติลดน้อยหมดไป จะต้องให้จิตใจของคนมุ่งมั่นในความดี ให้ทุกคนมีจิตเมตตา จึงจะสามารถแก้ไขได้"

ข้อความบางส่วนจาก "พระอริยะมาตานภาลัย" (หรือเจ้าแม่ทับทิม)​

 

Update time = Mon Jul 17 10:18:20 UTC 2006
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TH minmax_bound="true"> </TH><TH align=middle minmax_bound="true">MAG </TH><TH align=middle minmax_bound="true">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LAT
deg </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LON
deg </TH><TH align=middle minmax_bound="true">DEPTH
km </TH><TH minmax_bound="true">Region</TH></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 09:18:27</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">58.992</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-154.349</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">120.0</TD><TD minmax_bound="true">ALASKA PENINSULA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">6.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 09:13:10</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-9.133</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">107.653</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">46.6</TD><TD minmax_bound="true">SOUTH OF JAVA, INDONESIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">7.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 08:19:31</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-9.295</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">107.347</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">48.6</TD><TD minmax_bound="true">SOUTH OF JAVA, INDONESIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 05:32:28</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-4.908</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">102.134</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">20.7</TD><TD minmax_bound="true">SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.9 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 03:56:48</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">37.198</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-121.721</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">7.4</TD><TD minmax_bound="true">NORTHERN CALIFORNIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 03:37:29</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">51.830</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">176.953</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">1.0</TD><TD minmax_bound="true">RAT ISLANDS, ALEUTIAN ISLANDS, ALASKA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2006/07/17 02:02:33</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">32.425</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-115.092</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">0.1</TD><TD minmax_bound="true">BAJA CALIFORNIA, MEXICO</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รวบรวมคำทำนาย กับเหตุการณ์จริง (อย่าซีเรียส)
ขอบอกก่อนว่าแค่เอามาเล่าสู่กันฟัง จากเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มามิไำด้มีเจตนาจะทำให้ใครต้องมาหวั่นกลัวกับเหตุการณ์ทั้งสิ้น แค่อยากให้เตรียมตัวให้พร้อมถ้ามีเหตุการณ์จริง หรือว่าถ้าจะต้องตายก็ตายอย่างมีสติ

<O</O
<O</O

คัมภีร์ ใบลานอักขระธรรม จากภูค้อ ของ สามเณรดำ <O</O
ประสบเว้าเรื่องบ้านเมืองออกมาก่อนที่มีมาก่อน แล้วเขียนไว้ ต้นๆศาสนา ขอตั้งใจถือธรรม สวด “อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ นะโม ข้าอไห้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์” ทุกท่านจึงจะอยู่ได้ตลอด ถ้าผู้ใดไม่เชื่อให้ดูในปีระกา ปีจอนี้ มีเรือนแล้วจะไม่มีคนอยู่ มีนาไม่มีคนทำ เดือนเจ็ดจะมีงูเต็มไปทั่ว ถึงเดือนสิบ เดือนสิบเอ็ด คนบาปจะตาย เพราะไม่สัตย์ซื่อในใจ สิมีภัยดังนี้
<O</O

1. สิมีเสิกเกี้ยวกันทางน้ำ ท่าน้ำ จะมีอันตราย<O</O
(อันนี้จะหมายถึงเขื่อนจะแตกป่าว ไม่รู้)<O</O
2. จะเกิดนอนไม่หลับ<O</O
3. ผัวเมียจะไม่เห็นหน้ากัน<O</O
4. ทั้งลูกทั้งหลานจะไม่เห็นหน้ากัน<O</O
5. คนจะตายทั่วทั้งทวีป แต่ว่าการตาย จะไม่มีคนฝังคนเผาไม่มีผ้านุ่งผ้าถุง มีพาข้าวไม่มีคนกิน เพราะ กระทำบาปทั้งหลายในจำนวนหนึ่งหมื่นคน จะตายเหลือแค่หนึ่งพันคนเท่านั้น <O</O
(อันนี้จะหมายถึง อาจมีการยิงระเบิดปรมาณู หรือเปล่า?)<O</O
<O</O


สิมีโจรผู้ร้ายเรียกค่าคุ้มครอง เสือร้าย ต่างๆจะเกิดขึ้นราว สี่ห้า หกปี ไปจนถึงปีชวดก็จะหมดกับแล้วบ้านเมืองไม่สบายในห้าปีนี้<O</O
( ตัวอย่าง เช่น http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000091807 )<O</O
<O</O


มันร้อนเต็มที่แลฯ ถ้าไม่เชื่อให้คอยดู ถ้าผู้ใด เทศนาธรรมแล้วคนฟังทำตามจะมีความสุขสบาย
<O</O

ขอให้เทศนาธรรม หรือ บอกบ่าวญาติพี่น้องทุกคนในวันออกใหม่ค่ำหนึง เพราะ เป็นวันเกิดของเทวดา ท่านจะพ้นทุกข์แน่นอน<O</O
<O</O
ยังมีภัยอีกอย่างว่า ถ้ากลางคืนมีคนมาเรียกอย่าขาน กลัวผีมันมาเห็น เดือนหกออกใหม่ค่ำหนึ่ง กับเดือนแรมเก้าไม่ให้ตักน้ำ ให้ตักไว้ก่อน กลัวผีมันเอายาใส่กินแล้วตาย <O</O
<O</O



ในวันเกิดเทวดาค่ำหนึ่ง กับ เก้าค่ำให้รักษาศีล ภาวนา สวดมนต์ สิ สุข
สบาย หากผู้ใดเขียนธรรมไว้ห้าสิบใบ บูชาไว้บน หัว สิมีความสุข เอาเป็น ท่านก็ได้ เอาไว้อ่านก็ได้
<O</O
ต่อไป น้ำอุบาทว์จะท่วมโดยบังเอิญทั่วทั้งทวีป คิดกลัวจะไม่ถึงปีระกาและปีชวด ถ้าไม่เชื่อเดือนสิบสองจะบันดลให้คนไอออกเลือดแล้วตาย <O</O
<O</O

ถ้าผู้ใดรู้จักยารักษานี้ ให้เอาธูปเทียนไปไต้บนไหว้ถวายบังคมผู้มียาจึงสิดีแล ขอให้ บอกญาติพี่น้องทั้งหลายให้เชื่อธรรม ถือศีล 5 ทุกๆคนจะมีความสุขสบาย แล<O</O
<O</O


(ค้นพบหนังสือ อินทร์ตก เทพทำนายโดยย่อ)<O</O
หนังสือใบลานนี้ ได้ถูกตกลงมาสู่วัดแห่งหนึ่ง ในแขวงอัตะปือ ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ ผู้ทรงศึลองค์หนึ่ง เผยแผ่ให้เล่าเกิดศรัทธาเสียสละทรัพย์ส่วนตัวพิมพ์แจกจ่าย มายังญาติพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นการกุศลและ พิจารณาด้วยตนเองถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกาภิวัฒน์ ซึ่งเกิดขึ้น ตามพุทธทำนายไว้ดังนี้<O</O
<O</O


ในปีจอต่อปีกุล ยามเดือนแจ้งจะเกิดมีงูพิษตอดกัดให้ตายและฝูงชนทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อน หลายประการ เช่น ทุกข์ยากร้อนเพราะ
<O</O
ศึกสงครามไม่เสร็จสิ้น <O</O
ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีน้ำไม่มีไฟ <O</O
ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีใครดูแลใคร<O</O
ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีใครอยู่ทุ่งไร่ทุ่งนา<O</O
ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีผู้เฒ่าผู้แก่<O</O
ทุกข์ยากร้อนเพราะไปต่างประเทศไม่สะดวก<O</O
ทุกข์ยากร้อนนอนไม่หลับ<O</O
<O</O


ในปีจอนี้ <O</O
- เมืองเวียงจันทร์จะมีองค์ฤาษีทองคำ สิกจาลาบวชมาเป็นพ่อค้า<O</O
- ในปีจอออกใหม่ 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ตักน้ำอาบน้ำกินตามห้วย หนอง คลอง บึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน หรือก่อนมือค่ำ พระยายมราช จะนำเอายาพิษพ่นลงมายังโลกมนุษย์<O</O
<O</O

ในปีจอนี้เมืองกรุงเทพมหานครจะพังทลายในเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกต หัวเชียงเมียง เมล็ดข้าวใหญ่จะกลับคืนเมืองเวียงจันทร์<O</O
<O</O

นี่คือ พระคาถาขององค์ อินทร์-พรหม-ยมราช ได้เขียนไว้ในใบลานเก็บรักษาไว้ให้ดี เพื่อช่วยให้หลุดพ้นจากภัยพิบัติ เขียนว่า “ปะโตเมตัง ปะละสิมินัง สุขะโตจุติ จิตตะ เมตะนิมะนัง สุขะโตจถติ “<O</O
<O</O

พระคาถานี้จะลงเขียนใส่ใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ได้ให้ติดไว้หน้าประตูห้องหรือในรถ พาหนะต่างๆ หรือติดตัวก็ได้ ยามเกิดเหตุจะช่วยให้พันภัยอันตราย ในกาลเวลานี้ เทพเจ้าเทวดาผู้รักษาครอบครัวของมนุษย์โลก ได้ทำบุญกุศลเพียง 9 ส่วน แต่ทำบาปถึง 7 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้พระอินทร์จะลงโทษกับมนุษย์ใจบาป 9 ข้อ
<O</O


นับแต่ปีจอถึงปีกุลคือ<O</O
1. จะให้เกิดภัย ลมแรงแผ่นดินไหว<O</O
(เชียงใหม่ แผ่นดินไหว, อินโดนีเซีย แผ่นดินไหว แล้วอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก เลยทีเดียว)<O</O
2. จะให้เกิด ไฟไหม้<O</O
(ไฟไหม้ป่าในอเมริกา, ไฟไหม้ป่าในเกาะสุมาตรา)<O</O
3. จะให้เกิด น้ำท่วม<O</O
(น้ำท่วมสุราษฏร์, น้ำท่วมทางภาคเหนือ ดินถล่ม, เหยื่อฝนถล่มเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 15 ราย สูญหาย 26 ราย, พายุบิลิสถล่มจีน มีผู้เสียชีวิตและสูญหายทะลุ 300 คน (ณ วันที่ 18 กค), น้ำท่วมฟิลิปปินส์ คนตายสูญหายหลายสิบ ฯลฯ)<O</O
<O</O
<O</O
4. จะให้เกิดฟ้าผ่า<O</O
(??)<O</O
5. จะให้เกิดเดือดร้อน ร้อนหลาย หนาวหลาย<O</O
(อังกฤษเตรียมเผชิญอากาศร้อนที่สุดวันพุธนี้ 19 กค., อากาศในอเมริกา หลายๆ เมืองร้อนมากโดยฉับพลัน, อากาศในนิวซีแลนด์ ฤดูหนาวมาเร็วเป็นพิเศษ หิมะตกมากกว่าปกติ ฝนตกหนัก พายุ ฯลฯ)<O</O
<O</O
6. จะให้เกิด สารพิษต่างๆ อากาศ อาหารเป็นพิษ<O</O
(นิวเคลียร์??)<O</O
7. จะให้เกิด สาระโรค พยาธิ ร้าย<O</O
(อหิวาหลังน้ำท่วม, ท้องร่วง, ไข้หวัดนก ฯลฯ ???)<O</O
8. จะให้เกิดอดอยาก<O</O
(หลังจากสงคราม ไม่มีอาหาร)<O</O
9. จะให้เกิดอาฆาต ฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนบาป<O</O
(สงครามในตะวันออกกลาง ??)<O</O
<O</O
<O</O

มหันตภัย 9 อย่างนี้ จะหลุดพ้นแต่บุคคลใจบุญกิศล ที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อไป ให้รีบทำแต่ความดีหลายกว่าทำบาป ถ้ากลายปีจอ ปีกุนไปแล้ว ทุกคนทั้งลูกเต้าเหล่าหลานจะได้รับความสุขสบาย ทั่วหน้า เวลายังเหลือน้อย ให้ทุกคน เคร่งครัดถือศีล 5 หมั่นเข้าพระภาวนาให้ทาน เพือตามกุศลอย่างต่อเนื่อง<O</O

ศีล 5 ข้อมีดังนี้<O</O
1. ห้ามเบียดเบียนสิ่งมีชีวิต (ชีวิตใครใครก้อรัก)<O</O
2. ห้ามขโมยเอาสิ่งของของผู้อื่นในทางมิชอบ<O</O
3. ห้ามล่วงเกิน สามีภรรยาของผู้อื่น<O</O
4. ห้ามพวกหลอกลวงต่อผู้อื่นในทางมิชอบ เป็นเหตุให้แตกแยกสามัคคีหรือสูญเสียทรัพย์สิน<O</O
5. ห้ามดื่มของมึนเมา ทั้งหลาย ทั้งปวง<O</O
<O</O



นอกจากนี้หนังสือ อินทร์ตกที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระผู้ทรงศีลองค์หนึ่งได้พบเห็นในใบลานอักษรธรรม เขียนจารึกไว้ในก้อนหินศิลาที่พบจากพื้นดิน พระผู้ทรงศีลได้กล่าวว่า โยมเอ๋ย ไม่เชื่อก็แล้วต่จิตใจเพราะเมื่อถึงเวลาแล้วไม่มีความลับ ถ้าโยมเชื่อก็เป็นกุศล ถ้าไม่เชื่อก็เป็นอกุศล รู้เพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าจึงบอบอกให้ท่านฟัง ตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีบรูปนี้ ในก้อนศิลาได้เขียนไว้ว่า <O</O
<O</O


พระกัสสปะว่า ในปีระกา ปีจอ และปีกุล<O</O
เดือน 7-8 จะเกิดเหตุรายตามทางคนเที่ยว<O</O
เดือน 9-10 คนใจบาปหยาบช้าจะถูกล้างใช้หมดไป มีข้าวไม่มีคนกิน มีถนนหนทางไม่มีคนเดิน <O</O
<O</O

ในสุดท้ายผู้ทรงศีลยังได้กล่าวตักเตือน ถึงความศักดิ์สิทธ์ของหนังสืออินทร์ตกว่า ถ้าท่านใดเชื่อถือศรัทธา บูชา กราบไหว้ หรือปะปนว่ากล่าว บอกเล่าต่อผู้อื่น หรือ พิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทั้งหลายรับรู้แล้ว ท่านจะปรำถนาสิ่งใด จะได้ดังความปรารถนา จึงจะสัมมโนนึกตลอดกาลเทอญ<O</O
<O</O
(ถ้าท่านไม่เชื่อถือ ขออย่าลบหลู่เป็นอันขาด)<O</O
<O</O
จากภูค้อ ของ สามเณรคำ<O</O
ผู้ใดรวบรวมธรรมอันนี้ไว้ ได้เทศนาให้เขาฟังทั่วๆกันไป เขาจะพ้นโทษจากภัยทั้งหลาย<O</O
แต่ถ้าผู้ใดรู้แล้วไม่ไปเทศนาบอกเล่าให้คนฟัง คนเหล่านั้นก็ไม่พ้นโทษดอก ถ้าไม่เชื่อให้ดูในปีระกา ปีจอ มีเรือนจะไม่มีคนอยู่ มีนาจะไม่มีคนทำ ในเดือนหกจักมีงูทั่วไป ถึงเดือนสิบเอ็ดสิบสอง คนบาปจะตายเพราะไม่มีใจซื่อสัตย์ คนมีใจศีลมีธรรม มีใจซื่อสัตย์ แล้วให้สวดภาวนา “อะระหังสัมมาสัมพุทโธ นะโมขอไหว้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นสรณะ” ท่านผู้นั้นจะพ้นจากภัยพิบัติ <O</O
<O</O

อย่างหนึ่งจะมีเภทภัยพิบัติทางน้ำ และใต้ดิน ภัยอันตรายจักเกิดแก่ประสาทนอนหลับ ภัยที่ 4 ผัวเมียอยู่ๆก็จะไม่เห็นหน้ากัน ภัยที่ 5 ทั้งลูกหลานก็จะไม่เห็นหน้ากัน ภัยที่ 6 คนจะตายมากแบบฉับพลัน<O</O
<O</O

ถ้าไม่เชื่อคอยดูให้จดจำคำนี้ไว้ให้ยืนยัง คือเหตุภัยพิบัติในระยะไม่กี่ปีนี้ และมีภัยอีกอย่างหนึ่งคนบาปมากในที่ต่างๆให้เกิดพิษแก่ จ้าว ถั่ว งา ให้เป็นพิษ ทำนาไม่ได้ข้าว ปลูกถั่วงา ไม่มีผลหน่วย<O</O
<O</O

เงินสามสิบบาทซื้อข้าวไม่พออิ่ม คนจะอดอยากจะตายเพราะอดข้าวอดน้ำ อย่างหนึ่งจะตายทางน้ำมาก เช่น ฟนตกลงมาเป็นพิษ ถูกเนื้อตัวเป็น ผื่นคันเม็ดเกิดน้ำเหลือง หรือเปื่อยเน่า รักษาไม่หาย <O</O
<O</O

อีกอย่างหนึ่งจะมีโจรผู้ร้ายบาปมาก ฆ่าพ่อตีแม่ตนเอง เหยียบย่ำศาสนา ใจบาปทำความเดือดร้อนเรียกปกครองทั่วๆไป จนเกิดความหวาดกลัว และยังมีภัยเกิดจากสงครามทำให้คนทั้งล้มตายจากกันมากแท้ จะหนีไปอยู่ในป่า ในแนว ในหลุม ก็ตายไม่เหลือ <O</O
<O</O

แล้วจะเกิดอุบาทว์ ธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เป็ดไก่ วัว ควายจะตายมากแม้คนก็จะตายตาม แล้วห้าทวีปจะหนีในการบริหารประชุมกัน ก็จะเกิดสงครามเพราะคนใจบาปมาก<O</O
<O</O

จะไม่เกิน 2548 ต่อ 2550 ต่อ 2551 จะมีคนเหลือน้อยในห้าทวีปนี้ ขอให้ท่าน ทั้งหลายจงพากันทำบุญรักษาศีลทุกท่าน เทอญ<O</O
<O</O

ภัยพิบัติโลก<O</O


เมื่อ พ.ศ. 2547 ต่อ 2548 ต่อ 2550 ต่อ 2551<O</O
ครั้งที่ 1 2547 ต่อ 2548 ไม่หนักเท่าใด ครั้งที่ 2 2548 ต่อ 2549 หนักกว่าครั้งแรก 3 เท่า<O</O
<O</O

ครั้งที่ 3 2549 ต่อ 2550 หนักมากที่สุด จะมีเมฆดำก้อนใหญ่มาปกคลุมโลก ฝนที่ตกลงมาเป็นพิษตกถูกผู้ใดจะเน่าเปื่อยรักษาไม่หายแล้วทางทะเลจะระเบิด น้ำจะท่วมสูงประมาณ 100 เมตร แล้วจะมีภูตพื้นพิภพออกมากินมนุษย์ เกาะต่างๆในน้ำทะเลจะไม่มี ทางบก – ทางอากาศจะระเบิดพร้อมกัน ในปี 2548 ต่อ 2549 จะมีงูน้องใหญ่ออกมาทั่วพื้อนพิภพ ในราวเดือน 11-12 งูนั้นเป็น บริวารของ พญานาคราช ถ้าผู้ใดทำอันตรายเขาผู้นั้นจะตายทันที<O</O
<O</O

มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย ขอจงอย่าประมาท ถ้าอยากพ้นภัยพิบัตินั้น ให้ถือศีลกินทาน และพากันท่องคาถา ป้องกันภัยพิบัติโลก<O</O
<O</O



คาถาป้องกันภัยพิบัติโลก<O</O
1 ทิตะทิวาหะนะ มัญทะโลกะสิลา กันลาลาสะสานะลาละติ สังสังสะหะนะตุเน<O</O
2. มาละขาเล สาวาจา ตะนะสะปุระวา<O</O
3. มาละนัง มาละจัง มาละนะกำมัง
<O</O4. สาละวาโส อุภิละพุทธะโส นะโมพุทธายะ<O</O
5.ทะละวาหะนะลาโล กะสิลาทะลาสาลิกา สวัสสะดี ขีโหตุ พาตุเมฯ<O
ให้เขียนพระคาถานี้ ใส่ผ้าสีเหลือง มัดแขนหรือ มัดหัว ถ้าฝนพิษถูกตัวเราให้เอาผ้าสีเหลือง ที่เขียนคาถาไว้นั้นเช็ดจะหายทันที<O</O
<O</O

 

รับรู้อย่างมีสตินะครับ..อย่ากังวลจนวิตกจริต...มีคำเตือนมากมายจริงๆครับช่วงนี้..

ถ้าเกิด"ฝนสีดำ"ที่ตกลงมาเป็นพิษขึ้น น่าจะเกิดจากละอองน้ำมันจำนวนห้าพันล้านตัน ที่เก็บกันเอาเกิดไหม้ไฟ แล้วระเบิดขึ้นปลิวว่อน ไปทั่วท้องฟ้า รวมทั้งควันไฟ เถ้าถ่าน ไปรวมตัวกันหนาแน่นบนท้องฟ้าเหมือนเมฆสีดำ บังแสงแดดจนส่องลงมาไม่ได้..รวมถึงนิวเคลียร์ที่ระเบิดขึ้นจะพาฝุ่นผงเหล่านั้นแผ่ปกคลุมไปทั่ว จนเบื้องล่างมืดมิดเหมือนเวลากลางคืนภายในหนึ่งเดือนทั่วไปหมด อาจจะทั้งโลกก็ได้..

ซึ่งคำเตือนส่วนใหญ่ตรงกันโดยมิได้นัดหมาย...อันนี้น่าคิดครับ..!

แต่หากผ่านไปได้หลังจากนั้นแล้วคงเหนื่อยกันน่าดูครับ เพราะมนุษย์ก็ต้องสร้างบ้านเมืองกันใหม่ เริ่มอารยธรรมใหม่ โดยจดจำบทเรียนที่ได้รับจากภัยภิบัติครั้งนี้...ไปเล่าให้ลูกๆหลานๆฟังกันต่อ

 

10 คนเหลือ 3 คน ฉนั้น นี้เป็นคำบอกเล่าแห่งพระมหาเถระอย่างหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ผู้เหยียบศิลาเป็นรอย

 

จะเกิดตอนนี้แล้วครับทั้ง สงครามโลกคริสต์-อิสลาม(ที่ขยายตัวกินเวลาหลายปี) ภัยพิบัติ วิกฤติ และศัทธาใหม่ ที่เกิดที่ประเทศไทยนี่แหละ ไม่เกินเดือนสองเดือนนี้

 

"พุทธทำนาย"
อีกชุดที่กล่าวถึงเรื่องราวช่วง พ.ศ.2500 นี้

พระพุทธเจ้าตรัสแก่ "สุภูติ"ในกาลก่อนว่า
"เธอมิต้องสงสัยแม้ปริยัติธรรมจะลึ้กซึ้ง ยากแก่การเข้าใจ แต่ภายหน้าในธรรมกาลยุคสุดท้าย คือ หลังจากตถาตคเข้าสู่นิพพานแล้ว "สองพันห้าร้อยปี" ระหว่างนั้นจะมีผู้ถือศีลบำเพ็ญกุศลเกิดขึ้นมากมาย..

เมื่อนั้นแหละที่สัจธรรมจะได้เจิดจรัส โปรดสัตว์ทั่วไปอีกครั้ง เพราะผู้บำเพ็ญทั้งหลาย เมื่อได้สดับสัจธรรมจะบังเกิดศรัทธาอันแท้จริง มิใช่เหตุอันบังเอิญ แต่ด้วยกุศลมูลอันปลูกฝังมาช้านาน มิใช่เพียงชาติเดียว สองชาติ หรือสาม สี่ ห้าชาติ แต่ปลูกฝังกุศลมูลมากมายนับพันหมื่นชาติ อันประมาณมิได้แล้ว..

คำพยากรณ์นี้แบ่งเป็นห้าช่วง แสดงให้เห็นกำหนดที่ศาสนาพุทธจะเฟื่องฟูและเสื่อมลงช่วงละห้าร้อยปี หรือเรียกว่า ความมั่นคงทั้งห้ามีดังนี้...

1.วิมุตติมั่นคง
ห้าร้อยปีแรกหลังพุทธกาล สัจธรรมกำลังเฟื่องฟู ผู้คนสูงด้วยกุศลมูล มั่นคงในศรัทธา และบรรลุแจ้งด้วยปัญญาปรมัตต์กันมาก ผู้หลุดพ้นจึงมีมาก (ตั้งแต่ พ.ศ.1 ถึง พ.ศ. 500)

2.ฌานมั่นคง
ห้าร้อยปีที่สองหลังพุทธกาล กุศลมูลของผู้คนด้อยลง การบำเพ็ญจึงหยุดอยู่ที่การฝึกฌาน ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาจึงมีมาก (ตั้งแต่ พ.ศ.500 ถึง พ.ศ.1000)

3.สวนะมั่นคง
ห้าร้อยปีที่สาม กุศลมูลของผู้คนด้อยลงกว่าเดิมอีก ผู้บำเพ็ญธรรมรู้จักกันแต่หลังธรรม มากด้วยการค้นหาเหตุผล แต่น้อนคนที่จะปฏิบัติธรรมจริง จึงมีผู้สดับธรรมสวนะกันมาก (ตั้งแต่ พ.ศ.1500 ถึง พ.ศ.2000)

4.วัดวาอารามมั่นคง
ห้าร้อยปีที่สี่ ช่วงนี้ แม้แต่คนออกบวช ก็ไม่ยินดีในธรรมสวนะ โดยเห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก มุ่งแต่จะสร้างวัด สร้างแต่เจดีย์ เพื่อเชิดชูทัศนวิสัย หรือเพื่อสถานบำเพ็ญอยู่พักสบายในเพศบรรพชิตแห่งตน (จาก พ.ศ.2000 ถึง พ.ศ.2500)

5.ขัดแย้งมั่นคง
ห้าร้อยปีที่ห้า ช่วงนี้พุทธศาสนายิ่งเสื่อมลง ผู้บำเพ็ญต่างละทิ้งไตรสิกขา แต่กลับขัดแย้งชิงดีกัน สูญสิ้นพุทธวิสัย ทำตัวนอกลู่นอกทาง ประพฤติผิดหลักธรรมกันมาก (จาก พ.ศ.2000 ถึง พ.ศ.2500)

ครั้งหนึ่ง พระอานนท์ ได้ฝันเห็นสิงโตตัวใหญ่ตัวหนึ่งล้มตายลงเอง และพลันก็เกิดหนอนชอนไชไปทั่วทั้งตัว จึงกราบทูลความฝันนี้ต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาค ทรงถอนพระทัย แล้งตรัสต่อพระอานนท์ว่า "ภายหน้าพระพุทธศาสนาจะถูกทำลายลง จากบุคคลภายใน"

หมายถึงขณะนี้ กำหนดกาลสุดท้ายมาถึงแล้วจาก สองพันห้าร้อยกว่าปี หลังจากพระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว เป็นวาระที่สัจธรรมจะสว่างรุ่งโรจน์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง (ตั้งแต่ พ.ศ.2500- พ.ศ.3000)

ฉะนั้น "ห้าร้อยปีภายหลัง" ก็คือคำพยากรณ์ของพระพุทธองค์ ให้สาธุชนตั้งใจรอเวลาที่เบี้องบนจะทรงโปรดทั่วไปกับเวไนยสัตว์จนเกิดศรัทธาแลบำเพ็ญด้วยใจจริงอีกครั้งหนึ่ง..

แล้วสิ่งใดจะทำให้พระพุทธศาสนากลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้...(หรือว่ามีเหตุใด? เช่นที่เรารู้กันดีอยู่หรือไม่?..)

 

เท่าที่ผมมีข้อมูลอยู่ทราบว่า พระพุทธเจ้าท่านฉุดช่วยเวไนยสัตว์ กลับนิพพานได้ถึง "สองล้านรูปธรรม"แล้ว ตอนนี้ยังมีตกค้างอยู่อีกถึง "เก้าพันสองร้อยล้านรูปธรรม" รวมที่เป็นวิญญาณไม่มีกายเนื้อ รวมถึงพวกเราตรงนี้ด้วยครับ..
รีบบำเพ็ญกันนะครับ..

 

อนุโมทนาทุกท่านที่มาให้ข้อมูลคะ

 

ไบเบิ้ลโค้ด กับ คำทำนายของประเทศไทย
นี่คือคำทำนายชะตากรรมของมนุษย์โดยพระเจ้า ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของโลก ได้ออกมายืนยัน แล้วว่า จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต และคำทำนายโดยการถอดรหัสไบเบิลโค้ดนี้ ก็ไม่ได้ถอดได้เฉพาะ เรื่องของ ผู้เชื่อพระเจ้า หรือในต่างประเทศเท่านั้น ในเมืองไทยเรา ก็มีผู้มีความสามารถถอดได้เช่นกัน คุณไทยรักษ์ ตั้งประกาศิต นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เจ้าของสถานพยาบาล ด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกวิจัย และค้นคว้า เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ คัมภีร์ไบเบิล ในเมืองไทย เขาพบว่าเหตุการณ์สำคัญในเมืองไทย ทั้งในอดีต และ อนาคต ก็ถูกซุกซ่อนอยู่ใน "ไบเบิลโค้ด" เช่นกัน
คุณไทยรักษ์ได้ทดลองค้นหาเหตุการณ์สำคัญในเมืองไทย ว่าจะแสดงในไบเบิลโค้ดหรือไม่ ปรากฏว่า เขาพบหลายๆ เหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย ทั้งในอดีตและอนาคต แม้กระทั่งคำทำนาย นายกรัฐมนตรี ในอนาคตคือใคร ก็สามารถทราบได้ "ผมเป็นคริสเตียนตั้งแต่เกิดเลย แต่ในวัยเด็ก ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ถึงอ่านคัมภีร์ ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ตามประสาเด็ก ก็เที่ยวไปเรื่อยๆ ผมไปอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่เด็ก คือไปเรียนที่ สิงคโปร์ และไปต่อที่อเมริกา จนถึงปี 1995 ช่วงนั้นผมได้รับ การสัมผัสพระเยซู แล้วจากที่เคย อ่านพระคัมภีร์ ไม่เคยเข้าใจ ก็เริ่มแตกฉานในตอนนั้น"
"ช่วงเวลานั้นผมเห็นนิมิตเกี่ยวกับบทวิวรณ์ ซึ่งเป็นบทสุดท้าย ของพระคัมภีร์ไบเบิล กล่าวถึงการกลับมา ของพระเยซูครั้งสุดท้าย เมื่อถึงเวลาสิ้นสุดของโลก บทวิวรณ์นี้ "ยอห์น" สาวกของพระเยซู ได้รับนิมิตจากพระเจ้า มาเขียน ซึ่งไม่สามารถถอดรหัสออกมาได้ จะต้องใช้การตีความ จึงจะเข้าใจ เพราะที่ถอดรหัสได้ คือพระคัมภีร์เก่า ดั้งเดิม ส่วนพระคัมภีร์ใหม่ ยังไม่มีใครพิสูจน์ ว่ามันถอดรหัสได้จริง"
"ในแตรที่ 5 เขาเขียนว่า มีเทวดาองค์หนึ่ง มีกุญแจเปิดขุมนรก แล้วทำให้เขม่าควันขึ้นสู่โลก ฟ้ามืดมิด ผมให้คุณทายซิว่าใน 10 ปี ที่ผ่านมาเนี่ย มีเหตุการณ์อะไรที่หมายถึงคำว่า ขุมนรกมีควัน และในแตรที่ 6 บอกว่า มีเทวดา 4 องค์ อยู่ 4 ขั้วโลก ถึงเวลานี้ เขาจะเปิดแม่น้ำยูเฟอร์เรส แล้วจะมีทหาร 200 ล้าน นี่คือคำทำนาย เหตุการณ์สงครามอ่าวเปอร์เซีย ขุมนรกที่ผมพูดถึง ก็คือบ่อน้ำมัน อ่านแล้วต้องตีความหมาย ในคำพูดเหล่านี้ ให้เข้าใจ เมื่อผมเห็นภาพนิมิต ของเหตุการณ์ 2 อันนี้ เห็นอดีตเก่าๆ ฟื้นขึ้นมา ทำให้นึกขึ้นได้ แล้วรู้สึกว่าตอนนี้ เรากำลังอยู่ในภาวะเหตุการณ์โลก ตามบทวิวรณ์ ที่เขียนเป็นปริศนาแล้วนะ แต่เหตุการณ์ต่อไป จะมีอะไรเกิดขึ้น อีกนั้น ในขณะนั้นยังไม่รู้ และในตอนท้ายของบทวิวรณ์นั้น มีการกล่าวถึง 7 ฟ้าผ่า ที่โดนปิดผนึก หมายถึง ความลับของเหตุการณ์ในวันสิ้นยุค ที่ไม่เปิดเผย ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร"

​

"ปี 1997 ผมไปร้านเอเชียบุ๊ค เห็นหนังสือไบเบิลโค้ด ก็เกิดความสนใจว่า เป็นหนังสืออะไรจึงซื้อกลับมา อ่านดู ขนลุกเลย สิ่งที่ผมกำลังรอคอย คืออันนี้นี่เอง ในไบเบิลโค้ด ก็คือความลับทั้งหมด บนประวัติศาสตร์โลก ที่ถูกปกปิดไว้ ได้มีการถอดรหัส ไขความลับ ให้เปิดเผยออกมาแล้ว ช่วงเวลา 7 ปี ต่อจากนี้ จะเกิดภาวะวิกฤต สงครามบนโลก แล้วคุณติดตามกับผมสิ ดูซิว่าอีก 42 เดือนข้างหน้า จะมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมั้ย ตามพระคัมภีร์ เขาเขียนวันเวลาบอกเป๊ะๆ เลย และสงครามโลก ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือสงครามก่อการร้าย ที่ใช้ขีปนาวุธ ไม่ใช่สงครามมหาอำนาจ แบบที่คุณเคยเห็นมาก่อน"
"เดือนสิงหาคมปี 1999 ผมสั่งไบเบิลโค้ดมา ผมก็มาถอดรหัส เกี่ยวกับวันสิ้นโลก ผมต้องมานั่งศึกษา ฮีบรู โบราณก่อน โดยผมมีดิกชันนารีภาษาฮีบรู เป็นอังกฤษ ก็มานั่งศึกษาแปลไปแปลมา จนชำนาญ รู้ว่าอักษรตัวไหน เป็นตัวไหน สำหรับเรื่องไบเบิลโค้ดนี้ ผมอาจไม่ใช่คนแรก ที่คิดค้นเรื่องนี้ในเมืองไทย แต่ผมวิจัยเรื่องนี้ เพียงคนเดียว ในประเทศไทยตอนนี้ งานวิจัยของผมในอินเตอร์เนต จะเป็นเรื่องการกลับมาของพระเยซู มีโปรแกรมไบเบิลโค้ด เป็นภาษาอังกฤษ มีข้อมูลเบ็ดเสร็จเลย แล้วเกี่ยวกับการกลับมา ของพระเยซูนี่จริงๆ แล้ว พระเยซูมาแล้ว แต่คนบนโลก ยังไม่รู้ และยังไม่ยอมรับ ฐานะของพระเยซูที่มาเกิด นี่ไม่จำกัดว่าจะอยู่ใน ศาสนาคริสต์ เพราะคำว่า "เยซู" หรือ "เมสิยาห์" ในภาษาฮีบรูแปลว่า "เมตไตรย" และการกลับมาของพระเยซู ครั้งที่ 2 นี้ ยังไม่ถึงวาระที่จะเปิดเผย"
<!--p> "ส่วนการหารหัสของตัวเองในไบเบิลโค้ดก็ทำได้เพราะทุกคนบนโลก จะมีรหัสในไบเบิลโค้ดอยู่แล้ว ซึ่งในนั้น ก็จะบอกความเป็นตัวคุณ อาชีพ ชื่อภรรยา หรือสามี รวมทั้งชื่อลูกของคุณ ความชอบ หรือความสามารถพิเศษ ที่คุณมีทั้งหมด หรือแม้แต่ข้อมูลบางอย่างในอดีต ถ้าคุณต้องการหาก็จะพบ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีการบังเอิญ แม้เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะมาเอง แต่มนุษย์ก็สามารถเลือกได้ แต่ต้องอยู่ใน ขอบข่ายของมนุษยชาติ ไม่ว่าศาสนาไหนก็แล้วแต่ ก็ต้องดำเนินไปถึงจุดๆ นั้น เพราะทุกศาสนา ก็มีที่มา จาก ที่เดียวกัน ดังนั้นหลักคำสอนของทุกๆ ศาสนา จึงมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน"</p--><HR align=center width="99%" color=#6c6a28 noShade SIZE=1>

 

ไม่เห็นต้องตื่นเต้นเลย ก็แค่เป็นการนำเหตุการณ์ในอดีต ในปัจจุบัน มาวิเคระห์ถึงแนวโน้มความน่าจะเป็นในอนาคต

 

โทษใครไม่ได้ต้องโทษพวกเราเองแหละครับ ทำลายธรรมชาติจนเกิด เรือนกระจก

 

ก่อนอ่าน กรุณาตั้งจิตพิจารณาให้ดี
เวลาใช้วิปัสสนาญาณ จะได้แจ่มใส

พระศรีอาริย์

"เรื่องของพระศรีอาริย์ เวลานี้ชักจะยุ่งมากทีเดียว เพราะไม่ว่าจะไปทางไหน ก็พบพระศรีอาริย์เกลื่อนไปหมด ที่โน่นก็พระศรีอาริย์ ที่นี่ก็พระศรีอาริย์ เล่นเอาชาวบ้านอานกันเป็นแถว อยากเป็นบริวารพระศรีอาริย์ เมื่อบ้านเมืองยุ่ง ทางกลุ่มศาสนาก็พลอยกลุ้ม เพราะเมื่อมีความเดือดร้อน ชาวโลกก็อยากพบพระศรีอาริย์ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข คราวนี้เอง เป็นเหตุให้พระศรีอาริย์อวตาร หรือโงนเงนเหมือนต้นตาลลงมาก็ไม่ทราบ เกิดมีพระศรีอาริย์โผล่หน้ามาพร้อมกัน

เรื่องอย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะโกหกกันเพื่อหวังลาภผลเท่านั้นเอง เอาอะไรเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ ขึ้นไปสวรรค์ทีไร พบพระศรีอาริย์ทุกคราว แถมท่านบอกมาด้วยว่า ที่เขาเข้าทรง และว่าฉันไปนั้น ฉันไม่เคยไปเลย เรื่องก็จบเพียงเท่านี้"


สำหรับคนที่อยากไปเกิดในสมัยของพระศรีอาริยเมตไตรย
พระศรีอาริย์ท่านบอกว่า "ให้ทุกคนที่ต้องการเกิดทันสมัยผม ให้รักษาศีล ๕ เป็นปกติ รักษา กรรมบถ ๑๐ เป็นปกติทุกวัน ไม่คลาดเคลื่อนอย่างนี่เป็น อุคฆฏิตัญญู ไปเกิดในสมัยผมฟังเทศน์แค่หัวข้อเล็กๆ สั้นๆ ก็บรรลุมรรคผลทันที

ถ้าบางท่านปฏิบัติอ่อนกว่านั้น รักษาได้ กรรมบถ ๑๐ เหมือนกัน ศีล ๕ ก็ครบ แต่ว่าบางทีก็มีอาการเผลอเล็กน้อย อย่างนี้เป็นวิปจิตัญญู หมายความว่า ไปเกิดสัมยผมเทศน์หัวข้อฟังไม่เข้าใจต้องอธิบายเล็กน้อยจึงบรรลุอรหันต์

บางท่านที่มีบารมีอ่อนกว่านั้น วันธรรมดาๆ อาจจะบกพร่องบ้างเป็นธรรมดา แต่สำหรับวันพระต้องรักษาให้ครบถ้วนทั้งศีล ๕ และกรรมบถ ๑๐ หมายความว่า ตามธรรมดา คนเรามีอาชีพต่างกัน บางคนปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร ก็ต้องฉีดยาฆ่าเพลี้ยฆ่าสัตว์ที่มารบกวน พืชพันธุ์ธัญญาหารบ้าง บางคนมีอาชีพไปในทางการประมง ต้องทำการประมงฆ่าปลาสัตว์บ้าง ถ้าอย่างนี้ถือวันธรรมดาบกพร่องได้ และวันพระต้องครบถ้วนบริบูรณ์ อย่างนี้ถ้าเกิดในสมัยผม เขาเรียกว่า เนยยะ เทศน์ครั้งเดียวสองครั้งยังไม่มีผล ต้องฟังเทศน์หลาย ๆ หนจึงสามารถเป็นพระอริยะได้ "

ถ้าอ่านแล้วมีความสุข ขออนุโมทนา (ขโมยบุญ)

 

ศาสนาพุทธจะมีอายุครบ ๕,๐๐๐ ปี - ไฟบรรลัยกัลป์

ผู้ถาม "มีด๊อกเตอร์คนหนึ่งนะคะพูดว่า ศาสนาพุทธนี่มีอายุไม่ถึง ๕,๐๐๐ ปี ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ เพราะขณะนี้ทางเบื้องบนตกลงไว้ว่าจะมีการชำระล้างกันก่อน เพราะว่าเวลานี้คนบาปมากเพื่อว่าจะได้มีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ ทีนี้ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า จะทำอย่างไรจึงจะไม่ให้เป็นไปตามนั้นคะ...?"

หลวงพ่อ "ปัญหานี่ดี แต่ฉันว่าไม่มีหรอก พระพุทธศาสนาต้องทรงอยู่ได้ถึง ๕,๐๐๐ ปี แน่นอน ฉันขอยืนยัน ถ้าใครไม่เชื่อจงอย่าตายนะ รอไปถึงเวลานั้น นี่เขาคงเดาเอาน่ะ พระพุทธดำรัสมีอยู่คือว่า"

พันปีแรก จะมากไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ
พันปีที่ ๒ จะมากไปด้วย ฉฬภิญโญ
พันปีที่ ๓ คือระหว่างนี้จะมากไปด้วย เตวิชโช
พันปีที่ ๔ จะมากไปด้วย สุกขวิปัสสโก และ
พันปีที่ ๕ จะมากไปด้วยอนาคามี

คำว่ามาก หมายความว่าพวกนี้จะมากกว่าส่วนอื่นที่มีอยู่ แต่ว่าเวลานี้ พวกปฏิสัมภิทาญาณก็มี อภิญญาหกก็มี แต่พวกวิชชาสามมีมากกว่า

อย่างพันปีที่ ๔ พวกสุกขวิปัสสโกมาก แต่ว่าปฏิสัมภิทาญาณก็ดี อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี เขาก็ยังมีอยู่ อย่างพันปีที่ ๕ พระอนาคามีมีมาก แต่ว่าพระอรหันต์ทั้ง ๔ พวกนี้ยังมีอยู่ พระพุทธเจ้าท่านไม่วางพื้นฐานส่งเดช และที่เขาว่าพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มา ใครล่ะมา พระศรีอาริยเมตตรัย ท่านก็ไม่มา ไม่เชื่อไปถามท่านซิ"

ผู้ถาม "หลวงพ่อคะ ถ้าหากว่าคนไปนิพพานหมด โลกนี้ก็จะร่อยหรอไปด้วยคนซิคะ...?"

หลวงพ่อ "ไม่มีทาง พระพุทธเจ้ามาอีกแสนองค์ก็ยังไม่ร่อยหรอเลย เพราะคนที่พยายามคอยเกิดบนโลกนี้มีมากต่อมาก"

ผู้ถาม "คือคิดดูในปัจจุบันนี้ ว่าคนมีปริมาณน้อยค่ะ"

หลวงพ่อ "ไอ้ที่ว่าน้อยน่ะเพราะว่าเขาไปเสวยทุกข์ในนรกกันมาก ยิ่งต้นกัปคนก็ยิ่งน้อย เพราะต้นกัปพวกที่มีบาปขึ้นมาไม่ได้เลย ลงมาแต่พวกพรหม หลังจากนั้นเลยมาอีกหน่อย ก็มาแต่พวกเทวดา ฉะนั้นยุคต้นๆ ของกัปเขาจึงมีความสุขกันมาก การรบร่าฆ่าฟันกันไม่มี ความเป็นอยู่ก็เป็นสุข ทรัพย์สมบัติก็สมบูรณ์บริบูรณ์ อายุเขาจึงยืนนาน ต้นกัปคนมีอายุถึง ๘๐,๐๐๐ปี เพราะเขาไม่มีโทษปาณาติบาต แล้วต่อมาพวกที่มีบุญน้อยลดตัวลงก็หมายถึงพวกเทวดา พวกเทวดาหรือพรหมนี่ เมื่อหมดจากบุญวาสนาบารมีเดิม กรรมที่เป็นอกุศลเริ่มให้ผล อายุมันก็ลดลงบ้าง ๑๐๐ ปี ลง ๑ ปี ต่อมาในยุคนี้สัตว์ในอบายภูมิขึ้นมาเกิดมาก โลกจึงมีแต่ความเร่าร้อน เวลานั้นเขาไม่มีสงคราม ตันกัปจริงๆ เขาไม่มีพระเจ้าแผ่นดิน ไม่มีผู้ปกครองโลกปกครองประเทศ ก็อยู่กันด้วยความสุข"


ไฟบรรลัยกัลป์

ผู้ถาม "หลวงพ่อคะ ที่ว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์จะเกิดอย่างไรคะ...?"

หลวงพ่อ "ที่ว่าจะมีไฟบรรลัยกัลป์มา เพราะว่าคนมีจิตบาปมาก ศีล ๕ ทำไม่ค่อยจะครบ เช่นปาณาติบาตเป็นต้น อายุมันก็จะน้อยลงทุกที จนกระทั่งอายุถึง ๑๐ ปีเป็นอายุขัย ตอนนี้เกิดมิคสัญญี ไม่มีการเคารพสิทธิซึ่งกันละกัน จะรบร่าฆ่าฟันกันมาก พระอาทิตย์ท่านรำคาญเต็มที่โผล่มาทีละ ๒ ดวง ๓ ดวง ๔ ดวง ตายหมด ทีนี้ถึง ๗ ดวงน้ำในมหาสมุทรก็แห้ง ต้นไม้แห้งกรอบจัด ผลที่สุดลุกเป็นไฟ ไฟไม่ได้ไหม้มาจากไหน อาศัยน้ำแห้ง ต้นไม้แห้งกรอบเต็มที่ ความร้อนหนัก ก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นก็ล้างกันเสียทีหนึ่ง

ความจริงเรื่องรู้เลยตาย หรือรู้ก่อนเกิดนี้ ฉันเองก็ไม่ใคร่อยากจะพูด และไม่อยากจะเชื่อถือนัก เพราะดูแล้วมันเลยธงไม่น้อยเลย แต่มาอ่านจากหนังสือเล่มหนึ่ง คนเขียนเขียนเรื่องรู้เลยตาย และรู้ก่อนตายไว้มากมาย เช่นรู้ว่าเมื่อสิ้นศาสนานี้แล้ว ไฟบรรลัยกัลป์จะไหม้ถึงภควพรหม ดูเรื่องมันมากมายนัก ฉันสงสัยไม่หายว่าไฟอะไรจะดันไปไหม้แต่เทวดากับพรหม ดูมันพิลึกพิลั่นมากมายเกินพอดี เมื่ออารมณ์สงสัยเกิดขึ้น ฉันก็อดที่จะอยากรู้ตามความเป็นจริงไม่ได้ ในที่สุดคืนวันหนึ่ง ฉันนั่งคุมกรรมฐานอยู่ความสงสัยเรื่องรู้เลยธงเกิดขึ้นมาขวางจิต จึงถามท่านผู้รู้ที่เป็นสัพพัญญูวิสัย ท่านทรงพยากรณ์ให้ทราบดังนี้

หลังจากกึ่งพุทธกาลไปแล้ว ๔,๐๐๐ปี จะมีไฟล้างโลก ล้างแต่โลกมนุษย์เท่านั้น ไม่ลุกลามไปถึงเทวดา ท่านบอกว่ามันเริ่มความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปีแล้วจากนั้นไปพวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสุขสงบไม่มีเพราะพวกอธรรม เป็นพวกเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่ส่วนรวมโลกจะร้างไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสุมทรก็ไม่มีไปครบ ๑,๐๐๐ ปี

หลังจากนั้นแล้วจะมีฝนตกใหญ่ลงในโลกมนุษยโลก แม่น้ำและมหาสมุทรเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื่นต้นหญ้าต้นไม้จะเริ่มงอกงามขึ้นตามลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้

หลังจากนั้นโลกที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้นทิ้งระยะนานมา ๑๐,๐๐๐ปี สัตว์โลกเริ่มเกิดขึ้น สัตว์และคนที่มาเกิดมายุคต้นนั้น ไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบโอปปาติกะ คือเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวตนขึ้น จะยังไม่มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ส่องแสงสว่าง มีแสงสว่างเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละบุคคลคือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ เรื่องอาหารนั้น ในระยะแรกไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปีติ เพราะแต่ละคนที่เกิดมาล้วนมาจากเทวดาและพรหมทั้งนั้น ไม่มีสัตว์นรก หรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้ นอกจากกฏธรรมดา คือความเสื่อมของสังขาร เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเกิดมาเป็นคนสวยหมด มีผิวขาวเหลืองเนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีใครจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป

เมื่อโลกมนุษย์และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ มีดวงอาทิตย์ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลก เกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ ๑ ล้านปี คนสมัยนั้นมีอายุครองตนเองได้ ๔ หมื่นปี เป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้นพระศรีอาริย์มาจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เขตที่ท่านลงมาตรัส สมัยปัจจุบันเรียกว่า เขตเมืองพม่า

พูดถึงไฟบรรลัยกัลป์แล้วน่ากลัวจริงๆ นะ แต่ถ้าคนชั่วมีมากก็ควรล้างกันเสียที"


หลวงพ่อได้เล่าเรื่อง "โลกเกิด" ให้ฟังว่า

หลวงพ่อ "ในวาระแรกได้ทูลถามถึงประวัติการตั้งโลก ท่านตรัสว่า"

"เป็นเรื่อง อจินไตย ไม่ควรคิด รู้แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์ ไร้เหตุผลในการบรรลุ ฉันบอกได้ แต่บอกแล้วเอาอะไรเป็นส่วนที่จะบรรลุมรรคผลไม่ได้ จะรู้ไปให้หนักสมองทำไม"


ต่อมาเมื่อถามถึงมนุษย์เริ่มเกิด พระองค์ทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วตรัสว่า "นี่เธอจะคลั่งพระเจ้ากับเขาแล้วซิ ใครที่ไหนจะมาสร้าง ถ้ามีผู้สร้างมนุษย์แล้ว เจ้าคนที่สร้างโลกสร้างมนุษย์นั้นมันเกิดมาจากอะไร จึงมาสร้างโลกมนุษย์ได้ มนุษย์ไม่มีใครสร้าง ร่างกายของสัตว์และมนุษย์เกิดจากอณูน้อยๆ ที่รวมตัวกันเข้า วิญญาณนั้นเป็นธาตุอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า "วิญญาณธาตุ" มีการเกิดขึ้นได้และไม่มีการสลายตัว คำว่าวิญญาณในที่นี้ หมายถึง จิต เป็นธาตุพิเศษ ที่เกิดจากการรวมตัวของ อณูพิเศษ ที่มีความรู้ ความเคลื่อนไหวรวดเร็ว เธออย่ารู้มากกว่านี้เลย ไม่มีอะไรเป็นคุณพูดไปก็ไร้ประโยชน์"

ขออภัยที่ขอมากไป

 

ลิขิตฟ้าเปลี่ยนได้...(ขอขวางโลกหน่อยครับ)

 

สาธุจ้า​

ธรรมะชาติ และกาลเวลา​

รู้แล้วอย่าลืม ๆ ถือศีล สวดมนต์ เจริญภาวนากันนะจ๊ะ​

​

 

บทกลอน ตามสายธารแห่งกาลเวลา

ในความว่าง มหาศาล อันมืดมิด
จิตหนึ่งคิด ก่อกำเนิด เกิดสสาร
วันเวลา แรกเริ่มวัย ได้เบิกบาน
ขยายกาล ตามเวลา เป็นอานันต์
<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o> </o>
วันคืนนั้น ก้าวผ่านไป ว่องไวยิ่ง
ทุกทุกสิ่ง ล้วนเกิดขึ้น ตามใจฝัน
ทุกๆอย่าง เป็นไปตาม กฎของมัน
ในฉับพลันนั้นก็คิด สะกิดใจ
<o> </o>
ความเป็นไป ในทุกอย่าง ที่บังเกิด
ไม่บรรเจิด เกิดตามใจ ที่สร้างสรรค์
เพราะทุกจิต ที่เริ่มมา ล้วนเหมือนกัน
ความแปรผัน ทางกายใจ เลยไม่มี
<o> </o>
ทุกชีวี เกิดมาอย่าง สงบสุข
ไร้ความทุกข์ แก่งแย่ง และแข่งขัน
ทางชีวิต ที่ดำเนิน ไปตามกัน
เพราะจิตนั้น มีความจริง เพียงสิ่งเดียว
<o> </o>
เมื่อลองเหลียว หันกลับมา หาดูจิต
ในความคิด แรกเริ่ม ของตัวฉัน
มีสองด้าน คือสีขาว กับสีดำ
กับใจอัน บริสุทธิ์ สุดบรรยาย
<o> </o>
สิ่งสุดท้าย ที่สร้างสรรค์ พลันก่อเกิด
โลกกำเนิด เป็นดาวเคราะห์ ดวงที่สาม
มีสีสัน ความสดใส และโมงยาม
ความสวยงาม ตามธรรมชาติ ที่จริงใจ
<o> </o>
วันเวลา ผ่านไปไว คล้ายโกหก
โลกนั้นพบ กับความจริง ที่แปรผัน
หลายชีวิต ที่เกิดมา บนโลกนั้น
ไม่เหมือนกัน ทั้งชีวิต และจิตใจ
<o> </o>
จึงทำให้ ก่อกำเนิด ความหลากหลาย
การทำลาย การสร้างสรรค์ การแข่งขัน
การแก่งแย่ง การชิงดี กันและกัน
การแบ่งปัน ความละโมบ โทษกันไป
ในเวลา ที่โผผิน บินข้ามผ่าน
ทุกโมงยาม เข้าสู่การ นับถอยหลัง
สิ่งที่บัน ทึกอยู่ใน ทุกจิตนั้น
เฝ้ารอวัน ปรับสมดุล ด้วยตัวเอง
<o> </o>
ผู้ไม่เกรง ไม่กลัว ต่อสิ่งผิด
เอาแต่คิด ทำลายกัน เหนื่อยหนักหนา
จ้องเอาเปรียบ เพื่อให้ได้ สิ่งนั้นมา
กาลนั้นมา เจ้าจะผ่าน ได้อย่างไร
<o> </o>
เวลานั้น จะผ่านมา รวดเร็วยิ่ง
ทุกสิ่งนิ่ง ในฉับพลัน ไม่หวั่นไหว
ทุกทุกคน ใช้ชีวิต อย่างตามใจ
มันเป็นไป อย่างที่มัน ควรจะเป็น
<o> </o>
ทันใดนั้น ใครหลายคน ก็จะเห็น
เมฆสีดำ หลายก้อนนั้น เริ่มสั่นไหว
ฝนกระหน่ำ ซ้ำลงมา อย่างเร็วไว
น้ำนั้นไหล ท่วมทุกอย่าง ในฉับพลัน
<o> </o>
แผ่นดินนั้น ล้วนได้ถูก ฝนกัดเซาะ
จนพื้นเปราะ ร้าวราน ไปหลายชั้น
แอ่งน้ำมัน ที่ควรอยู่ ในที่มั่น
ตอนนี้มัน ว่างหายไป ไม่เหลือเลย
<o> </o>
จากที่เคย เกาะติด เป็นแผ่นเดียว
ด้วยแรงเหนี่ยว เคี่ยวแรงเค้น ผืนดินสั่น
แผ่นดินใหญ่ ที่ตั้งอยู่ แยกจากกัน
แสงตะวัน ดวงที่สอง ก็ส่องมา
<o> </o>
แสงส่องสาด กราดลงมา จากฟากฟ้า
ตกลงมา กระทบทาบ ที่ราบนั้น
ภาพที่เห็น มลายหาย ไปฉับพลัน
ก็เพราะมัน คืออาวุธ สุดอันตราย
<o> </o>
ไม่มีใคร หลบหนี สิ่งนี้ได้
สิ่งสุดท้าย ที่ได้เห็น ช่างโศกศัลย์
คนไร้ศีล ทั้งหลายตาย ตกตามกัน
คนดีนั้น ล้วนเหลือรอด อยู่ปลอดภัย
<o> </o>
<o> </o>
ภัยพิบัติ จะผ่านไป ว่องไวยิ่ง
หลายๆสิ่ง ที่เคยเห็น หายไปไหน
มันโหดร้าย เหลือเกิน เริ่มทำใจ<o></o>
ทันใดนั้น แสงสว่าง กระจ่างมา
<o> </o>
บนท้องฟ้า จะมองเห็น เป็นรัศมี
แผ่รังสี มีวงกว้าง กระจ่างเห็น
ยุคยากแค้น แสนลำบาก ยากลำเค็ญ
ได้ว่างเว้น สู่ความจริง เพียงหนึ่งเดียว
<o> </o>
ความแห้งเหี่ยว ได้ฟื้นคืน ขึ้นอีกครั้ง
สิ่งหักพัง พลันเกิดใหม่ ขึ้นอีกหน
การเปลี่ยนแปลง ในร่างกาย ของหลายคน
ไม่ต้องทน ความลำบาก อีกต่อไป
<o> </o>
ในยุคนี้ ที่มีแต่ ความเป็นจริง
ศิลปะ ความสวยงาม ตามเหมาะสม
ความใฝ่ฝัน ของมนุษย์ ทุกทุกคน
คงผ่อนผัน ได้ดังสม อารมณ์ปอง
<o> </o>
จากมุมมอง ด้วยสาย ตาตามความจริง
กำแพงปิด กั้นจิตใจ กลายเป็นผง
ผู้คนมี อิสระ แห่งตัวตน
บนอารมณ์ ถูกสร้างสรรค์ ทำความดี
<o> </o>
ทุกคนมี จุดมุ่งหมาย ที่สร้างสรรค์
แบ่งปันกัน ตามเวลา ที่เหมาะสม
พลังงาน ที่ใช้การ ได้ทุกคน
ไม่ต้องทน ทรมาน อีกต่อไป<o></o>
<o> </o>