การปฏิบัติธรรมสายมโนมยิทธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Sawiiika, 12 ตุลาคม 2008.

  1. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    13-08-2006,08:17 PM
    kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_283065", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    ก่อนลงผมจะสวดมนต์นั่งสมาธิกราบถามพระท่านก่อน แนะนำการปฏิบัติครับ ช่วงนี้ในภาคของ
    วิปัสสนาญาณ ถามพระท่านว่าทำไมเน้น " กายคตา " และ " อสุภกรรมฐาน " จังเลย

    ท่านบอกว่า จะได้ใช้เยอะ เลยอยากให้ชินให้ชำนาญในการพิจารณาให้เห็นสังขารเป็นธรรมดาครับ
    ขอทบทวนในสิ่งที่ท่านได้ฝึกฝนกันมาครับขอตั้งเป็นคำถามให้ท่านตอบเองในจิตของตัวเอง
    ถ้ายังทำไม่ได้ตอบไม่ได้ให้ลองกลับไปทบทวนใหม่ครับ

    1.อารมณ์ ใจสบาย มีความสำคัญอย่างไรและท่านทำได้เป็นปกติแล้วหรือยัง ?
    2. สัมมาทิษฐิ ประกอบไปด้วยความเชื่อความรู้อะไรบ้าง ?
    ถ้าใจเราเป็น มิจฉาทิษฐิ จะเกิดผลอะไรในการปฏิบัติ ?
    3. เหตุใดการได้ ไตรสรณะคมณ์ จึงเป็นคุณธรรมในการตัดสังโยชน์ 10 ?
    4. อารมณ์ใจหรือผลของ วิปัสสนาญาณ ที่เราต้องการในการปฏิบัติคืออารมณ์
    เช่นใดที่ใช่ และ อารมณ์เช่นไร ที่ไม่ใช่ และ เกิดโทษเช่นไร ?
    5. ความสำคัญของ การอธิฐาน คืออะไรทำไมจึงต้องมีการฉลาดในการอธิฐาน ?
    6.จิตใจที่ดีงามบริสุทธิ์เป็นเช่นไรทำได้หรือยัง?
    7. แยก ความคิด กับ ญาณทัศนะ ที่ผุดรู้ขึ้นเองในจิตได้หรือไม่บอกข้อแตกต่างออกไม๊ ?


    ขอ 7 ข้อก่อนครับ ไม่ค่อยทำการบ้านหรือยกมือถามตอบเลย
    ต้องให้ทบทวนเพื่อให้เกิดความรู้ในใจของตนเองครับ
     
  2. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    มาทบทวนของเดิมที่ได้ฝึกฝนกันมาครับ

    23-08-2006, 11:46 PM
    kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_283065", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ


    กลับมาทบทวนของเดิมที่ได้ฝึกฝนกันมาครับ
    ลองค่อยๆทบทวนอารมณ์ในแต่ ละส่วน ไปทีละน้อย ทีละน้อย
    ให้ ความรู้กำลัง และ อารมณ์อยู่ตัวทรงตัว ไว้ได้เป็นปรกติครับ

    ลมสบาย และ อารมณ์ใจสบาย การตั้งกำลังใจในการทำความดีสัมมาทิษฐิ
    การ อธิฐาน การวางกำลังใจความตั้งมั่นแห่งจิตใจ จิตใจที่ดีงามดวงจิตที่ใสสะอาด
    เป็นแก้วประกายพรึก จิตใจที่บริสุทธ์ ปราศจากกิเลสกำลังวิปัสสนาญาณในการ ตัดสังโยชน์ 10
    เมตตาอัปปมาณฌานพรหมวิหารสี่พลังงานแห่งจิตใจที่ไร้ขอบเขต ความบริสุทธ์ที่เป็นหนึ่งเดียว
    กับจิตวิญญาน ความดีงามที่ซึมซับเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อจิต การเข้าถึงในความเป็น
    ธรรมดาของทุกสรรพสิ่ง ความเป็นอุเบกขาในสังขารร่างกาย


    หลายท่านที่ทำได้แล้วทั้งหมดบางท่านทำได้ในบางส่วน บางข้อ ส่วนบางท่านก็ได้ประสบกับความ
    มหัศจรย์ ทางจิตที่ได้รู้เห็นเฉพาะตนบ้าง และคนรอบข้างบ้าง หลายท่านที่ได้รู้หน้าที่ที่ตนเองได้
    อธิฐานก่อนลงมาเกิดในชาตินี้ ขอให้ทุกท่านได้ ทำให้ธรรมมะและคุณธรรมเหล่านี้ให้เจริญงอกงาม
    ยิ่งๆขึ้นไปเพื่อประโยชน์แห่งการหลุดพ้นของตัวท่านเอง เพื่อประโยชน์แห่งชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์
    สืบต่อไปครับ ขอกราบโมทนาในความดีความตั้งใจที่ดีของทุกท่านด้วยครับ
     
  3. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    12-09-2006, 10:13 PM
    kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_283065", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ตอนนี้ เราก็ได้เรียนรู้ วิชชาฯ กันมาจนแทบ จะครบถ้วนแล้ว
    เริ่มตั้งแต่ สมาธิขั้นต้น ไล่ขึ้นมาจนถึง สมาบัติ 8 ซึ่งเป็นอารมณ์ฌานในสมถะที่มีกำลังสูงที่สุด มีอานิสงค์
    ในการปฏิบัติได้ถึงการได้ ปฏิสัมภิทาญาณ ส่วนวิปัสสนาญาณนั้น เราก็ได้เรียนรู้กัน ตั้งแต่เริ่มต้น
    จนถึงการตัด สังโยชน์ 10 และ อารมณ์นิพพาน

    สิ่งที่ท่านต้องเรียนรู้ต่อไปนั้นเป็นหน้าที่ที่ตัวท่านเองต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ตั้งใจ ด้วยตัวเอง
    นำความรู้ที่ได้มาใช้เพื่อคุณธรรม การช่วยเหลือ ตัวท่านเอง เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ ทั้งหลาย
    ให้ ตื่นขึ้น พ้นจากความทุกข์ + เข้าถึงธรรมในที่สุด ครูบาอาจารย์ของท่านต่อไปนั้น ท่านจะมา
    สอนท่านจากภายในจิตของท่านเอง อภิญญา สมาบัติ จะบังเกิดขึ้นกับท่านได้ก็ด้วยความดี คุณธรรม
    สัมมาทิษฐิ ดังนั้นขอให้ท่านวางจิตอยู่ใน มหาสติปัฏฐาน 4 อันประกอบด้วย

    การพิจารณากาย ว่า เป็นเหตุแห่งทุกข์ ไม่เที่ยงมีความตายในที่สุด การพิจารณาเวทนา ว่า ความรู้สึก
    ในอิริยาบทต่างๆ ความรู้สึกที่มากระทบว่า ไม่เที่ยง การพิจารณาจิต ของเราเอง ว่า จิตสะอาดหรือ
    ไม่สะอาด มีกิเลสหรือไม่ ? ประคองจิตไว้กับพระพุทธเจ้าและอารมณ์นิพพานไว้เสมอ การพิจารณา
    ธรรมว่าธรรมใดที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้เจริญขึ้น ธรรมใด คุณธรรมใด ศีลข้อใดที่ยังไม่เต็มก็จงทำให้เต็ม
    วิปัสสนาญาณ ที่ยังไม่ปรากฏก็ขอให้ปรากฏขึ้นในจิตของเรา

    [​IMG]



    ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ อย่าทิ้งพระพุทธเจ้า + คำสอนของพระองค์ท่าน ไปจากใจของเรา
    รวมทั้งให้ อธิฐาน ให้ท่านคุ้มครองกาย วาจา ใจ ของเราให้ตั้งมั่นอยู่ใน สัมมาทิษฐิ สัมมาสมาธิ
    สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ อยู่เสมอทุกๆวัน ความก้าวหน้าในสมาธิจิตนั้นขึ้นอยู่กับ พลังแห่งการเรียนรู้
    และ พลังแห่งการพัฒนาตัวเอง ของท่านแต่ละคนว่า มีอิทธิบาท 4 มากน้อยเพียงไรรวมถึงวาสนาบารมี
    ในอดีตชาติด้วย ขอให้ทุกท่านก้าวหน้าและเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
    ผมขอกราบโมทนาบุญด้วยทุกท่านทุกประการครับ

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    11-10-2006, 06:27 PM
    kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_283065", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    เมื่อท่านทั้งหลาย มีดวงจิตที่ตั้งไว้ดี แล้วอันได้แก่..


    มี สัมมาทิษฐิ ในจิต ในความคิด มีสัมมาสมาธิ การเจริญฌานสมาบัติเพื่อความหลุดพ้น และ ประโยชน์
    ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย มี สัมมาปัญญา อัน ประกอบไปด้วยญาณอันเป็นเครื่องรู้ ในเหตุและผลอันชอบ
    มี สัมมาปฏิบัติ อยู่ในศีลในธรรม จากที่ต้องรักษาศีล จนถึงระดับที่ศีลรักษาเรา มีความเข้าใจในความ
    เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม มีความเข้าใจใน พุทธภูมิวิสัย โพธิสัตว์วิสัย
    มีความเข้าใจและความจำเป็น ในการฟื้นฟูศีลธรรม คุณธรรมให้กลับมาสู่สังคม
    มีพื้นฐานของ สมาธิ และ อภิญญาสมาบัติ ในระดับที่ดี


    [​IMG]


    ผมขออนุญาต แนะนำ
    การฝึกจิตเข้าสู่ดินแดนแห่งความรู้
    ที่มิติของ พระพรหม

    ที่แห่งนี้เป็น แหล่งรวมแห่งความรู้ และ อารยธรรมทั้งหลายที่ปรากฏมาในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
    ของทั้งจักรวาล หลาย ๆ ท่านที่สามารถเข้ามาถึง ศูนย์ข้อมูล ณ จุดนี้ ได้ จะมีผลทำให้ ท่าน ผู้นั้น
    มี ภูมิปัญญา เป็น พหูสูตร มีความรอบรู้ในสรรพศาสตร์ทั้งปวง แต่ท่านทั้งหลายได้โปรดอย่าได้ลืมว่า
    ศาสตร์ทุกสิ่ง รวมทั้งทุกสรรพสิ่ง ย่อมอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของกฏไตรลักษณ์ คือ ความ
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็น อนัตตา

    ดังนั้น ความรู้ และ สรรพศาสตร์ ทั้งหลายนั้น ขอให้ท่านเข้าถึง
    และ นำไปใช้แต่ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ ต่อ ความหลุดพ้นของตนเอง การแก้ทุกข์ การดับทุกข์
    แก้ปัญหาในชาติปัจจุบัน ประโยชน์ของพระพุทธศาสนา ประโยชน์ของปวงชนชาวไทย
    ประโยชน์ต่อโลก ประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ประโยชน์ต่อสรรพสัตว์

    ส่วนการเข้าถึงข้อมูลทางสรรพศาสตร์เหล่านี้นั้น มีระดับชั้นของข้อมูล โดย ขึ้นอยู่กับระดับความสะอาด
    บริสุทธิ์ของจิต เจตนาความตั้งใจในการนำความรู้ไปใช้ และ หน้าที่ที่ต้องรู้ในสิ่งที่สมควรรู้ เห็นในสิ่ง
    ที่สมควรเห็น รวมถึงเพื่อให้ พระโพธิสัตว์ ทั้งหลายได้นำข้อมูลความรู้จากสรรพศาสตร์ เหล่านี้
    ไปใช้ประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ในการสร้าง ใน การบำเพ็ญบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป

    ตัวอย่างของท่านผู้ที่เข้าถึงข้อมูลตรงจุดนี้ได้ นั้นมี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แน่นอนครับ นอกเหนือจาก
    ปฏิสัมภิทาญาณ ที่ ปรากฏแล้วท่านยังมีความรอบรู้ในศาสตร์ และ เรื่องราวทั้งปวง โดยท่านมักจะ
    กล่าวอ้างถึง ว่าความรู้ต่างๆที่ท่านทราบนั้น มี " ท่านสรรพศาสตร์ " เป็นคนมาบอกเรื่องราวต่างๆ
    ให้ทราบทราบเสมอ ท่านจึงทรงภูมิความรู้สูงในทุกๆด้าน เป็นการยังศรัทธาของ สานุศิษย์ทั้งหลาย
    ให้ยิ่งเพิ่มความเคารพนับถือในภูมิความรู้ของท่าน ซึ่งท่านรู้ ไปถึงเรื่อง มนุษย์ต่างดาว
    เรื่องราวของ หลุมดำ ความเป็นไปในมิติและจักรวาลอื่นๆ



    ส่วนอีกท่านหนึ่งที่ท่านรู้วิธีใช้ฌานสมาธิเพื่อ เข้าถึงแหล่งความรู้เหล่านี้ในยุคปัจจุบันคือ
    อ. ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ครับ จากความรู้ที่ท่านได้คิดค้น ขาของยานอุปกรณ์ลงจอด ยานไวกิ้ง
    โดยอาจารย์ได้เล่าว่า ได้ตั้งคำถามถึงวิธีการขึ้นในจิต จากนั้นก็เข้าสมาธิ หลังจากนั้น ก็ จะปรากฏภาพ
    จำลองของอุปกรณ์ชิ้นนั้น ขึ้นมาในจิต และเมื่อนำไปส่งประกวดที่ นาซ่า ผลก็คือสามารถใช้งานได้เลย
    โดยไม่ต้องร่างแบบในคอมก่อน แล้วสร้างแบบจำลองต้นแบบ เพื่อทดลองใช้งาน ว่าใช้งานจริงได้
    หรือไม่ ... จะเห็นได้ว่า การเข้าถึง แหล่งความรู้แห่งจักรวาล นี้ สามมารถนำไปใช้ในการประดิษฐ์
    คิดค้น นวัตกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ได้อย่างมากมาย โดยสามารถช่วยประหยัด
    ต้นทุนในการค้นคว้าวิจัย และ พัฒนาลงได้เป็นจำนวนมาก ถ้านำความรู้เหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
    อย่างจริงจัง จะเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง ที่ ประเทศไทยจะเป็นผู้นำเทคโนโลยี่ ของโลก
    แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตของเทคโนโลยี่ที่สร้างสรรค์ด้วยนะครับ

    นอกจากนี้ความรู้นี้ยังนำไปใช้ใน งานสร้างสรรค์ ศิลป ได้อีกด้วยตัวอย่างคือ บุษบกที่เป็นที่เก็บสรีระ
    ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านนั้น เป็นการสร้าง ขึ้นเลยด้วยฝีมือช่าง ไม่มีการเขียนแบบ ร่างแบบก่อน เป็น
    การ ดาวน์โหลด แปลนจากข้างบนเข้ามาในจิตโดยตรง แล้วช่างจึงลงมือแกะสลักทันที จะเห็นได้ว่า
    ถ้ามี การประยุกต์ใช้ องค์ความรู้จากสรรพวิชาเหล่านี้ร่วมกับคุณธรรม จริยธรรม แล้ว ก็จะเป็นเวลาที่
    มนุษย์โลกเรา จะมีความสมดุลในความเจริญทั้งทาง วัตถุและความเจริญทางด้านจิตใจ การใช้
    วิทยาการเพื่อการพัฒนาอย่างสร้างสรค์ ย่อมมีประโยชน์กว่า การใช้เทคโนโลยี่เพื่อการทำลายล้างครับ

    หลายๆคนพอจะเห็นภาพรวมของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ฌานสมาบัติเพื่อเข้าถึง
    แหล่งความรู้ของจักรวาล แล้วนะครับ เราจะได้เริ่มเข้าเนื้อหาการฝึกการปฏิบัติกันต่อไปครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->

     
  5. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    11-10-2006, 07:17 PM
    kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_283065", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ



    มาฝึกกันเลยครับเริ่มต้นก็ใช้ '' วิชาพื้นฐาน ''


    จับลมสบาย จนใจเราสงบสบาย เป็นลมตลอดสายจนจิตนิ่งเหลือ ลมหายใจสั้นเท่า '' เมล็ดถั่ว ''
    จากนั้นตั้งจิตว่า ขณะที่เรากำลังปฏิบัติสมาธิอยู่นี้ ศีลของเราบริสุทธิ์ จิตของเราเป็นสัมมาทิษฐิ


    เรามีความมั่นคงในพระรัตนไตร ต่อไปพิจารณาความไม่เที่ยง ในสังขารร่างกาย อันมีความเสื่อม
    ความตายในที่สุด ปล่อยวางจากขันธุ์ 5 นี้ จากนั้นจับภาพพระพุทธเจ้าท่านให้ใสเป็นแก้ว
    ประกายพรึก ยกจิต อาทิสมานกายขึ้นสู่พระนิพพาน กราบพระพุทธเจ้าท่านและ ท่านผุ้มีพระคุณที่
    ท่านมาโปรด ในสมาธิขณะนี้ จากนั้นตั้งจิตอธิฐานว่า " ด้วยบารมีของพระพุทธองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ทั้งหลายทั่วอนันตจักรวาล ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึง ความรู้ญาณทัศนะ แห่งพรหมศาสตร์ อันเป็น
    แหล่งความรู้ของจักรวาล ในความรู้อันเป็น สัมมาทิษฐิสัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา เพื่อ ประโยชน์
    แห่งตัวข้าพเจ้า ส่วนรวม พระพุทธศาสนาและ มวลมนุษยชาติอีกทั้งสรรพสัตว์สิ่งใดที่ข้าพเจ้า
    สมควรรู้ก็ขอให้ได้รู้ สิ่งใดที่ข้าพเจ้าสมควรเห็นก็ขอให้ได้เห็น


    " หากความรู้ใดจักเกิดโทษต่อข้าพก็ดี ต่อส่วนรวมก็ดี ต่อพระศาสนา ต่อมนุษยชาติ
    และ สรรพสัตว์ก็ดี ขอข้าพเจ้าจง อย่าได้รู้ อย่าได้เห็น อย่าได้ทราบเลย "


    [​IMG]





    จากนั้นวางใจให้สบาย ท่านที่ได้ วิชามโนมยิทธิ ท่านก็จะสามารถไปที่ พรหมสถาน
    กราบขอความรู้จากท่าน ท้าวสหัมบดีพรหม ในสรรพวิชาที่ท่านจะได้ใช้ สร้างบุญ สร้างบารมีบนโลกมนุษย์
    ในชาตินี้ ส่วนท่านที่ไม่ได้มโน ขอให้ท่านทำใจให้สบาย โล่ง โปร่ง เบา และ ตั้งคำถามขึ้นในจิตในเรื่อง
    หรือปัญหาที่ท่านอยากรู้ อยากทราบ จะปรากฏเป็นเสียงตอบขึ้นมาในจิตบ้าง เห็นภาพปรากฏขึ้นมาใน
    จิตบ้าง เมื่อรู้เมื่อเห็นเมื่อทราบแล้ว ขอ จงอย่าได้เชื่อแต่แรก ให้ตั้งคำถามในจิตต่อไป ถึงเหตุ ถึงผล
    เพื่อประกอบการตัดสินใจ แล้วจึงใช้ปัญญาไตร่ตรองดู ด้วยความรอบคอบ ว่ามีเหตุมีผลมีความ
    เป็นไปได้สมควรเชื่อถือ ได้จริงหรือไม่ ถ้า เห็นสมควรจึงเชื่อและทดลองดูว่าจริงหรือไม่
    เมื่อฝึกบ่อย เข้าทำบ่อย เข้าไม่ช้า จิตจะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ เมื่อมีคำถามเกิดขึ้นในจิต
    ญาณเครื่องรู้ ตัวรู้ จะมีคำตอบให้โดยไม่ต้องคิด ข้อมูลข่าวสารที่รู้นั้นมีปริมาณ รวมทั้งความรวดเร็ว
    ในการส่งต่อเข้าสู่จิต สูงกว่าการคิดมากมาย เมื่อท่านทำได้แล้วจะเข้าใจเอง ครับ



    เมื่อได้เข้าถึงแหล่งสรรพวิชาเหล่านี้ได้แล้ว และได้ความรู้จนเป็นที่พอใจ ก็จง ยกจิตอาทิสมานกายกลับไป
    ยังพระนิพพาน กราบลา สมเด็จพระจอมไตรพิชิตมาร ที่พระนิพพานพร้อมทั้งทุกๆท่านผู้มีพระคุณ แล้วทิ้ง
    อาทิสมานกายของตนให้สถิตอยู่บน วิมานของตนเองบนพระนิพพานครับ


    ขอให้ทุกท่านใช้สรรพศาสตร์นี้ในทางสร้างสรรค์เพื่อการสร้างบารมี ของท่านเอง ครับ
    ความรู้ของแต่ละท่านอาจรู้เห็นไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน ตามบารมีตามหน้าที่ครับ ผมเอง
    ก็ยังรู้ไม่มากครับ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายให้เรียนรู้ ครับ วิชานี้จะเป็นประโยชน์ นอกเหนือ
    จากการที่ท่านจะ ใช้กำลังใจถามพระเบื้องบน ซึ่งเน้น วิชาทางธรรม ส่วนวิชชานี้เหมาะกับ
    การถามสรรพวิชาที่เราจะนำไปใช้ทางโลก ขอกราบโมทนาในผลแห่งการปฏิบัติ
    และ การนำไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของทุกๆท่านครับ



    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...