นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

แหวนนวโลหะ ที่สังเกตุจะออก 3 โทนสีนะครับ ไซส์ 66/68 จะออกสีเหลือบทองแดง อาจเพราะใช้โลหะมากกว่าไซส์อื่นตามภาพ


ส่วนนวะโลหะไซส์ 60/58 จะออกโทนเงิน โดยเฉพาะ 60 จะชัดเจนมาก ดังผมเล่าไป แท่งชนวนเงินที่ตัดออกมาใส่ในเบ้าแต่ละเบ้า เหลือเกินมา 1 แท่งจึงใส่ไปเบ้าหนึ่ง หวยก็ออกออกที่ไซส์ 60

ไซส์เล็ก ๆ จะออกโทนนวโลหะคือดำไปเลย อาจเพราะใช้โลหะน้อยเลยเข้มข้น

แต่ไม่ว่าอย่างไร ช่างรับรองว่าต่อไปโดนอากาศ โดนเหงื่อจะกลับดำหมดครับ

อ้อลืมแจ้งไป ครูบาว่า...ห้ามด่าธาตุทั้ง 4 นะครับ ดิน น้ำ ลม ไฟ เช่นฝนตกก็อย่าด่าฝนนะครับ ทน ๆ ไปตามธรรมชาติ
เวลาทำบุญก็อุทิศให้พระแม่ธรณี ขอพระแม่ธรณีเป็นพยานแล้วนำส่งบุญให้แก่... ตามที่เราอธิษฐาน

 

โลหะธาตุใดๆถ้าผ่านการเสกมากๆจะเป็นกายสิทธิ์ มีชีวิต มีอิทธิฤทธิ์!!!

 

ขอให้ทุกท่านมีโชคลาภดังปรารถนานะครับ.. แหวนนี้เน้นเงินทองเป็นหลัก

 

รุ่นก่อน อสนีบาตพิฆาตได้ช่วยผู้ทรงศีล ช่วยคนมามาก
รุ่นนี้หวังว่าจะไม่แพ้กัน

 

แหวนรุ่นนี้สร้างด้วยจิตใจที่ศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ครับ และท่านก็มีเมตตาลงให้เพื่อให้ไปช่วยผู้ศรัทธา ดังคำกล่าวว่า "ดีแล้วขอให้ไปช่วยคนมากๆ" ในยุคกลียุคเช่นนี้ ขอให้ท่านที่ได้ไปมีแต่ความสุขสมหวังครับ ทำบุญให้แม่พระธรณีบ่อยๆนะครับ

 

แม่ชีท่านนี้เมื่อ 2 ปีก่อนได้รับแหวนอสนีบาตพิฆาตไป ใช้ได้ผล และใช้ตลอดมารวมถึงบรรดาศิษย์ท่านด้วย
รอบนี้แหวนปฐพีไร้พ่ายก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ผมพยายามประณีตเต็มที่ ด้วยบารมีหลวงปู่ช่วยชี้แนะ จนท่านยังใส่เอง
นับว่าปลาบปลื้มหายเหนื่อยจริงๆครับ

 

ผลตอบรับทุกสายดีมาก ๆ ว่าใส่ง่าย สบายนิ้วกว่ารุ่นก่อน สิ่งสำคัญของรุ่นนี้ที่ตกผลึกมาจากรุ่นก่อน ๆ

1. ให้เรียบง่าย เพราะถ้าลวดลายมากก็จะข่วนเสื้อผ้า ข่วนกระเป๋ากางเกง แบบรุ่นแรกที่ลวดลายสวยแต่กลายเป็นทำให้ใช้งานได้ยาก เพราะข่วนเสื้อผ้า สึกหรอง่าย

2. ให้ใส่ง่ายไม่หนาแบบแหวนอสนีบาตพิฆาตที่ทำให้ปวดนิ้วสำหรับคนนิ้วชิดกัน และบางคนไม่ชอบใส่แหวนเพราะรำคาญ ก็จะชอบรุ่นนี้ไปเลย

3. สไตล์แหวนปลอกมีดที่ดูไม่อลังเหมือนของขลังเกินไป สำหรับคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตเร่งรีบ

4. สำคัญมาก เน้นรักษาโรค เพราะทุกครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกท่านจะลงด้านรักษาโรคไปด้วยครับ ผมนั่งฟังท่านสวดเสกเอง และที่สำคัญผมได้เรียนต่อครูบาอาจารย์ไปแล้วว่า เดือนธันวาคม จะทำบุญใหญ่เกี่ยวกับสุขภาพถวายให้ท่านด้วย (เป็นเคล็ดทำบุญให้ครูบาอาจารย์ กระแสบุญก็จะตีกลับมาหาเราหลายล้านเท่า) ซึ่งบุญอะไรจะมาแจ้งให้ทราบครับ

ไม่ว่าจะมีเงินทองมากแค่ไหน ถ้าสุขภาพย่ำแย่ เจ็บออด ๆ แอด ก็ไม่มีความสุขหรอกครับ

 

รุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกันครับ ที่ว่าเขาเป็นมะเร็ง ผมเอาแหวนอสนีบาตพิฆาตไปให้ถึงโรงพยาบาล ไปให้กำลังใจเขาหลายวัน จนดีขึ้นออกจากโรงพยาบาล แต่หมอนัดไปตรวจ คีโมเป็นระยะ ผมเลยนำน้ำขวดไปขอครูบาท่านที่เสกวาระ 4 เสกให้เป็นน้ำมนต์รักษามะเร็ง ส่งไปให้ ซึ่งตอนนั้นแฟนเขาเสียไปแล้วไม่ทัน และแฟนเขาไม่สนใจแหวนด้วย
ภายหลังเขาหายดีไม่มีเชื้อ ทำงานได้ปกติ เลยเอาบัตร VIP ซาฟารีมาให้ผมหลายใบตอบแทน55

 

ด้วยอำนาจพระแม่ธรณี อะไรที่เกี่ยวกับผืนดิน จะสำเร็จครับ ไม่ว่าขายที่ดิน ขายบ้าน หลวงปู่ว่าง่ายเลย ท่านใช้คาถานี้มาหลายสิบปี กันงู กันสัตว์มีพิษด้วย ท่านเคยทำแหวนมาก่อนแล้ว หมดเกลี้ยง

 

พรรคพวกผม ผู้ช่วยเหลือการปลุกเสกวาระ 2 ปฐพีไร้พ่ายแห่งปลายด้ามขวาน 1 อาทิตย์ ฝากแหวนไปถวายตาหลวงด้วยครับ

 

อ้างอิง


ไขความลี้ลับ พุทธานุภาพกับพระเครื่อง
ข้อความต่อไปนี้ ผมได้เขียนขึ้นและลงให้อ่านกันไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเดือน กค. ๒๕๕๙ บัดนี้ผ่านไป ๒ ปี ผมกลับมาอ่านดูเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง จึงขอนำมาให้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง โดยได้ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง
" เมื่อไม่นานมานี้ผมไปกราบนมัสการ ( ผมขอสงวนนามและฉายาของท่าน ) พระอาจารย์ของผม เพื่อกราบเรียนถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และในโอกาสเดียวกันนี้ผมได้กราบนมัสการถามข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องพระพุทธคุณในพระเครื่องและเครื่องรางของขลังต่างๆ
สิ่งที่พระอาจารย์ ท่านได้เมตตาอธิบาย ทำให้ผมได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นเป็นอันมาก ซึ่งผมคิดว่าจะเกิดประโยชน์แก่ท่านที่สนใจเรื่องพระเครื่องจึงได้คิดว่าไม่ควรที่ผมจะเก็บเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
พระอาจารย์ท่านอธิบายอย่างเมตตาว่า การที่เราพากันเรียกว่า พุทธาภิเษก นั้นไม่ถูกต้อง เพราะคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์นั้น ธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่แล้ว จึงไม่มีใครจะไปปลุกเสกท่านได้อีก โบราณจารย์ ท่านจึงใช้ คำว่า “ นั่งปรก “
ท่านเล่าว่า เคยมีคนไปถาม หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต วัดบางแก้วผดุงธรรม อ.บางแก้ว จ.พัทลุง พระอริยสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับว่าทรงคุณธรรมขั้นสูง ( มรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ อายุ ๙๔ พรรษา ) ว่า เวลาท่านได้รับอาราธนานิมนต์ไปนั่งปรกนั้นท่านทำอย่างไร หลวงปู่ตอบว่า ก็ทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเข้าถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น ไม่ได้ไปปลุกเสก
พระอาจารย์ของผมท่านอธิบายต่อไปว่า ผู้ที่จะนั่งปรก วัตถุมงคลต่างๆได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่สามารถทำระดับของจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเข้าถึงกระแสแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงจะสามารถทำให้วัตถุมงคลต่างๆมีพลังอิทธิฤทธิ์ขึ้นได้
พลังที่จะลงไปอยู่ในพระเครื่องหรือวัตถุมงคลจะสูงหรือต่ำ แรงหรือไม่แรง เพียงไร ขึ้นอยู่กับ คุณธรรม ของผู้นั่งปรก หรือพูดง่ายๆว่า ระดับภูมิธรรมของ ผู้ที่ใส่พลัง ลงไปในวัตถุมงคล ซึ่งมีหลายระดับ เริ่มจากอริยบุคคลขั้นที่เรียกว่า เสขบุคคล ขึ้นไป จนถึงระดับพระอรหันต์ที่ท่านบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว
พลังหรืออานุภาพที่พระท่านบรรจุลงไปนั้น อาศัยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนจะให้สัมฤทธิ์ผลในทางใดนั้นท่านจะใช้พระคาถาเป็นสื่อ พระคาถาที่กล่าวถึงนี้เป็นพระคาถา หรือ อักขระโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ที่พระเถราจารย์ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถ่ายทอดกันมา พระคาถาส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นคำสรรเสริญพระพุทธเจ้า หรือ หัวใจของพระคาถาต่างๆที่ปรากฏ ในพระไตรปิฏก เช่น พระคาถาสรรเสริญพระพุทธคุณ พระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ หัวใจต่างๆ พระคาถาที่เรียกว่า ตับพระไตรปิฎก และอื่นๆ ซึ่งเป็นมงคลคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในด้านต่างๆ
พระคาถา เหล่านี้แตกต่างจาก คาถาทางไสยเวทย์ หรือ เวทย์มนต์ดำ ( ซึ่งมักจะมีคำที่ไม่สุภาพ) และการบรรจุพลังลงในเครื่องรางของขลังแบบไสยเวทย์นี้ผู้บรรจุพลังลงไปเป็นแต่เพียงผู้ที่ได้ฌานสมาบัติซึ่งจะสูงเพียงใดก็ยังอยู่ในระดับโลกียฌานเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรมขั้นโลกุตร
ต่อไปนี้คือข้อความที่ผมได้กราบนมัสการถามและพระอาจารย์ได้เมตตาให้ความกระจ่าง และผมได้พยายามเก็บความเท่าที่จะสามารถกระทำได้
ถาม พระเครื่องที่จะมีพระพุทธคุณคุ้มครองนั้นเราต้องอาราธนาหรือไม่
ตอบ การอาราธนานั้นคือการทำจิตให้ตั้งมั่นแบบหนึ่ง ดังนั้น จึงควรจะมีการทำจิตให้ตั้งมั่นก่อน แต่สิ่งที่จำเป็นต่อการที่บุคคลจะได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธคุณ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ ต้องมีศีลเสียก่อน อย่างน้อยที่สุดก็มีศีล ๕
ถาม เหตุใดพวกโจรผู้ร้ายที่ไม่มีศีล ๕ บางคนก็ได้ข่าวว่ายิงไม่ออก ฟันไม่เข้า
ตอบ พวกโจรหรือนักเลงหัวไม้ส่วนมากนั้นจะใช้เครื่องรางประเภทคุณไสยซึ่งแม้ไม่มีศีล ๕ ก็อาจสามารถปกป้องคุ้มครองได้ และโจรผู้ร้ายบางคนก็ ถือ สัจจะ ซึ่งสามารถมีผลช่วยปกป้องได้บ้าง แต่เมื่อกรรมที่ก่อขึ้นสะสมมากก็ไม่อาจจะมีอำนาจใดๆมาปกป้องได้
ถาม พระเครื่องที่ได้รับการบรรจุพลังแล้ว เสื่อมได้หรือไม่ เคยได้ยินว่า ห้ามการลอดราวผ้า หรือนำไปในสถานที่ไม่บังควร
ตอบ พระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่ผ่านการสร้างโดยท่านผู้ทรงคุณธรรมอย่างสูงแล้วจะไม่เสื่อม นอกเสียจากถึงวันที่วุตถุนั้นผุพังไปตามธรรมชาติ ถ้าผู้ใช้มีศีลดังที่ได้บอกไว้แล้ว
ถาม วัตถุมงคลที่เป็นรูปสัตว์ สามารถคล้องคอรวมกับพระเครื่องได้หรือไม่ ( ผู้เขียนถาม โดยหมายถึงรูปหล่อหนุมานซึ่งเสกโดยหลวงปู่ ทิม อิสริโก )
ตอบ ได้ เพราะรูปสัตว์ต่างๆนั้นเป็นรูปสมมติเท่านั้น ส่วนของขลังจำพวกชิ้นส่วนของสัตว์ เช่น หนัง เขา เขี้ยว ส่วนมากบรรจุด้วยคุณไสย จึงไม่ควรแขวนรวมกับพระเครื่อง ( ยกเว้นแต่ชิ้นส่วนสัตว์ที่บรรจุด้วยพุทธานุภาพของพระสงฆ์ที่บรรลุโลกุตรญาณ )
ถาม พระเครื่อง ใส่กระเป๋ากางเกงจะทำให้เสื่อมไหม
ตอบ ไม่ทำให้เสื่อม แต่การที่เอาพระไปใส่กระเป๋ากางเกง เป็นที่ต่ำนั้นเป็นอาการแสดงออกซึ่งการไม่เคารพในพระเครื่อง ซึ่งไม่ควรทำ
ถาม การอาราธนาพระสงฆ์เป็นจำนวนมากๆ มานั่งปรก พระเครื่องหรือวัตถุมงคลนั้นๆย่อมมีพลังแรงกว่าการนั่งปรกองค์เดียว ดังนี้ใช่หรือไม่
ตอบ พลังที่บรรจุลงไปจะแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับระดับคุณธรรมของผู้นั่งปรก ซึ่งถ้าพระสงฆ์ที่อาราธนานิมนต์มาไม่มีระดับคุณธรรมที่สูงถึงจุดที่สามารถเข้าสู่กระแสแห่งคุณพระแล้ว นั่งปรกกันสักกี่รูปพลังจะไม่เท่าพระที่มีคุณธรรมเพียงรูปเดียว แต่ถ้าพระสงฆ์ที่มานั่งปรกนั้นเป็นพระอรหันต์มากรูปก็จะมีพุทธานุภาพมากขึ้น
พระอริยะที่ท่านคุณธรรมสูง เมื่อท่าน “ บรรจุ “ พลังลงไป พลังที่เกิดจากคุณธรรมขั้นสูงของท่านจะลบล้างพลังของคุณธรรมที่บรรจุอยู่ก่อนแต่มีระดับผู้ทรงคุณที่ต่ำกว่า แต่ถ้าเป็นพระที่อยู่ในระดับภูมิธรรมสูงด้วยกัน พลังของท่านจะปรากฏเป็นหนึ่งของแต่ละองค์โดยไม่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เช่น สมมติว่าอาราธนาพระสงฆ์มานั่งปรกรวม ๙ รูป มีพระอรหันต์รูปเดียว ในพระเครื่องก็จะมีพลังจิตเพียงหนึ่งเดียวคือของพระรูปนั้นเท่านั้นที่เหลือหากภูมิธรรมต่ำกว่าก็ไม่สามารถจะเข้าไปได้ แต่ถ้าใน ๙ รูป มีพระอรหันต์ ๓ รูป ก็จะมีพลังจิต ๓ ดวงอยู่ในพระเครื่องนั้นเรียงกันโดยไม่ทับซ้อนกันเลย
ยกตัวอย่างเช่น พระเครื่ององค์หนึ่งผู้นั่งปรกองค์แรก เป็นเสขบุคคลระดับ อนาคามี ต่อไปถ้าพระอรหันต์ซึ่งมีภูมิธรรมสูงกว่านั้น ทำการ บรรจุพลังลงไป คุณธรรมอันสูงของท่านจะลบล้างพลังของเก่าที่มีคุณธรรมอันต่ำกว่าจนหมดสิ้น
พระภิกษุที่อยู่ในคุณธรรมระดับพระอรหันต์เพียงแต่ใช้เวลาแค่ไม่ถึง ๕ นาที ก็บรรจุพลังลงไปในพระเครื่องหรือวัตถุมงคลเสร็จแล้ว สุดแท้แต่ท่านจะใช้คาถาอะไร ถ้าหลายบทก็นานขึ้นเล็กน้อย เช่น ถ้าจะจะให้เป็นมหาอุตม์ก็มักจะเป็นพระคาถาที่เรียกว่าตับพระไตรปิฎก พระอริยเจ้าสายหลวงปู่มั่นส่วนใหญ่ท่านใช้คาถา “ นะโมวิมุตตานัง “ และส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วพระของท่านจะมีพุทธานุภาพทุกทางแบบครอบจักรวาล และอาจจะใส่คาถาบางอย่างเพื่อเน้น เช่นใส่คาถามหาลาภเป็นต้น
ถาม เหตุใดจึงมีข่าวว่าหลวงปู่บางองค์นั่งปรกทั้งคืน
ตอบ ท่านก็นั่งเจริญพระคาถา ตามศรัทธาที่มีคนอาราธนานิมนต์ไปเท่านั้น ความจริงนั้นท่านใช้เวลาไม่ถึง ๕ นาทีก็เสร็จแล้ว
ถาม เหตุใดพระเครื่องแต่ละรุ่นของผู้นั่งปรกองค์เดียวกันจึงมีพลังหรือระดับของพระพุทธคุณไม่เท่ากัน
ตอบ ดังที่อธิบายแล้วว่า พลังของพระเครื่องและวัตถุมงคลขึ้นระดับของคุณธรรมของผู้ที่ปลุกเสก ว่าในขณะนั้นท่านอยู่ในระดับใด ดังนั้น พระของหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมของท่านในขณะนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเครื่องที่ท่านบรรจุพลังในระยะหลังๆจึงปรากฏว่ามีพลังสูงกว่ารุ่นแรกๆ ยิ่งถ้ารุ่นแรกห่างกันมากๆก็ยิ่งพบว่ารุ่นหลังมีระดับพลังสูงกว่า เพราะท่านมีการพัฒนาคุณธรรม หรือ ระดับแห่งจิตของท่าน หลวงพ่อหลายองค์ตอนท่านปรกรุ่นแรกนั้นท่านยังไม่ถึงจุดสูงสุดของท่าน แต่ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปท่านก็บรรลุจุดหมายปลายทางของท่าน พลังของพระเครื่องในยุคหลังๆจึงมักสูงกว่ายุคแรก
ตัวอย่างเช่น หลวงปู่องค์หนึ่ง ในระยะแรก ท่านบรรลุภูมิธรรมขั้นพระอนาคามีพระที่ท่านบรรจุพลังก็จะมีความเข้มข้นในระดับของพระอนาคามี แต่พออีกหลายปีต่อมาท่านได้บรรลุสภาวธรรมที่สูงกว่านั้น พระเครื่องที่ท่านอธิษฐานในครั้งหลังนี้ย่อมจะมีพลังในระดับสูงกว่าครั้งแรก ดังนั้น ถ้าจะหาเหรียญพระที่เชื่อว่าท่านบรรลุสภาวธรรมสูงจึงควรหาเหรียญรุ่นหลังๆไม่ใช่รุ่นแรก

 

ผมเองก็เป็นผู้ค้นคว้าหาความรู้คนหนึ่งเช่นกันครับ จวบจนได้พบครูบาอาจารย์หลายท่านชี้แนะ แน่นอน เรื่องธรรมก็สนใจ แต่ความชอบในของขลังก็อยู่ในสายเลือด แต่ก็ได้รับความเมตตาชี้แนะ

ในส่วนพระเครื่องผมไม่ได้ต้องลำบากมากเพราะมีครูบาอาจารย์ให้มวลสารมาเพียบ จนถือว่าอิ่มตัวแล้ว แต่ในส่วนเครื่องรางนั้นนับว่าหนักหนาและสาหัสยิ่งนัก เพราะต้องอาศัยผล มากำหนดเหตุ คือเราต้องการด้านไหนแบบไหน เราก็หามวลสาร แผ่นยันต์อักขระ และชนวนที่ตอบรับกับ ผลที่เราต้องการนั่นเอง
ดังผมเปรียบเทียบเหมือนสร้างบ้าน เราก็ต้องมีแบบแปลน ออกแบบมาก่อน แล้วหาช่าง วัสดุอุปกรณ์ที่ดีๆ จากนั้นก็ปรับพื้นที่ ถมที่ ลงเสา ขึ้นโครงบ้าน แล้วต่อเติม ซื้อเฟอร์ ตกแต่งจนได้ดังหวัง ไม่ใช่ไปซื้อบ้านสำเร็จรูป บ้านจัดสรร ซึ่งก็มักไม่ได้ดั่งใจหรอกครับ แถมแพงอีกต่างหาก

หรือจะกินอาหาร ก็ต้องกำหนดว่าเราชอบแบบไหน ใช้เนื้อสัตว์หรือผัก เครื่องปรุง ประกอบอาหาร จะทำมั่วๆ ก็เละกินไม่ได้

หลายปีก่อนผมเคยแนะนำแก๊งค์นักขาย (เพราะเขาชอบเอาของที่สร้างมาให้ผมดู ) ว่าไปเสกมากหลายที่ไม่จัดสรรให้ดีกระแสพลังจะตีกันนะ แก๊งค์นี้ชอบเสกข้ามปีข้ามชาติ ไม่รู้จะทำทำไม พอเช่ามานึกว่าจะดี แต่ก็มั่ว เละ ผมให้คนอื่นไปแล้ว
คำตอบพวกนี้ทำผมอึ้ง ทึ่งเสียว คือ "คนไม่เชื่อถือหรอก" คือพูดง่ายๆ คำตอบแสดงสติปัญญาจริง ๆ และดูถูกสติปัญญาคนซื้อซะอีก แต่เขาก็ขายได้นะ อ้างชื่อพระดังมาเสริมบารมี (เหมือนกรณีสัญชัยปริพาชกตอบพระสารีบุตร..)

โดยสรุป นับว่าผมทำได้ดังที่ต้องการด้วยอาศัยบารมีครูบาอาจารย์ชี้แนะตั้งแต่หาชนวนแล้วครับ และมี สมาชิกมาช่วยเหลือ + กับเพื่อน ๆ งานใหญ่เราไม่อาจทำคนเดียวได้ ...

 

หนึ่งในมวลสารสำคัญคือแผ่นจาร (ศิษย์ท่านจาร) และท่านพ่อจวน 102 ปี อธิษฐานจิตมอบให้ ผมได้มา 2 แผ่น นำหล่อเป็นชนวนแหวนปฐพีไร้พ่าย 1 แผ่น อีกแผ่นเก็บไว้อนาคต

ท่านพ่อจวนดังเล่าไป เป็นพระองค์เดียวที่ผมประทับใจสุด ๆ เพราะครั้งแรกไปขอท่านอธิษฐานจิตพระแหวกม่านกาสะท้อน ผมสัมผัสอะไรไม่ได้เลย แล้วก็ไปขอพระอีกท่านอธิษฐานรวม 2 ท่าน...ยังบ่นกับคนใกล้ชิด พระแถวนี้เสกกันนุ่มนิ่มแฮะ ไม่เหมือนแถวภาคเหนือเสกกันดุดัน

พอกลับโรงแรมนั่งสมาธิภาวนา ตกใจจิตรวมตัวได้รวดเร็ว ภาวนาได้เป็นชั่วโมงไม่วอกแวก เรียกว่ากว่าจะถอนออกมาได้ ต้องพยายามอย่างมาก เพราะเกิดปิติแบบสุด ๆ จนไม่อยากหยุด

ก็เลยพิจารณา องค์ไหนหว่าทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็คิดน่าจะเป็นท่านพ่อจวนเพราะท่านอาวุโสสูงสุด

เดือนถัดไป ก็ไปที่เดียว ก็เตรียมใจเต็มที่ พอท่านเริ่มให้พร ผมสะดุ้งเฮือกเลย (ชัดเจน) คุยกับพระดูแลท่านบอก ขนาดท่านร้อยกว่าปียังปฏิบัติอยู่ ท่านภาวนานั่งทีแข็งเป็นก้อนหินเลย

กลับโรงแรมเต็มที่ นั่งสมาธิ จิตรวมตัว นิวรณ์ไม่มี นั่งได้เป็นชั่วโมง แต่พลังเหล่านี้อยู่ได้ไม่นานครับ ไม่เกินอาทิตย์ จิตเราก็จะไปสัมผัสกับเรื่องวุ่นวาย ก็จะ Drop ลง

สรุป ... ชนวนผมจัดมาหลายปี แทบทุกด้านแล้วนะครับ ระดับปฐพีไร้พ่ายด้วย เลยกล้าตั้งชื่อ แหวนปฐพีไร้พ่าย...

สำหรับอานุภาพ เป็นอจินไตย อยู่ที่ผู้สัมผัสจะสัมผัสได้พบกระแสแบบไหนครับ ...

 

สถานที่ปลุกเสกวาระ 2 ครับ โชคดีแหวนเสร็จก่อน
ดังที่บอก ผู้ใดมีแหวนนี้จะไม่พบภัยจากธาตุทั้ง 4 แม้เกิดขึ้นตามธรรมชาติจริง ก็จะแคล้วคลาด อย่าไปเผลอด่าฝนนะครับ55
ห้ามด่าธาตุทั้ง 4 เน้อ

 

ก่อนปลุกเสกแหวน วาระ1 กับ 2 ผมกังวลอยู่ว่าจะมีน้ำท่วม ก็โชคดี ที่เสร็จเรียบร้อยดีก่อนน้ำท่วม ซึ่งภัยธรรมชาตินี้ ที่ฟังครูบาอาจารย์เล่ามาจะมีหนักยิ่งๆขึ้นไป
และภัยเศรษฐกิจด้วยครับ ที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้น การหลอกลวงฉ้อโกงก็จะมีให้เห็น
ส่วนสงครามก็เริ่มขึ้นแล้วครับ จะหนักขนาดใช้อาวุธร้ายแรงเมื่อไรก็ตอบไม่ได้ แต่มีแน่ๆ
ส่วนบ้านเราจะกระทบแค่ไหน ก็ยังต้องคอยระวังกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ เรื่องการทำมาหากินมีผลทุกคนแน่นอน
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ยังเชื่อมั่นในอำนาจกุศล ก็พึงดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท รักษาจิตใจให้มั่นคง มีอุเบกขากันให้มาก ผมเองได้แต่สร้างสิ่งมงคลให้เป็นกำลังใจได้เท่านั้นและกระจายไปทำกุศลที่ต่างๆ ประมาณอาทิตย์หน้าผมก็จะเริ่มทำบุญสำคัญตามที่เรียนครูบา และหลวงปู่ท่านไว้ละครับ แล้วจะมาโพสให้ชม ได้อนุโมทนาร่วมกัน

 

วันนี้เพื่อนฝากทำบุญ เลยไปทำบุญกับหลวงปู่มาครับ ท่านก็ใส่แหวนตลอดนะครับ ท่านย้ำว่า "เก็บไว้ให้ดีเลยรุ่นนี้ ทิ้งทวน!!!"
ผมได้เรียนท่านเรื่องประสบการณ์ต่างๆ ท่านว่าครบถ้วน ไม่ต้องเสกเพิ่มแล้ว กันงูทุกชนิด
และขอพรท่านเรื่องที่จะทำบุญให้ท่านต่อไปให้ราบรื่น
อีกไม่กี่วันขอให้ทุกท่านรับโชคกันนะครับ

 

เมื่อเช้าโทรหาเพื่อนทางใต้ เพราะเห็นข่าวน้ำท่วม ตรงที่ทำงานเพื่อนผม กับบ้านพักไม่โดนนะครับแปลกดี รอบนอกพื้นที่โดนเต็มๆครับ เขายังเอาแหวนให้คนขับรถเลยครับ เล่าให้หลวงปู่ฟังท่านก็ยิ้มว่า แปลกดี แต่ท่านก็ยืนยันห้ามด่าธาตุทั้ง 4 นะครับ เพราะเราจะไม่เดือดร้อนอะไร

 

เมื่อวานท่านใช้คำว่า "ครบ แล้วแต่อธิษฐาน โชคลาภยังไงต้องมาทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะครบทุกทาง"

 

ขอให้มีโชคกันถ้วนหน้านะครับ
ดังวาจาสิทธิ์ ที่หลวงปู่บอก "โชคลาภยังไงต้องมาทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะแหวนนี้ครบทุกทาง"

 

เนื้อชนวนก็มี ชนวนเงิน ทองคำผสมจากชนวนรุ่นก่อนๆนะครับ
เช่นชนวนแหวนรุ่นแรกที่มีก้านชนวน นวโลหะ และชนวนแหวนอสนีบาตพิฆาตเนื้อนวโลหะ ผมเห็นกะจายหลายวงในเนื้อชนวน