เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 11 กุมภาพันธ์ 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,511
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,511
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังตลาดโอ๊ะป่อย หมู่ที่ ๒ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ไปถึงเวลาประมาณตี ๕ กว่านิดหน่อย

    ตลาดโอ๊ะป่อยเป็นภาษากะเหรี่ยง แปลเป็นไทยว่า พักผ่อน เป็นสถานที่ซึ่งผู้ใหญ่บี (นายภัทรพงศ์ วงศ์กิจเกษม) เป็นผู้ที่ตั้งขึ้นมา โดยมีแนวความคิดว่า นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดราชบุรี ตลอดจนอำเภอสวนผึ้งมากมาย ทำอย่างไรจะให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นมาลงที่บ้านของตนบ้าง ? จึงได้อาศัยความเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยง จัดให้มีการใส่บาตรพระล่องแพ เมื่อถึงเวลาก็ให้พระขึ้นแพแล้วถ่อมารับบาตรจากบริเวณที่ตั้งตลาด

    ส่วนภายในตลาดนั้น ก็ให้ญาติโยมนำเอาสินค้า ตลอดจนกระทั่งอาหารต่าง ๆ มาจัดจำหน่าย โดยที่กำหนดเอาไว้ว่าห้ามซ้ำกัน เพื่อที่จะได้ตัดปัญหาการแข่งกันขาย แล้วอาจจะก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันได้

    ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ และประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ซึ่งได้ทำการเปิดตลาดชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนและตลาดริมแควเมืองท่าขนุนไปทั้ง ๒ แห่ง ต้องการที่จะไปดูว่าเขามีระบบการจัดการอะไรที่ต่างจากของเราบ้าง ? และมีอะไรที่เราจะเก็บมาใช้สอยในการบริหารจัดการตลาดทั้ง ๒ แห่งของตนได้บ้าง ?

    สิ่งที่เห็นชัดเจนอย่างที่สุดเลยก็คือ อันดับแรก ระบบการจัดการของเขาดีกว่า นักท่องเที่ยวทุกคนที่ไปถึงจะรู้กำหนดการว่า พระจะออกบิณฑบาตกี่โมง ? แต่ละท่านจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง ? อย่างเช่นว่าซื้อหาอาหารใส่บาตรจากที่ไหน ? ต้องไปนั่งรอในบริเวณไหน ? เมื่อถึงเวลาแล้ว จะมีการรับศีลรับพรกันอย่างไร ? ลำดับการใส่บาตรนั้น แต่ละแถวแต่ละช่วงต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ? จะมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบบอกกล่าวรายละเอียดเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา

    อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของความสะอาด ภายในตลาดโอ๊ะป่อยไม่มีถังขยะ ก็คือไม่ได้ตั้งถังขยะทั่วไป แต่ว่าให้ร้านค้าทุกร้านจัดเตรียมถังขยะเอาไว้ และแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวได้ทราบว่า เมื่อถึงเวลาแล้ว ท่านสามารถฝากขยะทิ้งกับทุกร้านในตลาดได้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,511
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีเด็ก ๆ ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนในหมู่บ้านนั่นเอง มาช่วยเก็บขยะในส่วนที่นักท่องเที่ยวมีความมักง่ายวางทิ้งเอาไว้ตามโต๊ะ ตามเก้าอี้ที่ตนเองนั่งกินอาหารหรือว่าดื่มน้ำ แล้วก็ช่วยจัดระเบียบรองเท้าให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปใส่บาตร ซึ่งบรรดาเด็ก ๆ นั้นก็ทำหน้าที่ของตนด้วยความรักในตลาด ซึ่งเป็นที่ทำมาหากินของพ่อแม่ แต่ว่าบรรดานักท่องเที่ยว เมื่อเห็นว่าเด็ก ๆ มาบริการให้ ก็มักจะมีรางวัลหรือว่าค่าทิปให้ ซึ่งท่านผู้ใหญ่บีบอกว่าบางคนได้หลายร้อย จนถึงระดับพันบาทต่อวัน..!

    ตลาดแห่งนี้เปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่ประมาณ ๗ โมงเช้าเป็นต้นไป ท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะนำอาหารหรือน้ำดื่มจากข้างนอกเข้าไปได้ เป็นการบังคับไปในตัวว่า ถ้าเข้าไปในตลาด ก็แปลว่าต้องไปจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะซื้ออาหาร น้ำดื่ม หรือว่าของที่ระลึกอะไรก็ตาม

    ความเข้มงวดอีกอย่างหนึ่งของเขาก็คือ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือว่าอาหาร จะต้องคงคุณภาพเดิมตลอดเวลา ถ้าหากว่ามีนักท่องเที่ยวกินอาหารหรือน้ำแล้วเหลือ จะมีเจ้าหน้าที่เดินไปสอบถามทันทีว่าเหลือเพราะเหตุใด ? อาหารรสชาติไม่อร่อย ? น้ำดื่มรสชาติไม่ได้อย่างใจ ? หรือว่ามีสาเหตุอื่น ๆ อีก ?

    ถ้าหากว่าอาหารไม่อร่อย น้ำดื่มรสชาติไม่ได้อย่างใจ ก็จะสอบถามนักท่องเที่ยวว่า ที่ว่าไม่อร่อยนั้นคืออะไร ? รสชาติที่ว่าไม่ได้อย่างใจนั้นคืออะไร ? แล้วก็นำไปบอกกล่าวแก่ทางเจ้าของร้านค้า เพราะว่าอาหารหรือว่าน้ำดื่มนั้นจะไม่มีการซ้ำกันอยู่แล้ว ใครเป็นเจ้าของอาหารชนิดใด สามารถที่จะตรงไปบอกเล่าให้แก่เจ้าของร้านได้ทราบเลย ในเมื่อเป็นเช่นนี้จึงสามารถที่จะรักษาคุณภาพความสด ความอร่อยของอาหาร ตลอดจนกระทั่งรสชาติที่ถูกใจของน้ำดื่มเอาไว้ได้

    ในส่วนนี้ทางสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ จะต้องนำมาเพื่อปรับปรุงบริการของตลาดชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน และตลาดริมแควเมืองท่าขนุนทั้ง ๒ แห่ง โดยเฉพาะต้องพยายามที่จะอดทนอดกลั้น ในลักษณะเดียวกับที่ผู้ใหญ่บีทำมา เพราะว่าเมื่อเขาทำมาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้น หากแต่มีสารพันปัญหาให้ต้องแก้ไข ถึงขนาดท่านผู้ใหญ่บอกว่า จากคนปกติก็กลายเป็นความดันสูง ถึงขนาดต้องกินยาลดความดันกันเลยทีเดียว..! กว่าที่จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นฝ่าฝันอยู่หลายปี
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,511
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เมื่อเสร็จจากตรงนั้นแล้ว ก็มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้ใหญ่บีและถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็แยกออกจากคณะใหญ่เพื่อตรงไปยังตลาดเฌอซี้ญ่า หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าตลาดไกวเปล เพราะว่าเป็นสถานที่ซึ่งอยู่ในดงต้นหมาก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คือไร่หมากของชาวกะเหรี่ยงนั่นเอง

    แต่ว่าภายในดงหมากนั้นได้ทำความสะอาด กั้นเขตให้สำหรับบุคคลที่จะไปกางเต็นท์นอน ส่วนรอบบริเวณที่มีต้นหมากอยู่นั้น ก็มีการแขวนเปลเอาไว้สำหรับนอนพักผ่อนได้ฟรี จะซื้อสินค้าหรือว่าไม่ซื้อสินค้าของเขาก็ตาม จะเดินชมสถานที่อย่างเดียวหรือว่าจะดูการแสดงของเด็ก ๆ ก็ได้ ไม่มีการเรียกเก็บเงินแต่ประการใด ยกเว้นว่าท่านจะซื้อข้าวปลาอาหารหรือว่าของที่ระลึกเท่านั้น

    ส่วนที่ตลาดไกวเปลนี้มีมากกว่าของทางวัดท่าขนุนก็คือ เขาจัดจุดสำหรับถ่ายรูปเอาไว้เยอะมาก เดินเข้าไปในตลาดเล็ก ๆ มีจุดถ่ายรูป ๗ - ๘ แห่งเข้าไปแล้ว ซึ่งการสร้างจุดสำหรับถ่ายรูปในลักษณะของจุดเช็คอิน หรือความเป็นจุดเด่นของตลาดนั้น เท่ากับเป็นการโฆษณาไปในตัว เพราะว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่มาได้ถ่ายรูป ก็ต้องนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กบ้าง อินสตราแกรมบ้าง หรือว่าลงในกลุ่มไลน์ ลงใน TikTok ซึ่งตรงจุดนี้เท่ากับช่วยโฆษณาให้กับเขาโดยปริยาย

    ตลาดไกวเปลกับตลาดโอ๊ะป่อยเป็นตลาดที่อยู่เนื่องกัน เพราะว่าห่างกันแค่ประมาณ ๑ กิโลเมตรครึ่งเท่านั้น กระผม/อาตมภาพเข้าไปเที่ยวยังตลาดไกวเปล แต่ว่าคณะใหญ่นั้น รถทัวร์สองชั้นไม่สามารถที่จะซอกแซกได้ ก็ตรงไปยังตลาดมอญห้วยน้ำใส ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมากนัก

    กระผม/อาตมภาพเมื่อเข้าไปที่ตลาดไกวเปล ชมดูกิจการและสิ่งที่เราควรศึกษาเพื่อนำมาปรับปรุงของเราแล้ว ก็ได้วิ่งตรงกลับไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เพื่อที่จะเยี่ยมสนามอบรมบาลีก่อนสอบ ซึ่งวันนี้เป็นวันปัจฉิมนิเทศ ตลอดจนกระทั่งการซักซ้อมทำปัญหาเป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้ก็จะเป็นพิธีปิดการอบรมแล้ว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,511
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เมื่อเยี่ยมห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เซ็นชื่อในฐานะกรรมการอำนวยการ แล้วเดินทางต่อไปยังฌาปนสถานวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เพื่อร่วมงานพระราชทานเพลิงศพคุณพ่อธวัชชัย เวชสุวรรณมณี โยมพ่อของหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ ซึ่งมีพระราชทานเพลิงศพตอน ๔ โมงเย็น

    เมื่อไปถึงก็ได้กราบท่านเจ้าคุณอาจารย์พระศรีสุธรรมเวที (พิพัฒน์ จนฺทูปโม ป.ธ.๙) ตลอดจนกระทั่งทักทายท่านอาจารย์พระมหาชาญชัย ชยาภิภู ป.ธ. ๗ ซึ่งทั้งสองท่านนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นพระอาจารย์สอนบาลีให้กับพระนักเรียนวัดท่าขนุนมาก่อน

    ท่านอาจารย์พระมหาชาญชัยยังบ่นว่า ตัวเองเกษียณ เลิกเป็นวิทยากรงานอบรมบาลีก่อนสอบแล้ว แต่ยังคิดถึงนักเรียนบาลีวัดท่าขนุนเสมอ เพราะว่านักเรียนบาลีวัดท่าขนุนนั้นขยัน ตลอดจนกระทั่งมีวัตรปฏิบัติที่เข้มงวด จึงทำให้ไปอยู่ที่ไหนก็เป็นหน้าเป็นตาแก่ครูบาอาจารย์ไปด้วย

    เมื่อได้เวลา กระผม/อาตมภาพก็ขึ้นพิจารณาผ้าไตรบังสุกุล พร้อมกับวางดอกไม้จันทน์ในงานพระราชทานเพลิงศพคุณพ่อธวัชชัย เวชสุวรรณมณี หลังจากนั้นก็ได้ลาหมอนุ้ยและญาติพี่น้อง เดินทางกลับยังที่พักวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อรอไปร่วมพิธีปิดการอบรมบาลีก่อนสอบที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ในวันพรุ่งนี้ ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเสาร์ แต่รถราก็นับว่าติดเอาเรื่องทีเดียว จึงทำให้การบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในวันนี้ล่าช้าไปครึ่งชั่วโมง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...