เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

สวัสดีปีใหม่คุณอาวันวิฯ และสมาชิกทุกๆท่านครับผม
นักขุดกรุมือขลัง.ผจญแดนป่าอาถรรพ์ ( ตอนยาวพาร์ทที่ 7)

ขอบคุณครับ

 

อื้อฮือ ทำน้ำมนต์เองไม่ต้องพึ่งใคร พึ่งกำลังใจ พึ่งพระที่มีอย่างเดียว ก็นับว่าใช้ได้น้องจิ้ง หยดเทียนเป็นดอกดวงสวยอีกต่างหาก ไม่ขลังก็ต้องขลังละนะ ระวังจะกลายเป็น "จอมขมังเวทย์"-ฮ่า

อันที่จริงการทำน้ำมนต์เองแบบนี้ ถ้าเทียบเป็นตัวเลข 10ส่วน ก็น่าจะใช้ได้สัก 5 ส่วนหรือครึ่งเดียว เพราะวัตถุมงคลแต่ละอย่างมีพุทธคุณแตกต่างออกไป เปรียบเสมือนยาแก้โรค แม้แก้ได้ แต่ไม่ตรงกับโรคนัก หรือแก้ไม่ถูกจุด 'เกาไม่ถูกที่คัน'!

การทำน้ำมนต์ ถ้าเหวี่ยงแหอย่างนี้ ต้องมี "พระกริ่ง" เป็นหลัก ด้วยพระกริ่งส่วนใหญ่ได้รับการประสิทธิ์ด้านนี้ไว้โดยตรง ส่วน "พระเครื่อง" น้อยนักที่จะประสิทธิ์ประสาทพุทธมนต์ให้ทำน้ำมนต์ ยกเว้นพระที่ตั้งใจสร้างทางนี้เช่น เหรียญทำน้ำมนต์หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง,หรียญทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี วัดป่ากุง,เหรียญจันทร์เพ็ญมหาปรารถนา หลวงปู่คำพันธ์ เป็นต้น นั่นแหละจึงเป็นยารักษาตรงโรค

อย่างไรก็ต้องชมเชยน้องจิ้งว่า แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าทำได้ดี อย่างโบราณท่านว่า...ยามไร้ เด็ดดอกหญ้าแซมผม นั่นแล!

 

ชุดแรกของปีใหม่ที่เดินทางสู่อีสานใต้ดินแดนปราสาทสายฟ้า บารมีของท่านคุ้มครองให้มีแต่ความสวัสดีมีชัยตลอดปีกระต่ายน้อยครับน้องศิวะ

 

น้องปรายฯทักแรกของปียามหัวค่ำ
ตอบยามใกล้สี่ทุ่ม พอถ่างตา(เจ็บ)ไหว

 

เพลงยาว...เอ้ย ตอนยาว เรื่องเล่าทางเสียง เดินทางมาต้อนรับปีกระต่ายเต้นด้วยตอนมันส์ประจันกับเสือสมิงและ'คุณนง'เสือมีเขาอร่อยเหาะ เคยอ่านแล้วก็ฟังซ้ำได้ มีอรรถรสต่างกับการอ่านไม่น้อย เหมาะกับการเสียบหูฟังเพลินหลับไปในยามราตรีอย่างมีความสุข

สุขใจแล้วอย่าลืมตอนตื่นขึ้นมา เคาะให้กำลังใจ"น้องทำจิตฯ" คนละสักจึ้กส์สองจึ้กส์ เพื่อให้ผู้บรรยายมีค่าน้ำชากาแฟลื่นคอคล่องคอ เสียงหล่ออยู่เสมอ-ฮ่า

ตอนยาวฟังอิ่มเอมอย่างนี้อีกไม่กี่ทีก็หมด ผมควรรีบขมวด "บทส่งท้าย" ในเร็ววันนี้ เพื่อไม่ให้วัตถุดิบของน้องทำจิตฯขาดแคลน รอให้ลูกกะตาที่เคืองบ่อยๆสามารถนั่งหน้าจอได้นานกว่านี้ อีกสักนิดครับ

 

"หลวงพ่อโสธร" เนื้อผง
รุ่นสร้างอุโบสถ-ปี2535
===============

ส่ง "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" ต้อนรับปีใหม่ไปแล้ว จะละเลยพระพุทธรูปยิ่งใหญ่บ้านพี่เมืองน้อง ล่องสายธารามาด้วยกันก็กระไร

ยังมี "หลวงพ่อโสธร" กับ หลวงพ่อวัดเขาตะเครา 3สหายแห่งตำนานในสายน้ำ ที่ต้องจัดมาให้ครบองค์ประชุม!

นำ "หลวงพ่อโสธร" ไปบูชาก่อน องค์จริงท่านตอนนี้กำลังถูกบูรณะ "ลงรัก-ปิดทอง" ฟื้นฟูรูปลักษณ์ให้ใหม่ สดสวยเสมอ สมกับความเป็นพระพุทธรูปขวัญใจมหาชน!!!

พระเนื้อผงกล่องเดิมสร้างไว้ 30 ปี แล้ว คราวสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ร่วมบุญต้อนรับปีใหม่เพียง...

=======300=======

ความงามที่ไม่เคยต้องมือใคร อยู่ในกล่องมา 30 ปี รุ่นเหล่านี้ บูชาด้วยตัวเองมาจากวัดทั้งสิ้น เพราะต้องไปทำบุญปีละครั้งจากการยกลูกสาวที่ป่วยบ่อยตอนเด็กให้เป็นลูกหลวงพ่อ

หลังยันต์ห้าเล็ก ซึ่งมีทั้งยันต์ห้าใหญ่ด้วย เนื้อหารุ่นนี้ดีมาก เพราะผสมมวลสารมงคลหลายอย่างจากโบสถ์เก่าศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการกราบไหว้บูชาจากผู้คนหลายล้านมายาวนาน!
ตามประสากระทู้เราที่ต้องฉายองค์พระครบทุกด้าน พระชุดนี้ใส่เนื้อหาเต็มที่ ถึงจะปั้มเครื่องแต่ด้านข้างก็หนามาก กล่องเดิม เก่าดี มีเสน่ห์ มีสกุลรุนชาติ

 

"วัดเขาตะเครา"-ปรกโพธิ์
พิมพ์ที่ขายเป็น'ลพ.กวย'!
===============

รายละเอียดทั้งหมดของ พระพิมพ์นี้ อยู่ที่หน้า 3,610 เชิญเปิดย้อนไปอ่านได้ เขียนไว้ยาวสะใจละเอียดยิบ

นำ '"หลวงพ่อวัดเขาตะเครา" พิมพ์ปรกโพธิ์ ถูกวัด ถูกหลวงพ่อ ถูกต้องความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่จำเป็นต้องอ้างอิงเป็นอื่นเพื่อขายทำราคา เพราะ หลวงพ่อวัดเขาตะเครา ก็คือพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมือง มายาวนาน ท่านผู้สร้างพระผงปรกโพธิ์รุ่นนี้ก็ระดับ "พระทองคำ" เมืองเพชรฯ อย่างไม่มีใครเถียง!

กล่องเดิม งามเด็ด เพชรแห่งเมืองเพชรฯ ส่ง พระพุทธรูป 3 พี่น้องออกมา "สวัสดีปีใหม่"มอบพรแด่แฟนกระทู้พร้อมกัน เชิญร่วมบุญสบายกระเป๋า...

=======300=======

พระปรกโพธิ์เนื้อผงชั้นดีเมืองเพชรฯ ที่โดนแปลงประวัติขายเป็นพระ "หลวงพ่อกวย" เมืองชัยนาท มาหลายปี ตอนนี้รู้ประวัติชัดเจน ก็เล่นหาสะสมบูชากันให้ถูกวัด ถูกหลวงพ่อ ซึ่งจะเป็นวัดไหน หลวงพ่อใด ก็ล้วน ขลัง ศักดิ์สิทธิ์คู่ควรบูชาทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องย้ายวัด

หลังเป็นครีบหรือที่เรียก'กาบหมาก'สัญลักษณ์พระเนื้อผงชั้นยอดรุ่นนี้
พระหนาวางตั้งได้ กล่องเก่าบันทึกรายละเอียดตามวาระสร้างครบ

 

วันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันพุธ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๒ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เรียบเรียงใหม่ตามคำแนะนำของผู้รู้
ดังนี้ค่ะ
พระกริ่ง 2 องค์
องค์ซ้าย พระกริ่งปทุมอิติวโร พอจ.เอราวัณ จ.ปทุมธานี (องค์นี้เพิ่งได้มาใหม่เอี่ยมจากการร่วมบุญช่วงปีใหม่)
องค์ขวา พระกริ่งวัดตาลบำรุงกิจ จ.ราชบุรี (พระมรดกจากลุงกับป้าที่เป็นครู อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี)
องค์กลาง (ตามคำแนะนำ) เหรียญทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี (พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ) หนูเคยได้ไปร่วมสัมมนา จึงมีได้รับเหรียญทองแดงองค์เล็กๆ ไว้ตั้งแต่ปี 2552

ถัดมาอีกแถว
เป็นพระพิฆเนศ (หลังพ่อขุนรามฯ) กับ ปู่ชีวกค่ะ



ถ้าเปรียบเหมือนดนตรี ก็เป็นบทเพลงที่ตรงกับเรื่องราวแล้วคราวนี้
จัดการจุดเทียนบูชาพระ สวดมนต์ ทำสมาธิ หยดน้ำตาเทียน

นัยยะให้ครบธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ดิน (ก็ตัวเรานี่แหล่ะธาตุดิน)
น้ำ (น้ำในกาย-น้ำมนต์ในขัน)
ลม (ลมในกาย-ลมสวดพระคาถา)
ไฟ (ไฟในกาย-ไฟจากเปลวเทียน)

ดอกน้ำตาเทียนสวยงามขึ้นจริงๆด้วย

สบายใจ

นำรูปมาให้ดูค่ะ...หนูเองเป็นคนกลุ่มศรัทธาจริต
เมื่อผู้ใหญ่แนะนำมาก็ทำเลย ด้วยใจศรัทธาเต็มดวง

น้ำตาเทียนเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึก เลยหยิบของเมื่อวานมาถ่ายรูปด้วยกันดูค่ะ

หมายเหตุ
พระที่อาราธนา
รอบแรกเมื่อวันก่อน

พระที่อาราธนาลงแช่ทำน้ำมนต์ คือ พระอุปคุต (ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง)
หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร
หลวงปู่ทวด (หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา)
ลูกแก้วสารพัดนึก (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
ดอกพิกุล (พอจ.เอราวัณ จ.ปทุมธานี)
พระพิฆเนศ (ที่ใส่อยู่บนคอ)

 

ยามเช้าตีนฟ้ากำลังเปิดที่ปักษ์ใต้ดูทีท่าอากาศดี ผิดกับเมืองกรุงเช้านี้อึมครึมไร้แดด ร่วมอนุโมทนาบุญให้จิตใจผ่องใส ก่อนลุยงานกลางสัปดาห์

 

อย่างแรก ผลึกเทียนจากน้ำมนต์ทึ่องค์ประกอบถูกต้อง มีรัศมีดอกดวงทุกดวง ผิดกับวันแรกที่เป็นรัศมีบ้าง ไม่เป็นบ้าง แม้แต่ฝรั่งก็เชื่อเรื่อง พลังที่สื่อผ่านน้ำว่าเป็นพลังที่สามารถ "ปัดเป่า" ความเลวร้ายได้จริง

อย่างต่อมา เมื่อทำน้ำมนต์แบบนี้แล้ว ลืมแนะนำไปอีกเรื่องว่า ถ้าหากมี "น้ำมนต์เดิม" ที่รับมาจากวัด ควร "เติม"ลงเป็น"หัวเชื้อ" เล็กน้อย เติมด้วยวิธีรินน้ำมนต์เดิมลงในหม้อที่กำลังจะทำน้ำมนต์ใหม่ ห้ามเติมน้ำที่จะทำน้ำมนต์ใหม่ ลงในน้ำมนต์เดิมเป็นอันขาด อ่านให้ดีอย่าทำกลับกัน

อย่างอื่นก็ดีแล้ว ไม่ว่าวัตถุมงคลทุกชนิดที่สาธยายมา ล้วนช่วยเสริมเพิ่มพลังงานด้านดีทั้งสิ้น

 

"พระทราวดีชนะสงคราม"!!
รูปหล่อโลหะผสมกล่องเดิม
===============

"วัดชนะสงคราม" ชื่อวัดก็กินขาด ยิ่งประวัติวัดก็ยิ่งเด็ดขาด สมกับเป็นวัดแห่ง"ชัยชนะ"ของยอดนักรบผู้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของชาติ!!!

เขียนประวัติเรื่องเหล่านี้ ไม่มีทางเขียนและมีข้อมูลเชิงลึกได้ดีกว่านักเขียนผู้มีอาชีพค้นคว้าคร่ำหวอดด้านนี้

*** จึงขอลอกข้อเขียนทั้งดุ้นจาก "ศิลปวัฒนธรรม แม็ก.คอม" อีกครั้ง เรื่องนี้เผยแพร่ออนไลน์...วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565...อย่าลืม ทุกท่านสามารถเข้าไปดื่มด่ำกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติ,บุคคล,สถานที่น่าทึ่ง ได้ที่เว็บนี้ด้วยตัวท่านเองทุกเมื่อ ***
------------------------

ที่มาชื่อวัด"ชนะสงคราม"และ
เรื่องเล่าทัพวังหน้า"พระยาเสือ"
ถวาย'เสื้อยันต์' บูชาพระ
---------------------

ธรรมเนียมไหว้พระ 9 วัด ในโอกาสสำคัญต่างๆที่นิยมในปัจจุบัน มักมี " วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร" รวมรายการอยู่ด้วย เพราะยึดเอาชื่อของวัดที่เรียกว่า "ชนะสงคราม" เป็นความหมายมงคลให้ผู้ไปกราบไหว้ "ชนะ" หรืออย่างน้อยผ่านเรื่องต่างๆไปด้วยดี ซึ่งเป็นนามที่พระราชทานภายหลังชนะศึกสงคราม


วัดชนะสงครามราชวรวิหาร เป็นวัดเก่า แต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเรียกกันว่า "วัดกลางนา" สมัยกรุงธนบุรีเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดตองปุ" สันนิษฐานว่าเลียนแบบชื่อวัดของพระสงฆ์รามัญในสมัยอยุธยา..."สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท" ทรงการให้อุปถัมภวัดตองปุ และได้สถาปนาพระอารามขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม ส่วนชื่อ "วัดชนะสงคราม"นั้น รัชกาลที่ 1 พระราชทานเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ( หรือ วังหน้าพระยาเสือ) สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าที่ทรงชนะศึกกับพม่าถึง 3 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนั้นคือศึกใหญ่กับพม่าที่เรียกว่า "สงครามเก้าทัพ"!

เมื่อได้ชัยชนะศึกดังกล่าวกลับมา สมเด็จพระบวรเจ้ามหาสุรสิงหนาท และแม่ทัพนายกองในทัพของพระองค์ได้ถวาย "เสื้อยันต์" ที่ทรงสวม/สวมออกศึก ถวายแก่พระพุทธรูปภายในพระอุโบสถเป็นพุทธบูชา ดังที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า

"เดิมนั้น ทั้งองค์พระ (พระประธาน-พระพุทธนรสีห์ฯ) และฐานพระประธานมีขนาดเล็ก ภายหลังได้ซ่อมแซมให้สูงขึ้นอีก ดังที่ปรากฏทุกวันนี้ ด้านหน้ามีพระอัครสาวกซ้าย-ขวา 2 องค์ เป็นพระปูนปั้นเช่นกัน เดิมนั่งประนมมือ มาเปลี่ยนภายหลังให้ยืนประนมมือ และรอบๆพระประธานมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย 15 องค์ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก 5 องค์ ทิศตะวันตก 4 องค์ ทิศเหนือ 3 องค์ ทิศใต้ 3 องค์ เหนือพระประธานมีฉัตร 7 ชั้นกางกั้นอยู่ อันหมายถึงพระสัตปฏลเศวตฉัตรของกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ด้านหลังพระประธานประดิษฐานพระสังกัจจายน์ 1 องค์

คติพระประธาน 16 องค์นี้สันนิษฐานว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงนำแบบอย่างมาจากวัดชุมพลนิกายาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามคติโบราณนับถือกันมาก ถือว่าทรงพระคุณในการประสิทธิประสาทชัยชนะเหนือศัตรู ถึงบัญญัติอักษรย่อขึ้นแทนพระนาม เรียกว่าหัวใจคือ "นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออ นอกะ นะอะกะอัง" ผูกเป็นยันต์เรียกว่า..."ยันต์พระเจ้า 16 พระองค์"

ด้านหลังพระประธานมีพระพุทธรูปอยู่ในคูหา 4 ช่อง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ 2 องค์ ปางห้ามญาติทรงเครื่อง 2 องค์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง

ในเรื่องของพระประธานนี้มีเรื่องกล่าวกันว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท หลังจากเสด็จกลับจากศึกสงครามเก้าทัพ ครั้งนั้นได้ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์ ทรงถวายฉลองพระองค์ลงยันต์ (เสื้อยันต์) คลุมองค์พระประธาน และโปรดให้แม่ทัพนายกองทำเช่นนั้นเหมือนกัน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แล้วโปรดเกล้าฯ ให้โบกปูนทับอีกชั้นหนึ่ง ทำให้พระองค์ใหญ่ขึ้น ต่อมาในสมัยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นเจ้าอาวาสได้พอกปูนเพิ่ม ปรับองค์พระให้งดงามและใหญ่โตยิ่งกว่าเดิม แล้วยกฐานชุกชีให้สูงขึ้นดังเช่นปัจจุบันนี้"
-----------------------

เรื่องราวเหล่านี้ ทำให้เราเห็นชัดเจนว่า..เครื่องรางของขลังของยอดนักรบไทยโบราณตั้งแต่ระดับเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ลงมาถึงแม่ทัพนายกองทั้งปวง..."เสื้อยันต์"สำคัญที่สุด ติดตัวตลอดเวลา เป็นเสื้อเกราะเป็นเพื่อนตายเหนือกว่า เครื่องรางทุกยี่ห้อ ทุกประเภท ทุกชนิด !!!

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ "วัดชนะสงคราม" ผ่านไป เชิญมาพบ พระรูปหล่อวัดชนะฯ เรียกขานว่า รูปหล่อพระทราวดีชนะสงคราม พระฐานบัว เนื้อโลหะผสมไม่มีกริ่ง สร้างราวปี 2550 มอบร่วมบุญด้วยกล่องเดิม...

=======500========

รูปหล่อทราวดีชนะสงครามฐานบัว หากเป็นหนังจีนกำลังภายในต้องเรียกขานวัดนี้ว่า..."เทพสงครามผู้ไร้พ่าย"!!!

คติของการบูชาพระวัดชนะสงครามก็เป็นเช่นนั้น วันนี้ต้องต่อสู้กันด้วย "สงครามเศรษฐกิจ" เอาไปติดตัว ติดบ้าน ติดคอ ไว้บ้างเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เป็นศิริมงคลช่วยหนุนสู้ศึก!

เนื้อโลหะผสมแก่ทองแดง ผิวกำลังกลับตามอายุ หล่อตัน ไม่มีกริ่ง

ด้านข้างกับใต้ฐาน

ขนาดโตกว่าพระชัยวัฒน์
แต่เล็กกว่าพระกริ่งทั่วไป
แขวนเดี่ยวดี เข้าชุดสวย
กล่องเดิม ไม่ผ่านการใช้

 

ขอบคุณค่ะคุณอา หนูมีน้ำมนต์เติม Topping เพิ่มไปด้านบนสุด (ประมาณ1-2ช้อนชา)
คือ น้ำมนต์หลวงปู่โต วัดระฆังค่ะ

ขอถามเป็นความรู้ค่ะ เนื่องจากหามาสักพักแล้วยังไม่เจอ
พระองค์ใหญ่ที่พุทธมณฑล
พระศรีศากยะทศพลญาณ

มีบทสวดอาราธนาไหมคะ

 

แจ่มแจ๋วเลย ครบสูตรตามตำราไม่มีอะไรกังขา สมาชิกที่อ่านแล้ว ประสงค์ทำน้ำมนต์เองบ้าง ไม่ต้องถ่อไปอาบที่วัดให้เหนื่อยและยุ่งยาก เป็นผู้หญิงบางทีก็ลำบาก มันประเจิดประเจ้อเรื่องเครื่องนุ่งห่มพิกล ก็ " จัดเอง-จัดเต็ม" ตามนี้ได้ทุกท่าน

บทสวดทำน้ำมนต์ก็ไม่ยาก เปิด"อากู๋" ขอความรู้ พิมพ์ว่า "บทสวดทำน้ำมนต์" ก็จะขึ้นมาให้อ่านตาลาย เลือกเอาบทที่ ต้องกับจริต บทที่ชอบ....สบม. สบายมาก!

 

ตอบน้องจิ้งไวๆ ไม่เห็นคำถามด้านล่าง บทสวดบูชา "พระศรีศากยะทศพลญาณ พุทธมณฑลมีไหม?

ตอบไวๆ ไม่ได้ค้นตำรา ท่านอาจมี แต่ที่นึกได้ตอนนี้ไม่มีบทสวดบูชาจำเพาะ เพราะท่านเป็นพระใหญ่ศูนย์รวมใจอยู่ในพุทธสถานใหญ่ที่สุดของประเทศ ควรสวดบูชาด้วยบท "อิติปิโส 3 ห้อง" น่าจะดีที่สุด

ส่วนคนวันจันทร์ กล้อมแกล้มได้ว่า เป็นพระปางห้ามญาติวันจันทร์ ก็สวดบทปจว.ตนเอง

คนที่ชื่นชอบ "ปางลีลา" มีแต่ความก้าวหน้า ประทานพรสูงสุดของท่าน ก็สวดบทไหนก็ได้

พระศรีศากยะทศพลญาณ เป็นศูนย์รวมใจชาวพุทธ ทุกบทจึงสวดได้หมด ไม่ขีดวงจำกัดเอาไว้

 

น้องคัมภีร์เป็นอัศวินขี่ม้าขาวตัวน้อย ไขข้อข้องใจน้องจิ้งเรียบร้อย ท่านอื่นๆก็เป็นผลพลอยได้ ใช้อาราธนาพระพุทธ 25 ศตวรรษทั้งเนื้อชิน-เนื้อดิน ก็ได้ทันทึ หรือจะไปกราบท่านที่พุทธมณฑล ก็มีบทสวดพระพุทธมนต์ต้องตามตำรา

ขอบคุณฝีมือการค้นคว้าของน้องคัมภีร์ มีทีเด็ดไม่แพ้ใคร

 

หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
แม่นางกวักเนื้อดินยุคต้น
ผสมแร่พิเศษ แม่เหล็กติด
===============

พระเนื้อดิน สร้างก่อนวัตถุมงคลทุกชนิดสำหรับพระบ้านนอก เพราะวัตถุดิบหาง่าย สมัยโบราณดินกรุ พระกรุแตกหักมีเกลื่อนทุกจังหวัด

แม่นางกวักพิมพ์โบราณ หลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งหนองโพ นครสวรรค์ ก็ได้วัตถุดิบดังที่ว่ามารังสรรค์แจกญาติโยมที่หลั่งไหลมาพึ่งใบบุญ

สมัยเก่าก่อนไม่มีอะไรดีกว่า "แม่นางกวัก" ให้คนไปค้าขายทำมาหากิน ส่วนพวกผู้ชายก็แจกของหนักอย่างที่รู้กัน ไม่ว่ามีดหมอ ตะกรุด และพระงาแกะยุคต่อๆมา

แม่นางกวักเนื้อดินองค์นี้ ยังผสมแร่วิเศษบางอย่าง เมื่อบวกกับเนื้อดินกรุเก่าก่อน จึงไม่แปลกใจที่ "แม่เหล็กดูดติด" ทุกด้านทั่วองค์ ติดแบบล้มใส่ ไม่ใช่กระโจนใส่ เป็นหนึ่งในความอัศจรรย์ของพระเนื้อดินโบราณ ผลงานอริยสงฆ์ไทยที่สามารถทำให้วิทยาศาสตร์ทึ่ง อึ้ง ได้เหมือนกัน

ส่งอริยเจ้าหมายเลข 1 นครสวรรค์ตลอดกาลให้ร่วมบุญบูชา วัตถุมงคลที่เป็นอกาลิโก เหนือกาลเวลาของท่านอีกแบบหนึ่ง ด้วยราคาพิเศษต้อนรับปีใหม่ ฉลองตรุษจีนล่วงหน้า เพื่อค้าขายคล่องตัว...

=======1,800=======

เนื้อดินโบราณที่ส่องมันส์ไม่แพ้เนื้อพระกำแพง แสดงชัดว่าผสมมวลสารพระกรุดีๆไม่ใช่น้อย แทบจะเป็นเนื้อพระกรุล้วนเอามาบดละเอียด กรองสกปรกทิ้งแล้วขึ้นรูป ขึ้นองค์ใหม่ เนื้อพระจึงสะอาดปราศจากขี้กรุ คราบสกปรก แต่ "ความเก่า" ดูตาเปล่าก็ชัดว่า เนื้อพระยุคก่อนปี 2500

ศิลปแม่นางกวัก สไตล์ "หลวงพ่อเดิม" ชัดเจน เปิดชมพระนางกวักเนื้องาของท่านได้ เค้าโครงเดียวกัน!

กดมือโบราณ ปั้นแต่งหลังอูมน้อยๆ ไม่มีร่องรอยผ่านการเผา ชัดเจนว่ามวลสารคือพระเนื้อดินกรุกำแพงส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเนื้อดินผสมว่านเกสร มักไม่ผ่านการเผาเช่นกัน และส่วนใหญ่ "แม่เหล็กดูดติด"!
ชมด้านข้างกับขนาดกำลังเหมาะติดตัวบูชาเป็นมหาลาภ ค้าขายราบรื่น เป็นมหาเสน่ห์ในตัว เพราะมี ผงวิเศษ-แร่พิเศษ ผสมไว้ด้วย!

 

มุยังไม่ได้จัดส่งพัสดุนะคะ รออีกท่านแสดงตัวหากล่าช้า ต้องบอกนิดนึงว่าอย่าพึ่งน้อยใจกันนะคะ มุงานเยอะจริง บางทีพอทำงานราชการ ต้องกัดฟัน ทำได้ทุกอย่าง แต่พอเห็นสิ่งที่ให้งอกงาม ความเหนื่อยล้าของมุหายไปหมดสิ้น เมื่อวานมุถามหลวงตาว่า ปีนี้ หลวงตาจะเลี้ยงไอศครีมในวันเด็กหรือไม่ หากจะจัดมุก็ตั้งใจจะร่วมสมทบด้วย

หลวงตากลับบอกว่า "โยมดร. ตอนนี้ทางโรงเรียนเชิญหลวงตาให้สอนสมาธิให้นะ ทุกเย็นวันศุกร์" พอได้ยิน มุเลยถวายปัจจัยไป แล้วแต่หลวงตา จำได้เวลาฝึกสมาธิสมัยก่อน เย็นๆ หิว บางทีหากได้กินน้ำเต้าหู้สักหน่อย ก็ช่วยได้ เลยถวายแล้วแต่หลวงตาจัดการ เผื่อหลวงตาจะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่หลวงตา เด็กๆจะได้ธรรมะติดตัวไป ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็ยังดี เป็นโครงการดีๆ หลวงตาก็จะเดินทางจากวัดไปที่โรงเรียนเอง เป็นเรื่องน่าชื่นใจไม่น้อย ไว้มุจะเล่าอย่างละเอียดให้คุณลุงและสมาชิกฟังนะคะ วันนี้แวะมาส่องพระของคุณจิ้ง น้ำมนต์ และ ส่องเกร็ดความรู้จากคุณลุงค่ะ