เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 มกราคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๖

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2023
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ พวกเราก็ได้ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ส่งท้ายการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมรุ่นที่ ๑/๒๕๖๖ ไปแล้ว

    ปรากฏว่าเมื่อเช้านี้ช่วงบิณฑบาต กระผม/อาตมภาพเห็นว่าชาวทองผาภูมิของเราแพ้นักท่องเที่ยวอย่างราบคาบ..! ไม่ว่าจะตลาดชุมชนวัดท่าขนุน ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน กระทั่งตลาดคนนั่งยองทองผาภูมิ ไม่มีอะไรให้นักท่องเที่ยวซื้อเลย หมดเกลี้ยงทุกอย่าง..!

    ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ ? การขายสินค้าได้หมดถือว่าประสบความสำเร็จ แต่การที่ไม่สามารถจะยืนระยะอยู่ได้จนกว่านักท่องเที่ยวจะหมด ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จอย่างแรง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นวิสัยของพ่อค้าแม่ค้า ก็คือว่ากลัวที่จะมีของเหลือ จึงไม่ได้คิดที่จะทำเผื่อไว้ ทำให้นักท่องเที่ยววันนี้ไม่มีอะไรให้ซื้อหา นอกจากเดินถ่ายรูปสถานที่กันเท่านั้น..!

    นิสัยคนทองผาภูมิ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยุคไหนสมัยไหน ปี ๒๕๓๖ กระผม/อาตมภาพสร้างสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี เมื่อมีโรงครัว ก็ไปซื้อหาข้าวของเพื่อที่จะใช้ในโรงครัว สั่งช้อนสเตนเลสไป ๑๐๐ โหล จานเมลามีน ๑๒๐ ใบ ปรากฏว่าเขาหาช้อนสเตนเลสให้ได้แค่ ๓ ห่อหรือ ๓ แพ็คเล็ก ๆ แล้วก็จานเมลามีน ๘ ใบ เขาบอกว่าถ้าต้องการต้องสั่งล่วงหน้า จะวิ่งรถไปเอาในเมืองมาให้

    ถามว่าทำไมถึงไม่สั่งของมาตุนไว้บ้าง ? เวลาลูกค้าต้องการมากจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอ เขาพูดเห็นภาพชัดเจน บอกว่า "เดี๋ยวเงินจมหมด..!" ก็คือซื้อมาก็ไม่รู้ว่าจะมีคนซื้อต่อหรือเปล่า ? ถ้าขายไม่ได้เงินก็จมไปในนั้น จะว่าคนทองผาภูมิเป็นคนรอบคอบก็ใช่ แต่ว่านิสัยของกระผม/อาตมภาพนั้นขี้เกียจรอ

    เคยไปสั่งกระเบื้องมุงหลังคา ขนาด ๑.๒๐ เมตรอย่างหนา ๒๐๐ แผ่น รออยู่อาทิตย์หนึ่งไม่ได้ของ เพราะไม่มีของอยู่ในร้าน แล้วถามว่าทำไมไม่วิ่งลงไปเอาในเมืองเลย ? เขาต้องรอให้มีรถที่ขนพืชผลการเกษตรลงไป อย่างเช่นพวกข้าวโพดหรือว่ามันสำปะหลัง แล้วขากลับก็ฝากซื้อของกลับขึ้นมา จะได้ไม่ต้องวิ่งรถเปล่ากลับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    แต่ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพมีคนงานอยู่ ๔๓ คน..! ค่าแรงวันหนึ่งก็หลายพันบาท แล้วให้มานั่งนิ่ง ๆ รออยู่เป็นเวลา ๔ - ๕ วัน ของก็ยังไม่มา เท่ากับเราต้องจ่ายค่าแรงฟรี ไม่อย่างนั้นถ้าเขาไปทำงานที่อื่น เราจะไม่มีคนไว้ทำงาน ก็เลยต้องขอยืมรถทางป่าไม้วิ่งลงไปซื้อเอง บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าปัจจุบันนี้ยังเป็นแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า ? เพราะว่าทางด้านวัสดุก่อสร้างที่สั่งจากทางร้านประเสริฐรุ่งเรืองค้าวัสดุก่อสร้างนั้น มาได้ทันใจมาก

    ปกติแล้วทางวัดท่าขนุนของเราจะซื้อวัสดุก่อสร้างในลักษณะติดเงินไว้ก่อน ทอดกฐินทีหนึ่งจ่ายทีหนึ่ง แต่คราวนี้พอกระผม/อาตมภาพมาช่วยทำงานบูรณะวัดท่าขนุน ร้านขายวัสดุก่อสร้างอยู่หน้าวัด แถมยังเป็นกรรมการวัดอีกด้วย สั่งของ ๒ วันยังไม่ได้..! แต่พอสั่งไปทางด้านร้านประเสริฐรุ่งเรืองค้าวัสดุก่อสร้างนั้น ๓๐ นาทีก็มาแล้ว

    ถ้าหากว่าของไม่มี เขาใช้วิธีโทรสั่งโรงงานให้วิ่งขึ้นมาส่ง แล้วให้คิดราคาตามหน้าโรงงาน ตัวเองไม่ได้บวกราคาสินค้าด้วย ก็คือเป็นคนสั่งแทนวัด ก็แปลว่าสินค้าล็อตนั้นเขาก็ไม่ได้อะไรเลย นอกจากได้เครดิตความน่าเชื่อถือ อย่างเช่นว่าสั่งกระเบื้องปูพื้นที ๓๐๐ ตารางเมตร ซึ่งถ้าหากว่าทั่ว ๆ ไปก็คงใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะขายได้ขนาดนั้น แต่ของวัดท่าขนุนสั่งรวดเดียว ทางร้านได้เครดิตจากทางโรงงาน เขาสามารถที่จะสั่งสินค้าในลักษณะติดค้างไว้ก่อน ๓ เดือน ๖ เดือน ค่อยจ่ายเงินทีหนึ่ง เอาเงินสดไปหมุนเวียนก่อนได้

    แต่คราวนี้ของทางวัดเรา เวลาก่อสร้างนั้นมีช่างอยู่กันมาก เสียเวลาไปวันหนึ่ง เราก็เสียค่าแรงฟรีไปมากมาย กระผม/อาตมภาพในเมื่อสั่งของที่ไหนแล้วได้อย่างใจจึงสั่งแต่ที่นั่น ระยะหลังหลายร้านพอรู้ว่าเป็นอย่างนี้ ต่างคนต่างก็วิ่งมา ขอให้สั่งของเขาบ้าง จะค้าง ๓ เดือน ๖ เดือนอะไรก็ไม่ว่า ให้สั่งของเขาบ้างก็แล้วกัน กระผม/อาตมภาพบอกว่า "กูไม่สั่ง..เพราะว่าตอนแรกกูสั่งแล้วไม่ได้..!"

    ครั้งแรก
    กระผม/อาตมภาพไปสั่งกระเบื้องปูพื้น ๓๐๐ ตารางเมตร ก็ด้วยความเคยชิน ก็คือสั่งแล้วก็ทิ้งไปเลย ถึงเวลาก็กลับไปเพื่อที่จะขนข้าวของมา ปรากฏว่าเขาไม่มีให้แม้แต่กล่องเดียว ถามคนขายซึ่งตอนนี้ตายไปแล้ว ว่าทำไมถึงไม่เตรียมของให้ตามที่สั่งมา ? เขาก็อึกอัก พูดไม่ออก

    กระผม/อาตมภาพเห็นท่าก็เลยบอกว่า "อาตมาเป็นพระ..ไม่โกงโยมหรอก" เขาบอกว่า "พระนั่นแหละครับโกงผมมาแล้ว..!" มีวัดหนึ่งสั่งกระเบื้องปูพื้น ๔๐ ตารางเมตร ผ่านไป ๓ ปีแล้วยังเก็บเงินไม่ได้เลย บอกว่าให้ไปเก็บตอนผ้าป่า เก็บตอนกฐิน ไล่ตามมา ๓ ปียังเก็บไม่ได้สักบาท..! แล้วกระผม/อาตมภาพสั่งปากเปล่าแล้วจะได้ไหม ?"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    พอมาตอนหลัง เขารู้ว่ากระผม/อาตมภาพจ่ายเงินสดตลอดก็แย่งกันมา เพราะว่าสามารถเอาเงินไปหมุนเวียนก่อนได้ บอกว่าจะให้เครดิต สามารถค้างได้ ๓ เดือน ๖ เดือน กระผม/อาตมภาพบอกว่า "กูไม่ค้าง..เพราะมึงไม่เชื่อใจกูมาก่อน กูจะจ่ายสดเท่านั้น..!" น่าอิจฉาคนขายไหม ?

    เพราะว่าอย่างร้านประเสริฐรุ่งเรืองค้าวัสดุก่อสร้างนั้น มีอยู่ปีหนึ่งนิมนต์
    กระผม/อาตมภาพไปเจิมรถพ่วง ๒ คัน ไอ้รถพ่วง ๒๒ ล้อนั่นแหละ มีหน้ามาบอกว่า "นี่เงินอาจารย์ล้วน ๆ นะครับ..ที่ผมสั่งซื้อมานี่" รถพ่วง ๒๒ ล้อ ๒ คัน เขาต้องค้าขายกับวัดท่าขนุนไปกี่ตัน ? แต่คราวนี้ไม่ว่าที่อื่นเขาจะอิจฉาร้านประเสริฐรุ่งเรืองค้าวัสดุก่อสร้างนั้นอย่างไรก็ตาม ก็ว่ากันไม่ได้ เพราะว่าเขาบริการดีมากจริง ๆ

    อย่างตอนที่กระผม/อาตมภาพไปบูรณะวัดท่ามะขามรอบแรก สั่งสินค้าเขา เขาก็ให้รถวิ่งส่งตรงที่วัดท่ามะขามเลย ก็คือของอยู่ในตัวเมืองอยู่แล้ว วิ่งไปวัดท่ามะขามแค่ ๓ - ๔ กิโลเมตรแค่นั้น แล้วก็ส่งบิลมา ก็คือเขาช่วยทำงานทุกอย่างให้ เราไม่ต้องเสียเวลาสั่งเอง จะเอาอะไรก็บอกเขาได้ทันที

    เรื่องพวกนี้..การค้าขายสำคัญที่สุดคือการบริการลูกค้า หลักการก็คือทำอย่างไรที่จะให้ลูกค้าอยากใช้บริการของเรา รวดเร็ว ได้รับสินค้า "ตรงปก" ราคามิตรภาพ หลักใหญ่ ๆ ก็มีอยู่ไม่เท่าไร แต่ว่าบางท่านก็เหมือนอย่างกับทำแก้บน ก็คือจะขายก็ได้ไม่ขายก็ได้ เพราะฉะนั้น..ถึงจะอยู่แค่หน้าวัด สั่งไป ๒ วันก็ยังไม่ได้ของ ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าจะสั่งต่อไปทำไม ? นี่
    กระผม/อาตมภาพจะพูดเรื่องหนึ่ง กลายเป็นอีกเรื่องไปแล้วนะ..!

    ฉะนั้น..ในเรื่องของการก่อสร้าง บางคนอย่างป้าสุรีย์ (นางสุรีย์ เสียมสกุล) ทำงานกับกระผม/อาตมภาพมาจะ ๒๐ ปีแล้ว ไม่ยอมไปไหนเลย ทำจนเกษียณคางานไปเลย ทุกวันนี้เกษียณแล้ว แต่ถ้าวัดท่าขนุนจะทำอะไร ป้าจะหาช่างมาช่วยทำให้
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ครั้งแรกที่กระผมไปสั่งซื้อ เขาจะมีบ้านไม้ที่ใช้ไม้เก่าประกอบอยู่ ๑๐ กว่าหลัง ตั้งเต็มไปหมด อยู่ตรงใกล้ ๆ สะพานสาลี ก่อนเข้าตัวอำเภอบางปลาม้า กระผม/อาตมภาพไปเดินดู ชอบใจแล้วก็ชี้ "เอาหลังนี้ ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมา" แล้วก็ไปเลย พอกลับไปอีกทีหนึ่ง หายไปหลังหนึ่ง..! ถามคนขายลูกน้องป้าสุรีย์ "หายไปหลังหนึ่งวะ ? สั่งเอาไว้แล้ว" เขาบอกว่า "นึกว่าหลวงพ่อพูดเล่น เพราะไอ้ที่สั่งไปนั่น ๒๐ กว่าล้านบาท..!"

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็เลยบริการแต่วัดท่าขนุนมาตั้งแต่สมัยเกาะพระฤๅษีเป็นต้นมา ต้องการพวกเรือนไม้เก่าเมื่อไรก็สั่งกับเขาได้ แล้วที่เขาไม่ทำงานกับคนอื่นเลย เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยให้เขาระบุราคาตายตัว ถ้าคุณสั่งวัสดุมาแพง คุณสามารถบวกเพิ่มได้ แต่ถ้าเป็นที่อื่น อย่างไปก่อสร้างให้อะไรให้ เขาจะมีทำสัญญาแน่นอนว่าราคาเท่าไร ถ้าหากว่าวัสดุขึ้นราคา ก็ไม่สามารถจะไปเพิ่มกับลูกค้าได้ จึงทำให้ตัวเองขาดทุนอยู่บ่อย ๆ ในเมื่อมาทำกับวัดท่าขนุน โอกาสขาดทุนเป็นศูนย์ มีแต่กำไรล้วน ๆ

    แต่พวกท่านต้องเข้าใจนะครับว่าเวลาป้าสุรีย์ทำงานให้นี่
    กระผม/อาตมภาพปล่อยงานทิ้งได้เลย เพราะแกดูแลแทนทุกอย่าง เท่ากับว่าคุณจ้างคอนซัลท์ฯ เอาไว้ด้วย เพราะฉะนั้น..ถึงว่าราคาจะบวกเข้าไปก็บวกไปเถอะ เพราะว่าอย่างไรเสีย ป้าก็ว่ากันตามราคาวัสดุบวกกำไร ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

    ดังนั้น..ที่บางคนบอกว่า อยากได้ช่างแบบของพระอาจารย์เล็กบ้าง โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ตอนนั้นยังเป็นพระราชวิสุทธิเมธีใหม่ ๆ ท่านมาดูอาคารทรงไทยที่หน้าวัด

    พวกคุณต้องไม่ลืมนะครับว่าโครงหลังคาทรงไทยเป็นเหล็กทั้งหมด ไม่ใช่ไม้ ช่างที่จะสามารถดัดเหล็กให้เป็นทรงไทยได้สวยแบบนั้นหายากมาก ส่วนใหญ่ทำแล้วไม่สม่ำเสมอ พอมุงกระเบื้องเข้าไปก็มีสูงมีต่ำ แล้วช่างฝีมือขนาดนั้นนี่ ผมไม่เคยต่อราคาเขาเลย..!
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    พอหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดฯ ถามว่า "พระอาจารย์เล็ก แบบนั้นราคาเท่าไร ?" "อ๋อ..เฉพาะค่าแรงทำโครงหลังคา ค่าแรงอย่างเดียวนะครับ หลังละสี่แสนบาท..!" หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกลืนน้ำลายเอื๊อกเลย บอกว่า "มีแต่พระอาจารย์เล็กจ่ายไหวอยู่คนเดียว..!" บางอย่างที่ทำ เราต้องเข้าใจว่าเรื่องของช่าง โดยเฉพาะช่างฝีมือดี ถ้าหากว่าเราให้เขาเต็มที่ เขาก็จะทำให้เราเต็มที่เหมือนกัน

    พวกท่านจะเห็นว่าหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกหน้าวัด สร้างไปทั่วประเทศไทยนี่ ๒๐๐ กว่าองค์นะครับ
    กระผม/อาตมภาพตามไปดูมาเป็นสิบ ๆ องค์ ไม่มีองค์ไหนสวยเหมือนกับของวัดเราเลย

    บรรดาช่างส่วนใหญ่ที่เป็นพระมาอยู่ที่นี่
    กระผม/อาตมภาพให้แม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) ประกอบอาหารเลี้ยงเต็มที่เลย แถมค่าบุหรี่ให้อาทิตย์ให้ ๕,๐๐๐ บาท มีปัญญาสูบให้มะเร็งกินไปเลย..! ความจริงเขามาทำฟรีนะครับ แต่กระผม/อาตมภาพบอกเขาแล้วว่าเต็มที่ เสียเวลาเท่าไรไม่ว่า เดี๋ยวขากลับมี "ติดย่าม" ให้ด้วย พอทำงานเสร็จ กระผม/อาตมภาพถวายท่านไปแบ่งกันหนึ่งแสนบาท จะหารกันได้เท่าไรก็เป็นเรื่องของท่าน..!

    เขาบอกว่าไปบางที่ อย่างบางวัดที่กำแพงเพชร เป็นวัดธรรมยุต (วัดป่า) ฉันมื้อเดียว เขาก็ถวายอาหารให้มื้อเดียว แล้วพระใช้แรงงานทั้งกลางวันกลางคืน จะเอาเรี่ยวเอาแรงที่ไหนมาทำงาน คนเราถ้าอดถ้าหิว กำลังใจไม่ดีขึ้นมา งานก็ออกมาไม่ดี แต่ถ้าอิ่มก็เต็มที่กับงานได้ทุกอย่าง

    คุณจะเห็นว่าสมเด็จองค์ปฐมหน้าวัดท่าขนุนสวยที่สุด ไม่ต้องอะไรหรอก คุณไปเปรียบแค่ที่วัดท่าทุ่งนาฤทธารามที่ไทรโยค ซึ่งเราวิ่งผ่านไปผ่านมานั่นก็พอ พิมพ์เดียวกัน แบบเดียวกัน ช่างชุดเดียวกันเลย เรื่องของช่างถ้าหากว่าเขาสบายใจ ผลงานก็จะออกมาดี

    แต่ว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของคันถะธุระ เกี่ยวกับงานบูรณปฏิสังขรณ์วัด ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องกำลังใจของพวกเรา ทำอย่างไรที่จะละเว้นจากความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม โดยเฉพาะไล่กิเลสออกไปไว ๆ อย่าให้บรรดาพวกนางรำอยู่ในใจนานนัก...!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...