เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

นิมนต์ครับ

 

รับครับ

 

รูปเหมือนลอยองค์เนื้อเงิน
ขนาด"ซุปเปอร์จิ๋ว"-ก้นหนู
===============

ประกวด "ความจิ๋ว" องค์นี้ต้องชนะเลิศ เพราะเป็น "จิ๋วซุปเปอร์จิ๋ว" เล็กยิ่งกว่าปลายเล็บ!!!

รูปเหมือนลอยองค์ เนื้อเงิน จิ๋วสุดๆขนาดนั้น ยังอุตส่าห์ ตอก"โค้ตหนู"ด้านใต้ฐานไว้ชัดเจน เป็นการรังสรรค์อันน่าเหลือเชื่อของทีมผู้สร้าง ซึ่งรุ่นนี้สร้างอยู่ในราวปี 32-38ไม่อาจระบุปีสร้างชัดเจนเพราะทำใบบันทึกหล่นหาย แต่ทันหลวงพ่อเสกล้านเปอร์เซ็นต์ เนื้อเงินเก่าเก็บเกิน 30 ปี "ปรอทเงิน" ขึ้นเป็นหย่อมๆ ที่สุดของความคลาสสิค โคตร ! โคตร !

นำมาชมอีกนั่นแหละ ถ้าจะร่วมบุญก็เชิญ หรือจะดูเพลินๆก็ตามสบายเป็นของ "หายาก" แค่ได้เห็นยังยาก เพราะส่วนใหญ่น่าจะหล่นหาย

=======1,500=======

ถ่ายรูปท่านได้ชัดสุดแค่นี้ เพราะจิ๋วกว่าปลายเล็บ เดี๋ยวถึงภาพเทียบขนาดแล้วจะตะลึงในความ "ซุปเปอร์จิ๋ว" ตัวจริง เสียงจริง ที่สร้างได้สวยงาม ใบหน้า ริ้วจีวร ทุกสัดส่วน ทุกอณู ติดชัด ไม่มีส่วนใดเลอะเลือนเพราะความจิ๋ว

ในความจิ๋วก็ยังเห็น "ปรอทเงิน" ขึ้นคลุมผิวองค์ท่านงดงาม สูงค่าสมราคา

ด้านหลังให้ภาพบรรยายละกัน

ใต้ฐานจิ๋ว ตอก "หนูจิ๋ว" เล็กกว่าเม็ดงา แต่ตัวหนูชัดเจนมิพักต้องเดาว่าเป็นภาพอะไร?... ช่างเหลือกำลังรับ ทั้งการออกแบบโค้ต และการตอกลงไปในพื้นที่ซึ่งแทบไม่มีที่ให้จับ ตอกได้ลึกชัดเจนอีกต่างหาก

มาชมไฮไลท์แห่งค่ำคืนที่ฟ้ากำลังร้องคะนอง...เหรียญสลึงยุคใหม่ว่าเล็กที่สุด หล่นลงพื้นไม่ต้องเสียเวลาก้มหาให้ปวดหลังปวดตา แต่ชม"ซุปเปอร์จิ๋ว"-หลวงพ่อเกษม เนื้อเงินองค์นี้สิ ท่านเล็กกว่า เหรียญสลึงอย่างน้อย 5-6 เท่า นี่พูดอย่างไม่เว่อร์

จึงตอกย้ำหนสามว่า ให้ดูเป็นขวัญตาเพลินๆ ไม่ต้องเคาะก็ได้ เพราะผมไม่อยากเอาลง แต่อยากเขียนเรื่องราว-เรื่องเล่า ให้สมาชิกได้อ่านเท่านั้น ซึ่งคืนนี้ไม่ได้เตรียมไว้เพราะมัวแต่ดูบอลโลก "อิหร่าน"กระซวกฝรั่งหัวแดงไส้แตก จึงนำ "ซุปเปอร์จิ๋ว" ให้ท่านชมแทน เพราะเชื่อว่าน้อยท่านนักจะเคยเห็น!

สุขสันต์คืนวันศุกร์ จง "เกษม" สำราญชื่นบานสมดั่งบารมีนามมงคล วันพ้องเสียงเป็นมงคล... "เกษม-สุข(ศุกร์)" ทุกท่านเทอญ.

 

มัวคลำอยู่กับ "ซุปเปอร์จิ๋ว" เพราะเขียนไป-ส่องไป ทั้งระมัดระวังไม่ทำหล่น มิฉะนั้นต้องควานหายากกว่าหาเศษเหรียญ เขียนเสร็จ-ส่องพระเรียบร้อย เก็บเข้าที่ให้โล่งอก

ทางนี้คุณเทพก็จัด"ซุปเปอร์-จัมโบ้" ไปแล้ว สวนทางกับ "ซุปเปอร์จิ๋ว"...

"ซุปเปอร์จัมโบ้" องค์นี้ก็เป็นสุดยอดทีเด็ด เพชรล้ำค่าแห่งเนื้อหาและองค์ประกอบที่ไม่มีโอกาสพบเจออีกต่อไปในพระ"หลวงพ่อเกษม" เพียง "พระธาตุ 3 องค์" ก็หมดคำบรรยาย ไม่นับ "เส้นเกศา"โดดเด่นกระแทกสายตา

ขอโมทนาคุณเทพที่ได้นำท่านบูชาเป็นศิริมงคลต่อจากผม จัดส่งท่านเดินทางขึ้นที่ราบสูงวันจันทร์ครับ

 

เหรียญพระพุทธรูปแสนแซ่-พระทองคำองค์งามล้ำค่าเมืองเหนือ ถูกย่อลงมาสู่พื้นเหรียญ ประจุความศักดิ์สิทธิ์จบด้วยบารมี หลวงพ่อเกษม+ท่านสมเด็จฯเกี่ยว เป็นพระหลักร้อยที่ส่งเสริมวาสนาผู้บูชาดีกว่าหลักล้าน เพราะของแพงๆเหล่านั้น เราต้อง "ดูแล-รักษา" ท่านแทนด้วยความกังวลเป็นห่วงในราคาค่างวด จะเอามาแขวนก็ไม่กล้า จะโชว์บ่อยก็อันตราย พระแพงๆมันมีโจรคอยหาจังหวะขึ้นบ้าน จัดการเอาไปส่งตาม "ใบสั่ง" !!!

ดังนั้น...แน่นอนว่า "พระหลักร้อย" นี่แหละที่คุ้มครองผู้เคารพบูชาตัวจริงไม่อิงนิยาย ท่านได้ฤกษ์เดินทางอีกหนึ่งองค์สู่เมืองช้างวันจันทร์หน้า โมทนาคุณเทพรอบสองครับ

 

อ้อ ขอบคุณข้อมูลด็อกเตอร์ คราวนี้สมาชิกท่านใดที่อยู่เมืองกรุงสามารถแวะไปทำบุญบูชาด้วยตัวเองได้ไม่เสียเที่ยว มีทั้งพิมพ์ยืน-นั่ง ครบครัน เป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่า สูงกว่าราคาค่างวดเยอะ

ขอบคุณด็อกเตอร์ ที่ร่ายละเอียดครบถ้วน 19 ธันวา ก็เป็นวันดีอีกหนึ่งวันส่งท้ายปี กราบเสด็จท่านให้เฮง เฮง ยังได้

 

ท่านเดินทางล่องใต้ข้ามอ่าวไทยไปบ้านคุณพัฒน์เรียบร้อยแล้วจ้าท่านอัครฯ ถ้าค้นกล่อง(ที่ยังมีอีกหลายสิบกล่อง)เจอก็จะนำลงให้ ขอบคุณมากครับ

 

ผมขอโอนไว้เลย พี่วันเจอพระเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละครับ ผมไม่ซีเรียส อันนี้พูดตามจริงจากใจและแม้หาพระไม่เจอผมก็ถือร่วมบุญพี่วันได้บุญมากแล้วมายแล้วครับ

 

ผมได้หลวงปู่โต๊ะที่เป็นกรอบรูปมานานแล้วได้จากเซียนรุ่นเก่าแต่ผมก็ไม่รู้ว่าแท้หรือเปล่ารบกวนพี่วันชี้แนะด้วยครับ

 

ขอบคุณครับ

 

ที่ลำปาง เรียกว่า รุ่น "หล่นหาย" ครับ

 

วันที่ ๒๖พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ท่านอัครฯทำผมต้องเปิดตู้ รื้อกล่องอีกยกใหญ่ ก็คงเป็นช่วงเย็นๆวันนี้หลังกลับจากธุระ จะกระทำการ"ค้น" ให้ครับ ต้องขอบพระคุณอย่างแรงที่มอบความไว้วางใจให้ ก็ทำไปเท่าที่ทำได้ เรื่อง การบุญสุนทานธรรม...

เพราะบุญเป็นสิ่งพิสูจน์ จากความเป็น "นามธรรม" มาสู่"รูปธรรม" ว่า "เป็นที่พึ่ง" ได้จริง ดังอริยสงฆ์ทุกรูปกล่าวสอน กล่าวยืนยัน เราก็เดินตามรอยเท้าท่านเหล่านั้นไป ไม่หลงทิศผิดทาง ได้พบเห็น"พระศาสดา" ในวันหนึ่งอย่างแน่นอน

 

รูปภาพหลวงปู่ที่งดงาม สร้างในราวปี 16 เป็นต้นมาเรียกรูปฉลองพัดยศ อิริยาบทยืนซึ่งมีแบบเดียว นอกนั้นส่วนใหญ่เป็นท่านั่ง จะมี "ยันต์" สี่มุมของภาพ บางภาพก็จะ "ตอกโค้ต" ไว้ด้านล่าง บางภาพจะ "ปั้มตราวัด"!

นั่นไม่ค่อยสลักสำคัญเท่าใดนัก เพราะการปั้มตรา บางทีลูกศิษย์ก็ไปหยิบตราวัดมาปั้มกันเองก็มี ส่วน "ลายเซ็นยันต์"หลวงปู่ ลูกศิษย์อารามดีใจก็รีบเอากลับไม่ได้ให้ท่านลงไว้ หรือจังหวะหลวงปู่ติดกิจนิมนต์ ก็ได้ภาพไปไม่ได้ลงตรงไหนก็มี

เราต้องมาดู "ความเก่า" ของภาพ กระดาษโบราณ คราบปรอท และ "ด้านหลังภาพ " ถ้าเป็นภาพใหญ่ขนาดนี้ จะมี "ที่แขวนเป็นโซ่ทอง" อย่างรูปสมัยเก่า ส่วนสมัยใหม่ จะเป็น "ลวดสลิง" เพื่อความสะดวก

ภาพของท่านอัครฯ มี"อักขระยันต์ นะมหาเศรษฐี-สี่มุม"ภาพถูกต้องใช้ได้ แต่ตราวัดไม่มี(ไม่เป็นไร)-โค้ตไม่มี(ไม่เป็นไร)ดูหลังภาพอีกที มีโซ่แขวนภาพรุ่นเก่า ถ้ามียันต์"สุกิติมา" ด้วยก็ยิ่งโอเคถือว่าใช่ เพราะภาพที่ถ่ายมา ไม่มีด้านหลัง และความเก่าของกระดาษดูจากภาพก็ยากวินิจฉัย

ผมตอบละเอียดยิบ ให้ท่านอัครฯไล่ไปทีละจุด ทีละประเด็นกับภาพที่มีในมือด้วยตัวเอง ก็ได้คำตอบแล้ว สุดท้ายเดินไปร้านถ่ายรูปเก่าซึ่งเป็นพรรรคพวกกันถามว่า..."กระดาษนี้เก่ามั้ย?" ก็ยิ่งซ.ต.พ. เรื่องอย่างนี้บางทีเป็นเหมือน "เส้นผมบังภูเขา" ร้านถ่ายรูปเก่าๆดูพระเก๊-แท้ไม่เป็น แต่ "กระดาษเก่า-กระดาษใหม่"เขาดูเป็นล้านเปอร์เซ็นต์ ผมใช้ "วิชามาร"อย่างนี้บ่อย กระซิบดังๆว่า...อย่าบอกใครนะ-ฮ่า

 

ยินดีน้องเดฯ เฮง เฮง

 

เข้าใจตั้งชื่อสมลักษณะกายภาพ ทำ "หล่น" เมื่อไหร่ โอกาส"หาย"มีสูง จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมไม่เคยเห็นรูปหล่อ"ซุปเปอร์จิ๋ว" นี้ในกระดานประมูลตามเว็ปต่างๆ ท่านอาจหล่นหายไปเยอะ บางทีจิ๋วมาก เจ้าของเก็บแล้วหาไม่เจอก็เป็นได้

วันนี้เปิดตู้ จะหยิบ "พระรอดจิ๋ว"ขนาดเม็ดข้าวสารแกะที่จิตรกรจีนยุคเปิดประเทศมาแกะให้ในเมืองไทยเมื่อเกือบสี่สิบปีก่อน ถ่ายภาพเทียบเคียง "จิ๋วประชันจิ๋ว" น่าจะแจ่มแจ๋วสวยงาม แปลกตา

"พระรอด"เม็ดข้าวสารนี้ เคยนำภาพกับเรื่องราวเขียนให้อ่านนานมาแล้ว

 

ก่อนเลยเพล รีบอนุโมทนาบุญยามเช้ากับ แม่ค้าริมถนนที่ใส่บาตรหลวงตา ขอให้ทุกท่าน โชคดี คล่องตัว ค้าขายราบรื่นตลอดวัน

 

หลวงปู่ทวด วัดนาประดู่
พิมพ์กรรมการใหญ่-24
=============

บอลโลกกำลังซัดกันเมามันส์ แต่ติดพันหาพระหลวงพ่อทวด ให้กับท่านอัครฯ ก็ละสายตาเป็นจังหวะ ไม่เจอ หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง แต่ก็พบองค์ที่พอชดเชยได้

หลวงปู่ทวด วัดนาประดู่ 24 พิธีเดียวกับชุดดังของวัดช้างไห้ ซึ่งท่านเจ้าคุณนาประดู่เป็นผู้จุดเทียนชัย มีทั้ง พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว,หลวงปู่ดำ วัดตุยง ฯลฯ คณาจารย์สุดยอดสายหลวงปู่ทวดปักษ์ใต้ครบครัน

พระรุ่นนี้น่าจะสร้างปี 22 พร้อมกับพระวัดช้างไห้ที่แปลงมาเป็นปี 24 ตามหน้ากล่องที่วัดทำใส่นั่นแหละ จึงทำพิธีเดียวกันดังกล่าว

องค์ตามภาพเจ้าของเดิมสารภาพว่า เอาแช่ทำน้ำมนต์เพราะ "เนื้อว่านวัดช้างไห้"เพียบ แถมทำตรงปลายบิ่นไปอีกหน่อย ทำให้เห็นเนื้อหาอันสุดยอด มีมวลสารมโหฬาร ชนิดส่องลงไปต้องตาค้าง ราคาการเล่นหาในท้องตลาดวันนี้อยู่หลักพันเกือบกลาง แต่องค์นี้ไม่สวย แถมมีตำหนิ ก็ขอมอบให้ท่านอัครฯ แทนหลวงปู่ทาบที่จองไว้ รับหรือไม่รับแจ้งมาได้ครับ ไม่เป็นปัญหาใดๆทั้งสิ้น

องค์ตามภาพเป็น "พิมพ์กรรมการใหญ่" ซึ่งนำพิมพ์กรรมการวัดช้างไห้มาถอดพิมพ์โดยตรง...สังเกตง่ายที่ "เม็ดนัยตา" ด้านซ้ายท่านจะสูงกว่าด้านขวา เรียก"ตาซ้ายสูง-ขวาต่ำ"

ขอลงภาพเป็นชุดให้ชมเพลินๆดีกว่า

ด้านหลังผิวเปิดจากการแช่ทำน้ำมนต์เจ้าของเดิม เปิดเห็นมวลสารลอยฟ่องเต็มหลัง ทุกพื้นผิวมีแต่ยอดเนื้อหา ลงกล้องไม่เบื่อตา
ด้านข้างกับปลายยอดที่กระเทาะ มีแต่เนื้อว่านวัดช้างไห้เต็มเหยียดตรงส่วนบิ่นเล็กน้อยนั้น

พิมพ์กรรมการใหญ่
เท่าวัดช้างไห้ ปี97

 

สมเด็จอินโดจีน ปี 2484
เจ้าคุณสุพจน์-วัดสุทัศน์ฯ
พิมพ์แขนกว้าง-ยันต์ข้าง
===============

พระสมเด็จรุ่นเก่าที่วงการยอมรับเป็นเอกฉันท์นานแล้วว่า ใช้แทนพระสมเด็จวัดระฆังได้เพราะมี "หน่อเนื้อเชื้อจักรพรรดิ" เต็มเครื่อง นอกเหนือจาก หลวงปู่นาค,หลวงปู่หิน วัดระฆัง แล้ว

ก็มีของท่านหลวงพ่อสุพจน์ แห่งวัดสุทัศน์ฯ นี่แหละที่ติดอยู่ในทำเนียบเนื้อแท้ หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์เพียบพร้อม

ประวัติของท่านเคยฉายหลายรอบเพราะลงวัตถุมงคลของท่านบ่อย ค่อยๆแกะออกมาจากสร้อยเก่าบ้าง กล่องเดิมเก่าเก็บบ้าง อย่างองค์นี้ก็อยู่ในเลี่ยมเก๋ากึ้กส์นานดึกดำบรรพ์ เป็นพิมพ์3ชั้น-แขนกว้าง-ข้างยันต์พุทโธ เนื้อหาเต็มเปี่ยมมนต์ขลัง มอบร่วมบุญวันหยุด...

=======2,500=======

สภาพสมบูรณ์ ด้านข้างเป็นรักเก่าที่เจ้าของจะลงแล้วเปลี่ยนใจ ทำให้ติดอยู่หน่อย ส่วนอื่นขององค์พระเรียบร้อย เนื้อแกร่ง แห้งตามอายุ อยู่ในเลี่ยมยาวนานทำให้สวยงามสะอาดตา

หลังเรียบไม่มียันต์ใดๆ ถ้าเจอพิมพ์ 3 ชั้น-แขนกว้าง-ข้างยันต์พุทโธ แล้วมียันต์หลังอีก ก็ดูให้ดีๆ อย่าเผลอโดนของมือผี ที่ใส่"อ็อปชั่น" เลอะเทอะมากเกินไป หวังทำราคาให้มากขึ้น
ขนาดใหญ่ประสาพระยุคเก่าที่ไม่หวงแหนเนื้อหาเพราะมีมากเสียจน ประดังใส่เท่าไหร่ก็ได้ ไม่เหมือนสมัยใหม่ มี "ช้อนเดียว" แตกลูกหลานเป็นหมื่นองค์ ตะโกนโคซะนาซะคอหอยแทบแตกว่า...มีหน่อเนื้อเชื้อวัดระฆัง,บางขุนพรหม ฯลฯ เพียบ-เฮ้อ!

ปลุกเสกก็อย่างที่ทราบทั้งในพิธีอินโดจีน ปี2485 ข้ามมาถึงพิธีวัดประสาทฯ 2506 พระยุคเก่าสร้างแล้วเสกไป-แจกไป การสื่อสารคับแคบ ผู้คนรู้น้อย ทำให้พระไม่หมดง่าย มีพิธีใหญ่ที่ไหนคนสร้างก็ได้รับเชิญ พร้อมทั้งหอบไปด้วย ยิ่งเสกมาก ก็ยิ่งสุดขลัง เพราะผ่านพลังยอดเกจิอาจารย์อันเป็นที่สุดของแผ่นดินนับไม่ถ้วน!!!

 

ประชัน"ซุปเปอร์จิ๋ว"
ลพ.เกษม-พระรอด
==============

ตามรับปากคืนวาน นำ"ซุปเปอร์จิ๋ว" หลวงพ่อเกษม เขมโก รูปหล่อเนื้อเงิน ประชันกับ พระรอดเนื้อดินแกะ ขนาดเม็ดข้าวสาร ดูว่าองค์ไหนเป็น "จิ๋วแจ๋วเจาะโลก"?!

ผลปรากฏ พระรอดขนาดเม็ดข้าวสารชนะขาดในความ "จิ๋ว"ที่หมดคำบรรยาย นอกจากให้ท่านผู้อ่านชมภาพเอาเอง ถือว่าเป็นเรื่องอ่านสนุก ดูภาพหายากอย่างมีความสุข ในวันหยุด...

"จิ๋ว" กระทั่งไม่ทราบจะจัดวางภาพอย่างไรดี โดยเฉพาะองค์ขวามือ จับไม่ติดนิ้ว พยายามเขี่ยเพื่อให้ท่านตั้งวางกึ่งกลางสวยๆจนเมื่อยนิ้ว ไม่ได้โพซิชั่นเลย ส่วนการถ่ายทอดภาพก็ได้แค่นี้ หมดปัญญา"โฟกัส"!

เปลี่ยนวิธี เอาวางบนเหรียญ 10 ได้ภาพคมชัดขึ้น

อีกหนึ่งภาพที่ลองโฟกัส สรุปว่า คนถ่ายมีฝีมือแค่นี้ รวมทั้งเครื่องมือที่ใกล้ปลดระวางก็รับใช้ได้ดีที่สุดเท่านี้แหละ

ถึงจะ "จิ๋ว" แต่วัตถุมงคลทั้ง 2 องค์-2 แบบ ก็มีพลังพุทธานุภาพมหาศาล องค์หลวงพ่อเกษมนั้นไม่ต้องพูดถึง เป็นที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนองค์พระรอดจิ๋วก็ผ่านการเสกจากคณาจารย์นับสิบรูป เท่าที่พอจำได้โดยไม่ต้องย้อนดูของเก่าที่เขียนไว้ก็มี หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน,หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง ฯลฯ