เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 3 พฤศจิกายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ในช่วงบ่ายกระผม/อาตมภาพได้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพระเจ้าสัวเนื้อผงยาวาสนาจินดามณี ของพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โดยทำพิธีร่วมกับพระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม วัดโพธิ์ลังกา ที่ใคร ๆ เรียกกันง่าย ๆ ว่าท่านอาจารย์บ๊ะ

    ความจริงแล้วงานนี้กระผม/อาตมภาพไม่สมควรที่จะร่วมพิธีด้วย แต่ว่าตกกระไดพลอยโจน เมื่อท่านอาจารย์บ๊ะมาถึงจึงได้บอกกับท่านว่า "วันนี้ผมจะนั่งดูอย่างเดียวนะครับ" ท่านอาจารย์บ๊ะบอกว่า "ไม่ได้สิ..ต้องช่วยกันด้วย"

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนอย่างกับนักเรียนวิศวะฯ ไม่ว่าจะเก่งวิศวกรรมศาสตร์ขนาดได้ A ทุกวิชาก็ตาม แต่ถ้าจะให้ไปรักษาโรคก็สู้ผู้ที่เรียนแพทย์มาไม่ได้

    แม้กระทั่งสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงยังอยู่ ท่านก็บอกว่า "เมื่อเห็นหลวงปู่ครูบาธรรมชัย (พระครูวรเวทย์วิสิฐ) วัดทุ่งหลวง ข้าก็ดีใจ เพราะว่าท่านมาเพื่อรักษาโรคโดยตรง เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย สมัยก่อนข้าก็รักษาไปอย่างแกน ๆ ตามแต่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคท่านจะเมตตาสงเคราะห์ แต่เมื่อเจอเจ้าของงาน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าก็แนะนำให้คนไปหาหลวงปู่ครูบาธรรมชัยแทน"

    กระผม/อาตมภาพก็เช่นกัน สมัยก่อนเมื่อมีบุคคลถามหาตัวยาหรือว่าวิธีการรักษาโรค ในเมื่อเจ้าของงานยังไม่ปรากฏตัว ก็ได้แต่รับหน้าที่ไปตามเพลง แต่เมื่อเจ้าของงานแสดงตัวแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ยกหน้าที่ถวายให้กับท่านไปเลย เพราะว่าบุคคลที่ชำนาญการโดยตรง ย่อมสามารถที่จะรักษาโรคได้ตรงอาการมากกว่า แล้วขณะเดียวกัน กระผม/อาตมภาพก็จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกับกรรมของคนอื่น ปล่อยให้บุคคลที่มีหน้าที่โดยตรง ทำหน้าที่ของท่านไป
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เมื่อเข้าที่เจริญภาวนา กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะต้องจัดการอย่างไร จึงได้แต่น้อมจิตกราบต้นตำรับหลวงปู่ใหญ่ วัดป่าแก้ว สมเด็จพระพนรัตน์ หรือหลวงปู่มหาเถรคันฉ่อง ต้นตำรับยาวาสนาจินดามณี

    หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขนฺธโชติ)

    หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว พระพุทธวิถีนายก (เพิ่ม ปุญฺญวสโน)

    หลวงปู่ใบ วัดกลางบางแก้ว พระปลัดใบ คุณวีโร

    หลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป)

    หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว (พระสมุห์เจือ ปิยสีโล) ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ตามสายยาวาสนาจินดามณีนี้ แล้วไม่ลืมตบท้ายด้วยท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์

    เมื่อทุกท่านได้ทำการอนุเคราะห์สงเคราะห์อย่างเต็มกำลังแล้ว ท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ยังเมตตาบอกว่า "ยาชุดนี้น่าจะถึงในวังด้วย" เรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่ท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ท่านจะว่าไป

    แต่ว่าในส่วนที่กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกถึงก็คือว่า ในเรื่องของยาวาสนาจินดามณีนั้น เหตุที่ชื่อว่ายาวาสนา ก็เพราะว่าตัวยาตามตำรับลับบางอย่าง เป็นของที่หายากและแพงมาก ไม่สามารถที่จะเสาะหาตามร้านขายยาทั่วไป หรือว่าตามป่าตามเขาทั่วไปได้ บางอย่างก็ต้องรอวาสนามาถึงจริง ๆ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    อย่างยาวาสนาจินดามณีของวัดโพธิ์ผักไห่ ซึ่งท่านพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ ได้ทำมาหลายครั้ง ส่วนผสมตามตำรับลับที่ไม่ได้บอกกล่าวกันเป็นตัวอักษร หากแต่เป็นการถ่ายทอดแบบมุขปาฐะ คือปากต่อปาก

    ส่วนสำคัญก็คือผงนอแรด ท่านพระครูปลัดพิจารย์ หาผงนอแรดไม่ได้ จึงเลี่ยงไปใช้ผงเขากวางสมเสร็จ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่าไซกา (Saiga) หรือว่ากุย เมื่อมาเจอกระผม/อาตมภาพเข้า จึงได้มอบผงนอแรดให้ไป ทำให้สามารถที่จะจัดหาตัวยาได้ครบถ้วนสมบูรณ์จริง ๆ แล้วส่วนหนึ่งของผงนอแรด กระผม/อาตมภาพก็ถวายให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยานไปด้วย

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น หลายสิ่งหลายอย่างที่หายากมาก ไม่ว่าจะเป็นเห็ดนมเสือ อำพันทอง เกสรดอกบัวแฝด ผงงาช้างกำจัด ผงนอแรด ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ว่ามีเงินก็จะหาได้ ต้องรอให้ทุกอย่างเหมาะสม จะเรียกว่าวาระบุญวาระกรรมเปิดให้ก็ใช่ จึงสามารถที่จะหาตัวยาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วยังต้องรอฤกษ์สำคัญที่จะมาทำการผสม ปั้นเป็นเม็ดยา แล้วก็เสกตามฤกษ์อีกต่างหาก

    หลังจากนั้นแล้ว ยังมีกำหนดว่าจะต้องกินยาในวันไหนบ้าง อย่างเช่นว่าวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ถ้าเป็นกลางเดือน ๑๒ ก็ให้กินเวลาเที่ยงคืน ถ้าขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอื่น ให้กินเวลาเที่ยงวัน หรือว่าวันที่เกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา หรือว่าวันศุกร์ ๙ เสาร์ ๘ เหล่านี้เป็นต้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะทำได้ยาก

    กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่มีความสามารถทางด้านนี้ เพราะว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่เป็นของยาก กระผม/อาตมภาพค่อนข้างจะขี้เกียจ เนื่องเพราะว่าเคยชินกับการอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสงเคราะห์
    ให้ ซึ่งถ้าพระองค์ท่านสงเคราะห์ให้ก็สมบูรณ์แบบทุกอย่าง

    แต่ว่าหลายต่อหลายครั้งพระองค์ท่านก็ชี้ไปที่ต้นตำรับ หรือว่าบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านนั้น แล้วมอบหมายให้มาทำหน้าที่ในการเสกวัตถุมงคล โดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นยา ส่วนหนึ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือท่านปู่พระฤๅษีทั้ง ๑๐๘ องค์ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นครูหมอครูยาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าหากว่ามีการเสกยาวาสนาจินดามณี กระผม/อาตมภาพที่ "ไปไม่เป็น" ก็ต้องอาราธนาครูบาอาจารย์ตามที่ได้บอกกล่าวเอาไว้ตามลำดับ
    มาช่วยเหลือ
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ในส่วนของวัตถุมงคลที่สร้างจากยาวาสนาจินดามณีนั้น ถ้าเราจะติดตัวเอาไว้เพื่อป้องกันอันตราย ให้ใช้คาถา พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ ทุ สะ นิ มะ ต่อด้วย นะ โม พุท ธา ยะ

    ถ้าหากว่าจะเสกยารับประทาน ให้ใช้ พุทธะรัตตะนัง ธัมมะรัตตะนัง สังฆะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วินาสเสติ อะเสสะโต ต่อด้วย นะ โม พุท ธา ยะ เช่นกัน

    ส่วนการพกติดตัวให้เป็นเมตตามหานิยมนั้น คาถาที่ใช้เสก กระผม/อาตมภาพพิจารณาดูแล้วว่าเป็นคาถาที่เหมาะแก่ผู้ชายเท่านั้น เพราะใช้ว่า อิตถีจิตตัง ปิยังมะมะ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงก็ควรที่จะใช้ว่า ปุริสังจิตตัง ปิยังมะมะ เพื่อที่จะให้ผู้ชายเมตตาแก่ตน หรือถ้าหากว่าจะเอาสมบูรณ์แบบ ก็ว่าเสียทั้งคู่เลย ก็คือ ปุริสังจิตตัง ปิยังมะมะ อิตถีจิตตัง ปิยังมะมะ ว่าควบคู่กันไปเลย

    แต่ขอบอกว่า คำว่า ปุริสังจิตตัง ปิยังมะมะ นั้นไม่ได้มีอยู่ในตำรา แต่ว่ากระผม/อาตมภาพ เห็นว่ากล่าวถึงอิตถีอย่างเดียว ทำให้ผู้หญิงเสียเปรียบก็เลยเอาผู้ชายมาร่วมวงด้วย ผู้หญิงเขาจะได้ไม่เสียเปรียบเรา

    ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าจะใช้ ท่านที่ทราบก็ใช้ไปตามที่ตนเองถนัด แต่อย่ายกเอาไปเถียงกันว่าครูบาอาจารย์บอกมาอย่างนี้ เพราะว่าตามตำราการใช้ยาวาสนาจินดามณีซึ่งมีอยู่หลายหน้ากระดาษนั้น ไม่ได้บอกกล่าวถึงการใช้ในแนวเมตตามหานิยมด้วยคาถานี้ แต่เป็นกระผม/อาตมภาพเติมให้เองเท่านั้น

    และบุคคลที่จะสร้างวัตถุมงคลด้วยยาวาสนาจินดามณีก็มีน้อย ที่เห็นเป็นล่ำเป็นสันอยู่ ก็มีหลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา พระครูอาทรธรรมนิเทศก์ (ทองอยู่ อตฺตทีโป) เท่านั้น ท่านอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็ปั้นเป็นยา เพราะว่าถ้าสร้างเป็นองค์พระแล้วก็จะสิ้นเปลืองวัสดุไปมาก เนื่องเพราะว่าองค์พระอย่างของหลวงปู่ทองอยู่นั้นก็องค์ค่อนข้างจะใหญ่ ถ้าปั้นเป็นยาวาสนาจินดามณีก็ได้เป็นสิบ ๆ เม็ดทีเดียว

    ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่ทำยาขึ้นมาด้วยการที่เสาะแสวงหาส่วนผสมได้โดยยาก ก็มักจะทำเป็นวัตถุมงคลแค่ไม่กี่องค์ เอาไว้ใช้เองบ้าง เอาไว้ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ใช้บ้าง ส่วนที่เหลือก็มักจะปั้นเป็นเม็ดยาเสียทั้งหมด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ใครมีวัตถุมงคลที่สร้างด้วยยาวาสนาจินดามณีก็รักษาติดตัวเอาไว้ให้ดี เพราะว่าไม่ใช่สิ่งที่จะมีหรือหาได้ทั่วไป

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...