ภาพบรรยากาศการเดินทาง "ลาวเหนือเมื่อใกล้หนาว"

วันจันทร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๖.๐๐ น. พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ พร้อมด้วยคณะเตรียมตัวเดินทางไปยังจังหวัดอุดรธานี ณ สนามบินนานาชาติดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร


ตีห้ามารอคณะที่สนามบินดอนเมือง


คุณจิน เจ้าหน้าที่จาก NC Tour มาคอยให้บริการ


เช็คอินแบบสุ่ม..เลือกที่นั่งไม่ได้




โหลดกระเป๋าแล้วมาถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน




คุณเอ ผู้บริหาร NC Tour มาส่ง ทั้งที่เพิ่งกลับถึงกรุงเทพฯ ตอนตีสาม


ตีห้าครึ่ง ได้อรุณของประเทศพม่าพอดี เขานิมนต์ฉันเช้าก่อนขึ้นเครื่อง


ก๋วยจั๊บชามเกือบเท่ากะละมัง..!


เรียบวุธ..สรุปว่าอร่อยหรือกินเกลี้ยงตามความเคยชินก็ไม่รู้ ?


หกโมงเช้า ผ่านเครื่องเอกซเรย์แบบไร้ปัญหา


รอขึ้นเครื่องที่ประตูหมายเลข ๓๒ ไปลงอุดรธานี


เดินทางกับ "นกเวหา" ลำนี้


ที่นั่งริมหน้าต่างจะเหมาะกับพระที่สุด


เมฆนุ่ม ๆ บนฟ้า


ถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานีก่อนเวลา ๑๐ นาที


รถตู้จากแขวงกำแพงนครเวียงจันทน์มารอรับถึงสนามบินอุดรธานี


ข้าวจี่สำหรับรองท้องไปก่อน
​

 

รถตู้พาวิ่งจากอุดรธานีไปหนองคาย


ไปเรื่อย ๆ วันนี้อากาศดีมาก


ถึงด่านพรมแดนหนองคาย




ต้องมาประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศลาวที่นี่


จ่ายค่าธรรมเนียมคนละ ๒๐ บาทไทยก็ผ่านแล้วจ้า




ผ่านด่านเข้าประเทศลาว


ซาวนครหลวงเวียงจันยินดีต้อนฮับ


ถึงจะยินดีต้อนฮับ ก็ขอตรวจหนังสือเดินทางอีกรอบ


เข้ามาก็เจอร้านแลกเงิน


ที่นี่รถวิ่งชิดขวา


ขับรถโปรดระวังกล้อง..!


ยินดีต้อนฮับสู่นครหลวงเวียงจัน


เสาไฟฟ้าโลหะ ดูน่าหวาดเสียวมาก


เสาร์นี้ยุ่งมาก วันอาทิตย์ถึงจะว่าง


กาสะลองเขตเมืองศรีสตนาค


ถนนเลียบลำโขงฝั่งตรงข้ามอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย


ต้นไม้มากมายดูร่มเย็น


ขวามือคือหอคำ สำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง


เมาบ่ขับ ให้หลับที่บ้าน​

 

มาถึงหอพระแก้ว เมืองเวียงจันทน์


เปิดให้เข้าแต่ประตูเล็ก


ท้าวนุ มัคคุเทศก์ท้องถิ่นช่วยซื้อตั๋วให้


บรรยายแบบลำบากใจมาก พูดอย่างไรไม่ให้กระทบกระเทือนทั้ง ๒ ประเทศ








ปัจจุบันหอพระแก้วเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ มีพระพุทธรูปเก่า ๆ สวย ๆ มากมาย






ด้านในนี้ห้ามถ่ายรูป











ด้านหลังพิพิธภัณฑ์ถ่ายรูปได้












ด้านข้างพิพิธภัณฑ์ถ่ายรูปได้




ย้อนกลับมาด้านหน้าอีกครั้ง
​

 

วิ่งไปฉันเพลตอนเที่ยง ๕๕๕


ร้านรุ่งนะพาแหนมเนือง




ด้านโน้นโต๊ะโยม ด้านนี้โต๊ะพระ ไม่ปะปนกัน




มีอะไรก็เทลงไปเลย..!


ปรุงกันตามอัธยาศัย แล้วกินกระจาย..!​

 

อิ่มแล้วไปเข้าห้องน้ำกันก่อน


แลกเงินกับท้าวนุ ๑,๐๐๐ บาท ได้ ๔๕๐,๐๐๐ กีบ


ออกเดินทางไปพระธาตุหลวงเวียงจันทน์


แวะมาชมประตูชัยก่อน


อยู่ข้างสำนักนายกรัฐมนตรี


ประตูชัยสร้างปี ๒๕๐๒ เท่าอายุหลวงพ่อพอดี


ฟังบรรยายแล้วถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก


เพดานประตูชัยส่วนใหญ่เป็นเรื่องรามเกียรติ์




มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย
​

 

เวลาไม่พอต้องเลื่อนไปไหว้พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ขากลับ


ทางซ้ายมือคือธนาคาร ICBC


ถนนหนทางดีมาก




สถานีรถไฟความเร็วสูงเวียงจันทน์ - หลวงพระบาง


หน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงนครหลวงเวียงจันทน์


กวดปี้ (ตรวจตั๋ว) ก่อนเข้าภายในสถานี


นิมนต์คูบาขึ้นลดไฟก่อนหมู่


One monk show.


บ่อนนั่งซั้นหนึ่ง กว้างขวางมาก


ปี้ลดไฟซั้นหนึ่ง


ออกเดินทางตามเวลาเป๊ะ..!


ในน้ำมีปลาในนามีข้าว


"สะบายดี๋คูบา..ขอกวดปี้โดยข้อยน้อย"
​

 

ใกล้ถึงสถานีวังเวียงแล้ว


สถานีรถไฟวังเวียง


เดินทางต่อไป จุดหมายคือหลวงพระบาง




ออกจากอุโมงค์ก็เป็นภูเขา พ้นจากภูเขาก็เข้าอุโมงค์


จวนถึงหลวงพระบางแล้ว


ถึงแล้ว..สถานีหลวงพระบาง


ทุกอย่างโอเค..แค่มัคคุเทศก์หาย..!


ถ่ายรูปรอมัคคุเทศก์


ถ่ายจนโดนเจ้าหน้าที่มาไล่ เพราะผู้โดยสารจะขึ้นรถไฟ


มัคคุเทศก์แม่งงงออกมารออยู่นอกสถานี..!




รูปหมู่หน้าสถานีรถไฟหลวงพระบาง


รถตู้ที่มารอรับคณะของเรา


ถนนเหมือนกับต่างจังหวัดของเรา


๑๗.๔๕ น. ใกล้ค่ำแล้ว
​

 

วิ่งออกนอกเมืองหลวงพระบางไปยังที่พัก








โรงแรมแกรนด์หลวงพระบาง เป็นวังเก่าของเจ้าเพชรราช รัตนวงศา






ภายในห้องพัก






เก็บข้าวของเสร็จก็ออกไปตลาดมืด (ไนท์บาร์ซ่า)


เดินจนขาลากไม่ได้อะไรสักชิ้น กลับไปนอนดีกว่า​

 

วันอังคารที่ ๑๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕


ท้าวมหาพรหมประจำล็อบบี้โรงแรมแกรนด์หลวงพระบาง สวยงามมาก


แต่งตัวเป็น "แม่หญิงลาว" เตรียมไปใส่บาตรเช้า


ภาพนี้ถ่ายตามคำแนะนำมืออาชีพว่าจะทำให้สูงขึ้น แต่กลายเป็นอ้วนขึ้น..!


เจ้าหน้าที่ของ NC Tour จัดให้มารอใส่บาตรที่หน้าวัดศรีบุญเรือง


มีผ้าเบี่ยงผ้าพาดแล้วค่อยดูกลมกลืนหน่อย


พระไทยมารอใส่บาตรพระลาว










พระเณร ๑๔ วัด เริ่มรับบาตร ๐๕.๕๐ น. เสร็จสิ้น ๐๖.๓๐ น.
หลวงพ่อมีธนบัตร ๒๐ บาท ๗๖ ใบ ใส่ไป ๑๓๕ รูปแล้วยังเหลือตั้งเยอะ..!​

 

ท้าวนุ พาไปเดินตลาดเช้า


สด ๆ จากแม่ของ (แม่น้ำโขง)




ต่อหลุม




ชาวเขา ชาวเรา นำสินค้าจากป่าจากเขามาขายเอง


ข้าวโพดปิ้ง น่ากินมาก




ไคก้อน ไคแผ่น (ตะไคร่น้ำ)


หมากค้อ (ลูกต้นค้อ)


ตลาดแบกับดิน




ซื้อลูกปูน้อยไป ๒๐,๐๐๐ กีบ ปลาข่อน้อยไป ๘๐,๐๐๐ กีบ
เขาให้เอาไปกินดันซื้อไปปล่อย




ร้านปิ้งย่างของแท้​

 

กลับมาโรงแรมแกรนด์หลวงพระบาง ฉันเช้าที่ห้องอาหารโรงแรมริมฝั่งโขง






"เจ้าลุง" หาที่ตั้งวังได้งดงามมาก อยู่ตรงคุ้งแม่น้ำโขงพอดี​

 

"เจ้าลุง" พาชมภายในคุ้มเจ้าหลวง สิทธิพิเศษที่หาไม่ได้ง่าย ๆ
​

 

เดินทางไปวัดเชียงทอง


พลขับพาลงแม่น้ำโขงหน้าตาเฉย


บอกว่าให้มาลงเรือล่องแม่น้ำโขงก่อน




เรือใหญ่นั่งได้เป็นร้อย แต่คณะของเรามาแค่ ๑๖ คน


วิ่งทวนน้ำไปถ้ำติ่งกันก่อน


ระหว่างทางเจอเรือโรงแรมหลายลำ


ถ่ายรูปกันอย่างมีความสุข


เวลามีมากก็นอนภาวนา


ปั๊มน้ำมันลอยน้ำ
​

 

สะพานรถไฟข้ามโขงไปประเทศจีน


ธรรมชาติยิ่งใหญ่และงดงาม


ลอดใต้สะพานรถไฟแล้ว



ย้ายไปนั่งท้ายเรือถึงจะไม่ย้อนแสง


ห่างไกลเหลือเกินไกลห่าง อ้างว้างฝันเคยเคียงใกล้ ๕๕๕


กระชังเลี้ยงปลาในแม่น้ำโขง


ขายถ่านที่ริมโขง


ตอม่อเก่า สะพานหายไปแล้ว


บ้านเล็กในป่าใหญ่


หมู่บ้านใหญ่ริมฝั่งโขง


เห็นจุดหมายไกลลิบ ๆ


กำลังเข้าเฝ้าพระอินทร์


เนินเขากลม ๆ ซ้ายมือเป็นที่ตั้งของถ้ำติ่ง


ถ่ายรูปหมู่ไว้ก่อนเผื่อไปไม่ถึง..!
​

 

เห็นปากถ้ำติ่งแล้ว


ฝั่งตรงข้ามถ้ำติ่งเป็นแม่น้ำอู บนภูเขามีโลงศพนางอั้วในตำนานท้าวขูลู - นางอั้ว


"เรือหนุ่มเทิงสาวทุ่ง" ของเราเข้าเทียบท่าปากถ้ำ


บ่อนขายปี้เข้าซมถ้ำติ่ง




ทางขึ้นถ้ำติ่งลุ่ม (ถ้ำล่าง) สูงทีเดียวแหละ




ฟัง "ท้าวนุ" บรรยายความตามไท้เสด็จยาตร
​

 

ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก


มุดทางหมาลอดไปริมแม่น้ำโขง


เจอพระธาตุน้อยก่ออยู่ริมผา


มีทางก็ต้องขึ้น






บรรยากาศในถ้ำและก้อนหินอันเป็นที่มาของชื่อ "ถ้ำติ่ง"


ร่วมบูรณปฏิสังขรณ์ถ้ำติ่ง ๔๕,๐๐๐ กีบ












เดินทางไปถ้ำติ่งบน (ถ้ำเทิง)














ถ้ำติ่งบนและบรรยากาศภายในถ้ำ






รูปหมู่ รูปคู่ รูปเดี่ยว ในถ้ำติ่งบน​

 

เพิ่งมีเวลาสนใจปากถ้ำที่แกะสลักได้งดงามมาก


กลับมาถึงเรือมีสำรับตั้งรอท่า






มีก็กินสิครับ..จะรอช้าอยู่ทำไม ?
​

 

อิ่มแล้วก็ล่องเรือกลับ


ขาไปทวนน้ำใช้เวลา ๒ ชั่วโมง ๑๐ นาที ขากลับตามน้ำจะใช้เวลาเท่าไรเอ่ย ?


ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๒๐ นาที ก็มาถึงท่าน้ำวัดเชียงทองแล้ว


หน้าวัดเชียงทองเป็นจุดแม่น้ำสองสี ระหว่างแม่น้ำโขงกับแม่น้ำคาน


หลวงพ่อลงไปวัดความกว้างยาวของบันไดวัดจนคางถลอก ก่อนมาฟังบรรยายจาก "ท้าวนุ"




ชมราชรถอัญเชิญพระบรมศพและถ่ายรูปหมู่


พระอุโบสถวัดเชียงทอง มรดกโลกแห่งหลวงพระบาง


รูปหมู่หน้าพระวิหารเก็บราชรถอัญเชิญพระบรมศพ


ภายในพระอุโบสถวัดเชียงทอง


ภายนอกพระอุโบสถวัดเชียงทอง


วิหารพระพุทธไสยาสน์




ภาพพระบฏงาม ๆ ในวิหารพระพุทธไสยาสน์


รูปนี้ต้องไปทำที่วัดท่าขนุนบ้าง


หัวช้างข้างพระวิหาร เมื่อสรงน้ำพระข้างในจะไหลออกมาทางนี้


เสมาประดับกระจกสวยมาก


พระอุโบสถวัดเชียงทอง ถ่ายซ้ำหวังให้ดีกว่าเดิม


ออกเดินทางกันต่อไป​

 

มาถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดกวงซี (กวางซี คือ กวางเขาเทียนของไทย)


เข้าลานจอดรถแล้วเดินไป


"บ่อนขายปี้" อยู่ทางขวามือ


มาซื้อ "ปี้" ที่บ่อนนี้


คนลาว ๑๕,๐๐๐ กีบ นักท่องเที่ยว ๒๕,๐๐๐ กีบ


ได้ "ปี้" แล้วมานั่งรถไฟฟ้าเข้าไป


ประมาณ ๑.๕ ก.ม. มาถึงลานจอดรถ


ถ่ายรูปหมู่ตรงปากทางเข้าอุทยาน
​

 

เดินป่าชมน้ำตกไปทีละชั้น












คนส่วนใหญ่ไม่ยอมเดินป่า จะได้เห็นแค่น้ำตกชั้นสุดท้าย












มาถึงชั้นบนสุดแล้ว
​