เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕

​

 

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่ช่วงเช้า กระผม/อาตมภาพได้นำพระภิกษุสามเณร แม่ชี และฆราวาสในวัดท่าขนุน เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งดำเนินการโดยคณะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของตำบลท่าขนุน ผลปรากฏว่าออกมาเป็นลบทุกคน

แม้แต่กระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ซึ่งคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย คือลูกมิติ (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) โดยเฉพาะในระยะเวลาสามสี่วันที่ผ่านมา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันดูแลผู้ป่วย เรียกง่าย ๆ ว่าทุกครั้งที่ได้ยินเสียงไอ ก็รีบเข้าไปดู ทั้งยาเม็ด ยาน้ำ ยาพ่น เพื่อระงับอาการไอ ได้ใช้ไปอย่างครบถ้วน ตลอดจนกระทั่งบรรดายาต่าง ๆ ที่ทางโรงพยาบาลจ่ายมาเพื่อผู้ป่วย ก็ได้ทำหน้าที่คอยตักเตือน คอยบังคับให้ผู้ป่วยกินยาตามเวลา ซึ่งลักษณะของการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ใกล้ชิดแบบนี้ รับประกันว่าไม่รอดอย่างแน่นอน..!

แต่ทั้งกระผม/อาตมภาพและน้องเล็กต่างก็ตรวจออกมาแล้วมีผลเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อ แปลว่าแหกกฎทุกทฤษฎีที่มีอยู่ เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ และเป็นการยืนยันถึงคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรายึดถือว่า ถ้าหากมีความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างแท้จริงประการหนึ่ง อาราธนาได้ถูกต้องตามวิธีการประการหนึ่ง ก็สามารถที่จะป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเราได้

ท่านทั้งหลายต้องนึกถึงคำที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านได้กล่าวเอาไว้เมื่อครั้งที่ท่านได้จัดการเป่ายันต์เกราะเพชรไม่นาน หลังจากนั้นมีโรคร้ายระบาดขึ้น ก็คือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าโรคเอดส์

กระผม/อาตมภาพได้กราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านว่า "หลวงพ่อขอรับ กระผมมีความมั่นใจในพุทธานุภาพของยันต์เกราะเพชรเป็นอย่างยิ่ง มั่นใจว่าสามารถป้องกันโรคเอดส์ได้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีความเห็นเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้างครับ ?"

หลวงพ่อท่านเมตตาตอบว่า "เรื่องของไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่ละเอียดกว่า ยันต์เกราะเพชรยังสามารถกันได้ เชื้อโรคที่เป็นของหยาบกว่า ทำไมจะกันไม่ได้ ? สำคัญที่ว่าแกมีความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยอย่างแท้จริงแค่ไหน" นี่เป็นประการที่หนึ่ง

ประการที่สองก็คือว่า วัตถุมงคลที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้ทำเอาไว้นั้น บางรุ่นท่านกล่าวว่าสามารถป้องกันได้แม้แต่รังสีนิวเคลียร์ ถ้าหากว่าสิ่งที่รุนแรงร้ายกาจขนาดรังสีนิวเคลียร์ยังกันได้ ทำไมแค่เชื้อโรคธรรมดาจะกันไม่ได้ ?

ดังนั้น...ในยุคนั้นสมัยนั้น กระผม/อาตมภาพจึงไม่ได้ระมัดระวัง และไม่ได้เกรงกลัวเลยว่าตนเองจะติดเชื้อไวรัสเอดส์ เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะมั่นใจว่าคุณพระรัตนตรัยสามารถที่จะคุ้มครองป้องกันผู้ที่นับถือเลื่อมใสได้อย่างแท้จริง เพียงแต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นมีความประมาท ก็คือตนเองไม่ได้มีการเที่ยวสำส่อน แต่ลืมไปว่า ถ้าเราอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย อาจจะมีการสัมผัสเชื้อจากสารคัดหลั่งต่าง ๆ ของผู้ป่วย ก็ทำให้เราสามารถติดเชื้อได้เช่นกัน แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบันนี้

 

ในเมื่อยุคปัจจุบันเป็นยุคของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ บรรดาเชื้อไวรัสต่าง ๆ ก็ต้องบอกว่าเป็นของหยาบ ในเมื่อวัตถุมงคลสามารถป้องกันสิ่งที่ละเอียดกว่าได้ ของหยาบทั้งหลายเหล่านี้ย่อมก็สามารถที่จะป้องกันได้เช่นกัน

โดยเฉพาะวัตถุมงคลบางประเภทที่เป็นธาตุปรอท ไม่ว่าจะเป็นปรอทป่าก็ดี ปรอทสำเร็จก็ดี หรือว่าวัตถุมงคลบางประเภทที่เป็นโลหะผสม อย่างเช่นว่า เมฆสิทธิ์ เมฆพัตร เหล็กไหลสุริยันราชา หรือว่าชินนพรัตน์ก็ตาม ย่อมมีรัศมีการป้องกันของตนอยู่ ถ้าหากว่าเรามีกำลังสมาธิสูงมาก อาราธนาคุณพระด้วยความมั่นอกมั่นใจมาก รัศมีการป้องกันก็ย่อมที่จะแผ่ขยายออกไปได้มากเช่นกัน

ดังนั้น...ในเมื่อคลุกคลีกับผู้ป่วย กระผม/อาตมภาพจึงไม่ได้มีความหวั่นเกรงว่าตนเองจะติดเชื้อไวรัส และเมื่อตรวจหาแล้ว ก็ปรากฏว่าผลออกมาเป็นลบ แม้กระนั้นก็ตาม ในระยะนี้กระผม/อาตมภาพก็พยายามที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะว่ายังจะต้องกักตัวอีกอย่างน้อย ๓ วัน

การกักตัวในที่นี้ไม่ได้ป้องกันตนเองแล้ว แต่ว่าอันดับแรกคือ ป้องกันคนอื่นรังเกียจว่าเราคลุกคลีตีโมงกับผู้ป่วย อันดับที่สองก็คือป้องกันว่า ถ้ามีเชื้อโรคจากผู้ป่วย แม้ว่าไม่สามารถที่จะทำอันตรายเราได้ก็จริง แต่ว่าอาจจะไปทำอันตรายต่อผู้อื่นที่เราใกล้ชิดก็เป็นได้ ดังนั้น..จึงขออนุญาตกักตัวต่อไปอีกอย่างน้อย ๓ วัน แล้วจะทำการตรวจซ้ำอีกวาระหนึ่ง

และสิ่งที่น่ายินดีก็คือว่า ลูกมิติที่เป็นผู้ป่วยนั้น แม้ว่าจะมีการตรวจ ATK ในวันนี้พร้อมกับผู้อื่น ก็ไม่ปรากฏว่ามีเชื้อแล้ว แต่ก็ยังต้องกักตัวให้ครบตามกำหนดเวลาอยู่ดี

บุคคลที่ติดเชื้อกลับเป็นพระในวัดท่าขนุนนี่เอง แต่ว่าท่านออกไปทำการผ่าตัดไส้ติ่งที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ แล้วก็ติดเชื้อกลับมา โดยเฉพาะการที่ได้ทดสอบดูแล้วมีผลออกมาเป็นบวก เมื่อทดสอบดูซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก็ยังมีผลเป็นบวกอีก ก็คือหลวงตาอิ้ว หรือว่าพระณัฐวัฒน์ จิรธมฺโม

 

แต่เหตุที่ว่าท่านไปผ่าตัดกลับมา เพื่อความสะดวกในการเข้าห้องน้ำ ทางวัดของเราก็จัดการให้ท่านแยกอยู่ต่างหาก ในสถานที่ซึ่งใกล้ห้องน้ำที่สุด จึงเท่ากับว่าเป็นการแยกตัวโดดเดี่ยวอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็แค่ให้ท่านแยกการใช้ห้องน้ำจากผู้อื่นเท่านั้น ส่วนการส่งข้าวส่งน้ำ หรือว่าการกักตัวนั้น ก็ให้เป็นไปตามปกติของผู้ป่วยที่ไปรับการผ่าตัดมา

อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงในเรื่องของวัตถุมงคลก็คือว่า ในระยะนี้วัตถุมงคลหลายอย่างของวัดท่าขนุน มีการทำปลอมออกมาเป็นปกติ แต่ถ้าหากรู้จักสังเกตก็จะเห็นความต่างอย่างเห็นได้ชัด วัตถุมงคลของวัดท่าขนุน ที่โดนปลอมเป็นอย่างแรกเลยก็คือพระองค์ที่ ๑๑ หลังจากนั้นมาก็เป็นพระกริ่งพิชัยสงคราม เป็นตะกรุดมหาสะท้อน

ปัจจุบันนี้ส่วนที่ปลอมอย่างเห็นชัด ๆ ก็คือสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหล ฉลอง ๖๐ ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม ซึ่งฝีมือการปลอมหยาบมาก สามารถแยกแยะได้ง่าย โดยเฉพาะในเว็บชื่อดังสำหรับขายของนั้น ได้จำหน่ายในราคาแค่ ๒๙๙ บาท..!

ในระยะแรกนั้น สมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหล จำหน่ายจากวัดท่าขนุนองค์ละ ๕,๐๐๐ บาท..! จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จึงขออนุญาตพระท่านลดราคาลงมาครึ่งหนึ่ง จำหน่ายในราคา ๒,๕๐๐ บาทถ้วน กระนั้นญาติโยมทั้งหลายก็ยังบูชาไปจนไม่เหลือติดกายแม้แต่องค์เดียว ยกเว้นองค์ที่ใช้ติดประคำอยู่เท่านั้น

อีกส่วนหนึ่งที่ได้รับการปลอมอย่างเห็นได้ชัดคือสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต ที่ฝีมือการปลอมหยาบมาก ๆ จนกระทั่งคิดว่าคนปลอมดูถูกคนซื้อหรือเปล่า ? ถึงไม่พยายามทำให้ประณีตมากกว่านี้

 

ดังนั้น...ญาติโยมทั้งหลายที่ต้องการวัตถุมงคลของวัดท่าขนุน สามารถที่จะบูชาได้ในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ในกระทู้บูชาวัตถุมงคลและสั่งซื้อหนังสือธรรมะจากวัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งในเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำวัตถุมงคลวัดท่าขนุนไปจำหน่ายต่อ โดยคิดแค่ค่าดำเนินการประมาณองค์ละ ๑๐๐ บาท ที่ถือเป็นค่ากล่อง ค่าส่ง ค่าไปรษณีย์ ค่าทำการทำงาน และค่าเสียเวลาของผู้ที่รับผิดชอบแทนพวกเราทั้งหลาย

ดังนั้น...ท่านที่ต้องการวัตถุมงคลของวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพรับรองให้แค่ ๒ แห่งนี้เท่านั้น ก็คือถ้าไม่ใช่เว็บไซต์วัดท่าขนุน ก็ต้องเป็นเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ อีกส่วนหนึ่งก็คือท่านที่เดินทางมาบูชาที่ศาลา ๑๐๐ ปี หลวงปู่สาย วัดท่าขนุนด้วยตนเองเท่านั้น ซึ่งที่วัดเองก็มีอยู่แค่ไม่กี่รุ่น

ถ้าหากว่าเป็นรุ่นที่หมดไปจากวัดแล้ว ท่านทั้งหลายก็ต้องไปพินิจพิจารณาเองว่า บุคคลที่มาจำหน่ายตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ นั้น มีความน่าเชื่อถือเพียงใด ? ขอให้ท่านทั้งหลายอย่าได้ใจร้อน ค่อย ๆ พินิจพิจารณาดูความน่าเชื่อถือของบุคคล โดยเฉพาะสอบถามจากบุคคลที่เคยบูชาไปก่อนว่า ผู้ที่ให้บูชานั้น สามารถเชื่อถือได้หรือไม่ ? ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท่านต้องเสี่ยงดวงเอาด้วยตนเอง เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นโดนบุคคลอ้างชื่อไปใช้งานมากต่อมากด้วยกัน

วัตถุมงคลบางประเภท ทางวัดยืนยันว่าจารมือทุกองค์ ก็ยังมีที่ไม่ได้จารปรากฏออกมา แล้วบอกว่าเป็นพิเศษ ซึ่งความพิเศษในลักษณะนี้ท่านทั้งหลายอย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาด ขอให้ยึดหลักที่ว่า เงินของเราเป็นของแท้ เมื่อบูชาวัตถุมงคลแล้ว ก็ควรที่จะได้ของแท้เช่นกัน

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกเล่าให้ญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่ได้ทราบแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)