เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 24 มิถุนายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๕


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2022
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ทางวัดท่าขนุนได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมพระสังฆาธิการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ในระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เจ้าสำนักสงฆ์ ประธานที่พักสงฆ์ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ ซึ่งได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชาว่า "มาประชุมโดยพร้อมเพรียงกันดีมาก"

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเรามีการติดต่อแจ้งให้บรรดาเจ้าคณะตำบลต่าง ๆ ประสานงานกับเจ้าอาวาส เจ้าสำนักสงฆ์ และประธานที่พักสงฆ์ ล่วงหน้าเป็นเวลาถึง ๑ เดือน ในเมื่อมีการแจ้งล่วงหน้าแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ย่อมเว้นเอาไว้ว่า วันนี้ต้องไม่รับงานหรือว่ารับกิจนิมนต์ใด ๆ จึงเป็นเหตุให้ทุกคนสามารถที่จะมาประชุมกันโดยพร้อมเพรียงกันได้

    และถึงแม้ว่าราชกิจจานุเบกษาจะประกาศเลิกบังคับการสวมหน้ากากอนามัยแล้วก็ตาม แต่ว่าพวกเราทั้งหมดก็ยังคงสวมหน้ากากอนามัยกันด้วยความสมัครใจ เนื่องเพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้น ยังแพร่ระบาดอยู่ในเขตอำเภอทองผาภูมิไม่น้อยเลย ผู้ที่ติดเชื้อโดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรยังมีอยู่มาก เพราะว่าต้องคลุกคลีใกล้ชิดกับญาติโยมทั้งหลายเป็นปกติ

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การดำเนินการประชุมจึงเป็นไปโดยพร้อมเพรียงและสมานฉันท์ ถ้าหากว่าภาษาพระเขาเรียกว่า กายสามัคคี คือมีความพร้อมเพรียงกันทางกายภาพดีมาก

    ในวันนี้อีกงานหนึ่งของทางวัดท่าขนุน ก็คืออนุญาตให้ทางเทศบาลตำบลท่าขนุน ใช้พื้นที่หน้าวัดในการเปิดตลาดจำหน่ายผลไม้ในงาน "เทศกาลผลไม้สดจากสวน" ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางเทศบาลตำบลท่าขนุนได้จัดงานนี้ขึ้นมา โดยนายจิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน และนายสมเกียรติ นาคศรีโภชน์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน เป็นผู้ประสานงานมา

    เนื่องจากว่าในระยะหลังนี้ บรรดาผักผลไม้ต่าง ๆ ของอำเภอทองผาภูมิซึ่งมีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะทุเรียนทองผาภูมิและเงาะทองผาภูมิ จึงทำให้มีพ่อค้าคนกลางไปดำเนินการในลักษณะ "ตกเขียว" ก็คือทำการไปซื้อเหมาสวนเอาไว้เสียเกือบทั้งหมด
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ดังนั้น...ในปีนี้ทางที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนวชิราลงกรณ จึงไม่ได้จัด "งานเทศกาลผลไม้ของดีอำเภอทองผาภูมิ"เหมือนกับทุกปี โดยท่านนายอำเภอนภเดช เกลียวศิริกุล เปลี่ยนจากการจัดงานเทศกาลผลไม้ของดีอำเภอทองผาภูมิ ไปเป็นการโฆษณาให้บรรดาสวนต่าง ๆ ซึ่งมีผลไม้ออกสู่ท้องตลาดเป็นประจำ ให้บรรดาท่านทั้งหลายได้รู้จักกันทางสื่อโซเชียลแทน เผื่อว่าท่านทั้งหลายที่ต้องการมาท่องเที่ยวในเชิงการเกษตร ก็จะได้เข้าไปถึงที่ในแต่ละไร่ได้เลย และอาจจะได้รับส่วนแบ่งผลไม้จากทางด้านเจ้าของสวนมาบ้างก็เป็นได้

    แต่คราวนี้ทางเทศบาลตำบลท่าขนุนนั้น เนื่องจากว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ เมื่อเข้าไปสืบความตามไร่ต่าง ๆ จนทั่วถึงแล้ว ก็ทราบว่า ด้วยความที่อากาศไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผลผลิตของบรรดาพืชผักผลไม้อำเภอทองผาภูมินั้น แบ่งออกเป็นหลายรุ่น บางสวนก็แก่พอที่จะขายได้ จนกระทั่งหมดไปแล้ว บางสวนก็ยังอยู่ในลักษณะที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาด บางสวนก็ยังเป็นลูกอ่อนอยู่เลย

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทางด้านเทศบาลตำบลท่าขนุนจึงเล็งเห็นว่า การที่ผลไม้ออกไม่ตรงตามฤดูกาล หรือว่าออกเป็นหลายรุ่น ทำให้การจำหน่ายพร้อมเพรียงกันนั้นเป็นไปโดยยาก พ่อค้าคนกลางก็คงจะไม่เสียเวลามารอสวนที่ผลผลิตออกทีหลัง เพราะว่าถ้าหากว่าช้า ก็จะทำให้ขายได้ราคาไม่ดี จึงมีการทอดทิ้งหลายสวนที่ไม่สามารถจะออกจำหน่ายในฤดูกาลได้

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทางเทศบาลตำบลท่าขนุนจึงได้คิดที่จะเปิดสถานที่จัดจำหน่ายเอง โดยติดต่อประสานงานมาทางวัดท่าขนุน ขอใช้พื้นที่ลานธรรมสองฝั่งข้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๒๑ ศอก หน้าวัดท่าขนุน ในการจัดร้านจำหน่ายในครั้งนี้ และประสานไปยังสวนต่าง ๆ ที่มีพืชผักผลไม้

    โดยเฉพาะในส่วนของทุเรียนทองผาภูมิ ซึ่งชนะเลิศที่ ๑ ในงานประกวดทุเรียนโลก และล่าสุดนี้ก็ชนะการประกวด ๑ ใน "งานสุขสยาม อะเมซซิ่ง ฟรุตพาราไดส์ ๒๕๖๕" ที่ไอคอนสยามมา ตลอดจนกระทั่งเงาะทองผาภูมิ ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในความหวานกรอบและอร่อย ให้พยายามนำเอาพืชผลการเกษตรซึ่งเป็นผลผลิตของสวนตนเองนั้น มาวางจำหน่ายที่ลานธรรมหน้าวัดท่าขนุน ในช่วงวันที่ ๒๔-๒๕-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ นี้
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    กระผม/อาตมภาพได้บอกกับทางด้านเทศบาลตำบลวัดท่าขนุนไปว่า ถ้าหากสวนต่าง ๆ ที่พืชผลออกช้ากว่า และสามารถที่จะออกมาจำหน่ายต่อจากทั้ง ๓ วันนี้ ก็ให้ยืดระยะเวลาในการเปิดตลาดให้ยาวนานออกไปได้ โดยที่ทางวัดไม่มีกำหนดเวลา เพื่อที่จะได้ทำให้บรรดาเจ้าของสวน หรือว่าเกษตรกรต่าง ๆ ได้มีสถานที่ตั้งจำหน่ายพืชผลทางเกษตร โดยไม่ต้องเสียค่าที่

    เท่าที่เห็นในวันนี้ก็คือ สินค้าต่าง ๆ จำหน่ายได้ดีมาก เพราะว่าอยู่ข้างถนนใหญ่ รถกี่คันที่วิ่งผ่านมา เมื่อเห็นว่าทางสวนนำผลไม้ต่าง ๆ มาจำหน่ายด้วยตนเอง ก็รีบแวะเข้าไปทันที โดยเฉพาะในส่วนของทุเรียนนั้น จำหน่ายในราคาที่ไม่แพง เนื่องเพราะว่าต้นฤดูกาลนั้นจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ ๑๘๐ บาท จนกระทั่งลงมาต่ำสุดที่ ๑๖๐ บาท แต่ว่าที่มาวางจำหน่ายที่หน้าวัดท่าขนุนนั้น อยู่ที่กิโลกรัมละ ๑๕๐ บาท

    กระผม/อาตมภาพเองขอแนะนำให้ซื้อทุเรียนที่เขาแกะใส่กล่องไว้ เพราะว่าราคาใกล้เคียงกัน โดยที่ไม่ต้องเสียน้ำหนักของเปลือกทุเรียนไปด้วย เหตุที่กล้ายืนยันเช่นนี้ เพราะว่าทดสอบด้วยการซื้อมาด้วยตัวเอง ทั้งแบบแกะใส่กล่องและแบบทั้งลูกมาแล้ว ขอยืนยันว่าแบบแกะใส่กล่องคุ้มค่ากว่าหลายเท่า..!

    เหตุที่วัดจำเป็นที่จะต้องเปิดเป็นตลาดชุมชนขึ้นมานั้นก็เพราะว่า "บ้านพึ่งวัด วัดพึ่งบ้าน" เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องอาศัยกัน โดยเฉพาะถ้าหากว่าญาติโยมสามารถที่จะจำหน่ายพืชผลการเกษตรได้ ถึงเวลามีเงินมีทองใช้คล่องตัว เขาทั้งหลายเหล่านั้นก็จะเข้าวัดมาทำบุญเอง

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างจะต้องรู้จักมองการณ์ไกล เหมือนอย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้ว่า บุคคลที่จักค้าขายหรือว่าจะประกอบกิจการงานใดก็ตามให้สำเร็จนั้น ต้องประกอบไปด้วยหลักธรรมทั้ง ๓ ข้อก็คือ

    ข้อที่ ๑ จักขุมา แปลว่าเป็นผู้มีสายตายาวไกล ซึ่งสมัยนี้เราใช้คำว่า "วิสัยทัศน์" หรือถ้าหากว่าภาษาอังกฤษก็คือ Vision หมายความว่าท่านสามารถอ่านเกมได้ขาดว่า ตลาดในระยะนี้ต้องการสินค้าประเภทใด ในระยะหน้าต้องการสินค้าประเภทใด แล้วสามารถหาสินค้าไปป้อนให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในช่วงนั้น ก็จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จได้

    แต่เท่าที่พบเห็นมานั้น ตั้งแต่โบราณจนปัจจุบันก็คือ พอเห็นใครทำอะไรประสบความสำเร็จ คนก็ฮือตามกัน ในเมื่อไปทำสิ่งที่เหมือน ๆ กัน ท้ายที่สุดก็พากันล่มจมไปตาม ๆ กันเช่นกัน..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,372
    หลักธรรมข้อที่ ๒ ก็คือ วิธุโร แปลว่าผู้ที่สามารถจัดการธุระได้อย่างวิเศษยิ่ง ในที่นี้ก็คือเป็นผู้ที่สามารถติดต่อประสานงานได้เก่ง เป็นผู้ที่เข้าถึงตลาด เป็นผู้ที่เข้าถึงแหล่งการผลิต ทำให้สามารถที่จะประสานงาน เพื่อนำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มาเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อกิจการของตนเอง และต่อผู้ที่ต้องการผลผลิตต่าง ๆ นั้น สามารถที่จะซื้อหาผลผลิตตามที่ตนเองปรารถนา ทำให้การจัดการงานต่าง ๆ นั้นจะเป็นไปโดยง่าย

    โดยเฉพาะหลักการประสานงานตามทฤษฎี "บ - ว - ร" ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็คือเอาบ้าน วัด โรงเรียนและส่วนราชการต่าง ๆ มาประสานความร่วมมือกัน ทำให้เกิดความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ไม่ว่าจะทำสิ่งหนึ่งประการใด ก็ประสบความสำเร็จโดยง่าย

    ข้อสุดท้ายของหลักธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวเอาไว้ก็คือ นิสสยสัมปันโน แปลว่าเป็นบุคคลที่ถึงพร้อมด้วยที่พึ่ง คำว่าที่พึ่งในที่นี้ ถ้าพูดกันแบบหยาบ ๆ ก็คือมีเส้นมีสาย แต่ถ้าหากว่าใช้ภาษาอังกฤษ เขาเรียกว่ามี Connection คือสามารถที่จะต่อสายถึงได้ทั้งเบื้องสูงเบื้องต่ำ


    เช่นเดียวกับเทศบาลตำบลท่าขนุน ที่สามารถบุกเข้าไปจนกระทั่งถึงสวนทุกสวน ติดต่อประสานงานทั้งบนและล่าง คือ จัดให้ทางสวนมีสถานที่วางจำหน่ายผลผลิตได้ จึงประสบความสำเร็จในการที่จัด "งานเทศกาลผลไม้สดจากสวน" ของตนเองในครั้งนี้ขึ้นมา

    เราจะเห็นได้ว่าหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธนั้น พระองค์ท่านสอนทั้งในส่วนที่เป็นทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ คือประโยชน์ที่เห็นทันตาในปัจจุบันนี้ อย่างเช่นว่า การทำมาหากินก็ดี การครองตนอยู่ในศีลในธรรม ทำให้ไม่ต้องลำบากเดือดร้อนก็ตาม


    ในส่วนของสัมปรายิกัตถประโยชน์ คือประโยชน์ในโลกหน้า ถ้าท่านทั้งหลายประกอบไปด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ที่มั่นคง ท่านก็จะมีสุคติเป็นที่ไป


    และในส่วนของปรมัตถประโยชน์ ประโยชน์สูงสุด คือสามารถปฏิบัติจนกระทั่งหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้


    หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ถึงได้กล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำว่า เป็น อกาลิโก ไม่ประกอบไปด้วยกาลสมัย ก็คือจะยุคไหนสมัยไหนก็สามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มที่เช่นกัน และเอหิปัสสิโก คือสามารถที่จะท้าพิสูจน์ได้ ใครก็ตาม ถ้าหากว่าตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตาม โดยถูกต้องแล้วไซร้ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ทั้ง ๓ สถานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น


    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสงฆ์สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่รับฟังอยู่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...