เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 1 มิถุนายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เรื่องด่วนที่จะแจ้งต่อญาติโยมทั้งหลาย ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะรู้ข่าวกันทั่วถึงหรือไม่ ? ก็คือในวันเสาร์ ๕ ที่จะมาถึงนี้ ไม่มีการไหว้ครูหรือว่าเป่ายันต์เกราะเพชรใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีผู้โทรมาถามกันเยอะมาก

    ทั้ง ๆ ที่โดยธรรมเนียมของวัดท่าขนุนแล้ว ก็คือถ้าหากว่ามีงานจะประกาศแจ้งทางเว็บไซต์ ตลอดจนกระทั่งเฟซบุ๊กของวัดท่าขนุน ถ้าหากว่าไม่ได้แจ้ง แปลว่าไม่มีงาน แต่ก็มีญาติโยมจำนวนมากที่ขาดความมั่นใจ อย่างน้อย ๆ ขอให้ได้ยินได้ฟังด้วยตนเอง จึงพยายามที่จะโทรมาถาม

    แต่ว่าหลายท่านก็มักจะโทรมาผิดจังหวะ อย่างเช่น โทรมาตอนพระฉันเพล ซึ่งตรงจุดนี้ถ้าท่านทั้งหลายขาดความละเอียด ไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบ ก็เป็นการแสดงออกซึ่งความหยาบทางใจของตนเอง แต่ถ้าหากว่าเป็นพระภิกษุสามเณรโทรมา เมื่อรับสายและบอกกล่าวเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็จะสรรเสริญเจริญพรไปทันทีว่า "คราวหน้าจะโทรก็ให้ดูเวลาด้วย ถึงคุณไม่ฉัน พวกผมก็จำเป็นที่จะต้องฉัน..!"

    ดังนั้น...ตรงจุดนี้ถ้าท่านทั้งหลายมีธุระปะปังอะไรที่จะติดต่อกับทางวัด โดยเฉพาะทางวัดท่าขนุน กรุณาเว้นในระยะเวลา ๑๑.๐๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. ของทุกวัน ซึ่งเป็นเวลาที่พระเณรท่านฉันเพล และขณะเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ ในช่วงเช้าก็ให้โทรหลัง ๐๘.๐๐ น. ไปแล้ว ถ้าหากว่าเป็นช่วงเย็น หลัง ๑๗.๐๐ น. ไปก็ไม่ควรที่จะโทรศัพท์ เพราะว่าพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งแม่ชีและฆราวาส จำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวทำวัตรเย็น

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ความจริงแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องมาตอกย้ำกัน แต่กลายเป็นว่าท่านทั้งหลายขาดความเกรงใจอย่างหนึ่ง ขาดความมั่นใจอย่างหนึ่ง ขาดความละเอียดรอบคอบอย่างหนึ่ง ทำให้ท่านทั้งหลายโทรมาโดยที่ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ จึงเป็นเหตุให้ก่อทุกข์ก่อโทษ แก่ทั้งตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่นว่าพระท่านกำลังฉันเพลอยู่ ก็ต้องหยุดมารับโทรศัพท์ของโยมเสียก่อน นอกจากจะเสียเวลาฉันภัตตาหารแล้ว ยังเป็นการเสียมารยาทอีกด้วย

    เมื่อเป็นเช่นนี้ การแสดงออกทางกาย ทางวาจา ทางใจของท่านจึงบ่งชัดว่า การปฏิบัติธรรมของท่านนั้นยังมีผลน้อยเหลือเกิน ยังต้องใช้ความเพียรพยายามให้มากกว่านี้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    สำหรับวันนี้ในช่วงเช้าทางวัดท่าขนุนได้จัดโต๊ะหมู่บูชาถวาย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี ขณะเดียวกันก็ได้เปลี่ยนแบนเนอร์หัวเว็บไซต์วัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งเปลี่ยนภาพเคลื่อนไหวจากจอโฆษณาที่หน้าวัดท่าขนุน เป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้

    หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำพิธีบวงสรวงพุทธาภิเษกที่วัดประเสริฐสุทธาวาสของหลวงพ่อหมู (พระครูปลัดพรหมจริยวัฒน์) ซึ่งเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงกัน โดยเฉพาะเพื่อนฝูงทางด้านสายนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อหมูก็ดี หลวงพ่อพิจารย์ก็ดี หลวงพ่ออภิสิทธิ์ก็ดี แม้กระทั่งรุ่นหลังอย่างพระครูสมุห์อานนท์ก็ตาม เป็นบรรดาท่านทั้งหลายที่ชอบในทุกขาปฏิปทาเช่นกัน ก็คือชอบของยาก..!

    ดังนั้น...จึงมักจะไปค้นคว้าวิชาการเก่า ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสืบสายมาตามครูบาอาจารย์ก็ดี หรือว่าเป็นของครูบาอาจารย์สายอื่น แต่เพียรพยายามไปขอขึ้นครู เพื่อที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนเอาไว้เป็นความรู้ประดับตนเอง และขณะเดียวกัน ถ้ามีโอกาสก็จะได้ใช้ช่วยเหลือญาติโยมต่อไป ในเมื่อเป็นวิชาการทางสายนี้ บรรดาฤกษ์ยามต่าง ๆ ที่วางเอาไว้ ทำให้เวลานั้นจำกัดจำเขี่ยมาก

    ขณะเดียวกันก็ใกล้กับงานใหญ่ของวัดท่าขนุน ก็คืองานบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี ที่นอกจากจะมีการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติแล้ว ยังมีงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ รวมอยู่ในนั้นด้วย

    แล้ววันเวลานั้นก็คร่อมกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ ซึ่งเป็นเหตุให้ท่านทั้งหลายไปคิดว่า ทางวัดท่าขนุนจะมีการจัดงานไหว้ครู ทำให้บางเว็บเพจได้มีการไปประกาศว่า "ไปไหว้ครูกันที่วัดท่าขนุน" ซึ่งกระผม/อาตมภาพขอยืนยันตรงนี้อีกครั้งหนึ่งว่า ไม่มีการไหว้ครูและไม่มีการเป่ายันต์เกราะเพชร

    ในส่วนของฤกษ์ที่จำกัด จึงทำให้ต้องออกจากวัดมา ทั้ง ๆ ที่งานใหญ่ของตนเองก็รออยู่ เมื่อมาถึงแล้ว ต้องบอกว่าด้วยความที่รู้มือรู้ใจกัน ท่านอาจารย์ต้น (ธนสาร เซ้งรักษา) ก็มาถวายคำแนะนำเสียก่อนว่า วันนี้มีขั้นตอนในพิธีกรรมอย่างไรบ้าง ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้บอกกล่าวอย่างชัดเจนว่า "วันนี้ต้องรวบรัดที่สุด"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เนื่องจากว่าวันนี้มีงานประชุมกลุ่มพระวิปัสสนาจารย์ ซึ่งเป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ที่ได้รับแต่งตั้งมาจำนวน ๑๐๘ รูปทั่วประเทศ แต่ว่าก็ได้มีการล่วงลับดับขันธ์ไปแล้วหลายรูปเช่นกัน..!

    ดังนั้น...พิธีกรรมต่าง ๆ จึงเริ่มด้วยการปล่อยปลา เพื่อเป็นการปล่อยชีวิตสัตว์ แล้วต่อด้วยการทำพิธีบวงสรวง กราบขออนุญาตพระ ตลอดจนกระทั่งพรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ เพื่อปลุกเสกวัตถุมงคล หรือว่าสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้

    โดยที่หลวงพ่อหมูแอบกระซิบว่า "ผมขอซุ้มประตูวัดประเสริฐสุทธาวาสนะครับ" ซึ่งคำนี้หมายความว่า วัตถุมงคลนี้จะต้องจำหน่ายให้ได้เพียงพอที่จะสร้างซุ้มประตูของวัดประเสริฐสุทธาวาส ตรงนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องหนักใจ เพราะว่าวันนี้พระท่านก็ได้สงเคราะห์ให้อย่างเต็มที่เต็มทาง จนกระทั่งสว่างเจิดจ้าไปทั้งโบสถ์..!

    โดยเฉพาะพระที่เรียกกันตั้งแต่สมัยโบราณว่า พระสิบทัศน์ ก็คือจะประกอบไปด้วย พระพุทธรูปทั้งยืนและนั่งปางต่าง ๆ จำนวน ๑๐ องค์ด้วยกัน สร้างรวมกันขึ้นมา ซึ่งผู้ที่สร้างได้โด่งดังที่สุด คือครูบาอาจารย์ที่กระผม/อาตมภาพเคารพนับถือทั้งตระกูลมาตั้งแต่เพิ่งจะรู้ภาษา นั่นก็คือหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ต่อมาบรรดาศิษย์สายนี้ก็ได้เลียนแบบสร้างต่อ ๆ ตาม ๆ กันมา

    แต่ว่าครั้งนี้ท่านอาจารย์ต้น (ธนสาร เซ้งรักษา) ได้นำเอาพระประจำวันมาลงรวมเอาไว้ภายในพระสิบทัศน์นี้ ก็แปลว่า ไม่ว่าท่านจะเกิดในวันใดวันหนึ่งก็ตาม สามารถบูชาพระสิบทัศนี้ได้ทุกคน และโดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพได้ขอต่อพระและครูบาอาจารย์ว่า "ขอเผื่อภาวะสงครามนี้ด้วยนะครับ" ซึ่งก็ได้รับความเมตตาด้วยดี
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เมื่อเสร็จพิธีกรรมแล้ว ก็ยังต้องมีการหล่อพระนำฤกษ์และกดพิมพ์นำฤกษ์ ซึ่งฤกษ์ในการหล่อพระและกดพิมพ์นั้น มาหลังการบวงสรวงและพุทธาภิเษก ก็ต้องปล่อยให้งานเป็นไปตามฤกษ์ เพราะว่าผู้วางฤกษ์นั้น เป็นบุคคลที่กระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นมือหนึ่งในคณะของพวกเราในขณะนี้ ก็คือท่านพระครูสมุห์อภิสิทธิ์ อภิญาโณ ที่ได้เมตตาช่วยกระทำให้ ทั้ง ๆ ที่ท่านเองก็เจ็บไข้ได้ป่วย เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ยังปรารภกันว่า การทำสิ่งหนึ่งประการใดเพื่อส่วนรวมอย่างพวกเรานั้น อย่าหวังเลยว่าชีวิตนี้จะได้อยู่สุขอยู่สบายเหมือนกับคนอื่นเขา

    เนื่องเพราะว่าการสร้างวัตถุมงคลนั้น เมื่อมีการปลุกเสก หรือว่าพุทธาภิเษกถูกต้องตามกรรมวิธีแล้ว บุคคลใดนำไปติดตัว ก็จะเป็นการบรรเทาเคราะห์หนักให้เป็นเบา เคราะห์เบาให้เป็นหาย เท่ากับว่าเป็นการไปข้องเกี่ยวกับเคราะห์กรรมของผู้อื่น เหมือนอย่างกับว่าบุคคลนั้นจะโดนอาวุธ แต่ว่าเราไปขวางเอาไว้ ก็จำเป็นที่จะต้องเจ็บบ้าง ตายบ้าง แทนเจ้าของชะตากรรมเขา..!

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงถึงได้ย้ำนักย้ำหนาว่า ในเรื่องของการบวงสรวงเพื่อที่จะปลุกเสกวัตถุมงคลนั้น ถ้าหากว่าเป็นพระพุทธรูปที่เอาไว้สำหรับบูชา ไม่จำเป็นที่จะต้องมีหัวหมูและไก่ก็ได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นพระเครื่อง พระบูชาที่ใช้ติดตัว ซึ่งจะช่วยในการบรรเทาเคราะห์กรรมต่าง ๆ นั้น จำเป็นต้องมี เพราะว่าตามสายครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่ง พรหม เทวดา ได้ตกลงกำหนดเอาไว้เช่นนั้น เป็นสัญลักษณ์ที่บอกอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากว่าทำเช่นนี้แล้ว ท่านก็จะช่วยสงเคราะห์ให้ เป็นต้น

    อีกอย่างหนึ่งก็คือว่าเครื่องบวงสรวงนั้น หัวหมูกับไก่ ถ้าหากว่าทาสีแดง จะเป็นการป้องกันอัคคีภัยได้ด้วย แต่ถ้าหากว่าทาสีแดง แล้วยังรองด้วยกระดาษแดงหรือว่าผ้าแดง ก็จะช่วยป้องกันวินาศภัยให้ด้วย

    ดังนั้น...ท่านใดที่รู้จุดนี้ เมื่อถึงเวลาจัดการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย ก็ควรที่จะทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ไปเลยทีเดียว เนื่องเพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะกระทำกันได้ง่าย ๆ ต้องประกอบด้วยฤกษ์ยาม และวันเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    ขณะเดียวกันก็ต้องมีผู้ที่อัญเชิญพระ อัญเชิญ พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้ที่รู้ชัดรู้จริง จึงจะได้รับการสงเคราะห์ ไม่เช่นนั้นแล้ว ท่านทั้งแล้วก็อาจจะต้องทำแล้วเสียเวลาฟรี เพราะว่าไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างหนึ่ง อัญเชิญไม่ถูกต้องอย่างหนึ่ง

    นอกจากนี้การที่กระผม/อาตมภาพใช้เสียงตนเองในการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย ก็มีลูกศิษย์สายเดียวกันบางคนโจมตีว่า "เป็นการวัดรอยเท้าหลวงพ่อ"

    แต่กระผม/อาตมภาพได้รับการบอกกล่าวจากหลวงพ่อท่าน ตั้งแต่ปีแรกที่ออกจากวัดท่าซุงไป ครั้งนั้นได้ทำบวงสรวงเพื่อขออนุญาตก่อสร้างเกาะพระฤๅษี ก็ใช้วิธีเปิดเสียงบวงสรวงของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง แต่เสียงท่านด่าเข้าหูมาอย่างชัดเจนว่า "พวกแกใช้ข้าจนตายแล้ว ยังอุตส่าห์จะใช้ต่อไปอีกหรือ !?" ซึ่งในลักษณะนี้แปลว่า ถ้ามีความสามารถ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระทำด้วยตนเองแล้ว

    แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่หลายท่านสงสัยว่า ทำไมกระผม/อาตมภาพทำบวงสรวงแล้วมีผลมากกว่าคนอื่น ? จุดนี้มีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ ๒ อย่าง แต่ว่ายังต้องเก็บเอาไว้ก่อน เพราะว่าไม่ได้รับอนุญาตให้บอกกล่าวต่อ ถ้าได้รับอนุญาตเมื่อไร ท่านทั้งหลายก็สามารถที่จะทำได้ด้วยตนเองเช่นกัน

    สำหรับวันนี้ ได้รบกวนเวลาของท่านทั้งหลายมามากพอแล้ว จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...