เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.

  1. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,973
    ค่าพลัง:
    +210,642
    ปู่เจ้าสงฆ์.jpg
     
  2. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    เข้าเว็บตอนนี้ หกโมงห้าสิบ
    หลวงปู่คงได้เดินทางล่องใต้
    กลับแผ่นดินแม่เป็นแม่นมั่น
     
  3. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    และแล้วก็เป็นไปตามนั้น คนชุมพรก็ต้องนำท่านกลับชุมพร เอาไปดูสิว่า จะมีใครที่รักเคารพหลวงปู่ 'เทพเจ้าแห่งชุมพร' จะรักษาพระหลวงปู่เอาไว้ได้งามและครบครันขนาดนี้หรือไม่?

    ไม่ได้แวะไปกราบหลวงปู่นานแสนนาน สังขารไม่เน่าเปื่อยท่านยังสถิตให้กราบไหว้อยู่ที่ศาลาธรรมสังเวช ท่านใดมีโอกาสล่องใต้ หากมีเวลาอย่าลืมแวะกราบขอพร เป็นศิริมงคลชีวิตดีแท้
     
  4. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    โมทนาครับคุณพัฒน์ ส่งปู่คืนกลับมาตุภูมิวันจันทร์ บารมียิ่งใหญ่เอนกอนันต์ของปู่ดูแลลูกหลานเป็นสุขตลอดไป
     
  5. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    ทำบุญพอเป็นกระสายยาพาชีวิตชื่นบาน ก็ได้เวลาของการเดินทางไกล ไต่ขุนเขาตะนาวศรีข้ามไปตะแว แลชีวิตอันผกผันโลดโผนของชายไทยที่ครบเครื่องต้มยำทำแกง เผ็ดน้ำตาเล็ดเยี่ยวราด คุ้มค่าที่เกิดมาทีเดียว

    รอการจิ้ม การแก้ครับ
     
  6. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    (ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!!!
    ===============

    @@บทส่งท้าย@@
    ~~~~~~~~~~~~

    เงาในน้ำสวยใสราวกระจก สร้างความสะทกสะท้านหัวอกยิ่งนัก...!

    ชายหนุ่มคนนั้น ผมเป็นกระเซิง แห้งเป็นสังกะตัง ดวงตาแดงบวมปูด กลางหัวโนจากการชนกับเพดานคุกขี้ไก่ ริมฝีปากแห้งผากแตกระแหงเป็นริ้วดุจคนเดินผ่านทะเลทราย ใบหน้ามอมแมมและหยาบกร้าน เม็ดสิวผุดประปรายที่หน้าผากกับข้างแก้ม คราบไคลปะปนคราบขี้ไก่เกรอะกรัง

    สาบาน...ผมแทบจำสารรูปตัวเองจากเงาสะท้อนในน้ำไม่ได้เลย มีเพียงแววตาเด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เท่านั้นที่เป็นแววตาคู่เดิม นอกนั้นถูกการซ้อมที่โรงพัก คุกขี้ไก่กับคุกขังเดี่ยว เปลี่ยนสภาพไปโดยสิ้นเชิง

    ผมจังงังเพ่งมองเงาตน ทำเหมือน "นาร์ซิสซัส" เทพบุตรสุดหล่อรูปงามที่สุดของโลกแห่งเทพปกรณัมกรีก ที่ตะลึงงันหลงใหลในรูปโฉมจนตายคาขอบสระน้ำ

    เพียงแต่ผมตรงข้ามกับนาร์ซิสซัส ผมอาจตกใจตายกับเงาในน้ำที่ใกล้เคียงกับเงาปิศาจ!!!

    เสียงกระแอมดัง ๆ ข้างหลัง ทำผมรู้สึกตัวรีบไถลพรวดเอาตัวจุ่มน้ำดำมุดหายลงไป ขยี้หัวหูอย่างแรงปล่อยคราบไคลโสโครกไหลไปกับสายธาร เปลื้องเสื้อผ้าชุดเก่าเนื้อตัวล่อนจ้อน ผ้าขี้ริ้วยังดูดีกว่าเสื้อผ้าชุดเดิมที่หมักหมมด้วยสารพัน 'คูถ'

    ผมดำผุดดำว่ายจนสาแก่ใจ พลังชีวิตถูกเติมเต็มสดชื่นกับความเย็นระรื่นของแม่คงคา ทุกซอกมุมหัวจรดเท้าถูกขัดไม่เหลือซากกลิ่นคาวคุก..!

    ล่ามเดินลงมาจากรถเมื่อเห็นผมซักตัวขนานใหญ่เรียบร้อย นั่งยองตรงท่าน้ำ ยื่นสบู่ก้อนเล็กพยักเพยิดให้ผมใช้ คราวนี้เจ้าเงาะก็ถอดรูปเป็นสังข์ทองทันควัน เมื่อผมสวมเสื้อผ้าชุดใหม่

    "ผมถูกปล่อยตัวแล้วยังครับ"?

    เป็นใครก็อดสงกามิได้...กับสภาพที่เผชิญชนิดพลิกผันกลับหัวกลับหาง จากร้ายสุดขั้วกลายเป็นดีสุดกู่

    "ยังหรอก"...!ล่ามมองหน้าผมด้วยแววตาประหลาด สำรวจทั่วตัวผมอย่างพึงพอใจ แล้วยกกำปั้นขึ้นจรดในท่านักมวย ออกหมัดซ้าย - ขวา ชกลม 2 - 3 ที ให้ผมงงหนักยิ่งขึ้น

    "ชกมวยเป็นใช่ไหม?"

    ล่ามทำท่าเสร็จ ฉุดผมลงนั่งเนินหญ้าเหนือท่าน้ำไม่รีบร้อนกลับขึ้นรถ มองสายน้ำใสสะอาดที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับเชิญชวนสรงสนาน สายลมโชยเอื่อย ๆ โลมไล้ผิวกายเย็นชื่นพอกับความฉ่ำรื่นของน้ำ บรรยากาศที่เหมาะการนั่งเคียงคู่คนรักคนรู้ใจ

    ผมมองหน้าล่าม ไม่รู้มาไม้ไหนในการถามแบบนี้ แต่ความสดชื่นกาย สมองโล่งโปร่งทำให้ผมคาดการณ์ยาวไปข้างหน้าด้วยการตอบช้า ๆ ให้ล่ามตามทันและฟังเข้าใจว่า..

    "ผมอาบน้ำแล้ว ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ ต่อไปขอกินอิ่มดี ๆ สักมื้อ นอนเต็มอิ่มสักคืน ตื่นแล้วจะเอาผมไปฟัดกับหมี สู้กับเสือ...ได้ทั้งนั้น"!

    ล่ามฟังทำความเข้าใจพยักหน้าหงึกหงักตามคำพูดที่ยาวแต่ช้า ๆ ไม่ตกหล่น เมื่อฟังผมจบทุกถ้อยวาจาก็ทำตาลุกวาวเอากำปั้นขวากระแทกฝ่ามือซ้ายอย่างคนเจอความตื่นเต้นสะใจสุดขีด

    "นึกไม่มีผิด ผมยอมเอาหัวการันตีว่า คุณต่อยมวยได้ ยินดีขึ้นชกวันอาทิตย์นี้กับนักมวยเอกของผู้การค่าย ท่านผู้การจึงปล่อยตัวไม่เอาผิด คุณมีเวลาพัก 2 วัน ก่อนขึ้นชก"

    ประโยคยาวเฟื้อยยิ่งกว่า ทำให้ล่ามใช้เวลาประดิษฐ์คำไทยนานโข กว่าที่จะถึงบทสรุป แต่ก็ทำผมตาสว่าง มีพังเพยที่คุณเทพผู้รอบรู้โลกพูดถึงฝรั่งหัวแดงหัวทอง พวกตะวันตกมีวลีเปรียบเปรยประโยคหนึ่ง...


    "ไม่มีใครเลี้ยงข้าวเที่ยงฟรี !!!"

    ผมเคยพบคนสมัยใหม่ในเวลาต่อมาเอาประโยคนี้ไปดัดแปลงเป็น..."ของฟรีไม่มีในโลก !"

    เอาเถอะ..จะเป็นข้าวฟรีหรืออะไรฟรี ตราบที่ผมไม่ต้องกลับเข้าคุกขี้ไก่ - คุกขังเดี่ยว มันจะให้ผมฟาดกับหน้าไหน ถ้าตัวต่อตัว ผมยินดีประจันหน้ากะมันไม่ทำให้ล่ามที่คอยช่วยผมด้วยการเอาหัวการันตีผิดหวัง

    การนั่งคุยฉันเพื่อนฝูง ทำให้ผมรับรู้ความจริงที่ควรรู้มากเรื่อง

    อย่างแรก การปะทะ 3 ต่อ 1 ในคุกขี้ไก่ได้รับการสอบสวน และเจ้าคนก่อเรื่องถูกเค้นจนยอมรับสารภาพว่า ผมไม่ได้ลงมือก่อน เรื่องนี้ผมไม่ติดใจวิธีสอบสลับซ้อมของเจ้าหน้าที่หม่องรามัญ ยิ่งโกหก ยิ่งเจ็บ สู้เล่าเรื่องจริง เจ็บน้อยกว่า

    จากเรื่องแรกจึงเกี่ยวโยงเข้าหาเรื่องที่สอง การอัดคนร่วมคุก 3 ต่อ 1 เล่นแรงถึงดั้งหักไปคน แสดงว่าผมต้องมีฝีมือ มีเชิงมวย ล่ามจึงรีบขันอาสา รับปากพาผมขึ้นเวทีในกีฬาโปรดปรานเป็นชีวิตจิตใจของผู้การค่าย เป็นการยื่นคำขอแทนการเอาผมไปลงโทษแม้จะเป็นฝ่ายถูก

    "ถ้าคุณชกมวยไม่เป็น ผมแย่แน่ ๆ"...ล่ามรำพันแต่ก็หัวเราะ เพราะมั่นใจในการแทงหวยว่าไม่ผิดตัว !


    เรื่องต่อมา ล่ามกระซิบว่า ที่จริงเขาคือคนมอญบ้านเดียวกับหัวหน้ามอญ มีน้องชายทำงานที่เหมืองกับญาติอีก 2 - 3 คน ไปขุดแร่ดีบุกกับคนไทย ดีกว่าขุดทองที่บ้านแล้วโดนทหารพม่าปล้นค่าเหนื่อยไปหมด นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่า ทำไมเขาแข็งขันช่วยเหลือผม และทำไมหัวหน้ามอญถึงไว้วางใจให้ดูแล

    "คนมอญต้องทำตัวเป็นคนพม่าเพื่ออยู่รอด ผมตั้งชื่อเป็นพม่า เรียนหนังสือพม่า ไม่พูดมอญต่อหน้าพวกมัน รับราชการได้ขนาดนี้ ถือว่าดีกว่าคนมอญทั่ว ๆ ไปแล้ว"

    ล่ามคุยสนุกเหมือนพบเพื่อนถูกคอ แต่สำเนียงยิ่งคุยยิ่งเพี้ยน ต้องให้พูดซ้ำแล้วผมคอยแปลถามอีกที เราหัวเราะขำขันให้กันราวกับไม่ได้อยู่ในสถานการณ์คอขาดบาดตาย

    "เออ...เล่าถึงเจ้านักมวยพม่าที่ผมต้องชกด้วยทีสิ ฝีมือมันเป็นยังไง"?

    ล่ามชะงักนิดหนึ่ง ก่อนพูดหน้าตาเฉย...

    "มันเป็นแชมเปี้ยนของค่าย ยังไม่เคยแพ้ใคร ตอนนี้หาคู่ชกไม่ได้"!!!

    ผมสำลักน้ำลายไอค็อกแค็ก พับผ่าเถอะ งานนี้หนีเสือปะจระเข้ อีกแล้วชีวิตตู แต่ว่ามวยไทยในประวัติศาสตร์ครั้งเสียกรุงหน 2...'นายขนมต้ม' ก็เคยสำแดงฝีมือเอาชนะพม่ารามัญทีเดียว 9 คน 10 คน ผมก็ลูกหลาน 'นายขนมต้ม' จักกลัวเกรงเจ้าหม่องที่ไม่เคยเห็นหน้า ทำนองตีตนก่อนไข้ไปไย?!

    คิดดังนี้ผมก็จับมือล่ามเขย่า พูดน้ำเสียงมั่นคง...

    "เอาเถอะ มันจะเก่งแค่ไหน อีก 2 วันก็รู้กัน อย่างมากผมก็แค่สลบคาเวที ไม่ถึงตาย"

    ล่ามฟังวาจาแข็งขัน ถึงกับทำตาโตอีกที รีบเอามือโอบบ่าผมอย่างไม่รังเกียจ ฉุดลุกขึ้นยืน...

    "มา...มีเวลาอีกตั้ง 2 วัน ตอนนี้ไปที่พักให้สบายก่อน"

    ที่พัก "สบาย" ของล่ามในค่ายทหาร เป็นกระท่อมตั้งอยู่ห่างโรงเรือนทหาร สนามฝึกซ้อม สนามยิงปืน ชนิดมองกันไม่เห็น มันน่าเป็น "คุก" อีกแบบ

    "ไว้ขังนักโทษชั้นดี"

    ผมคิดไม่ผิด เมื่อล่ามบอกในทันทีที่พาผมเหยียบย่างเข้าในกระท่อม มีแคร่นอน หมอน ผ้าห่ม โต๊ะเล็กทำจากไม้ไผ่นั่งกินข้าวอยู่ข้างเตียง ไม่มีทหารยามผิดแผกจากที่คุมขังอื่น...

    "ผมเฝ้ายาม จะได้คุมซ้อมให้ฟื้นตัวใน 2 วัน"

    ล่ามทุ่มเทสุดตัวยังกับการชกวันอาทิตย์นี้ เขาขึ้นชกเสียเอง!!!

    ------------------

    *** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด***
     
  7. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +36,933
    ผมได้ดูมวยพม่าหลายครั้งในงานวัดใกล้ ๆ ฝั่งไทย เขาเปรียบคู่กันง่าย ๆ โดยไม่มีการชั่งน้ำหนัก ใครคิดว่าสู้ได้ก็พยักหน้ากับคนนั้น กรรมการจะจดชื่อเอาไว้ บางรอบก็เป็นสิบคู่..!

    เมื่อถึงเวลากรรมการซึ่งมี ๒ คน จะเรียกคู่ชกขึ้นไปบนสนามที่เป็นพื้นทราย บอกกติกาให้ทราบ แล้วสับมือให้ชกกันได้ คราวก็โดดใส่กัน เหวี่ยงให้มั่วไปหมด..!

    ถ้าล้มแล้วนอนหงาย กติกาให้กระทืบซ้ำได้..! ถ้าไม่อยากโดนซ้ำ ล้มแล้วต้องรีบพลิกนอนคว่ำ เมื่อครบ "อัน" ซึ่งใช้กะลาด้านที่มีรูวางลงในถังน้ำ กะลาจมเมื่อไรกรรมการก็รีบแยกคู่ชกออก ให้ไปพักก่อน แล้วเรียกคู่ต่อไปขึ้นมาชกต่อ


    การพักจึงขึ้นกับจำนวนมากน้อยของคู่มวยในงานนั้น บางครั้งก็ได้พักเป็นชั่วโมง จน "เครื่องดับ" ไปแล้วก็มี ชกกันจนโดนน็อกกันไปข้างหนึ่ง หรืออีกฝ่ายออกปากยอมแพ้ จึงถือว่าจบการชกของคู่นั้น หรือถ้านานเกินไปแล้วยังหาผลการชกไม่ได้ กรรมการก็มีสิทธิ์ยุติการชกได้..!


    คนแพ้ได้ ๓๐๐ จั๊ต คนชนะได้ ๕๐๐ จั๊ต ถ้าเสมอกัน หาผลแพ้ชนะไม่ได้ รับไปคนละ ๔๐๐ จั๊ต การชกแต่ละคู่จะได้เงินเข้าวัด ๒๐๐ จั๊ต ดูทรง "มวยวัด" หลับหูหลับตาเหวี่ยงแบบนั้น ต่อให้แก่ขนาดผมแล้วไปขึ้นเวทีตอนนี้ ก็มั่นใจว่า แค่ "อัน" เดียวก็น็อกคู่ชกได้แล้วครับ..!
     
  8. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,973
    ค่าพลัง:
    +210,642
    วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู
    ใส่บาตรในเช้าวันนี้
    โมทนาบุญร่วมกันครับ
    สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

    IMG_20220317_063433.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,973
    ค่าพลัง:
    +210,642
    608_n.jpg?_nc_cat=107&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_ohc=mO4uA0htNPgAX-iQmTe&_nc_ht=scontent.furt1-1.jpg
     
  10. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    นั่นเป็น "มวยวัด-งานวัด"ครับท่านบก. แต่มวยในค่ายทหารต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะยุคสมัยในบันทึกนั้นต่อเนื่องมาจากอังกฤษผู้ปกครองที่มาทิ้ง "เชิงมวย"ให้ทหารที่พวกมันฝึกหัด

    อักฤษปกครองที่ไหน อย่างแรกคือระเบียบ วินัย การฝึกหัด การเรียนภาษาแม่ของมัน ยิ่งเป็นเรื่องกีฬาชาตินี้บ้าคลั่ง และทำตัวเป็น "ผู้ดีนักสู้"

    ผิดกับ"ฝรั่งเศส"เจ้าเศษฝรั่งชาตินี้ ไปที่ไหนตักตวงลูกเดียว แถมเอาผู้ปกครองมาคุมแต่ละคน "สัตว์นรก"เรียกพี่ ขนาดไทยไม่ใช่เมืองขึ้น แต่ตอนมันยึด "จันทบุรี" เอาไว้ ไอ้ชาติชั่วที่มันตั้งมาปกครอง ก็รีดนาทาเร้นทำประชาชนน้ำตาตกในเลือดตากระเด็นแสนสาหัส

    ดังนั้นมวยในบันทึกไม่ใช่มวยวัด ต้องซัดกับทหารที่ผ่านการฝึกอย่างดีจากเจ้าอาณานิคม โหดทรหดเอาเรื่อง

    100 จั๊ดพม่า เท่ากับ4 บาทไทยเวลานี้ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนก็คงที่อยู่ 3 บาทกว่า-4 บาทมายาวนาน ตามด่านที่พวกเขาผ่านต้องจ่ายทีละ100-200จั๊ดยัดใส่มือ
     
  11. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    บุญบนฟุตบาทตามด้วยการกรวดน้ำเรียบง่ายด้วยวัสดุที่ไม่ต้องเรื่องมากยากพิธี บุญบริสุทธิ์เช่นนี้รีบอนุโมทนาตามไปให้อิ่มเอิบใจ
     
  12. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    เห็นผี-เห็นเทวดาหายากไม่
    "พระพุทธองค์"ทรงยืนยันไว้
    'หลวงพ่อฤาษีฯเพียงชี้ตาม...

    เทพเทวา...เทวดามี
    ผิดแผกผี....โลกีย์วิสัย
    ได้ฌานหนึ่ง..จึ่งเข้าใจ
    หายสงสัย.......ไยเห็นจริง!
     
  13. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    'พระบิดาแห่งกฏหมายไทย'!
    "กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์"
    เหรียญรุ่นแรก"วันรพี" ปี 24
    ===============

    เกือบไม่ทันรับบารมี "หลวงปู่โต๊ะ"ปลุกเสก เพราะบนหลังเหรียญประทับไว้ว่า...7 สิงหาคม 2524

    แต่ความจริงเหรียญสร้างในปี 2523 ออกแบบโดย นายช่าง เกษม มงคลเจริญ มือวางอันดับหนึ่งเมืองไทยเวลานั้น เมื่อเสร็จก็จัดพิธีใหญ่โต...

    --หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ประธานฯ
    --หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    --หลวงตาช้วน วัดหนัง
    --มหาวีระ วัดเขาตะเกียบ ประจวบฯ
    =======ฯลฯ=======

    ***พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (พระองค์เจ้ารพีพัฒน์)***

    --ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ เจ้าจอมมารดาตลับ
    --ประสูติ 21 ตุลาคม 2471
    --เป็นต้นราชสกุล "รพีพัฒน์"
    --ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม
    --ตั้งศาลยุติธรรมระบบใหม่/ศาลมณฑลและจังหวัดทั่วประเทศ
    --เป็นประธานตรวจชำระกฏหมาย ประมวลกฏหมายอาญาฉบับรศ.127
    --ตั้งโรงเรียนสอนกฏหมาย,เขียนตำรา,อธิบายกฏหมายสมัยใหม่ตามแนวอารยะ,สอนกฏหมายด้วยพระองค์เอง ฯลฯ
    --สิ้นพระชนม์ 7 สิงหาคม 2524 พระชนมายุ 47 ปี
    --นักกฏหมายได้กำหนด 7 สิงหาคมของทุกปีเป็น..."วันรพี"!

    **เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก
    --แต่อย่าออกนอกทางให้เสียผล
    --จงอย่ากินสินบาทคาดสินบน
    --เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ**

    *(ลุงเวทย์ เพิ่มบุญ เปลี่ยนภู่ เขียนตีพิมพ์ในเรื่อง "ลำนำเลือด"(นักกฏหมาย) เป็น'วรรคทอง' อมตะประจำใจนักกฏหมายแต่อดีตถึงปัจจุบัน)*

    เหรียญ "พระบิดาแห่งกฏหมายไทย" บุคคลสูงค่าในประวัติศาสตร์ เหมาะสำหรับ"นักกฏหมาย" ผู้ร่ำเรียนกฏหมายหรือหากินกับกฏหมาย ทั้งบุคคลทั่วไปก็ใช้ได้ดีเยี่ยม ด้วยผ่านบารมีปลุกเสกโดยครูบาอาจารย์ชั้นยอดที่ไม่ต้องโม้

    ไม่ใช่พระ ก็เหมือนพระ พกพาสะดวกเป็นศิริมงคล เปิดไฟเขียวผ่านฉลุยถ้าต้องลุยเกี่ยวกับคดีความ...เหรียญไม่ผ่านการใช้เนื้อทองแดงผิวหิ้งมีเหรียญเดียวคุณค่าเหนือราคามหาศาล...

    =======700=======
    20220319_104259.jpg
    เหรียญพระบิดาแห่งกฏหมายไทย + บารมีปลุกเสกโดย "หลวงปู่โต๊ะ"
    20220319_104319.jpg

    สร้าง 23-ออกแจก 24 ด้านหลังลายเซ็นต์งดงามของพระองค์ท่าน

    20220319_104336.jpg ขนาดและความงามตามภาพ
     
  14. Natthawut_pool

    Natthawut_pool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +14,173
    ร่วมบุญครับ
     
  15. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    เหรียญพระบิดาแห่งกฏหมายไทย สวยงามขลังฉมังสำหรับมือกฏบัตรกฏหมาย หรือไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร บูชาใช้ได้ทุกสถานการณ์ มอบให้ท่านเดินทางขึ้นเมืองเหนือในวันจันทร์ โมทนาน้องณัฐวุฒิครับ
     
  16. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    วันหยุดที่ร้อนอบอ้าว นั่งหน้าจอดูข่าวชาวโลก ระวังระไวเอาไว้ไม่เสียหลาย เพราะวันนี้โลกเล็กกว่าแผนที่ มีคำกล่าวสมัยก่อนว่า...

    ยักษ์ใหญ่ตดทีก็เหม็นไปทั่ว!

    ความจริงไม่กล่าวขนาดนั้น แต่พูดว่า "อเมริกาเป็นหวัด โลกก็เป็นหวัดด้วย" ทำนองนี้แหละ

    วันนี้ ไอ้กันเป็นยิ่งกว่าหวัดคัดจมูก ตัวเองร่อแร่เป็น "มะเร็ง" เข้าขั้นวิกฤติ แต่เรื่อง "เผือก" ไปทั้งโลกยังไม่หยุด ผิดกันที่ว่า การ"เผือก" ในสมัยนี้ ไม่มีประเทศไหนเกรงใจ

    --ฟิลิปปินส์...ที่เหมือน"ลูกไล่"ยังประกาศชัด ถ้าไอ้กันส่งทหารเข้ารบในยูเครนและขอให้ช่วยด้านกองกำลัง..."ก็เรื่องของคุณมรึง เชิญรบตามสบาย ตรูไม่ยุ่งด้วย"

    อิหร่านก็เพิ่งยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพไอ้กันในซีเรียอย่างไม่เกรงอกใจ ตายเป็นเบือ เบื่อนับศพ

    ซาอุฯกับพันธมิตรอ่าวในตะวันออกกลาง ก็เมินหน้าหนีไม่ยอมส่งน้ำมันช่วยไอ้กันเพิ่ม โทษฐานที่ทิ้งขว้างกองทัพซาอุฯในการยุแหย่ให้ไปรบใน'เยเมน'เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ทำเอากองทัพซาอุฯเสียหน้า โดนโจมตีจากกลุ่มนักรบอาหรับย่อยยับส่วนหนึ่ง

    "จีน"เทขายดอลล่าห์แทบหมดคลัง เปลี่ยนเป็น "ทองคำ"แทน ตอนนี้"จีน"เป็นประเทศมี "ทองคำสำรอง"เป็นอันดับ1 ของโลก เหนือกว่าทุกชาติไม่เห็นฝุ่น

    น้ำมันจากรัสเซียที่ส่งขายยุโรปหรือที่ไหนๆงวดล่าสุด ไม่รับการจ่ายเป็นดอลล่าห์ ให้จ่ายด้วย"เงินหยวน" แทน

    โอ๊ย...เขียนไปเรื่อยๆ ต่อให้อีกสัก 100 หน้าถึงความฉิบหายของอเมริกาก็ยังร่ายไม่หมดสิ้น ถึงเวลาที่โลกพลิกเปลี่ยนโฉมหน้า ถ้าไม่เกิดสงครามนิวเคลียร์บรรลัยไปทั้งโลก ฐานอำนาจทางเศรษฐกิจจะหมุนกลับด้านอย่างน่าเหลือเชื่อ

    อังกฤษ ลูกกระเดือกคอหอยไอ้กัน จะกลายเป็นขอทานตามลูกพี่ในอีกไม่ช้า

    กรรมตามสนองกรรม ทำกับโลกนี้ ปู้ยี่ปู้ยำชาวโลกแต่ละประเทศมานาน ได้เวลารวมหัวกันเอาคืน!
     
  17. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    โลกปัจจุบันรุ่มร้อนนัก ทั้งอากาศกับบรรยากาศสงครามโลก...อย่ากระนั้นเลย ถอยหลังกลับไปดูโลกเมื่ออดีต จะร้อนรุ่มอย่างไร ก็แฝงไวัซึ่งความเป็นมนุษย์ ไม่โหดสุดติ่งอย่างวันนี้

    รอการจิ้มอักษรศิลป์ แต่กินเวลาที่อักษรผิดต้องแก้ไขมากมายอีกสักครู่ใหญ่ๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2022
  18. Natthawut_pool

    Natthawut_pool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +14,173
    โอนเงินร่วมทำบุญให้แล้วครับ ขอขอบพระคุณ คุณอาวันวิครับ 20220319_170913.jpg
     
  19. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    (ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!!!
    =============

    @@บทส่งท้าย@@
    ~~~~~~~~~~~~

    วันเดียวผมผ่าน 3 คุก ไม่ใช่ชาย 3 โบสถ์หรือไอ้ขี้คุก เพียงรอนแรมผ่านมันไปราวกับร่อนเร่ผ่านทะเลทรายหฤโหด โชคดีคุกสุดท้ายเปรียบปาน 'โอเอซิส' แหล่งหฤหรรษ์สวรรค์น้อย ๆ เมื่อเทียบกับนรกบนดินก่อนหน้า!

    ผมได้ลิ้มรสอาหารมื้อสำคัญ ล่ามใส่ปิ่นโตอย่างดีมาให้ มีไก่ย่างหนึ่งตัว ผักต้ม น้ำพริกมอญรสจืดกว่าน้ำพริกไทย แถมไข่สดบำรุงอีก 2 ฟอง

    "ขอมาจากคุก"...ล่ามว่ายิ้ม ๆ ถึงไข่สองฟองนี้ เป็นโอกาสล้างแค้นของผม ทั้งเนื้อไก่กับไข่ ฟาดมันเกลี้ยงเกลาไม่เหลือหรอ เป็นมื้ออิ่มหนำสำราญกระเพาะตามคำขอ เหลือการนอนให้เต็มอิ่ม เพื่อตื่นรับรุ่งอรุณวันใหม่ด้วยความสดชื่น

    เสียงจั๊กจั่นระงมทั่วที่พักเมื่อความมืดโรยตัว ช่างไม่ต่างจากผืนป่าแม่ตะนาวฯอันคุ้นชิน ดนตรีแห่งป่า กลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ไอดินที่โชยขึ้นมาหลังแดดแรงกล้าลาจาก ให้ความรู้สึกคึกคักมิผิดแผกแปลกถิ่น

    "นอนเต็มที่ พรุ่งนี้ผมมาปลุกวิ่งเช้ามืด"!

    ล่ามเก็บปิ่นโต ตบบ่าผม ทิ้งน้ำไว้ให้เต็มกระติกแบบทหาร ปิดประตูกระท่อมใส่กุญแจด้านนอกแข็งแรง ถ้าจะหนีต้องพังฝากระท่อม หรือปีนขึ้นด้านบนแหกหลังคาออกไป ใครขืนทำแบบนั้น ไม่เพี้ยนสติหลุดโลกก็โง่บรรลัย มีสิทธิ์โดนเป่าทิ้งเป็นผีเฝ้าป่าในระยะการออกไปไม่กี่ร้อยก้าว

    ไม่ลืมกราบขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ผมเอนตัวนอนบนแคร่ ดึงผ้าห่มปิดหน้าอก อากาศเย็นประสาที่ตั้งไม่ห่างป่าเขา ได้กินอิ่มนอนอุ่นหนแรกในรอบหลายวัน ผมหลับยาวไร้ฝันร้ายแผ้วพาล โลกอันโหดร้ายข้างนอกถูกทิ้งไว้ในความหลับไหลชั่วคราว รอลืมตาตื่นเผชิญหน้ากับมันเมื่อถึงวันใหม่

    ล่ามปฏิบัติหน้าที่พี่เลี้ยงเคร่งครัด ปลุกผมก่อนแตรทหารในค่ายเป่า แต่ผมก็ไม่อิดออด รีบออกวิ่งตามรถตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง อาศัยไฟหน้ารถจิ๊ปโกโรโกโสสาดเป็นลำไปข้างหน้ามันพาผมวกวนไม่ออกห่างที่พักมากนัก คงมีขีดจำกัดของบริเวณว่าพื้นที่ส่วนไหนไปได้ ส่วนใดหวงห้าม

    ผมไม่ติดใจสงสัยใคร่รู้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตารีดเรี่ยวแรงจากกล้ามเนื้อ ปลุกมันให้ตื่นทุกส่วน นับถอยหลังอีกไม่เกิน 40 ชั่วโมงขึ้นสังเวียน

    ล่ามขับรถช้า ๆ พาวิ่งวนกลับที่เดิมนับได้ 5 รอบ เหงื่อท่วมแผ่นหลัง แต่ได้ผลกับการเขย่าพลังเส้นเอ็นมัดกล้ามทุกส่วนฟื้นคืนชีพ มัดกล้ามผมไม่เคยปวกเปียก มันกรำศึกโหดครั้งแล้วครั้งเล่าในวัยฉกรรจ์ ผมเป็นดั่งเสือห้าว เจ้ากระทิงคะนอง แม้ความเจ็บปวด การโดนไอ้หม่องซาดิสท์ซ้อมก็หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้อาหารเต็มมื้อ นอนอิ่มเต็มคราบ

    ผมกระปรี้กระเปร่าจนแปลกใจตัวเอง ปราศจากความรู้สึกประหวั่นพรั่นกลัวในหัวใจ แค่ตื่นเต้นเล็กน้อยประสาคนที่รู้ตัวว่าจะต้องประจัญหน้ากับอะไรในอีกวันกว่า ๆ เท่านั้น

    เรื่องชกต่อยในกติกา ใต้เข็มขัดไร้กติกามวยวัดทุกรูปแบบ สำหรับคนผ่านสมรภูมิละเลงเลือดจิ๊กโก๋เจ้าถิ่น กับนักเลงพลัดถิ่นหลายหน คำว่า "กลัว" ไม่อยู่ในพจนานุกรมสมอง

    นักมวยหม่องไม่มีอาวุธ ที่ผมเคยเผชิญมาหมดทุกกระบวน มีด ไม้ ปืน สนับมือฯ นักชกหม่องรามัญไม่มีเขี้ยวงา ขบกัดฟัดตบเหวี่ยงแทงขย้ำกระทั่งพ่นพิษได้ ที่ผมล้มมาทุกประเภทในขุนเขาตะนาวศรี

    มือเปล่าด้วยกัน มันไม่มีตรงไหนที่เขย่าขวัญสั่นประสาทผมได้แม้ปลายก้อย!

    "เกรง" อย่างเดียว จะทำไม่ดีดังหวัง ทำให้ล่ามผิดหวัง ทั้งอาจกระทบไปถึงโอกาสเป็นอิสระเป็นไทแก่ตัวของผม...

    ผลลัพธ์การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นดัชนีชี้บอกครั้งสำคัญ สังหรณ์ใจลึก ๆ ของผมเตือนเช่นนั้น!

    อาหารเช้ามื้อแรกของวันแรก ล่ามอุตส่าห์มีเนื้อย่างชิ้นโตอยู่ในปิ่นโต ไข่ดาวอีก 2 ฟอง ข้าวสวยเต็มชั้น ผมมองหน้าล่ามที่ทำท่ากลืนน้ำลาย

    "กินด้วยกัน"...ผมคะยั้นคะยอ แต่ล่ามสั่นหัว...

    "กินไป ไม่ต้องห่วงผม"

    ล่ามเล่าให้ฟังระหว่างผมพุ้ยข้าวหรือใช้คำว่าเขมือบว่า...บรรยากาศในค่ายตอนนี้คึกคักมาก แพร่สะพัดด้วยข่าว 'หม่อง วิน' มีคู่ประหมัดคนใหม่ ทุกคนล้วนตื่นเต้นอยากชม "เหยื่อ" รายใหม่จะโดนเก็บยกไหน?

    "โยเดีย...คุณดังตั้งแต่ยังไม่ใครเห็นหน้าเห็นตัว มีวางเดิมพันเยอะแยะด้วย รู้มั้ย"?

    ผมเคี้ยวข้าวฟังล่ามสาธยายข่าวคราวตัวเอง จากนักโทษคุกขี้ไก่ กลายเป็นข่าวใหม่ข่าวใหญ่ของค่ายชั่วข้ามวัน ชวนครึ้มใจตื่นเต้นไม่หยอก

    "หม่อง วิน เป็นต่อ 10 เอา 1..!"

    ล่ามต่อด้วยข่าวที่ไม่เป็นคุณจิตใจด้านบวก ผมพยักหน้ารับรู้ กลืนชิ้นเนื้อลงคอ บอกล่ามเสียงหนักแน่นจริงจัง...

    "มีเงินเท่าไหร่ รองมันเลย ผมจะให้มันรู้จักมวยไทยของแท้"!

    ไม่น่าเชื่อ ที่ผมโพล่งออกไปอย่างนั้น แต่คำบอกเล่าของล่ามมันปลุกวิญญาณนักสู้กระหายเลือดของผมเดือดพล่าน เลือดหนุ่มที่ไม่เคยถอยหลังยามเข้าตาจน บอกผมว่าเมื่อใดชีวิตถูกต้อนเข้ามุม หลังกระแทกฝาแล้วมีโอกาสโต้กลับ ผมไม่เคยแพ้!

    ล่ามทำหน้ายู่ยี่เมื่อฟังความเข้าใจครบถ้วน...ชี้มือไปที่อาหารบนโต๊ะ

    "ข้าว 2 มื้อ ทำผมหมดเงินไปเยอะ ติดสินบนยามคุก ขอไข่ไก่มันทุกวัน คงเหลือไม่กี่เงินไปถือหางฝ่ายโยเดีย"!

    ตื้นตันใจแทบกลืนข้าวคำต่อไปไม่ลง ทหารผู้น้อยเงินตอบแทนไม่กี่บาทสลึงเฟื้อง เงินค่าเหนื่อยคนงานเหมืองอย่างผมที่ว่าน้อย เผลอ ๆ อาจมากกว่าเงินกองทัพที่ล่ามได้รับ

    "เอาอย่างนี้"...ผมตัดสินใจ ต้องตอบแทนบุญคุณมอญผู้แสนดีต่างกับไอ้นรกที่แจ้งความจับผมราวฟ้ากับเหว ความดีความเลวจึงคละเคล้าปนเปกันทุกที่ คนเลวคนเดียวมิอาจตีตราเหมารวมว่า คนอื่นต้องเลวเน่าเหม็นเหมือนปลาในข้องเดียวกัน

    "ล่ามหายืมเงินสัก 10,000 จั๊ด (400 บาท) ถ้าผิดพลาด ผมเอาจากหัวหน้าคืนให้"

    ข้อเสนอของผมสามารถทำเงินให้ล่ามได้ถึง 100,000 จั๊ด (4,000 บาทโดยประมาณ) ถ้าวางเดิมพันฝั่งรองด้วยอัตรา 10 ต่อ 1 แล้ว 'มวยรอง' เป็นฝ่ายชนะ

    ล่ามได้ยินแล้วมือไม้สั่น ในชีวิตคงไม่เคยเจอเงินแสนจั๊ดหรือคิดฝันว่าจะได้เล่นเดิมพันขนาดนั้น ปากคอพลอยสั่นพูดอะไรไม่ออก ผมต้องสำทับขึงขัง...

    "คิดว่ายืมเพื่อน ๆ หรือเพื่อนบ้านสนิทหลาย ๆ คนรวมกันได้มั้ย ? เสนอดอกเบี้ยให้เขาด้วยก็ได้"!

    สติกลับเข้าตัว หัวสมองแล่น ล่ามยิ้มแป้นเอามือบีบต้นแขนผมแน่น

    "โยเดียมั่นใจ...ผมยืมเงินได้แน่ แค่หมื่นจั๊ดไม่หนักหนา"

    ผมตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวเอร็ดอร่อยรื่นรมย์สมหัวใจ เงินหมื่นจั๊ดเท่ากับเงินไทย 400 บาท ผมมีเงินมากกว่านี้สิบเท่ารออยู่ที่เหมือง ขอแค่ 'คุณเทพ' ขาย "เนตรนาคา" แล้วส่งส่วนแบ่งมาให้

    นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำผมรั้งรออยู่เหมือง เมื่อคุณเทพบอกตรง ๆ ตอนหยุดพักขาครั้งสุดท้ายเพื่อกล่าวอำลากันก่อนถึงเหมือง...

    "รอสักเดือนนะน้องพราน ผมจะขายดวงตาพญางูให้ได้ราคาดีที่สุด ส่งส่วนแบ่งให้พวกเราทุกคนผ่านทางนายเหมือง"!!!

    ตรงกับที่ยอดดวงใจสำทับไว้ตั้งแต่ยามค่ำคืนอำลา...

    "อีกเดือน...นงจะส่งจดหมายไปหา"

    ทั้งสิ้นทั้งปวงคือห่วงผูกมัด...ตัวถ่วงให้บังเกิดความยืดเยื้อการโกนหัวบวชใช้หนี้ ผมเพียง "ยื้อบวช" แต่ไม่ "หยุดบวช" ผิดคำมั่นสัญญาเสียสัจจะวาจาเต็มร้อย

    ชะตากรรมโหดไม่น่าเชื่อบทนี้ จึงเป็นเพียงบทลงโทษที่ยังเหลือประตูทางออก รูลอดเงื้อมหัตถ์พญายมยังมี ไม่ลั่นดาลปิดประตูตาย

    พญากุมภีล์ ท่านก็แค่มาชี้หน้าในนิมิต ไม่เอาชีวิตผมภายใน 5 วัน 7 วันดังที่ท่านเคยลั่นวาจา!!!

    ----------------

    *** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอนมีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลงทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด ***
     
  20. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,077,211
    จิ้มเรื่องเล่าฯเสร็จ ก็โมทนาบุญเบ็ดเสร็จกับน้องณัฐวุฒิ ให้วันหยุดมีแต่ความสุขทั้งการอ่านเรื่องเล่าแสนมันส์และการทำบุญแสนดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...