ถ้าถวายเป็นสังฆทานจะมีอานิสงส์มากกว่าชนิดคูณด้วยแสน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 4 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,670
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,552
    ค่าพลัง:
    +26,393
    271233245_5151660258217947_8968366731415471535_n.jpg

    ในเรื่องของการสร้างบุญกุศล ให้ถวายเป็นสังฆทานไว้ เพราะสังฆะคือหมู่สงฆ์ ผู้รับเป็นเพียงตัวแทนเท่านั้น การที่ผู้รับเป็นเพียงตัวแทน อานิสงส์ที่เราได้รับนั้นเต็มอยู่แล้ว ไม่ว่าผู้รับจะแย่ขนาดไหนก็ตาม

    ในธรรมบทได้กล่าวไว้ว่า มหาเศรษฐีนิมนต์พระจากวัดใกล้บ้านไปทำบุญ ท่านถวายสังฆทานด้วยความนอบน้อมเคารพสุดจิตสุดใจ พอยกสังฆทานไปส่งที่วัด พระท่านบอกให้เศรษฐีช่วยส่งขันตักน้ำให้หน่อย ท่านจะล้างเท้า ปรากฏว่าเศรษฐีใช้เท้าเขี่ยให้ พระท่านก็สงสัยว่าทำไมแสดงอาการแบบนี้

    เศรษฐีก็เลยบอกว่า ถ้าโดยความประพฤติส่วนตัวแล้วผมไม่เคารพท่าน แต่ที่ให้ความเคารพมากตอนถวายสังฆทาน เพราะว่าท่านเป็นตัวแทนสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวแทนสงฆ์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน ท่านจึงต้องเคารพ แสดงว่าเศรษฐีท่านแยกแยะถูกว่าอะไรเป็นอะไร

    การถวายสังฆทาน เราถวายแก่สงฆ์หรือว่าตัวแทนสงฆ์ที่ไหนก็ได้ ล้วนเป็นสังฆทานทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าถ้าเมตตาก็ให้บอกท่านด้วยว่าเป็นสังฆทาน เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านเอาไปใช้เองคนเดียว เดี๋ยวจะเกิดโทษแก่ท่าน

    ถ้าเป็นตามแบบหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านจะบอกว่า ให้คิดเสมอว่าของทุกอย่างที่รับมาคือสังฆทาน ญาติโยมจะเห็นว่า มีโยมมาถวายปัจจัยส่วนตัวหลายต่อหลายราย อาตมาก็บอกให้ใส่ลงรวมกัน ก็คือ ต่อให้เป็นส่วนตัวอย่างไรก็ตาม เขาก็ถวายมาในฐานะที่เราเป็นพระ ถือว่าเราได้มาด้วยความเป็นสงฆ์ จะไปถือเป็นส่วนตัวก็ยาก ฉะนั้น..ในเรื่องของเงินส่วนตัวจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่ใช้ยาก เพราะถ้าใช้ในด้านที่ไม่สมควร เราก็จะเดือดร้อนลำบากเอง

    ถ้าญาติโยมทั้งหลายทำบุญใส่บาตร อย่าไปตั้งใจว่าหลวงตารูปนั้น หลวงพ่อรูปนั้น หรือสามเณรรูปนั้นมาแล้วเราจะใส่ ถ้าไปตั้งใจแบบนั้น เราต้องใส่จนครบ ๔ รูป จึงจะเป็นสังฆทาน แต่ถ้าเราตั้งใจว่า ไม่ว่าจะเป็นพระหรือสามเณรรูปใดมา เราก็จะใส่บาตร ถ้าอย่างนั้นต่อให้ใส่รูปเดียวก็จะเป็นสังฆทาน เพราะเราไม่ได้เจาะจงไว้

    การเจาะจงเป็นปาฏิบุคลิกทาน ซึ่งอานิสงส์จะน้อยกว่าสังฆทานหลายเท่า ถ้าถวายเป็นสังฆทานจะมีอานิสงส์มากกว่าชนิดคูณด้วยแสน เพราะสังฆทานเท่ากับเป็นทานต่ออายุพระพุทธศาสนา พระท่านรับไปแล้วเอาไปกินไปใช้คนเดียวไม่ได้ เพราะจะเกิดโทษแก่ตัวเองมาก ก็ต้องไปแบ่งปันกัน ทำให้พระหนุ่มเณรน้อยอื่น ๆ ที่ไม่มีคนศรัทธา สามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้

    เมื่อสามารถดำรงขันธ์อยู่ได้ ก็ศึกษาเล่าเรียนธรรมะ แล้วนำไปเผยแผ่แก่ญาติโยมทั้งหลาย ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองต่อไป จึงกลายเป็นทานต่ออายุพระพุทธศาสนา สังฆทานจึงได้มีอานิสงส์มากกว่าทานทั่วไป ด้วยประการฉะนี้

    แต่ถ้ามีโอกาสเลือกเนื้อนาบุญเราก็จะเลือก ขนาดเลือกเนื้อนาบุญได้ เราก็ยังถวายเป็นสังฆทานอยู่ ดังนั้น..ในส่วนของสังฆทานนั้นเป็นอานิสงส์พิเศษ เลิศกว่าทานทั่ว ๆ ไป อานิสงส์ที่ใหญ่กว่าสังฆทานมีแต่วิหารทานและธรรมทานเท่านั้น

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกงานฉลองบ้านวิริยบารมี ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...