เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 26 กรกฎาคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ถือว่าเป็นวันที่สองของการเข้าพรรษา ช่วงสองวันที่ผ่านมา เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนกลายเป็นการเทศน์ในช่วงในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาแทน

    สำหรับระยะนี้ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหยิ่นฟ้ากับพายุโซนร้อนจัมปากา ก็ทำให้เอาทางด้านทองผาภูมิฝนตกทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว

    คราวนี้การที่ฝนตกก็เอื้ออำนวยให้เชื้อโรคแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ถ้าอยู่ในพื้นที่แห้ง ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาย แต่ถ้าอยู่ในน้ำ จะอยู่ได้นานกว่าเป็นเท่าตัว ก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้น โดยเฉพาะญาติโยมทั้งหลายที่อยู่ทางบ้าน ตอนนี้กองทัพโควิดล้อมคุณไว้หมดแล้ว..! ไม่จำเป็นอย่าโผล่หัวออกไปให้เดือดร้อน เพราะว่าถ้านับยอดผู้ติดเชื้อกันจริง ๆ จัง ๆ ก็จะมากกว่าที่ทางราชการแจ้งพวกเราเยอะมาก

    อีกส่วนหนึ่งก็คือพี่น้องชาวอีสาน โดยเฉพาะที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ถ้าหากว่าพื้นที่เคยโดนน้ำท่วมถึง ให้หาทางขยับขยายล่วงหน้าไว้ก่อน อย่าให้ปุบปับน้ำมาแล้วก็ทำอะไรไม่ทัน ของบางอย่างถ้าเรามีการเตรียมพร้อม เรื่องที่หนักก็จะเป็นเบา เรื่องที่เบาก็จะเป็นหาย แต่ถ้าเราไม่มีการเตรียมพร้อม เรื่องที่เบาก็หนัก เรื่องที่หนักก็อาจจะถึงแก่ชีวิตได้..!

    สภาพของดินฟ้าอากาศทุกวันนี้ จะว่าไปแล้วก็เกิดจากน้ำมือมนุษย์ล้วน ๆ แต่เพียงแต่ว่าถ้าเป็นสมัยโบราณ เมื่อดินฟ้าอากาศผิดปกติ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดภัยธรรมชาติ ชาวบ้านจะรวมตัวกันไปเรียกร้องให้ผู้นำถือศีลปฏิบัติธรรม อย่างน้อยก็ ๗ วัน แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ที่ไปเรียกร้อง ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้นำถือศีลปฏิบัติธรรม แต่เรียกร้องให้ผู้นำลาออก ไปไกลเหมือนกันนะ...!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ช่วงนี้ในวงการสงฆ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นพระเป็นเณรติดเชื้อโควิดกันมาก อย่างที่วัดผ่องพลอยวิริยาราม ซอยลาซาล สามเณรติดเชื้อกันไปทีหนึ่งสองสามร้อยรูป พระผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโควิด อย่างหลวงพ่อเจ้าคุณมนู วัดมหาธาตุฯ หรือว่าหลวงพ่อวัดตึก นนทบุรีก็ถึงกับเสียชีวิต..!

    โดยเฉพาะของเราเริ่มมีการเสียชีวิตนอกบ้าน พูดกันอย่างไพเราะมาก ถ้าพูดชัด ๆ ก็คือตายข้างถนน..! ซึ่งการที่ทุกอย่างมาถึงตรงนี้ จะโทษว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐบาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่าแม้แต่ประเทศมหาอำนาจใหญ่ ๆ โต ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา อย่างอังกฤษก็บริหารผิดพลาด ประชากรตายเป็นจำนวนมาก มากกว่าสงครามโลกอีก แล้วหลังจากที่ฉีดวัคซีนไป เกิดความมั่นใจขึ้นมาแบบรู้ไม่เท่าทันโรค ก็เกิดการระบาดขึ้นมาใหม่

    ขอย้ำว่าวัคซีนยี่ห้อใดก็กันเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ไม่ได้ เพราะว่าการฉีดวัคซีน จะไปเพิ่มภูมิคุ้มกันในเลือด แต่เชื้อไวรัสลงไปทำลายปอด ไม่ได้เข้าไปในเลือด เพียงแต่ว่าถ้าเรามีภูมิคุ้มกัน ร่างกายแข็งแรง โอกาสรอดก็จะมีมากกว่า จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายต้องนำเอาหลักความไม่ประมาท ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้ อย่างชนิดที่ "ห้ามการ์ดตกอย่างเด็ดขาด"


    ทำอย่างไรที่เราจะเก็บตัว ถ้าจะเอาปลอดภัยก็ ๒๑ วัน ซึ่งหลายคนบอกว่า "ตายกันพอดี" ทำไมถึงตายกันพอดี ? เพราะว่าขาดอาหาร

    อาหารในที่นี้นอกจากคำว่า กวฬิงการาหาร อาหารคือข้าว กับ น้ำ ขนม ทั่วไปแล้ว ก็ยังมีผัสสาหาร อาหารคือลมหายใจเข้าออก แต่ส่วนที่บอกว่าขาดอาหารตายก็คือ วิญญาณาหาร อาหารที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เราจะสังเกตว่าทำไมนักเที่ยวถึงต้องไปเที่ยว ? จนกระทั่งกลายเป็นสาเหตุให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดอย่างรุนแรงมาก ก็เพราะว่าขาดอาหาร อาหารตา อาหารใจ อยากได้อาหารก็ต้องไป ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า บรรดานักเที่ยวทั้งหลายนั้น ไม่เข้าใจถึงสภาพจิตใจของตน อยากจะยกตัวอย่างชัด ๆ ถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว คือ ไมเคิล แจ็คสัน

    ไมเคิล แจ็คสันไม่เข้าใจว่า สิ่งที่ตนเองไม่พอใจทั้งหมดนั้น ต้องแก้ที่ใจ แต่กลับไปแก้ที่ร่างกาย ด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เปลี่ยนจนพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซต์ถึงกับสาปแช่งเขาแล้ว เพราะว่าต้องแก้หุ่นขี้ผึ้งตามตลอดเวลา แต่ถ้าหากเปลี่ยนจากการแก้ไขร่างกายมาแก้ไขทางใจก็จบ และไม่น่าจะถึงแก่ชีวิต

    บรรดานักเที่ยวก็เหมือนกัน เมื่อถึงเวลาเจอแสง เจอสี เจอเสียง ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เป็นสาว ๆ เป็นดนตรี รู้สึกมีความสุข พอกลับบ้านก็ทุกข์ ต้องการมีความสุขอีกก็ไปใหม่ โดยที่ไม่เข้าใจว่าความสุขที่เกิดขึ้นจากการเที่ยวนั้น เป็นความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เป็นความสุขจากการกระตุ้นของสิ่งภายนอกที่ไม่ยั่งยืน ถ้าจัดการไม่ถูก อาจจะทุกข์สาหัสเข้าไปอีก อย่างเช่นว่าทางบ้านจับได้ ก็บ้านแตกสาแหรกขาด

    แต่ถ้าท่านทั้งหลายหันมาแก้ไขทางใจ อย่างเช่นว่าการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ปีติที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรม จากการที่ได้ให้ทาน ได้รักษาศีล ได้เจริญภาวนา เป็นปีติที่ยั่งยืน เพราะว่าเราสร้างขึ้นมาภายในใจของเราเอง เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ช่วยค้ำจุนหนุนเรา ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    แต่ปีติจากการเที่ยวนั้น โดนกระตุ้นเร้าจากสิ่งภายนอก ซึ่งบางทีก็ถึงขนาดต้องใช้ยาเสพติดช่วย พอขาดก็กลับไปทุกข์หนักเหมือนเดิม จึงต้องแสวงหาให้มากยิ่งขึ้น บรรดานักเที่ยวถึงไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ เพราะว่าปรารถนาความปีติหรือความสุขที่เกิดขึ้น

    แบบเดียวกับที่อดีตนักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างโกวเล้ง หรือที่ภาษาจีนกลางเรียกว่ากู่หลง บอกว่า "ข้าพเจ้าไม่ได้ชอบดื่มสุรา แต่ข้าพเจ้าชอบบรรยากาศในวงสุรา" นั่นคือลักษณะเดียวกัน เพราะว่าการได้พบปะพูดคุย ได้ฟังดนตรี ได้ดื่มเหล้า มีสาว ๆ อยู่เคียงข้าง ก็เกิดอาการปีติขึ้นในใจ สร้างความสุขให้เกิดขึ้น

    แต่ปีติที่ได้รับการกระตุ้นเร้าจากสิ่งภายนอก พอขาดสิ่งกระตุ้นก็หายไปหมด โดยเฉพาะการกระตุ้นด้วยยาเสพติด มีแต่ต้องใช้มากยิ่ง ๆ ขึ้น จนในที่สุด ร่างกายรับไม่ไหวก็ถึงแก่ชีวิต หรือถ้าดวงดีหน่อย โดนตำรวจจับได้ก็ติดคุก รอดตายจากยาเสพติด แต่ว่าไปอยู่ในคุกแทน จนกระทั่งมีคนบอกว่า "ยาเสพติด คนเสพสบาย คนขายติดคุก" มาตอนหลังเปลี่ยนเป็น "คนเสพก็ตาย คนขายติดคุก" แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะว่าไม่ยั่งยืน

    เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระตุ้นตนเองด้วยการปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญา จากบุคคลที่ไม่มีศีล สามารถฝืนจนรักษาศีลได้ครบถ้วน จะเกิดปีติ เพราะว่าประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำได้ยาก
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ถึงเวลาเจริญสมาธิภาวนา จิตก้าวเข้าไปสู่ความสงบในเบื้องต้น รัก โลภ โกรธ หลง โดนกำลังสมาธิกดดับลงชั่วคราว คนที่โดนไฟราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เผาอยู่ตลอดเวลา อยู่ ๆ ไฟดับลง มีความสุขจนบอกไม่ถูก และจะเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ดังนั้น...ในส่วนนี้จึงขอเจริญพรแก่ญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่ฟังอยู่ที่วัดและฟังอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศก็ตาม เมื่อรู้ชัดในตรงนี้แล้ว ก็อยู่ที่เราต้องเลือกว่า จะยอมลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ ก็คือหันมาให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือว่า จะยอมลำบากแล้วก็ตายเมื่อปลายมือ เพราะว่าเราไปอาศัยสิ่งกระตุ้นเร้าจากภายนอก โดยเฉพาะพวกยาเสพติดทั้งปวง

    เรื่องเหล่านี้ ท่านที่มีปัญญาแค่เห็นก็รู้แล้วว่าควรจะเลือกอะไร แต่ว่าบุคคลที่ตกอยู่ใต้อำนาจของกิเลสชักจูง ส่วนใหญ่แล้วไม่มีกำลังที่จะถอนตัวออกมา เพราะว่ากำลังสมาธิไม่พอ ในเมื่อกำลังสมาธิไม่พอก็หักห้ามตัวเองไม่ได้ เหมือนกับคนขับรถ รถพุ่งลงเหว ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้ เพราะไม่มีกำลังที่จะหยุดรถนั้นได้

    แต่สำหรับบุคคลที่มีสมาธิภาวนาทรงตัว กำลังใจเข้มแข็งพอ สามารถหักห้ามตนเองไม่ให้ตกลงเหวไปได้ และพยายามหลีกหนีให้พ้นจากเหวนั้นอีกด้วย
     
  7. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,659
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,550
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องเลือกเองด้วยปัญญาของตน เรื่องของสุรายาเสพติด อาตมภาพไม่เคยเตือนใครให้เลิก เพราะรู้ดีว่าถ้าเขาคิดเองไม่ได้ ตัดใจเองไม่ได้ เราพูดไปให้ปากฉีกถึงหูเขาก็ไม่เลิก..!

    แบบเดียวกับช่วงที่มาทองผาภูมิใหม่ ๆ มีอาจารย์โรงเรียนท่านหนึ่งไปขอใช้พื้นที่ในการฝึกลูกเสือ ก็ปรึกษาหารือกันว่าจะตั้งแต่ละฐานตรงไหนบ้าง ปรากฏว่าแกคุยกับพระไปก็ดื่มเหล้าไป อาตมาก็คุยไปเรื่อยเปื่อย จนท้ายสุดแกเองอดใจไม่ได้ ก็ถามขึ้นมาว่า


    "อาจารย์..ตกลงจะไม่ห้ามผมจริง ๆ หรือ ? คนอื่นแค่รู้ว่าผมกินเหล้า ก็สารพัดที่จะยกศีลยกธรรมขึ้นมาห้าม นี่อาจารย์เห็นผมกินต่อหน้าต่อตา ยังไม่ห้ามผมเลย..!"

    อาตมาบอกว่า "เงินก็เงินมึง สุขภาพก็ของมึง ทำไมกูต้องไปยุ่งด้วย..?!" คนที่คิดเองไม่ได้ ใครก็ห้ามไม่สำเร็จ ต้องคิดเองได้ ถึงจะห้ามได้สำเร็จ มาระยะหลังเขาสามารถเลิกเหล้าได้สำเร็จ ไม่มีใครห้าม หมอเพียงแค่บอกว่า "ถ้ากินต่อก็ตาย เพราะว่าตับแข็งหมดแล้ว..!"

    เรื่องพวกนี้ที่บอกกล่าวให้กับพวกเราได้ทราบกัน ไม่ว่าจะเรื่องของภัยธรรมชาติที่หนักหน่วงขึ้น เรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่เราต้องระมัดระวัง ไม่ประมาท และท้ายที่สุดการที่เราให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนสามารถที่จะสร้างปีติให้เกิดขึ้นเป็นอย่างน้อย ก็สามารถที่เป็นเครื่องหนุนเสริมของเราให้ปฏิบัติได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

    วันนี้รบกวนเวลาของพวกเรามาพอสมควรแล้ว จึงขอยุติลงแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...