เรื่องเด่น เพ่งพินิจ "..ความตาย.."(มรณานุสสติ)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 26 พฤษภาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ?temp_hash=f4b31233b12ef6575cb44f821b32cb12.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ๙. มรณัสสติสูตรที่ ๑
    [๒๙๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทสร้างด้วยอิฐ
    ใกล้บ้านนาทิกคาม ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย มรณัสสติอันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก
    มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย
    ย่อมเจริญมรณัสสติหรือ เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสถามอย่างนี้ ภิกษุรูปหนึ่งได้
    กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณัสสติ ฯ
    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็น
    อยู่ได้ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึง
    กระทำกิจให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ
    ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็
    เจริญมรณัสสติ ฯ
    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่
    ได้ตลอดวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจ
    ให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ
    ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็
    เจริญมรณัสสติ ฯ
    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่
    ชั่วขณะที่ฉันบิณฑบาตมื้อหนึ่ง เราพึงมนสิกาคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เรา
    พึงกระทำกิจให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่าง
    นี้แล ฯ
    ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็เจริญ
    มรณัสสติ ฯ
    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็นอยู่
    ชั่วขณะที่เคี้ยวคำข้าวสี่คำกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค
    เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติ
    อย่างนี้แล ฯ
    ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็
    เจริญมรณัสสติ ฯ
    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอเราพึงเป็น
    อยู่ชั่วขณะที่เคี้ยวข้าวคำหนึ่งกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค
    เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติ
    อย่างนี้แล ฯ
    ภิกษุอีกรูปหนึ่งได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ก็
    เจริญมรณัสสติ ฯ
    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอย่อมเจริญมรณัสสติอย่างไร ฯ
    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์คิดอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่
    ได้ชั่วขณะที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือหายใจออกแล้วหายใจเข้า เราพึง
    มนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ ข้าแต่พระองค์
    ผู้เจริญ ข้าพระองค์เจริญมรณัสสติอย่างนี้แล ฯ
    เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้
    ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึง
    กระทำกิจให้มากหนอ ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึง
    เป็นอยู่ได้ตลอดวันหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึง
    กระทำกิจให้มากหนอ ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่าโอหนอ เราพึงเป็น
    อยู่ได้ชั่วขณะที่ฉันบิณฑบาตมื้อหนึ่ง เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค
    เราพึงกระทำกิจให้มากหนอและภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ
    เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยวคำข้าวสี่คำกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของ
    พระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านี้เรา
    กล่าวว่า เป็นผู้ประมาท เจริญมรณัสสติเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายช้า ส่วน
    ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยว
    ข้าวคำหนึ่งกลืนกิน เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจ
    ให้มากหนอ และภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราพึงเป็นอยู่
    ได้ชั่วขณะที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือหายใจออกแล้วหายใจเข้า เราพึง
    มนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย เหล่านี้ เรากล่าวว่าเป็นผู้ไม่ประมาท ย่อมเจริญมรณัสสติ เพื่อความสิ้น
    ไปแห่งอาสวะทั้งหลายแรงกล้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอ
    ทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ประมาท จักเจริญมรณัสสติ
    เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายอย่างแรงกล้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย
    พึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ

    ------------------------------
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ขอให้ลูกหลาน ขยันหมั่นเพียร
    ชำระจิตใจให้สะอาด มี "พระนิพพานเป็นอารมณ์"
    จงวางภาระ ว่าเรา ของเรา เสียให้สิ้นด้วย
    ไม่มีอะไรเลย เป็นของเรา แม้แต่ร่างกาย
    ก็มีเจ้าของ คือ "มรณภัย" มันมาทวงคืน
    ให้คิดว่า เราไม่มีอะไรเป็นของเรา
    เราไม่ต้องการมนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก
    เรามี นิพพานเป็นที่ไป

    คำสอน พระครูวิหารกิจจานุการ หลวงพ่อปาน โสนันโท
    วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    กำหนดวันตาย

    ถาม : เราสามารถรู้วันตายได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ถ้าฌานสี่คล่องตัว เราสามารถกำหนดวันตายได้เลย พอเข้าฌานสลับฌานทบทวนจนมั่นใจแล้ว จังหวะสุดท้ายออกฌานสี่มาแล้วก็ทิ้งร่างกายนี้ไปเลย เพราะถ้าเราเข้าฌานสี่แล้วร่างกายนี้จะไม่หายใจ ในเมื่อเราทิ้งไปเลย ไม่หายใจใหม่ ก็ตายเท่านั้น

    เพราะฉะนั้น..บุคคลที่มีอานาปานสติคล่องตัว จนชำนาญในฌานสี่ สามารถกำหนดวันตายได้ทุกคน หลวงปู่สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศ พระองค์ท่านบอกว่า ถ้าเสียงฟ้าร้องขึ้นมาเมื่อไรพระองค์ท่านจะมรณภาพ พอฟ้าลั่นครืนพระองค์ท่านก็ไปเลย คิดดูสิ..พระองค์ท่านบอกว่ารู้จากการดูหมอ ใครจะไปเชื่อ..หมอดูประเภทไหนบอกได้ขนาดนั้น แต่ว่าตอนที่พระองค์ท่านยังดำรงพระชนม์อยู่ พระองค์ท่านเป็นหมอดูที่มีชื่อเสียงจริง ๆ

    หลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอกก็เหมือนกัน ตอนนั้นกำนันเถาไปค้าขายที่ต่างจังหวัดแถวปากน้ำโพ หายไปนานเป็นเดือน เมียกำนันเถาเป็นห่วง จึงเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบหลวงปู่จง ไปขอความเมตตาให้หลวงปู่ช่วยดูให้หน่อยว่า ตอนนี้สามีดีร้ายเป็นประการใด

    หลวงปู่จงท่านหยิบตำราขึ้นมากางอ่าน "สิทธิการิยะ พระท่านว่า ขณะนี้กำนันเถาเอาเรือมาจอดที่ท่าน้ำหน้าบ้านแล้ว" ตำราที่ไหนบอกได้กระทั่งชื่อคน หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านก็แปลกใจ ท่านไม่เชื่อ จึงไปเปิดตำราหน้านั้นดู ปรากฏว่าเป็นตำราสมพงษ์นาคสำหรับดูเนื้อคู่ เจอหมอดูแบบนี้ คนดูตามไม่ทันก็โดนต้มจนเปื่อย..!

    เมื่อคราวงานวัดบางนมโค พอถึงเวลานิมนต์พระเจริญพระพุทธมนต์ - ฉันเพล หลวงพ่อฤๅษีฯ เอาเรือเร็วออกไปตามหลวงปู่จง จริง ๆ ถ้าเดินลัดทุ่งก็ไม่ไกลมาก ประมาณชั่วโมงเดียวก็ถึง แต่ถ้าไปเรือจะช้า เพราะอ้อมคุ้งน้ำเยอะ

    พอไปถึง เห็นโยมรอให้หลวงปู่รดน้ำมนต์อยู่สามสี่คน หลวงปู่ท่านเมตตา ท่านก็รดทีละคน ๆ สมัยนั้นเขารดน้ำมนต์ไม่ได้รดแบบเรานะ เขารดเป็นโอ่งเลย ประเภทผลัดผ้าขาวม้าแล้วก็ตักราดตัวให้ทีละคน หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเร่งให้หลวงปู่จงรีบไป
    หลวงปู่ท่านบอกว่า "เอ็งกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าเดินไปเอง" "เดินไปมันช้าครับหลวงปู่..ไปเรือดีกว่า" "ข้าเดินเร็ว..ทันน่า"

    หลวงพ่อท่านเถียงไม่ได้ รบเร้าหลายทีเห็นหลวงปู่ไม่ไป ก็กลับมาก่อน มาถึงก็กราบเรียนหลวงปู่ปานว่า "หลวงปู่จงท่านรดน้ำมนต์ยังไม่เสร็จครับ ยังไม่มา" หลวงปู่ปานก็หัวเราะ "แกโดนหลวงปู่จงต้มแล้ว ท่านมาถึงก่อนแกตั้งนาน ตอนนี้อยู่บนศาลาโน่น" หลวงพ่อขึ้นศาลาไปดู ปรากฏว่าหลวงปู่จงนั่งอยู่หัวแถวแล้ว เพราะท่านอาวุโสที่สุด แล้วท่านก็หัวเราะ "เรือแกเร็วสู้ข้าเดินไม่ได้ว่ะ.."

    หลวงปู่จงกับหลวงปู่ปานเป็นสหายธรรมก็จริง แต่อายุท่านต่างกันเหลือเกิน หลวงปู่ปานท่านมรณภาพตอนอายุ ๖๒ ปี ส่วนหลวงปู่จงมรณภาพตอนอายุ ๙๓ ปี หลวงปู่ปานมรณภาพเมื่อปี ๒๔๘๑ หลวงปู่จงมรณภาพปี ๒๕๐๘

    ต่างกันแค่ไหน? แสดงว่าฝ่ายหนึ่งรบมาทั้งชีวิต ถึงเวลาอายุขัยมีอยู่แค่นั้น อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้สร้างกรรมปาณาติบาตเลย อยู่มาจนเกือบจะร้อยปี

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
    ที่มา : www.watthakhanun.com
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ?temp_hash=8ff0023f5d3419b4c72aed5180820777.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    a.png


    ขอให้หนูไปเถอะอย่ายื้อหนูไว้เลย
    การดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคอง ฟังดูเหมือนง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะได้รับแจ้งจากแพทย์วันที่มาฟังผลตรวจตามนัดว่า โรคลุกลามไปมากแล้ว ผ่าตัดไม่ได้ ให้ยาเคมีก็ไม่ได้ผล โรคไม่ได้ตอบสนองต่อการให้ยาเคมี หมอจะให้การดูแลแบบประคองไปตามอาการที่มีอยู่ หมอไม่นัดนะ ให้ไปรักษาตามอาการใกล้บ้าน หรือหากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัด เมื่อผ่าตัดแล้วพบก้อนในอวัยวะที่เป็นโตมากและลุกลามไปอวัยวะอื่นๆ แพทย์ก็จะแจ้งกับญาติเช่นเดียวกัน
    แต่การวางแผนว่าจะดูแลต่อไปอย่างไร ใครจะเป็นคนดูแล ผู้ป่วยจะมีชีวิตอยู่อีกนานเท่าไหร่ และเมื่อจะจำหน่ายกลับบ้าน ผู้ป่วยและญาติต้องการกลับไปดูแลกันเองที่บ้านอย่างไร พอกลับบ้าน หากอาการทรุดลงจะตัดสินใจดูแลอย่างไร ถ้าให้อยู่ที่บ้านก็จะถูกญาติคนอื่นๆหรือเพื่อนบ้านหาว่า ทอดทิ้ง ไม่ดูแล ก็ถูกนำกลับมาที่โรงพยาบาล ถูกปั๊มหัวใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในที่สุด โดยที่ไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าทั้งผู้ป่วยและญาติ ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ก็อาจจะมีข้อขัดแย้งตามมาอีก
    นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยหลายคน หลายครอบครัว




    อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/593129
    .........





    ผู้เขียน: ฉัตรวิไล วิบูลย์วิภา
    โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
    จากเพจ Pal2Know
     
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ทักษะทางโลกเนี่ย มันให้คุณค่าแก่เราแค่ที่เรามีชีวิต
    ไม่ว่าเราจะไปศึกษาวิชาการต่าง ๆ ใด ๆ ก็ตาม
    แต่ทักษะทางธรรม มันจะติดตัวเราไปตลอดกาลเลย
    แม้ขณะที่เราเวียนเกิดเวียนตาย แล้วเราต้องมาเกิดใหม่
    .
    บางคน.... ทำไม? ถึงเรียนรู้ แล้วฟังปุ๊บเข้าใจ ฝึกตามได้เลย
    บางคน... ยังไงก็ไม่ได้
    เพราะว่ามันเป็นของเก่า
    .
    ถ้าเราเคยฝึกมาก่อน มันเป็นร่องเดิมเรา
    เราฟังปุ๊ป! เราเข้าใจ เราจะฝึกตามได้ง่ายมาก
    .
    ส่วนใหญ่แล้วก็เคยฝึกมาก่อน
    เคยพบพระพุทธศาสนามาก่อน
    มันเป็นร่องเดิม มันมาเดินตามร่อง
    เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า...
    “วาสนา” “บารมีที่สะสม”
    .
    เพราะฉะนั้น
    ในแต่ละวันที่ล่วงเลยไป
    อย่าปล่อยให้วันเวลามันผ่านไปโดยเสียเปล่า
    ฝึกซ้อม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมอยู่เนือง ๆ
    ใช้ชีวิตให้มีสาระประโยชน์ในทุก ๆ วัน
    มอบคุณค่าที่แท้จริงของการเกิดขึ้นมา
    ด้วยการเข้าถึงธรรมอยู่เนือง ๆ ในทุก ๆ วัน

    ก็จะทำให้เราสามารถที่จะ..
    ก้าวเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
    จนหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
    ...................................
    ธรรมบรรยายโดย
    พระวิปัสสนาจารย์ พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
    tq-2HhJh_RhlaTmEdKbsGNXAGWRPfD1CrnoeJ3zqDEcQ&_nc_ohc=F3ygrIGi-HsAX-ekMSh&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    พรุ่งนี้วันพระ..
    ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีชวด
    ..........................
    วันคืนล่วงไปเท่าไร
    ชีวิตก็พร่องลงไปเท่านั้น
    เวลาแห่งความตาย
    รุกไล่เข้าไปอยู่ทุกอิริยาบถ
    ฉะนั้น จึงไม่ควรจะประมาทเวลา
    .............................
    ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทนนฺตสฺส ชีวิตํ
    จรโต ติฏฐโต วาปิ อาสีนสยนสฺส วา
    อุเปติ จริมา รตฺติ น เต กาโล ปมชฺชิตุํ
    ..............................
    เถรภาษิต สิริมัณฑเถรคาถา ๒๖/๓๒๙
    .............................
    เผยแผ่จัดทำโดย ทีมงานมูลนิธิเดินจิต
    มูลนิธิเดินจิต
    H5CGVMBhVnhxkBX1BrSWHRB7roi8l9nnNAtL_VXTwj7r&_nc_ohc=cs6DagUHzLIAX8TMJi1&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.png
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    "หลวงพี่เอก ทอดร่างสอนพวกเราว่า
    จะเก่งแค่ไหน ร่ำรวยแค่ไหน รูปงามแค่ไหน
    ไม่มีใครหนีพ้นความตายไปได้
    ของทุกอย่างไม่เที่ยง
    ต้องแตกดับทำลายลง
    แม้แต่กระดูกเรายังไม่เป็นของเรา
    ทรัพย์สมบัติ และคนรัก ถึงเวลาสิ้นวาสนาก็ต้องจากกัน
    เวลามีชีวิตอยู่ อย่าสำคัญตนผิด เราทุกคนมีเวลาจำกัด
    ก่อนความตายมาถึง ให้ใจรีบสะสมความดี
    ทาน ศีล ภาวนา
    เพราะใจนี้แล...เป็นตัวสั่งสมบุญ สั่งสมบาป
    ร่างกายอยู่ไปไม่นานเดี๋ยวก็พัง
    ใจตัวก่อเหตุนี่แหละที่จะไปรับผลบุญบาป
    อย่าหลงทำชั่ว
    กรรมจะติดตามจองตัวไปทุกภพชาติ
    เราทุกคนมีเวลาจำกัด...
    อย่าประมาท"
    โอวาทธรรมของ พระอาจารย์คม อภิวโร
    เมตตาอบรมโยมขณะประชุมเพลิงหลวงพี่เอก
    Cr.วัดป่าธรรมคีรี
    [​IMG]

    cr. https://www.facebook.com/ศักดิ์สิทธิ์-490609941416175/
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ZyR4vOKrA7fEqUY0BBioHQ2SLkGKHMaElow8Ml2IZA2x&_nc_ohc=RQ9SZzNcSE8AX8nbOp2&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    ท่านพ่อลี ได้ให้โอวาทธรรทในขณะที่ไปทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลปิ่นเกล้า ว่า .....
    "ผู้ป่วยควรที่จะยกร่างกายของตนที่ป่วยนั้น ให้แพทย์เป็นผู้ออกความคิดความเห็นให้อิสระแก่นายแพทย์ เรื่องตายและเรื่องหายเป็นเรื่องของนายแพทย์ ผู้ป่วยไม่ควรกังวล
    เรามีหน้าที่อยู่อย่างเดียว คือ รักษาใจของเรา ทำใจของเราให้เป็นอิสระขึ้นในตัว น้อมนึกไปในอารมณ์ที่ดีที่ชอบ เพื่อสร้างดวงจิตให้เข้มแข็ง

    นายแพทย์รักษากาย คนป่วยรักษาใจ ถึงแม้จะตายไปก็ไม่เสียที ยังมีความดีติดตนไป
    เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ชื่อว่าเป็นผู้มียาทั้งสองขนาดประจำตน คือเภสัชกรรมเป็นเรื่องของนายแพทย์ ธรรมโอสถเป็นเรื่องของผู้ป่วย จะได้ช่วยกันพยุงบำรุงขึ้นซึ่งความเป็นอยู่ของตน"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    q9_sM6CraldaCVvYmATfyjaUwB4mkEKgJRIS1B8GcSKU&_nc_ohc=VdD0_zT8B0oAX9Z7j_A&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ปัจจัยแห่งความตายของเรามีมากแท้
    **********
    [๒๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ คิญชกาวสถาราม ในนาทิกคาม ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า
    “ภิกษุทั้งหลาย มรณัสสติที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
    มรณัสสติที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด เป็นอย่างไร
    คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เมื่อกลางวันผ่านไป กลางคืนย่างเข้ามา พิจารณาเห็นดังนี้ว่า ‘ปัจจัยแห่งความตายของเรามีมากแท้ คือ งูพึงกัดเราก็ได้ แมงป่องพึงต่อยเราก็ได้ หรือตะขาบพึงกัดเราก็ได้ เพราะเหตุนั้น เราพึงตาย เราพึงมี
    อันตรายนั้น เราพึงพลาดหกล้มก็ได้ ภัตตาหารที่เราฉันแล้วไม่พึงย่อยก็ได้ ดีของเราพึงกำเริบก็ได้ เสมหะของเราพึงกำเริบก็ได้ หรือลมมีพิษดังศัสตราของเราพึงกำเริบก็ได้ เพราะเหตุนั้น เราพึงตาย เราพึงมีอันตรายนั้น’
    ...ฯลฯ...
    …………..
    ข้อความบางตอนใน ทุติยมรณัสสติสูตร อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒
    http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=22&siri=271
    #มรณัสสติ
    -_lfWmzzUPnzJT1cJasG-YTtpRi9DQqJ24gvIldPF-0_&_nc_ohc=1Z5ffoCUd0MAX94RMro&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ช่วงระยะความเป็น ความตาย คือ หายใจเข้า หายใจออก เหมือนกัน


    แต่...

    ชีวิตหนึ่ง ภาวนากรรมฐาน ได้ภายในหนึ่งช่วงลมหายใจเข้า-ออก
    ชีวิตหนึ่ง นอนหลับ ภายในหนึ่งช่วงลมหายใจเข้า-ออก
    ชีวิตหนึ่ง วิตกเรื่องโลก ภายในหนึ่งช่วงลมหายใจเข้า-ออก
    ชีวิตหนึ่ง มึนเมาอบายมุข ภายในหนึ่งช่วงลมหายใจเข้า-ออก
    ชีวิตหนึ่ง เข้าถึงจิตบริสุทธิ์ ภายในหนึ่งช่วงลมหายใจเข้า-ออก
    ชีวิตหนึ่ง เจริญมรรคผล ภายในหนึ่งช่วงลมหายใจเข้า-ออก

    ฯลฯ


    ท่านสามารถเลือกได้เอง

    ก่อนหมดลมหายใจ
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    .... “ ยกเว้นพระโลกนาถเจ้าเสีย สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่งที่มีอยู่ สัตว์นั้นว่าโดยปัญญาย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งพระสารีบุตรพระอัครสาวกที่หนึ่งได้
    .... มีปัญญามากถึงอย่างนี้ ยังถึงซึ่งอำนาจแห่งความตาย จะป่วยกล่าวไปไยในคนทั้งหลายเช่นเราเล่า.
    .
    .... แม้พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงปกครองแผ่นดินทั้งสิ้น ทรงสละพระราชทรัพย์ตั้งร้อยโกฏิ ทรงเป็นผู้มีความสุขในบั้นปลาย ถึงความเป็นใหญ่แห่งวัตถุเพียงผลมะขามป้อมครึ่งผลด้วยทั้งเรือนร่างนั้นแล แม้เมื่อท้าวเธอทรงสิ้นบุญแล้ว พระองค์ก็ทรงบ่ายพระพักตร์ต่อมรณะ ก็ต้องมาถึงซึ่งความโศกเศร้า จะป่วยกล่าวไปไยในคนทั้งหลายเช่นเราเล่า.
    .
    .... ท่านผู้มียศใหญ่ทั้งหลาย เป็นท้าวพญาผู้ประเสริฐ เช่น ท้าวมหาสมมติ(มหากษัตริย์) เป็นต้น แม้ท่านเหล่านั้นยังถึงซึ่งอำนาจแห่งความตาย จะป่วยกล่าวไปไยในคนทั้งหลายเช่นเราเล่า”
    .
    อนุสสติกัมมัฏฐานนิเทศ
    มรณานุสสติกถา
    คัมภีร์วิสุทธิมรรค


    ?temp_hash=d1ef13a8f6c6a745016e7bee95b616cc.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    ?temp_hash=25b9dc3033b744fb0817bd9f31a208dd.jpg



    วันนี้อยู่ พรุ่งนี้ไป ใครจะรู้
    แล้วตัวกู ของกู อยู่ตรงไหน
    บุญที่ทำ กรรมที่ก่อ ติดตัวไป
    เป็นเหตุใหม่ ภัยวัฏฏะ จะพาเวียน
    ให้ได้เรียน ได้รู้ โลภ โกรธ หลง
    วิบากส่ง รับโทษทุกข์ สุขแปรเปลี่ยน
    เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ กงกรรมเกวียน
    ยุติเพียร ภาวนา เห็นใจกาย
    สติปัฏ ฐานทั้งสี่ เพียงแค่รู้
    เพียรเฝ้าดู เห็นเกิดดับ ตลอดสาย
    เพียงสักว่า รู้เห็น ทั้งใจกาย
    ครั้นชีพวาย วางว่างไว้ ไม่กลับคืน
    .
    วิมุตติธรรม


    ---------------------

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,405
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,470
    dcwXZzHuic-tmaouEiuU2GU7YLX4GcoYyMXZ6bWi5Hhe&_nc_ohc=DS3F0Yuwd-gAX-l36Dt&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...