ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน...ที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ติดโควิด-19
    และมีความเป็นไปได้สูงว่า เบนยามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี อิสราเอล ติดโควิด19 ด้วย

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คลิปนี้ในประเทศเยอรมัน ประชาชนต่างนำของกินของใช้ออกมาวางแบ่งให้กัน
    ประเทศชาติก็ไม่ต้องเสียงบประมาณแผ่นดิน สังคมที่แบ่งปันกัน พัฒนาแล้วในด้านจิตใจ

    ขยายความตามภาพจากคนไทยในเยอรมัน

    เป็นไปได้ว่า คือเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหลังจากรัฐบาลเยอรมันและโปแลนด์สั่งปิดชายแดน ก็เกิดเหตุทำให้รถติดตรงชายแดนยาว 60 กม คนขับรถใช้เวลามากกว่า 30 ชั่วโมงในการรอผ่านชายแดน ซึ่งรถที่ติดส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุก ปัญหาคือ คนขับรถจะตายเอา ช่วงแรกตำรวจต้องเอาอาหาร เอาน้ำมาแจกคนขับรถ หลังจากนั้นก็มีคนในพื้นที่ริเริ่มเอาของมาวางข้างถนนเพื่อให้คนขับรถบรรทุกเหล่านี้สามารถประทั้่งชีวิตไปได้ ตามข่าวต้องบอกว่าไม่ใช่แค่คนเยอรมันเท่านั้นแต่เป็นคนโปแลนด์ด้วย คนที่นี่จะมองว่าคนขับรถบรรทุกเป็นคนเสียสละในตอนนี้มาก ยามวิกฤติเขายังต้องออกไปทำงานเพื่อขนอาหาร อุปโภค บริโภค ข้ามชายแดนมาให้คนในแต่ละประเทศได้มีกิน นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังแสดงความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของเยอรมนีกับโปแลนด์แม้ในยามที่เกิดวิกฤติ

    ข่าวที่เกี่ยวข้องของการริเริ่มของชาวบ้านโปแลนด์ตรงชายแดนเยอรมนี ที่เขามาช่วยขนของมาให้

    https://www.mdr.de/nachrichten/osteuropa/land-leute/autobahn-a-vier-deutschland-polen-stau-100.html

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
    "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 1 - 4 เมษายน 2563)"
    ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2563
    ในช่วงวันที่ 1- 4 เมษายน 2563 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
    ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น

    ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง



    ประกาศ ณ วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.00 น.

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ภูเก็ต ยอดผู้ติดเชื้อ
    ⭕ #อันดับ 1 ภาคใต้
    FB_IMG_1585570996506.jpg
    UPDATE : 15.00 น. (30 มี.ค.63)
    วันนี้ (30 มี.ค.63) ที่จังหวัดภูเก็ต พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 9 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมจังหวัดภูเก็ต ยังคงสูงสุดของภาคใต้ รวม 62 คน รอผลตรวจอีก 62 คน ตามมาด้วยจังหวัดปัตตานี มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสม 44 คน กักตัวเฝ้าระวังอีก 10 คน จังหวัดตรัง มีแนวโน้มที่ดี หลังผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 คน เหลือผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 4 คน

    #ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้ รวบรวมจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ใน 11 จังหวัดทั่วภาคใต้ ณ เวลา 15.00 น. วันที่ 30 มีนาคม 2563 มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 210 คน เสียชีวิต 2 คน ประกอบด้วย
    จ.ภูเก็ต มีผู้ติดเชื้อสะสม 62 คน รอผลตรวจอีก 62 คน
    จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อสะสม 44 คน กักตัวเฝ้าระวังอีก 10 คน
    จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อสะสม 38 คน เสียชีวิต 1 คน รอผลตรวจอีก 18 คน
    จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อสะสม 25 คน
    จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ติดเชื้อสะสม 13 คน รอผลตรวจ 4 คน
    จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อสะสม 9 คน เสียชีวิต 1 คน
    จ.กระบี่ มีผู้ติดเชื้อสะสม 8 คน รอผลตรวจยืนยัน 20 คน
    จ.พัทลุง มีผู้ติดเชื้อสะสม 6 คน รอผลตรวจยืนยัน 1 คน
    จ.นครศรีธรรมราช มีผู้ติดเชื้อสะสม 5 คน
    จ.ตรัง มีผู้ติดเชื้อสะสม 4 คน รักษาหาย กลับบ้าน 1 คน รอผลตรวจยืนยัน อีก 13 คน
    จ.ชุมพร พบผู้ติดเชื้อ 1 คน
    UPDATE : เวลา 15.00 น. วันที่ 30 มี.ค.63

    Cr. Southern Thai PBS

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เชียงใหม่ พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จาก #ภูเก็ต เที่ยวบิน FD3161 วันที่ 19 มี.ค.63 หมายเหตุ Sound up ที่ลงเป็นของเชียงใหม่ค่ะ

    ที่มา : สสจ.เชียงใหม่



     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดียยันไม่มีแผนขยาย ‘ล็อคดาวน์’
    หลังคนงานนับแสนโวยไม่มีจะกิน-แห่ 'เดินเท้า' กลับบ้าน

    เอเจนซีส์ – รัฐบาลอินเดียยังไม่มีแผนขยายมาตรการล็อคดาวน์ 21 วันเพื่อชะลอการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะเดียวกันก็พยายามแก้ไขปัญหาสินค้าขาดแคลน รวมถึงสกัดกั้นแรงงานนับแสนๆ คนที่ต้องตกงานอย่างกะทันหันและกำลังหาทางกลับภูมิลำเนา

    นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียได้ประกาศล็อคดาวน์ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 24 มี.ค. โดยให้ประชากร 1,300 ล้านคนเก็บตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัยจนถึงวันที่ 15 เม.ย. เพื่อหยุดการระบาดของโควิด-19 ทว่ามาตรการปิดเมืองครั้งนี้ก็ส่งผลให้ประชากรอินเดียนับล้านคนที่มีฐานะยากจนตกงานไม่มีจะกิน

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000032472

    #อินเดีย #ล็อคดาวน์ #สถานการณ์โควิดทั่วโลก

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัตราการเสียชีวิต "โควิด-19" ของแต่ละช่วงอายุในจีนและอิตาลี
    .
    FB_IMG_1585571639649.jpg
    https://mgronline.com/science/detail/9630000030921
    .
    จากผลการวิจัยอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคโควิด-19 ทั้งจากองค์การอนามัยโลก ประเทศจีน และอิตาลี พบข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
    .
    คือ ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่สุดที่จะติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิต โดยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่า 1% ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปมีอัตราการเสียชีวิต 8.0-9.6% และอายุ 80 ปีขึ้นไปมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 14.8-19.0% ดังนั้นจึงต้องดูแลผู้สูงอายุเป็นพิเศษมิให้ติดเชื้อโควิด-19
    .
    #mgronline #อัตราการเสียชีวิตโควิด19 #ช่วงอายุ #โควิด19

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ ไฟเขียว
    จ่าย “ยาต้านมาลาเรีย”
    รักษาผู้ป่วยโควิด-19
    .
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ออกคำสั่งฉุกเฉินอนุญาตให้สามารถใช้ยาต้านมาลาเรีย 2 ชนิดเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างจำกัด สองตัวยาที่ทรัมป์อวดอ้างว่าจะเป็นตัวพลิกผันสถานการณ์ในปัจจุบัน
    .
    ในถ้อยแถลงที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (29) กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดการบริจาคยาเข้าคลังส่วนกลาง รวมถึงยาคลอโรควินและไฮโดรซีคลอโรควิน ยาทั้งสองกำลังถูกศึกษาความสามารถในการรักษาเชื้อไวรัสโควิด-19
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000032258
    #mgronline #สหรัฐอเมริกา #ยาต้านมาลาเรีย #รักษาผู้ป่วยโควิด-19

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "กองปราบ" เตือน
    แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ใช้ผิดอันตรายถึงชีวิต
    นำมาหลอกขายโทษถึงจำคุก
    .
    "กองปราบปราม" โพสต์ข้อความเตือนประชาชนควรเลือกใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้ถูกชนิด หากใช้ผิดอาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมเตือนกลุ่มมิจฉาชีพที่คิดจะฉวยโอกาสหลอกขายเมทิลแอลกอฮอล์ ระวัง มีโทษทั้งจำคุกและปรับเงิน
    .
    เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เพจ "กองปราบปราม" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนภัยในสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย ทำให้การดูแลความสะอาดตัวเองและคนรอบข้างมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยและการใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ ซึ่งทางเพจ "กองปราบปราม" จึงได้ออกมาระบุข้อความเตือน การใช้แอลกอฮอล์ ผิด อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต และ กลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกขายแอลกอฮอล์ก็มีโทษ
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000032164
    #mgronline #กองปราบปราม #แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ #มิจฉาชีพ #ฉวยโอกาสหลอกขาย #อันตรายถึงชีวิต #โทษจำคุก

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาแล้ว! การจัดสรรหน้ากากอนามัย
    .
    “กระทรวงพาณิชย์” ปรับระบบการจัดสรรหน้ากากอนามัยใหม่ โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน จัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาลต่างๆ เป็นลำดับแรก 1.3 ล้านชิ้นต่อวัน ส่วนที่เหลือ 1 ล้านชิ้นต่อวันให้กระทรวงมหาดไทยนำไปจัดสรรให้ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดนำไปบริหารจัดการ
    .
    และยังคาดว่าในช่วงเดือนเม.ย.2563 จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตปริมาณหน้ากากอนามัยเป็น 2.86 ล้านชิ้นต่อวันได้
    .
    #mgronline #การจัดสรรหน้ากากอนามัย #กระทรวงพาณิชย์ #โควิด19 #หน้ากากอนามัย

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบ จนท.3 หน่วยงานศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ
    ติดเชื้อโควิด-19 ธพส.เร่งฆ่าเชื้อ
    สธ.เข้าสอบสวนโรควันนี้
    .
    วันนี้ (30 มี.ค.) รายงานว่าข่าวแจ้งว่า บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ บริษัทที่ดูแลบริหารอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ ทั้งตึกเอ และตึกบี ที่มีที่ตั้งของหน่วยราชการจำนวนมาก ในแต่ละวันมีข้าราชการพนักงานปฏิบัติงานในพื้นที่จำนวนมาก เช่นเดียวกับมีประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการจำนวนมากเช่นกัน ได้ออกหนังสือเวียนแจ้งไปยังหน่วยราชการต่างระบุว่า ด้วย ศวบ.ได้รับแจ้งจากหน่วยงานต่างๆ ภายในศูนย์ราชการฯ ว่ามีเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติภายในหน่วยงานติดเชื้อโควิด-19
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/politics/detail/9630000032178
    #mgronline #ศูนย์ราชการฯ #แจ้งวัฒนะ #เจ้าหน้าที่ #ติดเชื้อโควิด-19

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20200330_194508.jpg

    (Mar 30) คอลัมน์ บางขุนพรหมชวนคิด: โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังวิกฤติโควิด-19 จบลง? เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างความโกลาหลวุ่นวายให้กับโลกอย่างหนักหน่วงทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คน ผู้เขียนได้เคยอธิบายผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยตรงไปแล้วในบทความ "ไวรัสโคโรนา:ฝันร้ายของเศรษฐกิจโลก?"

    แต่ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งได้สิ้นหวังไปครับเพราะทุกวิกฤติมีเกิดแล้วย่อมมีดับเป็นธรรมดาการแพร่ระบาดครั้งนี้ก็เช่นกัน คำถามสำคัญที่ตามมาคือเมื่อวิกฤติครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว โลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบางขุนพรหมชวนคิด จึงขอชวนท่านผู้อ่านมองไปข้างหน้าและคิดตามกันในแง่มุมต่างๆดังต่อไปนี้ครับ

    1.การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (deglobalization) จะมีความเข้มข้นมากขึ้นและทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว:

    ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนเกิดวิกฤติครั้งนี้เราได้เห็นหลายประเทศใช้นโยบายแบบเน้นตนเอง (inward-looking policy) หรือปกป้องทางการค้า (protectionism) อย่างชัดเจนกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะจากสงครามการค้าที่ปะทุขึ้น โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่ส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติอเมริกันกลับมาผลิตในประเทศมากขึ้นและกีดกันการค้าจากต่างประเทศประเด็นนี้กลับมาชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกด้วยวิกฤติโควิด-19 ที่กำลังตอกย้ำความเชื่อของฝ่ายขวาจัดและผู้ไม่สนับสนุนโลกาภิวัตน์ว่า การพึ่งพิงระบบการผลิตระหว่างประเทศมากเกินไปเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งจะเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลกที่มีอยู่แล้วให้ยิ่งรวดเร็วมากขึ้น กล่าวคือ ประเทศต่างๆจะหันมาพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในประเทศตนเองเพิ่มขึ้นอีก และกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตและขายสินค้า โดยไม่พึ่งพาแต่ประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น

    นอกจากนี้ รัฐบาลประเทศต่างๆอาจเปลี่ยนวิกฤติครั้งนี้ให้เป็น "โอกาส" ในการคิดทบทวนอย่างรอบคอบว่านโยบายเศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปในทิศทางใด โดยจะพยายามกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ โดยไม่พึ่งพารายได้ทางใดทางหนึ่งจนเกินไป อาทิ ไม่พึ่งพาแต่การส่งออกหรือการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่อาศัยการบริโภคและการลงทุนในประเทศเป็นเครื่องจักรสำคัญด้วย

    2.ปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะด้านสาธารณสุขจะได้รับการแก้ไขให้ทั่วถึงและเสมอภาคมากขึ้น :

    วิกฤติโควิด-19 สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลหลายประเทศหันมาใส่ใจพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประชาชนและไม่ปล่อยให้กลไกตลาดเป็นตัวจัดการอย่างที่เคยเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯที่ระบบสาธารณสุขไม่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า วิกฤติครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่บุคคลจะเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้หรือไม่นั้น ไม่ควรเป็นเรื่องของปัจเจกชนอีกต่อไป เพราะคนคนหนึ่งที่จริงๆแล้วเป็นพาหะของโรคอยู่ แต่ไม่สามารถไปใช้บริการตรวจไวรัสได้ เพราะจ่ายเงินค่าตรวจไม่ไหวทั้งๆที่อยากไป และคงใช้ชีวิตแบบเดิมตามปกติ ทำให้แพร่โรคระบาดต่อไปให้ผู้อื่น โดยไม่รู้ตัว ได้จนในที่สุดการควบคุมโรคในภาพรวมจะทำได้ยากลำบาก

    ดังนั้น หลังผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ เราอาจได้เห็นบทบาทที่เพิ่มขึ้นของระบบรัฐสวัสดิการในแต่ละประเทศก็เป็นได้

    3.สังคมจะก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป :

    ทุกวิกฤติย่อมทิ้งร่องรอย (legacy) ไว้เสมอ ย้อนกลับไปในสมัยการระบาดของโรคซาร์สในปี 2545 ก็สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการใช้เทคโนโลยีออนไลน์อย่างอีคอมเมิร์ซในจีนให้มาเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนอย่างสูง โดยเฉพาะอาลีบาบาและเจดีดอทคอม เพราะผู้คนหลีกเลี่ยงการติดเชื้อจากพื้นที่สาธารณะและหันมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น มาถึงวิกฤติครั้งนี้ก็จะทิ้งร่องรอยไว้เช่นกัน โดยเป็นการตอกย้ำให้ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมต้องเร่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อช่วงชิงตลาดจากการค้าขายแบบออนไลน์มากขึ้นอีก รวมทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลหลายประเภทที่มีมานานแล้วแต่ยังไม่มีคนใช้กันมากนัก

    วิกฤติครั้งนี้กลับบังคับให้คนต้องหันมาใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างจริงจัง และสร้างโอกาสต่อยอดให้มีผู้เล่นในตลาดมากยิ่งขึ้น อาทิ แพลตฟอร์มที่ช่วยสื่อสารทางไกล จัดประชุม หรืออีเวนต์ ซึ่งผู้บริโภคจะเกิดความคุ้นเคยและเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้เทคโนโลยีอย่างถาวร นอกจากนี้ แม้กระทั่งสถาบันการศึกษาก็ต้องพัฒนาไปใช้วิธีการสอนแบบออนไลน์ทดแทนทั้งหมด

    ในช่วงวิกฤติ ซึ่งอาจพลิกโฉมระบบการศึกษาโลกไปโดยสิ้นเชิงหลังผ่านพ้นวิกฤติแล้ว และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผู้คนอาจจะกลัวการใช้เงินสดหรือธนบัตร เพราะกระดาษอาจเป็นพาหะของเชื้อโรคได้แม้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปแล้วและจะเริ่มคุ้นชินกับการรักษาสุขอนามัยอย่างเข้มงวดไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย

    ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นได้ครับ.

    โดย สุพริศร์ สุวรรณิก ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค
    ธนาคารแห่งประเทศไทย
    Suparit Suwanik

    **บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด**

    Source: ไทยรัฐออนไลน์
    https://epl.thairath.co.th/news/business/1807048
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20200330_195123.jpg

    (Mar 29) COVID-19 : โรคพลิกโลก เมื่อสหรัฐฯ เกิดวิกฤต - เราเคยพูดกันว่า COVID-19 สั่นสะเทือนโลก เพราะระบาดที่จีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นมหาอำนาจใหม่ แต่ไม่แน่นะครับ หากนักประวัติศาสตร์ในอนาคตย้อนกลับมาดูช่วงเวลานี้ อาจต้องบอกว่า COVID-19 เป็นตัวเร่งสำคัญที่จะเปลี่ยนระเบียบและระบบของโลกในทศวรรษใหม่ ไม่ใช่เพราะวิกฤตที่จีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่เป็นเพราะวิกฤตการระบาดใหญ่ตอนนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจเก่าและเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    คำถาม ณ ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ว่า สหรัฐฯ จะถึงภาวะวิกฤตเช่นในอิตาลีหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงคือ สหรัฐฯ ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว เพียงแต่จะไปจบที่วิกฤตมากหรือน้อยเท่านั้นเอง โดย Dr. Neil M. Ferguson นักระบาดวิทยาชาวอังกฤษได้ประเมินจากแนวโน้มในขณะนี้ว่า ความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดคือ สหรัฐฯ จะมีคนตายจากโรคนี้ 2.2 ล้านคน ส่วนความเป็นไปได้ที่ดีที่สุดคือ สหรัฐฯ จะมีคนตายจากโรคนี้ 1.1 ล้านคน แม้กระทั่งภาพความเป็นไปได้ที่ดีที่สุดก็ถือเป็นหายนะทางสาธารณสุขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสหรัฐฯ

    นี่แหละครับ ความน่ากลัวของไวรัส เพียงไฟเริ่มจุดติดและลุกลาม ก็ไม่ปรานีกับหน้าไหนหรือประเทศใดทั้งสิ้น

    ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ คือ การไม่จัดให้มีการปูพรมตรวจเชื้ออย่างกว้างขวางในช่วงเริ่มแรก แน่นอนว่า การตรวจเชื้อติดข้อจำกัดด้านทรัพยากร อีกทั้งในความเป็นจริง ผู้ป่วยกว่า 80% ที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้มีอาการน้อย ซึ่งไม่ว่าจะตรวจพบเชื้อหรือไม่ ก็ใช้วิธีรักษาแบบเดียวกันคือรักษาตามอาการ ดังนั้นแพทย์หลายคนในช่วงแรกจึงเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจเชื้อกับกลุ่มผู้มีอาการน้อย

    แต่ปัญหาคือ เมื่อคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ก็เที่ยวเดินเล่นในเมืองแพร่เชื้อไปทั่ว จนในที่สุดก็มีคนติดเชื้อกันเต็มเมือง แถมไม่รู้จำนวนแน่นอนด้วยว่าติดกันจนขยายวงกว้างไปเท่าไรแล้ว โดยในบรรดาผู้ติดเชื้อทั้งหมด จะมีจำนวน 20% ที่อาการหนักและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (15% อาการหนัก และ 5% อาการเข้าขั้นวิกฤต ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและอาจต้องใช้ปอดเทียม) พอรู้ตัวอีกที ผู้ป่วยหนักก็แน่นเต็มโรงพยาบาล แถมหลายคนเมื่อมาถึงมือหมอก็ช่วยไม่ทันแล้ว สรุปคือหายนะ

    เปรียบเทียบกับเกาหลีใต้ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกในเวลาเดียวกับที่สหรัฐฯ พบ แต่เกาหลีใต้ใช้ยุทธวิธีปูพรมตรวจเชื้ออย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ซึ่งที่เกาหลีใต้ทำได้ เพราะมีบริษัทวิจัยของเกาหลีใต้พัฒนาชุดตรวจและเทคโนโลยีการตรวจที่ง่ายและต้นทุนถูก อีกทั้งทางการยังอนุมัติชุดตรวจใหม่นี้ด้วยขั้นตอนที่รวดเร็ว เกาหลีใต้จึงไม่ได้ใช้วิธีตรวจตามมาตรฐานปกติซึ่งใช้ในสหรัฐฯ และไทย แต่ใช้ชุดตรวจที่เกิดจากเทคนิคใหม่ที่พัฒนาขึ้นเอง ทำให้สามารถตรวจได้ปริมาณมากและเร็วจนพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อเองเมื่อรู้ตัว ก็จะกักกันตัวเอง ไม่แพร่เชื้อต่อ และสามารถคอยตรวจสอบอาการได้ว่าเมื่อไรควรรีบไปพบแพทย์ ดังนั้น อัตราการเสียชีวิตในเกาหลีใต้จึงต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ

    มีนักสถิติประเมินว่า ตอนนี้สถานการณ์ในสหรัฐฯ เปรียบเทียบได้กับสถานการณ์ในสัปดาห์ก่อนหน้าที่อิตาลีจะระบาดจนควบคุมไม่ได้ แถมสหรัฐฯ ยังมีจำนวนแพทย์และเตียงต่อหัวประชากรน้อยกว่าอิตาลี ดังนั้น ถ้าสหรัฐฯ เกิดวิกฤตในระดับเดียวกับอิตาลี ความเสียหายอาจหนักหนากว่ามาก

    จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) พบว่า ถ้าการระบาดในสหรัฐฯ ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด อาจมีความต้องการเตียงสำหรับผู้ป่วยวิกฤตประมาณ 366,000 เตียง ซึ่งมากกว่าจำนวนเตียง I.C.U. ที่โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีถึง 10 เท่า ตอนนี้จึงมีนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่เยอรมนีมีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อย เพราะเยอรมนีสามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจได้เอง และมีการระดมทรัพยากรผลิตเครื่องช่วยหายใจเพิ่มให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่ในสหรัฐฯ ต้นทุนเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านี้มีราคาแพง และแต่ละโรงพยาบาลก็มีเครื่องมือเหล่านี้น้อย จึงเกิดเป็นสถานการณ์ที่ว่า โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีคุณภาพและมาตรฐานสูง แต่ไม่มีความสามารถที่จะรองรับผู้ป่วยปริมาณมหาศาลได้

    อีกตัวอย่างหนึ่งคือ ชุดปกป้องตัวเองของแพทย์ (ที่มีลักษณะคล้ายชุดนักบินอวกาศ) มีรายงานว่า ในช่วงแรกที่จีนต้องเผชิญกับโรคระบาด บุคลากรทางการแพทย์ในอู่ฮั่นติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อทางการจีนระดมอาสาสมัครทางการแพทย์จากพื้นที่ต่างๆ จำนวน 42,000 คน เข้าไปช่วยในอู่ฮั่น ก็ได้จัดชุดปกป้องตัวเองแบบเต็มที่ให้กับทุกคน

    ผลคืออาสาสมัครทางการแพทย์จากพื้นที่ต่างๆ ของจีนที่เข้าไปช่วยในอู่ฮั่นไม่ติดเชื้อเลยแม้แต่คนเดียว แต่วันนี้ ภาพที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดียของสหรัฐฯ คือ ภาพการขาดแคลนหน้ากากอนามัยสำหรับแพทย์ในโรงพยาบาลสหรัฐฯ ยังไม่พูดถึงอุปกรณ์ป้องกันบริเวณดวงตาและศีรษะ จนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐฯ ต้องออกมาเรียกร้องให้คนที่ไม่ป่วยอย่าใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่ว่าหน้ากากอนามัยปกป้องไม่ได้ แต่เป็นเพราะการขาดแคลนทรัพยากร และความจำเป็นที่จะต้องให้ทรัพยากรถึงมือผู้ที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุดต่างหาก

    ถ้าท่านยังจำได้ว่า เมื่อตอนที่จีนวิกฤต โลกก็เหมือนจะวิกฤตไปด้วยแล้ว แต่สถานการณ์วิกฤตในสหรัฐฯ จะยิ่งพาโลกเข้าสู่วิกฤตหนักหนาสาหัสยิ่งกว่า เพราะสหรัฐฯ มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้น ผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกอาจหนักกว่าครั้งวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2007 เสียอีก และค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า ปีนี้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่สภาวะถดถอยแน่นอน

    ผลกระทบถัดมาที่พอคาดการณ์ได้ คือ โดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสสูงที่จะแพ้การเลือกตั้ง เพราะเศรษฐกิจไม่ดีและวิกฤตสาธารณสุขรุนแรง ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการที่ทรัมป์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาความรุนแรงของโรคนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น

    ส่วนผลที่จะสั่นสะเทือนโลกในระยะยาวยิ่งกว่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกและระบบโลก ในด้านระเบียบโลก ในระยะสั้น จีนสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้เร็ว และอาจเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เริ่มมีการกระตุ้นและหมุนเวียนใช้จ่ายในตลาดขนาดใหญ่ภายในประเทศ ขณะที่ทางสหรัฐฯ อาจยังอยู่ในภาวะวิกฤตอีกหลายเดือน นอกจากนั้น เราจะเห็นจีนเริ่มออกมาเล่นบทบาทผู้นำในการให้ความช่วยเหลือทางสาธารณสุขกับประเทศต่างๆ ด้วย ส่วนในระยะยาว ผลกระทบต่อระเบียบโลกย่อมอยู่ที่ว่า สุดท้ายแล้ว สหรัฐฯ จะเกิดวิกฤตมากน้อยเพียงใด เศรษฐกิจจะพังยาวหรือพังสั้น ฟื้นตัวเร็วหรือฟื้นตัวช้า

    ส่วนในด้านระบบโลก เราต้องไม่ลืมว่า สหรัฐฯ เป็นผู้นำความคิดเกี่ยวกับระบบและอุดมการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก ดังนั้น หากวิกฤตในสหรัฐฯ หนักหนาสาหัสจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ย่อมนำไปสู่การเรียกร้องระบบรัฐสวัสดิการ และยิ่งเผยให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในสังคมสหรัฐฯ เพราะส่วนหนึ่งของวิกฤตครั้งนี้เป็นวิกฤตที่เกิดจากระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมเชิงอนุรักษนิยมของสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าเช่นประเทศพัฒนาแล้วในยุโรป และไม่มีประกันการลาป่วยให้กับแรงงาน ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ทำให้สหรัฐฯ มีโอกาสจะเผชิญวิกฤตการระบาดหนักกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ เพราะคนป่วยที่ยากจนเข้าไม่ถึงการตรวจและการรักษา รวมทั้งไม่สามารถลาพักกักตัวที่บ้านได้เพราะจะขาดรายได้

    หลายคนเคยสงสัยว่า อะไรจะเป็นจุดพลิกให้ระเบียบโลกเปลี่ยน อะไรจะเป็นจุดพลิกให้เราต้องมาทบทวนการจัดระบบสังคมใหม่ที่ยุติธรรมมากขึ้น หลายคนมักคิดว่า คงต้องมีวิกฤตครั้งใหญ่ก่อน แต่ไม่มีใครคิดว่าวิกฤตครั้งใหญ่นี้จะมาจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่
    ไวรัสที่ตักเตือนมนุษยชาติว่า สุดท้าย ชะตากรรมของแต่ละประเทศต่างผูกกัน และชะตากรรมของทุกคนต่างผูกกันเช่นกัน

    โดย Arm Tungnirun

    Source : 101 World
    https://www.the101.world/covid-19-and-us-crisis/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สภาพการณ์ของโรงพยาบาล Elmshurst ที่ควีนส์ นิวยอร์ก หลอกประสาทเสียยิ่งกว่าหนัง

    คนไข้ท่วมโรงพยาบาล ขาดหมด อุปกรณ์สารพัน จำนวนคนป่วย/ตายเพิ่มขึ้นวันละสองสามเท่าตัว

    รวมทั้งคนไข้ตัวร้อนต้องไปเข้าแถวรอเช็ค ...สองวัน ทั้งวันในแถว

    แล้วก็ยังไม่ได้เช็ค เพราะมีเครื่องไม่พอ

    คุณก็ต้องกลับไปบ้าน เป็นตายเรื่องของคุณ จะไปติดใครต่อก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้

    แถวที่เห็น ๆ ยังจะยาวเหยียดเสียยิ่งกว่านี้ เพรานี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น

    น่าตกใจมากครับที่ว่า นี่น่ะหรือคือประเทศมหาอำนาจของโลก ด้วยบรรยากาศเสมือนนรกกำลังเปิดประตู แล้วมหาอำนาจเอาไม่อยู่

    จนถึงขั้นต้องสั่งรถโกดังตู้เย็น มาคอยบรรจุศพ ...หมอพยาบาล ฯลฯ ขาดเครื่องป้องกันตัวที่ถูกต้อง แต่ก็ต้องทำงาน

    แปลกมากครับที่อเมริกา ในมหานครโด่งดังเช่นนิวยอร์ก ต้องมาเผชิญสถานการณ์หนักถึงขนาดนี้ เพราะทรัมป์ปฏิเสธมันเป็นพัลวัล

    แต่ผมจะไม่โทษเพียงทรัมป์คนเดียว แต่จะโทษทุกคนด้วย โดยเฉพาะฝ่ายมีเดีย น.ส.พ. โทรทัศน์ ข่าวดีจิตอล ฯลฯ ว่าพวกท่าน ควรสัมภาษณ์ไถ่ถามสร้างข่าวเกี่ยวกับไวรัสนี้มาแล้วนาน

    และนอกจากถามแล้วควรสร้างข่าวใหญ่ให้ประชาชนทราบแล้วช่วยกันถก ช่วยเห็นแก่อนาคตของประเทศชาติและประชาชนล่วงหน้า ไม่ใช่เพียงแต่เสนอข่าวประจำวัน

    ก็ในเมื่อพวกท่านมีสนามและอำนาจ

    อีกอย่าง ผมโทษผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุน องค์การและองค์กรโด่งดังในจำนวนมหาศาล ที่ไม่ออกมาล้อมคอก ก่อนที่วัวจะหาย ถึงขนาดนี้

    และผมจะโทษรัฐบาล/ผู้นำด้วย ทุกคน ทั้งสภา ไม่ว่าพรรค์ไหน

    เพราะนี่คือเรื่องความเป็นตายของประเทศชาติ ของประชาชน

    ไม่ใช่เรื่องการเมือง

    ผมเป็นไทย/อเมริกัน จึงขอติงว่า บ้านเราควรตั้งเป้ากันไว้เลย

    อย่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์สุดสาหัส ที่ในขณะนี้กำลังสร้างตัวอยู่ที่ควีนส์ นิวยอร์ก (ขอย้ำว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของมัน)

    ...ไปซ้ำรอยต่อที่บ้านเรานะครับ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรรมบันดาลทั้งนั้น
    วันที่ 11 เม.ย. 2551
    PSX_20200330_200222.jpg
    สนทนาธรรมที่มูลนิธิ ฯ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550
    ถอดเทปโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

    นิรันด์ อาจารย์ว่าเห็นได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบ สัมผัสในขณะนี้เป็นผลของกรรม แต่โดยความเข้าใจ จริงๆ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเห็นขณะนี้..ได้ยินกระทบ...อาจารย์ ต้องย้อนไปตอนเกิด ขณะเกิดเป็นผลของกรรม หรือเป็นกรรม...จิตขณะแรกที่เกิด...ปฎิสนธิจิตนิรันด์ เป็นผลของกรรม

    อาจารย์ เป็นผลของกรรม และหลังจากปฎิสนธิดับไปแล้ว ทำไมไม่หมด ทำไมยังคงมีจิตเกิดดับสืบต่อดำรงภพ ชาติ อะไรทำให้จิตเกิดดับสืบต่อ ดำรงภพชาติเป็น บุคคลนี้ไปจนกว่าจะถึงขณะสุดท้าย ...ก็เป็นผลของ กรรม เมื่อเกิดปฎิสนธิจิตดับ และจิตต่อไปก็เป็น ภวังคจิต ดำรงภพชาติเพื่ออะไร เพราะโลกนี้ไม่ได้ ปรากฏเลย ผลของกรรมอะไรกัน ไม่ว่าจะเกิดเป็น มนุษย์ ก็ไม่เห็นอะไรโลกนี้ก็ไม่ปรากฏ เกิดบนสวรรค์ ก็ไม่รู้อะไร โลกสวรรค์ก็ไม่ได้ปรากฏ เกิดในพรหม โลกๆ ก็ไม่ได้ปรากฏ เพราะไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน เกิด เป็นเดรัจฉานหรือในนรก ก็ไม่ได้รู้อะไร จะเป็นผลของ กรรมเพียงเท่านั้น หรือคือเพียงแค่ทำให้ปฎิสนธิจิต เกิดและภวังคจิตเกิดเพียงเท่านั้น หรือผลของกรรม ยังมีมากกว่านั้น ทำให้จักขุปสาทเกิด ใครก็สร้างจักขุ ปสาทรูปไม่ได้ รูปที่เกิดจากกุศลกรรม ใครสร้างไม่ได้ เลย นอกจากกรรม ถ้าไม่มีจักขุปสาทซึ่งกรรมทำให้ รูปเกิดขึ้นเพื่อที่จะกระทบกับสิ่งที่ปรากฏทางตา แล้ว จิตเห็นจึงเกิด ทั้งหมดนี้มาจากเจตนาที่พอใจที่จะ เห็น ต้องการที่จะเห็น ยังไม่หมดความยินดีพอใจใน สภาพธรรมที่เห็น ก็เป็นปัจจัยทำให้กุศลกรรมกัมมัช รูปก็เป็นอย่าง อกุศลกรรมกัมมัชรูปก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง นี่ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก จะแสดงให้เห็นว่า รูปที่ เกิดจากกรรม เมื่อกรรมมี 2 กัมมัชรูปก็ต้องเป็น 2 อย่าง คือเกิดจากกุศลกรรม หรือเกิดจากอกุศลกรรม มีตาไว้ทำไม ลองคิดดูซิค่ะ อยู่ดีๆ ก็มีตาไว้ทำไมนิรันด์ ไว้เห็นอาจารย์ นั่นซิค่ะ แล้วเห็นนี้เลือกได้ไหมบังคับได้ไหม จะ ให้เห็นเมื่อไร จะให้เห็นอะไร ? ไม่ได้ เพราะกรรมเป็น ปัจจัยว่า...ถึงกาลที่กรรมจะให้ผล ให้เห็นสิ่งที่ไม่น่า พอใจ จะอยู่ที่ไหนอย่างไรก็ตาม ให้เห็นกำลังของ กรรมว่า...สามารถจะทำให้อะไรๆ ก็เกิดได้ แต่ละคน ไม่เหมือนกัน เห็นก็ไม่เหมือนกัน บางคนได้ยิน บาง คนไม่ได้ยิน และเสียงมีตั้งหลายเสียง บางคนได้ยิน เสียงนี้ อีกคนได้ยินเสียงอื่น ใครบรรดาล ? กรรม บรรดาล เพราะว่ามีชีวิตอยู่ในโลก เป็นผลของกรรม และ(กรรม)เป็นเหตุ คือตัวกรรมที่จะให้ผลเกิดต่อไปนิรันด์ ผมขอขอบคุณท่านอาจารย์ที่ให้ความเข้าใจใน เรื่องของกรรม

    https://www.dhammahome.com/webboard/topic/8132
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วนนน ⚠️ ซาอุยังสั่งเพิ่มปริมาณส่งออกน้ำมันอีก ! และตัวเลขการใช้น้ำมันของโลกยังคงลดลงเรื่อยๆ ล่าสุดหายไป 26% แล้ว ! ราคาน้ำมันเตรียมปรับตัวลดลงได้เลยหาก #สงครามราคา ยังไม่สิ้นสุด

    เมื่อเวลา 18.20น. ทางรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานได้ออกมาประกาศว่าทางซาอุดิอาระเบียจะสั่งเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันมากยิ่งขึ้น ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ทางประเทศคาดว่าจะส่งออกได้ 10.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน !

    เราลองมา #เจาะตัวเลข กันดูคร่าวๆนะครับ ว่า 10.6 ล้านบาร์เรลต่อวันนี่เป็นปริมาณที่มากเพียงใด ?

    1️⃣ ปริมาณการส่งออกที่ 10.6 ล้านบาร์เรลต่อวันนี้หากทำได้จริงจะเป็นการส่งออกที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุเลยทีเดียว

    2️⃣ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น ทางซาอุส่งออกน้ำมันอยุ่ที่เฉลี่ย 7 ล้านบาร์เรลต่อวันเอง การเพิ่มครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มถึง 50% ภายในเวลาอันสั้น (กราฟแนบในคอมเม้นท์)

    3️⃣ ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมานั้น ทางซาอุผลิตน้ำมันเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าการเพิ่มส่งออกครั้งนี้จะกลายเป็นส่งออกได้มากกว่าที่เคยผลิตมาตลอดในอดีตเสียอีก ! (กราฟแนบในคอมเม้นท์)

    ทำไมทางซาอุถึง #เพิ่มการส่งออก ได้มากขนาดนี้ ?

    1️⃣ ซาอุไม่เคยผลิตน้ำมันเต็มกำลังอยู่แล้วในเวลาที่ผ่านมา จะลดกำลังการผลิตไว้ 2-3 ล้านบาร์เรลต่อวันตลอด เพื่อดันราคาไม่ให้น้ำมันล้นโลกจนเกินไป

    2️⃣ ซาอุยอมลดการใช้น้ำมันดิบที่เข้ากลั่นในประเทศด้วยในสงครามครั้งนี้ เพื่อที่จะได้นำน้ำมันดิบเหล่านั้นออกมาขายให้ท่วมตลาดมากขึ้น ซาอุพร้อมที่จะเสียกำไรจากการหยุดกลั่นน้ำมัน

    3️⃣ ไวรัสโควิดทำให้การใช้น้ำมันในประเทศซาอุหายไปเยอะ ทั้งการหยุดเครื่องบินจากการปิดประเทศ การขับรถที่น้อยลง ทำให้เหลือน้ำมันมาส่งออกมากขึ้น

    ทางด้าน #การใช้น้ำมันทั่วโลกเป็นอย่างไรบ้าง ?

    ทุกๆครั้งที่มีอัพเดทตัวเลขรายงานการประเมินการใช้น้ำมันของโลกนั้น... ตัวเลขยังคงลดลงเรื่อยทุกๆครั้ง เมื่อบ่ายวันนี้ทาง Goldman Sachs เพิ่งออกมารายงานว่าการใช้น้ำมันได้หดตัวไป 26 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้วหรือคิดเป็น 26% ของโลกและมีแนวโน้มจะลดลงได้อีกเรื่อยๆ

    ล่าสุดทางสหรัฐเพิ่งประกาศขยายเวลาในการทำ Social Distancing ออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนเมษายน และทางอังกฤษยังมีแผนปิดเมืองยาวเพิ่มไปอีก 6 เดือน ! ทำให้การใช้น้ำมันยังจะหดลงต่อไปเรื่อยๆ

    และ #ทิศทางราคาน้ำมัน จะเป็นอย่างไรต่อไป ?

    วันนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent กำลังเทรดอยู่ที่ 26.4 เหรียญ (สัญญาส่งมอบเดือน June) หรือ -5.5% ถึงแม้ราคาจะปรับตัวลดลงมามากแล้ว แต่ราคายังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงได้ต่อ

    ลองนึกภาพดูคร่าวๆนะครับ ตอนนี้การใช้น้ำมันกำลังหดตัวไปเรื่อยหากไวรัสยังไม่หยุดระบาด และผู้ผลิตก็ยังไม่มีแนวโน้มจะกลับมาร่วมมือกัน ยังเร่งแข่งกันผลิตน้ำมันออกมาขายให้ได้มากที่สุด ผู้ผลิตต้นทุนสูงก็ยังพยายามผลิตไปด้วยเพื่อรักษากระแสเงินสด ในระยะสั้นพอราคาถูกๆ ผู้คนเริ่มรุมซื้อน้ำมันเก็บเข้าถังกัน แต่ตอนนี้ถังน้ำมันทั่วโลกกำลังจะเต็มในอีก 1-2 เดือน

    หากถังทั่วโลกเต็ม ใครจะซื้อน้ำมัน ? หากไม่มีคนซื้อ ราคาก็คงต้องถูกลงไปเรื่อยๆและเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้ผลิตต้นทุนสูงต้องยอมปิดก็อกผลิตไปเรื่อยๆ

    ทางเรามองว่ามีโอกาสสูงที่ราคาน้ำมัน #อาจปรับตัวลง ไปต่ำกว่า 20 เหรียญได้ครับ หากผู้ผลิตยังไม่ยอมกลับมาจับมือกัน

    ส่วน ⚔️ สงครามราคาน้ำมันจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ? แนะนำให้อ่านที่บทวิเคราะห์ลิ้งค์นี้ครับ



    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚔️ #สงครามราคาน้ำมัน จะสิ้นสุดลงเมื่อใด ? เป็นคำถามที่หลายๆท่านคงอยากทราบ แต่คนที่จะรู้คำที่แท้จริงตอนนี้คงมีเพียงแค่ ซาอุดิอาระเบีย และ รัสเซีย เท่านั้น ...

    อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เกิดสงครามราคาขึ้นระหว่างผู้ผลิตกันเอง และไม่ใช่ครั้งแรกที่ซาอุพยายามออกมาผลิตน้ำมันอย่างเต็มที่เพื่อแย่งส่วนแบ่งของตลาดคืน หากเราศึกษานโยบายของสงครามราคาในครั้งก่อนๆของซาอุ ก็อาจจะทำให้เราพอวิเคราะห์ได้ว่าสงครามครั้งนี้นั้น #จะยืดยาวไปถึงเมื่อไหร่ ?

    โดยที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เกิดการจัดตั้งกลุ่มโอเปกตั้งแต่ 60 ปีก่อน โลกเราได้เกิด สงครามราคาใหญ่ๆขึ้นมาทั้งหมด 3 ครั้ง

    1️⃣ สงครามราคาครั้งที่ 1 ระหว่าง ซาอุและ เพื่อนกลุ่มโอเปก (ยาวนานถึง 13 เดือน)

    ในช่วงปี 1985 หลังจากที่ซาอุได้พยายามลดกำลังการผลิตเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มสมาชิกอื่นๆมาเป็นเวลานานเพื่อที่จะได้ดันราคาน้ำมันดิบให้สูงๆ หลายๆสมาชิกในกลุ่มพยายามแอบผลิตเกินโควตาที่กำหนดไว้ให้เพื่อที่จะได้รับรายได้เข้าประเทศให้มากที่สุดโดยไม่ต้องออกแรง ทางซาอุพยายามขอความร่วมมือหลายครั้งก็ไม่เป็นผล (ใครยังไม่เข้าใจระบบของโควตาการผลิตของโอเปกแนะนำให้อ่านในการ์ตูนที่แนบไว้ให้ในคอมเม้นท์นะครับ)

    จนในที่สุดในการประชุมโอเปกที่เมือง Taif ประเทศซาอุดิอาระเบีย เดือนมิถุนายนปี 1985 กษัตริย์ Fahd ได้ประกาศเตือนเพื่อนในกลุ่มเป็นครั้งสุดท้ายว่า "ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปทางซาอุจะเพิ่มการผลิตด้วย" เมื่อเวลาผ่านไปอีก 5 เดือนการผลิตจากเพื่อนๆในกลุ่มโอเปกยังไม่ลดลงมากเท่าที่พอใจ ทางซาอุจึงประกาศเพิ่มการผลิตน้ำมันออกมาเต็มก็อก (คล้ายๆกับในครั้งนี้)

    นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนในปีนั้น ราคาน้ำมันดิบลดลงจาก 31 เหรียญต่อบาร์เรลลงมาเป็น 9.75 เหรียญต่อบาร์เรล ลงมา 68% ภายในเวลา 6 เดือน และทางกลุ่มโอเปกไม่ได้กลับมายุติสงครามครั้งนี้จนกระทั้งถึงเดือนธันวาคมปี 1986 ทำให้สงครามนั้นยาวนานถึง 13 เดือน

    2️⃣ สงครามราคาครั้งที่ 2 ระหว่าง ซาอุและ เวเนซุเอลา (ยาวนานถึง 17 เดือน)

    ในช่วงปี 1997 นั้นกำลังเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเฟื่องฟู โดย GDP ของสหรัฐในช่วงนั้นกำลังโตปีละ 4-5% และยิ่งในสมัยก่อนที่เศรษฐกิจกำลังโตบนภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ทำให้สหรัฐมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นถึงปีละ 15-20% ในช่วงเวลานั้น และแหล่งที่สหรัฐจะซื้อน้ำมันได้ใกล้และง่ายที่สุดคือประเทศเวเนซุเอลา ทางเวเนซุเอลาได้ทีจึงรีบจับมือกับสหรัฐเร่งการผลิตน้ำมันดิบและส่งออกให้สหรัฐจนเกินมากเกินกว่าโควตาที่โอเปกตั้งให้ไว้เยอะ

    ในการประชุมโอเปกเดือนพฤศจิกายนปี 1997 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ทางซาอุดิอาระเบียไม่พอใจที่ทางเวเนซุเอลากำลังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของตัวเองอย่างตามใจ ทางซาอุจึงประกาศเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดคืน ทำให้สงครามราคาเกิดขึ้นอีกครั้ง

    ราคาน้ำมันดิบโลกลดลงจาก 20 เหรียญต่อบาร์เรลลงมาเป็น 10 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 50% ภายในเวลา 11 เดือน โดยทั้งสองฝั่งไม่ได้กลับมาเจรจากันอีกทีจนกว่าจะถึงเดือนเมษายนปี 1999 ทำให้สงครามนั้นยาวนานถึง 17 เดือน

    3️⃣ สงครามราคาครั้งที่ 3 ระหว่าง ซาอุและ เชลออยล์สหรัฐ (ยาวนานถึง 22 เดือน)

    ในช่วงปี 2011-2014 นั้น หลายท่านที่ติดตามเพจเราคงพอทราบอยู่แล้วว่าเป็นช่วงที่ธุรกิจขุดเจาะเชลออยล์ของสหรัฐกำลังบูม เทคโนโลยีในการขุดเจาะในชั้นหินแบบใหม่นั้นทำให้การผลิตของสหรัฐโตขึ้นปีละกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเลยทีเดียว หรือโตปีละ 20% ของการผลิตสหรัฐ และโตเพียงพอที่จะครอบคุมการโตของการใช้น้ำมันโลกใหม่ๆในทุกๆปี

    การที่สหรัฐประเทศเดียวยังสามารถผลิตน้ำมันใหม่ๆออกมาได้มากกว่าการโตของการใช้โลก หากรวมการผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกที่เพิ่มขึ้นเข้าไปด้วยแล้ว แปลว่าโลกเรานั้นกำลังผลิตน้ำมันใหม่ออกมาได้มากเกินกว่าความต้องการใช้ในทุกๆปี หมายความว่าส่วนแบ่งตลาดของซาอุดิอาระเบียและประเทศโอเปกจึงลดลงไปเรื่อยๆทุกๆปีในช่วงนี้ เป็นช่วงเวลาที่เดือดร้อนมากของทางกลุ่ม

    ในการประชุมโอเปกเดือนพฤศจิกายนปี 2014 ที่กรุงเวียนนา ทางกลุ่มโอเปกจึงตัดสินใจร่วมกันว่าถึงเวลาแล้วที่ทางกลุ่มควรจะพยายามทำอะไรซักอย่างกับการโตของน้ำมันเชลออยล์ของสหรัฐ จึงได้ใช้มาตรการเพิ่มการผลิต "Pump at will Policy" หรือยกเลิกการกำหนดโควตาของแต่ละประเทศและปล่อยให้ผลิตกันเองได้ตามใจชอบ

    ปริมาณน้ำมันที่หลั่งไหลเข้ามาสู่ตลาดทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกลดลงอย่างรวดเร็ว จาก 110 เหรียญต่อบาร์เรลลงมาเป็น 27 เหรียญต่อบาร์เรลในเดือนธันวาคม 2015 หรือสรุปได้ว่าราคานั้นลดลงมาถึง 73% ภายในเวลา 11 เดือน

    ทางกลุ่มโอเปกนั้นไม่ได้กลับมาลดกำลังการผลิตหรือกลับมาใช้โควตาอีกครั้งจนกระทั่งเดือนกันยายนปี 2016 ทำให้สงครามราคาครั้งนั้นยาวนานถึง 22 เดือน และทางโอเปกไม่ได้กลับมาเพียงกลุ่มเดียวในครั้งนี้ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการชวนรัสเซียให้เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรด้วย อย่างที่เราเคยเล่าไปในการ์ตูน (แนบไว้ให้ในคอมเม้นท์)

    และ 4️⃣ สงครามราคาครั้งปัจจุบัน ระหว่าง ซาอุ รัสเซีย และ เชลออยล์สหรัฐ (จะยาวนานถึง ?? เดือน)

    และเรื่องราวทั้งหมดก็นำพาให้เรากลับมาสู่สงครามในครั้งนี้ โดยครั้งนี้น่าจะเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุด หากดูจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็วแบบไม่เคยเห็นมาก่อน จากต้นปีนี้ที่ 70 เหรียญต่อบาร์เรลลงมาเป็น 25 เหรียญต่อบาร์เรลหรือลดลงมา 60% แต่ภายในเวลาแค่ 2 เดือน !

    และดูจากความตั้งใจของซาอุนั้นก็ดูซีเรียสกว่าครั้งก่อน เพราะครั้งนี้ทางซาอุนั้นไม่ได้แค่ลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบอย่างเดียวแต่พร้อมที่จะเสียกำไรจากการหยุดกลั่นน้ำมันด้วย เพื่อที่จะได้นำน้ำมันดิบเหล่านั้นออกมาขายให้ท่วมตลาดมากขึ้น ประกอบกับครั้งนี้การใช้น้ำมันทั่วโลกก็กำลังหดตัวรุนแรงจากไวรัสโควิด ที่ทำให้การใช้นั้นหายไปกว่า 30% ทั่วโลกแล้ว

    ปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นทำให้คาดเดายากมากว่าสงครามราคาครั้งนี้จะยืดยาวไปถึงเมื่อไร ? โดยเฉพาะหลังจากสงครามครั้งที่ 3 นั้น ทางซาอุก็ทราบดีว่าเมื่อไหร่ที่ปล่อยให้ราคาสูงขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางสหรัฐก็จะสามารถกลับขึ้นมาผลิตได้อีกรอบอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเชลออยล์ได้พัฒนาไปจนต้นทุนต่ำมากๆแล้ว (40-50 เหรียญต่อบาร์เรล) จึงไม่แน่ใจว่าทางซาอุจะต้องกดราคาไปนานแค่ไหน

    หรือสงครามราคาในครั้งนี้จะกลายเป็น #ตลาดปกติในโลกน้ำมันยุคใหม่ โลกที่ผู้ผลิตรู้ตัวแล้วว่าหากเขายังพยายามคุมการผลิตต่อไป พวกเขาอาจจะไม่มีวันได้ขุดน้ำมันใต้ดินออกมาขาย เพราะโลกในอีก 10-20 ปีข้างหน้าอาจจะไม่ได้ใช้น้ำมันอีกต่อไปแล้ว ?? จึงต้องรีบขุดออกมาขายกันวันนี้แบบไม่สนเพื่อนๆผู้ผลิตอื่นๆ

    ทุกท่านมีความเห็นกันว่าอย่างไรบ้างครับ ? ลองเขียนเข้ามาแชร์กันได้นะครับ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนยังคงเข้มงวดกับคนที่เดินทางจากนอกจีน โดยการกักตัว14วัน เพื่อป้องกันCOVID-19 ล่าสุดมีนักศึกษาจีนที่กลับจากต่างประเทศ พยายามหลบหนีการกักตัว แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด

    หญิงนักเรียนนอกชาวจีนคนหนึ่ง ตอนนี้กลับมาจากต่างประเทศ มาที่เมืองชิงต่าว ประเทศจีน และต้องโดนกักตัวในที่พักที่ทางการเตรียมไว้ให้ แต่หญิงคนนี้พยายามหนีออกทางหน้าต่าง เพื่อที่จะกลับไปบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงพยายามไล่จับตัวและในที่สุดตอนนี้ก็สามารถนำตัวไปกักตัวและเฝ้าระวังCOVID-19ได้แล้ว

    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ก้อนเมฆ Supercell เข้าสู่ Sulaymaniyah ประเทศอิรัก , 30 มีนาคม 2563

    Super cell cloud entering Sulaymaniyah, Iraq March30 2020

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Michael DiFato

    สนามแม่เหล็กโลก, ดวงอาทิตย์ที่เงียบสงบ
    http://poleshift.ning.com/xn/detail/3863141:BlogPost:927399?xg_source=activity

    "ความเร็วลมสุริยะสูงมากที่เกือบ 1,500 กม. / วินาที ถูกบันทึกเมื่อวานนี้เวลา 04:54 UTC. ครั้งสุดท้ายที่ความเร็วลมสุริยะเกินกว่านี้คือ 29-30 ตุลาคม 2546, Planet X ในปีเดียวกันก็มาถึงสุริยะชั้นใน ... "
    (มี.ค. 25)
    FB_IMG_1585574955738.jpg
    Magnetosphere, Silent Sun
    http://poleshift.ning.com/xn/detail/3863141:BlogPost:927399?xg_source=activity
    "Extremely high solar wind velocity at nearly 1500km/s was recorded yesterday at 04:54 UTC. The last time solar wind velocities exceeded this was 29-30 October 2003, the same year Planet X arrived in the inner solar…"
    (Mar 25)
     

แชร์หน้านี้

Loading...